ความเงียบปกคลุมห้องผ่าตัดชั่วคราวภายในคฤหาสน์วาเลนซิโอ เกวลินยืนอยู่ด้านนอกประตู กระวนกระวายใจจนแทบจะทนไม่ไหว ทุกนาทีที่ผ่านไปยาวนานราวกับชั่วกัปชั่วกัลป์ ความคิดมากมายตีวนอยู่ในหัว เธอภาวนาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขอให้คีรินทร์ปลอดภัย ริคาร์โด้ยืนอยู่ข้างๆ เธอ ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความกังวลไม่แพ้กัน ลูกน้องคนอื่นๆ กระจายกำลังอยู่ทั่วคฤหาสน์ เตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ในที่สุด ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก ทีมแพทย์เดินออกมาด้วยสีหน้าที่เหนื่อยล้า เกวลินรีบตรงเข้าไปหาพวกเขาด้วยใจที่เต้นระรัว "เขาเป็นยังไงบ้างคะ?" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ หัวหน้าทีมแพทย์ถอนหายใจยาว "การผ่าตัดผ่านพ้นไปด้วยดีครับ กระสุนถูกนำออกมาได้สำเร็จ แต่..." หัวใจของเกวลินหล่นวูบ "แต่...อะไรคะ?" "คนไข้เสียเลือดมาก และยังไม่พ้นขีดอันตราย เราต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิดในช่วง 24 ชั่วโมงนี้" ความรู้สึกเหมือนถูกบีบคั้นหัวใจจุกอยู่ที่คอ เกวลินทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างหมดแรง "ฉันขอเข้าไปดูเขาได้ไหมคะ?" เธอถามด้วยเสียงแผ่ว ทีมแพทย์พยักหน้า "ได้ครับ แต่ต้องเข้าไปทีละคน และห้ามรบกวนคนไข้" เกวลินค่อยๆ เปิดประตูเ
ภายหลังการเปิดโปงแผนการทรยศของลูคัส คีรินทร์ได้กลับมานั่งบนบัลลังก์แห่งอำนาจอีกครั้ง ความสงบสุขที่หวนคืนมานั้นแฝงไว้ด้วยความตึงเครียดและความระมัดระวังที่มากขึ้นกว่าเดิม เกวลินได้ก้าวเข้ามามีบทบาทในโลกของคีรินทร์อย่างเต็มตัว กลายเป็นคู่คิดและผู้ช่วยที่เขาไว้วางใจที่สุด เช้าตรู่ในคฤหาสน์วาเลนซิโอ แสงอาทิตย์สีทองสาดส่องผ่านผ้าม่านหนาทึบ เกวลินตื่นขึ้นในอ้อมกอดของคีรินทร์ สัมผัสอุ่นร้อนจากร่างกำยำของเขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง แม้ภายนอกโลกของพวกเขาจะเต็มไปด้วยอันตรายและความขัดแย้ง คีรินทร์ลืมตาขึ้น มองเกวลินด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเสน่หา เขาลูบไล้ใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะจูบหน้าผากเธอเบาๆ "อรุณสวัสดิ์ ที่รัก" เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม "อรุณสวัสดิ์ค่ะ" เกวลินตอบด้วยรอยยิ้มหวาน หลังจากอาหารเช้าที่เงียบสงบแต่เต็มไปด้วยความเข้าใจ คีรินทร์และเกวลินก็ไปยังห้องทำงานของเขา ที่นั่น ริคาร์โด้และลูกน้องคนสนิทอีกหลายคนกำลังรอรายงานสถานการณ์ประจำวัน "สถานการณ์โดยรวมยังคงทรงตัวครับหัวหน้า" ริคาร์โด้รายงาน "แต่เรายังคงต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มเล็กๆ ที่เคยสนับสนุนล
ความว่างเปล่าและความเงียบเหงาปกคลุมคฤหาสน์วาเลนซิโอราวกับผ้าคลุมสีดำ เกวลินจมดิ่งอยู่ในห้วงแห่งความเศร้าและความคิดถึงคีรินทร์ แม้ภายนอกเธอจะพยายามแสดงความเข้มแข็งและนำพาแก๊งวาเลนซิโอต่อไป แต่ภายในใจกลับรู้สึกเหมือนขาดวิญญาณ หลายวันผ่านไปนับตั้งแต่การล้างแค้นตระกูลดิอาโบลสำเร็จ เกวลินเริ่มที่จะจัดการโครงสร้างอำนาจใหม่ และเสริมความแข็งแกร่งให้กับแก๊งของเธอ แต่ความรู้สึกของการสูญเสียยังคงตามหลอกหลอนเธอในทุกขณะจิต คืนหนึ่ง ขณะที่เกวลินนั่งอยู่ในห้องทำงานของคีรินทร์ มองไปยังรูปถ่ายของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะ แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้อง ทำให้ใบหน้าคมสันในรูปดูเศร้าสร้อยยิ่งกว่าเดิม น้ำตาของเกวลินไหลอาบแก้มอย่างห้ามไม่อยู่ "ฉันคิดถึงคุณเหลือเกิน คีร์..." เธอกระซิบเสียงแผ่ว "ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไปถ้าไม่มีคุณ" ทันใดนั้นเอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเบาๆ เกวลินรีบเช็ดน้ำตาและสั่งให้เข้ามา ริคาร์โด้เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด "คุณเกวลินครับ มีเรื่องด่วนครับ" "เกิดอะไรขึ้น?" เกวลินถามด้วยน้ำเสียงที่ยังคงสั่นเครือเล็กน้อย "เราได้รับรายงานว่ามีการเคลื่อนไหวที่น่าสงสัยในโกดังเ
เปลวเพลิงแห่งความแค้นโหมกระหน่ำในใจของเกวลิน ราวกับไฟบรรลัยกัลป์ที่พร้อมจะเผาผลาญทุกสิ่งที่ขวางหน้า การสูญเสียคีรินทร์ได้เปลี่ยนเธอไปอย่างสิ้นเชิง จากหญิงสาวที่เคยอ่อนโยนและหวาดกลัว กลายเป็นผู้นำที่เด็ดเดี่ยวและเลือดเย็น พร้อมที่จะนำพาแก๊งวาเลนซิโอเข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบกับตระกูลดิอาโบล ภายใต้การบัญชาการของเกวลิน การโจมตีของแก๊งวาเลนซิโอทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายหลักของเธอคือการสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินและธุรกิจของตระกูลดิอาโบลอย่างหนักหน่วง ลูกน้องของคีรินทร์ต่างก็ปฏิบัติตามคำสั่งของเธออย่างเคร่งครัด ด้วยความเคารพในตัวคีรินทร์และความมุ่งมั่นที่จะล้างแค้นให้กับเขา ข่าวการลุกฮือของแก๊งวาเลนซิโอภายใต้การนำของหญิงสาวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในโลกใต้ดิน หลายคนต่างก็ประหลาดใจและสงสัยในความสามารถของเกวลิน แต่เมื่อได้เห็นความเด็ดขาดและกล้าหาญของเธอ พวกเขาก็เริ่มตระหนักว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ควรประมาท ตระกูลดิอาโบลเริ่มได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการโจมตีอย่างต่อเนื่อง พวกเขาพยายามที่จะตอบโต้ แต่ก็ถูกสกัดกั้นโดยลูกน้องของเกวลินที่ได้รับการวางแผนมาเป็นอย่างดี ความหวาดกลัวเ
เสียงกรีดร้องโหยหวนของเกวลินดังก้องกังวานไปทั่วห้องใต้ดินที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ร่างไร้วิญญาณของคีรินทร์อยู่ในอ้อมแขนของเธอ ความอบอุ่นที่เคยแผ่ออกมาจากร่างนั้นได้จางหายไป เหลือเพียงความเย็นเยียบที่กัดกินหัวใจของเธอจนแทบแหลกสลาย น้ำตาไหลอาบแก้มของเกวลินไม่หยุดหย่อน เธอจูบใบหน้าคมสันที่ซีดเซียวของคีรินทร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับหวังว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น และเขาจะลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แต่ความเงียบงันที่ตอบกลับมานั้นช่างโหดร้ายและเป็นจริง ความโกรธและความแค้นเริ่มกัดกร่อนความเศร้าในใจของเกวลิน เธอเงยหน้าขึ้นมองร่างศัตรูที่นอนแน่นิ่งอยู่รอบๆ ตัว ความคลั่งคลั่งที่เคยครอบงำเธอเริ่มจางหายไป เหลือเพียงความเย็นชาและความมุ่งมั่นที่จะล้างแค้นให้กับคนที่เธอรัก "พวกแกจะต้องชดใช้..." เกวลินพึมพำเสียงแผ่ว แต่แววตาของเธอกลับแข็งกร้าวและเต็มไปด้วยความอาฆาต ริคาร์โด้และลูกน้องคนอื่นๆ รีบลงมาในห้องใต้ดิน เมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า พวกเขาก็ทรุดเข่าลงด้วยความตกใจและความเสียใจ "หัวหน้า..." ริคาร์โด้ครางด้วยน้ำเสียงที่แตกพร่า เกวลินค่อยๆ วางร่างของคีรินทร์ลงบนพื้นอย่างเบามือ เธอลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากั
เสียงสัญญาณเตือนภัยดังสนั่นกึกก้องไปทั่วคฤหาสน์วาเลนซิโอ ราวกับเสียงประกาศิตแห่งความตาย ความสงบสุขที่เพิ่งหวนคืนมาถูกฉีกกระชากออกไปอย่างโหดร้าย เกวลินตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ มองหน้าคีรินทร์ที่สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นดุดันและเย็นชาในทันที"เกิดอะไรขึ้น?" เกวลินถามด้วยเสียงสั่นเครือ"พวกมันบุกเข้ามา" คีรินทร์คำรามเสียงต่ำ ดวงตาคมกริบของเขาเปล่งประกายความโกรธเกรี้ยว "พวกมันกล้าดีอย่างไร!"ริคาร์โด้ยืนหอบอยู่หน้าประตู ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก "หัวหน้าครับ พวกมันมากันเยอะมาก พวกมันทะลวงเข้ามาทางด้านหลังคฤหาสน์แล้ว!"คีรินทร์ผลักเก้าอี้ล้มครืน เสียงดังสนั่น "เตรียมอาวุธ! ทุกคน! ต่อสู้!"ความคลั่งเริ่มครอบงำร่างของคีรินทร์ เกวลินไม่เคยเห็นเขาในสภาพเช่นนี้มาก่อน ดวงตาของเขาแดงก่ำ ราวกับปีศาจที่ถูกปลดปล่อยออกมา ความโกรธและความแค้นแผ่ออร่าออกมาจากตัวเขาอย่างน่าสะพรึงกลัว"คีร์...ใจเย็นๆ ก่อน" เกวลินพยายามดึงสติเขา แต่คีร์ไม่ฟัง เขาก้าวฉับๆ ไปยังตู้เก็บอาวุธ คว้าปืนไรเฟิลจู่โจมกระบอกโปรดออกมา พร้อมกับแม็กกาซีนสำรองอีกหลายอัน"เธออยู่ข้างหลังฉัน เกวลิน" คีรินทร์สั่งด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด
ความเงียบในห้องทำงานหนักอึ้ง ราวกับพายุกำลังจะมาเยือน เกวลินยืนตัวสั่นเทา มองคีรินทร์ที่กำลังตรวจสอบแฟลชไดรฟ์ในมือด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด ความรู้สึกหวาดกลัวและความไม่เข้าใจถาโถมเข้ามาในจิตใจ เธอไม่รู้ว่าแฟลชไดรฟ์นั้นมาได้อย่างไร และทำไมคีร์ถึงมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยเช่นนั้น คีรินทร์เชื่อมต่อแฟลชไดรฟ์เข้ากับคอมพิวเตอร์ของเขา ดวงตาคมกริบไล่อ่านข้อมูลและดูภาพถ่ายที่ปรากฏบนหน้าจออย่างละเอียด เกวลินสังเกตเห็นเส้นเลือดที่ขมับของเขาปูดขึ้น บ่งบอกถึงความโกรธและความตึงเครียดที่กำลังก่อตัว "นี่มันอะไรกัน?" คีร์ถามด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำ ดวงตาของเขาจ้องมองเกวลินอย่างไม่วางตา "ฉัน...ฉันไม่รู้จริงๆ ค่ะ" เกวลินตอบด้วยเสียงสั่น "ฉันเจอแฟลชไดรฟ์นี้วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง" คีรินทร์ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เดินตรงเข้ามาหาเกวลินด้วยท่าทางที่น่ากลัว "อย่าโกหกฉัน เกวลิน" เขาคำรามเสียงต่ำ "ใครเป็นคนเอาสิ่งนี้มาให้เธอ?" "ไม่มีใครค่ะ! ฉันสาบานได้!" น้ำตาของเกวลินไหลอาบแก้ม เธอรู้สึกเหมือนถูกกล่าวหาอย่างไม่ยุติธรรม คีรินทร์คว้าแขนของเธอไว้แน่น บีบจนเกวลินรู้สึกเจ็บปวด "แล้วเธอจะอธิบายภาพถ่าย
คำสัญญาของคีรินทร์ที่ว่าจะพยายามเชื่อใจเกวลิน ยังคงเป็นเหมือนเส้นบางๆ ที่กั้นกลางระหว่างความรักและความหวาดระแวงในความสัมพันธ์ของพวกเขา แม้ว่าเขาจะพยายามควบคุมความหึงหวงที่รุนแรงของตัวเอง แต่เกวลินก็ยังคงรู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้อง และการสอดส่องดูแลที่เข้มงวดอยู่เสมอ หลังจากเหตุการณ์ที่อเล็กซ์มาเยี่ยมคฤหาสน์ คีร์ก็ยิ่งแสดงความเป็นเจ้าของเกวลินอย่างชัดเจนมากขึ้น เขามักจะอยู่ใกล้ชิดเธอตลอดเวลา ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปที่ไหน ราวกับต้องการประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว เกวลินเข้าใจถึงความไม่มั่นคงที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของคีร์ เธอรู้ว่าบาดแผลในอดีตและความอันตรายในโลกที่เขาเป็นเจ้าของ ทำให้เขายากที่จะวางใจใครได้อย่างสนิทใจ แต่การถูกควบคุมอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ ก็ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดและสูญเสียอิสระมากขึ้นเรื่อยๆ วันหนึ่ง ขณะที่เกวลินกำลังนั่งวาดรูปอยู่ในห้องนั่งเล่น คีร์ก็เดินเข้ามาหาเธอ เขาทรุดตัวนั่งลงข้างๆ เธอ มองดูภาพวาดในสมุดของเธอด้วยความสนใจ "เธอมักจะวาดรูปดอกไม้เสมอ ชอบเหรอ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เกวลินยิ้มบางๆ "ชอบสิค่ะ ดอกไม้ทำให้ฉันรู้สึกสงบค่ะ" คีร์จับมือเ
อ้อมกอดของคีรินทร์แน่นกระชับ ราวกับต้องการหลอมรวมเกวลินให้เป็นส่วนหนึ่งของเขาอีกครั้ง ความกลัวและความตื่นเต้นจากการต่อสู้เมื่อครู่ยังคงคลุกเคล้าอยู่ในความรู้สึกของทั้งสอง แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือความรักและความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เมื่อกลับถึงคฤหาสน์ คีรินทร์สั่งให้ลูกน้องดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิม เขายังคงกอดเกวลินไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยให้เธอคลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว ราวกับกลัวว่าเธอจะถูกพรากไปจากเขาอีกครั้ง ในห้องนอน คีรินทร์ค่อยๆ ปลดเสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยดินและคราบเลือดของเกวลินออกอย่างทะนุถนอม ดวงตาคมกริบของเขาสอดส่องสำรวจร่างกายของเธออย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ "เธอไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่ไหม?" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ยังคงสั่นเครือเล็กน้อย เกวลินส่ายหน้าและยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าของเขาอย่างอ่อนโยน "ฉันสบายดีค่ะ คีร์...ขอบคุณคุณ" คีร์จูบฝ่ามือของเธออย่างแผ่วเบา "ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณเธอ...ที่กล้าหาญและเข้มแข็งขนาดนี้" หลังจากนั้น คีร์ก็พาเกวลินไปอาบน้ำอุ่น เขาดูแลเธอทุกขั้นตอน ราวกับเธอเป็นเด็กน้อยที่ต้องการการปกป้อง เกวลินปล่อยให้เขาด