“พี่ครีมบอกเค้กมานะว่าพี่กับเขาเป็นอะไรกัน” กานต์ชิสาคาดคั้นพี่สาวเมื่อกลับมาถึงบ้าน
“เค้กพี่ยืนยันอีกครั้งว่าพี่ได้เป็นเมียน้อยเขาอย่างที่เค้กคิดหรอกนะ พรุ่งนี้พี่จะเล่าเรื่องทุกอย่างให้เค้กฟังทั้งหมดแต่ตอนนี้ขอนอนก่อนได้ไหม”
“ก็ได้ แต่เค้กว่าพี่อาบน้ำก่อนดีไหม แล้วพี่มียาที่ต้องกินหรือเปล่า”
“เอาไว้กินพรุ่งนี้ก็ได้”
เมื่อพี่สาวเข้าห้องนอนไปแล้วกานต์ชิสาก็กลับมาห้องนอนของตนเอง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะตีห้าแล้วหญิงสาวเลยไม่นอนต่อ
หญิงสาวเปลี่ยนมาสวมกางเกงผ้ายืดขาสั้นกับเสื้อกล้ามเพื่อจะออกไปวิ่งบริเวณสวนสาธารณะหน้าหมู่บ้าน
ปกติแล้วตอนอยู่ที่อังกฤษกานต์ชิสาจะออกกำลังกายทุกเช้าแต่กลับมาเมืองไทยได้หนึ่งสัปดาห์กว่าแล้วก็ยังไม่มีโอกาสออกกำลังกายสักที ในเมื่อวันนี้ยังไงก็นอนไม่หลับเธอก็เลยถือโอกาสนี้ไปออกกำลังกาย
หลังจากวิ่งจนเหงื่อชุ่มก็กลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง เธอกลับเข้าห้องอาบน้ำแต่งตัวจากนั้นก็ขี่จักรยานยนต์ไปตลาดหน้าหมู่บ้านซื้อโจ๊กมาให้พี่สาวเพราะเธออาจจะต้องมียาทานหลังอาหารส่วนตัวเองนั้นกลับมาชงกาแฟทานกับขนมปังที่อยู่ในตู้
เธอดื่มกาแฟและทานขนมจนกระทั่งแปดโมงครึ่งพี่สาวก็ยังไม่ออกมาซึ่งปกติแล้วกานต์สิชามักจะตื่นนอนก่อนเธออยู่เสมอ
กานต์ชิสาเดินมาเคาะประตูห้องเพราะรู้สึกเป็นห่วงเนื่องจากเมื่อคืนหญิงสาวเพิ่งประสบอุบัติเหตุเลยกลัวว่าเช้านี้อาจจะไม่สบายหรือลุกไม่ขึ้นก็ได้
“พี่ครีมตื่นหรือยังลุกไหวหรือเปล่า” หญิงสาวตะโกนถามและเมื่อลองบิดประตูก็พบว่าพี่สาวไม่ได้ล็อกประตูห้องเธอจึงเปิดประตูเข้าไป
“พี่ครีมเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมวันนี้ตื่นสายจัง”
“พี่รู้สึกเจ็บเนื้อเจ็บตัวไปหมดน่ะ น่าจะแรงกระแทกจากเมื่อคืน สงสัยวันนี้พี่คงไปที่ร้านไม่ได้แน่เลย”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวสายๆ เค้กจะเข้าไปดูให้พี่ครีมกินข้าวกินยาดีไหมเผื่อจะดีขึ้น หมอให้ยาอะไรมาบ้างล่ะ” หญิงสาวหยิบถุงยาของพี่สาวมาเปิดดูก็เห็นว่ามีแค่ยาแก้อักเสบอย่างเดียวเท่านั้น
“ไม่มียาแก้ปวดเอาไงดีล่ะ ที่บ้านมียาพาราไหม”
“มีอยู่ในตู้ยาทางด้านนอก”
“ถ้างั้นพี่ครีมรออยู่ตรงนี้นะเดี๋ยวเค้กไปเอาโจ๊กแล้วก็เอายาเข้ามาให้”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ลุกไปกินข้างนอกก็ได้”
“อย่าฝืนเลยรออยู่ตรงนี้เดี๋ยวเค้กเอามาให้นะ” หญิงสาวรีบออกจากห้องจากนั้นหยิบยาพาราที่อยู่ในตู้ก่อนจะได้เทโจ๊กใส่ชามแล้วเอามาให้พี่สาวถึงในห้องนอน
“กินก่อนนะคะจะได้กินยา”
กานต์สิชาทานโจ๊กไปได้ครึ่งชามก็วางช้อนลงอิ่ม
“อิ่มแล้วเหรอ ทำไมกินไปแค่นิดเดียวล่ะมันไม่อร่อยเหรอ”
“อร่อยสิโจ๊กเจ้านี้อร่อยมากๆ แต่เขาให้เยอะวันหลังถ้าเค้กจะไปซื้อเราแบ่งกันกินคนละครึ่งนะ เช้านี้เค้กกินอะไรหรือยัง”
“กินกาแฟกับขนมปังที่อยู่ในตู้แล้วค่ะ” หญิงสาวพูดขณะที่ส่งยาและน้ำให้กับพี่สาว
“ขอบใจนะ”
“พี่ครีมจะนอนต่อไหม”
“เพิ่งตื่นเองคงนอนไม่หลับหรอกแต่ถ้าจะให้ลุกไปทำงานก็คงไม่ไหว”
“พี่ไม่ต้องห่วงร้านหรอกน่าเดี๋ยวเค้กจัดการเอง แต่ก่อนจะไปที่ร้านเค้กขอคุยกับพี่ครีมหน่อยได้ไหม”
“เรื่องเมื่อคืนใช่ไหมล่ะ”
“ใช่สิ เค้กอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นพี่ต้องเล่ามาให้หมดนะ”
กานต์ชิสาเอาชามโจ๊กและแก้วน้ำไปวางตรงโต๊ะเครื่องแป้งก่อนจะขึ้นมานั่งบนเตียงของพี่สาวแล้วจ้องหน้าอย่างต้องการคำตอบ
“ถ้าพี่ไม่เล่าให้ฟังเค้กก็คงจะไม่ออกจากห้องใช่ไหม”
“ใช่สิมันเกิดอะไรขึ้นแล้วทำไมพี่ถึงไปอยู่ในรถของผู้ชายที่ชื่อไตรภพได้ล่ะ”
“คืออย่างนี้นะเมื่อคืนพี่ไปงานเลี้ยงที่โรงแรมแล้วขากลับบังเอิญเจอกับคุณไตรภพ คุณไตรภพก็ถามว่าพี่จะกลับยังไงพี่ก็เลยบอกว่าจะให้เพื่อนมาส่งแล้วเพื่อนพี่ก็มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น เขาก็เลยอาสาจะมาส่งพี่น่ะเพราะเป็นทางผ่านอยู่แล้วแต่ระหว่างทางมันก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นซะก่อน”
“เขาเมาหรือเปล่า”
“พี่ไม่เลยพี่ไม่ได้กินเหล้าจากตัวเขาเลยแต่ระหว่างทางเมียเขาโทรมาแล้วเขาก็ทะเลาะกัน”
“ขับไปด้วยคุยไปด้วยนี่เอง”
“เมียเขาจะพยายามขับรถไล่ตาม คุณไตรภพเขาก็พยายามหนีสุดท้ายแล้วเขาก็ขับเบียดจนคุณไตรภพเสียหลักรถพลิกคว่ำนั่นแหละ”
“ทำไมเมียเขาจะต้องขับตามด้วยล่ะ”
“เขาคิดว่าพี่เป็นเมียน้อยคุณไตรภพเหมือนที่เค้กคิดนั่นแหละ”
“แต่พี่ไม่ได้เป็นจริงๆ ใช่ไหม”
“โธ่...พี่จะต้องให้อมพระมาพูดหรือไงเค้ก พี่กับคุณไตรภพเป็นแค่คนรู้จักกันจริงๆ”
“แล้วทำไมเมียเขาถึงคิดแบบนั้นล่ะ เขาขับรถเบียดแบบนั้นมันเจตนาทำร้ายร่างกายกันเลยหรือเปล่า” กานต์ชิสาพูดออกไปด้วยความเป็นห่วง
“เขาก็คงระแวงไปทั่ว”
“พี่ครีมยังเล่าไม่หมดใช่ไหมคะ” กานต์ชิสามองหน้าพี่สาวที่คุยกับเธอแต่ไม่ยอมสบตา
“สงสัยพี่จะปิดอะไรเค้กไม่ได้จริงๆ แล้วใช่ไหม”
“อย่าปิดเค้กเลยนะ เค้กกลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะมาทำอันตรายพี่ครีม แต่ถ้าพี่บอกความจริงกับเค้กเราจะได้ช่วยกันแก้ปัญหาได้ยังไงล่ะคะ” เธอพยายามกล่อมพี่สาว
“นี่คงคิดไปกันใหญ่แล้วใช่มั้ยเนี่ย”
“ก็มันน่าคิดไหมล่ะพี่ เล่าให้ฟังเถอะว่าระหว่างพี่กับคุณไตรภพมันคืออะไรกันแน่” เธอรู้สึกเป็นห่วงพี่สาวเนื่องจากเท่าที่ฟังแล้วผู้หญิงคนนั้นท่าทางจะโมโหร้ายไม่เบา
“พี่จะเล่าให้เค้กฟังทั้งหมด แต่เค้กสัญญานะจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับและห้ามเล่าให้ใครฟังเป็นอันขาด”
“ยิ่งพี่พูดแบบนี้เค้กก็ยิ่งอยากจะรู้รีบๆ เล่ามาเถอะนะ” กานต์ชิสาทำสายตาอ้อนวอนเพราะถ้ากานต์สิชาไม่เล่าให้เธอฟังเธอคงได้อกแตกตายแน่ๆ
เขมณัฏฐ์นั่งพิงหัวเตียงมองคนรักที่นอนหลับสนิทอยู่เขามองถึงอนาคตที่มีร่วมกับหญิงสาวการมากรุงเทพฯ ครั้งนี้ชายหนุ่มคิดว่าจะคุยกับกานต์ชิสาอย่างจริงจังด้วยอายุที่มากขึ้น เขมณัฏฐ์ก็อยากจะสร้างครอบครัวและคนเดียวที่เขาจะสร้างด้วยก็คือผู้หญิงที่นอนอยู่ข้างๆ เพียงคนเดียวเท่านั้นเพราะกำลังคิดอะไรเพลินๆ เลยไม่เห็นว่าตอนนี้หญิงสาวตื่นและกำลังจ้องหน้าเขาอยู่ เธอเองก็กำลังใช้ความคิดอย่างหนักแม้ว่าจะตอบตกลงเป็นแฟนเขาไปแล้วแต่ระยะเวลาที่ได้รู้จักกันมันก็น้อยมากเมื่อเทียบกับผู้ชายคนอื่นที่เธอเคยคบมากทั้งสองตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเองอยู่นานก่อนที่เขมณัฏฐ์จะพูดขึ้น“เค้กคุณกำลังคิดอะไรอยู่หน้าเครียดเชียว”“เค้กกำลังสับสนค่ะ”“สับสนเรื่องอะไรครับ”“ก็เรื่องของเราไงคะ จากนี้ไปมันจะเป็นยังไงต่อคะ”“ก็เหมือนที่ผมพูดเมื่อคืนผมจะอยู่กับคุณที่นี่”“เค้กหมายถึงระยะยาวค่ะ”“เค้กตอบผมมาก่อนว่าตกลงจะเป็นแฟนกับผมแล้วใช่ไหม”“คุณก็รู้นี่คะคุณเข้มว่าระหว่างเรามันมากกว่านั้นและฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะนอนกับคนอื่นโดยไม่คิดอะไรนะคะ คุณพอใจกับคำตอบของเค้กแล้วใช่ไหม”“พอใจมากครับ ผมคิดไว้แล้วว่าอนาคตจากนี้ของเราสองคนจะ
เมื่อประตูห้องนอนปิดลงเขมณัฏฐ์ก็รวบเธอเข้ามาใบหน้าหล่อก้มลงประกบลงบนริมฝีปากสีสวยด้วยความคิดถึงและโหยหา กานต์ชิสายกแขนขึ้นคล้องคอชายหนุ่มพร้อมกับเปิดริมฝีปากให้เขาเข้ามาอย่างง่ายดาย เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดอย่าเร่าร้อนและดูดดื่มเร่าร้อน ฝ่ามือร้อนลากเลื้อยไปมาตามร่างกายของเธออย่างหลงใหล ริมฝีปากบดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงไปตามอารมณ์พิศวาส ก่อนจะลากไล้ริมฝีปากลงมาขบเม้มบนขาวนวลของหญิงสาวจนขึ้นรอยไปหมด“อื้อ.....คุณเข้ม อย่าใจร้อน”“ผมใจเย็นที่สุดแล้วนะที่รัก ผมคิดถึงคุณมากนะ ให้ใจเย็นกว่านี้คงไม่ไหวแล้ว”เสียงแหบพร่าของเขมณัฏฐ์พูดอย่างเอาแต่ใจก่อนจะพาเธอมายังเตียงกว้างแล้วดันให้เธอนอนลงไปก่อนที่ตนเองจะคร่อมทับลงไปหาอย่างรวดเร็วริมฝีปากหนาก้มลงซุกไซ้ขบเม้มไปทั่วซอกคอหอมกรุ่น เสียงลมหายใจหนักหน่วงของเขาร้อนแรงขึ้นมากกว่าเดิม บ่งบอกถึงความต้องการที่กำลังพุ่งสูงสูงขึ้น ริมฝีปากร้อนขมเม้มลงบนซอกคอสูดกลิ่นกายที่แสนคิดถึง กานต์ชิสาแหงนหน้าไปด้านบนเพื่อเปิดซอกคอให้เขาซุกไซ้ได้อย่างถนัดเขมณัฏฐ์ขยับริมฝีปากขึ้นมามอบจูบให้เธออีกครั้ง ส่งเรียวลิ้นสอดแทรกตวัดรัดรึงกับเรียวลิ้นเล็กที่หอมหวานในโพรงปากอย
หลังจากที่เขมณัฏฐ์คุยกับชลนิภาและตกลงจ่ายเงินให้หญิงสาวหนึ่งก้อนเพื่อให้เลิกยุ่งกับไตรภพแล้วชายหนุ่มก็ต้องรีบกลับสุโขทัยเพราะงานที่นั่นมีปัญหาเขาไม่มีโอกาสได้เจอกับกานต์ชิสาอีกเลยแต่ชายหนุ่มก็ยังโทรมาหาหญิงสาวอยู่บ่อยๆ ส่วนกานต์ชิสาเองก็ทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งงานของเธอก็กำลังไปได้ดีหญิงสาวมีหน้าที่ให้คำปรึกษากับผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าและลูกชายของเจ้าของโรงพยาบาลที่เป็นหมอแผนกศัลยกรรมก็ชวนให้เธอไปให้คำปรึกษากับผู้ป่วยที่ต้องการมาทำศัลยกรรมอีกด้วย มันเลยทำให้เธอค่อนข้างยุ่งและไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องของเขมณัฏฐ์มากนัก“เค้กพรุ่งนี้ค่ำเค้กช่วยอะไรพี่หน่อยได้ไหม” กานต์สิชาถามน้องสาวฝาแฝดที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา“ให้ช่วยอะไรคะ”“พอดีมีลูกค้าสั่งเค้กวันเกิด แล้วเขาอยากให้พี่เอาไปส่งที่คอนโด แต่มันเป็นช่วงที่เด็กเลิกงานแล้ว ถ้ายังไงเค้กเอาไปส่งให้พี่หน่อยได้ไหม”“แต่กว่าเค้กจะเลิกงานก็ทุ่มหนึ่งเลยนะคะพี่ครีม ลูกค้าเขาจะรอไหวไหม”“ไหวสิลูกค้าบอกว่าไปตอนไหนก็ได้แต่ขอเป็นช่วงค่ำๆ เค้กกลับบ้านมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็ยังทันเลย”“ถ้างั้นเดี๋ยวเค้กจะเอาไปส่งให้ค่ะ แล้วเค้กต้องเ
“สวัสดีค่ะคุณเข้มโทรหาเค้กมีอะไรหรือเปล่า”“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณเยอะเลยเค้ก”“เรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องที่คุณมีฝาแฝดและผมอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงยอมไปกับผม”“เค้กก็บอกคุณแล้วนี่ว่าเค้กไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายที่ร้าน อีกอย่างพี่สาวของเค้กเป็นคนที่ไม่ค่อยสู้คนเท่าไหร่ เค้กก็เลยเลือกที่จะไปกับคุณ เพื่อกันให้พี่สาวออกห่างจากเรื่องนี้”“ผมมาคิดดูอีกทีมันดูไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่เลยนะ”“อย่าคิดมากเลยน่า ยังไงเรื่องทุกอย่างมันก็จบลงด้วยดีแล้วนะคะ”“แต่ผมว่ามันยังไม่จบนะ”“ก็ตอนนี้น้องสาวคุณก็เข้าใจเรื่องทุกอย่างแล้วนี่คะ ส่วนเรื่องเมียน้อยของคุณไตรภพเดี๋ยวพี่ครีมจะนัดให้คุณเจอกับเธอเองจากนั้นจะตกลงกันยังไงก็แล้วแต่คุณเข้มเลย คุณเข้มจะอยู่ที่กรุงเทพถึงวันไหนคะเค้กจะได้บอกพี่ครีมให้รีบนัดให้นิไปเจอกับคุณเข้ม”“ผมน่าจะอยู่อีกหลายวัน พรุ่งนี้เราออกมาเจอกันหน่อยไหม หรือจะให้ผมไปหาที่ร้านก็ได้นะ”“เค้กไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้ตัวเองจะอยู่ที่ร้านหรือเปล่า”“พี่สาวคุณบอกว่าคุณเพิ่งกลับมาจากอังกฤษใช่ไหม”“ใช่ค่ะ เค้กกำลังจะกลับมาเริ่มงานที่นี่”“ผมไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับคุณเลย ผมถามหน่อยได้ไหมล่ะว่าคุณจะมาทำ
“พี่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ” กานต์สิชาพูดกับน้องสาวหลังจากที่ทั้งสองคนทานอาหารเย็นเสร็จและมาแล้วอยู่หน้าทีวีในห้องรับแขก“จะคุยอะไรคะพี่ครีมเค้กมาเหนื่อยๆ อยากจะนอนพักจังเลย”“นอนพักน่ะเค้กจะนอนเมื่อไหร่ก็ได้แต่เค้กต้องคุยกับพี่”“คุยเรื่องอะไรคะ” เมื่อรู้ว่าไม่สามารถเลี่ยงได้กานต์ชิสาก็ ต้องยอมคุยกับพี่สาว“ที่หายไปหนึ่งเดือนไปเที่ยวกับเพื่อนจริงๆ หรือไปอยู่กับคุณเข้ม”“ใครจะไปอยู่กับคุณเข้มกันคะพี่ครีม เค้กกับเขาไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นเราก็เพิ่งเจอกันที่โรงพยาบาลแค่ครั้งเดียวเองนะคะ”“เราเป็นเราสองคนเป็นอะไรกันเหรอเค้ก”“พี่ครีมถามอะไรแปลกๆ เราก็เป็นพี่น้องกันไงคะ พี่ครีมเป็นพี่เค้กสองนาที”“ใช่เพราะเราเป็นพี่น้องและไม่ใช่พี่น้องธรรมดาสิ เราเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน พี่มีความรู้สึกว่าเค้กกับคุณเข้มมันไม่ใช่แค่คนรู้จักกันธรรมดา บอกความจริงพี่มา ถ้าไม่อย่างั้นพี่จะโทรไปฟ้องพ่อว่าตั้งแต่เค้กกลับมาถึงเมืองไทยเค้กไม่เคยช่วยพี่ทำงานเลยและหายไปกับผู้ชายหนึ่งเดือน เค้กคิดว่าจะบอกความจริงกับพี่หรือจะบอกกับพ่อดีล่ะ เลือกเอานะ” กานต์สิชาพูดกับน้องสาวด้วยสีหน้าที่จริงจังและเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าถ้าไม
เขมณัฏฐ์ขับรถพาคู่แฝดมายังโรงพยาบาลที่น้องเขยของเขารักษาตัวอยู่เมื่อประตูห้องเปิดออกเขมิกาก็รีบลุกขึ้นมาหาพี่ชาย“พี่เข้มเขมคิดถึงพี่จัง”“พี่ก็คิดถึงเขมเป็นไงช่วงนี้แพ้ท้องหนักหรือเปล่า”“ไม่ค่อยแพ้แล้วค่ะ”“เขมที่พาคุณมาเจอเขมด้วยนะ” ชายหนุ่มเบี่ยงตัวให้ผู้หญิงที่เดินตามมาด้านหลังเผชิญหน้ากับน้องสาวของตนเอง“นี่ยังจะมีหน้ามาเยี่ยมพี่ไตรอีกเหรอ แต่เอ๊ะ!”หญิงสาวหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าตอนนี้ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าสองคนนั้นหน้าเหมือนกันมากๆ จนเธอแทบแยกไม่ออกว่าใครเป็นใครและเขมิกาก็จำไม่ได้ว่าผู้หญิงคนไหนที่นั่งรถไปกับสามีของเธอในคืนวันเกิดเหตุ“แล้วคนไหนล่ะที่เป็นเมียน้อยผัวของฉันหรือเป็นเมียน้อยด้วยกันทั้งคู่”“เปล่านะคะ เราสองคนไม่มีใครเป็นเมียน้อยคุณไตรภพทั้งนั้น” กานต์ชิสารีบพูดขึ้น“ไม่ต้องมาโกหกเลย ก็คืนนั้นฉันจำได้ว่าเธอ คนที่เป็นเจ้าของร้านเค้กอยู่ในรถคันเดียวกับพี่ไตร”“ใช่ค่ะ คืนนั้นฉันอยู่ในรถคันเดียวกับคุณไตรภพจริงๆ แต่ฉันไม่ใช่เมียน้อยของเขาหรอกนะคะแต่ฉันรู้ว่าเมียน้อยของเขาคือใคร”“ใครพาฉันไปเจอมันเดี๋ยวนี้นะ ฉันอยากจะเห็นหน้ามันจังว่ามันเป็นใคร”“เขมไม่ต้องไปเห็นหน้าเขาหร