แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: จือจือแสนขยัน
อวี๋เนี่ยนสีหน้าเย็นชาลง ก่อนจะพูด

“หนูแซ่อวี๋ ทำให้ตระกูลเสิ่นขายหน้าไม่ได้หรอกค่ะ”

เมื่อได้ยินคำพูดของอวี๋เนี่ยน คุณตาก็ยิ่งโกรธจัด ส่วนคุณยายก็เริ่มแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาเช่นกัน

“อวี๋เนี่ยน ถึงเธอจะโตอยู่ข้างนอกมาหลายปี แต่สิ่งที่เรียนรู้มานี่คืออะไรกัน? แม้แต่มารยาทพื้นฐานก็ยังไม่รู้เหรอ?”

ลุงใหญ่พูดตักเตือน

“เนี่ยนเนี่ยน นี่คือคุณตาของเธอนะ”

ส่งสัญญาณให้อวี๋เนี่ยนยอมอ่อนข้อ อย่าทำให้คุณตาโกรธไปมากกว่านี้

เสิ่นจือเยี่ยนคอยยุยงอย่างเต็มที่อยู่ข้าง ๆ

“พ่อกับแม่อย่าโกรธเลยนะคะ เด็กคนนี้แข็งข้อไปหน่อย คงได้พ่อเธอมาเต็ม ๆ วันข้างหน้ายังต้องค่อย ๆ สั่งสอนกันต่อไป สักวันคงปรับนิสัยได้เองค่ะ”

คุณตาเสิ่นสงบลงแล้ว แต่ยังจ้องมองอวี๋เนี่ยนด้วยสายตาคมกริบ

“จากนี้ไปเธอจะต้องอยู่ที่นี่ ฉันจะหาครูมาให้เธอเรียนเอง เรียนรู้จนดีแล้วเมื่อไหร่ค่อยออกไปได้”

คำพูดนี้ชัดเจนว่าจะสั่งกักบริเวณอวี๋เนี่ยนไว้ในบ้านเดิมตระกูลเสิ่น

อวี๋เนี่ยนฟังคำพูดคิดเองเออเองของคนเหล่านี้แล้วก็ลุกขึ้นยืนอย่างรู้สึกขำเล็กน้อย

“ดูเหมือนว่ามื้อนี้จะกินด้วยกันต่อไม่ได้แล้ว ฉันได้เป็นตัวแทนของแม่มาเยี่ยมผู้อาวุโสทั้งสองแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ”

คุณตาเสิ่นที่เพิ่งสงบสติอารมณ์ลง ก็ถูกยั่วจนโกรธขึ้นมาอีกครั้งทันที มือตบหน้าอกด้วยท่าทางเหมือนโกรธจัด

กวนอี๋เจินลุกขึ้นเดินอย่างรวดเร็วไปหาอวี๋เนี่ยน แล้วจับมือเธอไว้ พลางพูดเกลี้ยกล่อมเสียงเบา

“เนี่ยนเนี่ยน ยอมอ่อนข้อกับคุณตาสักหน่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปเถอะ นี่ก็บ้านของเธอนะ เธอจะไปที่ไหน”

เสิ่นจือเยี่ยนรู้ว่าคุณยายไม่เคยชอบพ่อของอวี๋เนี่ยนเลย จึงกระซิบเบา ๆ ข้าง ๆ

“มังกรให้กำเนิดมังกร หงส์ให้กำเนิดหงส์ ลูกของหนูจะขุดรูเป็น ช่างเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริง ๆ”

อวี๋เนี่ยนชะงักฝีเท้าที่จะเดินออกไป หันไปมองเสิ่นจือเยี่ยนด้วยสายตาเย็นยะเยือก เสิ่นจือเยี่ยนถูกเธอมองจนขนลุกเกรียว แต่ก็พยายามกลั้นใจพูด

“มองฉันแบบนี้ทำไม เธอยังคิดจะตบป้าอย่างฉันเหรอ”

อวี๋เนี่ยนหัวเราะเสียงเย็น

“จะเป็นไปได้ยังไง ยังไงคุณก็เป็นผู้ใหญ่”

จู่ ๆ ฝ่ามือก็ฟาดเข้าที่หน้าของตู้อินเสียงดังสนั่น ไม่ใช่แค่ตู้อินที่งงตาแตก ทุกคนที่นั่งอยู่ต่างก็ตกตะลึงกันหมด

ตู้อินรู้ตัวว่าตัวเองโดนตบเข้าเต็ม ๆ แทบจะคลั่งแล้ว

เธอกรีดร้องลั่นแล้วพุ่งเข้าใส่อวี๋เนี่ยนเพื่อจะตบกลับ อวี๋เนี่ยนก็ยกขาเตะสวนไปเต็ม ๆ ผลจากการถูกบังคับฝึกซ้อมมาหลายปีเห็นผลชัดเจน

ถึงจะสู้พวกทหารโรคจิตพวกนั้นไม่ได้ แต่พวกแบบตู้อินนี่จัดการได้ง่าย ๆ เลย เตะทีเดียวก็กระเด็นไปไกล

อวี๋เนี่ยนกวาดตามองผู้คนที่ตกตะลึงจนพูดไม่ออก แล้วหันไปจ้องเสิ่นจือเยี่ยนด้วยสายตาเย็นยะเยือก

“ป้าใหญ่สุดที่รัก ตอนนี้พูดเป็นหรือยัง? ถ้าฉันได้ยินคุณพูดจาว่าร้ายพ่อฉันอีกละก็ คราวหน้าคงไม่จบแค่นี้แน่”

เสิ่นจือเยียนในที่สุดก็คืนสติ กรีดร้องออกมาเสียงหนึ่งแล้วรีบวิ่งไปช่วยประคองตู้อินพร้อมกับตู้อวิ๋น สามแม่ลูกร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกอดกันกลม?

“พ่อแม่คะ หลังจากนี้หนูคงไม่กล้ากลับบ้านอีกแล้ว ขอให้ทั้งสองท่านรักษาสุขภาพด้วยนะคะ”

เสิ่นซิวเฉินบ่นพึมพำเบา ๆ ก็ไม่ใช่ป้าเหรอที่ปากเสียก่อน ก่อนจะถูกพี่รองฟาดฝ่ามือใส่ไปหนึ่งที สั่งให้เงียบปากแบบอัตโนมือ

แต่ถึงอย่างนั้นก็มองอวี๋เนี่ยนด้วยดวงตาเป็นประกาย เท่เกินไปแล้ว!

คุณตา คุณยายมองดูความวุ่นวายตรงหน้า โกรธจนตัวสั่น คุณยายพึมพำไม่หยุด

“โชคร้ายของตระกูล โชคร้ายของตระกูลชัด ๆ”

คุณตาเสิ่นชี้อวี๋เนี่ยนด้วยนิ้วที่สั่นเทา

“ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ ตระกูลเสิ่นไม่มี...”

“พ่อ!”

คุณตาเสิ่นยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกเสิ่นเหวินขัดขึ้นมาก่อน

“พ่อใจเย็น ๆ ก่อน”

เสิ่นเหวินหันไปมองอวี๋เนี่ยนอีกครั้ง แต่ไม่รอให้เขาได้พูดอะไร อวี๋เนี่ยนยักไหล่

“ถ้าลุงใหญ่จะสอนหนู ก็อย่าดีกว่าค่ะ คุณตาเสิ่นวางใจได้ เดิมทีหนูก็ไม่คิดจะเป็นคนตระกูลเสิ่นของพวกคุณอยู่แล้ว จะขายหน้าก็ไม่ใช่เรื่องของพวกคุณ”

เมื่อได้ยินคำพูดของอวี๋เนี่ยนที่เหมือนตัดขาดจากตระกูลเสิ่น เสิ่นเหวินก็ขมวดคิ้ว

“เนี่ยนเนี่ยน นี่เธอพูดอะไรอยู่ เธอเป็นลูกสาวของจือเฉียว เป็นหลานสาวของฉัน แล้วจะไม่ใช่คนในตระกูลเสิ่นได้ยังไง?”

คุณตาเสิ่นพูดอย่างโมโห

“ให้เธอไปซะ ออกจากประตูนี้ไปแล้ว อย่าคิดจะกลับเข้ามาอีกเด็ดขาด”

อวี๋เนี่ยนไม่อยากดูฉากวุ่นวายนี่อีกแล้ว หันหน้าเดินออกไป ทันใดนั้นเสิ่นซิวเฉินที่ยืนดูเรื่องวุ่นวายอยู่ก็รีบวิ่งออกมา

“น้องเล็ก รอก่อน เดี๋ยวฉันไปส่ง!”

เสิ่นซิวเฉินวิ่งตามอวี๋เนี่ยนออกไป เสิ่นซิวจิ่นกับเสิ่นซิวเหนียนสบตากัน ลุกขึ้นยืนด้วย บอกว่ามีงาน ขอไปก่อน

คนที่เหลือในบ้านมองหน้ากันไปมา เสิ่นเหวินนวดหน้าผากเบา ๆ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย

อวี๋เนี่ยนขึ้นรถกับเสิ่นซิวเฉิน ยังไม่ทันออกไป ก็โดนเสิ่นซิวจิ่นกับเสิ่นซิวเหนียนที่ตามออกมาทีหลังไล่ทันแล้ว?

“ไปด้วยกัน พวกเราก็จะไปแล้ว”

ครอบครัวพวกเขามากันสองคันรถ ตอนนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พ่อแม่ของพวกเขาคงออกไปไม่ได้สักพักใหญ่

เสิ่นซิวเฉินไม่พอใจ

“ให้คนขับรถไปส่งพวกพี่ ผมจะเสริมสร้างความสัมพันธ์กับน้องเล็ก”

เสิ่นซิวจิ่นจ้องเขาด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

สุดท้าย ทั้งสี่คนก็ออกจากบ้านเดิมตระกูลเสิ่นด้วยกัน อวี๋เนี่ยนให้เสิ่นซิวเฉินไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัยจิง เสิ่นซิวเฉินถามขึ้นว่า

“ไปหาใครเหรอ?”

อวี๋เนี่ยนที่กำลังก้มหน้ากดโทรศัพท์ พูดออกมาสี่คำ

“ไปรายงานตัว”

อย่างไม่รู้สึกถึงความทึ่งที่มาจากคำพูดนี้

ในรถเงียบลง เสิ่นซิวเฉินอยากพูดแต่ก็พูดไม่ออกหลายครั้ง อวี๋เนี่ยนรู้ว่าเขากำลังสับสนเรื่องอะไร พูดออกมาอีกสี่คำ

“ใช้เส้น”

ช่างทำให้คนตกตะลึงไม่หยุดจริง ๆ ครั้งนี้แม้แต่เสิ่นซิวจิ่นที่ปกติใจเย็น ก็ยังมีสีหน้าประหลาดใจ

แลกสายตากับเสิ่นซิวเหนียน นั่นคือมหาวิทยาลัยจิงเลยนะ ต่อให้เป็นตระกูลเสิ่นของพวกเขา อยากใช้เส้นสายก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แล้วอวี๋เนี่ยนทำได้ยังไงกันนะ

เสิ่นซิวเหนียนถามอวี๋เนี่ยนว่าเลือกเรียนคณะอะไร อวี๋เนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ยังไม่ได้คิด”

คราวนี้สามพี่น้องตระกูลเสิ่นถึงกับเงียบกริบแล้ว คณะยังเลือกตอนนี้ได้ด้วยเหรอ นี่คือใช้เส้นสายแบบไหนกัน เส้นสายนี้จะใหญ่บิ๊กเบิ้มไปหน่อยแล้วไหม?

เมื่อมาถึงหน้าประตูมหาวิทยาลัยจิง เสิ่นซิวเฉินก็ถาม

“ให้ไปเป็นเพื่อนไหม ฉันก็เรียนจบจากมหาวิทยาลัยจิงเหมือนกัน นำทางให้เธอได้”

เสิ่นซิวเฉินพยักหน้ารัว ๆ เขาก็อยากไปด้วยเหมือนกัน

อวี๋เนี่ยนเห็นเงาร่างของใครบางคนแล้ว

“ไม่เป็นไร มีคนมารับฉันแล้ว”

ก่อนลงจากรถก็พูดว่า ของที่พวกคุณให้ล้วนอยู่ที่ตระกูลเสิ่น จัดการกันเองแล้วกัน

หลังบอกลาพวกเขาและลงจากรถแล้ว เธอก็เดินไปที่หน้าประตูมหาวิทยาลัยจิง

เดินไปหาคนที่ยืนอยู่ข้างรถคันหนึ่งที่หน้าประตู พูดอะไรบางอย่างด้วยกันสองสามประโยค แล้วก็ขึ้นรถคันนั้นไปด้วยกัน รถคันนั้นก็ขับเข้าไปในมหาวิทยาลัย

เสิ่นซิวเฉินที่อยู่บนรถหน้าประตูมหาวิทยาลัยจิงเกาศีรษะ

“น้องเล็กดูเหมือนจะเก่งไม่เบาเลยนะเนี่ย”

เสิ่นซิวจิ่นพูดต่อ

“ลูกพี่ลูกน้องของเราคนนี้ไม่ใช่แค่เก่งธรรมดา นายรู้ไหมว่าเธอขึ้นรถใครไป?”

เสิ่นซิวเฉินยิ้มพร้อมแซวเล่น

“หรือว่าจะเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยจิง?”

เสิ่นซิวเฉินมองสีหน้าพี่ใหญ่ของเขา หา?

“เชี่ย จริงเหรอ?”

ทั้งสามคนเงียบไป เสิ่นซิวเฉินนับถืออย่างสุดซึ้ง

“น้องเล็กเก่งจังเลย ใช้เส้นสายจนได้ไปถึงหน้าอธิการบดีเลย”

เสิ่นซิวจิ่นกับเสิ่นซิวเหนียนมองน้องโง่คนนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่แค่ใช้เส้นสายก็ไปถึงอธิการบดีได้ คนธรรมดาไม่รู้ แต่คนในระดับอย่างพวกเขาน่ะรู้กันอยู่บ้าง

อธิการบดีฉีคนนี้ไม่ใช่แค่อธิการบดีธรรมดา แต่ยังเป็นคนของรัฐบาลกลางด้วย

ตำแหน่งของเขาถือว่าสำคัญยิ่ง คนแบบนี้จะให้เส้นสายใครง่าย ๆ เหรอ?

ดูท่าลูกพี่ลูกน้องคนนี้จะไม่ธรรมดา

เสิ่นซิวจิ่นโทรศัพท์ไปที่บ้านเดิม ให้พวกเขาเก็บของขวัญที่ให้อวี๋เนี่ยนเอาไว้ก่อน

เมื่อวางสายแล้ว สีหน้าก็เย็นชา ถ้าไม่ใช่เพราะโทรศัพท์สายนี้ของเขา คุณตาก็คงคิดจะถือวิสาสะยกให้สองพี่น้องตระกูลตู้ไปแล้ว

เสิ่นซิวเฉินเบะปากเล็กน้อย

“ช่างใจแคบจริง ๆ อยากได้ทุกอย่างไปหมดเลย ตู้อินก็เรียนที่มหาวิทยาลัยจิงเหมือนกัน ต่อไปคงจะตามมาหาเรื่องกับน้องเล็กของเราแน่”

เสิ่นซิวจิ่นหัวเราะเบา ๆ

“นายคิดว่าอวี๋เนี่ยนจะเสียเปรียบเหรอ?”

เด็กสาวคนนี้ไม่ใช่คนอารมณ์ดี ไม่อย่างนั้นเมื่อสักครู่ก็คงไม่ตักเตือนประโยคนี้เป็นพิเศษหรอก ของที่ให้เธอ ต่อให้เธอไม่เอา ก็จะไม่ยอมให้คนที่ทำให้เธอไม่พอใจได้ไปง่าย ๆ แน่นอน

ถ้าพวกคนตระกูลตู้สงบเสงื่อมยังดี แต่ถ้าพวกเขามาวุ่นวายกับอวี๋เนี่ยนจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะเจอจุดจบแบบไหน?
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 40

    “ฮาย เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ คิดถึงฉันไหม?”ฮั่วเยี่ยนคร้านจะใส่ใจกับพฤติกรรมบ้า ๆ บอ ๆ ของเซ่ามู่ไป๋“เนี่ยนเนี่ยน มานั่งเถอะ”อวี๋เนี่ยนเดินไป นั่งลงอย่างเซื่องซึม“ไหนบอกว่ายังต้องใช้เวลาอีกสองสามวันไง?”“แหม ก็มีบางคนที่อยากกลับมาใจจะขาดน่ะสิ”เซ่ามู่ไป๋พูดจาทะเล้น หาวไปพลางเดินไปที่ห้อง“ไม่ได้นอนมาหนึ่งคืน ฉันไปนอนสักตื่นก่อนนะ พวกนายก็คุยกันไปแล้วกัน”ฮั่วเยี่ยนมองอวี๋เนี่ยนไม่ละสายตาโดยไม่พูดอะไร ตั้งแต่ที่รู้ว่าอวี๋เนี่ยนอยู่ที่ประเทศอาร์กับเหวินเหรินหลิ่น ในที่สุดหัวใจที่ว้าวุ่นไม่ยอมสงบลงแม้แต่น้อยก็สงบลงได้เสียทีไม่ได้หึงหวงที่เธออยู่กับเหวินเหรินหลิ่น แต่เป็นห่วงความปลอดภัยของเธอต่างหาก เพราะถึงอย่างไรแล้วหากไม่อันตรายก็คงไม่ต้องไปรบกวนเหวินเหรินหลิ่นหลายวันมานี้อวี๋เนี่ยนอยู่ที่เยี่ยนหยวนตลอด ปกติก็ไม่ได้ออกไปไหนหลังจากรู้ว่าเธอเดินทางไปต่างประเทศ นอกจากความเป็นห่วงแล้ว ก็ยังมีความรู้สึกหวาดกลัวสุดขีดตามมา มันเป็นความหวาดกลัวที่จะสูญเสียได้ตลอดเวลาแม้ว่าในใจจะเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายร้อยแปดพันเก้า ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าแล้วก็ยังคงความอบอุ่นไว้ได้ เขายื่นกล่องใบหน

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 39

    ตู้ลี่เจินยังสารภาพเรื่องสำคัญมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่งออกมา เธอว่าเคยได้ยินอีกฝ่ายพูดถึงตระกูลไป๋ถ้าเกิดเป็นตระกูลไป๋ขึ้นมาจริง อย่างนั้นก็เป็นเรื่องยุ่งยากใหญ่โตอีกเรื่องเลยทีเดียวกับคนของกองทัพอย่างพวกเขาเหล่านี้อาจไม่เกี่ยวข้องอะไรมาก หลัก ๆ นั้นเป็นการพัวพันกันของแวดวงการเมืองกับแวดวงธุรกิจในเมืองหลวงต่างหากกับตระกูลไป๋นี้จะว่าอย่างไรดี พวกเขาไม่มีความสามารถอะไรมากตระกูลไป๋ทุ่มเทกำลังไปกับการให้กำเนิดลูกสาว ทำให้มีสมาชิกตระกูลมาก นับเป็นตระกูลใหญ่เลยทีเดียวตระกูลใหญ่ทั้งตระกูลล้วนพึ่งพาความสัมพันธ์ของเหล่าผู้หญิง วิธีการเลี้ยงดูบุตรสาวของตระกูลไป๋นั้นล้วนพยายามเลี้ยงดูให้กลายเป็นคุณหญิงคุณนายของตระกูลเก่าแก่เด็กสาวที่เลี้ยงดูออกมาล้วนเพียบพร้อมไปด้วยความอ่อนหวานและคุณธรรม เก่งกาจการเข้าสังคม เชี่ยวชาญการเรือนเป็นมาตรฐานในการเลือกเฟ้นลูกสะใภ้ของหลาย ๆ บ้านความจริงเป็นข้อพิสูจน์เรื่องนี้ พวกเขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง อาศัยการแต่งงานของบุตรสาวสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ขนาดใหญ่ หยั่งรากฝังลึกอย่างมั่นคงในเมืองหลวงที่อำนาจต่าง ๆ สลับซับซ้อนตระกูลไป๋ซับซ้อนเกินไป ไม่อา

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 38

    อวี๋เนี่ยนมองวิดีโอกล้องวงจรปิดจากห้องสอบสวนด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก รอผลการสอบสวนอยู่กับพวกผู้อาวุโสหลาย ๆ ท่านจะเล่นโทรศัพท์ก็ไม่ได้ เนื่องด้วยในห้องนี้มีการปิดกั้นสัญญาณ ป้องกันไม่ให้มีคนแอบส่งข่าวออกไปผลการสอบสวนออกมาแล้ว ตระกูลเจิ้งบริสุทธิ์ อวี๋เนี่ยนไม่แปลกใจกับผลลัพธ์นี้ ตอนที่เธอเค้นถามคนพวกนั้นที่ประเทศอาร์ก็รู้แล้วว่าคนที่พวกเขาติดต่อด้วยคือตระกูลตู้เจิ้งเฉิงกังผู้นี้เป็นคนกระทำการระมัดระวังรอบคอบ เขาตอบรับบุญคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ ทว่ามากกว่านั้นเขาไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวในสถานการณ์แบบนี้ ตระกูลเจิ้งนั้นอยากรักษาการใช้ชีวิตแบบกินหรูอยู่สบาย ซึ่งตระกูลตู้ก็เป็นแหล่งรายได้หลักเนื่องจากเจิ้งเฉิงกังมีนิสัยระมัดระวังรอบคอบ ตระกูลตู้จึงไม่ได้อาศัยบารมีอะไรของตระกูลเจิ้ง มีแต่ลงทุนเข้าไปถึงจะเป็นเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่กล้าล่วงเกินตระกูลเจิ้ง ท้ายที่สุดแล้วแม้ว่าจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่อยากเล่นงานพวกเขาก็ทำได้ง่ายดาย มีคนทำธุรกิจคนไหนบ้างที่ไม่มีจุดอ่อนคนประเทศอีก็จับจุดนี้ได้จึงเข้าหาตระกูลตู้ แสดงท่าทีว่าต้องการแค่ตู้ลี่เจินนำของบางอย่างจากเจิ้งเฉิงกังมาให้พวกเขาเท่านั้น แล้ว

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 37

    รถเคลื่อนตัวมาถึงลานจอดเครื่องบิน โยนตู้ลี่เจินที่สลบไสลขึ้นไปบนห้องด้านหลังไม่มีความตั้งใจจะสอบสวนหล่อนแม้แต่น้อย เธอไม่อยากเข้าไปพัวพันลึกเกินไป จับคนกลับมาแล้วส่งตัวขึ้นไป ก็ถือว่าเธอทำหน้าที่สำเร็จแล้ว ก็ควรถอยออกมา อวี๋เนี่ยนมองเหวินเหรินหลิ่นที่มาปรากฏตัวอีกครั้งบนเครื่องบิน“ไม่ต้องจัดการเรื่องในตระกูลของพวกคุณหรือไง?”“ไม่ส่งคุณกลับประเทศอย่างปลอดภัย กลัวว่าฮั่วเยี่ยนต้องเอาผมตายแน่”“ฐานที่มั่นนั่นของคุณเปิดเผยได้นะ”อวี๋เนี่ยนลูบคาง เรื่องนี้น่าจะไม่เป็นปัญหาใหญ่โต ถึงอย่างไรก็ให้เหวินเหรินหลิ่นช่วยเหลือมากมายขนาดนี้โดยไม่ได้อะไรกลับไปเลยไม่ได้เหวินเหรินหลิ่นเดาได้ว่าอวี๋เนี่ยนเป็นคนของทางรัฐบาล แม้ว่าตัวตนจริงจะไม่ชัดเจนก็ตามทว่าสามารถออกมาทำเรื่องแบบนี้เพียงลำพังได้ แถมวิธีการก็ยัง...เอ่อ ไม่ค่อยนุ่มนวลสักเท่าไร ตำแหน่งคงสูงไม่เบา“นี่เป็นของตอบแทนจากคุณงั้นเหรอ?”ของตอบแทนที่ทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้ เดิมทีแค่อยากตอบแทนน้ำใจของอวี๋เนี่ยนคืนไปก็เท่านั้น นี่นับว่าเป็นประโยชน์นอกเหนือความคาดหมายเลยเชียว“ไม่พอใจเหรอ?”“ไม่ใช่ แค่คิดถึงครั้งก่อนที่คุณอวี๋ช่วยผมน่ะ

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 36

    กลับขึ้นรถ รับทิชชูเปียกที่เหวินเหรินหลิ่นยื่นให้ แล้วเช็ดไปตามนิ้วมือด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย“เสื้อผ้าเลอะหมดเลย”แม้จะกำลังบ่นว่า ทว่าฟังแล้วดูเหมือนว่าอวี๋เนี่ยนจะอารมณ์ดีไม่เลวเหวินเหรินหลิ่นยิ่งยิ้มกว้าง ที่แท้ก็เป็นคนแปลก ๆ นิด ๆ นี่เอง“ผมจะให้คนนำเสื้อผ้ามาให้คุณ”“คุณอวี๋คิดจะจัดการพวกเขาอย่างไร?”“แน่นอนว่าต้องทำลายศพไม่ให้เหลือร่องรอย เรื่องนี้คุณถนัดกว่าฉันนี่”อวี๋เนี่ยนพูดอย่างไม่ใส่ใจกวาดสายตามองตู้ลี่เจินที่นั่งตัวสั่นเป็นใบไม้ไหวอยู่ที่พื้นด้วยสายตาราบเรียบ กล้าทำเรื่องพรรค์นี้ออกมา แต่ตอนนี้กลับรู้จักกลัว ผลของการเชือดไก่ให้ลิงดูนั้นเหมือนว่าจะได้ผลไม่เลวเหวินเหรินหลิ่นได้ยินก็ไม่ได้ตกใจ นับตั้งแต่อวี๋เนี่ยนลงจากรถไป เขาก็รู้แล้วว่าเจ้าพวกสามคนนั้นไม่รอดแน่ตู้ลี่เจินถูกอวี๋เนี่ยนในยามนี้ทำให้หวาดกลัวจนขนลุกขนชันไปทั้งกาย หวาดกลัวกว่าตอนที่เห็นการทรมานคนของอวี๋เนี่ยนเมื่อครู่นี้เสียอีกอดรู้สึกหนาวเย็นจับใจไม่ได้ พวกเขาพูดเรื่องทำลายศพเผาหลักฐานต่อหน้าตัวเองแบบนี้ เกรงว่าแม้แต่ตัวเธอเองก็ต้องถูกฆ่าปิดปากตามไปด้วยตอนนี้เห็นสายตาของอวี๋เนี่ยนที่กวาดสายตา

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 35

    อวี๋เนี่ยนเดินลากท่อนเหล็กไปอยู่ตรงหน้าสามคนนั้น ลูกน้อยของเหวินเหรินหลิ่นจึงถอยหลังลงไปสองสามก้าวหลีกทางให้เธออวี๋เนี่ยนพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ“บอกสิ่งที่พวกคุณรู้มาให้หมด”ผู้หญิงคนนั้นมีสีหน้าหยิ่งผยอง ไม่มีความคิดที่จะตอบโดยสิ้นเชิง อีกสองคนที่เหลือก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมาเช่นกันอวี๋เนี่ยนแย้มยิ้มโหดเหี้ยมออกมาเล็กน้อย ไม่ให้ความร่วมมือสินะ? อย่างนั้นก็ดีเลยลากผู้ชายคนนั้นออกมา แล้วฟาดท่อนเหล็กไปที่แขน ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวน ไม่กี่คนที่อยู่ข้าง ๆ ล้วนได้ยินเสียกระดูกหักได้อย่างชัดเจนผู้หญิงที่เดิมที่มีแต่ความโอหังฉายอยู่เต็มหน้าพลันใบหน้าเปลี่ยนสีทันที คนขับรถที่อยู่ข้างกันก็ยิ่งตกใจแข้งขาอ่อนจนทรุดตัวนั่งลงบนพื้นผู้หญิงคนนั้นร้องตะโกน“พวกเราเป็นทหารประเทศอี คุณไม่มีสิทธิ์ทรมานพวกเรา ฉันต้องการคุยกับรัฐบาลของพวกคุณ”ไม่สนใจว่าผู้หญิงคนนั้นจะร้องตะโกนไม่หยุด เธอลงมือฟาดท่อนเหล็กต่อไป คราวนี้ฟาดลงไปบนหัวเข่า เสียงกระดูกแตกดังยิ่งกว่าเก่า ผู้ชายคนนั้นร้องโหยหวนพลางล้มลงไปตะโกนลั่นว่า “ฉันบอกแล้ว บอกแล้ว”ไม่ต้องใส่หูฟังเสียงร้องโหยหวนก็ดังเข้ามาถึงในรถ ตู้ลี่เจิน

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 34

    “พ้นจากตัวเมืองไปแล้วค่อยลงมือ”เขามีความมั่นใจมากว่าจะจัดการให้เสร็จสิ้นได้ หากขัดขวางพวกเขาที่นี่จะเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผย ไม่กลัวหนึ่งหมื่นแต่กลัวหนึ่งในหมื่นอวี๋เนี่ยนพยักหน้าเข้าใจ ไม่เกรงใจเขา ยกให้เขาจัดการไป เพราะเรื่องต่อจากนี้อย่างไรก็ยังต้องรบกวนเขาอีกไม่น้อยไม่นานนักรถของพวกเขาก็ไล่ตามตู้ลี่เจินทัน หลังจากขับตามมาสักพักจึงเพิ่มความเร็วแซงหน้ารถที่ตู้ลี่เจินนั่งอยู่หลังจากขับผ่านบริเวณที่ไฟถนนพังเสียหายไปจึงจอดรถ แล้วก็มีคนวางเครื่องกีดขวางขนาดเล็กไว้ด้านหน้าในทันทีไม่ช้านาน รถของตู้ลี่เจินก็แล่นมาถึง รถเหยียบบดลงบนเครื่องกีดขวางด้วยความเร็ว ล้อรถระเบิดจนเสียการทรงตัวลื่นไปชนเข้ากับต้นไม้ข้างทางอย่างรุนแรงควันขาวลองคลุ้งออกมาจากกระโปรงรถ เห็นได้ชัดว่าใช้การไม่ได้แล้ว ดูจากสภาพความเสียหายของรถแล้ว ตัวคนน่าจะไม่เป็นอะไร จริงตามคาด ผู้ชายคนหนึ่งลงมาจากห้องคนขับ หลังจากนั้นก็มีผู้ชายหนึ่งคนกับผู้หญิงหนึ่งคนลงมาดูสถานการณ์อวี๋เนี่ยนวางกล้องส่องทางไกลสำหรับกลางคืนในมือ นอกจากสามคนนี้ที่ลงมาจากรถแล้ว ในรถก็เหลือเพียงตู้ลี่เจินคนเดียวเท่านั้นเหวินเหรินหลิ่นส่งสัญญาณม

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 33

    หลังยืนยันข้อมูล อวี๋เนี่ยนก็หาเบอร์ติดต่อเหวินเหรินหลิ่นที่ฮั่วเยี่ยนให้เธอไว้เจอ แล้วจึงต่อสายโทรหาทันที“ฉันอวี๋เนี่ยนนะ”“คุณอวี๋?”ตอนที่เหวินเหรินหลิ่นรับสายของอวี๋เนี่ยนก็ประหลาดใจอยู่บ้าง โทรมาหาในเวลาแบบนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?“สะดวกคุยหรือเปล่าคะ? อยากรบกวนให้คุณช่วยสักหน่อย”“สะดวกครับ คุณอวี๋พูดมาได้เลย”เหวินเหรินหลิ่นเองก็ไม่นึกไม่ฝัน ว่าโอกาสตอบแทนน้ำใจจะมาถึงเร็วขนาดนี้“ช่วยจับตาดูคนคนหนึ่งที่สนามบินของเมืองหลวงประเทศอาร์ และหากเป็นไปได้จะขอยืมเครื่องบินส่วนตัวของคุณด้วย”อวี๋เนี่ยนไม่เกรงใจ พูดความต้องการของตนเองออกไปตรง ๆประเทศอาร์เป็นฐานที่มั่นของเหวินเหรินหลิ่น เรื่องนี้จึงไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าเข้าแล้ว“ไม่มีปัญหาครับ”เหวินเหรินหลิ่นตอบตกลงโดยไม่ลังเล“ฉันส่งข้อมูลไปให้คุณแล้ว เครื่องบินที่เธอนั่งจะลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติเมืองหลวงประเทศอาร์ในอีกสี่ชั่วโมงให้หลัง”เหวินเหรินหลิ่นรีบส่งข้อมูลไปให้คนของทางนั้น เพื่อจัดแจงคนไปคอยเฝ้ารอที่สนามบิน“ให้จับกุมเหรอครับ?”“สะกดรอยตามไว้ ฉันจะไปถึงในอีกสิบนาที ต้องวางสายแล้ว”อวี๋เนี่ยนดูที่อยู่ที่เหวินเ

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 32

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นดยุคอวี๋เนี่ยนผุดตัวลุกขึ้นนั่งทันที เกิดเรื่องแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะต้องติดต่อมาทางออนไลน์ ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์คับขันเป็นอย่างที่คิด อวี๋เนี่ยนเพิ่งรับสายโทรศัพท์ เสียงของดยุคก็ดังลอดออกมาจากทางนั้นแล้ว“หัวหน้า ตู้ลี่เจินออกนอกประเทศแล้ว เครื่องเพิ่งออกไป”“ส่งข้อมูลมาให้ฉัน”พูดจบ อวี๋เนี่ยนก็วางสายโทรศัพท์ แล้วต่อสายไปหาเว่ยกังให้เขารีบตรวจสอบทันที ไม่ใช่ว่าให้จับตาดูไว้หรอกเหรอ ทำไมปล่อยให้ออกนอกประเทศไปได้?ระหว่างที่รอสายของเว่ยกัง อวี๋เนี่ยนก็ดูเอกสารที่ดยุคส่งมาให้ไปพลาง ๆ ตู้ลี่เจินใช้ตัวตนปลอม ทำให้พวกเขาไม่ได้รับข่าวตั้งแต่แรกเครื่องบินทะยานขึ้นสู่น่านฟ้าไปสี่สิบนาทีแล้ว เป็นการบินไปยังเมืองหลวงของประเทศอาร์ ระยะเวลาในการบินราวห้าชั่วโมงครึ่งอวี๋เนี่ยนครุ่นคิด จะให้เครื่องบินวกกลับมานั้นเป็นการสร้างความวุ่นวายใหญ่โต ยากจะปิดบังได้อยู่ อีกทั้งเรื่องนี้ยังอยู่ในช่วงการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยิ่งไม่อาจทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้อวี๋เนี่ยนดวงตาเปล่งประกาย นึกถึงใครบางคนขึ้นมาได้ทว่าทั้งหมดนี้ล้วนต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนจากทางฝั่งเว่ยกัง

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status