คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!

คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!

โดย:  จือจือแสนขยันอัปเดตเมื่อครู่นี้
ภาษา: Thai
goodnovel4goodnovel
คะแนนไม่เพียงพอ
40บท
1views
อ่าน
เพิ่มลงในห้องสมุด

แชร์:  

รายงาน
ภาพรวม
แค็ตตาล็อก
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป

[เป็นที่รักของทุกคน+ทุ่มเทเพื่อชาติ+อัจฉริยะสาวไอคิวสูง✘บอสสุดเจ้าเล่ห์] อวี๋เนี่ยนในสายตาของบรรดาคนใหญ่คนโต : เด็กดี ว่านอนสอนง่าย เป็นสมบัติของชาติ อวี๋เนี่ยนในสายตาของเหล่าพี่ชาย : ป่าเถื่อนกระหายเลือด ฆ่าคนตาไม่กะพริบ ส่วนอวี๋เนี่ยนในสายตาของฮั่วเยี่ยน : เบบี๋ เรื่องราวหวานละมุนของการเยียวยาซึ่งกันและกัน เมื่อเธอผู้เย็นชาหยิ่งหยองไร้อารมณ์ได้พบกับเขาผู้แปลกแยกจากโลกใบนี้ เป็นเทวดาที่ตกมาสู่โลกมนุษย์ หรือเทพเซียนตกสวรรค์? นางเอกมีประเทศคอยหนุนหลัง มีคุณธรรมแต่ไม่มาก พระเอกเป็นนักธุรกิจในประเทศ เป็นมือสังหารในต่างแดน ซ่อนความบ้าคลั่งเอาไว้ พี่ชาย : น้องสาวฉันจิตใจดีมาก ทนฟังเสียงคนอื่นร้องเจ็บปวดไม่ได้ น้องสาวที่จิตใจดี : อุดปากมันไว้ แล้วค่อย ๆ หักกระดูกไปทีละท่อน ฮั่วเยี่ยน : เนี่ยนเนี่ยนขี้กลัว ไม่งั้นพวกแกก็ฆ่าตัวตายเองเถอะ อย่าทำให้เบบี๋ของฉันตกใจ

ดูเพิ่มเติม

บทที่ 1

บทที่ 1

ในค่ำคืนฝนตก รถเก๋งสีดำคันหนึ่งพุ่งชนแนวกั้นบนถนนภูเขาคดเคี้ยว ก่อนจะชนเข้ากับหน้าผาอย่างจัง จนฝากระโปรงหน้าถูกอัดยุบ

คนขับเสียชีวิตคาที่ ที่เบาะหลังมีหญิงสาวร่างโชกเลือดหมดสติไปแล้ว แต่ยังคงกอดเด็กหญิงตัวน้อยใต้ร่างไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ภายในโรงพยาบาลฐานทัพภาคตะวันตกแห่งหนึ่ง

ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก หมอไม่กี่คนเดินออกมาพร้อมถอดหน้ากากอนามัย ก่อนจะส่ายหน้าให้กับผู้บัญชาการฐานทัพที่ยืนรออยู่ด้านนอก

“ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ เรา...ยื้อดอกเตอร์เสิ่นไว้ไม่ได้”

ชายชราที่มีดาวยศนายพลประดับบนบ่าตัวสั่นเล็กน้อย มือที่กอดเด็กหญิงตัวน้อยกระชับแน่นขึ้น เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองอย่างมึนงง ราวกับยังไม่สามารถตอบสนองได้ พลางจ้องมองผู้ที่กอดเธอด้วยสายตาเหม่อลอย

เด็กหญิงตัวน้อยชื่ออวี๋เนี่ยน ผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์คือพ่อแม่ของเธอ

วันนี้เป็นวันเกิดอายุครบหกปีของเธอ อวี๋อี่อันพ่อของเธอ และเสิ่นจือเฉียวแม่ของเธอคือวิศวกรระดับสูงที่ศูนย์วิจัยอาวุธปืน

ปกติแล้วงานยุ่งมาก การหาเวลามาฉลองวันเกิดให้กับเธอไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และทั้งครอบครัวก็ออกไปเที่ยวด้วยกัน

ระหว่างทางพวกเขากลับได้รับการแจ้งเตือนด่วน โครงการของพวกเขามีปัญหา ในฐานะที่เป็นทีมพัฒนาหลัก พวกเขาจึงทำได้เพียงต้องรีบกลับทันที

พ่อแม่คุยกับเธอในรถเกี่ยวกับการชดเชยวันเกิดปีหน้าว่าจะพาไปเที่ยวที่ไหน และแม่ยังกอดเธอ พูดว่าต่อไปจะอยู่กับเธอให้มากขึ้น

“เนี่ยนเนี่ยน รอโครงการนี้เสร็จแล้ว แม่จะลาออกมาอยู่กับคนเก่งของแม่ให้เต็มที่เลยดีไหมจ๊ะ?”

คำพูดของแม่ยังดังก้องอยู่ในหู แต่เธอยังไม่ทันได้พูดอะไรตอบกลับไปเลย

เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น รถเสียหลักลื่นไถลชนเข้ากับหน้าผา พ่อเสียชีวิตคาที่ ส่วนแม่ตอนนี้ก็ยื้อไว้ไม่ไหว แล้วทำไมถึงเหลือแค่เธอคนเดียวล่ะ?

อวี๋เนี่ยนมีไอคิวสูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบ ถึงแม้อายุยังน้อย แต่เธอก็เข้าใจอะไรหลาย ๆ เรื่อง

สายตาของนายพลผู้เฒ่าหลี่ที่มองมายังอวี๋เนี่ยนเต็มไปด้วยความซับซ้อน

“ยัยหนูเนี่ยน ตามฉันเข้าไปดูพ่อกับแม่หนูกันเถอะ”

อวี๋เนี่ยนสีหน้าว่างเปล่า นายพลหลี่ถอนหายใจเบา ๆ พ่อแม่ของเด็กคนนี้ทำงานยุ่งมาตลอด เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้เรียกได้ว่าพวกเขามองดูเธอเติบโตมา เห็นเธอเป็นแบบนี้ เขาเองก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้

เขาเองก็อยากให้เวลาเด็กน้อยได้ทำใจมากกว่านี้ แต่ปัญหาคือตอนนี้สถานการณ์มันพิเศษ

อวี๋อี่อันกับเสิ่นจือเฉียวมีสถานะที่อ่อนไหวเกินไป เรื่องเกิดขึ้นกะทันหัน จึงแทบไม่มีเวลาให้จัดการอะไรได้เลย

สองสามีภรรยาเป็นวิศวกรเครื่องกลระดับแนวหน้า ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกทางการทหารหลายอย่าง ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ศูนย์วิจัยอาวุธปืนของฐานทัพ พวกเขาคือบุคลากรคุณภาพที่หายากยิ่ง

ตอนนี้พวกเขากำลังรับผิดชอบโครงการปรับปรุงอาวุธหนักที่ได้รับความสนใจจากภายนอก หากในช่วงเวลานี้มีการเปิดเผยข่าวการเสียชีวิตของผู้รับผิดชอบโครงการ จะส่งผลกระทบที่ไม่สามารถประเมินได้

ดังนั้น จำเป็นต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับและดำเนินการเผาให้เร็วที่สุด

ตอนนี้เถ้ากระดูกของพวกเขาก็ไม่สามารถเข้าไปที่สุสานวีรชนได้ กระทั่งไม่มีแม้แต่หลุมศพ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ไม่เพียงแต่อวี๋เนี่ยน แม้แต่นายพลหลี่เองก็ยังยากจะรับได้ ความเสียหายของทั้งศูนย์วิจัยนั้นยิ่งประเมินค่าไม่ได้

นายพลหลี่หลับตาลง แล้วอุ้มอวี๋เนี่ยนเดินเข้าไปข้างใน

อวี๋อี่อันและเสิ่นจือเฉียวนอนนิ่งอยู่ที่นั่น รอยเลือดถูกทำความสะอาดจนหมดแล้ว ดูคล้ายกำลังนอนหลับอยู่

เด็กหญิงตัวน้อยยื่นมือสั่นเทาไปสัมผัสใบหน้าที่เย็นเฉียบของเสิ่นจือเฉียว

จนกระทั่งตอนนี้เอง อวี๋เนี่ยนที่เงียบขรึมมาตลอดจนดูเหมือนจะงุนงงในที่สุดก็ร้องไห้ออกมา ร้องไห้เสียงดังสะอึกสะอื้น

ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นต่างรู้สึกเจ็บปวดในใจ เด็กคนนี้ฉลาดและเป็นผู้ใหญ่เร็ว เข้าใจงานของพ่อแม่เป็นอย่างดี ไม่เคยร้องไห้ขอให้ผู้ใหญ่ไปอยู่ด้วย รู้เรื่องจนไม่เหมือนเด็กทั่วไป

ส่วนตอนนี้ เฮ้อ...

เด็กคนนี้...

นายพลหลี่คิด ร้องไห้ก็ดีแล้ว เมื่อครู่เด็กคนนี้เงียบเกินไป ตอนนี้เขาก็เริ่มรู้สึกโล่งใจบ้างแล้ว

ไม่ว่าจะปลอบหรือเกลี้ยกล่อมอวี๋เนี่ยนอย่างไรก็ไม่เป็นผล เธอร้องไห้จนหมดแรงผล็อยหลับไป จึงถูกนายพลหลี่พากลับบ้าน

ในช่วงนี้เธอพักอยู่ที่บ้านของนายพลหลี่ชั่วคราว ดูเหมือนจะดีขึ้นแล้ว แต่กลับกลายเป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดอะไร

เธอมักจะกอดโน้ตบุ๊คขนาดเล็กที่พ่อแม่ประกอบให้ อยู่ในห้องทีก็เป็นเวลาครึ่งค่อนวัน เธอออกมาก็ต่อเมื่อถูกเรียกให้ไปกินข้าวเท่านั้น

อวี๋เนี่ยนมีไอคิวสูงมาก แต่เธอไม่ได้สืบทอดพรสวรรค์ด้านเครื่องกลจากพ่อแม่

กลับกัน เธอสนใจคอมพิวเตอร์มากกว่า และแสดงออกถึงพรสวรรค์ในด้านนี้ได้อย่างโดดเด่นตั้งแต่ยังเด็กมาก

อวี๋เนี่ยนเติบโตมากับพ่อแม่ในฐานทัพ และในฐานทัพย่อมมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญในด้านนี้ เมื่อเห็นเด็กน้อยสนใจก็ยินดีที่จะเล่นกับเธอและให้เธอตามติด

ถึงแม้ว่าพ่อแม่ของเธอจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืน แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอวี๋เนี่ยนแทบจะอยู่แต่ในสำนักงานความปลอดภัยทางไซเบอร์

การเจอเด็กที่มีพรสวรรค์ขนาดนี้และยังเต็มใจที่จะเรียนรู้ก็เป็นเรื่องที่ยากมาก ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงบางคนในนั้นยังฝึกฝนให้หนูน้อยอวี๋เนี่ยนเป็นผู้สืบทอดอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อเทียบกับอวี๋อี่อันและเสิ่นจือเฉียวสองสามีภรรยา พวกเขายังใช้เวลาร่วมกับอวี๋เนี่ยนมากกว่าเสียอีก

แม้อวี๋เนี่ยนจะยังเด็ก แต่เธอก็มีความคิดเป็นของตัวเอง เธอปฏิเสธข้อเสนอของนายพลหลี่ที่จะส่งเธอไปโรงเรียน และเลือกเข้าเรียนที่สถาบันความปลอดภัยทางไซเบอร์แทน

ตลอดหลายปีมานี้ อวี๋เนี่ยนทำงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในฐานทัพ เธอมีพรสวรรค์ด้านนี้สูงจนน่าตกใจ และยังเป็นเป็นคนที่สามารถทนต่อความเหงาและตั้งใจเรียนได้เป็นอย่างดี

หลังจากอาจารย์ที่สอนเธอในตอนนั้นถูกเธอสูบความรู้ไปหมดแล้ว เธอก็เดินทางไปยังฐานทัพต่าง ๆ เพื่อเรียนรู้และท้าทายตัวเอง เพราะอย่างไรแล้วบุคลากรชั้นยอดในด้านนี้ก็มักจะถูกรวมตัวอยู่ในฐานทัพเพื่อรับใช้ชาติ

เธอมีพรสวรรค์เหนือชั้น แม้ว่าจะอายุแค่ยี่สิบปี แต่ก็เป็นผู้ไร้เทียมทานที่เอาชนะฐานทัพทั้งหมดราบคาบแล้ว ทั้งสำนักงานความปลอดภัยทางไซเบอร์ไม่มีใครสู้เธอได้

เหตุการณ์ในครั้งนั้น เปลี่ยนอวี๋เนี่ยนจากเด็กหญิงที่เคยร่าเริงสดใสให้กลายเป็นคนเงียบขรึม ราวกับว่าชีวิตของเธอจะหลงเหลือเพียงแค่การเรียนและการฝึกฝน ไม่มีความสนใจอื่นอีก

อวี๋เนี่ยนสะบัดความคิดออกจากภวังค์ นาน ๆ ทีที่เธอจะใจลอยแบบนี้

นึกขึ้นได้ว่าใกล้จะถึงวันเกิดของเธอแล้ว แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอแทบไม่เคยฉลองวันเกิดจริง ๆ จัง ๆ เลย

ทุกคนคิดว่าเธอไม่ฉลองวันเกิดเพราะยังติดใจกับเรื่องในปีนั้น แต่จริง ๆ แล้วเธอปล่อยวางไปนานแล้ว เพียงแต่นี่เป็นนิสัยที่ติดตัวยากจะเปลี่ยนแปลงเท่านั้น

เธอไม่ชอบสถานที่ครึกครื้น เมื่อเทียบกับการเข้าสังคม เธอยอมอยู่กับคอมพิวเตอร์เสียยังดีกว่า

เธอนึกถึงภารกิจใหม่ที่เพิ่งได้รับ คือการไปจัดตั้งแผนกความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เมืองหลวง ช่วงไม่กี่ปีมานี้อินเทอร์เน็ตพัฒนามากขึ้นทุกที ระบบความปลอดภัยของเมืองหลวงถูกดูแลโดยหน่วยความปลอดภัยทางไซเบอร์ของฐานทัพมาโดยตลอด

ครั้งนี้เบื้องบนจะแยกหน่วยงานความปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติขึ้นมาเป็นหน่วยงานอิสระ แล้วให้เธอเป็นหัวหน้า

เรื่องนี้สำหรับเธอไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะมันเป็นสาขาวิชาชีพของเธออยู่แล้ว เธอยังเคยถูกยืมตัวไปยังฐานทัพใหม่หลายแห่งเพื่อช่วยจัดตั้งหน่วยงานความปลอดภัยทางไซเบอร์ สามารถพูดได้ว่าเธอมีความชำนาญและคุ้นเคยกับงานนี้เป็นอย่างดี

จริง ๆ แล้วเรื่องที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่ไหน เธอไม่ได้สนใจเลย หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่ว่าแต่ละฐานทัพจะพยายามดึงตัวเธออย่างไร เธอก็ยังคงยืนหยัดไม่เคลื่อนไหว

ที่เธอยังคงอยู่ที่นี่ตลอดก็เพราะชินแล้วเท่านั้น ไม่ได้มีความหมายพิเศษอะไรอย่างที่พวกเขาคิด

แล้วก็คิดถึงอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมา อวี๋เนี่ยนรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย ควรจะปฏิเสธอย่างไรดีนะ?
แสดง
บทถัดไป
ดาวน์โหลด

บทล่าสุด

บทอื่นๆ

ความคิดเห็น

ไม่มีความคิดเห็น
40
บทที่ 1
ในค่ำคืนฝนตก รถเก๋งสีดำคันหนึ่งพุ่งชนแนวกั้นบนถนนภูเขาคดเคี้ยว ก่อนจะชนเข้ากับหน้าผาอย่างจัง จนฝากระโปรงหน้าถูกอัดยุบคนขับเสียชีวิตคาที่ ที่เบาะหลังมีหญิงสาวร่างโชกเลือดหมดสติไปแล้ว แต่ยังคงกอดเด็กหญิงตัวน้อยใต้ร่างไว้แน่นไม่ยอมปล่อยหนึ่งชั่วโมงต่อมา ภายในโรงพยาบาลฐานทัพภาคตะวันตกแห่งหนึ่งประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก หมอไม่กี่คนเดินออกมาพร้อมถอดหน้ากากอนามัย ก่อนจะส่ายหน้าให้กับผู้บัญชาการฐานทัพที่ยืนรออยู่ด้านนอก“ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ เรา...ยื้อดอกเตอร์เสิ่นไว้ไม่ได้”ชายชราที่มีดาวยศนายพลประดับบนบ่าตัวสั่นเล็กน้อย มือที่กอดเด็กหญิงตัวน้อยกระชับแน่นขึ้น เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองอย่างมึนงง ราวกับยังไม่สามารถตอบสนองได้ พลางจ้องมองผู้ที่กอดเธอด้วยสายตาเหม่อลอยเด็กหญิงตัวน้อยชื่ออวี๋เนี่ยน ผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์คือพ่อแม่ของเธอวันนี้เป็นวันเกิดอายุครบหกปีของเธอ อวี๋อี่อันพ่อของเธอ และเสิ่นจือเฉียวแม่ของเธอคือวิศวกรระดับสูงที่ศูนย์วิจัยอาวุธปืนปกติแล้วงานยุ่งมาก การหาเวลามาฉลองวันเกิดให้กับเธอไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และทั้งครอบครัวก็ออกไปเที่ยวด้วยกันระหว่างทางพวกเขากลับ
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 2
ลึกเข้าไปเขตฐานทัพ ในอาคารหลังเล็กที่มีทหารติดอาวุธคอยเฝ้ายาม นายพลหลี่ผู้สวมแว่นสายตายาววางหนังสือพิมพ์ลงก่อนจะหันไปพูดกับอวี๋เนี่ยนที่ยังกอดคอมพิวเตอร์ไว้และพิมพ์ไม่หยุดบนโซฟา “ยัยตัวแสบ คิดได้หรือยังว่าจะเอายังไง?”อวี๋เนี่ยนอายุยี่สิบปีอย่างเป็นทางการแล้ว วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ เพราะจะต้องไปเมืองหลวงแล้ว นายพลหลี่จึงเรียกเธอมากินข้าวด้วยเด็กหญิงตัวน้อยในวันนั้น โตขึ้นกลายเป็นสาวสะพรั่ง รูปร่างหน้าตาได้รับยีนดีจากพ่อแม่มาเต็ม ๆ เพียงแต่นิสัยกลับยิ่งไม่เหมือนใครเข้าไปทุกทีนายพลหลี่ถอนหายใจ การที่ปล่อยให้เธอเดินบนเส้นทางสายนี้ในปีนั้น ตกลงแล้วมันถูกหรือผิดกันแน่?เจ้าเด็กนี่นอกจากคอมพิวเตอร์ที่สนใจแล้ว เรื่องอื่นก็ขี้เกียจมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จริง ๆหลายปีมานี้ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาจัดคนมาคอยฝึกฝนร่างกายให้เธอ คาดว่าคงจะได้เห็นเธอไม่แข็งแรงเท่าตาแก่เจ็ดแปดสิบปีอย่างเขาด้วยซ้ำถ้าไม่คอยดูเธอ เธอจะนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน ยกเว้นเวลาเข้านอนคนแก่ทั้งหลายอย่างพวกเขาไม่มีทางเลือก นอกจากต้องขู่บังคับให้เธอขยับตัวอาชีพของเธออันตรายขนาดนี้ ถ้าไม่ระวังสักวันอาจถูกจับตามอง แล้ว
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 3
อวี๋เนี่ยนนั่งเครื่องบินจากฐานทัพโดยตรงไปยังฐานทัพในเมืองหลวง มีทหารประจำการรออยู่ที่นั่นแล้ว และพาเธอไปยังสำนักงานของผู้บัญชาการฐานทัพเมืองหลวงอวี๋เนี่ยนเข้าไปในสำนักงาน บนโซฟามีคนนั่งอยู่ไม่กี่คน อวี๋เนี่ยนกวาดตามองไปรอบหนึ่ง มีผู้บัญชาการฐานทัพหลินหงจวิน เสนาธิการฐานทัพเจิ้งเสียง และยังมีอีกคนหนึ่งที่เธอไม่รู้จัก“สวัสดีค่ะ ผู้บัญชาการหลิน ผู้บัญชาการเจิ้ง อวี๋เนี่ยนมารายงานตัวค่ะ”ผู้บัญชาการหลินเป็นสหายร่วมรบกับพ่อเฒ่าหลี่ ก็ถือว่าเห็นอวี๋เนี่ยนเติบโตมา เขามองอวี๋เนี่ยนด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดี“ยัยหนูคนนี้ ในที่สุดก็มาได้สักที แม้แต่คำว่าปู่ก็เรียกไม่เป็นแล้วหรือไง?”พูดจบก็ชี้ไปที่ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนโซฟา“ท่านนี้คือเว่ยกัง ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ”อวี๋เนี่ยนพยักหน้าให้ชายวัยกลางคน“สวัสดีค่ะ ผู้อำนวยการเว่ย”ผู้บัญชาการหลินตบบ่าอวี๋เนี่ยน“ยัยหนูเนี่ยน ท่านนี้จะเป็นหัวหน้าของเธอในอนาคต หน่วยงานความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ให้เธอไปจัดตั้งนั้นขึ้นตรงกับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ”เว่ยกังมองการปฏิสัมพันธ์ระหว่างชายชราและเด็กสาวตรงหน้า ผู้บัญชาการอาวุโสคนนี้แสดง
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 4
อวี๋เนี่ยนได้โทรศัพท์คุยกับลุงใหญ่เสิ่นเหวินเมื่อไม่กี่วันก่อน และได้นัดหมายเวลาที่จะไปเยี่ยมบ้านเดิมตระกูลเสิ่นคนตระกูลเสิ่นไม่ได้อยู่ด้วยกัน พี่ใหญ่เสิ่นเหวินกับพี่รองเสิ่นอู่ต่างก็มีบ้านของตัวเองอยู่ข้างนอก ส่วนลูกชายคนเล็กสุดเสิ่นเซียวก็อยู่ต่างประเทศมาตลอดในช่วงปีใหม่หรือเทศกาลต่าง ๆ คนตระกูลเสิ่นทั้งหมดจะไปบ้านเดิม ปกติก็มีแค่คุณตากับคุณยายสองคนอยู่ที่นั่นเมื่อลุงใหญ่คนนี้รู้ว่าอวี๋เนี่ยนมาถึงเมืองหลวง ก็เสนอที่จะจัดการเรื่องเสื้อผ้า การกินอยู่ และการเดินทางให้ ทว่าอวี๋เนี่ยนปฏิเสธความปรารถนาดีของอีกฝ่าย โดยบอกว่าตัวเองจัดการไว้แล้ว แค่นัดหมายเวลาไปตระกูลเสิ่นเท่านั้นหลังเสิ่นเหวินได้รับสายจากอวี๋เนี่ยน เขาก็รีบโทรศัพท์ไปยังบ้านเดิม บอกพ่อแม่ของเขาเรื่องที่อวี๋เนี่ยนจะมาน้องสาวคนเล็กตั้งแต่ต้นจนจบได้รับความรักความเอ็นดูจากพ่อแม่ คิดว่าพ่อแม่ก็น่าจะชอบลูกสาวของน้องสาวคนเล็กด้วยเหมือนกันยังแจ้งข่าวให้กับน้องชายเสิ่นอู่และน้องสาวอีกคนเสิ่นจือเยี่ยนรู้ ว่าถ้าพวกเขามีเวลาก็ให้พยายามไปบ้านเดิมด้วยเป็นครั้งแรกที่อวี๋เนี่ยนมาบ้านตระกูลเสิ่น หนึ่งเพื่อแสดงความต้อนรับ สองเพื่
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 5
อวี๋เนี่ยนเพิ่งเดินมาถึงหน้าประตูบ้านตระกูลเสิ่น ยามที่หน้าประตูเห็นเธอแล้ว จึงเปิดประตูให้มุมปากของอวี๋เนี่ยนยกขึ้นเล็กน้อย การข่มขวัญครั้งนี้ทำได้ไม่สุดเลยนะไม่นานก็มีชายวัยกลางคนออกมาต้อนรับเธอ บอกว่าตนเองเป็นพ่อบ้านของตระกูลเสิ่น แล้วพาเธอเข้าไปในวิลล่าอวี๋เนี่ยนมองประเมินเหล่าคนที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก ในสมองผุดข้อมูลของแต่ละคนขึ้นมาท่านผู้เฒ่าชายและท่านผู้เฒ่าหญิงเสิ่น หรือก็คือคุณตาคุณยายของเธอก็อยู่กันพร้อมหน้า รวมถึงป้าใหญ่เสิ่นจือเยี่ยน และลูกสาวของเธอทั้งสองคนด้วยลูกสาวคนโตตู้อวิ๋นอายุยี่สิบห้าปี แต่งงานแล้ว ลูกสาวคนเล็กตู้อินโตกว่าอวี๋เนี่ยนหนึ่งปี เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยจิงคนในห้องรับแขกก็มองสำรวจอวี๋เนี่ยน ไม่มีใครพูดอะไร บรรยากาศเลยอึดอัดขึ้นมาทันทีพ่อบ้านที่ยืนอยู่เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ พลางพูดขอโทษซ้ำ ๆ“ต้องขออภัยคุณอวี๋ด้วยนะครับ เป็นความสะเพร่าของผมเองที่ลืมส่งคนออกไปรับคุณ!”ไม่เสียแรงที่เป็นพ่อบ้านของตระกูลใหญ่จริง ๆ สายตาเฉียบแหลม พอเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไรก็รีบเอ่ยปากขอโทษทันที เพื่อหาทางลงให้ทุกคนถ้าเธอเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน คำขอโทษนั่นคงไม่มีแน่ น่
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 6
คราวนี้คงไม่มีใครไปติดใจเรื่องมารยาทของอวี๋เนี่ยนอีกแล้ว กลั่นแกล้งเธอขนาดนี้ ยังมาตระกูลเสิ่นได้อีกก็ไม่เลวแล้วเสิ่นเหวินเริ่มไม่เข้าใจแล้ว ตอนแรกพ่อแม่เขาชอบจือเฉียวน้องสาวคนเล็กมากที่สุด แล้วทำไมไม่ชอบอวี๋เนี่ยน?ต่อให้ไม่ชอบ ก็ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่?ทำให้เด็กคนหนึ่งลำบากขนาดนี้ ไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่เอาเสียเลย กวนอี๋เจินกลับรู้ดีในใจว่า น่าจะเป็นฝีมือของน้องสาวสามีอีกตามเคย ผู้หญิงคนนี้ชอบหาเรื่องอยู่แล้ว กับเธอที่เป็นพี่สะใภ้ใหญ่ก็ไม่เว้นตอนแรกเป็นเพราะความอิจฉา จึงทำเรื่องไม่ดีกับน้องสาวแท้ ๆ ของเธออย่างเสิ่นจือเฉียวไปไม่น้อยกวนอี๋เจินเข้าตระกูลเสิ่นตั้งแต่แรก ๆ เรื่องที่หลายคนในตระกูลเสิ่นมองไม่ออก เธอล้วนรู้หมด เพียงแค่ไม่อยากยุ่งเรื่องคนอื่นเท่านั้นซ้ำอวี๋เนี่ยนยังเป็นลูกสาวคนเดียวของเสิ่นจือเฉียว เสิ่นจือเยี่ยนจึงกลัวว่าเธอจะกลับมาแย่งของที่เป็นของลูกสาวเธอตระกูลเสิ่นนั้น นอกจากบ้านรองที่มีลูกสาวหนึ่งคนแล้ว ก็มีหลานสาวสองคนที่เป็นลูกของเสิ่นจือเยี่ยน ผู้อาวุโสทั้งสองก็ปฏิบัติต่อสองพี่น้องคู่นี้อย่างดีมาตลอดตอนนี้มีอวี๋เนี่ยนเพิ่มมาอีกคน พวกเธอจะไม่ร้อนรนไ
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 7
อวี๋เนี่ยนสีหน้าเย็นชาลง ก่อนจะพูด“หนูแซ่อวี๋ ทำให้ตระกูลเสิ่นขายหน้าไม่ได้หรอกค่ะ”เมื่อได้ยินคำพูดของอวี๋เนี่ยน คุณตาก็ยิ่งโกรธจัด ส่วนคุณยายก็เริ่มแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาเช่นกัน“อวี๋เนี่ยน ถึงเธอจะโตอยู่ข้างนอกมาหลายปี แต่สิ่งที่เรียนรู้มานี่คืออะไรกัน? แม้แต่มารยาทพื้นฐานก็ยังไม่รู้เหรอ?”ลุงใหญ่พูดตักเตือน“เนี่ยนเนี่ยน นี่คือคุณตาของเธอนะ”ส่งสัญญาณให้อวี๋เนี่ยนยอมอ่อนข้อ อย่าทำให้คุณตาโกรธไปมากกว่านี้เสิ่นจือเยี่ยนคอยยุยงอย่างเต็มที่อยู่ข้าง ๆ“พ่อกับแม่อย่าโกรธเลยนะคะ เด็กคนนี้แข็งข้อไปหน่อย คงได้พ่อเธอมาเต็ม ๆ วันข้างหน้ายังต้องค่อย ๆ สั่งสอนกันต่อไป สักวันคงปรับนิสัยได้เองค่ะ”คุณตาเสิ่นสงบลงแล้ว แต่ยังจ้องมองอวี๋เนี่ยนด้วยสายตาคมกริบ“จากนี้ไปเธอจะต้องอยู่ที่นี่ ฉันจะหาครูมาให้เธอเรียนเอง เรียนรู้จนดีแล้วเมื่อไหร่ค่อยออกไปได้”คำพูดนี้ชัดเจนว่าจะสั่งกักบริเวณอวี๋เนี่ยนไว้ในบ้านเดิมตระกูลเสิ่นอวี๋เนี่ยนฟังคำพูดคิดเองเออเองของคนเหล่านี้แล้วก็ลุกขึ้นยืนอย่างรู้สึกขำเล็กน้อย“ดูเหมือนว่ามื้อนี้จะกินด้วยกันต่อไม่ได้แล้ว ฉันได้เป็นตัวแทนของแม่มาเยี่ยมผู้อาวุโสทั้งส
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 8
ตอนที่อวี๋เนี่ยนยังอยู่ที่มหาวิทยาลัยจิง ก็ได้รับโทรศัพท์จากเฉินชิง เฉินชิงเมื่อได้ยินว่าเธออยู่ที่มหาวิทยาลัยจิง ก็บอกว่าอยู่แถวนี้และจะมารับเธอในร้านกาแฟแห่งหนึ่งใกล้มหาวิทยาลัยจิง อวี๋เนี่ยนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่ตระกูลเสิ่นให้เฉินชิงฟังแบบสั้น ๆแม้จะพูดเพียงไม่กี่ประโยค เฉินชิงฟังแล้วรู้สึกเลือดร้อนพลุ่งพล่าน พูดตรง ๆ ว่าทำได้ดีทั้งสองคนถือว่าพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน อวี๋เนี่ยนที่ปกติเป็นคนไม่ค่อยพูด กลับสามารถพูดได้มากขึ้นเวลาคุยกับเฉินชิงเฉินชิงชอบอวี๋เนี่ยนมาก เธอมีลูกชายเพียงคนเดียว ไม่มีลูกสาว ถึงกับอยากจะอุ้มอวี๋เนี่ยนกลับไปเลี้ยงที่บ้านเลยทีเดียวบ้านสามีของเฉินชิงแซ่ฮั่ว ทำงานด้านการเมืองผู้อาวุโสตระกูลฮั่วเป็นหนึ่งในบุคคลระดับสูงของวงการการเมือง ตำแหน่งสูงและมีอำนาจมากลูกชายคนโตของตระกูลฮั่วก็ทำงานอยู่ในระบบราชการของรัฐ ตอนนี้นับเป็นข้าราชการระดับสูงของเมืองอื่น สักวันก็จะได้กลับไปที่เมืองหลวง มีอนาคตไกลตระกูลฮั่วรู้ดีว่าคนโดดเด่นย่อมตกเป็นเป้าสายตา เมื่อลูกชายคนโตเข้าสู่วงการนี้แล้ว ลูกชายคนรองก็ต้องเลือกเดินเส้นทางอื่นแทนโชคดีที่ลูกชายคนรองของตระกูลฮั่วมี
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 9
“ฮ่า ๆ ๆ”เสียงหัวเราะดังขึ้นช่วงหนึ่งตามมาด้วยคนสองคนที่เข้ามา คือฮั่วเยี่ยนซึ่งถูกเฉินชิงสั่งให้กลับมา รวมถึงเพื่อนเลวคนหนึ่งซึ่งยืนกรานจะตามมาดูเรื่องสนุกคนที่ส่งเสียงหัวเราะก็คือคนคนนี้ เมื่อได้ยินทฤษฎีขายตั๋วของอวี๋เนี่ยน ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอวี๋เนี่ยนจำฮั่วเยี่ยนได้ในทันที เธอเคยเห็นรูปถ่ายของฮั่วเยี่ยน แต่ก็ยังรู้สึกตกใจไม่เท่าเห็นตัวจริงร่างสูงประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร ตัวตรงตระหง่าน ใบหน้านี้ดูดีมากจริง ๆ อวี๋เนี่ยนมองใบหน้าของฮั่วเยี่ยนอย่างไม่ปิดบัง เป็นการชื่นชมสิ่งที่งดงามอย่างบริสุทธิ์ใจอย่างหนึ่งใช่ละมั้ง คนคนนี้ยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่พูดอะไรให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ห่างไกลจริง ๆไม่รู้สึกถึงอารมณ์จากตัวเขาแม้แต่น้อย มิน่าล่ะป้าเฉินถึงได้บอกว่าเขาเหลือแค่ไปออกบวชอีกคนหนึ่งคือเซ่ามู่ไป๋ คุณชายเล็กของตระกูลเซ่า อยู่ในกลุ่มคนชั้นแนวหน้าของแวดวงธุรกิจในเมืองหลวงเฉินชิงดึงอวี๋เนี่ยนอย่างตื่นเต้น“เนี่ยนเนี่ยน ป้าขอแนะนำให้หนูรู้จักสักหน่อยนะ นี่คือฮั่วเยี่ยนลูกชายป้า หนูเรียกเขาว่าพี่ก็ได้”เซ่ามู่ไป๋มีนิสัยร่าเริง ตัวเองตรงเข้ามากอดแขนเฉินชิงนั่งลง“ไม่
อ่านเพิ่มเติม
บทที่ 10
หลังจากอวี๋เนี่ยนเดินไป เซ่ามู่ไป๋ก็พูดเหน็บแนม“โธ่คุณชายสามฮั่วของพวกเราปรารถนาทางโลกซะแล้ว ทำไมถึงไม่ตามไปถือกระเป๋าให้น้องอวี๋ล่ะ?”ฮั่วเยี่ยนเหลือบมองเขา เจ้าปัญญาอ่อนนี่ สาวน้อยไม่ได้เอาอะไรมาเลย แน่นอนว่ามีของบางอย่างที่เขาไม่สะดวกไปซื้อกับเธอเขาสนใจอวี๋เนี่ยนจริง ๆ ตอนที่เห็นเธอเข้ามาในห้อง ก็ราวกับคนที่มองโลกด้วยสายตาเย็นชาค้นพบแสงสว่างที่ดึงดูดเขาเจอชั่วขณะนั้นที่จับมือเธอดึงให้ลุกขึ้น เป็นครั้งแรกในชีวิตที่รู้สึกถึงความปรารถนาในฉับพลันปัญหาคือเห็นได้ชัดว่าเด็กสาวไม่ได้มีความคิดเกี่ยวกับด้านนี้เลย ถ้าเขาไล่ตามมากเกินไป เกรงว่าจะทำให้รู้สึกไม่พอใจได้“ต่อไปห้ามเรียกเธอว่าน้องสาว”เซ่ามู่ไป๋ตาเบิกกว้างอ้าปากค้าง“พี่ชาย นายยังจีบเธอไม่ติดเลย ไม่สิ ยังไม่ทันได้ตามจีบด้วยซ้ำ ตอนนี้นายแค่รักเธอข้างเดียวนะ”จิ๊ ๆ ๆ พี่ฮั่วกลายเป็นโรคจิตไปแล้ว นี่เป็นการเริ่มแสดงอำนาจอธิปไตยหรือเปล่า? พอคนทึ่มทื่อในรักเริ่มหวั่นไหวก็คลั่งเลยทั้งยังกล่าวเสริมประโยคหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ“เธอพักอยู่กับนาย ไม่ได้จะขายให้นายเสียหน่อย”ฮั่วเยี่ยนไม่สนใจเขา เดินไปดูห้องที่ให้อวี๋เนี่ยนด้วยตัวเ
อ่านเพิ่มเติม
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status