แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: จือจือแสนขยัน
ตอนที่อวี๋เนี่ยนยังอยู่ที่มหาวิทยาลัยจิง ก็ได้รับโทรศัพท์จากเฉินชิง เฉินชิงเมื่อได้ยินว่าเธออยู่ที่มหาวิทยาลัยจิง ก็บอกว่าอยู่แถวนี้และจะมารับเธอ

ในร้านกาแฟแห่งหนึ่งใกล้มหาวิทยาลัยจิง อวี๋เนี่ยนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่ตระกูลเสิ่นให้เฉินชิงฟังแบบสั้น ๆ

แม้จะพูดเพียงไม่กี่ประโยค เฉินชิงฟังแล้วรู้สึกเลือดร้อนพลุ่งพล่าน พูดตรง ๆ ว่าทำได้ดี

ทั้งสองคนถือว่าพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน อวี๋เนี่ยนที่ปกติเป็นคนไม่ค่อยพูด กลับสามารถพูดได้มากขึ้นเวลาคุยกับเฉินชิง

เฉินชิงชอบอวี๋เนี่ยนมาก เธอมีลูกชายเพียงคนเดียว ไม่มีลูกสาว ถึงกับอยากจะอุ้มอวี๋เนี่ยนกลับไปเลี้ยงที่บ้านเลยทีเดียว

บ้านสามีของเฉินชิงแซ่ฮั่ว ทำงานด้านการเมือง

ผู้อาวุโสตระกูลฮั่วเป็นหนึ่งในบุคคลระดับสูงของวงการการเมือง ตำแหน่งสูงและมีอำนาจมาก

ลูกชายคนโตของตระกูลฮั่วก็ทำงานอยู่ในระบบราชการของรัฐ ตอนนี้นับเป็นข้าราชการระดับสูงของเมืองอื่น สักวันก็จะได้กลับไปที่เมืองหลวง มีอนาคตไกล

ตระกูลฮั่วรู้ดีว่าคนโดดเด่นย่อมตกเป็นเป้าสายตา เมื่อลูกชายคนโตเข้าสู่วงการนี้แล้ว ลูกชายคนรองก็ต้องเลือกเดินเส้นทางอื่นแทน

โชคดีที่ลูกชายคนรองของตระกูลฮั่วมีความสามารถพอสมควร เข้าสู่วงการธุรกิจ อาศัยความสัมพันธ์ของตระกูลฮั่วสร้างอณาจักรของตัวเองอย่างรวดเร็ว

ในงานเลี้ยงงานหนึ่ง เขาได้รู้จักกับเฉินชิง คุณหนูใหญ่ตระกูลเฉิน ทั้งสองตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบ และแต่งงานกันมาเกือบสามสิบปีแล้ว แต่ความรักยังคงเหมือนวันแรกเสมอมา

เมื่อเฉินชิงรู้ว่าอวี๋เนี่ยนไม่คิดจะอยู่ที่หอพักของมหาวิทยาลัย เธอก็มีแผน ตอนนี้ที่พักของลูกชายเธออยู่ใกล้มหาวิทยาลัยจิงมาก ถึงเวลาก็ให้เนี่ยนเนี่ยนไปอยู่ด้วย จะได้ช่วยเหลือดูแลกัน

เด็กสาวคนหนึ่งอยู่ข้างนอกคนเดียวไม่ปลอดภัย ญาติของเธอเหล่านั้นมีก็เหมือนไม่มี ไม่สิ ไม่มีเลยยังจะดีเสียกว่า มีแต่จะทำให้เรื่องยุ่งยากขึ้นไปอีก

อวี๋เนี่ยนปฏิเสธอย่างนึกตลก ให้เฉินชิงวางใจได้ว่าเธอมีที่อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น การที่เธอจะไปอยู่กับลูกชายของป้าเฉิน มันจะไม่เหมาะสมมากกว่าเดิมหรือเปล่า

เฉินชิงกลอกตา ลูกชายของเธอยิ่งโตยิ่งแปลก ตอนนี้แทบจะไปออกบวชแล้ว

“ออกบวช?”

คำพูดของเฉินชิงหลุดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ อวี๋เนี่ยนถามด้วยความแปลกใจ ลูกชายของป้าเฉินเป็นคนที่ชอบศึกษาพุทธศาสนาเหรอ?

เฉินชิงรู้สึกอายเล็กน้อย บอกว่าพูดออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

“เปล่าหรอก หนูเจอเขาก็จะรู้เอง แล้วก็สถานที่ที่เขาอยู่ หนูต้องชอบแน่ ๆ”

เฉินชิงพูดด้วยท่าทีลึกลับ เธอเกลี้ยกล่อมลูกชายอย่างยากลำบากกว่ายอมให้อวี๋เนี่ยนไปอยู่ด้วย จะไม่ยอมพลาดโอกาสนี้เด็ดขาด หลอกอวี๋เนี่ยนไปก่อนค่อยว่ากันทีหลังแล้วกัน

เธอเป็นห่วงอวี๋เนี่ยนใจแทบขาด คนตระกูลเสิ่นพวกนั้นไม่ใช่คนที่จะอยู่ร่วมกันได้

อยู่กับลูกชายของเธอ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีใครกล้ามาก่อเรื่องไม่ดี ช่วยให้อวี๋เนี่ยนหลีกเลี่ยงปัญหาได้เยอะ

ได้ยินป้าเฉินพูดแบบนี้ อวี๋เนี่ยนก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาบ้างแล้ว

สุดท้ายก็ตอบตกลงเฉินชิงว่าจะไปดู อยู่ไม่อยู่ค่อยว่ากัน

ลูกชายของเฉินชิงชื่อฮั่วเยี่ยน ฮั่วเยี่ยนอยู่ลำดับที่สามของตระกูลฮั่ว บ้านลุงใหญ่ยังมีลูกชายอีกสองคน

ฮั่วเยี่ยนเป็นคนค่อนข้างลึกลับ น้อยครั้งที่จะปรากฏตัวต่อหน้าผู้คน หลายคนไม่รู้ว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร กระทั่งไม่รู้ชื่อจริงของเขา แต่ถ้าพูดถึงคุณชายสามฮั่ว ทั้งวงการไม่มีใครไม่รู้จักเขา

ฮั่วเยี่ยนสอบเข้าสแตนฟอร์ดตอนอายุสิบหกปี ใช้เวลาสามปีก็จบปริญญาโทด้านการเงิน จากนั้นก็ประสบความสำเร็จอย่างมากที่วอลล์สตรีท เล่นหุ้นและลงทุนกับความเสี่ยงแทบจะเคยล้มเหลวเลย

ภูมิหลังและสถานะของตระกูลฮั่วทำให้เขาไม่สามารถอยู่ต่างประเทศได้นาน ตอนอายุยี่สิบสองปีก็กลับประเทศเพื่อรับช่วงบริหารฮั่วซื่อใช้เวลาแค่ไม่กี่ปีมูลค่าตลาดของฮั่วซื่อก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

ฮั่วเยี่ยนดูเหมือนจะทำทุกอย่างได้อย่างคล่องแคล่ว สบาย ๆ ประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย ทำให้คนอื่นแม้จะทุ่มเทตลอดชีวิตก็ยังยากที่จะเทียบได้

แต่มีคำกล่าวที่ว่าฉลาดมากมักเจ็บปวด ตอนนี้เขาดูเหมือนไม่มีความสนใจในอะไรอีกแล้ว รวมถึงเรื่องผู้หญิง

ตามคำพูดของเฉินชิง ท่าทางที่วัน ๆ เหมือนจะเป็นจะตายนั้น ถ้าวันไหนลูกชายหนีไปบวช เธอก็จะไม่แปลกใจเลย

ไม่ใช่ว่าฮั่วเยี่ยนเคร่งศาสนาพุทธอะไร แต่อาจจะเกิดความสนใจในเรื่องนี้ขึ้นมากะทันหัน

รอให้เขาเลื่อนขั้นจนเป็นเจ้าอาวาสแล้วก็สึกออกมา เธอก็ไม่สงสัยเลยสักนิดว่าฮั่วเยี่ยนจะสามารถทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้

คนนอกล้วนพูดกันว่าคุณชายสามฮั่วเป็นคนสง่างามและอ่อนโยนดั่งแสงจันทร์กลางฟ้า แต่มีแค่คนใกล้ชิดที่สนิทจริง ๆ ไม่กี่คนเท่านั้น ที่จะรู้ด้านมืดและนิสัยชั่วร้ายของเขา

เฉินชิงก็ไม่ได้คาดหวังให้ฮั่วเยี่ยนมาดูแลอวี๋เนี่ยนหรอก ที่ที่ฮั่วเยี่ยนอยู่นั้นใหญ่โตมาก ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่อยากเจอ ก็อาจจะไม่ได้เจอกันทั้งปีเลยก็ได้

แค่ยืมชื่อเสียงของเขามาปกป้องอวี๋เนี่ยนเท่านั้นเอง

อวี๋เนี่ยนตามเฉินชิงขึ้นรถ ขับไปประมาณสิบกว่านาที ก็จอดที่หน้าถนนซึ่งเรียงรายไปด้วยต้นไม้

ทางเข้ามีซุ้มยามและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บ่งบอกว่าตั้งแต่ตรงนี้เป็นต้นไป จะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลแล้ว

เมื่อเห็นรถของเฉินชิง ก็เปิดประตูให้ผ่านไปเลย

รถวิ่งตามถนนที่มีต้นไม้เรียงรายไปหลายร้อยเมตร ก่อนจะเห็นบ้านสไตล์โบราณปรากฏขึ้นตรงหน้า ใช่แล้ว ไม่ใช่แค่หลังเดียว แต่เป็นกลุ่มสถาปัตยกรรมเล็ก ๆ

ศาลาและอาคารสลับวางกันอย่างลงตัว ผนังสีขาว กระเบื้องสีเข้ม ค่อนข้างมีเสน่ห์มากแบบบทกวี

หน้าประตูใหญ่ด้านบนมีป้ายไม้สลักตัวอักษรสองตัวอย่างวิจิตร

‘เยี่ยนหยวน’

ดูแล้วดูสง่ามาก อวี๋เนี่ยนมองด้วยความตกตะลึง

อยากจะจินตนาการได้ว่า ในย่านนี้จะมีที่พักส่วนตัวขนาดใหญ่นี้อยู่ด้วย

รถขับเข้าไปในลานบ้านใหญ่ตรงกลาง ทั้งสองลงจากรถ อวี๋เนี่ยนมองเสาและคานที่แกะสลักลวดลายอย่างประณีตตรงหน้า บ้านหลังนี้ใช้งานฝีมือที่ละเอียดและพิถีพิถันอย่างยิ่ง จนอดชื่นชมไม่ได้เลยว่าสวยงามและมีเสน่ห์ลึกซึ้ง

ชายวัยกลางคนคนหนึ่งยืนรออยู่ในลานบ้าน เขามองสำรวจอวี๋เนี่ยนอย่างแนบเนียน แล้วค้อมตัวให้เฉินชิงเล็กน้อย

“สวัสดีครับคุณนาย”

เฉินชิงแนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกัน

“เหล่าเฮ่อ นี่คืออวี๋เนี่ยน เหล่าเฮ่อเป็นพ่อบ้านของที่นี่ เป็นคนดูแลฮั่วเยี่ยนตั้งแต่เด็ก ต่อมาฮั่วเยี่ยนออกมาอยู่ข้างนอก เหล่าเฮ่อก็เลยตามมาด้วย หนูเรียกเขาว่าลุงเฮ่อก็พอ”

ลุงเฮ่อต้อนรับทั้งสองเข้าไปนั่งด้านในอย่างกระตือรือร้น ก่อนจะให้คนยกน้ำชาและของว่างมาเสิร์ฟ

“คุณชายสามยังไม่กลับมา ทั้งสองท่านเชิญนั่งก่อนครับ”

เฉินชิงภูมิใจนำเสนอให้อวี๋เนี่ยนฟัง คนที่มาเป็นครั้งแรกมักจะรู้สึกตกตะลึงกันหมด

แน่นอนว่าคนที่มาไม่ค่อยเยอะ นอกจากสมาชิกในครอบครัวอย่างพวกเขาแล้ว ก็มีแค่เพื่อนไม่กี่คนของฮั่วเยี่ยนเท่านั้น

“ที่นี่ไม่เลวเลยใช่ไหม? ฮั่วเยี่ยนออกแบบสร้างเองเลยนะ”

อวี๋เนี่ยนได้ยินแล้วก็ตกใจจริง ๆ คนที่ชื่อเสียงติดอันดับของเมืองหลวง หน่วยงานความปลอดภัยทางไซเบอร์มีข้อมูลของทุกคน ตอนนั้นเธอแค่ดูแบบคร่าว ๆ ไม่ได้ศึกษาอย่างละเอียด

ไม่นึกเลยว่าคุณชายสามฮั่วจะมีรสนิยมที่ดีแบบนี้

หลังเข้าไปในบ้าน อวี๋เนี่ยนจึงสังเกตได้ว่า แม้ภายนอกจะเป็นสไตล์โบราณ แต่ภายในกลับมีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัยครบครัน ให้ความรู้สึกแปลกแต่กลมกลืนอย่างน่าประหลาดใจ

ชีวิตของคนทุนหนานี่ดีจริง ๆ เลย บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ ค่าบำรุงรักษาต่อปีคงแพงมหาศาลแน่ ๆ

ยังมีคนรับใช้ในบ้าน รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เห็นได้ทุกที่อีก ฮั่วเยี่ยนคนเดียวคงเลี้ยงดูทั้งบริษัทรักษาความปลอดภัยได้เลยมั้ง

อวี๋เนี่ยนนั่งลงบนโซฟา พลางคิดในใจอย่างเงียบ ๆ ว่า บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ เขาอยู่คนเดียว น่าเสียดายจริง ๆ

“เนี่ยนเนี่ยนชอบที่นี่ไหม?”

เมื่อได้ยินคำถามของเฉินชิง อวี๋เนี่ยนก็คืนสติ ก่อนจะพยักหน้า

“ชอบค่ะ ถ้ามีขายตั๋วนี่หนูซื้อแน่นอนเลย”

อวี๋เนี่ยนพูดอย่างซุกซนคำหนึ่งอย่างหาได้ยาก
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 40

    “ฮาย เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ คิดถึงฉันไหม?”ฮั่วเยี่ยนคร้านจะใส่ใจกับพฤติกรรมบ้า ๆ บอ ๆ ของเซ่ามู่ไป๋“เนี่ยนเนี่ยน มานั่งเถอะ”อวี๋เนี่ยนเดินไป นั่งลงอย่างเซื่องซึม“ไหนบอกว่ายังต้องใช้เวลาอีกสองสามวันไง?”“แหม ก็มีบางคนที่อยากกลับมาใจจะขาดน่ะสิ”เซ่ามู่ไป๋พูดจาทะเล้น หาวไปพลางเดินไปที่ห้อง“ไม่ได้นอนมาหนึ่งคืน ฉันไปนอนสักตื่นก่อนนะ พวกนายก็คุยกันไปแล้วกัน”ฮั่วเยี่ยนมองอวี๋เนี่ยนไม่ละสายตาโดยไม่พูดอะไร ตั้งแต่ที่รู้ว่าอวี๋เนี่ยนอยู่ที่ประเทศอาร์กับเหวินเหรินหลิ่น ในที่สุดหัวใจที่ว้าวุ่นไม่ยอมสงบลงแม้แต่น้อยก็สงบลงได้เสียทีไม่ได้หึงหวงที่เธออยู่กับเหวินเหรินหลิ่น แต่เป็นห่วงความปลอดภัยของเธอต่างหาก เพราะถึงอย่างไรแล้วหากไม่อันตรายก็คงไม่ต้องไปรบกวนเหวินเหรินหลิ่นหลายวันมานี้อวี๋เนี่ยนอยู่ที่เยี่ยนหยวนตลอด ปกติก็ไม่ได้ออกไปไหนหลังจากรู้ว่าเธอเดินทางไปต่างประเทศ นอกจากความเป็นห่วงแล้ว ก็ยังมีความรู้สึกหวาดกลัวสุดขีดตามมา มันเป็นความหวาดกลัวที่จะสูญเสียได้ตลอดเวลาแม้ว่าในใจจะเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายร้อยแปดพันเก้า ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าแล้วก็ยังคงความอบอุ่นไว้ได้ เขายื่นกล่องใบหน

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 39

    ตู้ลี่เจินยังสารภาพเรื่องสำคัญมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่งออกมา เธอว่าเคยได้ยินอีกฝ่ายพูดถึงตระกูลไป๋ถ้าเกิดเป็นตระกูลไป๋ขึ้นมาจริง อย่างนั้นก็เป็นเรื่องยุ่งยากใหญ่โตอีกเรื่องเลยทีเดียวกับคนของกองทัพอย่างพวกเขาเหล่านี้อาจไม่เกี่ยวข้องอะไรมาก หลัก ๆ นั้นเป็นการพัวพันกันของแวดวงการเมืองกับแวดวงธุรกิจในเมืองหลวงต่างหากกับตระกูลไป๋นี้จะว่าอย่างไรดี พวกเขาไม่มีความสามารถอะไรมากตระกูลไป๋ทุ่มเทกำลังไปกับการให้กำเนิดลูกสาว ทำให้มีสมาชิกตระกูลมาก นับเป็นตระกูลใหญ่เลยทีเดียวตระกูลใหญ่ทั้งตระกูลล้วนพึ่งพาความสัมพันธ์ของเหล่าผู้หญิง วิธีการเลี้ยงดูบุตรสาวของตระกูลไป๋นั้นล้วนพยายามเลี้ยงดูให้กลายเป็นคุณหญิงคุณนายของตระกูลเก่าแก่เด็กสาวที่เลี้ยงดูออกมาล้วนเพียบพร้อมไปด้วยความอ่อนหวานและคุณธรรม เก่งกาจการเข้าสังคม เชี่ยวชาญการเรือนเป็นมาตรฐานในการเลือกเฟ้นลูกสะใภ้ของหลาย ๆ บ้านความจริงเป็นข้อพิสูจน์เรื่องนี้ พวกเขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง อาศัยการแต่งงานของบุตรสาวสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ขนาดใหญ่ หยั่งรากฝังลึกอย่างมั่นคงในเมืองหลวงที่อำนาจต่าง ๆ สลับซับซ้อนตระกูลไป๋ซับซ้อนเกินไป ไม่อา

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 38

    อวี๋เนี่ยนมองวิดีโอกล้องวงจรปิดจากห้องสอบสวนด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก รอผลการสอบสวนอยู่กับพวกผู้อาวุโสหลาย ๆ ท่านจะเล่นโทรศัพท์ก็ไม่ได้ เนื่องด้วยในห้องนี้มีการปิดกั้นสัญญาณ ป้องกันไม่ให้มีคนแอบส่งข่าวออกไปผลการสอบสวนออกมาแล้ว ตระกูลเจิ้งบริสุทธิ์ อวี๋เนี่ยนไม่แปลกใจกับผลลัพธ์นี้ ตอนที่เธอเค้นถามคนพวกนั้นที่ประเทศอาร์ก็รู้แล้วว่าคนที่พวกเขาติดต่อด้วยคือตระกูลตู้เจิ้งเฉิงกังผู้นี้เป็นคนกระทำการระมัดระวังรอบคอบ เขาตอบรับบุญคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ ทว่ามากกว่านั้นเขาไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวในสถานการณ์แบบนี้ ตระกูลเจิ้งนั้นอยากรักษาการใช้ชีวิตแบบกินหรูอยู่สบาย ซึ่งตระกูลตู้ก็เป็นแหล่งรายได้หลักเนื่องจากเจิ้งเฉิงกังมีนิสัยระมัดระวังรอบคอบ ตระกูลตู้จึงไม่ได้อาศัยบารมีอะไรของตระกูลเจิ้ง มีแต่ลงทุนเข้าไปถึงจะเป็นเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่กล้าล่วงเกินตระกูลเจิ้ง ท้ายที่สุดแล้วแม้ว่าจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่อยากเล่นงานพวกเขาก็ทำได้ง่ายดาย มีคนทำธุรกิจคนไหนบ้างที่ไม่มีจุดอ่อนคนประเทศอีก็จับจุดนี้ได้จึงเข้าหาตระกูลตู้ แสดงท่าทีว่าต้องการแค่ตู้ลี่เจินนำของบางอย่างจากเจิ้งเฉิงกังมาให้พวกเขาเท่านั้น แล้ว

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 37

    รถเคลื่อนตัวมาถึงลานจอดเครื่องบิน โยนตู้ลี่เจินที่สลบไสลขึ้นไปบนห้องด้านหลังไม่มีความตั้งใจจะสอบสวนหล่อนแม้แต่น้อย เธอไม่อยากเข้าไปพัวพันลึกเกินไป จับคนกลับมาแล้วส่งตัวขึ้นไป ก็ถือว่าเธอทำหน้าที่สำเร็จแล้ว ก็ควรถอยออกมา อวี๋เนี่ยนมองเหวินเหรินหลิ่นที่มาปรากฏตัวอีกครั้งบนเครื่องบิน“ไม่ต้องจัดการเรื่องในตระกูลของพวกคุณหรือไง?”“ไม่ส่งคุณกลับประเทศอย่างปลอดภัย กลัวว่าฮั่วเยี่ยนต้องเอาผมตายแน่”“ฐานที่มั่นนั่นของคุณเปิดเผยได้นะ”อวี๋เนี่ยนลูบคาง เรื่องนี้น่าจะไม่เป็นปัญหาใหญ่โต ถึงอย่างไรก็ให้เหวินเหรินหลิ่นช่วยเหลือมากมายขนาดนี้โดยไม่ได้อะไรกลับไปเลยไม่ได้เหวินเหรินหลิ่นเดาได้ว่าอวี๋เนี่ยนเป็นคนของทางรัฐบาล แม้ว่าตัวตนจริงจะไม่ชัดเจนก็ตามทว่าสามารถออกมาทำเรื่องแบบนี้เพียงลำพังได้ แถมวิธีการก็ยัง...เอ่อ ไม่ค่อยนุ่มนวลสักเท่าไร ตำแหน่งคงสูงไม่เบา“นี่เป็นของตอบแทนจากคุณงั้นเหรอ?”ของตอบแทนที่ทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้ เดิมทีแค่อยากตอบแทนน้ำใจของอวี๋เนี่ยนคืนไปก็เท่านั้น นี่นับว่าเป็นประโยชน์นอกเหนือความคาดหมายเลยเชียว“ไม่พอใจเหรอ?”“ไม่ใช่ แค่คิดถึงครั้งก่อนที่คุณอวี๋ช่วยผมน่ะ

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 36

    กลับขึ้นรถ รับทิชชูเปียกที่เหวินเหรินหลิ่นยื่นให้ แล้วเช็ดไปตามนิ้วมือด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย“เสื้อผ้าเลอะหมดเลย”แม้จะกำลังบ่นว่า ทว่าฟังแล้วดูเหมือนว่าอวี๋เนี่ยนจะอารมณ์ดีไม่เลวเหวินเหรินหลิ่นยิ่งยิ้มกว้าง ที่แท้ก็เป็นคนแปลก ๆ นิด ๆ นี่เอง“ผมจะให้คนนำเสื้อผ้ามาให้คุณ”“คุณอวี๋คิดจะจัดการพวกเขาอย่างไร?”“แน่นอนว่าต้องทำลายศพไม่ให้เหลือร่องรอย เรื่องนี้คุณถนัดกว่าฉันนี่”อวี๋เนี่ยนพูดอย่างไม่ใส่ใจกวาดสายตามองตู้ลี่เจินที่นั่งตัวสั่นเป็นใบไม้ไหวอยู่ที่พื้นด้วยสายตาราบเรียบ กล้าทำเรื่องพรรค์นี้ออกมา แต่ตอนนี้กลับรู้จักกลัว ผลของการเชือดไก่ให้ลิงดูนั้นเหมือนว่าจะได้ผลไม่เลวเหวินเหรินหลิ่นได้ยินก็ไม่ได้ตกใจ นับตั้งแต่อวี๋เนี่ยนลงจากรถไป เขาก็รู้แล้วว่าเจ้าพวกสามคนนั้นไม่รอดแน่ตู้ลี่เจินถูกอวี๋เนี่ยนในยามนี้ทำให้หวาดกลัวจนขนลุกขนชันไปทั้งกาย หวาดกลัวกว่าตอนที่เห็นการทรมานคนของอวี๋เนี่ยนเมื่อครู่นี้เสียอีกอดรู้สึกหนาวเย็นจับใจไม่ได้ พวกเขาพูดเรื่องทำลายศพเผาหลักฐานต่อหน้าตัวเองแบบนี้ เกรงว่าแม้แต่ตัวเธอเองก็ต้องถูกฆ่าปิดปากตามไปด้วยตอนนี้เห็นสายตาของอวี๋เนี่ยนที่กวาดสายตา

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 35

    อวี๋เนี่ยนเดินลากท่อนเหล็กไปอยู่ตรงหน้าสามคนนั้น ลูกน้อยของเหวินเหรินหลิ่นจึงถอยหลังลงไปสองสามก้าวหลีกทางให้เธออวี๋เนี่ยนพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ“บอกสิ่งที่พวกคุณรู้มาให้หมด”ผู้หญิงคนนั้นมีสีหน้าหยิ่งผยอง ไม่มีความคิดที่จะตอบโดยสิ้นเชิง อีกสองคนที่เหลือก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมาเช่นกันอวี๋เนี่ยนแย้มยิ้มโหดเหี้ยมออกมาเล็กน้อย ไม่ให้ความร่วมมือสินะ? อย่างนั้นก็ดีเลยลากผู้ชายคนนั้นออกมา แล้วฟาดท่อนเหล็กไปที่แขน ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวน ไม่กี่คนที่อยู่ข้าง ๆ ล้วนได้ยินเสียกระดูกหักได้อย่างชัดเจนผู้หญิงที่เดิมที่มีแต่ความโอหังฉายอยู่เต็มหน้าพลันใบหน้าเปลี่ยนสีทันที คนขับรถที่อยู่ข้างกันก็ยิ่งตกใจแข้งขาอ่อนจนทรุดตัวนั่งลงบนพื้นผู้หญิงคนนั้นร้องตะโกน“พวกเราเป็นทหารประเทศอี คุณไม่มีสิทธิ์ทรมานพวกเรา ฉันต้องการคุยกับรัฐบาลของพวกคุณ”ไม่สนใจว่าผู้หญิงคนนั้นจะร้องตะโกนไม่หยุด เธอลงมือฟาดท่อนเหล็กต่อไป คราวนี้ฟาดลงไปบนหัวเข่า เสียงกระดูกแตกดังยิ่งกว่าเก่า ผู้ชายคนนั้นร้องโหยหวนพลางล้มลงไปตะโกนลั่นว่า “ฉันบอกแล้ว บอกแล้ว”ไม่ต้องใส่หูฟังเสียงร้องโหยหวนก็ดังเข้ามาถึงในรถ ตู้ลี่เจิน

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 34

    “พ้นจากตัวเมืองไปแล้วค่อยลงมือ”เขามีความมั่นใจมากว่าจะจัดการให้เสร็จสิ้นได้ หากขัดขวางพวกเขาที่นี่จะเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผย ไม่กลัวหนึ่งหมื่นแต่กลัวหนึ่งในหมื่นอวี๋เนี่ยนพยักหน้าเข้าใจ ไม่เกรงใจเขา ยกให้เขาจัดการไป เพราะเรื่องต่อจากนี้อย่างไรก็ยังต้องรบกวนเขาอีกไม่น้อยไม่นานนักรถของพวกเขาก็ไล่ตามตู้ลี่เจินทัน หลังจากขับตามมาสักพักจึงเพิ่มความเร็วแซงหน้ารถที่ตู้ลี่เจินนั่งอยู่หลังจากขับผ่านบริเวณที่ไฟถนนพังเสียหายไปจึงจอดรถ แล้วก็มีคนวางเครื่องกีดขวางขนาดเล็กไว้ด้านหน้าในทันทีไม่ช้านาน รถของตู้ลี่เจินก็แล่นมาถึง รถเหยียบบดลงบนเครื่องกีดขวางด้วยความเร็ว ล้อรถระเบิดจนเสียการทรงตัวลื่นไปชนเข้ากับต้นไม้ข้างทางอย่างรุนแรงควันขาวลองคลุ้งออกมาจากกระโปรงรถ เห็นได้ชัดว่าใช้การไม่ได้แล้ว ดูจากสภาพความเสียหายของรถแล้ว ตัวคนน่าจะไม่เป็นอะไร จริงตามคาด ผู้ชายคนหนึ่งลงมาจากห้องคนขับ หลังจากนั้นก็มีผู้ชายหนึ่งคนกับผู้หญิงหนึ่งคนลงมาดูสถานการณ์อวี๋เนี่ยนวางกล้องส่องทางไกลสำหรับกลางคืนในมือ นอกจากสามคนนี้ที่ลงมาจากรถแล้ว ในรถก็เหลือเพียงตู้ลี่เจินคนเดียวเท่านั้นเหวินเหรินหลิ่นส่งสัญญาณม

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 33

    หลังยืนยันข้อมูล อวี๋เนี่ยนก็หาเบอร์ติดต่อเหวินเหรินหลิ่นที่ฮั่วเยี่ยนให้เธอไว้เจอ แล้วจึงต่อสายโทรหาทันที“ฉันอวี๋เนี่ยนนะ”“คุณอวี๋?”ตอนที่เหวินเหรินหลิ่นรับสายของอวี๋เนี่ยนก็ประหลาดใจอยู่บ้าง โทรมาหาในเวลาแบบนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?“สะดวกคุยหรือเปล่าคะ? อยากรบกวนให้คุณช่วยสักหน่อย”“สะดวกครับ คุณอวี๋พูดมาได้เลย”เหวินเหรินหลิ่นเองก็ไม่นึกไม่ฝัน ว่าโอกาสตอบแทนน้ำใจจะมาถึงเร็วขนาดนี้“ช่วยจับตาดูคนคนหนึ่งที่สนามบินของเมืองหลวงประเทศอาร์ และหากเป็นไปได้จะขอยืมเครื่องบินส่วนตัวของคุณด้วย”อวี๋เนี่ยนไม่เกรงใจ พูดความต้องการของตนเองออกไปตรง ๆประเทศอาร์เป็นฐานที่มั่นของเหวินเหรินหลิ่น เรื่องนี้จึงไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าเข้าแล้ว“ไม่มีปัญหาครับ”เหวินเหรินหลิ่นตอบตกลงโดยไม่ลังเล“ฉันส่งข้อมูลไปให้คุณแล้ว เครื่องบินที่เธอนั่งจะลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติเมืองหลวงประเทศอาร์ในอีกสี่ชั่วโมงให้หลัง”เหวินเหรินหลิ่นรีบส่งข้อมูลไปให้คนของทางนั้น เพื่อจัดแจงคนไปคอยเฝ้ารอที่สนามบิน“ให้จับกุมเหรอครับ?”“สะกดรอยตามไว้ ฉันจะไปถึงในอีกสิบนาที ต้องวางสายแล้ว”อวี๋เนี่ยนดูที่อยู่ที่เหวินเ

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 32

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นดยุคอวี๋เนี่ยนผุดตัวลุกขึ้นนั่งทันที เกิดเรื่องแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะต้องติดต่อมาทางออนไลน์ ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์คับขันเป็นอย่างที่คิด อวี๋เนี่ยนเพิ่งรับสายโทรศัพท์ เสียงของดยุคก็ดังลอดออกมาจากทางนั้นแล้ว“หัวหน้า ตู้ลี่เจินออกนอกประเทศแล้ว เครื่องเพิ่งออกไป”“ส่งข้อมูลมาให้ฉัน”พูดจบ อวี๋เนี่ยนก็วางสายโทรศัพท์ แล้วต่อสายไปหาเว่ยกังให้เขารีบตรวจสอบทันที ไม่ใช่ว่าให้จับตาดูไว้หรอกเหรอ ทำไมปล่อยให้ออกนอกประเทศไปได้?ระหว่างที่รอสายของเว่ยกัง อวี๋เนี่ยนก็ดูเอกสารที่ดยุคส่งมาให้ไปพลาง ๆ ตู้ลี่เจินใช้ตัวตนปลอม ทำให้พวกเขาไม่ได้รับข่าวตั้งแต่แรกเครื่องบินทะยานขึ้นสู่น่านฟ้าไปสี่สิบนาทีแล้ว เป็นการบินไปยังเมืองหลวงของประเทศอาร์ ระยะเวลาในการบินราวห้าชั่วโมงครึ่งอวี๋เนี่ยนครุ่นคิด จะให้เครื่องบินวกกลับมานั้นเป็นการสร้างความวุ่นวายใหญ่โต ยากจะปิดบังได้อยู่ อีกทั้งเรื่องนี้ยังอยู่ในช่วงการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยิ่งไม่อาจทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้อวี๋เนี่ยนดวงตาเปล่งประกาย นึกถึงใครบางคนขึ้นมาได้ทว่าทั้งหมดนี้ล้วนต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนจากทางฝั่งเว่ยกัง

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status