แชร์

บทที่ 6

ผู้เขียน: จือจือแสนขยัน
คราวนี้คงไม่มีใครไปติดใจเรื่องมารยาทของอวี๋เนี่ยนอีกแล้ว กลั่นแกล้งเธอขนาดนี้ ยังมาตระกูลเสิ่นได้อีกก็ไม่เลวแล้ว

เสิ่นเหวินเริ่มไม่เข้าใจแล้ว ตอนแรกพ่อแม่เขาชอบจือเฉียวน้องสาวคนเล็กมากที่สุด แล้วทำไมไม่ชอบอวี๋เนี่ยน?

ต่อให้ไม่ชอบ ก็ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่?

ทำให้เด็กคนหนึ่งลำบากขนาดนี้ ไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่เอาเสียเลย

กวนอี๋เจินกลับรู้ดีในใจว่า น่าจะเป็นฝีมือของน้องสาวสามีอีกตามเคย ผู้หญิงคนนี้ชอบหาเรื่องอยู่แล้ว กับเธอที่เป็นพี่สะใภ้ใหญ่ก็ไม่เว้น

ตอนแรกเป็นเพราะความอิจฉา จึงทำเรื่องไม่ดีกับน้องสาวแท้ ๆ ของเธออย่างเสิ่นจือเฉียวไปไม่น้อย

กวนอี๋เจินเข้าตระกูลเสิ่นตั้งแต่แรก ๆ เรื่องที่หลายคนในตระกูลเสิ่นมองไม่ออก เธอล้วนรู้หมด เพียงแค่ไม่อยากยุ่งเรื่องคนอื่นเท่านั้น

ซ้ำอวี๋เนี่ยนยังเป็นลูกสาวคนเดียวของเสิ่นจือเฉียว เสิ่นจือเยี่ยนจึงกลัวว่าเธอจะกลับมาแย่งของที่เป็นของลูกสาวเธอ

ตระกูลเสิ่นนั้น นอกจากบ้านรองที่มีลูกสาวหนึ่งคนแล้ว ก็มีหลานสาวสองคนที่เป็นลูกของเสิ่นจือเยี่ยน ผู้อาวุโสทั้งสองก็ปฏิบัติต่อสองพี่น้องคู่นี้อย่างดีมาตลอด

ตอนนี้มีอวี๋เนี่ยนเพิ่มมาอีกคน พวกเธอจะไม่ร้อนรนได้ยังไง?

ดูจากตอนนี้แล้ว อวี๋เนี่ยนไม่เหมือนแม่ของเธอเลย เสิ่นจือเยี่ยนสู้เธอไม่ได้แน่

เธอสนุกกับการดูเรื่องวุ่นวาย

“คุณตา คุณยาย อวี๋เนี่ยนเสียมารยาทแล้วค่ะ”

อวี๋เนี่ยนพูดเสียงเรียบ ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นยังไง ก็เป็นญาติของแม่เธออยู่ดี แล้วก็แค่ครั้งนี้เท่านั้น

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา สามพี่น้องตระกูลเสิ่นก็มีแววตาที่ซับซ้อน ก่อนจะถอนหายใจออกมา

อวี๋เนี่ยนไม่ได้ทำผิด คนที่เสียมารยาทไม่ใช่เธอ

แต่พวกเขาก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะยังไงเรื่องไม่เข้าท่านี้ ก็เป็นฝีมือของคุณตา คุณยาย และป้าของพวกเขาเอง

เสิ่นเหวินรู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง อวี๋เนี่ยนเป็นเด็กดี ยังรู้จักคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวมด้วย

ตู้อวิ๋นกลับโกรธจนหน้าแดง พอตำหนิพวกเขาเสร็จ ตอนนี้ก็ออกมาเสแสร้งแสดงบทคนดี คนไม่ดีก็ล้วนกลายเป็นพวกเธอแล้ว

“น้องเนี่ยนเนี่ยน ไม่ใช่ว่าพวกเราลืมส่งคนไปรับเธอเหรอ จำเป็นต้องทำให้ทุกคนไม่สบายใจกันด้วยหรือไง?”

ตู้อินไม่พอใจอย่างมาก แบบนี้เรียกว่าอวี๋เนี่ยนทำตัวเอาแต่ได้ได้ไหม?

อวี๋เนี่ยนไม่ได้สนใจเธอ คนโง่แบบนี้สามารถทำให้ตัวเองถึงที่ตายได้ เอาเรื่องนี้มาเปิดเผยให้ทุกคนรู้กันหมด ดึงผ้ากันอายของผู้อาวุโสทั้งสองออกหมดเสียแล้ว?

สีหน้าคุณตาดูไม่ค่อยดีนัก มองตู้อินอย่างไม่พอใจ ตู้อวิ๋นเลยดึงแขนตู้อินแล้วบีบแรง ๆ บอกใบ้ให้เธออย่าพูดอะไรอีก

ตู้อวิ๋นโกรธแทบตายอยู่แล้ว ไอ้ตัวถ่วงสองตัวนี้นี่ พวกเธอมองนิสัยอวี๋เนี่ยนไม่ออกหรือไง?

ใช่คนที่พวกเธอควบคุมได้ที่ไหน แถมยังจะไปท้าทายเธออีก

ก็ไม่ดูเลยว่าครอบครัวลุงใหญ่เขามองพวกเธอด้วยสายตาแบบไหน ถ้าทำให้ลุงใหญ่ไม่พอใจ พวกเธอยังจะได้อยู่อย่างมีความสุขหรือ?

“น้องเนี่ยนเนี่ยน ขอโทษด้วยจริง ๆ นะ อินอินพูดไม่เป็น พี่ต้องขอโทษแทนเธอด้วย”

เมื่อเจอกับสายตาเย็นชาของอวี๋เนี่ยน ตู้อวิ๋นก็ไม่อยากคุยกับอวี๋เนี่ยนเลยแม้แต่น้อย

แต่คนของบ้านลุงใหญ่ไม่ออกปากช่วยพวกเธอเลย แม่กับน้องสาวของเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาอีก จึงได้แต่ต้องกัดฟันพูดเอง

“พูดไม่เป็นก็ไม่ต้องพูด”

เสิ่นซิวเฉินส่งเสียงฮึทีหนึ่ง

คุณตาเสิ่นไอเล็กน้อยอย่างอึดอัดเพื่อหยุดการปะทะนี้ ก็ถือว่าเป็นการตอบรับอวี๋เนี่ยน

“อวี๋เนี่ยนเพิ่งมาใหม่ อวิ๋นอวิ๋นกับอินอิน พวกหนูเป็นพี่สาว ดูแลเธอให้มากหน่อยแล้วกัน”

จากการเรียกก็เห็นได้ถึงความใกล้ชิดและห่างเหิน

ตู้อวิ๋นตอบกลับทันทีด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“รู้แล้วค่ะคุณตา หนูจะดูแลน้องอวี๋เนี่ยนให้ดีเลย”

ตู้อินมองอวี๋เนี่ยนอย่างท้าทาย คุณตาชอบฉันมากกว่า อวี๋เนี่ยนสีหน้าเรียบเฉย ยังคงมีท่าทีไม่แยแสเหมือนเดิม

เสิ่นเหวินคุยกับคุณตาเรื่องบริษัทเล็กน้อยเพื่อเปลี่ยนเรื่อง เขาไม่กล้าให้พวกเขาพูดเรื่องอวี๋เนี่ยนต่ออีกแล้ว

คุณยายไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ แค่ นั่งหลับตาพักผ่อนอยู่ตรงนั้น ตู้อวิ๋นเดินไปนั่งข้างคุณยายแล้วนวดแขนให้เบา ๆ

จู่ ๆ อวี๋เนี่ยนก็รู้สึกน่าเบื่อขึ้นมาเล็กน้อย คิดว่าจะกลับเลยดีไหม ไม่อยากเสียเวลามาคุยแบบขอไปทีกับคนที่มีความคิดจิตใจต่างกันแบบนี้

ตากับยายที่ไม่ต้อนรับเธออย่างเห็นได้ชัด ป้าใหญ่ที่เต็มไปด้วยเจตนาร้าย ลุงใหญ่ที่พอมีเยื่อใยอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้มากมาย แล้วก็ลุงรองกับน้าเล็กที่ไม่ได้มา

ก็จริงนะ คนที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน จะหวังให้มีความผูกพันอะไรกันได้ยังไง ก็เหมือนกับที่เธอมาที่นี่ ก็เป็นแค่ภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จเท่านั้นเอง

แบบนี้ยิ่งดี เธอเองก็ไม่ได้อยากมีความเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาอยู่แล้ว

เสียเวลาอยู่กับเรื่องแบบนี้ ไม่สู้ไปเยี่ยมป้าเฉินคนนั้นยังจะดีเสียกว่า ความรู้สึกของคนเรานี่มันก็แปลกดีเหมือนกัน

เธอที่เป็นคนชอบความสงบ กลับรู้สึกชอบป้าเฉินคนนั้นที่ดูวุ่นวายอย่างไม่มีเหตุผล

ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ พ่อบ้านก็เดินเข้ามาบอกว่าอาหารเตรียมพร้อมแล้ว ขัดจังหวะความคิดวุ่นวายในใจของทุกคน ช่างเถอะ กินข้าวเสร็จแล้วค่อยกลับก็แล้วกัน

ทุกคนเข้ามานั่งในห้องอาหาร ตระกูลเสิ่นไม่มีธรรมเนียมกินข้าวไม่พูดคุยหรือเข้านอนไม่พูดจาแต่อย่างใด

พี่น้องตระกูลเสิ่นตั้งใจจัดให้อวี๋เนี่ยนกับสองพี่น้องตระกูลตู้นั่งแยกกัน เพื่อจะได้ไม่วุ่นวายเวลากินข้าว

เสิ่นซิวเฉินถามอวี๋เนี่ยน

“น้องเล็ก อายุแบบเธอนี่น่าจะเรียนมหาวิทยาลัยใช่ไหม?”

อวี๋เนี่ยนชะงักไปเล็กน้อย แล้วตอบว่า

“อีกไม่กี่วันจะไปรายงานตัวที่มหาวิทยาลัยแล้ว”

บ้าเอ๊ย ถ้าไม่พูดก็ลืมไปเลย ว่ายังมีเรื่องน่าปวดหัวอย่างไปเรียนมหาวิทยาลัยนี่อีก แค่คิดถึงสีหน้าก็มืดหม่นลงทันที

ตู้อินเห็นสีหน้าอวี๋เนี่ยนเปลี่ยนไป รู้สึกใจชื้นขึ้นมา เห็นท่าทางแบบนี้ของอวี๋เนี่ยนแล้ว ต้องไม่ใช่มหาวิทยาลัยที่ดีแน่

กระแอมไอเล็กน้อย

“น้องอวี๋เนี่ยน เธอสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยไหนเหรอ? สอบเข้าได้คะแนนเท่าไหร่? บอกมาสิ พี่จะช่วยดูให้”

ตู้อวิ๋นเองก็เอ่ยปาก

“ใช่แล้ว เนี่ยนเนี่ยน อินอินก็กำลังเรียนมหาวิทยาลัยนะ พวกเธออายุใกล้เคียงกัน คงจะมีเรื่องคุยกันเยอะแน่”

อวี๋เนี่ยนมองสองพี่น้องที่ยอมหยุดอย่างหมดคำจะพูด ไม่เข็ดใช่ไหม ไม่รู้ว่าทำไมพวกเธอถึงมีเจตนาเป็นศัตรูกับเธอมากขนาดนี้

“ฉันไม่ได้สอบ”

เหมือนจะไม่รู้ว่าคำพูดที่ตัวเองพูดออกไปมีอิทธิพลมากแค่ไหน อวี๋เนี่ยนยังคงกินข้าวอย่างใจเย็น

ห้องอาหารเงียบสงัดไปชั่วขณะ ตู้อวิ๋นกระตุกมุมปากเล็กน้อย

“น้องเนี่ยนเนี่ยนอย่าล้อเล่นสิ เมื่อกี้บอกว่าจะไปรายงานตัวที่มหาวิทยาลัยไม่ใช่เหรอ?”

“อืม มหาวิทยาลัยไม่ดูคะแนน เขาเต็มใจรับฉัน ก็เลยไปแล้วกัน”

อวี๋เนี่ยนมีท่าทีไม่แยแสอะไร พูดอย่างไม่ใส่ใจนัก

มหาวิทยาลัยที่ไหนจะไม่ดูคะแนน มีแต่พวกมหาวิทยาลัยไม่มีชื่อเสียงที่รับเงินแล้วก็เข้าได้เท่านั้นแหละ

สายตาที่เสิ่นซิวเฉินมองเธอค่อนข้างรู้สึกผิดเล็กน้อย ราวกับตำหนิตัวเองที่ไม่ควรพูดเรื่องนี้ขึ้นมา

เสิ่นซิวเฉินถึงแม้จะดูเป็นคนเจ้าสำราญ แต่ก็ไม่มีเจตนาร้ายอะไร ถือว่าเป็นคนที่บริสุทธิ์ใจที่สุดในตระกูลเสิ่นเลยก็ว่าได้

“เนี่ยนเนี่ยน ให้ลุงใหญ่ช่วยหามหาวิทยาลัยให้ไหม? หรือว่าเธออยากเรียนซ้ำ?”

กวนอี๋เจินมองอวี๋เนี่ยนอย่างเป็นห่วง

อวี๋เนี่ยนส่ายหน้า

“ไม่ต้องหรอกค่ะ”

คุณยายมีสีหน้าซับซ้อน ชั่วขณะหนึ่งดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ ส่วนคุณตาสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ ตบโต๊ะเสียงดังทีหนึ่ง

“พูดอะไรออกมา ฉันไม่สนหรอกว่าเธอไปเรียนรู้อะไรที่ข้างนอกมา แต่ในเมื่อมาตระกูลเสิ่นแล้ว ก็ต้องมีกฎเกณฑ์ แก้นิสัยที่ไม่ดีพวกนั้นของเธอซะ เสิ่นเหวิน หาโรงเรียนให้อวี๋เนี่ยนเรียนซ้ำ จะไปเรียนพวกมหาวิทยาลัยไร้ชื่อเสียงแบบนั้นได้ยังไง ตระกูลเสิ่นของฉันจะไม่ยอมเสียหน้าแบบนี้เด็ดขาด”

คำพูดของคุณตาหนักหน่วงอยู่บ้าง นอกจากสองพี่น้องตระกูลตู้ที่ลอบดีใจแล้ว คนอื่น ๆ ต่างมองอวี๋เนี่ยนอย่างกังวลเล็กน้อย
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 40

    “ฮาย เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ คิดถึงฉันไหม?”ฮั่วเยี่ยนคร้านจะใส่ใจกับพฤติกรรมบ้า ๆ บอ ๆ ของเซ่ามู่ไป๋“เนี่ยนเนี่ยน มานั่งเถอะ”อวี๋เนี่ยนเดินไป นั่งลงอย่างเซื่องซึม“ไหนบอกว่ายังต้องใช้เวลาอีกสองสามวันไง?”“แหม ก็มีบางคนที่อยากกลับมาใจจะขาดน่ะสิ”เซ่ามู่ไป๋พูดจาทะเล้น หาวไปพลางเดินไปที่ห้อง“ไม่ได้นอนมาหนึ่งคืน ฉันไปนอนสักตื่นก่อนนะ พวกนายก็คุยกันไปแล้วกัน”ฮั่วเยี่ยนมองอวี๋เนี่ยนไม่ละสายตาโดยไม่พูดอะไร ตั้งแต่ที่รู้ว่าอวี๋เนี่ยนอยู่ที่ประเทศอาร์กับเหวินเหรินหลิ่น ในที่สุดหัวใจที่ว้าวุ่นไม่ยอมสงบลงแม้แต่น้อยก็สงบลงได้เสียทีไม่ได้หึงหวงที่เธออยู่กับเหวินเหรินหลิ่น แต่เป็นห่วงความปลอดภัยของเธอต่างหาก เพราะถึงอย่างไรแล้วหากไม่อันตรายก็คงไม่ต้องไปรบกวนเหวินเหรินหลิ่นหลายวันมานี้อวี๋เนี่ยนอยู่ที่เยี่ยนหยวนตลอด ปกติก็ไม่ได้ออกไปไหนหลังจากรู้ว่าเธอเดินทางไปต่างประเทศ นอกจากความเป็นห่วงแล้ว ก็ยังมีความรู้สึกหวาดกลัวสุดขีดตามมา มันเป็นความหวาดกลัวที่จะสูญเสียได้ตลอดเวลาแม้ว่าในใจจะเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายร้อยแปดพันเก้า ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าแล้วก็ยังคงความอบอุ่นไว้ได้ เขายื่นกล่องใบหน

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 39

    ตู้ลี่เจินยังสารภาพเรื่องสำคัญมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่งออกมา เธอว่าเคยได้ยินอีกฝ่ายพูดถึงตระกูลไป๋ถ้าเกิดเป็นตระกูลไป๋ขึ้นมาจริง อย่างนั้นก็เป็นเรื่องยุ่งยากใหญ่โตอีกเรื่องเลยทีเดียวกับคนของกองทัพอย่างพวกเขาเหล่านี้อาจไม่เกี่ยวข้องอะไรมาก หลัก ๆ นั้นเป็นการพัวพันกันของแวดวงการเมืองกับแวดวงธุรกิจในเมืองหลวงต่างหากกับตระกูลไป๋นี้จะว่าอย่างไรดี พวกเขาไม่มีความสามารถอะไรมากตระกูลไป๋ทุ่มเทกำลังไปกับการให้กำเนิดลูกสาว ทำให้มีสมาชิกตระกูลมาก นับเป็นตระกูลใหญ่เลยทีเดียวตระกูลใหญ่ทั้งตระกูลล้วนพึ่งพาความสัมพันธ์ของเหล่าผู้หญิง วิธีการเลี้ยงดูบุตรสาวของตระกูลไป๋นั้นล้วนพยายามเลี้ยงดูให้กลายเป็นคุณหญิงคุณนายของตระกูลเก่าแก่เด็กสาวที่เลี้ยงดูออกมาล้วนเพียบพร้อมไปด้วยความอ่อนหวานและคุณธรรม เก่งกาจการเข้าสังคม เชี่ยวชาญการเรือนเป็นมาตรฐานในการเลือกเฟ้นลูกสะใภ้ของหลาย ๆ บ้านความจริงเป็นข้อพิสูจน์เรื่องนี้ พวกเขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง อาศัยการแต่งงานของบุตรสาวสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ขนาดใหญ่ หยั่งรากฝังลึกอย่างมั่นคงในเมืองหลวงที่อำนาจต่าง ๆ สลับซับซ้อนตระกูลไป๋ซับซ้อนเกินไป ไม่อา

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 38

    อวี๋เนี่ยนมองวิดีโอกล้องวงจรปิดจากห้องสอบสวนด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก รอผลการสอบสวนอยู่กับพวกผู้อาวุโสหลาย ๆ ท่านจะเล่นโทรศัพท์ก็ไม่ได้ เนื่องด้วยในห้องนี้มีการปิดกั้นสัญญาณ ป้องกันไม่ให้มีคนแอบส่งข่าวออกไปผลการสอบสวนออกมาแล้ว ตระกูลเจิ้งบริสุทธิ์ อวี๋เนี่ยนไม่แปลกใจกับผลลัพธ์นี้ ตอนที่เธอเค้นถามคนพวกนั้นที่ประเทศอาร์ก็รู้แล้วว่าคนที่พวกเขาติดต่อด้วยคือตระกูลตู้เจิ้งเฉิงกังผู้นี้เป็นคนกระทำการระมัดระวังรอบคอบ เขาตอบรับบุญคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ ทว่ามากกว่านั้นเขาไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวในสถานการณ์แบบนี้ ตระกูลเจิ้งนั้นอยากรักษาการใช้ชีวิตแบบกินหรูอยู่สบาย ซึ่งตระกูลตู้ก็เป็นแหล่งรายได้หลักเนื่องจากเจิ้งเฉิงกังมีนิสัยระมัดระวังรอบคอบ ตระกูลตู้จึงไม่ได้อาศัยบารมีอะไรของตระกูลเจิ้ง มีแต่ลงทุนเข้าไปถึงจะเป็นเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่กล้าล่วงเกินตระกูลเจิ้ง ท้ายที่สุดแล้วแม้ว่าจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่อยากเล่นงานพวกเขาก็ทำได้ง่ายดาย มีคนทำธุรกิจคนไหนบ้างที่ไม่มีจุดอ่อนคนประเทศอีก็จับจุดนี้ได้จึงเข้าหาตระกูลตู้ แสดงท่าทีว่าต้องการแค่ตู้ลี่เจินนำของบางอย่างจากเจิ้งเฉิงกังมาให้พวกเขาเท่านั้น แล้ว

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 37

    รถเคลื่อนตัวมาถึงลานจอดเครื่องบิน โยนตู้ลี่เจินที่สลบไสลขึ้นไปบนห้องด้านหลังไม่มีความตั้งใจจะสอบสวนหล่อนแม้แต่น้อย เธอไม่อยากเข้าไปพัวพันลึกเกินไป จับคนกลับมาแล้วส่งตัวขึ้นไป ก็ถือว่าเธอทำหน้าที่สำเร็จแล้ว ก็ควรถอยออกมา อวี๋เนี่ยนมองเหวินเหรินหลิ่นที่มาปรากฏตัวอีกครั้งบนเครื่องบิน“ไม่ต้องจัดการเรื่องในตระกูลของพวกคุณหรือไง?”“ไม่ส่งคุณกลับประเทศอย่างปลอดภัย กลัวว่าฮั่วเยี่ยนต้องเอาผมตายแน่”“ฐานที่มั่นนั่นของคุณเปิดเผยได้นะ”อวี๋เนี่ยนลูบคาง เรื่องนี้น่าจะไม่เป็นปัญหาใหญ่โต ถึงอย่างไรก็ให้เหวินเหรินหลิ่นช่วยเหลือมากมายขนาดนี้โดยไม่ได้อะไรกลับไปเลยไม่ได้เหวินเหรินหลิ่นเดาได้ว่าอวี๋เนี่ยนเป็นคนของทางรัฐบาล แม้ว่าตัวตนจริงจะไม่ชัดเจนก็ตามทว่าสามารถออกมาทำเรื่องแบบนี้เพียงลำพังได้ แถมวิธีการก็ยัง...เอ่อ ไม่ค่อยนุ่มนวลสักเท่าไร ตำแหน่งคงสูงไม่เบา“นี่เป็นของตอบแทนจากคุณงั้นเหรอ?”ของตอบแทนที่ทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้ เดิมทีแค่อยากตอบแทนน้ำใจของอวี๋เนี่ยนคืนไปก็เท่านั้น นี่นับว่าเป็นประโยชน์นอกเหนือความคาดหมายเลยเชียว“ไม่พอใจเหรอ?”“ไม่ใช่ แค่คิดถึงครั้งก่อนที่คุณอวี๋ช่วยผมน่ะ

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 36

    กลับขึ้นรถ รับทิชชูเปียกที่เหวินเหรินหลิ่นยื่นให้ แล้วเช็ดไปตามนิ้วมือด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย“เสื้อผ้าเลอะหมดเลย”แม้จะกำลังบ่นว่า ทว่าฟังแล้วดูเหมือนว่าอวี๋เนี่ยนจะอารมณ์ดีไม่เลวเหวินเหรินหลิ่นยิ่งยิ้มกว้าง ที่แท้ก็เป็นคนแปลก ๆ นิด ๆ นี่เอง“ผมจะให้คนนำเสื้อผ้ามาให้คุณ”“คุณอวี๋คิดจะจัดการพวกเขาอย่างไร?”“แน่นอนว่าต้องทำลายศพไม่ให้เหลือร่องรอย เรื่องนี้คุณถนัดกว่าฉันนี่”อวี๋เนี่ยนพูดอย่างไม่ใส่ใจกวาดสายตามองตู้ลี่เจินที่นั่งตัวสั่นเป็นใบไม้ไหวอยู่ที่พื้นด้วยสายตาราบเรียบ กล้าทำเรื่องพรรค์นี้ออกมา แต่ตอนนี้กลับรู้จักกลัว ผลของการเชือดไก่ให้ลิงดูนั้นเหมือนว่าจะได้ผลไม่เลวเหวินเหรินหลิ่นได้ยินก็ไม่ได้ตกใจ นับตั้งแต่อวี๋เนี่ยนลงจากรถไป เขาก็รู้แล้วว่าเจ้าพวกสามคนนั้นไม่รอดแน่ตู้ลี่เจินถูกอวี๋เนี่ยนในยามนี้ทำให้หวาดกลัวจนขนลุกขนชันไปทั้งกาย หวาดกลัวกว่าตอนที่เห็นการทรมานคนของอวี๋เนี่ยนเมื่อครู่นี้เสียอีกอดรู้สึกหนาวเย็นจับใจไม่ได้ พวกเขาพูดเรื่องทำลายศพเผาหลักฐานต่อหน้าตัวเองแบบนี้ เกรงว่าแม้แต่ตัวเธอเองก็ต้องถูกฆ่าปิดปากตามไปด้วยตอนนี้เห็นสายตาของอวี๋เนี่ยนที่กวาดสายตา

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 35

    อวี๋เนี่ยนเดินลากท่อนเหล็กไปอยู่ตรงหน้าสามคนนั้น ลูกน้อยของเหวินเหรินหลิ่นจึงถอยหลังลงไปสองสามก้าวหลีกทางให้เธออวี๋เนี่ยนพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ“บอกสิ่งที่พวกคุณรู้มาให้หมด”ผู้หญิงคนนั้นมีสีหน้าหยิ่งผยอง ไม่มีความคิดที่จะตอบโดยสิ้นเชิง อีกสองคนที่เหลือก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมาเช่นกันอวี๋เนี่ยนแย้มยิ้มโหดเหี้ยมออกมาเล็กน้อย ไม่ให้ความร่วมมือสินะ? อย่างนั้นก็ดีเลยลากผู้ชายคนนั้นออกมา แล้วฟาดท่อนเหล็กไปที่แขน ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวน ไม่กี่คนที่อยู่ข้าง ๆ ล้วนได้ยินเสียกระดูกหักได้อย่างชัดเจนผู้หญิงที่เดิมที่มีแต่ความโอหังฉายอยู่เต็มหน้าพลันใบหน้าเปลี่ยนสีทันที คนขับรถที่อยู่ข้างกันก็ยิ่งตกใจแข้งขาอ่อนจนทรุดตัวนั่งลงบนพื้นผู้หญิงคนนั้นร้องตะโกน“พวกเราเป็นทหารประเทศอี คุณไม่มีสิทธิ์ทรมานพวกเรา ฉันต้องการคุยกับรัฐบาลของพวกคุณ”ไม่สนใจว่าผู้หญิงคนนั้นจะร้องตะโกนไม่หยุด เธอลงมือฟาดท่อนเหล็กต่อไป คราวนี้ฟาดลงไปบนหัวเข่า เสียงกระดูกแตกดังยิ่งกว่าเก่า ผู้ชายคนนั้นร้องโหยหวนพลางล้มลงไปตะโกนลั่นว่า “ฉันบอกแล้ว บอกแล้ว”ไม่ต้องใส่หูฟังเสียงร้องโหยหวนก็ดังเข้ามาถึงในรถ ตู้ลี่เจิน

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 34

    “พ้นจากตัวเมืองไปแล้วค่อยลงมือ”เขามีความมั่นใจมากว่าจะจัดการให้เสร็จสิ้นได้ หากขัดขวางพวกเขาที่นี่จะเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผย ไม่กลัวหนึ่งหมื่นแต่กลัวหนึ่งในหมื่นอวี๋เนี่ยนพยักหน้าเข้าใจ ไม่เกรงใจเขา ยกให้เขาจัดการไป เพราะเรื่องต่อจากนี้อย่างไรก็ยังต้องรบกวนเขาอีกไม่น้อยไม่นานนักรถของพวกเขาก็ไล่ตามตู้ลี่เจินทัน หลังจากขับตามมาสักพักจึงเพิ่มความเร็วแซงหน้ารถที่ตู้ลี่เจินนั่งอยู่หลังจากขับผ่านบริเวณที่ไฟถนนพังเสียหายไปจึงจอดรถ แล้วก็มีคนวางเครื่องกีดขวางขนาดเล็กไว้ด้านหน้าในทันทีไม่ช้านาน รถของตู้ลี่เจินก็แล่นมาถึง รถเหยียบบดลงบนเครื่องกีดขวางด้วยความเร็ว ล้อรถระเบิดจนเสียการทรงตัวลื่นไปชนเข้ากับต้นไม้ข้างทางอย่างรุนแรงควันขาวลองคลุ้งออกมาจากกระโปรงรถ เห็นได้ชัดว่าใช้การไม่ได้แล้ว ดูจากสภาพความเสียหายของรถแล้ว ตัวคนน่าจะไม่เป็นอะไร จริงตามคาด ผู้ชายคนหนึ่งลงมาจากห้องคนขับ หลังจากนั้นก็มีผู้ชายหนึ่งคนกับผู้หญิงหนึ่งคนลงมาดูสถานการณ์อวี๋เนี่ยนวางกล้องส่องทางไกลสำหรับกลางคืนในมือ นอกจากสามคนนี้ที่ลงมาจากรถแล้ว ในรถก็เหลือเพียงตู้ลี่เจินคนเดียวเท่านั้นเหวินเหรินหลิ่นส่งสัญญาณม

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 33

    หลังยืนยันข้อมูล อวี๋เนี่ยนก็หาเบอร์ติดต่อเหวินเหรินหลิ่นที่ฮั่วเยี่ยนให้เธอไว้เจอ แล้วจึงต่อสายโทรหาทันที“ฉันอวี๋เนี่ยนนะ”“คุณอวี๋?”ตอนที่เหวินเหรินหลิ่นรับสายของอวี๋เนี่ยนก็ประหลาดใจอยู่บ้าง โทรมาหาในเวลาแบบนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?“สะดวกคุยหรือเปล่าคะ? อยากรบกวนให้คุณช่วยสักหน่อย”“สะดวกครับ คุณอวี๋พูดมาได้เลย”เหวินเหรินหลิ่นเองก็ไม่นึกไม่ฝัน ว่าโอกาสตอบแทนน้ำใจจะมาถึงเร็วขนาดนี้“ช่วยจับตาดูคนคนหนึ่งที่สนามบินของเมืองหลวงประเทศอาร์ และหากเป็นไปได้จะขอยืมเครื่องบินส่วนตัวของคุณด้วย”อวี๋เนี่ยนไม่เกรงใจ พูดความต้องการของตนเองออกไปตรง ๆประเทศอาร์เป็นฐานที่มั่นของเหวินเหรินหลิ่น เรื่องนี้จึงไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าเข้าแล้ว“ไม่มีปัญหาครับ”เหวินเหรินหลิ่นตอบตกลงโดยไม่ลังเล“ฉันส่งข้อมูลไปให้คุณแล้ว เครื่องบินที่เธอนั่งจะลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติเมืองหลวงประเทศอาร์ในอีกสี่ชั่วโมงให้หลัง”เหวินเหรินหลิ่นรีบส่งข้อมูลไปให้คนของทางนั้น เพื่อจัดแจงคนไปคอยเฝ้ารอที่สนามบิน“ให้จับกุมเหรอครับ?”“สะกดรอยตามไว้ ฉันจะไปถึงในอีกสิบนาที ต้องวางสายแล้ว”อวี๋เนี่ยนดูที่อยู่ที่เหวินเ

  • คุณชายสาม ยัยตัวแสบของคุณโชว์เทพอีกแล้ว!   บทที่ 32

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นดยุคอวี๋เนี่ยนผุดตัวลุกขึ้นนั่งทันที เกิดเรื่องแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะต้องติดต่อมาทางออนไลน์ ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์คับขันเป็นอย่างที่คิด อวี๋เนี่ยนเพิ่งรับสายโทรศัพท์ เสียงของดยุคก็ดังลอดออกมาจากทางนั้นแล้ว“หัวหน้า ตู้ลี่เจินออกนอกประเทศแล้ว เครื่องเพิ่งออกไป”“ส่งข้อมูลมาให้ฉัน”พูดจบ อวี๋เนี่ยนก็วางสายโทรศัพท์ แล้วต่อสายไปหาเว่ยกังให้เขารีบตรวจสอบทันที ไม่ใช่ว่าให้จับตาดูไว้หรอกเหรอ ทำไมปล่อยให้ออกนอกประเทศไปได้?ระหว่างที่รอสายของเว่ยกัง อวี๋เนี่ยนก็ดูเอกสารที่ดยุคส่งมาให้ไปพลาง ๆ ตู้ลี่เจินใช้ตัวตนปลอม ทำให้พวกเขาไม่ได้รับข่าวตั้งแต่แรกเครื่องบินทะยานขึ้นสู่น่านฟ้าไปสี่สิบนาทีแล้ว เป็นการบินไปยังเมืองหลวงของประเทศอาร์ ระยะเวลาในการบินราวห้าชั่วโมงครึ่งอวี๋เนี่ยนครุ่นคิด จะให้เครื่องบินวกกลับมานั้นเป็นการสร้างความวุ่นวายใหญ่โต ยากจะปิดบังได้อยู่ อีกทั้งเรื่องนี้ยังอยู่ในช่วงการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยิ่งไม่อาจทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้อวี๋เนี่ยนดวงตาเปล่งประกาย นึกถึงใครบางคนขึ้นมาได้ทว่าทั้งหมดนี้ล้วนต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนจากทางฝั่งเว่ยกัง

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status