LOGIN“เจียงจีชิน! เจ้ามันสารเลว เพราะเจ้าทำให้ครอบครัวข้าร้าวฉาน” หรูอันชิง ตะโกนออกมาด้วยความคับแค้นใจ สามีไม่พบหน้านาง บุตรชายหายตัวไป บุตรสาวก็อยู่เยี่ยงคนไร้ราคา จะมีสิ่งใดเล่าหนักหนาไปกว่านี้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ล้วนมาจากสตรีผู้นี้ เจียงจีชิน “เหอะ! ทุกอย่างล้วนมาจากตัวเจ้าทั้งสิ้น ความต่ำชั้นทางสายเลือด ยังไม่น่าอัปยศเท่ากับความต่ำชั้น ของคนที่มิรู้จักพัฒนาตนเอง ให้มันดีขึ้นกว่าเดิม เจ้ายังคอยยุยงพี่ชายข้า ให้ตามทำร้ายพี่สะใภ้ข้ามิหยุดหย่อน นับจากนี้เจ้าก็จงแบกรับการกระทำของตนเองไปเถอะ” เท้าที่ก้าวพ้นประตูเข้าไปภายในจวน หยุดลงพร้อมกับเอ่ยออกมา ด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน สำหรับนางแล้ว แค่นี้มันยังน้อยเกินไปเสียด้วยซ้ำ สำหรับคนเยี่ยงหรูอันชิง “พี่สะใภ้! มันคือข้า! มิใช่หญิงสกุลจ้าว!” “ในใจข้ามีเพียงแค่นาง เจ้าเป็นได้แค่เศษฝุ่นเท่านั้น อย่าได้เอาตนเอง มายืนตรงหน้าข้าอีกเลย มันเสนียดสายตาของข้านัก” “เจียงจีชิน! ข้าทำสิ่งใดให้เจ้านักหนา” “กลับไปแล้วทบทวนดู ข้าพูดไป เจ้าอาจไม่มีวันคิดออก” สิ้นคำเท้าบาง ก้าวตรงกลับเข้าไปที่เร
เมืองหลวงจวนเชี่ย ปัง ๆ เสียงทุบประตูหน้าจวน ดังถี่ ๆ ด้วยความร้อนใจของคนด้านนอก จนกระทั้งประตูบานใหญ่เปิดออกมา ก็พบกับฮูหยินท่านกั๋วกง หรูอันชิง กับสาวใช้คนสนิทของนาง “ข้าต้องการพบกับเจียงจีชิน!” ไม่มีคำพูดที่อ่อนโยน เยี่ยงแขกที่มาเยือนแม้แต่น้อย แต่เป็นคำพูดที่เต็มไปด้วยโทสะ ซึ่งใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอิดโรย ทำให้บ่าวชายพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปิดประตูลงอีกครั้ง เพื่อจะกลับเข้าไปรายงานคนด้านใน “เจียงจีชิน! เจ้าออกมาเดี๋ยวนี้” หรูอันชิง ตะโกนเสียงดัง เพื่อเรียกน้องสาวของสามี ให้ออกมาพูดคุย กับเรื่องที่นางกำลังร้อนใจ “ที่นี่คือจวนขุนนาง เจ้าไม่ควรทำตัวให้เป็นที่ครหา ไร้มารยาทเยี่ยงนี้ เสื่อมเสียถึงสกุลบิดาข้า” ประตูเปิดออก พร้อมกับร่างระหงของเจียงจีชินื ที่ก้าวออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย็นชา แววตานั้นชิงชังคนตรงหน้ายิ่งกว่าสิ่งใด ยิ่งเมื่อนึกถึงสิ่งที่บุตรชายของหรูอันชิง ลงมือกระทำต่อนางแล้ว ความชิงชังยิ่งทวีขึ้นนับเท่าตัว “ลูกข้าอยู่ที่ใด!” เป็นคำถามที่คนฟัง พอจะรู้อยู่ก่อนแล้ว เพราะคนของนางได้
“เจ้าเดาได้หรือยัง ว่าเขาคือใคร” เกาจู ก้าวมายืนข้างศิษย์รัก ก่อนจะเอ่ยถามออกไป โดยที่สายตาของเขาเอง ก็จับจ้องอยู่ที่คู่ว่าที่สามีภรรยา ลู่จิ้งอ๋องที่ทุกคนรู้จัก ไม่เคยมีภาพเช่นนี้มาก่อน เขาเองก้เคยพบคนผู้นี้มาบ้าง แม้ไม่ได้ทักทายกัน แต่เขาไม่ได้ลืมเลือนง่าย “เขาจะรักพี่หญิงหรือไม่ขอรับ” หลินเสวียนเอ่ยถามด้วยความกังวล ด้วยวัยที่ยังไม่เคยผ่านเรื่องรักใคร่ จึงทำให้เขาไม่อาจบอกได้ว่าสายตา และการกระทำของว่าที่พี่เขย จะคิดหรือรู้สึกอย่างไรกับพี่สาวของเขา “หึ ๆ ความรักเป็นเรื่องที่ยากจะบอกได้ เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ ว่าหัวใจของทั้งคู่ จะเดินไปยังทิศทางใด” เกาจู วางมือบนไหล่ของเด็กหนุ่ม ก่อนจะบีบมันเบา ๆ เขาจะไม่ฟันธงเรื่องของทั้งคู่ เพราะความอ่อนโยนมันเสแสร้งกันได้ “ขอรับ แล้วข้าควรเรียกเขาว่าอย่างไรเล่าขอรับ” “เขายังอยู่ในนามองครักษ์ เจ้าต้องไม่ทำให้ใครรู้ถึงตัวตนเขา เช่นเดียวกับอีกด้านของพี่สาวเจ้า” “ขอรับ” “เราไปดูเถาเถากันเถอะ นางรู้สึกตัวแล้ว แต่ข้าก็ยากจะวางใจให้นางคลาดสายตา” เกาจูพาเด็กหนุ่มเดิน
ครึ่งชั่วยามต่อมาร่างสูงที่ยืนกอดอกนิ่ง มองไปยังแนวป่าห่างจากถนนหลักไปพอสมควร ได้ถอนหายใจหนัก ๆ เมื่อคนสนิทก้าวมายืนอยู่เบื่องหลัง มันคงยากที่จะระงับเรื่องที่จะเกิดได้แล้ว"ส่งข่าวไปให้ท่านลุง รนพวกนี้ลงมือแล้ว หากวันนี้มิใชาข้าอยู่ตรงนี้ ยากนักจะบอกได้ ว่าจะเกิดสิ่งใดกับนาง"ชายหนุ่มสั่งกาากับคนสนิท เรื่องนี้นับว่าตึงเครียดไม่น้อย สำหรับผู้เป็นนาย ด้วยมันเกี่ยวพันหลายทาง"ครั้งนี้สกุลหรู ทำเรื่องใหญ่เกินตัวไปแล้วขอรับ"องครักษ์หนุ่ม เอ่ยกับผู้เป็นนาย ถึงหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ ที่ลงมือกับพระชายา และดูท่าพระขายาเองก็คงไม่นิ่งเฉย เพราะคนของนางบาดเจ็บ"เรื่องนี้มู่เสวี่ยนางย่อมสะสางเอง หน้าท่ของข้า เพียงเป็นกำลังหนุนให้แก่นาง คืนนี้อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นอีก เตรียมคนของเราให้พร้อม"อ๋องหนุ่มมั่นใจว่าต้องมีอีกระรอก จากคนของน้องชายและบุตรชายสกุลหยาง ต้องลงมือเพื่อช่วงชิงภรรยาของเขา เหอะ! ไม่เจียมตนนัก สิ่งใดที่เป็นของเขา ใครหน้าไหนก็อย่ามาคาดหวังจะช่วงชิง"ขอรับ แต่เราจะทำเยี่ยงไร ต่อท่านอ๋องน้อยดีขอรับ"องครักษ์หนุ่มเอ่ยถามด้วยความกังวล เพราะจะอย
“เสวียนเอ๋อร์ เจ้าช่วยเผาเข็มให้ข้าเดี๋ยวนี้” แต่ก่อนที่หลินเสวียนจะพูดสิ่งใดต่อ คำสั่งของผู้เป็นอาจารย์ก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน เด็กหนุ่มไม่คิดรีรอ เขารีบวิ่งไปที่รถม้า นำเตาอุ่นชาออกมา แล้วจัดการนำเข็มเงินออกมา เผาไฟให้มันร้อน การฝังเข็มเช่นนี้ นั่นหมายความว่าร่างกายของพี่เถาเถา ได้รับพิษหรือเส้นลมปราณเกิดบาดเจ็บรุนแรง เกาจูมีสีหน้าเคร่งเครียด นักฆ่าพวกนี้มีฝีมือระดับสูง ทว่าเถาเถา ที่มีช่วงวันนั้นของสตรี ต้องใช้พลังไปมาก ทำให้เส้นลมปราณบาดเจ็บหนัก แต่ที่น่ากลัวคือถ้าทำให้นางตื่นขึ้นไม่ได้ในสองชั่วยาม นางอาจไม่มีดอกาสได้ตื่นขึ้นมาได้เลย นางได้รับบาดเจ็บภายในมาก่อนหน้า ซึ่งเรื่องนี้มิได้บอกแก่ผู้เป็นนาย สิ่งที่เขาทำได้คือปลุกนางให้ตื่นขึ้นมาให้ได้เท่านั้น “คุณหนู คนที่ส่งมามิใช่คนของท่านกั๋วกงขอรับ” ฉู่เฟยรีบเข้ามารายงาน เมื่อรู้ที่ไปที่มาของคนร้าย ซึ่งครั้งนี้นับว่าโชคดีนัก ที่จิ้งอ๋องอยู่ร่วมในคณะ แม้ยังไม่เผยตัวตนก็ตามที “ส่งสาสน์ให้ทางนั้น ส่งของขวัญไป ข้ามักตอบแทนน้ำใจของผู้อื่นเสมอ ถ้าเถาเถาเป็นอันใดไป ข้าจะมอบให้มากกว่านี้อีกหลายเท่า”
ทางด้านถนนหลัก ชายสวมหน้ากาก ยืนอยู่เหนือร่างของคนที่หมายเอาชีวิตเขา แววตาที่มองคนใต้ฝ่าเท้า ไร้ซึ่งความเห็นใจหรือเมตตาใด ๆ ทว่ามันล้วนเต็มไปด้วยความเย็นชา จนคนที่กำลังหายใจรวยริน ต้องพิจารณาสายตานั้นอีกครั้ง ไม่นะ! เป็นเขาไปได้อย่างไร ชายผู้ไม่ใส่ใจใคร กลับมายืนอยู่ตรงนี้เพื่อนาง... “ไยไม่ทำให้ได้อย่างปากเจ้าว่าเล่า เอาชีวิตข้า และหัวของนาง” น้ำเสียงที่เย็นเยียบ เอ่ยออกมาด้วยความเนิบช้า สำหรับเขาแล้วสวะเหล่านี้ มีค่าอันใดให้เขาต้องเสียเวลา หากไม่เพราะเขาอยู่ตรงนี้ ในฐานะขององครักษ์ มันไม่มีความจำเป็นเลยสักนิด ที่ต้องลงมือด้วยตนเอง “ทะ...เอ่อ...” ถงเมิ่งชี อยากที่จะเรียกคนตรงหน้า ด้วยตัวตนจริงยิ่งนัก แต่เพราะเขายังไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยตัวตน จึงไม่อาจที่จะเอ่ยปากออกมาได้ “เจ้าอาการไม่น่าจะไหวนะ” ชายสวมหน้ากากเอ่ยกับองครักษ์หนุ่ม ด้วยสภาพของถงเมิ่งชี มันย่ำแย่ไม่น้อยเลย แต่ก็ต้องยอมรับใจนักสู้ขององครักษ์หนุ่ม ที่ไม่ว่าอย่างไร ก็ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี “เจ้าอยากตาย! ทำไมไม่บอกข้าแต่แรก ข้าจะได้ไม่เสียเวลาช่วยเจ้า”







