เสียงลูกบาสเกตบอลกระทบพื้นดังไปทั่วพื้นที่ มีผู้หญิงร่างสูงกำลังเลี้ยงลูกบอลไปยังฝั่งตรงข้ามโดยมีผู้เล่นอีกฝ่ายคอยสกัดกั้นไม่ให้ร่างสูงส่งบอลให้กับเพื่อนร่วมทีม ทว่าคนที่ชำนาญกลับหลบเลี่ยงและสามารถชูตบอลลงแป้นคว้าสองคะแนนให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างง่ายดาย เรียกเสียงโห่ร้องดีใจจากผู้ชมบนอัฒจันทร์ได้มากมาย ผู้หญิงร่างสูงยังคงทำคะแนนให้กับทีมได้อีกหลายแต้มติดกันจนจบเกมการแข่งขัน
ทีมที่ชนะก็คือทีมของหญิงสาวนั่นเอง ร่างสูงโปร่งเดินมาทิ้งกายลงข้างสนาม คว้าขวดน้ำขึ้นมาดื่มจนหมด การแข่งขันไม่ได้จริงจังอะไรและเป็นการเล่นแบบผสมชายหญิงด้วยซ้ำ แต่ผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มกลับไม่ออมแรงให้ชายชาตรีสักนิด กระทบไหล่ กระแทกตัวใส่จนล้มหน้าคว่ำไปหมด
“เฮ้ย! ไอ้เท็น” เพื่อนร่วมทีมตบไหล่
“กูจะชวนมึงไปอเล็กซ์หน่อย” อเล็กซ์คือชื่อสถานบันเทิงอันเลื่องชื่อและเป็นที่รู้จักของนักศึกษาเกือบทุกคน
“ห้ามปฏิเสธ คราวที่แล้วมึงก็ไม่ไปทีละนะ”
“อยากอ่านหนังสือ” เจ้าตัวบอกง่าย ๆ พลางปรายตามองกลุ่มหญิงสาวที่กำลังโบกมือให้ตนเองอยู่บนอัฒจันทร์ ‘เท็น หรือ เดือนสิบ’ เป็นที่รู้จักกันในฐานะนักกีฬาของมหาวิทยาลัยและยังเป็นที่หมายปองของสาว ๆ หลายคน ด้วยเพราะรูปร่างอันสูงโปร่ง ใบหน้าสวยคม คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ผิวขาวเหลือง ทว่าตลอดสี่ปีกลับยังไม่มีใครได้รับเกียร์จากเดือนสิบไปคล้องที่คอเลยสักคน ส่วนมากหญิงสาวจะมีความสัมพันธ์แบบชั่วข้ามคืนและไม่นิยมสานสัมพันธ์กับคนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน
“ยังไงมึงก็ได้เกียรตินิยมอยู่แล้ว จะขยันห่าอะไรนักหนา” เดือนสิบคว้าผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดหน้าและแขน ลุกขึ้นเต็มความสูงพร้อมคว้ากระเป๋าเป้มาคล้องไหล่ด้านหนึ่ง
“ไปเหอะ น้องสกายเขาอยากเจอมึง” ธนินทำเป็นหว่านล้อม แต่จริง ๆ มีแผนอยู่ในใจ
“ทำตัวเป็นพ่อสื่อไม่เลิก” เดือนสิบส่ายหน้าสาวเท้าหนีทันที แต่เพื่อนสนิทกลับวิ่งตามจนทัน
“พี่เท็นคะ น้ำส้มค่ะ” เสียงเล็กเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นขวดน้ำมาตรงหน้า เดือนสิบมองนิ่ง ๆ ไม่มีท่าทีสนใจอะไรจนเพื่อนสนิทอย่างธนินต้องรับมาแทน
“ขอบคุณครับน้อง” คนให้หน้าม่อย น้ำตาคลอ ทว่าเจ้าของร่างสูงโปร่งไม่สนใจ
“แดกเองแล้วกัน” แต่ก็ยังมีน้ำใจไม่พูดต่อหน้ารุ่นน้องสาวคนนั้น ธนินเลียปากแล้วเปิดขวดน้ำส้มกระดกดื่มจนหมด
“ตกลงไป?”
“ไม่ กูไม่ว่าง”
“ไม่ว่างเ-หี้ยอะไร มึงเป็นฤๅษีหรือไง จำศีลอยู่แต่ในคอนโดฯ ออกไปทำอะไรสนุก ๆ บ้างเถอะ”
“สนุกของมึงคือการได้แอ้มหญิง?” ธนินไหวไหล่ไม่ปฏิเสธ
“เห็นว่าน้องจิ๊บเด็กมึงก็ไปด้วยนะ”
“ไม่ใช่เด็กกู” จริงอยู่ที่เธอเคยคบหาดูใจกับเบญจา ทว่ามันเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เมื่อความรู้สึกบอกไม่ใช่ก็แยกทาง
“เอ้อ! เหมือนพวกน้องเดียร์ก็ไปด้วยนะ”
“เดียร์ไหนวะ?” เดือนสิบไม่ค่อยรู้จักใครสักเท่าไร อาจเพราะเป็นคนเก็บตัวไม่สุงสิงกับคนแปลกหน้า เพื่อนสนิทก็มีเพียงธนินคนเดียว ส่วนคนอื่นคบหาผ่าน ๆ ไม่ได้สนิทชิดเชื้อ
“น้องเดียร์ดาวคณะนิเทศฯ ไงมึง คนที่สวยฉิบหาย แต่หยิ่งโคตร ๆ มึงเคยพูดว่าเขาสวยตอนงานละครเวทีคณะนิเทศฯ ไง” เดือนสิบครางในใจ คลับคล้ายคลับคลา
“ตกลงไปนะ กูจะได้บอกพวก” คนที่ถูกเพื่อนเดินตอแยมาตั้งแต่อาคารกีฬาในร่มมาจนถึงลานจอดรถหรี่ตา
“แปลก ๆ นะมึง”
“แปลกอะไรวะ?” ธนินพยายามทำตัวเป็นปกติที่สุด แต่ในใจกลับร้อนรน เนื่องจากชายหนุ่มได้มีข้อตกลงกับเพื่อนในแก๊งของดลญาไว้ หากพาตัวเดือนสิบมนุษย์ถ้ำออกมาเจอได้ หล่อนจะเลี้ยงเครื่องดื่มตลอดคืน
“นั่นไง ๆ น้องเดียร์” และโชคดีที่กลุ่มของดลญาเดินผ่านมาพอดี เดือนสิบจึงละความสนใจจากธนิน มองตามปลายนิ้วเพื่อนสนิท หล่อนสวยเด่นกว่าใคร ผมยาวสีน้ำตาลดัดลอนเกือบถึงกลางหลัง ร่างเพรียวทว่าหน้าอกใหญ่สะโพกผาย กระโปรงนักศึกษาทรงเอสั้นไม่กี่คืบทั้งยังแหวกสูงอวดน่องเล็กและขาอ่อน นักศึกษาชายบริเวณนั้นมองเป็นตาเดียว แต่เจ้าหล่อนไม่ยักสนใจ ยังคงพูดคุยหยอกล้อกับเพื่อนไปจนพ้นสายตา
“น้องเขายังไม่มีแฟนนะเว้ย”
“แล้ว?” เดือนสิบเปิดประตูรถโยนกระเป๋าเข้าไป
“มึงก็ไม่มีแฟนนิ ไปเจองานนี้อาจมีสปาร์ก”
“สปาร์กพ่อง!” มือเรียวหมายฟาดลงยังศีรษะเพื่อนสนิท ทว่าธนินหลบทัน
“คืนนี้เจอกันสามทุ่ม”
“กูยังไม่ได้บอกว่าจะไป”
“โธ่…ไปเจอเพื่อนเจอฝูงบ้างไอ้เ-หี้ย อย่าทำตัวเป็นคนอกหักไปหน่อยเลย” พอพูดมาถึงตรงนี้ธนินกลับชะงักงันไป เขาเผลอเอ่ยสิ่งที่ไม่ควรออกไป ไม่มีใครรู้ว่าช่วงปีการศึกษาที่หนึ่ง เดือนสิบคบหาดูใจกับรุ่นพี่สาวคนหนึ่ง ตั้งมั่นในใจว่าหากดูใจกันไปสักระยะจะมอบเกียร์ให้พี่สาวคนนั้น ทว่าเดือนสิบนั้นต้องผิดหวังเพราะแฟนสาวรุ่นพี่นอกใจและคล้องเกียร์ของคนอื่นแทนของตนเองไปแล้ว และหลังจากนั้นเดือนสิบก็แทบไม่เปิดใจคบใครอีกเลย เห็นจะมีแค่พียงเบญจาเท่านั้นที่เข้ามา หากแต่ระยะเวลาที่คบหากันก็ช่างสั้นจนน่าตกใจ หลังจากรู้ว่าคบกัน ผ่านไปไม่กี่วันทั้งสองได้ยุติความสัมพันธ์กันเสียแล้ว
“เอ่อ…คือ”
“เออ สามทุ่มเจอกัน กูกลับบ้านไปอาบน้ำก่อน” ได้ยินเช่นนั้นธนินยิ้มกว้างแทบกระโดดกอดเพื่อนสนิท แต่ถูกบาทาขนาดสามสิบเก้ายันขาไว้เสียก่อน
เมื่อเดือนสิบขับรถออกไปธนินจึงรีบโทรหาจิราวรรณหรือจีจี้เพื่อนในกลุ่มดลญาทันที บอกความคืบหน้าทั้งยังทวงสัญญาที่อีกฝ่ายบอกไว้ เขาไม่ได้คิดขายเพื่อนเพียงแต่หวังดีอยากให้เดือนสิบได้เจอรักครั้งใหม่บ้าง บางทีการเจอดลญาอาจนำพาสิ่งดี ๆ เข้ามาก็ได้ ส่วนพวกเครื่องดื่มมึนเมาก็ถือว่าเป็นของแถมเท่านั้นเอง
ทันทีที่ดลญารู้ว่ามีชื่อของเดือนสิบไปยังสถานบันเทิงด้วยอีกคน ใจของหญิงสาวเต้นรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หล่อนสืบประวัติคร่าว ๆ ของรุ่นพี่วิศวะฯ คนนี้มาแล้ว เป็นพวกอินโทรเวิร์ตไม่ชอบสุงสิงกับใคร ทว่าฮอตปรอทแตกไม่ต่างจากหล่อน มีสาว ๆ เรียงแถวดาหน้าเข้ามาให้เลือกมากมาย ทว่ากลับไม่มีใครได้ใจและเกียร์ของอีกฝ่าย ส่วนคู่แข่งอย่างเบญจาหรือจิ๊บเห็นว่าคบหาดูใจกันเพียงระยะสั้น ๆ แค่ไม่กี่อาทิตย์ สถานะคนรักเจ้าหล่อนยังไม่ได้เลยกระมัง ดลญายิ้มกริ่มไม่มองว่าเบญจาเป็นคู่แข่งด้วยซ้ำ คนอย่างหล่อนอยากได้อะไรก็ต้องได้ และเดือนสิบต้องให้เกียร์หล่อนในเวลาไม่ถึงเจ็ดวันแน่ ๆ
“แกอย่ามั่นหน้าไปหน่อยเลยยัยเดียร์” เสียงของจิราวรรณทำเอาอารมณ์ดลญาเดือดปุด
“บอกเลยว่าพี่เท็นน่ะโคตรยาก บางทีแกอาจจะเสียตัวแต่ไม่ได้เกียร์มาคล้องคอก็ได้ ใครจะไปรู้”
“เหอะ! ยากกว่านี้ฉันก็กินมาแล้วย่ะ แค่นี้จิ๊บ ๆ” ดลญายิ้มอวดดี ตาเป็นประกายขณะมองบัญชีโซเชียลมีเดียของเดือนสิบที่มีเพียงรูปถ่ายบาสเกตบอลเพียงรูปเดียว เพื่อนในกลุ่มหันมองหน้ากันทันที ยักไหล่ส่งสายตาให้กันทำนองว่าเดี๋ยวก็ได้รู้ว่างานนี้จะออกหัวหรือก้อย เพราะพวกหล่อนก็ต่างได้ยินกิตติศัพท์ความไม่สนใจใครของเดือนสิบมาไม่ต่างกัน บางทีงานนี้ดลญาอาจจะโดนตอกความมั่นใจฝังลงดินก็ได้ ใครเล่าจะรู้
บทจบ ได้ทั้งเกียร์ได้ทั้งเธอดลญายิ้มแห้งเมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วคุณนุ่นคือลูกพี่ลูกน้องของธนิน หญิงสาวตีไหล่คนรักเนื่องจากถูกปล่อยให้คิดไปเองอยู่พักใหญ่ ถ้าไม่เกิดเรื่องงอนตุ๊บป่องเมื่อสัปดาห์ก่อนหล่อนก็ยังไม่รู้ว่านุ่นคือใคร แล้วที่เคยสังสรรค์จนกลับบ้านดึกดื่นนั่นก็เพราะธนินขอร้องให้อยู่ต่อ “พี่เท็นก็ไม่บอกเดียร์” “ถ้าบอกก็ไม่รู้สิว่าแฟนหึง” คนพี่ยิ้มกริ่ม เดี๋ยวนี้เดือนสิบชักร้าย เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม เจ้าเล่ห์ขึ้น พูดเก่งขึ้น และทำรักมากขึ้น ความต้องการมีไม่สิ้นสุด หล่อนระทดร
“ยังไง บอกฉันมาสิ” หากคนที่บอกจะชดใช้กลับส่ายศีรษะไปมา หล่อนเองก็ไม่รู้เช่นกัน“ระ…หรือพี่เท็น” ก้อนบางอย่างจุกอยู่กลางอกไปจนถึงลำคอ ดลญาพูดต่อไม่ออก แต่พยายามเอื้อนเอ่ยทั้งที่เจ็บไปทั้งใจกับข้อเสนอที่ตนเองได้เอ่ยออกไป“อยากให้เดียร์ไปให้พ้น ๆ” ประโยคนั้นเบาเสียจนต้องเงี่ยหูฟัง ร่างสูงมองมือเล็ก เมื่อมีอาการประหม่าดลญามักจะจิกเล็บลงบนอุ้งมือ“แล้วเธออยากไปให้พ้น ๆ ฉันไหมล่ะ?” คำตอบคือการส่ายหน้ารัว ๆ“งั้นก็อยู่”“คะ?!” ใจดลญาเต้นแรง แหงนหน้ามองคนพี่ที่ส่งสายตาทอประกายมาให้“ฉันเพิ่งรู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่เคยลืมยัยตัวแสบเจ้าแผนการจอมหลอกลวงได้เลย” คราวนี้เป็นดวงตากลมโ
บทที่ 19 ในใจมีเพียงเธอไหล่กว้างไหวสั่นแรงขึ้นขณะปิดหน้าร้องไห้หน้าห้องฉุกเฉิน เป็นเวลาเกือบชั่วโมงแล้วที่ร่างไร้สติของดลญาอยู่หลังประตูบานนั้น เดือนสิบโทรหาบิดาและธนินด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พูดไม่ได้ศัพท์จนบิดาต้องบอกให้ใจเย็นจะรีบไปหาส่วนธนินติดธุระอยู่ต่างจังหวัดแต่จะรีบมาทันทีที่เสร็จงาน ดวงตาคมแดงก่ำน้ำตาไหลพรากมองสิ่งที่อยู่ในมือ ‘สร้อยเกียร์วิศวะ’ ดลญายอมทิ้งชีวิตเพื่อเจ้าสิ่งนี้ทั้ง ๆ ที่มันแสนไร้ค่า เดือนสิบลูบหน้าแรง ๆ เสยผมขึ้น ส่ายศีรษะไปมา ในหัวมันขาวโพลนตอนที่ลากร่างไร้สติขึ้นมาบนฝั่ง ตะโกนเรียกหล่อน ไม่มีเสียงตอบกลับยิ่งทำให้ลนลาน แทบคลั่งเมื่อเห็นว่าในมือหล่อนกำอะไรอยู่ มือเล็กกำมันแน่นไม่ปล่อยจนเธอต้องใช้แรงง้างนิ้วทั้งห้าให้ปล่อยไม่นานคุณดนัยก็ถึงโรงพยาบาล เดือนสิบโผเข้ากอดท่านทันที ร่ำไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเมื่อครั้งที่รู้ความจริงเกี่ยวกับดลญา ช่วงนั้นบุตรสาวท่านเป็นบ้าไปเลย ไม่กินและไม่นอนเอาแต่ร้องไห้ กว่าจะกลับมาเป็นปกติ
เรื่องซุบซิบความสัมพันธ์ของคนในโรงงานมีมากมายนับไม่ถ้วน คบคนนี้ เลิกคนนั้น เป็นชู้ ลักลอบได้เสียกัน ดลญาอยู่นานจนเริ่มชินชากับเรื่องพวกนี้ หล่อนปรับตัวเข้ากับสังคมได้แล้วแม้จะไม่ได้มีเพื่อนสนิทเลยสักคนก็เถอะ การอยู่ลำพังนั้นไม่ได้แย่อย่างที่คิด เพียงแต่ไม่มีคนไว้คอยพูดคุยปรึกษาก็เท่านั้น ดลญาไม่ใคร่สนใจผู้ใด หล่อนทำงานของตนเองให้เสร็จลุล่วงไปวัน ๆ ทว่าก็ต้องมีเรื่องราวให้ปวดเศียรเวียนเกล้าอีกครั้ง คู่อริเก่าอย่างนวลตาเริ่มเข้ามาหาเรื่องอีกครั้ง เนื่องมาจากแฟนเก่านวลตามาจีบดลญา หล่อนบอกปฏิเสธฝ่ายนั้นไปแล้วแต่ชายหนุ่มยังดื้อด้านตามรังควานไม่เลิก“แรด!” ดลญากลอกตา ก้นหย่อนลงเก้าอี้ทำงานไม่ถึงสามวินาทีก็ถูกด่ากระทบกระเทียบ หล่อนทำเฉยเหมือนไม่ได้ยิน หากอีกฝ่ายกลับเดินมาชนไหล่จนเกือบตกเก้าอี้ ดลญาถอนหายใจแรง ๆ ถึงชินกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ อิจฉาริษยา แต่หล่อนก็เบื่อ ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้ไปยุ่งกับใครกลับโดนเกลียดเสียอย่างนั้น&n
บทที่ 18 สถานะที่ไม่ชัดเจนคุณดนัยและเดือนสิบเลือกใช้สวนหย่อมแทนการพูดคุยในห้อง ผู้มากอายุกว่ากระชับกรอบแว่นมองบุตรสาวนิ่ง ๆ เดือนสิบเองเหมือนเด็กที่ถูกจับได้ว่าทำผิดจึงเอาแต่ก้มหน้าประสานมืออยู่กลางลำตัว“กลับมาคบกันเหรอ?” คำถามของผู้เป็นพ่อยิงตรงเข้าประเด็น ไม่อ้อมค้อม“เปล่าค่ะ” คำตอบของบุตรสาวทำให้คิ้วเข้มต้นฉบับขมวด“ไม่คบแล้วหนูคนนั้นมาอยู่ในห้องแกได้ไง?”“เอ่อ…” เดือนสิบเล่าเหตุการณ์คร่าว ๆ ถึงสาเหตุที่ดลญาต้องมาอยู่กับเธอ ท่านนั่งเงียบฟังไม่ปริปากเอ่ยขัดจังหวะจนจบ“เรื่องบนเตียงไม่เกี่ยวกับว่าคบกันหรือไม่คบสินะ”“ไม่
วันหยุดสุดสัปดาห์เดือนสิบมีนัดกับธนินเนื่องจากไม่ได้เจอกันนานแล้วด้วยภาระหน้าที่ที่ต้องทำ“มึงว่าอะไรนะ?! ตอนนี้น้องเดียร์อยู่คอนโดฯ มึงเหรอ?” สีหน้าและท่าทาของธนินดูตกใจกับสารใหม่ที่เพิ่งได้รู้ ชายหนุ่มหรี่ตามองเพื่อนที่ยังคงหน้านิ่งจิบเบียร์และหยิบถั่วเข้าปาก“น้องเดียร์ก็แปลก เป็นคุณหนูดี ๆ ไม่ชอบ อยากตกระกำลำบากมาเป็นสาวโรงงาน กูล่ะงงจริง” ธนินเกาหัวแกรก ๆ เมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากเพื่อนสนิท