รถกระบะกลางเก่ากลางใหม่เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าสถานบันเทิง พนักงานดูแลความปลอดภัยต่างกรูเข้ามาใกล้ด้วยเหตุจากสภาพรถยนต์และคนขับดูไม่ใช่ลูกค้ามีระดับอย่างที่เคยเข้าใช้บริการ ร่างสูงในชุดเสื้อยืดขาวสวมทับด้วยเชิ้ตสีดำแขนยาว กางเกงยีนและรองเท้ากีฬาสภาพเขรอะไปด้วยฝุ่นกำลังเลิกคิ้วมองเหล่าชายฉกรรจ์สองสามคนตรงหน้า
“น้องมาผิดที่หรือเปล่า?” หนึ่งในนั้นถามขึ้น มองอีกฝ่ายศีรษะจดปลายเท้า
“ทำไม?” น้ำเสียงติดห้วนทำให้คนถามขมวดคิ้ว เจ้าของรถกระบะสะบัดปลายเสื้อเชิ้ตไหวไหล่เล็กน้อย ก่อนเบี่ยงตัวเดินเลี่ยงไปยังทางเข้า แต่กลับถูกพนักงานกลุ่มนั้นตามมารั้งแขนไว้
“เฮ้ย!” นั่นคือเสียงของเดือนสิบ หญิงสาวมองมือคล้ำของอีกฝ่าย สีหน้าแสดงความไม่พอใจชัดเจน
“จะออกไปดี ๆ หรือ…”
“ทำอะไรวะ?” ใครสักคนร้องทักเสียงดัง กลุ่มชายฉกรรจ์ถอยห่างเพราะนั่นคือปวินเจ้าของร้าน
“น้องผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ลูกค้าของเราครับคุณวิน” หัวคิ้วปวินขมวดปม
“นี่น้องกูเอง บ้านมันรวยกว่ากูอีก แต่ชอบทำตัวยาจก” ปวินหัวเราะพร้อม ๆ กับพนักงานดูแลความปลอดภัยโค้งขอโทษขอโพยเดือนสิบ ซึ่งหญิงสาวไม่ถือสาและไม่ใส่ใจ แขนล่ำคว้าคอเดือนสิบแล้วลากเจ้าตัวเข้าไปด้านใน เสียงอึกทึกครึกโครมดังจนต้องตะโกนคุยกัน เดือนสิบพยายามเบี่ยงตัวหนีปวิน เริ่มรำคาญเพราะชายหนุ่มเกาะไหล่ไม่เลิก มองไปด้านหน้าก็เห็นธนินยืนสูบบุหรี่และเต้นอยู่ที่โต๊ะ
“วันนี้ลงบิลกู” ปวินบอก เนื่องจากนานมากแล้วที่เดือนสิบไม่ได้มาที่ร้านของเขา ชายหนุ่มเป็นรุ่นพี่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ทว่าเรียนไม่จบ อาศัยฐานะทางบ้านจึงเปิดสถานบันเทิงแห่งนี้มาได้สามปีแล้ว รู้จักเดือนสิบตั้งแต่ปีหนึ่งเพราะเคยอยู่ชมรมบาสเกตบอลด้วยกันมาก่อน ปวินนั้นอยากสนิทกับเดือนสิบ แต่พอรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใคร่ในผู้ชายจึงถอยห่างและวางตัวเป็นรุ่นพี่ที่จำเป็นต้องดีมาตลอด
“ข้างบนมีห้องวีไอพีนะ มึงจะสอยใครก็บอกกู” ปวินตะโกนบอกหัวเราะเสียงดังแต่ถูกเสียงเพลงกลบเสียมิด เดือนสิบส่ายหน้าระอาพลางถอนหายใจ หญิงสาวแค่มาตามคำชวนของธนินเท่านั้น ไม่คิดจะสานสัมพันธ์กับใครหน้าไหนในคืนนี้ เดินไปหาธนินที่ดูเหมือนจะสนุกจนลืมเพื่อนฝูง
ทักทายกันแล้วเดือนสิบก็นั่งจิบเครื่องดื่มที่เพื่อนยื่นมาให้ด้วยใบหน้าเรียบเฉยอย่างเคย โดยที่มุมหนึ่งของผับมีกลุ่มของดลญานั่งอยู่ เดือนสิบเป็นจุดสนใจตั้งแต่ก้าวเข้ามาในผับ ด้วยร่างที่สูงและไหล่ที่กว้างกว่าผู้หญิงทั่วไป ท่าทางที่ดูไม่ยินดียินร้ายเรียกความสนใจจากดลญาเป็นอย่างดี หล่อนจับปลายผมสางเล่นขณะมองหญิงสาว คาดหวังให้อีกฝ่ายหันมามอง ทว่าเดือนสิบกลับเอาแต่นั่งเฉยไม่สนผู้ใด
“เฮ้ย ไอ้เท็น น้องจิ๊บกับน้องเดียร์มองมึงตาเป็นมันเลยว่ะ” ธนินโน้มตัวเข้ามาพูดข้างหู เดือนสิบชักสีหน้าเอียงใบหน้าออกเพราะเหม็นเหล้าหึ่ง ทว่ากลับปรายตาไปยังที่ทั้งสองสาวนั่งอยู่ ซึ่งอยู่คนละมุมเสมือนคู่ชกฝั่งน้ำเงินและแดง เพียงแต่ไม่ได้ใช้หมัดในการต่อสู้ แต่ใช้สายตาในการห้ำหั่นกัน
“มึงเลือกใครวะ คนหนึ่งก็วัวเคยค้าม้าเคยขี่ ส่วนอีกคนก็ของใหม่ แต่ถ้าถามกูนะ กูเลือกน้องเดียร์ว่ะ เห็นว่าหยิ่งฉิบหาย แต่มองมึงตาไม่วางแบบนี้แม่งน่าจะจัดให้สักดอก” เดือนสิบถอนหายใจกระแทกไหล่ใส่ไอ้คนปากปีจอ ไม่สนใจสิ่งที่เพื่อนพูด
“อีกครึ่งชั่วโมงกูกลับ”
“เฮ้ย!” พอธนินร้องขึ้นเขาก็พูดไม่หยุดจนเดือนสิบได้แต่ส่ายหน้า พยายามไม่สนใจทั้งเพื่อนสนิทและสายตาของใครหลายคนที่กำลังมองมาที่ตนเองเป็นจุดเดียว เดือนสิบแทบไม่สังสรรค์กับใครเลย การได้เห็นหญิงสาวในค่ำคืนนี้เป็นสิ่งที่ถือว่ามหัศจรรย์สำหรับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
ทางด้านกลุ่มของดลญา นั่งนับเวลารอคอยให้เดือนสิบหันมาทางพวกหล่อนสักที แต่จนแล้วจนรอดเดือนสิบก็ไม่แม้แต่จะชายตาแล จนดลญานึกโมโห หล่อนอุตส่าห์แต่งองค์ทรงเครื่องมาเป็นพิเศษเพื่อหวังให้รุ่นพี่สาวสนใจ
“พี่เท็นแม่งไม่สนใจใครจริง ๆ ด้วย แกดูดิ ยัยจิ๊บจ้องตาเป็นมันเลย” อีกฟากมีกลุ่มของเบญจานั่งอยู่ ซึ่งรายนั้นก็เอาแต่จ้องมองเดือนสิบตาไม่กะพริบ ก่อนที่หล่อนจะลุกเดินอาด ๆ เข้าไปหารุ่นพี่สาว
“ยัยจิ๊บเดินเข้าไปทำคะแนนแล้วว่ะ หรือคืนนี้ถ่านไฟเก่าจะคุ” จิราวรรณยิ้มเยาะ เหล่มองเพื่อนที่ยังนั่งกอดอกเชิดคออยู่ แต่ดูเหมือนเบญจาจะทำได้แค่ทักทายเดือนสิบเท่านั้น เพราะหล่อนเดินกระฟัดกระเฟียดกลับไปยังโต๊ะของตนเองแล้ว ดลญาหรี่ตาลงจัดการชุดเกาะอกให้เลื่อนต่ำหวังเผยเนินเนื้อที่มารดาให้มาอย่างตั้งใจ
“พวกแกคอยดูฉันแล้วกัน” ดลญามั่นใจว่าคืนนี้คนที่ทำให้เดือนสิบสนใจต้องเป็นหล่อนเพียงผู้เดียว หญิงสาวลุกจากที่นั่งสาวเท้าไปยังเป้าหมาย แม้คนในผับจะมากมายทว่าเมื่อร่างเพรียวที่มีหน้าอกหน้าใจใหญ่โต ทั้งสะโพกผายโยกย้ายซ้ายขวานั้นสามารถดึงสายตาจากทุกคู่ให้มองมาที่หล่อนได้ไม่ยาก คงเว้นไว้เพียงคนเดียว นั่นคือคนที่เอาแต่นั่งหน้านิ่ง กอดอกทำหน้าเบื่อโลก
“สวัสดีค่ะ” ดลญาเปล่งเสียงที่ดังกว่าปกติ ครั้งแรกไม่มีการตอบรับจากคนตรงหน้า ธนินที่นั่งอยู่ข้างเดือนสิบทำเพียงส่งยิ้มแห้ง ๆ มาให้ พอหันไปมองกลุ่มเพื่อนก็พบกับสายตาที่แสดงถึงการดูถูกและเหยียดหยามมาให้ คล้ายกับคาดเดาไว้แล้วว่าหล่อนจะต้องลงเอยไม่ต่างจากเบญจา ซึ่งดลญาไม่มีทางให้มันเป็นเช่นนั้นแน่
“พี่เท็น!” ปลายนิ้วเรียวสะกิดไหล่กว้างพร้อมเปล่งเสียงดังขึ้นกว่าเดิม เดือนสิบรู้สึกตัวแล้วเงยหน้ามอง ดลญาปั้นยิ้ม ทว่ามันต้องหุบลงในเวลาเพียงเสี้ยววินาที เพราะอีกฝ่ายก้มหน้าลงสนใจมือถือมากกว่าหล่อน คนที่ไม่เคยถูกใครปฏิเสธและเป็นที่หนึ่งมาตลอดชักสีหน้า หล่อนถือวิสาสะนั่งลงข้างกายรุ่นพี่สาวโดยไม่สนใจสายตาของอีกฝ่ายที่กำลังเลิกคิ้วมอง และมันคงมากเกินไปจนทำให้เดือนสิบถึงกับแสดงอาการไม่พอใจ เมื่อแขนถูกฉกชิงเข้าไปกอดโดยไม่ได้รับอนุญาต
บทจบ ได้ทั้งเกียร์ได้ทั้งเธอดลญายิ้มแห้งเมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วคุณนุ่นคือลูกพี่ลูกน้องของธนิน หญิงสาวตีไหล่คนรักเนื่องจากถูกปล่อยให้คิดไปเองอยู่พักใหญ่ ถ้าไม่เกิดเรื่องงอนตุ๊บป่องเมื่อสัปดาห์ก่อนหล่อนก็ยังไม่รู้ว่านุ่นคือใคร แล้วที่เคยสังสรรค์จนกลับบ้านดึกดื่นนั่นก็เพราะธนินขอร้องให้อยู่ต่อ “พี่เท็นก็ไม่บอกเดียร์” “ถ้าบอกก็ไม่รู้สิว่าแฟนหึง” คนพี่ยิ้มกริ่ม เดี๋ยวนี้เดือนสิบชักร้าย เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม เจ้าเล่ห์ขึ้น พูดเก่งขึ้น และทำรักมากขึ้น ความต้องการมีไม่สิ้นสุด หล่อนระทดร
“ยังไง บอกฉันมาสิ” หากคนที่บอกจะชดใช้กลับส่ายศีรษะไปมา หล่อนเองก็ไม่รู้เช่นกัน“ระ…หรือพี่เท็น” ก้อนบางอย่างจุกอยู่กลางอกไปจนถึงลำคอ ดลญาพูดต่อไม่ออก แต่พยายามเอื้อนเอ่ยทั้งที่เจ็บไปทั้งใจกับข้อเสนอที่ตนเองได้เอ่ยออกไป“อยากให้เดียร์ไปให้พ้น ๆ” ประโยคนั้นเบาเสียจนต้องเงี่ยหูฟัง ร่างสูงมองมือเล็ก เมื่อมีอาการประหม่าดลญามักจะจิกเล็บลงบนอุ้งมือ“แล้วเธออยากไปให้พ้น ๆ ฉันไหมล่ะ?” คำตอบคือการส่ายหน้ารัว ๆ“งั้นก็อยู่”“คะ?!” ใจดลญาเต้นแรง แหงนหน้ามองคนพี่ที่ส่งสายตาทอประกายมาให้“ฉันเพิ่งรู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่เคยลืมยัยตัวแสบเจ้าแผนการจอมหลอกลวงได้เลย” คราวนี้เป็นดวงตากลมโ
บทที่ 19 ในใจมีเพียงเธอไหล่กว้างไหวสั่นแรงขึ้นขณะปิดหน้าร้องไห้หน้าห้องฉุกเฉิน เป็นเวลาเกือบชั่วโมงแล้วที่ร่างไร้สติของดลญาอยู่หลังประตูบานนั้น เดือนสิบโทรหาบิดาและธนินด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พูดไม่ได้ศัพท์จนบิดาต้องบอกให้ใจเย็นจะรีบไปหาส่วนธนินติดธุระอยู่ต่างจังหวัดแต่จะรีบมาทันทีที่เสร็จงาน ดวงตาคมแดงก่ำน้ำตาไหลพรากมองสิ่งที่อยู่ในมือ ‘สร้อยเกียร์วิศวะ’ ดลญายอมทิ้งชีวิตเพื่อเจ้าสิ่งนี้ทั้ง ๆ ที่มันแสนไร้ค่า เดือนสิบลูบหน้าแรง ๆ เสยผมขึ้น ส่ายศีรษะไปมา ในหัวมันขาวโพลนตอนที่ลากร่างไร้สติขึ้นมาบนฝั่ง ตะโกนเรียกหล่อน ไม่มีเสียงตอบกลับยิ่งทำให้ลนลาน แทบคลั่งเมื่อเห็นว่าในมือหล่อนกำอะไรอยู่ มือเล็กกำมันแน่นไม่ปล่อยจนเธอต้องใช้แรงง้างนิ้วทั้งห้าให้ปล่อยไม่นานคุณดนัยก็ถึงโรงพยาบาล เดือนสิบโผเข้ากอดท่านทันที ร่ำไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเมื่อครั้งที่รู้ความจริงเกี่ยวกับดลญา ช่วงนั้นบุตรสาวท่านเป็นบ้าไปเลย ไม่กินและไม่นอนเอาแต่ร้องไห้ กว่าจะกลับมาเป็นปกติ
เรื่องซุบซิบความสัมพันธ์ของคนในโรงงานมีมากมายนับไม่ถ้วน คบคนนี้ เลิกคนนั้น เป็นชู้ ลักลอบได้เสียกัน ดลญาอยู่นานจนเริ่มชินชากับเรื่องพวกนี้ หล่อนปรับตัวเข้ากับสังคมได้แล้วแม้จะไม่ได้มีเพื่อนสนิทเลยสักคนก็เถอะ การอยู่ลำพังนั้นไม่ได้แย่อย่างที่คิด เพียงแต่ไม่มีคนไว้คอยพูดคุยปรึกษาก็เท่านั้น ดลญาไม่ใคร่สนใจผู้ใด หล่อนทำงานของตนเองให้เสร็จลุล่วงไปวัน ๆ ทว่าก็ต้องมีเรื่องราวให้ปวดเศียรเวียนเกล้าอีกครั้ง คู่อริเก่าอย่างนวลตาเริ่มเข้ามาหาเรื่องอีกครั้ง เนื่องมาจากแฟนเก่านวลตามาจีบดลญา หล่อนบอกปฏิเสธฝ่ายนั้นไปแล้วแต่ชายหนุ่มยังดื้อด้านตามรังควานไม่เลิก“แรด!” ดลญากลอกตา ก้นหย่อนลงเก้าอี้ทำงานไม่ถึงสามวินาทีก็ถูกด่ากระทบกระเทียบ หล่อนทำเฉยเหมือนไม่ได้ยิน หากอีกฝ่ายกลับเดินมาชนไหล่จนเกือบตกเก้าอี้ ดลญาถอนหายใจแรง ๆ ถึงชินกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ อิจฉาริษยา แต่หล่อนก็เบื่อ ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้ไปยุ่งกับใครกลับโดนเกลียดเสียอย่างนั้น&n
บทที่ 18 สถานะที่ไม่ชัดเจนคุณดนัยและเดือนสิบเลือกใช้สวนหย่อมแทนการพูดคุยในห้อง ผู้มากอายุกว่ากระชับกรอบแว่นมองบุตรสาวนิ่ง ๆ เดือนสิบเองเหมือนเด็กที่ถูกจับได้ว่าทำผิดจึงเอาแต่ก้มหน้าประสานมืออยู่กลางลำตัว“กลับมาคบกันเหรอ?” คำถามของผู้เป็นพ่อยิงตรงเข้าประเด็น ไม่อ้อมค้อม“เปล่าค่ะ” คำตอบของบุตรสาวทำให้คิ้วเข้มต้นฉบับขมวด“ไม่คบแล้วหนูคนนั้นมาอยู่ในห้องแกได้ไง?”“เอ่อ…” เดือนสิบเล่าเหตุการณ์คร่าว ๆ ถึงสาเหตุที่ดลญาต้องมาอยู่กับเธอ ท่านนั่งเงียบฟังไม่ปริปากเอ่ยขัดจังหวะจนจบ“เรื่องบนเตียงไม่เกี่ยวกับว่าคบกันหรือไม่คบสินะ”“ไม่
วันหยุดสุดสัปดาห์เดือนสิบมีนัดกับธนินเนื่องจากไม่ได้เจอกันนานแล้วด้วยภาระหน้าที่ที่ต้องทำ“มึงว่าอะไรนะ?! ตอนนี้น้องเดียร์อยู่คอนโดฯ มึงเหรอ?” สีหน้าและท่าทาของธนินดูตกใจกับสารใหม่ที่เพิ่งได้รู้ ชายหนุ่มหรี่ตามองเพื่อนที่ยังคงหน้านิ่งจิบเบียร์และหยิบถั่วเข้าปาก“น้องเดียร์ก็แปลก เป็นคุณหนูดี ๆ ไม่ชอบ อยากตกระกำลำบากมาเป็นสาวโรงงาน กูล่ะงงจริง” ธนินเกาหัวแกรก ๆ เมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากเพื่อนสนิท