Share

บทที่ 13 หาคน

Penulis: Just W.
last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-03 10:04:20

หลังจากที่ส่งมอบที่ตากเนื้อแห้งล็อตสุดท้ายให้แก่ลุงเพิ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สายเมฆกับรุจน์ก็พากันนำตัวอย่างสินค้าชุดใหม่สำหรับเจ๊จวงไปให้ดูที่ตลาดในเมืองทันที ส่วนทางด้านศจีที่อยู่บ้านก็เริ่มภารกิจสำคัญ นั่นคือการพยายามหาคนที่ไว้ใจได้และมีฝีมือดีมาช่วยงานที่ตากเนื้อแห้งตามแผนที่สายเมฆวางไว้

ขณะที่ศจีกำลังครุ่นคิดและกลุ้มใจว่าจะไปหาใครที่เหมาะสมได้จากที่ไหน ทันใดนั้น เจ้าธง หลานชายของป้าแจ่ม ก็เดินแบกถังใส่ข้าวสารใบใหญ่มาที่บ้าน ศีรษะมีเหงื่อซึมตามไรผม บ่งบอกถึงความเหนื่อยล้า ข้าวสารในถังนั้นคือค่าตอบแทนที่สายเมฆช่วยเข็นข้าวเปลือกไปสีที่โรงสีเมื่อหลายวันก่อน ศจีมองเห็นเจ้าธงแล้วก็อดชื่นชมไม่ได้ เด็กหนุ่มคนนี้ดูมีหน่วยก้านดี ร่างกายแข็งแรง และเป็นคนขยันขันแข็ง เธอจึงตัดสินใจเอ่ยถามขึ้น

“เจ้าธง... ระหว่างรอเกี่ยวข้าวที่นา มีอะไรทำรึเปล่าลูก?”

เจ้าธงยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบ 32 ซี่ พลางเกาหัวอย่างเขิน ๆ “ก็ว่าจะเข้าไปหางานรับจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเมืองจ้ะน้า อยู่ที่บ้านก็ไม่มีงานอะไรทำ ว่าง ๆ ก็เบื่อเหมือนกัน”

ศจีจึงถือโอกาสนี้ชวนทันที “พอดีเลย... บ้านน้ากำลังต้องการคนช่วย น้าต้องทำที่ตากเนื้อแห้งส่งตลาดในเมือง ลำพังครอบครัวน้าคงทำไม่ทันแน่ ๆ สนใจจะมาทำกับน้ารึเปล่าจ๊ะ? ค่าจ้างอาจจะไม่เท่ากับที่เข้าไปรับจ้างในเมืองนัก แต่ถ้าร้านของเราทำสินค้าขายได้ดี ก็จะได้ส่วนแบ่งเพิ่มอีกต่างหากนะ”

เมื่อเจ้าธงได้ยินว่ามีงานทำ เขาก็ดีใจจนแทบเก็บอาการไม่อยู่ ใบหน้าฉายแววความตื่นเต้นอย่างชัดเจน เขารีบกล่าวขอบคุณศจีเสียงดังฟังชัด ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปที่บ้านทันที เพื่อนำข่าวดีนี้ไปบอกกับครอบครัวของเขา

พอถึงตอนบ่ายแก่ ๆ สายเมฆและรุจน์ก็กลับมาถึงบ้านหลังจากเสร็จธุระที่ตลาดในเมือง พวกเขาเดินเข้ามาพร้อมกับใบสั่งของแผ่นใหญ่ที่พับไว้อย่างดี รุจน์ยื่นมันให้กับข้าวหอม

“โอ้โห! สั่งขนาดละห้าร้อยชิ้นเลยนะเนี่ย!” ข้าวหอมอุทานเสียงดัง ดวงตากวาดมองรายละเอียดบนกระดาษ “มีสามขนาดก็พันห้าร้อยชิ้นเลยสิ กำหนดส่งของห้าครั้ง ครั้งละสามร้อยชิ้น กำหนดส่งของครั้งแรกอีกแค่สองอาทิตย์เอง!” เธอคำนวณตัวเลขในหัวคร่าว ๆ อย่างรวดเร็ว คาดการณ์ว่ากำไรที่พวกเขาจะได้รับต่อรอบน่าจะอยู่ที่ประมาณเกือบสามพันบาท ซึ่งถือเป็นจำนวนมหาศาลสำหรับพวกเขาในตอนนี้

“ว่าแต่คุณป้าหาคนที่ไว้ใจได้มาช่วยงานแล้วหรือยังครับ?” สายเมฆหันไปถามศจีด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“มีแล้วคนนึงล่ะ” ศจีตอบพลางยิ้มเล็กน้อย “เจ้าธงหลานป้าแจ่มน่ะ มันดูขยันขันแข็งดี เชื่อมือได้เลย แต่คนอื่นยังหาไม่เจอเลยลูก”

ขณะที่ทุกคนกำลังสนทนากันอย่างออกรสอยู่นั้น เสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้นจากหน้าบ้าน ป้าแจ่ม ซึ่งเป็นหญิงชราที่มักจะมีเรื่องให้ชาวบ้านประหลาดใจอยู่เสมอ ก็เดินลากตัวเจ้าธงเข้ามาที่บ้านพอดี ใบหน้าของป้าแจ่มดูจริงจัง ผิดกับเจ้าธงที่ดูหงอยลงไปถนัดตา

“ตารุจน์!” ป้าแจ่มเอ่ยเรียกเสียงดังฟังชัด “ไอ้เจ้าธงนี่มันบอกว่าแกมีงานให้มันทำใช่ไหม? หรือมันแค่ไม่อยากไปทำงานในเมืองก็เลยเอาชื่อพวกแกมาอ้างน่ะ?” ป้าแจ่มถามด้วยความไม่แน่ใจว่าหลานชายตัวดีของตนได้รับข้อเสนอเรื่องงานจริง ๆ หรือแค่ขี้เกียจออกไปหางานทำไกลบ้านกันแน่

“จริงจ้ะป้า” รุจน์ตอบป้าแจ่มด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเป็นการยืนยัน ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้สายเมฆรับหน้าที่อธิบาย สายเมฆจึงเล่ารายละเอียดข้อตกลงกับเจ๊จวง และแผนการผลิตที่ตากเนื้อแห้งจำนวนมหาศาลให้ป้าแจ่มฟังอย่างใจเย็น เมื่อฟังจบ ป้าแจ่มก็ยิ้มแก้มปริด้วยความดีอกดีใจ “โอ๊ย! ดีใจด้วยนะตารุจน์! อย่างงี้ก็รวยเละเทะกันเลยสิ!”

หลังจากความกังวลแรกคลี่คลาย ศจีก็ถือโอกาสเอ่ยถามป้าแจ่มเรื่องคนที่จะมาช่วยงานเพิ่มเติม ใบหน้าของเธอดูจริงจัง “ป้าแจ่มจ้ะ... พอจะมีใครแนะนำบ้างไหมคะ? ฉันอยากได้คนที่ซื่อสัตย์ ไว้ใจได้ และที่สำคัญคือต้องตั้งใจทำงาน ไม่เกียจคร้านน่ะค่ะ”

ป้าแจ่มนั่งคิดทบทวนอยู่พักใหญ่ คิ้วขมวดเล็กน้อย ก่อนที่ดวงตาของเธอจะเบิกกว้างขึ้นเมื่อนึกถึงใครบางคนได้ “หนูแก้วไงจ๊ะ! ลูกสาวลุงเพิ่มเจ้าของร้านชำนั่นแหละ!”

ศจีและรุจน์มองหน้ากันเล็กน้อย เพราะต่างรู้จัก แก้ว ดีในฐานะลูกสาวที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง

“เห็นนางเป็นอย่างนั้นนะ ศจี” ป้าแจ่มกล่าวต่อเมื่อเห็นสีหน้าสงสัยของทั้งคู่ “นางทำงานเก่งนะลูก ขยันขันแข็ง ทำงานละเอียดเรียบร้อยทุกอย่างนั่นแหละ เพียงแต่งานร้านชำมันหนัก ต้องยกของเยอะแยะ นางเลยไม่ค่อยได้ช่วยพ่อมากเท่าไหร่” ป้าแจ่มพูดถึงแก้วที่ขาไม่ค่อยมีแรงนักจากการเป็นโปลิโอ ทำให้กล้ามเนื้อขาไม่สามารถช่วยลุงเพิ่มในร้านชำได้เต็มที่เหมือนคนปกติ แก้วเคยเรียนชั้นเดียวกับเจ้าธง เลยรู้จักกับป้าแจ่มเป็นอย่างดี และทุกครั้งที่ป้าแจ่มไปที่ร้าน ก็จะสังเกตเห็นแก้วดูท่าทางเงียบเหงาและไม่สบายใจ ที่ไม่สามารถทำอะไรได้เต็มที่เหมือนคนอื่น

ข้าวหอมที่นั่งฟังอยู่ด้วยตลอด ได้ยินเรื่องราวของแก้วแล้วก็รู้สึกเห็นใจอย่างมาก เธอจินตนาการถึงความรู้สึกของแก้วที่อยากทำงานแต่มีข้อจำกัดทางร่างกาย ‘คงรู้สึกไม่ดีน่าดูเลยสินะ’ ความคิดที่จะช่วยเหลือให้แก้วได้มีโอกาสพิสูจน์คุณค่าในตัวเองผุดขึ้นมาในใจ

“คุณป้าคะ” ข้าวหอมเอ่ยเรียกป้าแจ่ม “งั้นรบกวนคุณป้าไปพูดกับลุงเพิ่ม แล้วก็ถามความสมัครใจของแก้วให้หน่อยได้ไหมคะ? หนูว่างานที่ตากเนื้อแห้งน่าจะเหมาะกับแก้วนะคะ ไม่ต้องใช้แรงมาก แต่เน้นความละเอียดประณีต”

สายเมฆพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของข้าวหอม เขามองข้าวหอมด้วยแววตาชื่นชมในความมีน้ำใจของเธอ

เมื่อทุกคนได้ข้อสรุปเรื่องแก้วแล้ว เจ้าธงที่นั่งฟังมาตลอดก็เอ่ยขึ้นมาด้วยความลังเลเล็กน้อย “แล้ว... ถ้าผมจะแนะนำเพื่อนผมอีกคนมาช่วยด้วยได้ไหมครับ? เขาก็ต้องไปหางานในเมืองพร้อมกับผมอยู่แล้ว เพื่อนผมคนนี้ชื่อ แซม เป็นลูกครึ่งครับ แต่พ่อทิ้งไปตั้งแต่ยังแบเบาะ ตั้งแต่จำความได้ก็อยู่กับแม่สองคนมาตลอดเลย”

ป้าแจ่มแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยทันที สีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย “เพื่อนแกจะไว้ใจได้เรอะ? เดี๋ยวจะเป็นคนเหลวไหล ทำหนูข้าวหอมเสียการเสียงานเปล่า ๆ นะเจ้าธง!”

“ไม่หรอกครับป้า!” เจ้าธงรีบยืนยันเสียงหนักแน่น “แซมมันเป็นคนดีจริง ๆ ครับป้า ขยัน ตั้งใจทำงาน เขาก็อยากมีงานทำที่มั่นคงเหมือนกัน” เจ้าธงพยายามอธิบายอย่างเต็มที่ “ที่ผมอยากให้แซมมาทำที่นี่ก็เพราะเขาเคยปรับทุกข์กับผมว่า ไม่ค่อยอยากไปทำงานในเมืองไกล ๆ เท่าไหร่ เพราะกลัวจะทิ้งให้แม่อยู่บ้านคนเดียว ไม่มีใครดูแลน่ะครับ”

ศจีฟังแล้วก็รู้สึกเห็นใจในสถานการณ์ของแซม เธอเข้าใจดีถึงความรู้สึกเป็นห่วงคนในครอบครัว “ถ้าอย่างนั้นก็เอาสิเจ้าธง” ศจีตัดสินใจรับปาก “แล้วถ้าแม่ของแซมสนใจอยากมาช่วยงานด้วยก็ให้มาด้วยก็ได้นะจ๊ะ” น้ำเสียงของศจีเต็มไปด้วยความเมตตา

เมื่อได้กำหนดจำนวนและรายชื่อผู้ช่วยคนใหม่แล้ว ศจีก็ได้ขอให้ป้าแจ่มกับเจ้าธงไปทาบทามคนที่เลือกไว้ให้ และนัดแนะให้ทุกคนมาเจอกันที่บ้านอีกสามวันข้างหน้า เพื่อพูดคุยรายละเอียดและเริ่มงานกันอย่างจริงจัง เตรียมพร้อมรับมือกับออเดอร์มหาศาลจากเจ๊จวง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • คุณแม่ขา...ขอพรเทวดาทำไม   บทที่ 16 บ้านร้าง

    “ได้ของมาแล้วใช่ไหม? คิดว่าจะทำตามได้ไหม?” ลำดวน ถาม เข้ม ลูกน้องคนสนิทด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงความไม่พอใจ หากคำตอบที่ได้ยินไม่เป็นไปตามที่เธออยากฟัง“ได้มาแล้วครับคุณลำดวน” เข้มตอบรับเสียงหงอย พลางก้มหน้าส่งที่ตากเนื้อแห้งที่ซื้อมาเป็นตัวอย่างให้ลำดวนดูอย่างระมัดระวัง “กำลังให้คนงานลองแกะดูอยู่ครับ ดูแล้วน่าจะทำตามได้ไม่ยากขอรับ”ลำดวนไม่ได้สนใจที่จะมองดูตัวอย่างสินค้านั้นเลยแม้แต่น้อย ดวงตาของเธอยังคงจับจ้องไปเบื้องหน้าอย่างไร้อารมณ์ เธอเพียงแต่กำชับด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “ดี! ทำให้เร็วที่สุด และมากที่สุด! ฉันต้องการให้เสร็จภายในหนึ่งอาทิตย์” ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้เข้มยืนงุนงงอยู่เพียงลำพังเข้มมองตามแผ่นหลังเจ้านายของเขาด้วยความงุนงง ในใจเต็มไปด้วยคำถามมากมาย เดิมทีเขาเป็นคนดูแลกิจการให้กับนายใหญ่ผู้ล่วงลับ ซึ่งก็คือสามีของลำดวน แต่เมื่อนายใหญ่เสียชีวิต มรดกทุกอย่างก็ตกเป็นของลำดวนทั้งหมด เมื่อลำดวนกลับมาที่บ้านเกิดเขาก็ถูกลำดวนเรียกตัวมาใช้งานต่อทันทีครั้งนี้ลำดวนสั่งให้เขาไปสืบมาว่าที่บ้านของรุจน์กำลังจัดงานฉลองอะไร พอรู้ว่ารุจน์เริ่มทำสินค้าส่งให้เจ๊จวงที่ตลา

  • คุณแม่ขา...ขอพรเทวดาทำไม   บทที่ 15 กินเลี้ยงเล็ก ๆ

    วันนี้เป็นวันที่ห้าของการทำงาน เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะยังคงดังก้องอยู่ใต้ถุนบ้าน สินค้าที่ทุกคนช่วยกันทำอย่างขยันขันแข็งก็ใกล้จะครบจำนวนที่ต้องส่งในล็อตแรกแล้ว ข้าวหอมมองเห็นความสำเร็จอยู่รำไร จึงเอ่ยเสนอขึ้นมากลางวง “นี่! หลังจากที่เราส่งสินค้าล็อตแรกให้เจ๊จวงแล้ว พวกเราควรมีการฉลองเล็ก ๆ น้อย ๆ กันไหมคะ? ทำอะไรอร่อย ๆ กินกันตอนเย็น ให้ธงกับแก้วชวนป้าแจ่มกับลุงเพิ่มมาด้วยเลย!”ทุกคนต่างเห็นดีเห็นงามด้วยในทันที ใบหน้าของแต่ละคนเปื้อนยิ้มด้วยความยินดี พร้อมทั้งรับปากว่าจะนำอาหารมาร่วมฉลองด้วยอย่างแน่นอน บรรยากาศของการทำงานในวันนี้จึงเต็มไปด้วยความสุขและความกระตือรือร้น เพราะทุกคนต่างมีเป้าหมายร่วมกัน และอดใจรอช่วงเวลาแห่งการฉลองไม่ไหวเมื่อทำสินค้าชิ้นสุดท้ายจนครบตามจำนวน สายเมฆได้ขอให้ทุกคนช่วยทำเพิ่มอีกขนาดละสามอัน “กันไว้ดีกว่าแก้นะครับ” เขากล่าว “เผื่อมีเสียหายระหว่างขนส่ง หรือมีอันไหนไม่ได้มาตรฐาน จะได้ไม่ต้องกังวล” ทุกคนจึงพร้อมใจกันช่วยทำต่ออย่างไม่ปริปากบ่นเมื่อสินค้าสำรองเสร็จเรียบร้อย รุจน์ก็เล่าแผนการในวันพรุ่งนี้ว่า “พรุ่งนี้พ่อจะไปหาเหมารถสองแถว เพื่อเอาของไปส่งให้เจ๊จ

  • คุณแม่ขา...ขอพรเทวดาทำไม   เพื่อนร่วมงาน

    หลังจากที่ป้าแจ่มและเจ้าธงกลับไปแล้ว รุจน์และสายเมฆก็เริ่มปรึกษาหารือกันเรื่องสถานที่ที่จะใช้เป็นโรงงานผลิตที่ตากเนื้อแห้งชั่วคราว ทั้งคู่เห็นพ้องต้องกันว่า ใต้ถุนบ้าน นี่แหละคือจุดที่เหมาะสมที่สุด ด้วยความที่เป็นใต้ถุนยกสูง ลมพัดโกรกสบาย ทำให้ทำงานได้โดยไม่รู้สึกร้อนอบอ้าวศจีเสนอแนะเพิ่มเติมว่าควรทำห้องเก็บของไว้ใต้ถุนด้วย จะได้ไม่ต้องขนข้าวของขึ้นลงไปเก็บข้างบนให้ยุ่งยาก ข้าวหอมเองก็เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ ทุกคนจึงพร้อมใจกันช่วยปรับปรุงสถานที่และสร้างห้องเก็บของขนาดกะทัดรัดให้เสร็จเรียบร้อย ก่อนที่จะถึงวันนัดหมายสำคัญเมื่อวันนัดมาถึง กลุ่มแรกที่เดินทางมาถึงบ้านข้าวหอมคือ เจ้าธง แซม และสาลี่ผู้เป็นแม่ของแซม ทั้งสามคนดูตื่นเต้นไม่แพ้กัน พวกเขาหิ้วตะกร้าใส่ส้มและกล้วยมาด้วย เพื่อเป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ตอบแทนที่ได้รับโอกาสในการทำงาน เจ้าธงผู้ร่าเริงและเข้ากับคนง่าย รับหน้าที่แนะนำแซมและสาลี่ให้ทุกคนในบ้านรู้จัก แซมดูขัดเขินเล็กน้อย พูดน้อย ไม่ต่างจากสาลี่ผู้เป็นแม่ที่ค่อนข้างจะเรียบร้อยและเงียบเช่นกันศจีผู้มีมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยม ไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปชวนสาลี่คุย เพื่อสร้างความรู้สึกคุ

  • คุณแม่ขา...ขอพรเทวดาทำไม   บทที่ 13 หาคน

    หลังจากที่ส่งมอบที่ตากเนื้อแห้งล็อตสุดท้ายให้แก่ลุงเพิ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สายเมฆกับรุจน์ก็พากันนำตัวอย่างสินค้าชุดใหม่สำหรับเจ๊จวงไปให้ดูที่ตลาดในเมืองทันที ส่วนทางด้านศจีที่อยู่บ้านก็เริ่มภารกิจสำคัญ นั่นคือการพยายามหาคนที่ไว้ใจได้และมีฝีมือดีมาช่วยงานที่ตากเนื้อแห้งตามแผนที่สายเมฆวางไว้ขณะที่ศจีกำลังครุ่นคิดและกลุ้มใจว่าจะไปหาใครที่เหมาะสมได้จากที่ไหน ทันใดนั้น เจ้าธง หลานชายของป้าแจ่ม ก็เดินแบกถังใส่ข้าวสารใบใหญ่มาที่บ้าน ศีรษะมีเหงื่อซึมตามไรผม บ่งบอกถึงความเหนื่อยล้า ข้าวสารในถังนั้นคือค่าตอบแทนที่สายเมฆช่วยเข็นข้าวเปลือกไปสีที่โรงสีเมื่อหลายวันก่อน ศจีมองเห็นเจ้าธงแล้วก็อดชื่นชมไม่ได้ เด็กหนุ่มคนนี้ดูมีหน่วยก้านดี ร่างกายแข็งแรง และเป็นคนขยันขันแข็ง เธอจึงตัดสินใจเอ่ยถามขึ้น“เจ้าธง... ระหว่างรอเกี่ยวข้าวที่นา มีอะไรทำรึเปล่าลูก?”เจ้าธงยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบ 32 ซี่ พลางเกาหัวอย่างเขิน ๆ “ก็ว่าจะเข้าไปหางานรับจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเมืองจ้ะน้า อยู่ที่บ้านก็ไม่มีงานอะไรทำ ว่าง ๆ ก็เบื่อเหมือนกัน”ศจีจึงถือโอกาสนี้ชวนทันที “พอดีเลย... บ้านน้ากำลังต้องการคนช่วย น้าต้องทำที่ตากเนื้อ

  • คุณแม่ขา...ขอพรเทวดาทำไม   บทที่ 12 เรียนหนังสือ

    นับจากวันที่ได้อุปกรณ์ครบ ทุกคนก็เริ่มลงมือทำที่ตากเนื้อแห้งกันอย่างขยันขันแข็ง และเนื่องจากสายเมฆได้วางแผนงานไว้อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ขนาดของโครงไม้ไปจนถึงการตัดผ้าตาข่ายขนาดต่าง ๆ ทำให้แต่ละคนสามารถแบ่งหน้าที่กันทำได้อย่างรวดเร็ว งานจึงคืบหน้าไปได้มากจนน่าตกใจ ลุงเพิ่มเจ้าของร้านชำที่แวะเวียนมาดูความคืบหน้าอยู่บ่อย ๆ ก็ถึงกับพึงพอใจที่สินค้าล็อตแรกเสร็จเร็วกว่าที่คาดไว้มากนัก“สายเมฆเอ๊ย... ลุงกับป้าต้องขอบใจหนูจริง ๆ นะลูก” ศจีเอ่ยขึ้นมากลางวงขณะที่ทุกคนกำลังนั่งช่วยกันทำงานอยู่ “ถ้าไม่ได้หนูมาช่วยคิดช่วยทำ ป้าคงไม่ได้ลืมตาอ้าปากได้เร็วขนาดนี้หรอก”“เรื่องเล็กน้อยครับป้า” สายเมฆยิ้มตอบอย่างอบอุ่น หัวใจของเขาอ่อนยวบลงเมื่อเห็นแววตาซาบซึ้งของศจี “อย่าลืมสิครับลุงกับป้าคือคนช่วยชีวิตผมไว้นะครับ”“แล้วทำไมสายเมฆถึงได้รู้เรื่องอะไรมากมายอย่างนี้ล่ะลูก” ศจียังคงชวนคุยต่อด้วยความใคร่รู้“แม่คะ! ก็พี่สายเมฆเขาเคยบอกไว้แล้วไงคะว่าเขาเคยทำงานบริษัทฝรั่ง เขาก็ต้องมีความรู้สิคะ!” ข้าวหอมรีบชิงตอบแทนสายเมฆ เพราะไม่อยากให้แม่ซักไซ้มากไปกว่านี้ เธอกลัวว่าสายเมฆจะหลุดว่าย้อนเวลามาศจีพยักหน้าหงึก ๆ

  • คุณแม่ขา...ขอพรเทวดาทำไม   บทที่ 11 ลำดวน

    รถสองแถวค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากท่ารถที่ตลาดช้า ๆ ทิ้งความจอแจไว้เบื้องหลัง รุจน์นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ท่าทางของเขาดูครุ่นคิดและเงียบผิดปกติ สายเมฆที่นั่งอยู่ข้าง ๆ สังเกตเห็นแววตาของรุจน์แล้ว ก็พอจะคาดเดาได้ว่าระหว่างรุจน์กับลำดวนคงมีเรื่องราวบางอย่างที่ลึกซึ้งเกินกว่าคนรู้จักทั่วไป‘แล้วเราควรจะบอกข้าวหอมเรื่องนี้ดีไหมนะ? จะเป็นการยุ่งเรื่องครอบครัวคนอื่นเกินไปรึเปล่า? หากมันไม่มีอะไรจริง ๆ จะกลายเป็นการทำให้น้าศจีต้องระแวงเปล่า ๆ รึเปล่า?’ สายเมฆคิดวนไปมาในหัวอย่างหนักใจ เขาพยายามพิจารณาถึงผลกระทบที่จะตามมา ก่อนจะตัดสินใจว่าเขายังจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ในตอนนี้ อย่างไรเสีย เขาก็ยังเป็นคนนอก แต่ถ้าหากมีอะไรไม่น่าไว้วางใจเกิดขึ้นจริง ๆ เขาค่อยบอกข้าวหอมทีหลัง‘ช่วยไม่ได้นี่นา ถ้าครอบครัวนี้ไม่กลับไปร่ำรวย เขาก็คงอดกลับสวรรค์น่ะสิ’ ความคิดเรื่องภารกิจกลับสวรรค์ผุดขึ้นมาในใจ ทำให้เขารู้สึกว่ามีความชอบธรรมที่จะสอดส่องและดูแลครอบครัวนี้ต่อไปเมื่อรถสองแถวมาถึงปากทางเข้าหมู่บ้าน รุจน์กับสายเมฆก็ช่วยกันแบกข้าวของที่ซื้อมามากมายเดินกลับบ้าน แม้ของจะหนักและทางเดินจะค่อนข้าง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status