ข้าวสวย....
"สวัสดียัยไม่สวย"
"????????" นี่คือคำพูดทักทายของคนที่ไม่เจอหน้ากันมาสี่ปีงั้นเหรอ ฉันมองหน้าคนที่สุดแสนจะคิดถึงมองไปในแววตาของเขาแววตาที่ไร้ความรู้สึกจนฉันรู้สึกได้
"อ้าวน้องสวยจะไปไหนลูก" อาบัวตะโกนเรียกฉันหลังจากที่ฉันตัดสินใจเดินหันหลังเพื่อกลับบ้าน ตอนนี้ฉันต้องรีบกลับบ้านเพราะถ้าขืนอยู่ต่อมีหวังได้ร้องไห้ต่อหน้าทุกคนแน่ๆ ฉันยังไม่ได้เตรียมใจที่จะรับมือกับความรู้สึกนี้ ฉันคิดว่าถ้าเขากลับมาเขาจะทักทายฉันกอดฉันเหมือนที่กอดคนอื่นๆและบอกกับฉันว่าคิดถึงจังเลยน้องข้าวสวยของพี่ฟ้าคราม แต่ฉันคงจะหวังมากเกินไป และลืมไปว่าก่อนหน้าที่เขาจะไปเรียนต่อเขาก็เป็นของเขาแบบนี้มาตั้งนานไม่ใช่เพิ่งมาเป็นหลังจากกลับมาแต่ฉันแค่คิดว่าเขาอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้แต่จริงๆแล้วเขาก็ยังเหมือนเดิม เหมือนเดิมทุกอย่าง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ยัยสวยเปิดประตูให้หน่อย"
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ยัยสวยขอเข้าไปหน่อย"
" ฮึก ฮึก ระ เราง่วงแล้วพวกเธอสองคน ฮึก ฮึกกลับไปเถอะพรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ" ฉันพยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุดแต่ก็ทำไม่ได้
"ทำไมน้ำเสียงแกเแปลกๆ"
"ใช่ นี่แกร้องไห้เหรอสวย"
"ปะ ป่าว ฮึก ฮึก เราเปล่าร้องไห้"
"อย่ามาโกหกพวกเรานะ แกร้องไห้ใช่ไหม"
"บอกว่าไม่ได้ร้อง ฮึก ฮึก ไง ฮือออ"
"ถ้าแกไม่เปิดประตูให้เราสองคนจะไปเรียกพี่ครามมานะ"
"อย่านะ" ฉันรีบวิ่งไปเปิดประตูให้สองสาวแทบจะทันทีเพราะกลัวว่าสองคนนั้นจะไปเรียกพี่ฟ้าครามมาจริงๆฉันไม่อยากให้เขารู้ว่าฉันอ่อนแอ และเห็นสภาพที่ดูไม่ได้ของฉันที่ตอนนี้ทั้งน้ำหูน้ำตาไหลอาบแก้ม
"แกร้องไห้จริงๆด้วยอ่ะ"
"โอ๋โอ๋อย่าร้องนะสวย"
"ฮืออออ ฮืออออ" ยิ่งสองคนนี้ปลอบฉันฉันก็ยิ่งร้องไห้น้ำตาแตกด้วยความน้อยใจและเสียใจหนักกว่าเดิม
"ทำไมพี่ชายพวกแกถึงใจร้ายกับเราแบบนี้ตลอดเลยอ่ะ"
"นั่นน่ะสิพวกเราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันกับคนอื่นพี่ครามไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะมีแต่กับแกนี่แล่ะ เห้อออ"
"หรือพี่เค้าฝังใจตอนที่เด็กๆแกไปหอมแก้มเค้าเท่านั้นยังไม่พอแกยังบอกให้เขาแต่งงานกับแกอีก"
"แต่นั่นมันก็นานมาแล้วนี่นา เรื่องนี้เราก็ลืมๆมันไปแล้ว"
"แน่ใจว่าแกลืม"
"เอ่อ..ก็" ใครจะไปลืมได้ลงถึงแม้ตอนนั้นฉันจะอายุแค่ไม่กี่ขวบแต่ฉันก็ยังจำได้ดี
"แกไม่มีวันลืมหรอกพวกเรามั่นใจและก็มั่นใจด้วยว่าพี่ครามเองก็ไม่ลืมเหมือนกันว่าเคยสัญญาจะแต่งงานกับแก"
ฟ้าคราม....
หลังจากเอ่ยทักข้าวสวยไปแบบนั้นผมก็โดนทั้งพ่อทั้งแม่และทุกคนรุมต่อว่าเพราะทำให้ยัยตัวแสบประจำบ้านเสียอกเสียใจวิ่งหนีกลับไปบ้าน
"ครามทำไมพูดกับน้องแบบนั้นลูกลูกไปเอานิสัยแบบนั้นมาจากไหนแม่ไม่เคยสอนให้ครามพูดแบบนี้นะครับลูก"
"คือผม.."
"นี่ดีนะว่าไอ้เตอร์มันไม่อยู่ในเหตุการณ์ไม่งั้นเราโดนมันเสยหมัดใส่แน่ที่ไปพูดกับข้าวสวยแบบนั้น"
"ผมก็แค่ทักทายตามประสาคนไม่เจอกันนาน"
"ถ้าจะทักแบบนั้นไม่ต้องทักก็ได้นะพี่คราม" เฟย่าพูดพร้อมกับเดินจูงมือโฟกัสเข้าบ้านมาทั้งสองสาวจ้องหน้าผมอย่างเคืองๆสงสัยจะโกรธแทนเพื่อนรักที่ผมไปทักว่าไม่สวย
"นั่นดิรู้มั้ยว่ายัยสวยร้องไห้เสียอกเสียใจขนาดไหน"
"แม่ว่าครามไปขอโทษน้องก็ดีนะลูก ลูกรู้มั้ยว่าวันนี้น้องตื่นมาตั้งแต่เช้ามืดเพื่อมาช่วยแม่จัดห้องให้ครามไหนจะช่วยแม่ทำอาหารเย็นอีกแต่ดูสิไม่ได้กินอะไรเลยหนีกลับบ้านไปโน่นแล้ว"
"ไว้วันหลังละกันนะครับวันนี้ผมเหนื่อยมากเลยอยากอาบน้ำนอน"
"งั้นก็ได้ครับลูก"
ผมเดินกลับเข้ามาในบ้านแล้วตรงไปยังห้องนอนของผมและพอผมเปิดประตูห้องนอนก็ทำเอาผมถึงกับอึ้งไปหลายนาที ก่อนจะตั้งสติและกำลังคิดว่าผมเข้าห้องผิดหรือเปล่าเพราะสภาพห้องของผมเปลี่ยนไปมากทั้งผ้าปูทั้งของแต่งห้องที่ดูมุ้งมิ้งจนผมไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปข้างใน พอมานึกถึงคำพูดของแม่ที่บอกว่าวันนี้ข้าวสวยมาจัดห้องให้ผมถึงกับถอนหายใจอย่างอ่อนใจก่อนจะเดินเข้าห้องและปิดประตู สิ่งแรกที่ทำก็คือรื้อผ้าปูลายหมีน้อยนี่ออกไปกองไว้ข้างเตียงแล้วเปิดตู้เสื้อผ้าหาผ้าผืนใหม่มาปูแทนเพราะถ้าให้ผมนอนบนผ้าปูลายหมีนี่ผมคงนอนไม่หลับแน่นอน ก่อนจะมองไปที่หัวเตียงที่มีหมีเน่าๆสองตัวตั้งวางอยู่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นของใครผมหยิบมันขึ้นมาแล้วจับโยนเข้าตู้เสื้อผ้า
"เห้ออออ" ไม่รู้ว่าผมคิดถูกหรือคิดผิดที่ตัดสินใจกลับมาไทยทันทีหลังเรียนจบทั้งที่ที่สวิตก็มีบริษัทหลายบริษัทที่สนใจให้ผมเข้าร่วมงานด้วยมันสามารถเป็นเหตุผลที่ผมอยุ่ต่อที่นั่นได้
ผมรู้ว่าทุกคนคงจะไม่เข้าใจและคิดว่าทำไมผมถึงใจร้ายกับข้าวสวย หึ ทุกคนไม่รู้หรอกครับว่าผมเจออะไรบ้าง
เริ่มแรกเลยก็คือเมื่อสิบกว่าปีก่อนตอนนั้นผมอายุประมาณแปดขวบผมกำลังนั่งเล่นกับน้องสาวฝาแฝดของผมอยู่ดีๆจู่ๆยัยข้าวสวยก็เดินเข้ามาหอมแก้มผม ตอนนั้นผมตกใจมากเพราะตั้งตัวไม่ทัน
"จุ๊บ จุ๊บ น้องรักพี่ฟ้าครามนะคะ ถ้าโตขึ้นมาพี่ฟ้าครามต้องแต่งงานกับน้องนะน้องอยากใส่ชุดเจ้าหญิงสวยๆแล้วพี่ฟ้าครามก็ใส่ชุดเจ้าชายแบบนี้ด้วยนะ^^" ข้าวสวยในวัยห้าขวบพูดขึ้นพร้อมกับเดินไปหยิบตุ๊กตาหมีของตัวเองที่วางอยู่ใกล้ตัวนึงสวมชุดเจ้าสาวคาดเวลดอกไม้บนหัวกับอีกตัวนึงที่สวมชุดทักสิโด้สีขาว ผมในตอนนั้นก็ไม่รู้ทำไงที่จู่ๆก็โดนหอมแก้มถึงแม่จะเคยโดนน้องสาวหอมแก้มอยู่บ่อยๆแต่ข้าวสวยไม่ใช่น้องสาวของผมผมก็เลยทำอะไรไม่ถุูกที่จู่ๆจนกระทั่งพ่อฟิวเดินเข้ามาทักว่าผมเป็นอะไรจากนั้นผมก็ร้องไห้ออกมาทันที และสิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยินก็คือลุงเตอร์บอกให้ผมรับผิดชอบข้าวสวยเพราะข้าวสวยหอมแก้มผมไปแล้วเธอเสียหาย คืออะไรคนที่เสียหายคือผมหรือเปล่าที่จู่ๆก็ถูกเด็กห้าขวบลวนลามโดยการหอมแก้ม แถมลุงเตอร์ยังบอกอีกว่าถ้าโตขึ้นมาผมต้องแต่งงานกับข้าวสวย เหอะ
และผมก็คิดว่าเรื่องนี้ทุกคนน่าจะลืมๆกันไปได้แล้วเพราะมันก็ผ่านมานานเกือบสิบปีแต่เปล่าเลยครับเพราะก่อนที่ผมจะเดินทางไปเรียนต่อลุงเตอร์ได้เรียกผมไปคุยตามลำพัง
"ลุงไม่ได้อยากทวงสัญญากับหลานหรอกนะคราม ครามยังไม่ลืมใช่ไหมลูกที่ครามเคยสัญญาอะไรไว้กับลุง"
"สัญญาอะไรครับ"
"อ้าวนี่อย่าบอกนะว่าลืม ก็เรื่องที่ครามต้องแต่งงานกับข้าวสวยลูกสาวลุงไงครับ"
"เอ่อ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระมากๆ"
"ว่าไงนะ!!" ลุงเตอร์หัวร้อนขึ้นมาทันทีหลังจากที่ผมพูดจบ
"คือผมคิดว่าเรื่องนี้มันก็ผ่านมานานแล้วอีกอย่างข้าวสวยเองก็คงจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วด้วยเหมือนกัน"
"ไม่ลืมหรอก ลูกสาวของลุงเค้ารักเดียวใจเดียวกับครามมาตลอดลูกลุงลุงรู้จักลูกสาวของลุงดีเพราะฉะนั้นลุงจะรอจนกว่าครามจะเรียนจบกลับมาแล้วหลังจากนั้นครามก็ต้องแต่งงานกับลูกสาวของลุง ตกลงตามนี้นะลูก^^"
"แต่การแต่งงานมันต้องขึ้นอยู่กับคนสองคนที่รักกันไม่ใช่เหรอครับแต่ผมไม่ได้รักข้าวสวยแบบชู้สาวผมรักข้าวสวยแบบน้องสาวเหมือนที่ผมรักโฟกัสเฟย่า"
"เอาน่าแต่งๆกันไปก็รักกันไปเองนั่นแล่ะเชื่อลุงนะ^^"
"แต่ว่า..."
"ครามอย่าลืมนะลูกว่าถ้าไม่มีลุงแม่กับพ่อของเราคงไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันแบบนี้เผลอๆแม่เราอาจจะไปแต่งงานใหม่กับฝรั่งหล่อๆไปแล้ว และครามรู้มั้ยว่ากว่าลุงจะคิดแผนให้แม่เรากลับมาหาพ่อเราได้น่ะลุงใช้เวลาคิดนานแค่ไหนคิดจนปวดหัวจนไมเกรนขึ้นรู้ไหมครับหลานรักของลุง^^" โหมดทวงบุญคุณก็มาครับ ผมก็เลยพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ผมรู้ว่าเพราะแผนการของลุงเตอร์ถึงทำให้แม่ของผมยอมกลับไทยหลังจากนั้นพ่อฟิวของผมก็คอยง้อแม่จนแม่ใจอ่อนยอมให้อภัยพ่อฟิวและอยู่ด้วยกันมาจนถึงทุกวันนี้แต่นั่นมันคงละเรื่องคนละส่วนกันหรือเปล่าครับแต่ลุงเตอร์สามารถเอามารวมเป็นเรื่องเดียวกันได้ ผมเชื่อเลยจริงๆ พ่อเคยบอกว่าลุงเตอร์ร้ายมากผมเชื่อแล้วครับ
"อย่าหาว่าลุงทวงบุญคุณเลยนะครับหลานรัก^^" พูดจบลุงเตอร์ก็ตบไหล่ผมสองทีก่อนจะเดินผิวปากจากไปอย่างอารมณ์ดีทิ้งให้ผมนั่งเป็นใบ้อยู่อย่างนั้น
โอ๊ยไม่รู้จะสงสารใครดีระหว่างน้องข้าวสวยหรือพี่ฟ้าคราม อิเตอร์แกมันร้ายมาก555555
ฟ้าคราม..."ฮือออ ฮืออออ ฮึก ฮึก ฮือออออ""เสียงอะไรวะ"ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเพราะเสียงอะไรบางอย่างแม้จะยังมีความง่วงอยู่ก็ตามเพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่งคือผมต้องรีบเคลียร์งานให้เสร็จก่อนที่ผมจะพาเมียสุดที่รักไปฮันนีมูนที่สวิตเซอร์แลนด์ คือเราแต่งงานกันมาได้หนึ่งปีแล้วครับผมก็เลยอยากพาข้าวสวยไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ประเทศที่ผมเคยอาศัยอยู่กับแม่ที่นั่นตอนที่ผมยังเด็กและที่สำคัญเธอไม่เคยไปมาก่อนผมก็เลยอยากพาเธอไปตอนแรกเธอไม่อยากไปหรอกเพราะไม่อยากเจอมิวกี้แต่ผมก็บอกไปว่ามิวกี้เธอไปอยู่กับปู่กับย่าแล้วก็อาของเธอที่อเมริกาเพราะเหตุนี้ข้าวสวยถึงยอมไปอีกอย่างสวิตเซอร์แลนด์นับได้ว่าเป็นประเทศที่มีธรรมชาติที่สวยงามติดอันดับโลกใครๆก็อยากจะไปเผื่อบรรยากาศที่นั่นจะทำให้เราสองคนมีลูกเพิ่มขึ้นมาอีกสักคนสองคน ครับเราแต่งงานกันมาปีนึงแล้วแต่ข้าวสวยยังไม่ท้องเลยแม้ว่าเราจะไปตรวจมาแล้วก็ตามคุณหมอก็บอกว่าผมกับข้าวสวยแข็งแรงดีทั้งคู่แต่แปลกที่ลูกยังไม่ยอมมาสักที เห้อ คิดแล้วก็เศร้า "ฮืออออ คนใจร้าย ฮืออออ" เสียงของใครบางคนกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นดังอยู่ข้างๆ เป็นเสียงที่ผมคุ้นเคยเป็นอย
สามเดือนต่อมา...ปั่ก!!!! ปั่ก!!!!! ปั่ก!!!! ปั่ก !!!!"อ่าาาา เมียจ๋าาาาา""อื้ออออ ผัวจ๋าาาาา" เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังแข่งกับเสียงครางของคนสองคนที่ร่วมรักกันอย่างดุเดือดและเร่าร้อนบนเตียงกว้างแม้เวลาจะล่วงเลยนานหลายชั่วโมงแต่ดูเหมือนความต้องการของยังไม่มีที่สิ้นสุด ร่างสองร่างโรมรันเกี่ยวรัดกันอย่างสุขสมเนื้อแนบเนื้อทุกสัดส่วน"สวยจ๋าาา สวยของพี่ อืมมมม" จุ๊บ จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ ผมก้มลงไปดูดปากเมียรักก่อนจะขยับริมฝีปากลงมาครอบครองเต้าอวบอิ่มดูดดื่มความหอมหวานของเต้านมเมียปาดเลียรอบเต้ากัดเบาๆ ตรงจุกนมสีน้ำตาลอ่อน แม้จะมีลูกมาแล้วหนึ่งคนแต่หน้าอกของข้าวสวยยังเต่งตึงไม่มีหย่อนคล้อยเลยสักนิดทั้งที่เธอให้นมลูกมาตลอดสองปีเต็มแถมยังโดนผมดูดทึ้งดึงเย่ออยู่ทุกค่ำคืน ผมติดนมเมียนะบอกไว้ก่อนวันไหนไม่ได้ดูดไม่ได้กินมันนอนไม่หลับ"อืมมม นมเมียทำไมหวานได้ขนาดนี้ พี่จะคลั่งตายแล้วนะรู้มั้ยครับ""คลั่งไปเลยค่ะ คลั่งสวยให้ตายไปเลย สวยอยากให้พี่ครามคลั่งสวยแค่คนเดียว""ไม่ต้องบอกพี่ก็จะคลั่งแค่เมียคนดีของพี่แค่คนนี้คนเดียว จ๊วบ จ๊วบ อ่าาาา"จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ แผล่บ แผล่บ"อ๊าาาาาา ดูดแรงกว่านี้ค่ะพี่ครามขาาา
ข้าวสวย..."อ๊ะ อ๊าาาา่ สวยจะเจ็บค่ะพี่ครามขาา" ฉันครางออกมาเมื่อพี่ฟ้าครามสอดใส่ตัวตนอันใหญ่โตของเขาเข้ามาในตัวของฉันโดยที่ไม่สวมเครื่องป้องกันเพราะเรากำลังจะทำปฏิบัติภารกิจปั๊มลูกคนที่สองหรืออาจจะสามซึ่งฉันกับเขาก็ต้องมาลุ้นกันต่อไป แต่แม้ว่าเขาจะค่อยๆทำค่อยๆดันท่อนเอ็นเข้ามาอย่างช้าๆแต่มันก็ทำให้ฉันเจ็บและเสียวไปพร้อมๆกัน"ซี๊ดดดด อื่มมมม พี่ขอโทษครับเมีย จุ๊บ" พี่ฟ้าครามกดจูบลงมาที่หน้าผากพร้อมเอ่ยขอโทษฉันเสียงสั่นเล็กน้อยฉันคิดว่าเขาก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกันเพราะใบหน้าของเขาดูทรมานมากก่อนที่เขาจะหยุดการกระทำของเขาโดยฉับพลันเมื่อฉันบอกเขาว่าเจ็บแต่ตัวตนของเขาก็ยังฝังตัวอยู่ในร่องรักของฉันไปแล้วเต็มลำ พอผ่านไปสักพักฉันก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บเท่าเมื่อกี้แล้วฉันจึงอยากให้เขาทำต่อ"พี่หยุดทำไมคะ" คือเขานิ่งมากเอาหน้ามาซบลงที่ซอกคอของฉัน ฉันรับรู้ได้ถึงเสียงหายใจหอบถี่ของเขาฉันรู้ว่าเขาก็คงจะทรมานไม่ต่างจากฉัน"พี่กลัวสวยจะเจ็บมากกว่านี้ไงครับ สวยจะให้พี่หยุดมั้ยพี่จะได้หยุด""แล้วพี่อยากหยุดมั้ยล่ะคะ" ฉันแกล้งถามไปงั้นแล่ะเราต่างคนต่างรู้ดีว่าเราต้องการกันและกันมากแค่ไหน"สวยก็รู้ว่าพี่ไม่อย
ข้าวสวย....หลังจากผ่านไปหลายวันตอนนี้น้องฟ้าสวยเริ่มจะเข้ากับคนอื่นๆในครอบครัวได้แล้วโดยเฉพาะพ่อของฉันกับอาฟิวที่มักจะแย่งกันเอาใจหลานสาวหลานอยากได้อะไรอยากกินอะไรก็จะรีบไปหามาให้แทบทันทีจนแม่ฉันกับอาบัวต้องคอยปรามเพราะเกรงว่าหลานสาวจะเป็นเด็กเอาแต่ใจแต่พ่อกับอาฟิวก็ไม่มีใครฟังเพราะกลัวหลานสาวจะไม่รักแล้วยิ่งลูกสาวของฉันเป็นเด็กขี้อ้อนขนาดนี้อย่าว่าแต่แด๊ดดี้ของแกจะหมดตัวเลยค่ะคุณปู่คุณตาก็คงจะไม่เหลือเช่นกัน"ครามไหนๆก็ไหนๆแล้วมีหลานให้ลุงอุ้มอีกสักคนสองคนสิลุงจะได้ไม่ต้องแย่งกับพ่อเราดูดิอุ้มหลานไปเล่นน้ำโน่นละ" พ่อของฉันบ่นกับพี่ฟ้าครามหลังจากที่อาฟิวอุ้มน้องฟ้าสวยออกไปเล่นน้ำที่สระหน้าบ้านทำเอาพ่อของฉันหัวฟัดหัวเหวี่ยงเพราะเพิ่งเล่นกับหลานได้แป๊บเดียวก็โดนอาฟิวแย่งไปซะแล้ว"ครับเดี๋ยวคืนนี้ผมจัดการให้ครับ^^" พี่ฟ้าครามพูดพร้อมกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาทางฉัน"พ่อคะทำไมพูดแบบนี้อ่ะสวยก็อายเป็นนะคะ>น้องไม่ต้องอายหรอกลูกก็มีแล้วคนนึงจะมีหลานให้พ่ออุ้มอีกสักคนสองคนจะเป็นไรไปจริงไหมตาคราม""จริงครับคุณพ่อตา""5555เอาล่ะยังไงคุณพ่อตาก็จะรออุ้มหลานนะคุณลูกเขยแต่ถ้าได้แฝดยิ่งดีเลยอย่า
ข้าวสวย....ฉันเดินเข้าไปในห้องหลังจากพี่ฟ้าครามเล่านิทานให้ลูกฟังจนจบแล้ว"เล่านิทานให้ลูกฟังจบแล้วเหรอคะคุณแด๊ดดี้ว่าแต่นิทานซึ้งมากเหรอคะทำไมตาแดงๆ^^" ฉันเอ่ยแซวพี่ฟ้าครามที่ยังตาตุบๆแดงๆอยู่นั่นก็แสดงว่าก่อนหน้านี้เขาคงจะร้องไห้อย่างหนัก"อย่าแซวพี่สิครับที่รัก ก็คนมันดีใจนี่นาที่ได้เจอลูกสักทีแถมลูกของเราก็ยังน่ารักมากๆด้วยพี่หลงจนไม่รู้จะหลงยังไงแล้ว" พี่ฟ้าครามยิ้มให้ฉันก่อนจะดึงลูกเข้ากอดแล้วหอมฟอดใหญ่โดยที่ลูกสาวตัวน้อยก็ไม่ยอมกระโดดหอมแก้มพ่อคืน"แด๊ดดี้ก็น่ารักค่าาาา^^" ดูความขี้อ้อนของลูกสาวฉันสิคะ"หม่ามี้ขาาาาา" น้องฟ้าสวยกระโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งมากอดเอวฉันแน่น"ว่าไงคะคนสวยของหม่ามี้" ฉันนั่งลงแล้วคุยกับลูก"แด๊ดดี้ของน้องใจดีที่สุดเลยค่าหม่ามี้ แด๊ดดี้บอกว่าถ้าน้องอยากได้อะไรแด๊ดดี้ก็จะซื้อให้ด้วยค่า น้องรักแด๊ดดี้ที่สุด น้องจะอยู่กับหม่ามี้กับแด๊ดดี้ที่เมืองไทยค่า" ฉันยิ้มให้ลูกเมื่อได้ยินคำตอบเพราะก่อนหน้านี้ฉันบอกกับลูกว่าต่อไปนี้ลูกจะต้องอยู่ที่นี่จะไม่ได้บินกลับไปที่อยู่ที่ฝรั่งเศสซึ่งตอนนั้นลูกก็ทำหน้าเศร้าคล้ายกับว่าไม่อยากอยู่ที่นี่จนกระทั่งตอนนี้พอมาได้ยินแกพู
ฟ้าคราม....ตอนนี้ผมยังคงนั่งๆเดินๆวนไปวนมาเหมือนหนูติดจั่นอยู่ในห้องนอนของตัวเองไม่กล้าที่จะเดินออกไปหลังจากที่ข้าวสวยออกไปได้สักพัก ข้าวสวยเธอชวนผมให้ออกไปรอรับลูกข้างล่างด้วยกันเพราะพี่ชายของเธอกำลังจะเดินทางมาถึงแต่ผมขอเวลาเธอทำใจก่อน บอกตามตรงว่าผมยังอยู่ในอาการช็อคหลังจากที่รู้ว่าตัวเองมีลูกซึ่งลูกสาวของผมอายุได้สี่ขวบแล้วด้วยมันเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อแต่มันก็เกิดขึ้นแล้วผมมีลูกแล้วจริงๆใช่ไหมและมันก็ไม่ใช่ความฝันมันคือความจริงหลังจากที่ผมได้เห็นรูปของลูกสาวตัวน้อย ข้าวสวยเอารูปของลูกมาให้ผมดู รูปของแกตั้งแต่ยังอยู่ในห้องจนกระทั่งวันแรกที่แกลืมตาขึ้นมาดูโลกแกน่ารักมากผมมองดุรูปของลูกในมือถือของข้าวสวยซ้ำแล้วซ้ำเล่าวนดูไปแบบนั้นอย่างไม่รู้สึกเบื่อดูไปก็ร้องไห้ไปยิ้มไปเหมือนคนเป็นไบโพล่า เด็กหญิงฟ้าสวย คือชื่อของลูกสาวของผมเองเป็นชื่อที่ข้าวสวยตั้งให้เธอบอกว่าอยากให้มีชื่อของผมกับเธอรวมกันอยู่ในชื่อของลูกเธอก็เลยตั้งชื่อว่าเด็กหญิงฟ้าสวยซึ่งผมก็ว่าชื่อนี้เป็นชื่อที่เพราะดีเพราะมากๆเหมาะกับลูกของผมมากๆเพราะเธอทั้งน่ารักสดใสเหมือนท้องฟ้าที่สวยงาม แต่ในความดีใจก็มีความรู้สึกแย่อยู่ข้