เพราะเธอทรยศความรักของเรา และทำลายความไว้ใจที่เขามอบให้ สี่ปีที่ห่างหายไปวันนี้เขากลับมาเพื่อเอาคืน เคยรักมากแค่ไหน เขาจะร้ายให้มากกว่ารัก
View Moreบทนำ
พิมพ์ใจขาสั่นแทบไม่มีแรงเดิน ในตอนที่ก้าวเข้าไปยืนอยู่ในห้องทำงานกว้างของท่านประธานบริษัท แล้วเธอก็แทบกลั้นหายใจ ในตอนที่สบตาคมดุของเขา
เสียงประตูที่ปิดลงทำให้คนที่ยืนนิ่งสะดุ้งตกใจ เลขาของเขาที่เป็นคนพาเธอเข้ามาพบเขาออกจากห้องไปแล้ว ตอนนี้ในห้องมีเพียงเธอกับเขา มันยิ่งทำให้ใจดวงน้อยสั่นไหวยิ่งขึ้นไปอีก
พิมพ์ใจกลืนน้ำลายลงคอ สูดลมหายใจลึก เธอก้มหน้า แล้วเดินไปหยุดยืนตรงหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่
อารัญเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทีสบาย ๆ ตาคมกวาดมองผู้หญิงที่ขอเข้าพบเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า เขายิ้มเยาะเย้ยก่อนจะเอ่ยปากบอกเธอว่า
“แนะนำตัวหน่อยสิ”
พิมพ์ใจเงยหน้าขึ้น เธอมองเขาอย่างไม่เข้าใจว่า ทำไมเขาต้องให้เธอแนะนำตัว ทั้งที่เธอกับเขารู้จักกันมานาน และรู้จักกันดี เพราะเธอกับเขาเป็นมากกว่าคนรู้จักกัน
...เธอกับเขาเป็นคนเคยรักกัน
“ดิฉันชื่อพิมพ์ใจค่ะ อายุยี่สิบสองปี กำลังเรียนอยู่ชั้นปีสี่ คณะ...”
“ฉันไม่อยากรู้ข้อมูลเน่า ๆ พวกนี้ ฉันอยากรู้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตัวเธอ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่า สิ่งที่จะนำมาแลกเปลี่ยนกัน มันคุ้มกับที่สิ่งฉันจะให้หรือเปล่า”
“พิมพ์ไม่เข้าใจค่ะ”
พิมพ์ใจไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า เขาต้องการรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเธอ เพราะเขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอหมดแล้ว รวมถึงเธอเอง ก็รู้ข้อมูลทุกอย่างของเขาด้วย
เขาคือ อารัญ หรือพี่รัญที่เคยแสนดีของเธอ เขาเป็นชายหนุ่มวัย 26 ปี เรียนจบปริญญาโทจากเมืองนอก ปัจจุบัน...เขาเป็นประธานบริหารบริษัท AT กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงและมากความสามารถ แม้อายุยังน้อย และเพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานบริหารเพียงปีเดียว แต่เขาก็ประสบความสำเร็จในการบริหารองค์กรใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง
อารัญยิ้มร้าย เขาขยับตัวนั่งไขว่ห้าง กอดอก และจ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาดูแคลน
“เธอเอาตัวเองมาแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์มหาศาล ดังนั้น เธอก็ควรพรีเซนต์ตัวเองให้ฉันรู้หน่อยว่า เธอมีอะไรน่าสนใจบ้าง อย่างเช่นสัดส่วนเท่าไร นมใหญ่มั้ย หัวนมสีอะไร ขนตรงนั้นเกลี้ยงเกลาน่าลงลิ้นหรือเปล่า แล้วก็...เธอเคยผ่านผู้ชายมากี่คนแล้ว”
พิมพ์ใจกัดฟัน กำมือแน่น ใจเต้นแรงด้วยความโกรธกรุ่น แต่เธอก็พยายามซ่อนความไม่พอใจเอาไว้ ตอนนี้เธอเป็นรองเขา หากเธอทำให้เขาไม่พอใจ เขาอาจจะไม่ยอมรับข้อเสนอของเธอ
“ว่าไง...พร้อมจะพรีเซนต์ตัวเองหรือยัง ถ้ายังไม่พร้อมก็เชิญกลับไปได้ ฉันไม่มีเวลามานั่งมองหุ่นยนต์ไร้ชีวิตชีวาแบบเธอนาน ๆ หรอกนะ”
พิมพ์ใจสูดลมหายใจลึก แล้วระบายออกช้า ๆ หญิงสาวก้มหน้าหลบตาคม ในตอนที่เริ่มบอกสิ่งที่เขาอยากรู้ด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ทั้งอายและกระดากปาก แต่ก็ต้องพูดมันออกไป
“หน้าอก...สามสิบหก เอว...ยี่สิบสี่ สะโพก...สามสิบห้าค่ะ เอ่อ...หัวนมสีชมพู แล้วก็...เลเซอร์ขนตรงนั้นแล้วค่ะ และดิฉันยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับใครค่ะ”
อารัญเลิกคิ้วสูง เขาไม่อยากจะเชื่อว่า ผู้หญิงร้ายกาจอย่างเธอยังเวอร์จิ้นอยู่
“โกหกหรือเปล่า ผู้หญิงเลว ๆ ขี้โกหก ชอบปั้นน้ำเป็นตัวอย่างเธอ ไม่น่าเชื่อว่ายังเวอร์จิ้นอยู่ น่าจะโดนเอาจนหลวมไปหมดแล้วมั้ง”
ถ้อยคำไม่น่าฟังและน้ำเสียงเยาะเย้ยถากถางของเขา ทำให้พิมพ์ใจแทบน้ำตาร่วง เธอบอกกับตัวเองว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่พี่รัญแสนดีของเธออีกต่อไป และที่เขาต้องกลายเป็นแบบนี้ ก็เพราะเธอเองที่เป็นคนทำให้เขาเปลี่ยนไป
พิมพ์ใจยอมรับในความผิดร้ายแรงที่ตัวเองก่อไว้ ยอมรับบทลงทัณฑ์จากเขา ดังนั้น ไม่ว่ามันจะหนักหนาสาหัสแค่ไหน เธอจะยอมรับมันไว้ จะไม่ปริปากบ่นสักคำ
“พิมพ์ยังไม่เคยจริง ๆ ค่ะ”
อารัญหัวเราะในลำคอ เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง 188 เซนติเมตร ชายหนุ่มเดินอ้อมโต๊ะตัวใหญ่ไปหยุดยืนด้านหลังของผู้หญิงตัวเล็กที่สูงแค่อกของเขาเท่านั้น
พิมพ์ใจกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก หญิงสาวเอาแต่ยืนก้มหน้า ไม่กล้าหันไปมองเขา ใกล้กันขนาดนี้ เธอได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายจากเขาอบอวลอยู่รอบตัว
อารัญยิ้มร้าย ก่อนจะก้มลงกระซิบชิดใบหูเล็กจากข้างหลัง
“ของอย่างนี้พูดปากเปล่าได้ยังไงกัน มันต้องพิสูจน์กันหน่อย”
“พะ...พิสูจน์ยังไงคะ”
พิมพ์ใจหันไปมองเขาด้วยดวงตาตื่นตระหนก
อารัญขยับยืนตรง เขาล้วงมือข้างหนึ่งลงในกระเป๋ากางเกง แล้วเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตามเดิม เขานั่งไขว่ห้าง เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ วางสองแขนกับที่วางแขน ตาคมจับจ้องร่างบางไม่วางตา
“ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด ฉันต้องการเช็กของ”
พิมพ์ใจทำหน้าราวกับจะร้องไห้ ดวงตามีน้ำใส ๆ มาเอ่อคลอ หญิงสาวสูดลมหายใจลึก ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าน้อย ๆ
“ค่ะ”
เสียงที่พูดออกไปนั้น ทั้งสั่นและเบาหวิว มือที่เริ่มแกะกระดุมเสื้อนักศึกษาเม็ดบนสุดสั่นเทา ใจเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งอาย ทั้งประหม่า แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่น เพราะตอนนี้สถานะทางการเงินของครอบครัวเธออยู่ในกำมือของเขา หากเธอไม่ทำตามที่เขาบอก กิจการของครอบครัวจะล่มสลาย พ่อเลี้ยงกับแม่ของเธอจะถูกฟ้องล้มละลาย
อารัญไม่สนใจข่าวพวกนั้นหรอก เพราะคนอื่นไม่ได้มาใช้ชีวิตร่วมกับเขากับพิมพ์ใจ แค่ครอบครัวของเราเข้าใจและยอมรับกัน รักและเข้าใจกัน เขาก็ไม่เห็นต้องแคร์คนอื่นเลยเขาแคร์เฉพาะคนที่ยืนข้างกายเขาในตอนนี้ต่างหาก เขาอยากให้เธอมีความสุขในทุกวัน ไม่อยากให้ใครหรืออะไรมาทำให้เธอทุกข์ร้อนใจสักนิด ดังนั้น เมื่อเห็นว่ามีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เขากับภรรยา อารัญก็กอดเอวบางรั้งเธอมาแนบชิดอย่างปกป้องหวงแหน“ซื้อไว้สักยูนิตดีมั้ยครับ เอาไว้แอบหนีเจ้าพอร์ชไปจู๋จี๋กันสองต่อสอง” อารัญกระซิบถามยิ้ม ๆพิมพ์ใจหันขวับไปมองสบตาสามี เธอขึงตาใส่คนหื่น“พี่รัญ หน้าไม่อาย”“อายทำไมล่ะครับ พี่ชอบ” อารัญบอกพลางทำทีเหลือบตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะกระซิบบอกเมียว่า“วิวห้องมุมดีมากเลยนะครับ จัดที่ระเบียงน่าจะฟินมาก โอ๊ย !”คนคิดหื่นกลางวันแสก ๆ โดนเมียหยิกจนต้องร้องโอดโอยเบา ๆ กระนั้นคนถูกเมียหยิกก็ยังยิ้มกรุ้มกริ่มได้การโอบกอดเมียไว้แนบกายตลอดเวลา การส่งสายตาหวานเชื่อมมองกัน และการพูดคุยหัวร่อต่อกระซิกของสามีภรรยา ทำให้คนที่มองพวกเขาตั้งแต่เดินเข้ามาในงานหมั่นไส้วาสินีก็มางานนี้เช่นกัน พอเห็นภาพสวีตของสองคนนั้นแล้วก็อดไม่ได้
เมื่อห้วงเวลาแสนเสียวเบาบาง พิมพ์ใจก็นอนหอบหายใจแรงจนทรวงอกสะท้านขึ้นลงอารัญดูดเนื้อนวลเต็มปาก เขาดื่มด่ำกับความหวานละมุนอย่างพอใจ ก่อนจะไล้เลียไปทั่วทุกซอกหลืบความสาว แล้วจึงค่อย ๆ เลื่อนใบหน้าขึ้นมา เขาพรมจูบเนินเนื้ออวบอูมนวลเนียนไร้พุ่มไหม ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนใบหน้าขึ้นมา เพื่อจูบสลับกับไล้เลียผิวเนียนจากหน้าท้องแบนราบ ขึ้นมาถึงชายโครง ก่อนจะเข้าครอบครองทรวงอกอวบอิ่มด้วยปากร้อนผ้าว ดูดดึง ไล้เลีย จนเมียครางหวิวในลำคอ และเริ่มมีอารมณ์อยากขึ้นมาอีกครั้ง“พิมพ์จ๋า...ขึ้นให้พี่นะครับ”อารัญกระซิบอ้อนเสียงแตกพร่าพิมพ์ใจลืมตาขึ้นสบตาคมเข้ม หญิงสาวผลักอกกว้างเบา ๆ สามีของเธอก็เอนกายลงนอนหงายอย่างเต็มใจอารัญนอนมองเมียป่ายขาคร่อมตัวเขา แล้วหยัดกาย นั่งคุกเข่าคร่อมอยู่ตรงกลางหว่างขา เธอล้วงมือลงจับหัวมนทู่เอามันไปถูไถกลางกลีบเนื้ออ่อนนุ่ม“ซี้ด ! พิมพ์จ๋า...”อารัญครางเสียว แล้วกัดฟันแน่น เขายื่นมือไปจับเอวบางไว้หลวม ๆ มองใบหน้าเมียอย่างแสนรัก แสนเสน่หา อารัญกลั้นหายใจ ในตอนที่เมียจับหัวอวบใหญ่กดลงตรงปากทางแอ่งอุ่นนุ่มลื่น และพอเธอโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย กดสองมือลงบนอกกว้าง แล้วขย่มลงมา
“พี่รัญ...พอแล้ว” พิมพ์ใจทั้งดิ้น ทั้งขำ เธอทุบบ่ากว้างไปหนึ่งที คนขี้แกล้งจึงหยุดอารัญทาบทับตัวเองลงบนเรือนกายเนียนนุ่ม เขาสอดแขนลงใต้แผ่นหลังบาง กกกอดเธอไว้เต็มอ้อมอก และซุกหน้าอยู่ซอกคอหอมกรุ่น“เฮ้อ ! รู้สึกดีจังเลย พี่อยากกอดพิมพ์ไว้แบบนี้ตลอดไป”พิมพ์ใจยิ้มอ่อนหวาน เธอยกแขนขึ้นกอดเขาไว้เต็มวงแขน ตัวเขาใหญ่โตกว่าเธอมาก พอถูกเขาทาบทับและกอดไว้แน่น ๆ แบบนี้ เธอรู้สึกหนักอยู่เหมือนกัน แต่ความรู้สึกอบอุ่นไปทั้งตัวทั้งใจมันมากกว่า“งั้นก็กอดอย่างนี้ไปจนถึงเช้าเลยดีมั้ยคะ”ทำไมจะไม่รู้ว่า สามีอยากทำมากกว่ากอด เพราะตอนนี้ ความเป็นชายของเขาแข็งคึกแนบอยู่กับต้นขาของเธอคนอยากทำมากกว่ากอดรีบพลิกตัวลงนอนหงาย โดยกอดรัดเมียให้มานอนเกยก่ายอยู่บนตัวเขาแทน“อยากทำมากกว่ากอด แต่วันนี้เหนื่อยจังเลยครับ พิมพ์จ๋า พิมพ์ที่รัก ทำให้พี่หน่อยนะครับ”พิมพ์ใจยิ้มอย่างรู้ทัน หญิงสาวลุกขึ้นนั่งคร่อมหน้าท้องแกร่ง เธอไขว้มือลงจับชายกระโปรงชุดนอนแล้วดึงออกทางศีรษะเธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน ดังนั้น สิ่งที่อารัญเห็นตอนนี้คือ เรือนร่างขาวนวลล้อแสงไฟ กับเต้านมอวบใหญ่ของคุณแม่ลูกหนึ่งแม้น้องพอร์ชจะเลิกกินนมแม่ไปแล้ว
พอได้ไอติมถ้วยเล็กมาแล้ว อารัญก็พาลูกชายไปนั่งรอที่ม้านั่งตัวยาวซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับร้านขนม เขานั่งหันหลังให้ร้าน ใช้ตัวบังลูกชายที่นั่งอยู่บนตัก ป้อนไอติมให้ลูกกินอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่าจะเลอะ แล้วแม่พิมพ์จะจับได้คุณพ่อรัญยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นลูกกินอย่างมีความสุข พอลูกชายกินไอติมจนหมดถ้วย เขาจึงเอ่ยถามว่า“อร่อยมั้ยครับ”“อะหย่อยฮับ” น้องพอร์ชเงยหน้าขึ้นมาตอบและยิ้มหวานให้คุณพ่อ“เปื้อนขนาดนี้ เช็ดปากให้ลูกหน่อยมั้ยคะ”เสียงดุ ๆ มาพร้อมกับทิชชูเปียกยื่นมาตรงหน้าคุณพ่อคนตามใจลูกถึงกับใจหายวาบ เขาเงยหน้ามองคุณแม่หน้าหวานแต่ตาดุ แล้วยิ้มแหยให้เธอ“พิมพ์บอกแล้วว่า ช่วงนี้ น้องพอร์ชต้องงดไอติมและเครื่องดื่มเย็น”“กะ...ก็ลูกอยากกิน” ไม่รู้จะเถียงยังไง และก็ไม่รู้จะเอาเหตุผลใดไปเถียงพิมพ์ใจถอนหายใจแรง หญิงสาวเช็ดปากเช็ดแก้มเลอะไอติมของลูกชาย“กลับบ้านกันได้แล้วค่ะ วันนี้ต้องมีคนโดนทำโทษแน่นอน”พิมพ์ใจพูดพร้อมกับส่งสายตาดุให้สามี ก่อนจะหันไปมองลูกชาย แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากอะไร เจ้าเด็กหัวหมอก็พูดเสียงอ่อนเสียงหวาน“จุนแม่ฮับ จุนแม่คนฉวย จุนแม่ใจดี๊ดีของพอร์ช”พิมพ์ใจถึงกับส่ายหน้ากับ
พิมพ์ใจเดินเข้าไปหยุดอยู่ข้างเก้าอี้ที่สองพ่อลูกนั่งอยู่ เธอยื่นสองมือไปหาลูกชาย เพื่อจะอุ้มไปนั่งรอคุณพ่อที่โซฟา“ไม่อาว...พอร์ชจะอยู่กับจุนพ่อ” เจ้าหนูหันหน้าเข้าหาคุณพ่อ แขนเล็กป้อมกอดลำคอแกร่งไว้แน่น ซุกหน้ากับบ่ากว้าง ไม่ยอมไปหาคุณแม่อารัญกอดลูกชายไว้ด้วยวงแขนข้างหนึ่ง มืออีกข้างลูบศีรษะอย่างรักใคร่เอ็นดูสุดหัวใจ“พี่รัญคะ ส่งลูกมาให้พิมพ์เถอะค่ะ พี่รัญจะได้ทำงาน”“ไม่เป็นไรครับ อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว พี่อุ้มลูกไว้เอง พิมพ์ไปนั่งรอที่โซฟาเถอะ”พิมพ์ใจถอนหายใจบางเบา พลางคิดในใจว่า ดื้อทั้งพ่อทั้งลูกเลย แต่เธอก็ยอมเดินไปนั่งรอที่โซฟาแต่โดยดี“คุณแม่ไปแล้วครับ”คุณพ่อกระซิบกระซาบบอก น้องพอร์ชจึงค่อย ๆ เหลียวหลังไปมอง พอเห็นว่าคุณแม่ไปนั่งอยู่ตั้งไกลแล้ว เด็กชายก็ยิ้มพอใจ เขาขยับตัวนั่งลงบนตักของคุณพ่อ พิงหลังกับอกอบอุ่นที่เขาชื่นชอบอารัญสอดแขนลงใต้รักแร้คนตัวเล็ก โอบกอดลูกไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง มืออีกข้างก็ตรวจงาน เซ็นเอกสารไปเรื่อย ๆน้องพอร์ชนั่งนิ่ง ไม่ดื้อ ไม่ซน นั่งรอคุณพ่อทำงานอย่างเรียบร้อยครู่เดียวอารัญก็ทำงานเสร็จ เขาจึงอุ้มลูก ลุกขึ้นจากเก้าอี้ และพาเดินไปหาคุณมาที่นั่งอ่า
พอพูดถึงบ้านตัวเอง ใบหน้าของพิมพ์ใจก็หม่นเศร้าลง หญิงสาวมองไปนอกหน้าต่างรถ ถนนเส้นนี้เป็นเส้นที่เธอคุ้นเคย และรถก็กำลังเคลื่อนเข้าใกล้บ้านที่เคยเป็นของครอบครัวเธอ เธออยากเห็นอีกสักครั้ง อยากเห็นบ้านที่เธอเคยพักพิง ที่ที่เคยมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ด้วยกัน...อยากเห็นก่อนที่มันจะถูกขายไปเป็นของคนอื่นอารัญกระชับมือนุ่มที่กุมอยู่ เขามองใบหน้าด้านข้างของพิมพ์ใจ เธอกำลังมองออกไปนอกหน้าต่างรถ เขารู้ว่าเธอรอดูตอนที่รถขับผ่านบ้านของเธอ แต่เขาจะไม่ให้รถขับผ่านไปเฉย ๆ เขาจะให้คนขับรถจอด เพื่อเธอจะได้ลงไปดูบ้านหลังเดิมของเธอได้ชัด ๆพิมพ์ใจย่นหัวคิ้วเข้าหากันด้วยความแปลกใจ เมื่อรถตู้จอดที่หน้าประตูรั้วบ้านที่ถูกปิด และมีโซ่กับแม่กุญแจอันใหญ่คล้องไว้ หญิงสาวหันไปมองหน้าคนที่นั่งอยู่ข้างเธออารัญยิ้มอ่อนหวาน ก่อนจะบอกเธอว่า“ลงไปดูใกล้ ๆ มั้ยครับ”“ลงไปดูได้เหรอคะ”เพราะที่ประตูรั้วบ้านมีแผ่นป้ายปิดประกาศเอาไว้ว่า เป็นทรัพย์ของธนาคารแห่งหนึ่ง พิมพ์ใจจึงไม่แน่ใจว่า เธอจะเข้าไปดูใกล้ ๆ ได้จริงเหรอ“ได้สิครับ มาเถอะ พี่พาไปเอง”เมื่อคนขับรถเปิดประตูด้านข้างรถ อารัญลงจากรถก่อน แล้วหันมาประคองคุณแม่ท้องคนสวย
พิมพ์ใจตื่นนานแล้ว แต่เธอยังคงนอนอยู่ท่าเดิม นอนอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นของคนตัวโตหญิงสาวนอนมองหน้าเขาอยู่ครู่ใหญ่ คนที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานจึงลืมตาขึ้น พอเห็นว่าคนที่เขากกกอดไว้ตื่นก่อนแล้ว เขาก็ยิ้มหวาน แล้วหลับตาลงอีกครั้ง พร้อมกับกระชับวงแขนโอบกอดคุณแม่ตัวเล็กไว้เต็มอ้อมอก“ฮื้อ ! พี่รัญขา ตื่นได้แล้วค่ะ วันนี้มีประชุมนะคะ”คนที่ต้องประชุมถอนหายใจเฮือกใหญ่ และบ่นทั้งที่ยังหลับตาอยู่ว่า“พี่ว่า พี่เปลี่ยนอาชีพไปเป็นชาวสวนดีไหม เราสองคนจะได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา ตอนเช้ากินข้าวด้วยกัน ตอนสายก็เข้าสวน พี่ดูแลสวนดูแลต้นไม้ ส่วนพิมพ์ก็นั่งใกล้ ๆ คอยเป็นกำลังใจให้พี่ พอกลางวันก็กินข้าวปิ่นโตฝีมือเมีย ตกเย็นก็เดินจูงมือกันกลับบ้าน อาบน้ำ แล้วก็เข้านอนพร้อมกัน แต่เป็นประธานบริษัทเนี่ย ไม่ได้เข้านอนพร้อมเมียเลย พี่กลับถึงบ้านทีไร พิมพ์ก็หลับก่อนทุกที”พิมพ์ใจลูบแก้มท่านประธานบริษัท เธอยิ้มหวานให้กำลังใจเขา“เป็นประธานบริษัทก็กินข้าวปิ่นโตฝีมือเมียได้นะคะ วันนี้พิมพ์จะทำกับข้าว และเอาปิ่นโตมื้อกลางวันไปให้ที่บริษัทนะคะ พอเรากินข้าวเที่ยงด้วยกันเสร็จ จากนั้นพิมพ์ก็จะนั่งให้กำลังใจพี่รัญอยู่ในห้อ
พอเมียทำให้เขาเสียว เขาก็ระบายความเสียวด้วยการบีบขยำบั้นท้ายอวบอัดสองลอนเต็มสองมือ และเมื่ออารมณ์ร้อนแรงพุ่งสูง เขาก็สอดนิ้วกลางผ่านขอบเป้ากางเกงชั้นในตัวบาง ซอกซอนสำรวจแอ่งเนื้ออุ่นลื่นชุ่มฉ่ำพิมพ์ใจเงยหน้าขึ้น ครางแว่วหวาน เธอกดหัวเข่าข้างหนึ่งลงกลางหว่างแกร่ง เท้าบางอีกข้างยืนอยู่บนพื้น เธอแอ่นก้น ยกกระดก และส่ายร่อนรับนิ้วที่ขยับเสียดสีกลางกลีบเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ“พี่รัญ…พิมพ์จะเอา”เขาทำให้เธอเสียว กระตุ้นจนเธอร้อนฉ่าไปทั้งตัว ร่องสาวตอดกระตุก เรียกร้องหาความแข็งแกร่งมาเติมเต็มอารัญปลดเข็มขัด แกะกระดุม รูดซิป และปลดปล่อยตัวตนแข็งขึงออกมา“เอาเลย เอาพี่แรง ๆ นะครับ พี่รออยู่”สองสายตาสบประสาน ต่างคนต่างกระหายและโหยหากันและกันพิมพ์ใจขยับหันหลังให้เขา เธอรูดกางเกงชั้นนั้นในลงจนพ้นปลายเท้า แล้วจึงล้วงมือลงกลางหว่างขาแกร่ง จับแก่นกายอวบยาวรูดเบา ๆ แล้วจับตรงส่วนหัวมนทู่จี้จมตรงปากทางร่องสาวอารัญประคองเอวของภรรยาไว้ และจับจ้องมองภาพเร้าใจไม่วางตา หัวมนอวบใหญ่กำลังสอดใส่เข้าไปในร่องอุ่นอ้าว แค่ส่วนหัวจมจ่อมเข้าไป เขาก็เสียวจนต้องกัดฟัน พอพิมพ์ใจขย่มบั้นท้ายลงมา ร่องเนื้ออุ่นอ้าวดูดกลืน
“อย่าทำตาแบบนี้สิครับ พี่กลัว”“อย่างพี่รัญน่ะเหรอคะจะกลัวพิมพ์”“กลัวสิครับ พี่กลัวพิมพ์ไม่รัก กลัวพิมพ์หนีไปไกล ๆ อีก ถ้าเป็นแบบนั้น พี่ต้องใจขาดตายแน่นอน”พิมพ์ใจมองสบตาคู่คม เธอประคองใบหน้าหล่อเหลาไว้ในสองมือ“เราสัญญากันแล้วนี่คะว่า จะไม่พูดถึงเรื่องในอดีตอีก เราจะมีความสุขกับปัจจุบัน รักและหวังดีให้กันในทุก ๆ วัน พี่รัญลืมสัญญาของเราไปแล้วเหรอคะ”เพราะบางเรื่องราวในอดีตไม่น่าจดจำเท่าไรนัก แต่ก็ไม่อาจลบเลือนไปจากความทรงจำได้ หลังจากปรับความเข้าใจกันแล้ว เขาและเธอจึงสัญญากันว่า จะไม่พูดถึงเรื่องในอดีตอีก ไม่ว่าจะไม่พอใจกันมากแค่ไหน ไม่ว่าจะผิดใจกันมากเท่าไร ก็จะไม่รื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก ปล่อยให้มันเป็นอดีตไป ให้มันอยู่แค่ในความทรงจำก็พอ“พี่ขอโทษครับ ต่อไปนี้พี่จะไม่พูดถึงอีกแล้ว”อารัญยิ้มเต็มใบหน้า ไม่ว่าเธอต้องการอะไร ไม่ว่าเธออยากให้เขาทำแบบไหน เขาก็ยอมทำให้ทั้งนั้น ยอมให้เธอคนเดียว เพราะอยากให้เธอยิ้มสดใสในทุก ๆ วัน“พิมพ์รักพี่รัญนะคะ”พิมพ์ใจยิ้มอ่อนหวาน นัยน์ตาเป็นประกายสดใส“พี่รักพิมพ์มากกว่า”“พิมพ์รักพี่รัญมากกว่าต่างหาก”อารัญหัวเราะในลำคอ“ไม่เชื่อหรอก”“จริง ๆ นะคะ”“
Comments