Home / LGBTQ+ / จะลูปไหนก็รักเธอ / บทที่ 22 เพราะหมอดูเป็นเหตุ

Share

บทที่ 22 เพราะหมอดูเป็นเหตุ

Author: Me.Daisy
last update Last Updated: 2025-03-07 19:07:26

              เขียนโดยเพนนี  หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง  ลูปที่ 6

              ฉันพายัยคนตาสวยไปหาหมอดูที่ทำนายเรื่องของฉันเอาไว้  ประตูบ้านเปิดแง้มๆ เอาไว้  ฉันจึงเห็นว่ามีผู้สูงวัยสองคนกำลังคุยกับหมอดูอยู่

              "เราอยากรู้เรื่องเพนนี"

              "เพนนีไหน"

              "เพนนีที่คุยเคยทำนายเอาไว้ว่าจะช่วยคนนับล้าน"

              ฉันหูพึ่ง  เมื่อได้ยินดังนั้น  จึงส่งสัญญาณให้แกรมม่าเงียบเสียงลง

              "แล้วพวกคุณจะอยากรู้ไปทำไม"  หมอดูเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า  เพราะอายุมากแล้ว

              "เราเป็นพ่อแม่เธอ"

              ฉันได้ยินดังนั้น  แทบจะเตะประตูเข้าไป

ที่จริง  ก็แค่ดันประตูเฉยๆ

              "แล้วทำไมถึงทิ้งให้หนูอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า"

              "เพนนี!!"            

              ผู้หญิงคนนั้นหันมามองฉันที่เข้ามา  ตาโต  หน้าซีดเผือก 

              "ทำไมคะ  ช่วยบอกหนูหน่อย"

              น้ำตาของฉันไหลออกมา  มันเป็นเพราะความน้อยใจ  ความเสียใจ  และความสะเทือนใจที่ผลักดันน้ำตาออกมา

              "นั่งก่อนเถอะ  เรามีเรื่องต้องคุยกันยาว"

              ผู้ชายคนนั้นบอก  ด้วยเสียงราบเรียบ  ฉันนั่งลงบนเก้าอี้ที่วางอยู่  เราห้าคนเงียบกันไปพักใหญ่  ก่อนที่จะมีคนเอ่ยอะไรขึ้นมา

              "ที่เราสองคนยกเพนนีให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า  เพราะรู้คำทำนายเรื่องลูก  แล้วเราก็คิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะดูแลหนูให้อายุยืนยาว  ด้วยทีมนักวิทยาศาสตร์  ทีมตำรวจ  จนกระทั่งสามารถยื้อชีวิตของหนูเท่าที่จะทำได้"

              "หนูเคยคิดด้วยซ้ำ  ว่าถ้าแลกช็อคโกแลตที่จะได้กินชั่วชีวิตกับการมีครอบครัว  หนูก็จะยอม  แต่ดูเหมือนหนูยังเป็นที่รักไม่พอ"

              ฉันเสียงสั่น  แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกรอบ

              "เราติดต่อท่านกานอยู่ตลอด  โทรมาถามเรื่องหนู  พ่อกับแม่ไม่ได้อยากทิ้งลูก  แต่อย่างที่บอกเราอยากให้ลูกได้ใช้ชีวิตให้ยาวนานที่สุด 

และลูกก็รู้ว่า  การที่ลูกมีความตั้งใจมั่นที่จะช่วยคนอื่น  มันเป็นสิ่งที่ดี

              ลูกรู้ไหมว่าทุกอาทิตย์เราจะไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า  พาไอศครีมไปแจกบ้าง  ไปร้องเพลงบ้าง  แล้วเราก็อยากแอบดูอยู่ห่างๆ ว่าลูกเป็นอย่างไร"

              ฉันปาดน้ำตาทิ้งอีกรอบ

              "จำนิวตันได้ไหม"

              "จำได้ค่ะ"

              "เขาเป็นน้องชายฝาแฝดของหนู  แต่แฝดคนละฝานะ  น้องบอกว่าอยากไปอยู่เป็นเพื่อนหนูที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า  อยากทำให้หนูร่าเริง  สนุกสนาน  แต่นิวตันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้หนูถูกจับไปขาย  และเขาก็บอกผู้ใหญ่ทุกคนให้ตามไปช่วยหนูนะลูก

              เขาขอโทษหนูต่อหน้าพ่อแม่  ร้องไห้ตลอดเจ็ดวันที่ตามหาหนูไม่เจอ  และไม่มีหน้าจะไปเจอหนูอีก"

              "ไอ้หมอนั่น"

              ฉันสะอื้น  พูดอะไรต่อไปไม่ได้

              "แล้วเราก็อยากขอโทษ"  ชายคนนั้นเอ่ย  "ที่ทำให้หนูตั้งชื่อเล่นตัวเองว่าเพนนี  เป็นหน่วยเงินย่อย  เป็นเงินที่แทบจะไม่มีค่า  ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วหนูมีค่าต่อพ่อแม่  ต่อครอบครัวเรา  และต่อประชาชนที่หนูตั้งใจช่วยนะลูก" 

              "พวกคุณไม่รู้หรอกว่าการไม่มีใครตลอดชีวิต  มันยากลำบากขนาดไหน  คิดว่าขอโทษไม่กี่คำ  แล้วมันจะเอาความรู้สึกดีๆ กลับมาได้ง่ายๆ งั้นเหรอ"

              "แกรมม่าคิดว่า  มีคนให้รัก  ดีกว่าไม่มีใครเลยนะ"  แกรมม่าเอ่ยออกมาหลังฟังเรื่องทั้งหมด  "แกรมม่าเคยเสียคนสำคัญในชีวิต  โดยเอาแต่เสียใจที่อยากใช้เวลาให้นานกว่านั้น  อยากบอกลาให้มากกว่านั้น  แต่ตอนนี้เพนนีมีโอกาสแล้วนะ  จะไม่เสียใจทีหลังใช่ไหม  ที่หันหลังให้กับครอบครัวที่พลัดพรากมานาน"

              "ก็ได้"  ฉันเชื่อยัยตาสีเทาคนนี้  "หนูจะลองอีกครั้ง  ยังไงก็เหลือเวลาในชีวิตอีกไม่นานแล้ว"

              "หมายความว่ายังไง"  แม่ของฉันเอ่ย  "อีกกี่ปี  แล้วไหนว่านักวิทยาศาสตร์จะช่วยหนูได้"

              "เขาบอกว่าหนูจะอยู่ได้แค่อีกหนึ่งปีเท่านั้น"

              "โธ่  เพนนี"

              แม่กอดฉันไว้แน่น  เราสะอื้นกันอย่างแรง  ฉันว่าวันนี้เป็นวันที่ฉันเสียน้ำตามากที่สุดในชีวิตแล้วนะ  พ่อเอามือมาวางไว้บนหัวฉัน  เป็นเชิงปลอบ  ฉันอบอุ่นใจ  และรู้สึกเป็นที่รัก 

              "หนูคงตั้งใจมาถามฉัน  ว่าจะยืดอายุได้อย่างไร"  หมอดูชราเอ่ย  ก่อนเปลี่ยนดวงตาสีดำเป็นสีเทา  ฉันขนลุกซู่ที่เธอมีพลังขนาดนั้น  "เท่าที่รู้  จะมีเหตุการณ์พลิกผันขึ้น  ฉันบอกได้เท่านี้  ถ้าบอกไปมากกว่านี้อนาคตจะเปลี่ยนไป"

              "หนูมาคิดๆ ดูแล้ว  อยากจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุดค่ะ  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  หนูจะไม่เสียใจทีหลัง"  ฉันเอ่ย  หันมาสบตาแกรมม่า  เธอจะเข้าใจสิ่งที่ฉันอยากสื่อไหมนะ  แล้วเธอจะจำได้ไหมถ้ามีการวนลูปอีก

              เราคุยกันอีกสักพัก  ก่อนแยกย้ายกันกลับ  ตอนนี้ในมือถือฉัน  มีรูปพวกเราสี่คน  มีฉัน  พ่อ  แม่  และแกรมม่า  เราจะใช้ชีวิตที่เหลือให้มีค่ามากที่สุด

              ฉันและแกรมม่าแยกออกมาตามลำพัง  เราผ่านอารมณ์เศร้าด้วยกันมาตลอดเวลาที่มาสืบเรื่องกาลเวลา  ฉันมองเสี้ยวหน้าของเธอ  ขณะที่เธอนั่งมองแม่น้ำในสวนสาธารณะ 

              สายลมพัดโชย  พาเอาบรรยากาศผ่อนคลายมาด้วย  ทำให้ฉันอยากเอ่ยความในใจ

              “เสียใจไหม  ที่รู้จักเพนนี”

              “เสียดายเวลาที่ได้คุยกันแค่นี้”

              “เพนนีวนลูปมาหลายครั้งแล้ว  แล้วก็มั่นใจ  ว่าชอบ       แกรมม่า”

              เธอไม่ตอบ  แต่หน้าแดงก่ำ  หลบสายตาฉัน

              “แกรมม่ารู้จักเพนนีมานานแล้ว  แต่เพนนีอาจจะจำไม่ได้”

              “หมายความว่า?”

              “ไม่ได้หมายความว่าไง  แค่เล่าให้ฟัง”

              เธอไว้ท่า  และดูไม่อยากตอบคำถามฉันอีก  แต่ฉันเหลือเวลาไม่มากแล้ว  และ...

              “เพนนีไม่อยากเสียดายทีหลัง”

              ฉันโน้มตัวไปจับท้ายทอยเธอ  แล้วมอบจุมพิตอ่อนหวานให้  เธอถอยหลัง  แต่โดนฉันจับไว้  เพราะบรรยากาศหรือเพราะความรู้สึก  ทำให้เธอค่อยๆ ผ่อนคลาย  และยอมโอนอ่อนให้ฉัน  เป็นจูบสั้นๆ  เป็นจูบอนามัย ที่ทำให้เราได้ยินเสียงหัวใจตัวเอง

              กึกก้อง  และกึกก้อง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 29 เมื่อแสวงหารักที่ดีได้แล้ว(ตอนจบ)

    เขียนโดยเพนนี หลังจากนั้น 4 เดือน ลูปที่ 6 ฉันพาแกรมม่ามาที่ห้องพักบ่อยครั้ง พวกเราค่อนข้างหวานแหวว ตัวติดกันจนแทบจะแยกไม่ออก แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกเปลี่ยนไปตั้งแต่มีเธอ นั่นคือ… อ้อยอิ่ง หุ่นยนต์แม่บ้านเอไอทำตัวแปลกออกไป อย่างที่ฉันสงสัยมาเสมอ ว่าเธอถูกใส่โปรแกรมให้รักเจ้านายเข้าไปด้วย หรือไม่วิวัฒนาการก็ทำให้เธอมีอารมณ์เหมือนมนุษย์ อ้อยอิ่งไม่ฮัมเพลงเวลาทำกับข้าว อ้อยอิ่งไม่รีบมาเวลาฉันเรียก และอ้อยอิ่งประชดประชันฉันบ่อยขึ้น “หุ่นยนต์เอไอ” ฉันเรียกเธอ “ค่ะ เจ้านาย” แทนที่จะต่อปากต่อคำให้ฉันเรียกชื่อเหมือนอย่างเคย แต่เธอกลับตอบรับอย่างไม่มีชีวิตชีวา “งอนเหรอ” “หุ่นยนต์ไม่สามารถมีความรู้สึกได้ นอกจากยินดีทำตามคำสั่งค่ะ และอ้อยอิ่งก็เป็นแค่หุ่นยนต์” ฉันต้องแคร์ไหมเนี่ย เอา ก็ได้วะ “ขอบคุณอ้อยอิ่งมาก ที่ทำงานรับใช้ฉันอย่างดีเสมอมา” ฉันไม่รู้จะจบประโยคนี้ได้อย่

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 28 แล้วครอบครัวที่หายไปก็กลับมา

    เขียนโดยนิวตัน เมื่อ 16 ปีก่อน พ่อแม่ของเรามาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบ่อยๆ จนพี่เพนนีจำหน้าพ่อกับแม่ได้ เธอจะยิ้มกว้างทุกครั้งที่เห็นพวกท่าน เพราะท่านจะเข้ามาพูดคุยกับเด็กๆ ไม่เว้นแม่แต่กับเธอ เด็กในนี้จะโหยหาความรัก และอยากให้คนมาสนใจ อันที่จริง เพราะอยากจะมีโอกาสได้คุยกับพี่เพนนีด้วย แต่ไม่อยากให้มันโจ่งแจ้งนัก กระทั่งพ่อกับแม่เป็นห่วงพี่เพนนีมาก จนแม่ต้องร้องไห้ทุกคืน “เดี๋ยวผมจะไปอยู่กับพี่เพนนีเองครับ” ผมอาสา “เราเสียลูกสาวให้ส่วนรวมไปแล้ว ยังต้องเสียลูกชายไปด้วยเหรอคะคุณ” แม่ทำตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้ “ผมจะดูแลพี่เพนนี จะเอ็นเตอร์เทนจนพี่ต้องร้องขอพัก” ผมหัวเราะคิกคัก “ผมจะเล่าให้ฟังว่าเราทำอะไร กินอะไร นอนยังไงนะครับ แม่จะได้หายกังวล” หลังจากนั้นอีกสามวัน ผมก็เข้ามาอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ผมเป็นเด็กใหม่ที่ค่อนข้างอ้วน หลายๆ คนจึงเข้ามาบูลลี่ผม เพราะเด็กที่นี่หุ่นสมส่วนทุกคน “ไอ้เด็กอ้วนๆ มันจะโดนไม้เสียบๆ เสียบตูดซ้าย เสียบตูดขวา ร้อนจริงๆ ร

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 27 วันรวมญาติของเพนนี

    เขียนโดยเพนนี หลังจากนั้น 93 วัน ลูปที่ 6 ภาพรอบๆ ตัวฉันเป็นสีขาวโพลน แวบแรกฉันคิดว่า นี่คือสวรรค์หรือไม่ก็โลกหลังความตาย มีคนตายกี่คนที่จะกลับมาบอกเราว่า โลกหลังความตายเป็นอย่างไร แล้วภาพก็ค่อยๆ กระจ่างชัดขึ้น ฉันจึงเห็นว่าสวรรค์แห่งนี้ ดูเหมือนโรงพยาบาล "ตื่นแล้วเหรอ" "คอแห้งมากเลย" ฉันตอบกลับเสียงนั่นเบาๆ ก่อนจะเห็นว่าเป็นแกรมม่า เป็นแกรมม่าเวอร์ชั่นที่ไม่ได้เห็นนานแล้ว นั่นคือเวอร์ชั่นที่ไม่อมทุกข์ "รู้สึกอย่างไรบ้าง" ฉันสำรวจแขนขาตัวเอง ก็ยังผอมบางเหมือนเดิม แต่รู้สึกได้ว่ามีกำลังวังชายิ่งกว่าเดิม เหมือนได้รับยาเพิ่มพลังชีวิตอย่างไรอย่างนั้น "ก็ดี" "พูดให้เจาะจงหน่อย" "รู้สึกมีแรงมากขึ้น ตัวเบาขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อน" "วิเศษมาก!!" แกรมม่าแทบจะตะโกน "ตอนนี้เพนนีหายแล้วนะ เพนนีจะไม่ตายแล้ว" "ว่าไงนะ บุญช่วยงั้นเหรอ" ฉันเอ่ยอย่างใสซื่อ ไม่รู้จะนึกเรื่องไหนได้อีกแล้ว "เพนนีจะไม่ตายจ

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 26 แล้วไวรัสก็ระบาด

    เขียนโดยเพนนี หลังจากนั้น 3 เดือน ลูปที่ 6 "เพนนีเป็นยังไงบ้าง" แกรมม่าถามเมื่อเห็นสีหน้าฉันขาวราวกับกระดาษ โธ่ ลืมปัดแก้มอีกแล้ว "ก็ยังสบายดีค่ะ เพนนีเคลียร์งานนี้เสร็จ จะไปกินข้าวด้วยนะ" "แกรมม่ามีเรื่องจะบอก" เธอทำหน้านิ่ง จนฉันกลัวอีกแล้ว ยังมีเรื่องอะไรที่น่ารู้ก่อนที่ฉันจะตายอีกไหมนะ แต่ก็อีกเป็นปีๆ แหละนะ "แกรมม่าจำได้ทั้งหมด ทุกครั้งที่มีการวนลูป" "หะ?" ฉันอุทาน "ได้ยังไง" "แกรมม่าจดจำเรื่องทุกอย่างได้เพราะ โธ่ อย่าทำหน้าตกใจขนาดนั้น ก็แค่จำได้ ลุงกานเลยคุยกับแกรมม่าเพื่อยืนยันเรื่องของเพนนี ตลอดเวลาที่เราวนลูป" "แล้วยังไงอีก" "หมายความว่าไง ก็บอกไปทุกเรื่องแล้ว" เธอก้มหน้าหงุด รู้ว่าถึงฉันจะวนลูป แต่ในใจก็มีเธอเสมอ โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ ฉันได้บอกรักเธอ หน้าฉันเลยมีสีจัดขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ "แล้ว...แล้ว...แล้ว" "แล้วอะไร" แกรมม่าคงจะเขินจริงๆ "แล้วรักเพนนีบ้างหรือยัง"

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 25 ของใครก็ของคนนั้น

    เขียนโดยเรย์ หลังจากนั้น 8 วัน ลูปที่ 6 ภายหลังนาดาเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ อาจารย์เพนนีก็มาหาผมที่บ้าน และขอคุยกับผมตามลำพังในห้องรับแขก “อาจารย์เข้าเรื่องเลยละกัน” “มีนัดต่อกับพี่แกรมม่าเหรอครับ” ผมดักทาง เหม็นกลิ่นความรัก “ขอเขกหัวทีเถอะ ไอ้เด็กนี่” ไม่พูดเปล่า แต่ยกมะเหงกขึ้นมาด้วย แต่ผมหลบไวกว่า ผู้หญิงหรือจะไวสู้ผู้ชายได้ อาจารย์เลยทำหน้าเคร่งขึ้นมา “มานั่งให้ดีๆ” “ครับ” “ไปหาคุณฮาริสที่เพนเฮาส์ ไปต่อหน้าอาจารย์นี่แหละ” “ครับ” ผมสวมเสื้อสูท VR ส่วนอาจารย์เพนนีเปิดแท็บเล็ตส่วนตัวเพื่อติดตามบทสนทนาระหว่างเรา ผมขึ้นลิฟท์ไปแบบอารยชน ไม่ได้ไปในฐานะขโมยหรือผู้ร้าย ผมรู้จากคำบอกเล่าของอาจารย์เพนนีที่ว่า ผมกระตุ้นให้เกิดเรื่องร้ายแรงในประเทศเรา และกำลังจะทำให้คนบริสุทธิ์ต้องเดือนร้อนจำนวนมาก ถึงขั้นตายเลยเสียด้วยซ้ำ “ผมขอโทษครับ” ผมก้มกราบคุณฮาริสที่อยู่ในรูปร่างบลูค

  • จะลูปไหนก็รักเธอ   บทที่ 24 ผมมาเพื่อปลดแอกนาดา

    เขียนโดยฮาริส หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ ลูปที่ 6 ผมเข้าประชุมกับองค์กรระหว่างประเทศเพื่อขอปลดแอกประเทศนาดาจากประเทศมหาอำนาจและช่วยให้พ้นความยากจน เพื่อทำแนวทางใหม่สู่ความยั่งยืนและความเสมอภาค ในเวทีนี้ ผมคาดหวังว่าจะได้รับไอเดียดีๆ และพันธมิตรที่จะมาช่วยเหลือนาดาได้สำเร็จ ประธานในที่ประชุมกล่าวต้อนรับเรา และชี้แจงวัตถุประสงค์ในการประชุมวันนี้ ผมตื่นเต้นจนมือเปียก น้ำลายหนืด แถมปากแห้งไปหมด ถึงอย่างนั้น แต่ผมหันหน้าสี่สิบห้าองศาให้กล้องที่กำลังถ่ายทอดสดพวกเราอยู่ แหม ต้องขอบคุณเพื่อนนายแบบที่สอนทริคนี้ให้ผม ส่วนตัวผมกล่าวขึ้นแถลงเป็นคนถัดไป ผมซ้อมมาหลายวันกว่าจะกล้าขึ้นเวทีในวันนี้ ผมบอกตัวเองหลายรอบแล้ว ว่าผมคือพระเอกในวันนี้ พระเอกที่ทำทุกอย่างอย่างที่ควรเป็น เลิกเสียทีการสละเลือดเนื้อ เพื่อเอาชีวิตรอดในแต่ละวัน “ในประเทศของเรา ความยากจนเป็นปัญหาเศรษฐกิจที่สำคัญ เพราะเชื่อมโยงความไม่เท่าเทียมทางการศึกษาและสิทธิในการเข้าถึงโอกาสทางการปกครอง โดยเฉพาะเมื่อประเทศที่ปกครองเราอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status