Share

บทที่ 3

Author: wmtawisa9a
last update Last Updated: 2025-04-04 20:11:47

เผลอหลับไปนานน่าดูเลยสินะ พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็มืดซะแล้ว แถมยังมีเจ้าเด็กผมทองท่าทางประหลาดนั่งจ้องหน้าอยู่ด้วยสิ....

“นี่-”

“ตื่นแล้วหรอ ผมอีเดน!”

ไอ้ท่าทีกระตื้อรื้อร้นของเขามันชวนให้ฉันปวดหัวแหะ ตกลงว่าที่นี่มีคนอยู่กี่คนกันแน่ ดวงตาสีทองจับจ้องมาที่ฉันไม่วางตา ผมสีทองงั้นหรอหรือว่าเขาจะเป็นชาวต่างชาติกันนะ?

“ไอริสไปไหนแล้วล่ะ แล้วนายคือใคร?”

“ผมก็เป็นสัตว์เลี้ยงของยูโรไง ยังไม่ได้อ่านกฎมาเลยใช่ไหม ผู้ท้าชิงทุกคนจะมีสัตว์เลี้ยงประจำตัว”

“สัตว์เลี้ยง? แต่เท่าที่เห็น นายก็เป็นคนธรรมดานี่น่า ดะ เดี๋ยวสิ! คิดจะทำอะไรของนายน่ะ น่ะ นกฮูกงั้นหรอ!?”

คนร่างบางมองเด็กผู้ชายร่างเล็กเรือนผมสีทองอร่ามค่อยๆเปลี่ยนร่างกายตัวเองให้กลายเป็นนกฮูกสีขาวบริสุทธิ์แล้วก็โบยบินมาเกาะที่แขนเธออย่างตกตะลึง

“ก็ใช่น่ะสิ ผมเป็นนกฮูก”

จู่ๆเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นตามมาด้วยร่างของคนผิวขาวที่ถือทานอาหารมาให้ฉันที่ยังตกใจไม่หาย

“ตื่นแล้วหรอคะ”

“ไอริส”

“ฉันเอาอาหารมาให้ค่ะ เห็นว่าคุณยังไม่ได้ทานอะไรเลยหลังจากที่มาที่นี่ อีเดนหยุดกวนท่านยูโรได้แล้ว”

ท่านหรอ จริงสิที่หมอนั่นพูดดูเหมือนว่าฉันจะกลายเป็นเจ้านายของคนบ้านนี้ไปแล้วสินะ

“ไม่ได้กวนซะหน่อย ผมพิสูจน์ตัวเองอยู่ต่างหากเล่า”

นกฮูกสีขาวขนปุยบ่นอุบอิบก่อนจะกลายร่างเป็นเด็กผู้ชายตามเดิม

“ไม่ต้องเรียกฉันว่าท่านหรอก แค่ยูโรก็พอแล้ว ขอบใจนะที่เอาอาหารมาให้”

“ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว”

“หน้าที่หรอ ทุกคนที่นี่ดูมีหน้าที่กันเยอะจังนะ”

คิดไปคิดมาก็ถึงวันรายงานตัว และฉันก็เกลียดอะไรแบบนี้ที่สุดเลยระบบทาสไร้พรมแดนเนี่ย ทำอย่างกับพวกที่ถูกเลือกสูงส่งนักหนาเป็นคอมมิวนิสต์รึไง ขนาดที่ว่าจะกดขี่ข่มเห่งใครก็ได้ แบบนี้มันไม่ใช่พระเจ้าแล้ว ปีศาจชัดๆ

“นี่แกกล้าดียังไง มาเดินชนฉันห๊ะ คุกเข่าไปเลยนะเฟ้ย”

ระบบชนชั้นก็พอจะรู้มาจากไอริสบ้างนิดหน่อย ว่าพวกพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกต่างๆเอาไว้มากมายและก็เพราะมีพระเจ้าถึงได้มีโลกอื่นๆเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ดังนั้นสิ่งมีชีวิตบนโลกจึงต้องต่ำต้อยกว่าพระเจ้าทั้งหมดซึ่งมันก็ไม่น่าแปลกอะไรถ้าจะมีพวกชนชั้นปกครองบางส่วนที่บ้าอำนาจและไม่สนใจสิ่งรอบตัวอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้

“ขะ ขอโทษครับ!”

“นึกว่าแค่ขอโทษมันจะหายรึไง จงเผาไหม้”

ทันทีที่เด็กผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นร่างของมนุษย์หมาป่าสีน้ำเงินที่กำลังคุกเข่าอ้อนวอนอยู่ก็ติดไฟจนลามไปทั่วตัว

“ระ ร้อน! อ้ากกก ได้โปรดให้อภัยผมเถอะครับ! ผมจะไม่ทำอีกแล้ว!! เจ็บปวดเหลือเกิน! ได้โปรด!!”

ไม่มีใครกล้าให้ความช่วยเหลือเขาเลย จนกระทั่งมนุษย์หมาป่าตนนั้นวิ่งกระโดดลงไปในน้ำด้วยความร้อนร้นแต่ก็ไม่สามารถดับเปลวไฟของเด็กชายผมแดงได้

“เปล่าประโยชน์ เปลวไฟของพระเจ้า ถ้าไม่ใช่พระเจ้าด้วยกันก็ไม่สามารถดับได้หรอกน่า งี่เง่าจริง ไปกันเถอะ เซ็น”

“นี่นายจะปล่อยมันไว้แบบนี้หรอ รินคุ”

เด็กชายผมดำดวงตาสีม่วงเข้มปลายตามองมนุษย์หมาป่าด้วยแววตาเย็นชาทำให้คนด้านข้างตัวเขาหัวเราะออกมาดื้อๆ

“นั่นสินะ บางทีฉันควรฆ่ามันไปเลยดีกว่า น่ารำคาญ ยังไงซะก็ไม่มีใครกล้าห้ามอยู่แล้ว หึหึหึ”

ทำไมไม่มีใครห้ามเลยล่ะ หมอนั่นคิดจะฆ่าเขาอยู่แล้วนะ ทำไมทุกคนถึงก้มหน้าหนีกันล่ะ!

“ไปกันเถอะยูโร เดี๋ยวเข้าไปรายงานตัวสายนะ”

อีเดนที่เดินมาด้วยกันจับมือฉันแน่นพลางพาเดินเลี่ยงไปอีกทาง

“ทำไมไม่มีคนช่วยเลยล่ะ เดี๋ยวหมอนั่นก็ตายจริงๆหรอก !”

ฉันสะบัดมือออกจากการจับกุมของอีเดนที่ทำหน้าเสียใจไม่ต่างกัน

“มันช่วยไม่ได้นี่ ถ้าเป็นพระเจ้าอยากได้อะไรก็ต้องได้ มันเป็นกฏของโลกใบนี้ ทุกคนไม่มีสิทธิตัดสินใจหรอก”

“ไม่เห็นจะมีเหตุผลเลย!”

“พระเจ้าไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผลอยู่แล้ว”

อีเดนเบือนหน้าหนีความจริงก่อนที่ฉันจะเผลอกัดริมฝีปากบางจนห่อเลือดถ้าหากฉันมีพลังซักนิดล่ะก็ ฉันจะอัดหมอนั่นให้กระเด็นแน่ๆ

“ถึงเธอจะคิดแบบนั้นจริง ก็อย่าทำมันเลยดีกว่า กฎของพระเจ้า ข้อที่ 3 เราจะไม่ก้าวก่ายกัน นั่นก็หมายความว่า ถ้าเธอเข้าไปมีเรื่องกับเจ้าพวกนั้นเท่ากับว่าเธอประกาศตัวเป็นศัตรูกับพระเจ้าด้วยกัน แบบนั้นเธอจะลำบากเอานะ แล้วก็ถ้าแค้นใจล่ะก็ โทษตัวเองที่อ่อนแอซะเถอะ”

น้ำเสียงของคนร่างสูงสวมชุดโรงเรียนเดียวกันจับบ่าของฉันไว้ด้วยความสุขุม โดยที่ข้างๆ ตัวของเขาก็มีเด็กผู้หญิงผมสีชมพูยืนอยู่ด้วย

“ฉันชื่อ คราน ส่วนนี่ ชามอน สัตว์เลี้ยงของฉัน ยินดีที่ได้รู้จัก”

คนผมสีม่วงเข้มส่งสายตามาที่เด็กสาวร่างบางซึ่งกำลังมองเขาด้วยสายตาแข็งก้าว

“มันไม่เกี่ยวว่าฉันจะอ่อนแอหรือว่าจะแข็งแรง แต่การที่เห็นคนเดือดร้อนแต่ไม่ช่วยเหลือ ทั้งที่ถ้าช่วยก็ช่วยได้ มันเรียกว่าขี้ขลาดไม่ใช่รึไง!”

“นี่เธอ....”

ครานชะงักลงเล็กน้อยก่อนจะเห็นเด็กสาววิ่งตรงเข้าไปหาคนพวกนั้นทันที โดยที่มีอีเดนวิ่งตามไปห้ามแต่ก็ไม่ทันการซะแล้ว

“หยุดนะ! คิดว่าจะทำร้ายคนอื่นยังไงก็ได้รึไง นายมีสิทธิ์อะไรไปตัดสินคนอื่น”

“เธอเองก็มีสิทธิ์อะไรมาตัดสินฉันล่ะ มายุ่งเรื่องคนอื่นเค้าอยู่ได้ น่ารำคาญ สวมชุดโรงเรียนเดียวกัน หรือว่าเธอก็เป็นผู้ท้าชิงแต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่รู้จักอ่านกฎบ้างรึไง”

“กฎพวกนั้น ถ้ามันทำให้พวกนายหยิบมาใช้ทำร้ายผู้อื่นแบบนี้ ฉันก็ไม่สนใจหรอก!”

พูดจบเด็กสาวก็กระโดดลงน้ำไปเพื่อช่วยเหลือเด็กชายมนุษย์หมาป่าคนนั้นทันที ทำให้เปลวไฟที่อยู่รอบตัวของเขาค่อยๆมอดดับลงไปเมื่อเด็กสาวเอื้อมมือเข้าไปสัมผัส

“น่าสนใจดีนี่ ว่าแต่เธอเป็นเด็กใหม่ไม่ใช่หรอ ใช้พลังยังไม่เป็นเลยแท้ๆ ยังจะกล้ามาสั่งสอนฉันอีกนะ คงต้องเจอดีซะหน่อยแล้วมั่ง”

คนผมแดงเพลิงจ้องฉันอย่างนึกสนุกในขณะที่คนผมดำได้แต่มองตอบฉันด้วยสายตาเรียบนิ่ง

“จงมอดไหม้ คารัน!”

เวทย์เพลิงระดับสองแผ่กระจายออกมาเป็นวงกว้างจากท้องฟ้าสีครามตามการชี้นิ้วของรินคุซึ่งกำลังจ้องเล่นงานเด็กสาวร่างบางที่นั่งสำลักน้ำจากการช่วยเหลือคนตรงหน้าทำให้อีเดนต้องรีบวิ่งเข้ามาขัดขวางเอาไว้ ก่อนที่คนร่างสูงในชุดสูทโรงเรียนเดียวกันจะเดินเข้ามาหยุดเปลวไฟสีเพลิงนั่นด้วยความรู้สึกเฉยชา จนทำให้รินคุอารมณ์เสีย

“จงดับสลาย มีเกล”

ทันทีที่พูดจบสายลมที่พัดเร็วดั่งใบมีดก็พุ่งเข้าไปตัดเปลวไฟของรินคุทันทีจนไม่หลงเหลือร่องรอยอะไรเอาไว้อีกเลย

“ครานนี่นายก็จะเป็นศัตรูกับฉันด้วยงั้นสิ”

“ฉันเดาว่านายคงไม่อยากโดนริบหมายเลขรายงานตัวของตัวเองตั้งแต่วันแรกของการเปิดภาคเรียน”

“หนอย ฝากไว้ก่อนเถอะ ยัยเด็กใหม่ ส่วนนายครานหลังจากนี้ถ้าเข้ามายุ่งไม่เป็นเรื่องอีก ฉันจะบดขยี้นายให้เละ ไปเถอะ เซ็น”

สิ้นคำขู่ของเด็กชายผมสีแดงเพลิงเขาก็รีบเดินหน้าต่อทันทีโดยที่ไม่ลืมจะปลายตามองเด็กสาวร่างบางซึ่งสำลักน้ำค่อกแค่กอยู่ริมสระน้ำ

“นี่เธอเป็นไงบ้าง”

“ยูโร ปลอดภัยไหม!”

อีเดนที่ได้สติจากการแบกรับแรงกดดันของตัวแทนพระเจ้าทั้งสามทำให้ตัวของเขาแทบจะยืนไม่อยู่รีบหันกลับไปหาเจ้าของตัวเองด้วยความกังวล

“แค่ก แค่ก! มะ ไม่เป็นไร…”

ฉันมองร่างของมนุษย์หมาป่าที่กลายร่างเป็นลูกสุนัขด้วยความกังวลก่อนที่จะถูกอีเดนดุยกใหญ่

“เธอมันบ้าไปแล้วยูโร! ใช้พลังก็ยังไม่เป็น ทำไมถึงเข้าไปขวางแบบนั้น ถ้าท่านครานไม่เข้ามาช่วยเอาไว้เธออาจตายไปแล้วจริงๆก็ได้ คิดให้เยอะๆ หน่อยเซ่ ถ้าเธอเป็นอะไรไป แล้วฉันจะอยู่ยังไง ยัยคนบ้า บ้าที่สุดเลย!”

อีเดนกำลังร้องไห้อย่างหนักพลางจับไหล่ฉันด้วยความสั่นไหว ทั้งหมดนี่เป็นเพราะฉันงั้นหรอ มือของเขาเย็นเฉียบเลย

“เดี๋ยวชามอนจะรักษาเรื่องมนุษย์หมาป่าคนนั้นให้เองถ้าเธอต้องการ แต่ตอนนี้ไปกับฉันก่อนเดี๋ยวจะไม่ทันรายงานตัวเอา ส่วนนายเป็นสัตว์เลี้ยงของเธอสินะ”

“ครับ...ฮึก....ฮึก..”

“หยุดร้องไห้ได้แล้ว ไปเอายาปรับสภาพมา ส่วนเจ้านายของเธอ ฉันจะดูแลให้เอง ”

“คะ ครับ ขอบคุณครับท่านคราน ฮึก แล้วผมจะรีบกลับมา!”

พูดจบอีเดนก็กลายร่างเป็นนกฮูกสีขาวแล้วโบยบินไปยังท้องฟ้าทันที ทิ้งให้ฉันต้องนั่งกุมแขนตัวเองดื้อๆ เพราะอยู่ๆ ก็หนาวจับใจจนแทบจะขยับตัวไม่ได้ คนร่างสูงจึงช่วยดึงแขนของเด็กสาวขึ้นก่อนจะช่วยทำให้ชุดของคนร่างบางแห้งสนิทด้วยกระแสลมอุ่นๆ

“คงช่วยไปได้ระยะนึง แต่ยังไงเธอก็ต้องกินยาอยู่ดี นี่ล่ะข้อจำกัดของพวกถูกเลือกใหม่ วิญญาณเธอยังปรับสภาพได้ไม่ดีนัก ตอนนี้ก็ยังหนาวอยู่สินะ”

“ทำไมคุณถึงรู้ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ทั้งที่เห็นแต่ก็ไม่ช่วย”

“เพราะยังไง มันก็ไม่ดีขึ้น ถ้าจะพูดให้ถูก เธอถูกฉันช่วยชีวิตไว้ครั้งหนึ่งแล้ว หยุดตั้งคำถามแล้วไปกับฉัน ก่อนที่เธอจะโดนปรับตก”

พูดจบคนร่างสูงก็เดินนำฉันไปในขณะที่ผู้คนรอบกายก็เริ่มทยอยเดินหายไปทีละคนทางราวกับมันเป็นเรื่องปกติ

“มีแค่ฉันเหรอ ที่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม...”

คนร่างบางพึมพำตามหลังคนร่างสูงที่เดินนำเธอไปไกลก่อนจะหยุดลงดื้อๆ พร้อมกับรอยยิ้มขมขื่น

“ความยุติธรรม...นั่นสิ...ไม่ได้ยินคำนี้มานานเท่าไรแล้วนะ...”

ยังไม่ทันจะถามอะไรต่อไป ผู้ชายสวมชุดสูทสีขาวที่ฉันเจอในวันแรกก็ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับใบกระดาษซึ่งสลักชื่อของฉันและเขาอยู่ในนั้น

“มาช้าสมเป็นเด็กใหม่ดีนะ เอ้า รับไปสิ ลำดับของพวกเธอ”

ฉันที่กำลังแบมือจะรับหยุดชะงักลงทันที เมื่อจู่ๆ กระดาษมันแปลงเปลี่ยนมาเป็นกำไลข้อมือสีขาวติดข้อมือของฉันแทน

“แค่นี้ก็ตกใจแล้วหรอ สัญลักษณ์ของพระเจ้ายังไงล่ะ ยิ่งกำไลมีรูปลักษณ์แตกต่างไปเท่าไร ก็เท่ากับว่ามีลำดับชั้นที่สูงขึ้นเท่านั้น ไปเข้าชั้นเรียนได้แล้ว คาบเรียนทฤษฎีไม่ได้มีกันบ่อยๆ หรอกนะ”

ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่ดันต้องมาจับคู่กับอีตาหัวแดงรินคุที่จ้องจะเขมือบหัวฉันเนี่ยนะ ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ มีขอบเขตกันบ้าง

“หนอย ทำไมฉันต้องจับฉลากได้ยัยเด็กใหม่งี่เง่านี่ด้วยนะ ทั้งที่เป็นการลงสนามครั้งแรกแท้ๆ ไม่สบอารมณ์ชะมัด”

เขาจิกตาใส่ฉันไม่รู้จักหยุดหย่อน นึกว่าฉันอยากคู่กับนายมากนักสิ แล้วนี่อะไร ถูกส่งมาโลกมนุษย์กับคนบ้องตื้นแบบนี้เนี่ยนะ

“อะไร ยัยเด็กใหม่ อยากโดนฉันเผารึไง”

ไอ้สายตาดูถูกพลางปล่อยเปลวไฟในมือโชว์นี่มันอะไร อย่าทำเป็นว่าที่นี่จะใช้พลังซี้ซั้วได้สิยะ นึกว่าฉันจะบ้าจี้ตามรึไง ประสาท

“ว้าว มีคนเล่นมายากลเสกไฟที่มือได้ด้วยล่ะ!”

นั่นไง เริ่มกลายเป็นจุดสนใจซะแล้วสิ....

“นี่นาย อยากให้บททดสอบแรกมีแค่เราที่สอบตกรึไง ทำบ้าอะไรของนายห๊ะ ลบความจำพวกเขาเลยนะ”

“เธอไม่มีสิทธิมาสั่งฉันนะ น่ะ นี่จะไปไหน! เฮ้ ยัยเด็กใหม่!”

ในเมื่อคุยกับอีตาไม่สนโลกไม่รู้เรื่อง มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่ฉันจะทิ้งเขาไว้กับผู้ชนที่เริ่มสนใจในตัวของเขามากขึ้นเรื่อยๆ แล้วทำตามภารกิจด้วยตัวคนเดียว กับแค่ทำให้ทั้งสองคนรักกันมันจะไปยากอะไร

“น่ะ นี่ ยัยบ้า! เฮ้! เธอจะทิ้งฉันไว้ที่นี่หรอ ฉันไม่ใช่สายควบคุมนะ นี่กลับมาเดี๋ยวนี้ โถ่เว้ย!”

คนผมแดงหัวเสียหนักกว่าเก่าเพราะมีมนุษย์มากหน้าหลายตาเข้ามารุมล้อมตัวเขาเรื่อยๆ ในขณะที่คนร่างบางซึ่งมาด้วยกันก็ทิ้งเขาไปอย่างไม่ใยดีแล้ว

‘จำไว้ไม่ว่ายังไง ห้ามใช้พลังโดยไม่จำเป็น ห้ามทำร้ายมนุษย์เด็ดขาด และข้อห้ามที่สำคัญที่สุดก็คือห้ามให้พวกเขารู้ว่าพวกเธอเป็นใคร ถ้าทำผิดกฎล่ะก็จะโดนปรับตก คะแนนติดลบนะจ๊ะ คะแนนติดลบนะจ๊ะที่รักอย่าลืม’

“สุดหล่อทำได้ไงกันคะ / มีแฟนยัง / สนใจไปคัดตัวไหม! / กรี๊ด!”

ยังไงซะ หมอนั่นก็คงไม่ก่อปัญหาเพราะข้อห้ามพวกนั้นหรอก หลังจากออกห่างได้พอสมควร ฉันก็เริ่มคิดได้ว่า ควรจะสร้างฐานะและตัวตนใหม่ในโลกใบนี้ แม้ว่าเวลาในโลกมนุษย์จะสั้นกว่าโลกของพระเจ้าก็ตาม ตอนนี้ชื่อของฉันคือยูโร ชิยูอิน เจ้าของบริษัทนำเข้ารถยนต์ต่างประเทศผู้ที่จะทำให้คำขอต่อพระเจ้าแห่งความรักเป็นจริงขึ้นมา

เกร็ดความรู้ : ยูโร จับได้ภารกิจคำขอให้ช่วยจากเทพเจ้าสื่อรัก โดยปกติเทพเจ้าต่างๆ ล้วนมีภารกิจและคำขอมากมาย ในแต่ล่ะปีจึงมีการแบ่งคำขอเหล่านั้นมาส่งต่อให้กับพวกนักเรียนของพระเจ้าใช้ในการทดสอบความสามารถ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 143

    “ก็ไม่แน่ ถ้าไม่อยากให้ฉันขายก็ทำตัวดีๆ ”“อุ๊บ...ฮ่าฮ่าฮ่า โอเคค่ะฉันจะทำตัวดีๆเพื่อไม่ให้คุณขายฉันก็ได้ แต่แย่หน่อยนะคะ ฉันไม่มีความคิดจะไปเผ่าของคุณเลยสักนิด เพราะงั้นขอตัวก่อน”“เดี๋ยว!”“อะไรอีกล่ะคะ”“ฉันจะนำทางไปเอง”เปลี่ยนใจแล้วเหรอ อะไรกันจะเป็นคนดีก็ทำได้นี่น่า“ขอบคุณค่ะ”“เห็นแก่ที่เป็น

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 142

    “ขี้โวยวายไปได้ถ้ารักษาทันก็ไม่ตายหรอกน่า”นี่มันคำพูดของคนที่เพิ่งจะแทงลำคอของฉันรึไง...เป็นบ้าอะไรของเธอเนี่ย“ก็อย่างพวกที่มาจากนอกโลกอะไรนั่นไง ถึงตายไปก็ฟื้นขึ้นมาอีก พวกขี้โกงนั่นตายๆไปให้หมดก็ดี ทำตัวเป็นผู้กล้าผู้ประสบความสำเร็จกันไปได้ แค่ได้เกิดใหม่ก็วิเศษวิโสนักรึไง จะข่มใครเขายังไงก็ได้ส

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 141

    “ฉันไม่เห็นจะเข้าใจสักนิดเลยค่ะ!”“งั้นพวกเราก็จะไปด้วย”“ไม่ได้สิครับ พวกคุณไม่ได้รับอนุญาตให้ไปไหนมาไหนตามใจชอบได้สักหน่อย คนที่สามารถทำแบบนั้นได้ก็มีแต่พระเจ้าเท่านั้นล่ะครับ ถ้าฝืนมากไปล่ะก็อาจถูกกลืนตัวตนแล้วกลายเป็นคนของโลกนั้นไปเลยก็ได้นะครับ”“เอ๋ แล้วจะให้พวกเรานั่งรอเธออยู่ที่นี่กับคุณรึไง

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 140

    “ระดับค่าพลังไม่คงที่ ทำการเริ่มปรับระดับในอีก สาม สอง หนึ่ง!”ตุบ!“กรร!!”“แย่ล่ะสิ ดันลืมไปว่าถ้าจำกัดพลังของท่านยูโร ฟานก็หลุดจากการรวบรัด”“วินเลซ! ปล่อยฉัน! ฉันจะช่วยคุณเอง”“ไม่ไหวหรอก ถ้าคุณอยู่ในโหมดบ้าคลั่งแบบเขาก็น่าจะอีกเรื่องนึง แต่นั่นก็ไม่ต่างอะไรนักหรอก เพราะคุณก็ควบตัวเองไม่ได้อยู่ด

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 139

    “มันก็ไม่ใช่หน้าที่ของผมนี่น่า ผมสนแค่เด็กคนนี้เท่านั้นล่ะ ค่าพลังงานมหาศาลขนาดนี้ไม่ได้มีมาถึงมือผมบ่อยๆสักหน่อย...”วินเลชยังคงจับจ้องไปยังเด็กทารกน้อยซึ่งทำหน้าไม่พอใจใส่เขาอย่างมากก่อนที่เธอจะเร่งพลังมากขึ้นไปอีกทำให้เจ้าตัวกักตุนพลังของเขาเริ่มเกิดอาการรวนขึ้นมาดื้อๆ“หึหึหึ คุณนี่วิเศษสมกับที่

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 138

    “ก็อย่างที่ว่ามา คุณยูโร ชิยูอิน คือคุณอย่างนั้นสินะครับ”หลังจากนั้นประมาณสามสัปดาห์ผ่านมาได้ก็เกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้นมากับฉัน อย่าว่าแต่ฉันจะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยพวกเขาก็ด้วย ร่างกายของฉันมันเกิดร่วนจนกลายเป็นภาวะเข้าขั้นวิกฤต เดี๋ยวก็เปลี่ยนร่างกลายเป็นเด็กสาว เดี๋ยวก็กลายเป็นร่างผู้ใหญ่แล

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 137

    “หมายความว่าถ้าพลังไม่คงที่หรือมีอัตราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็ต้องจำกัดพลัง ไม่สิต้องเกิดใหม่อีกเรื่อยๆเลยเหรอคะ”“ถูกต้องตามนั้น เว้นแต่จะยอมถูกดูดพลังไปอ่านะ แต่ถึงยังไงถ้าเป็นพวกหายากแบบเธอล่ะก็ถึงให้ไปเดี๋ยวก็เพิ่มกลับมาอีกอยู่ดี เปลี่ยนไปเรื่อยๆถ้าคงที่เดี๋ยวก็หยุดเองล่ะ”“อย่าพูดเหมือนกับว่าเป็นเรื่

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 136

    “กะ ก็ตามที่พูด...”“ไม่ใช่เรื่องนั้น”“แล้วเรื่องอะไรกันคะ”“คิดถึงกันบ้างรึเปล่า”“คิดถึง…เหรอคะ? ”ฉันจ้องใบหน้าสวยซึ่งเท้าคางมองฉันอย่างไม่วางตาทำเอาฉันทำตัวไม่ถูกและหลบสายตาเธออย่างสู้ไม่ได้ ทำไมฉันถึงมักจะแพ้สายตาให้กับเธอกันนะ...“ใช่ คิดถึงกันไหม นั่นล่ะสิ่งที่ฉันอยากรู้”“อื้ม...คิดถึง...ก็

  • จู่ๆฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า   บทที่ 135

    อวดดี? เธอเป็นใครถึงกล้าพูดคำนั้นกับฉันกันนะ ดูๆไปแล้วก็รู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ไม่แน่ว่าเธออาจจะตำแหน่งสูงกว่าฉันก็เป็นได้“จะรังแกล้งคนที่ตำแหน่งต่ำกว่าเหรอคะ หึ ฉันว่าแล้วว่าพวกคุณมันนิสัยเสียจริงๆด้วย”“กลับมาพูดภาษาเดิมได้แล้วสิเนี่ย ฉันแค่กระตุ้นนิดๆหน่อยๆ ก็เริ่มจะจำได้แล้วเหรอ นี่ก็หมายค

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status