Home / LGBTQ+ / ชตรีญา / จำปี (2)

Share

จำปี (2)

last update Last Updated: 2025-10-15 10:56:50

มื้อเย็นวันนั้น ไม่มีอะไรเด่นแซ่บไปกว่าลาบหมูฝีมือดารัณที่ทำแยกมาสองรส สำหรับคุณทิพย์และสำหรับทุกคน รสเค็มเผ็ดนัวตัดเปรี้ยวด้วยน้ำมะนาวแป้นสดจากสวนหลังเรือน คละเคล้าผักหอมแล้วยังฟุ้งไปด้วยข้าวคั่วสมุนไพรที่ทำพิเศษเฉพาะวันนี้ ทำให้ทุกคำที่บดเคี้ยว สติของนรีหวนคืนมวลอารมณ์คิดถึงบ้าน คิดถึงยาย บาดลึกไปทุกทีการเก็บกลืนรส แม้จะทำตัวนิ่ง ดูสงบ แต่น้ำตากลับคลอรื้นออกมาอยู่ดี

“นรี… นรีคะ” เสียงคุณเจ้านายทักขึ้นเบาๆ พร้อมสายตาอุ่นๆ ที่ส่งมาจากอีกฝั่งโต๊ะอาหาร ก่อนเอ่ยถาม

“เป็นอะไรรึเปล่า”

“แค่… คิดถึงบ้านค่ะ” นรีตอบสั้นๆ ตามตรง พร้อมรอยยิ้มบางๆ พลางเอื้อมหยิบกระดาษทิชชู่มาซับน้ำตา

“ เพราะลาบหมูเนี่ยเหรอ” คุณทิพย์ถามขึ้น นรีพยักหน้ารับและตอบว่า

“ใช่ค่ะ รสชาติคล้ายที่บ้านมาก กินแล้วนึกถึงยาย”

“จริงสิ เธอมาจากต่างจังหวัด ตั้งแต่อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้กินกับข้าวอีสานเลย” คุณทิพย์ว่า ทั้งมองมาที่นรีด้วยแววตาสะท้อนเอ็นดู

“กินแต่กับข้าวตามใบสั่งหมอธนา… กินตามป้า” คุณทิพย์หันไปพูดกับกานต์สิรี ก่อนบอกกับนรีว่า

“ที่จริงเธอไปกินข้าวนอกบ้านได้นะ หรือจะซื้ออะไรอย่างที่ชอบมากินที่บ้านด้วยก็ได้”

“ค่ะ” นรีรับคำสั้นอย่างว่าง่าย ขณะที่ในใจนึกรู้สาเหตุดีอยู่แล้วว่า ที่ผ่านมา หล่อนจำกัดตนเองเพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายเพียงเท่านั้น หล่อนทราบดีว่าที่บ้านแห่งนี้ ไม่มีข้อห้ามที่น่าอึดอัดด้านนี้เลย

หลังมื้ออาหารนั้นผ่านไป กานต์สิรีกับดารัณอาสาล้างจานชามทั้งหมดกันเองและให้นรีพาคุณทิพย์ขึ้นนอนตามปกติได้เลย ทว่า ค่ำคืนนี้ จิตใจนรีไม่อยู่กับละครหลังข่าวเลยสักนิด หล่อนคิดคำนึงอยู่หลายประเด็น เช่นว่า หลายวันมานี้ หล่อนหลงลืมตัวไปกับเสน่ห์อันรุนแรงของคุณเจ้านายถึงขั้นห่างหายจากอาการคิดถึงบ้านได้ชนิดปลิดทิ้ง เพียงเพราะได้สบตา ได้ใกล้ชิด ได้ทำอะไรต่ออะไรมากมายในคืนพายุสเลเตนั่น หรือความคนึงถึงคุณเจ้านายได้กลบทับอาการรำลึกอดีตของหล่อนมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว

แต่ใดใด สิ่งที่ชวนให้นรีครุ่นคิดวกวนอีกประเด็น แม้จะเสร็จกิจในการส่งคุณทิพย์เข้านอนจนลงมาอาบน้ำที่ห้องของตนแล้วก็ยังคงคิดต่อ คือความฉงนสงสัยในเรื่องอันไม่ควรสงสัย เช่นว่า กานต์สิรีมีความสัมพันธ์อย่างไรกับคุณเจ้านายกันแน่ ทั้งที่หล่อนก็ทราบมาแต่แรกจากกานต์สิรีว่า ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิท และกานต์สิรีคือคู่หมั้นของหมอธนา ทว่า ความไว้วางใจ ชนิดแสนรักแสนเอ็นดูที่กานต์สิรีได้รับจากคุณทิพย์ และการดูแลกันและกันระหว่างดารัณกับกานต์สิรี ที่นรีมีโอกาสได้เห็นกับตาทั้งในสวนเมื่อบ่ายแก่ ในครัวเมื่อเย็นย่ำ และบนโต๊ะอาหารยามค่ำ ก็เพียงพอให้หล่อนเกิดคิดพิเรนทร์ว่าทั้งสองอาจเป็นมากกว่าเพื่อนเมื่ออยู่กันลำพัง 

ซึ่งพอคิดมาถึงจุดนี้ นรีก็ชักจะสับสนอยู่หลายสิ่ง เริ่มตั้งแต่ หล่อนควรไปนั่งหน้าห้องคุณเจ้านายในคืนนี้หรือไม่ เพราะจนเดี๋ยวนี้ กานต์สิรีก็ยังไม่กลับ ยังคงใช้เวลาอยู่กับดารัณในห้องส่วนตัวบนตึกฝั่งตะวันตก แต่ที่ชวนงงใจตนไปมากกว่านั้นคือ นรีไม่แน่ใจว่า หล่อนกำลังรู้สึกไม่พอใจในความสนิทสนมที่คล้ายจะเลยเถิดข้ามเส้นของคนทั้งสองนั่นหรือไม่ หรือหล่อนเพียงแค่ทำตัวไม่ถูกเพราะตั้งแต่อยู่ใต้ชายคาบ้านวงศ์ทิมทองมา ก็ยังไม่เคยมีวันไหนที่กานต์สิรีมาที่นี่ และอยู่ดึกดื่นราวกับจะค้างคืนเช่นนี้มาก่อน

ท้ายที่สุด เมื่อชำระร่างกายเสร็จสรรพ นรีก็ตัดสินใจขึ้นไปหน้าห้องคุณเจ้านายตามปกติ โดยถือเอาว่าเธอไม่ได้สั่งว่าอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ละย่างก้าวที่เหยียบย่างไปตามทางโถงทางเดินชั้นบน หล่อนหยุดยืนและเอื้อมมือดึงปิดบานหน้าต่างอย่างเชื่องช้ากว่าทุกคืน

… ความ รัก เอย… เจ้า ลอยลม มาหรือไร…

…มาดลจิต มาดลใจ เสน่หา…

เสียงเพลงทำนองคุ้นหูกับเนื้อร้องแสนคุ้นใจ แว่วมาจากห้องคุณเจ้านาย ลอยล่องกังวานโถงทางเดิน ดึงดูดให้นรีสืบเท้าเข้าใกล้ที่หมายเร็วขึ้น

…รัก นี้จริงจากใจหรือเปล่า หรือเย้า เราให้เฝ้าร่ำหา

…หรือแสร้งเพียงแต่แลตา ยั่วอุรา ให้หลง ลำพอง…

ครั้นถึงเก้าอี้ไม้สักตัวเดิม หล่อนกลับยื้อเวลาไม่ยอมทรุดตัวลงนั่งอย่างเคย หากแต่พยายามเงียบนิ่ง เงี่ยหูฟังเสียงใดก็ตามที่ดังแทรกเสียงเพลงจากในห้อง ที่ประตูไม้ลายโบตั๋นเปิดแง้มไว้เล็กน้อย ไม่ได้เปิดกว้างสุดบานพับอย่างเคยๆ

“ถ้าอยากทำก็ทำเลย” เสียงกานต์สิรีแว่วมา

“อืม…ก็ อยากทำนะ” เสียงดารัณพึมพำ

“พิรี้พิไร ใครจะเกินแก” เสียงกานต์สิรีแว่วต่อมา

“เออน่ะ มันต้องใช้เวลาไง” เสียงดารัณว่าพลางถอนหายใจหนักๆ

บทสนทนาของกานต์สิรีและดารัณไม่ชวนคิดลึก แต่นรีก็จับใจความไม่ได้ว่ากำลังพูดถึงอะไรกันอยุ่ ทว่านาทีนั้นเพลงในห้องเปลี่ยนแทร็กฉับพลัน เพลงสากลที่นรีไม่คุ้นหู ทำให้บรรยากาศทั่วอาณาบริเวณฝั่งตะวันตกเริ่มประหลาดไปจากทุกคืนสำหรับนรี

“กานต์ กลับเพลงเดิม”

“ฟังอย่างอื่นบ้าง”

“มันไม่ได้อารมณ์”

“ส่งต้นฉบับไปแล้ว พักบ้าง”

“กานต์…”

“เอาตัวเองออกจากงานบ้างค่ะรัณ”

“ไม่ค่ะ”

เสียงเพลงสากลดังอยู่ได้เพียงค่อนนาทีก็เงียบไป ภายในห้องไร้คำสนทนาใด จิตใจแสนอยากรู้ของนรีนำพาให้หล่อนโน้มตนเข้าหาบานประตูไม้ตรงหน้ามากเกินไปจนเกิดสัมผัสสร้างเสียงลั่นให้คนในห้องรับรู้ถึงการมาของหล่อน แม้นรีจะรีบก้าวถอยหลังไปที่เก้าอี้ไม้สักก็ไม่อาจกลบเกลื่อนการชะเง้อชะแง้ของหล่อนได้สำเร็จ

“เอ้า… นรี” กานต์สิรีเปิดบานประตูไม้ลายโบตั๋นออกมาพลางเอ่ยทัก ก่อนจะแทรกตัวออกจากห้องดารัณมาเพื่อเปิดบานประตูไม้ให้กว้างสุดบานพับ ระหว่างชวนนรีคุยต่อว่า “อยู่ที่นี่เป็นไงบ้างคะ”

“ดีค่ะคุณกานต์ คุณทิพย์ใจดีมาก” นรีตอบขณะช่วยกานต์สิรีเปิดประตูอีกบานให้เรียบร้อย

“ได้ยินแบบนี้ก็โล่งใจค่ะ” กานต์สิรียิ้มหลังตอบ แล้วหันกลับไปมองในห้องดารัณ แววตาฉายอาการครุ่นคิด

“รัณ…” กานต์สิรีเอ่ยพลางก้าวเท้ากลับเข้าไปในห้อง เดินไปหาดารัณที่โต๊ะเขียนงาน พูดคุยกันอยู่สองสามประโยคแล้วกานต์สิรีก็เดินกลับออกมาหานรีที่เพิ่งจะทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ไม้สัก เพื่อชวนหล่อนให้เดินตามเข้าห้องดารัณ พาหล่อนไปชั้นหนังสือด้านใน โดยให้หยุดยืนที่ชั้นหนังสือแถวนอกที่ใกล้ประตูห้องมากที่สุด และบอกกับหล่อนว่า “ยืมอ่านได้นะคะ”

“ได้… เหรอคะ” นรีถามออกมาด้วยอาการไม่เชื่อหูตนเอง

“ค่ะ คือ กานต์จำได้ว่าเจอนรีที่ห้องสมุดของโรงพยาบาลหลายครั้งเลยค่ะ เดาว่าน่าจะชอบอ่านหนังสือ ชั้นนี้รัณอนุญาตให้มาเลือกไปอ่านได้นะคะ ตะกี้ถามให้แล้ว” กานต์สิรีอธิบายเช่นนั้น

“ยืมได้ จริงๆ เหรอคะ” แม้จะรู้สึกเกรงใจและหลุดถามย้ำออกไปอย่างนั้น แต่นรีก็ซ่อนรอยยิ้มความดีใจไว้ไม่อยู่เลยสักนิด ตาเป็นประกายน่าเอ็นดูจนกานต์สิรียังเผลอยิ้มตาม

“ได้สิคะ” เสียงดารัณแว่วมาจากทางโต๊ะเขียนงาน ดึงให้กานต์สิรีและนรีต่างละสายตาจากสิ่งที่น่าสนใจตรงหน้า ไปจดจ้องที่เธอ ซึ่งขยับลุกจากเก้าอี้ตรงโต๊ะเขียนงาน และกำลังเดินเข้ามาหาทั้งสองคน ขณะแจ้งกฎให้นรีทราบว่า

“แต่ว่า รบกวนหยิบทีละเล่ม อ่านจบแล้วค่อยมาเลือกใหม่หลังคืนเล่มเก่านะคะ… บางเล่มในห้องนี้หายากหรือหาไม่ได้แล้วก็มี ถ้าอ่านด้วยกัน ก็อยากให้ช่วยกันดูแลรักษาค่ะ”

“ค่ะ ขอบคุณ ที่อนุญาตนะคะ” นรีพูดพลางก้มศีรษะเล็กน้อยอย่างนอบน้อม ขณะที่กานต์สิรีอาศัยจังหวะนี้ค่อยๆ ถอยห่างออกไปทางลำโพงคลาสสิคด้วยท่าทีย่องเบานิดๆ ปล่อยให้นรียืนอยู่ตรงนั้นระหว่างที่ดารัณไล่สายตาไปตามสันหนังสือที่เรียงรายเต็มชั้นวาง ก่อนไปหยุดที่สันหนังสือเล่มหนึ่งและละสายตามามองนรี พลางเอ่ย

“เลือกรึยังคะ ว่าจะอ่านเล่มไหน”

“ยังค่ะ… แต่ก็ น่าอ่านทั้งนั้นเลยค่ะ” นรีตอบเช่นนั้น พลางเงยหน้ามองสำรวจหนังสือบนชั้นวางตรงหน้า

“ถ้ายังไม่รู้ว่าจะอ่านอะไร แนะนำเล่มนี้” ดารัณว่าแล้วเอื้อมหยิบหนังสือจากชั้นวางแถวอื่นส่งให้นรี

“กลิ่นรัญจวนในครัวใจ” นรีอ่านคำบนปกหนังสือที่ดูเหมือนจะเป็นนวนิยายขนาดสองสามร้อยหน้า ปกภาพวาดสำรับอาหารชาววัง ระบุนามผู้ประพันธ์ว่า คุณข้าหลวงนิรนาม

“ฉากเรื่องอาจจะโบราณสักหน่อย แต่ภาษาดีใช้ได้นะคะ” ดารัณบอก โดยทิ้งสายตามาที่นรี ซึ่งมีท่าทีอิ่มอกอิ่มใจเมื่อได้สัมผัสหนังสือจนไม่รู้ตัวว่า กำลังตกอยู่ในสายตาของคุณเจ้านายอีกครั้งแล้ว

“ไว้อ่านจบจะรีบคืนที่ชั้นนะคะ” นรีว่า ทั้งยิ้มสดใสให้คุณเจ้านายเป็นครั้งแรก

“คืนให้เราที่โต๊ะค่ะ ถ้าอ่านจบ” คุณเจ้านายว่าอย่างนั้น ก่อนเดินกลับไปที่โต๊ะเขียนงานได้ทันท่วงที ทำให้กานต์สิรีเปิดเพลงเปลี่ยนบรรยากาศตามใจตนไม่สำเร็จ

“ถ้าจะเปิดเพลงตามใจแก ก็กลับไปเปิดบ้านแก”

เสียงคุณเจ้านายแว่วมาจางๆ เป็นความนั้น ทำให้แทบทั้งชั่วโมงเศษหลังจากนั้น บทเพลงเดิมบรรเลงวนไปมา ขณะนรีเปิดพลิกหน้ากระดาษเล่ม กลิ่นรัญจวนในครัวใจ นำพาจิตใจเข้าสู่คำประพันธ์ ท่ามกลางคำขับขาน

…สงสาร ใจ ฉันบ้าง วาน อย่างสร้าง รอยช้ำ ซ้ำเป็นรอยซ้อน…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชตรีญา   พุดจีบ (1)

    “แปลว่ารักได้ ไม่ติดเหรอคะ” คุณเจ้านายเอ่ยถาม แน่นอนว่าเธอได้รับเพียงแววตาเกือบจะงุนงงของนรีตอบกลับไป เธอจึงได้ขยายความถามนั้น“หมายถึง นรีเอง ก็รักผู้หญิงได้ ใช่มั้ยคะ”“...”นรีกระพริบตาปริบๆ ทั้งเงียบไปครู่หนึ่ง ทำเอาคนรอฟังคำ นิ่งเงียบตามกันไปด้วย แต่เธอยังคงวางสายตาจับไว้ที่หล่อน ไม่ละไปโดยง่าย กระทั่งได้คำตอบ“คิด ว่ารักได้นะคะ” นรีตอบเสียงแผ่ว“ท่าทางไม่แน่ใจ” คุณเจ้านายกล่าวเช่นนั้น แล้วผินมองไปทางอื่น ในท่าทีใช้ความคิด เป็นจังหวะให้นรีได้รับอิสระเล็กน้อยจากการรอดพ้นสายตาเธอ แต่ยังไม่พ้นไปจากสนทนา“ที่ผ่านมา ยังไม่เคยตกหลุมรักผู้หญิงเลยสักคน… เหรอคะ” คุณเจ้านายปรายตากลับมามองนรีในท้ายประโยค พร้อมรอยยิ้มเล็กๆ ที่นรีมองทันเพียงชั่วครู่ก็รู้สึกใจเต้น พาลให้หล่อนนิ่งจนลืมตอบความ พยายามเลี่ยงหลบสายตาเธอสุดฤทธิ์ ขณะที่คุณเจ้านายวางมือลงค้ำยันกับโต๊ะเขียนงาน และโน้มตัวเข้าใกล้นรีมากขึ้น พลางกระซิบสรุป“เงียบแบบนี้ เราจะเหมาว่าเธอเคยตกหลุมรักใครสักคน ที่เป็นผู้หญิงนะคะ”นรีหันกลับไปมองคุณเจ้านายในระยะประชิดมากกว่าที่เคย หล่อนนึกเรียบเรียงคำโต้ตอบที่ยังไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่า จะเอ่ยปฏิเสธห

  • ชตรีญา   พุดซ้อน (2)

    คืนนั้น คุณเจ้านายไม่ได้นั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนงานเมื่อหล่อนไปถึงหน้าห้อง พอตัดสินใจไปชะเง้อมองที่ใกล้ๆ บานประตู สอดส่องสายตาจนทั่วก็ยังไม่เห็นว่าเธออยู่ตรงไหนในห้อง นรีถอยจากประตูลายโบตั๋นมาเกาะขอบหน้าต่างโถงทางเดินที่มักเปิดไว้เสมอเพียงบานเดียวเพื่อรับลมในทุกคืน หล่อนคาดว่า คุณเจ้านายอาจลงไปเก็บดอกไม้กลางคืนเช่นเดียวกับตอนที่ลงไปเก็บดอกสเลเตก็เป็นได้ ทว่า เพ่งมองสวนดอกไม้สักเท่าไหร่ก็ไร้วี่แววร่างเงาเธอ“ดูอะไรอยู่เหรอ” เสียงคุณเจ้านายดังมาจากด้านหลัง พาหล่อนสะดุ้งใจหาย แต่ก็รีบเก็บอาการนั้นให้สงบลงโดยเร็วก่อนตอบกลับเธอไปว่า“เปล่าค่ะ” พลางเดินกลับไปที่เก้าอี้ไม้สน คุณเจ้านายพยักหน้าน้อยๆ แล้วเดินไปที่โต๊ะเขียนงาน เธอหยุดยืนอยู่ข้างเก้าอี้ รวบรวมเอกสารสองสามชุดให้เป็นกองเดียวกัน จัดเก็บเข้าแฟ้ม นำแฟ้มไปสอดไว้บนชั้นวางข้างโต๊ะฝั่งมุมห้อง ครั้นพอเดินย้อนกลับมาที่เก้าอี้อีกหน และเห็นว่านรียืนละล้าละลังอยู่หน้าห้อง

  • ชตรีญา   พุดซ้อน (1)

    กลิ่นตะไคร้บุบ และใบมะกรูดฉีก ในน้ำซุป โชยฟุ้งทั่วครัวในช่วงเย็นของวันถัดมา ในหม้อต้มขนาดกลาง มีเนื้อวัวส่วนที่นรีพอหาได้จากตลาดเช้า ถูกเคี่ยวตุ๋นมาได้พักใหญ่แล้ว แม้แรกทีเดียว หล่อนเคยคิดว่าจะไม่ลองภูมิใดใดกับการทำเมนูโบราณที่ไม่คุ้นเคย ทว่าเหลียวมองไปถ้วนทั่วสวนผักหลังเรือน ก็พบว่า เครื่องผักสมุนไพรครบครันตามสูตรที่จดมาจากหนังสือ กลิ่นรัญจวนในครัวใจ แค่เพียงหาเนื้อวัวให้ได้ก็พร้อมปรุง หล่อนจึงทำใจดีสู้เสือเลือกเอาเมนูนี้มาตั้งสำรับเย็น“กลิ่นชวนหิวดีจังวันนี้” คุณทิพย์เอ่ย เมื่อนรียกชามแกงรัญจวนวางเสิร์ฟที่โต๊ะอาหาร จิตใจหล่อนดูจะล่องลอยสักนิด จึงไม่ได้ตอบกลับอะไรนอกจากยิ้มนอบน้อมเช่นเคยเหตุที่ทำให้หล่อนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คือสิ่งที่เกิดกับตัวหล่อนเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ โดยเนื่องมาจากว่า หล่อนไม่แน่ใจในคำสั่งของคุณเจ้านายที่บอกไว้เมื่อคืนที่ให้หล่อนยืมเล่ม หอมลมกลิ่นรัก มา เธอว่า‘คืนที่โต๊ะนะคะ’หล่อนซึ่งปกติไม่เคยก้าวเข้าห้องส่วนตัวคุณเจ้านายโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงตีความเอาเองว่า โต๊ะที่เธอพูดถึง คงหมายถึงโต๊ะไม้สนชั้นล่าง เพราะเป็นโต๊ะที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่หล่อนโดยตรง วั

  • ชตรีญา   จำปา (2)

    ‘สองฝั่งคลอง’… ‘มาลัยสามชาย’ … ‘ทวิภพ’‘กรงกรรม’ … ‘ฤกษ์สังหาร’ … ‘บ้านทรายทอง’รายนามบนสันหนังสือที่นรีเลื่อนสายตาผ่านนั้น มีแต่ชื่อโด่งดังคุ้นหู ที่บางเรื่องก็เคยดูเป็นละครโทรทัศน์รีรันซ้ำซากจนคุ้นตาแทบทั้งหมด หล่อนเถียงในประเด็นที่ว่า นี่คือหนังสือหายากทรงคุณค่า และหล่อนก็ไม่เกี่ยงนักหรอกที่ต้องอ่านนิยายละครโทรทัศน์ แต่ก็ต้องยอมรับว่า เรื่องเล่าในเล่มเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องราวแปลกใหม่ น่าสนใจเพียงพอจะดึงความสนใจของหล่อนได้‘สาปภูษา’ … ‘กำไลมาศ’ … ‘กาหลมหรทึก’ ‘เกิดแต่ตม’ … ‘หลงเงาจันทร์’ … ‘รากนครา’หากต้องเลือกเล่มใดไปอ่านเฉพาะชั้นวางนี้ นรีก็ไม่ติดขัดใจ เพราะอย่างน้อยการได้มีอะไรให้อ่า

  • ชตรีญา   จำปา (1)

    ‘สูตรแกงรัญจวนของวังเจ้านั้นพิถีพิถันนัก เริ่มจากปลายครกที่ต้องตำพริกขี้หนูสวนด้วยเกลือป่นให้ฟู ต้มปลาเค็มที่รมด้วยฟืนเปลือกมะกรูด น้ำแกงต้องขลุกขลิก ใส่ตะไคร้หั่นบาง ใบมะกรูดฉีก และใบโหระพาจากสวนด้านเหนือเท่านั้น กลิ่นขึ้นจากไอร้อน เหมือนจิตใจคนกำลังเร่าร้อนแต่ไม่กล้ากล่าวรัก แกงนี้ต้องกลั้นใจขณะตัก กลิ่นจะยิ่งลอยชัด… คล้ายรักที่ยิ่งปิด ยิ่งฉุน ยิ่งยากลืม’นรีปิดหนังสือลงวางกับตัก เมื่อได้ยินเสียงคุณทิพย์ขยับตัว พยายามปรับสติเรียกอารมณ์ให้ตนเองกลับสู่โลกแห่งความจริงเพียงชั่วพริบตา ก่อนหันไปหาคุณทิพย์ที่กำลังกลับจากภวังค์นิทรายามบ่าย“ลมดีจริงเชียว” คุณทิพย์พึมพำเสียงแผ่ว ตาปรือเล็กน้อย ออกอาการเพลียคล้ายติดงัวเงียอยู่สักนิด“สักพักฝนอาจจะตก… เข้าบ้านกันดีมั้ยคะ” นรีเอ่ยชวนพลางรวบรวมเอาชุดถ้วยชาลายครามใส่ถาดเดียวกับกาน้ำชาไว้รอท่า เมื่อเห็นคุณพยักหน้าเชิงว่ารับคำ

  • ชตรีญา   จำปี (2)

    มื้อเย็นวันนั้น ไม่มีอะไรเด่นแซ่บไปกว่าลาบหมูฝีมือดารัณที่ทำแยกมาสองรส สำหรับคุณทิพย์และสำหรับทุกคน รสเค็มเผ็ดนัวตัดเปรี้ยวด้วยน้ำมะนาวแป้นสดจากสวนหลังเรือน คละเคล้าผักหอมแล้วยังฟุ้งไปด้วยข้าวคั่วสมุนไพรที่ทำพิเศษเฉพาะวันนี้ ทำให้ทุกคำที่บดเคี้ยว สติของนรีหวนคืนมวลอารมณ์คิดถึงบ้าน คิดถึงยาย บาดลึกไปทุกทีการเก็บกลืนรส แม้จะทำตัวนิ่ง ดูสงบ แต่น้ำตากลับคลอรื้นออกมาอยู่ดี“นรี… นรีคะ” เสียงคุณเจ้านายทักขึ้นเบาๆ พร้อมสายตาอุ่นๆ ที่ส่งมาจากอีกฝั่งโต๊ะอาหาร ก่อนเอ่ยถาม“เป็นอะไรรึเปล่า”“แค่… คิดถึงบ้านค่ะ” นรีตอบสั้นๆ ตามตรง พร้อมรอยยิ้มบางๆ พลางเอื้อมหยิบกระดาษทิชชู่มาซับน้ำตา“ เพราะลาบหมูเนี่ยเหรอ” คุณทิพย์ถามขึ้น นรีพยักหน้ารับและตอบว่า

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status