อ้ายเย่วนั่งพิจารณาใบหน้าของตัวเองอย่างละเอียด ตุ่มนี่ดูคล้ายกับสิวอักเสบของภพก่อน แล้วนางจะรักษาอย่างไรกัน
"จิ้นผิง ตุ่มนี่เคยผ่านการรักษาอย่างไรมาบ้างหรือ"
อ้ายเย่วลองเอานิ้วรูปบริเวณตุ่มเก่าที่ดีหน่อยที่ไม่ทิ้งแผลเป็นแค่ตกสะเก็ด และมีตุ่มใหม่ขึ้นมาอีก
"กินยาหลายขนานอยู่นะเจ้าคะ ตั้งแต่นายท่านทั้งสองยังอยู่ก็รักษามาตลอด ทั้งกินทั้งพอกก็ไม่หาย"
จิ้นผิงมองใบหน้าคุณหนูอย่างสงสารนัก หากไม่เป็นโรคประหลาดนี้คุณหนูของนางคงงามนักเพราะใบหน้าคุณหนูนั้นงดงามมาตั้งเเต่เด็ก
"อย่าคิดมากเลยจิ้นผิงเดี๋ยวก็หายแล้ว"
เห็นจิ้นผิงเงียบไปเลยรู้ว่าคงกำลังคิดมากเรื่องนางอยู่
" คุณหนูมีทางรักษาแล้วหรือเจ้าคะ"
"อึ ไม่อะ แต่จะลองไปเรื่อยๆ ก่อน"
อ้ายเย่วพยายามนึกว่าสมุนไพรในยุคก่อนที่นำมาพอกและรักษาใบหน้ามีอะไรบ้าง
เห้อ หากเป็นยุคก่อนหน้านี้ นางคงบินไปเกาหลีคงจะง่ายกว่ามากนัก
เป็นสิวอักเสบ ลองใช้ขมิ้นชันเป็นอันดับแรกก็แล้วกัน
"จิ้นผิง มีเจียงหวงตากแห้งบดละเอียดหรือไม่"
" ต้องไปซื้อที่ร้านยาสมุนไพรเจ้าค่ะ"
"งั้นเจ้าช่วยไปซื้อมาสักครึ่งจินนะ"
"เจ้าค่ะ คุณหนู"
ความจริงอ้ายเย่วนางก็อยากออกไปด้วยนักจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตา ดูว่าตลาดสมัยนี้เหมือนในภาพยนตร์จีนที่เคยแสดงหรือเปล่าแต่ถ้าให้ออกไปในสภาพนี้ นางคงทำใจไม่ได้ชาติก่อนเดินไปไหนมาไหนมีแต่คนมองอย่างชื่นชมในรูปร่างหน้าตา หากชาตินี้มีคนมองอย่างเดียจฉัน ข้าคงองค์ลงแบบอ้ายเย่วคนเก่าหรืออาจจะร้ายยิ่งกว่าด้วยซ้ำ
ร่างกายของนางตอนนี้ถ้ามองจากสายตาน่าจะลดลงสัก3-4กิโล ตอนนี้นางต้องลุกขึ้นมาวิ่งและออกกำลังกายบริหารส่วนต่างๆ ให้กระชับ เรื่องน้ำหนักนางไม่ค่อยจะห่วงเท่าไหร่นัก เพราะหากควบคุมอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอ คงจะรูปร่างดีขึ้นได้ในเร็วๆ นี้ ส่วนผิวกายนั้นงดงามมากหากไปประกวดคงได้ตำแหน่งนางงามผิวสวย ผิวขาวดั่งน้ำนมดูสุขภาพดี เรียบลื่นน่าสัมผัสนัก นางยังหลงใหลนักผิวนางที่ว่าสวยมากแล้วเมื่อชาติก่อนแต่กลับด้อยกว่ามาก
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตู ทำให้อ้ายเย่วขมวดคิ้วมุ่นใครกัน
"ใครหนะ"
เอ่ยถามเห็นอีกฝ่ายเงียบไป คงไม่ใช่วิญญาณเฮี้ยนหรอกนะ
"ข้าถามว่าใครหูหนวกหรือไง"
หานลู่เหวินเมื่อได้ยินเสียงสตรีด้านในกล่าวออกมาก็พลันหน้ามืดครึ้ม
"ข้าเอง หาน ลู่ เหวิน"
ตอบออกไปน้ำเสียงกระด้างจนคนฟังรู้สึกได้แต่ตอนนี้อ้ายเย่วไม่มีเวลามาสนใจว่าบุรุษผู้9จะใช้น้ำเสียงอย่างไร
หานลู่เหวิน หานลู่เหวิน ว่าที่สามีใช่หรือไม่ร่างที่ไม่บางผุดลุกขึ้น มาทำไมกัน ข้ายังไม่พร้อมจะเจอหรอกนะ
"มีธุระอะไร เจ้าคะ"
หานลู่เหวินถึงกับแปลกใจ หากรู้ว่าเป็นเขานางจะต้องรีบออกมาต้อนรับแล้วแทบจะอุ้มเขาเข้าไปไม่ใช่เหรอ หรือตกน้ำจนหัวสะเทือนไปแล้วเพราะหลายวันมานี้ไม่เห็นย่างกรายออกจากเรือนของนางมาก่อเรื่องวุ่นวาย จนท่านแม่ต้องเอ่ยปากให้เขามาดูนางเสียหน่อย หากไม่เพราะท่านแม่ขอร้องเขาหรือจะมาเหยียบที่นี่
"เปล่า ท่านแม่ให้มาดูว่าเจ้าเป็นอะไรมากหรือไม่ เห็นเงียบหายไป ท่านเป็นห่วงเลยวานข้าให้มาดู"
เหอะ จะบอกว่า จะมาดูว่าข้าตายหรือยัง หากท่านป้าไม่ขอร้องก็จะไม่มาใช่หรือไม่
"รบกวนท่านแล้ว ช่วยเรียนท่านป้าด้วยแล้วกันว่าข้าไม่เป็นอะไรไม่ต้องเป็นห่วง ข้าแค่เป็นไข้เล็กน้อยอยากพักผ่อน และไม่อยากนำไปติดผู้อื่น แค่นี้ใช่หรือไม่ ข้าจะได้นอนต่อ"
" เจ้า"
"ข้าก็ไม่ได้อยากจะมารบกวนเจ้าหรอก แค่ไม่อยากให้มีใครมาตายในจวน"
โห เป็นผู้ชายปากกรรไกรโดยแท้
" ข้าไม่ตายง่ายๆ หรอกเจ้าค่ะ อยากเข้าหอกับท่านพี่ก่อนถึงจะตายตาหลับ"
ได้ยินเสียงหวานที่ฟังก็รู้ว่าตั้งใจยั่วโมโหเขา จึงรีบหันหลังกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก สตรีน่ารังเกียจ
"อ่านอะไรอยู่หรือเจ้าคะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว"เล่อชินอ๋องที่เงยหน้าขึ้นมองตามเสียงหวานละมุนนั้น รีบวางจดหมายในมือ ตรงเข้าไปโอบประคองร่างอุ้ยอ้ายที่หน้าท้องนั้นใหญ่โตมากของชายารักที่ใกล้คลอดเต็มที ที่เดินลูบหน้าท้องนู้นเข้ามาโดยมีจิ้นผิงคอยประคอง"น้องหญิง ออกมาทำไมกัน"ร่างหนาพูดขึ้นพร้อมโอบประคองร่างอวบอิ่มให้นั่งลงบนตั่งที่ปูด้วยเบาะหนานุ่มอย่างอ่อนโยน ก่อนมือหนาจะลูบบนหน้าท้องนูนสัมผัสถึงแรงกระตุกเบาๆ ของก้อนแป้งน้อยที่กำลังเติบโตอยู่ในครรภ์ของสตรีอันเป็นที่รัก ใบหน้าหล่อเหลานั้นยกยิ้มอย่างยินดีเมื่อเจ้าก้อนแป้งนั้นช่างรู้ความ เพียงบิดาสัมผัสก็จะตอบรับกลับมาเสียทุกครั้ง"จดหมายจากแม่ทัพตงหยวน ส่งมาแจ้งว่าลี่ฟางคลอดบุตรแล้ว เป็นคุณหนูใหญ่""จริงหรือเจ้าคะ น่ายินดีเสียจริง"ใบหน้าหวานนั้นยิ้มละมุนอย่างรู้สึกยินดี มองสวามีที่ก้มลงจูบเบาๆ บริเวณหน้าท้องนูน"เจ้าก้อนแป้งของบิดา เมื่อไหร่เราจะได้เจอกันเสียที"อ้ายเย่วที่ถึงกับยกยิ้มกับความอ่อนโยนนั้น ก่อนใบหน้างามจะขมวดมุ่น เมื่อรู้สึกปวดหน่วงตรงช่วงล่างจนเผลอเกร็งตัวร้องครางออกมา"อ๊ะ!"เล่อชินอ๋องที่เห็นอาการของร่างอวบอิ่มจึงรีบลูบท้อ
เล่อชินอ๋องที่มองร่างงดงามเย้ายวน ผิวขาวดูชุ่มฉ่ำเปล่งปลั่งราวจะคั้นน้ำได้ มือเรียวสวยที่กรีดกรายเขียนอักษรลงบนแผ่นกระดาษ ใบหน้านวลผ่องที่จดจ่อกับแผ่นกระดาษตรงหน้าดูน่าหลงใหลจนต้องลอบกลืนน้ำลาย ร่างอวบอิ่มนั้นทำให้พระองค์หลงใหลทุกครั้งที่ได้ชิดใกล้"น้องหญิงพี่แค่ไปหารือกับรัชทายาทเพียงครู่เดียวเท่านั้น และที่สำคัญก็มีแต่บุรุษ เจ้าจะไปได้อย่างไร เอาไว้พี่จะพาไปเที่ยวชมตลาดวันหลังดีหรือไม่"อ้ายเย่วเอียงหน้ามายิ้มหวานเป็นการตอบรับอย่างน่าเอ็นดูยิ่งนักในสายตาคนมอง แต่หารู้ไม่ว่ายิ้มนั้นมันเคลือบยาพิษเห็นว่าคนข้างๆ ยังให้ความสนใจกับสิ่งที่นางทำอยู่ไม่มีทีท่าว่าจะออกไปจึงเอ่ยถามขึ้น"ไม่เสด็จหรือเจ้าคะ องค์รัชทายาทรอแย่แล้วกระมัง""ยังไม่ถึงเวลานัดหมาย""แล้วนี่เขียนอันใดอยู่หรือ"เล่อชินอ๋องที่หรี่ตามองแผ่นกระดาษตรงหน้าชายารัก"กำลังตอบจดหมายของลี่ฟางเจ้าค่ะ"อ้ายเย่วตอบพร้อมหรี่ตามองบุรุษผู้เป็นสามีก่อนเอ่ยขึ้นอีกว่า"น้องว่าจะชวนนางเปิดกิจการด้วยกัน"เล่อชินอ๋องที่เงยหน้าขึ้นสบตาผู้เป็นชายา "เหตุใดต้องทำให้ตัวเองเหนื่อยกัน สมบัติในวังจันทราแห่งนี้มีให้เจ้าใช้และอยู่อย่างสุขสบายโดยไม่
อ้ายเย่วที่พับจดหมาย จากฮูหยินแม่ทัพแคว้นฉี เสียนลี่ฟาง ที่เขียนมาเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง ตั้งแต่จากกันวันนั้นจนวันที่นางได้ไปร่วมงานมงคลของทั้งสอง อ้ายเย่วและเสียนลี่ฟางก็ติดต่อกันโดยการเขียนจดหมายติดต่อกันตลอดก่อนจะให้จิ้นผิงพยุงร่างอุ้ยอ้าย มานั่งลงตรงที่นั่งในศาลากลางสวนสวย ตอนนี้อายุครรภ์ของนางย่างเข้าเดือนที่แปดแล้ว อีกไม่นานก็จะได้เจอกับเจ้าก้อนแป้ง ไม่รู้ว่านางหรือลี่ฟางที่จะคลอดก่อนกัน เพราะอายุครรภ์ของทั้งคู่ไล่เลี่ยกัน"จับซาไท้เป้า เจ้าค่ะพระชายา"อ้ายเย่วที่กำลังชื่นชมความงามของหมู่มวลดอกไม้ที่กำลังอวดดอกบานสะพรั่ง หันมารับถ้วยยาจากจิ้นผิง ซึ่งเป็นยาบำรุงครรภ์ ที่สวามีของนางขยันสรรหามาบำรุงนางจับซาไท้เป้า เป็นตำรับยาบำรุงครรภ์รับประทานในช่วงกลางถึงปลายระยะตั้งครรภ์ โดยนิยมเริ่มรับประทานในเดือนที่หกของการตั้งครรภ์ และหยุดรับประทานก่อนคลอดหนึ่งเดือนอ้ายเย่วอดรู้สึกชื่นชมตำรับยาสูตรโบราณนี้ไม่ได้ แม้ยุคนี้จะไม่มีความทันสมัยเหมือนยุคก่อนนางก็ไม่กังวลมากนักสรรพคุณของยาตำรับนี้ก็คือ บำรุงหญิงตั้งครรภ์ให้แข็งแรง ไม่ให้เป็นหวัดง่าย ทำให้ระบบการย่อยของหญิงตั้งครรภ์เป็นปกติ ไ
เมื่อเห็นว่าคนใต้ร่างพยักหน้ารับ ดวงตาฉ่ำหวานที่มีหยาดน้ำตาเอ่อคลออยู่นั้น กะพริบปริบๆ จนหยาดน้ำตาไหลมาทางหางตา จึงใช้หัวแม่มือกรีดออกให้อย่างแผ่วเบา ก้มลงจูบซับอย่างอ่อนโยน ก่อนริมฝีปากหนาจะเคลื่อนมาครอบครองปากเล็กอวบอิ่มที่หวานล้ำ จากจุมพิตอ่อนโยนกลายเป็นเร่าร้อนตามแรงปรารถนา สองร่างที่ก่ายกอดลูบไล้กันต่างตกอยู่ในห้วงอารมณ์แห่งรสกามา ต่างตักตวงความหวานของกันและกันด้วยความถวิลหา ให้สมกับที่ต้องห่างไกลกันแรมเดือนลิ้นร้อนที่บดคลึงจนคนใต้ร่างหอบสะท้าน มือเล็กที่ยันอกแกร่งด้วยใบหน้านวลที่แดงก่ำ ก่อนจะรอบรวมสติที่กระเจิดกระเจิง เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า"ข้ากำลังตั้งครรภ์อยู่นะเจ้าคะ"แม่ทัพตงหยวนที่จูบหน้าผากมนแผ่วเบา เอ่ยกับร่างเย้ายวนที่ตอนนี้อาภรณ์หลุดลุ่ย น้ำเสียงกระเส่า"พี่รู้ พี่จะอ่อนโยน"เพียงไม่นานร่างสองร่างก็เปลือยเปล่า ปากหนาร้อนรุ่มลากไล้ปลายลิ้นสากมาตามลำคอระหง จนมาถึงทรวงอกนุ่มหยุ่นที่ดูจะอวบอิ่มขึ้น จนต้องฝังจมูกลงไปคลอเคลียสูดดมความหอมอ่อนละมุนที่เขาหลงใหล ก่อนจะใช้อุ้งปากเข้าครอบครองสร้างความเสียวซ่านให้เจ้าของที่ดิ้นเร่าอยู่ใต้ร่าง ปาดเลียลิ้นร้อนสลับดูดดุน จนยอดทรวงแ
สัมผัสเปียกชื้นตรงซอกคอขาว ทำให้คนที่กำลังหลับสบายขยับตัวอย่างรำคาญ ก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ภาพศีรษะที่มีผมดำปกคลุมกำลังเลื่อนลงไป ก้มลงซุกไซร้หน้าอกขาวอวบ ทำให้ร่างบางแข็งทื่อ ปากอวบอิ่มที่กำลังจะกรีดร้องขอความช่วยเหลือกลับเปล่งเสียงร้องออกมาได้เพียงเสียงอู้อี้เมื่อถูกปากหนาของบุรุษต่ำช้าเลื่อนมาประกบ ร่างบางที่เริ่มดิ้นรนต่อสู้ใช้มือเล็กจิกข่วนแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามกำยำอย่างแรงจนแผ่นหลังแกร่งรู้สึกแสบ"หยุดดิ้น"เสียงทุ้มสั่งเสียงกระเส่า พร้อมมือใหญ่ที่รวบเอามือเล็กไว้เหนือศีรษะเพียงมือเดียว ส่วนอีกมือนั้นจับปลายคางมนให้คนตัวเล็กใต้ร่างหันมาสบตาตน "ทะ ท่านแม่ทัพ"ลี่ฟางเมื่อเห็นว่าชายชั่วที่จะย่ำยีนางเป็นใคร ลำคอระหงพลันแห้งผาก หัวใจเต้นแรงแทบทะลุออกจากอก"ปล่อยข้า ท่านคิดจะทำอะไร""แล้วคิดว่าจะทำอันใดเล่า สามีภรรยาไม่เจอกันแรมเดือน เจ้าคิดว่าข้าจะนอนมองเจ้าเฉยๆ หรือ"ลี่ฟางเมื่อฟังคำพูดและมองใบหน้ายียวนของคนเหนือร่างให้นึกเคือง "ปล่อยข้า ข้ามิใช่ภรรยาของท่าน ท่านคงลืมไปแล้วกระมังว่าข้าเป็นองค์หญิงบรรณาการของเล่อชินอ๋อง""เช่นนั้นหรือ... เก่งขึ้นนะ"เสียงท
แล้วเวลาอาหารมื้อเย็นของวันนี้ก็มาถึง อาหารหน้าตาน่าทานต่างถูกลำเลียงมาขึ้นโต๊ะ แต่แขกของจวนยังไม่มีวี่แววว่าจะปรากฏตัวขึ้น จนกระทั่งคนทุกอยู่กันพร้อมหน้า หม่ากงกง จึงได้มารายงานว่า สหายของเจ้าของจวนเดินทางมาถึงแล้ว เล่อชินอ๋อง จึงได้ให้รีบเชิญเข้ามาแต่ภาพของบุรุษที่ปรากฏตัวขึ้น ทำให้สตรี ที่เป็นแขกของจวนอีกผู้หนึ่ง ต้องตกตะลึงจนแทบจะ ระงับอาการสั่นไหวไม่ได้ใบหน้างามนั้นซีดเผือด กับการปรากฏตัวของบิดาของบุตรในครรภ์ของนางแม่ทัพลั่วตงหยวนอ้ายเย่วที่เห็นใบหน้าหล่อเหลาแบบบุรุษหล่อร้ายตรงหน้าได้แต่มองด้วยความโง่งม เพราะบุรุษตรงหน้านั้นเรียกได้ว่าหล่อแบบลุคเถื่อนๆ ช่างกระชากใจนางโดยแท้"หากเจ้ายังมิเลิกมองสหายของพี่ด้วยสายตาเช่นนั้น เห็นทีพี่คงต้องเสียมารยาท พาเจ้าไปทบทวนความจำกันสองต่อสองว่าเจ้านั้นมีสวามีแล้ว และสวามีก็นั่งอยู่ตรงนี้"อ้ายเย่วที่รีบถอนสายตามามองบุรุษที่กำลังมองนางด้วยสายตาคาดโทษ เสียงกระซิบแผ่วเบานั้นเรียกสติของนางจากอาการคลั่งคนหน้าตาดี ให้รีบหันมาส่งยิ้มหวานให้ผู้เป็นสวามี แม้ท่านแม่ทัพผู้นั้นจะหล่อเหลาวัวตายควายล้ม แต่ก็เทียบมิได้เลยกับเล่อชินอ๋องสวามีนาง ที่ความห