Home / แฟนตาซี / ชะตารัก จอมมารไร้บัลลังก์ / 6.ชีวิตที่ไม่เหลือใคร ตายเสียดีกว่า (2)

Share

6.ชีวิตที่ไม่เหลือใคร ตายเสียดีกว่า (2)

Author: rasita_suin
last update Last Updated: 2025-02-27 22:34:47

เปลือกตาบางค่อยๆ ขยับปรือ กลิ่นเนื้อบางอย่างย่างลอยเข้าจมูกทำให้ต้องรีบลืมตา

“บนสวรรค์มีปลาย่างหรือ”

“นรกต่างหาก”

เสียงเข้มดุ ทว่าราบเรียบดังไม่ห่างตัวนักทำให้นางหันไปมอง แม้จะจำเสียงได้ทว่าเห็นใบหน้าคมเข้มก็ยิ่งมั่นใจ ริมฝีปากเล็กระบายยิ้มกว้าง

“พี่ชาย ท่านกลับมาแล้ว”

ร่างเล็กพยายามลุกขึ้นไปใกล้เจ้าของร่างสูงโปร่ง ทว่าใบหน้าดุดันกับน้ำเสียงเข้มของเขาทำเอาเท้าเล็กชะงัก

“เจ้าเป็นสตรีคนแรกที่ทำให้ข้าอยากฆ่าให้ตายคามือนัก”

หันมองนางด้วยสายตาที่ไม่ต่างจากคำพูดแล้วก็หันกลับไปมองสิ่งที่เขากำลังย่างอยู่

รอยยิ้มกว้างของเสี่ยวเม่ยค่อยๆ ลดลงเมื่อคิดว่าตนคงถูกพี่ชายโกรธจนเกลียดไปแล้ว ทว่ากลิ่นของเนื้อปลาย่างก็หอมเชิญชวนจนท้องร้องประท้วง นางยืนมองปลาสองตัวที่ชายหนุ่มย่างโดยไม่ละสายตาหากก็ไม่กล้าเอ่ยขอ นานครู่หนึ่งเขาก็ยื่นปลาที่เสียบไม้หนึ่งตัวมาทางนาง

“เอาไปสิ หิวแล้วไม่ใช่หรือ”

เสี่ยวเม่ยกลืนน้ำลาย ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้แล้วรับปลามาอย่างไม่ปฏิเสธ เวลานี้มืดแล้วไม่แปลกที่นางจะหิวจัด ด้วยไม่มีสิ่งใดตกถึงท้องมาตั้งแต่เช้า

ร่างเล็กนั่งลงใกล้ๆ กองไฟไม่ห่างจากร่างสูงโปร่งนัก เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มกินปลาของเขานางก็กินบ้าง ขณะเดียวกันก็คิดย้อนกลับไปด้วยความแปลกใจว่าตนรอดจากหน้าผาน้ำตกนั่นมาได้อย่างไร เพราะหากตกลงไปร่างของนางก็น่าจะแหลกกระดูกหัก หรือไหลตามน้ำไปกระแทกโขดหินจนเลือดแดงเต็มลำธาร

ภาพน่ากลัวผุดขึ้นมาในหัวของเสี่ยวเม่ยเต็มไปหมด หรือว่าความจริงนางจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นเพียงสิ่งที่นางปรารถนาหลังจากความตาย เด็กสาวลองหยิกแขนตัวเองเต็มแรงก่อนจะหลุดอุทานด้วยความเจ็บ

“โอ๊ย...”

“เหอะ”

เยี่ยนเฉินส่งเสียงประชดพลางเหลือบมองคนที่กินปลาแล้วอยู่ๆ ก็บิดแขนตนเองตาขุ่น รู้ว่าแม่หนูน้อยนี่กำลังพิสูจน์ว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่หรือไม่

“ใช่ เจ้ายังไม่ตายสมใจเจ้า”

“ข้ารอดมาได้ยังไง”

เด็กสาวถามอย่างแสนซื่อ แปลกใจนักที่ตนยังรอดมาได้ราวปาฏิหาริย์

“ข้ารู้สึกว่าตัวเองอยู่กลางอากาศ น่ากลัวมาก ตัวหวิวสั่นไปหมด ก่อนจะ...”

นางจำสิ่งที่ต่อจากนั้นไม่ได้แล้ว เพราะกลัวจนหมดสติไปเลย

“เจ้าโชคดีหล่นลงน้ำ ที่ไกลโขดหิน แล้วข้าก็บังเอิญอยู่ใกล้ๆ แถวนั้นจึงเห็นเข้า เจ้ายังไม่ถูกน้ำพัดไปไกล”

ชายหนุ่มบอกด้วยสีหน้าราวเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ร่างกายบอบบางของเสี่ยวเม่ยจะรับแรงกระแทกเมื่อหล่นจากที่สูงได้ แม้จะเป็นน้ำก็ตาม นางคิดตามแล้วรู้สึกว่าไม่น่าเป็นไปได้

“จะเป็นได้หรือ ข้าไม่รู้สึกเจ็บตรงส่วนใดเลย”

“แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไร”

เยี่ยนเฉินย้อนถามเด็กสาวที่มาอวดฉลาดในเวลาเช่นนี้ เมื่อตอนเขาปล่อยให้หนีไปยังไม่ยอมหนี เลือกจะฆ่าตัวตายอย่างโง่งม ชายหนุ่มรู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางลงเขาได้โดยปลอดภัย หลังแอบออกมาจากค่ายพักก่อนก็คอยลอบจับตาดู และตามสังเกตว่าเมื่อเขาไม่อยู่แล้วเจ้าตัวจะทำอย่างไร ทว่ากลายเป็นนางไม่คิดมีชีวิตอย่างที่เคยบอกเอาไว้จริง ทำเอาเขาโมโหยิ่งนัก อดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้าช่วยอีกครั้ง และนั่นก็ทำให้เยี่ยนเฉินหงุดหงิดตัวเองไปด้วยที่สุดท้ายแล้วก็ทิ้งภาระนี้ไม่ลง ทั้งที่ไม่มีความเกี่ยวข้องใดต่อกัน

เขามองอีกฝ่ายเป็นภาระชิ้นใหญ่ ด้วยเป้าหมายของตนนั้นไม่ควรมีเด็กมาติดสอยห้อยตาม

เด็กผู้หญิงที่ใช้งานไม่ได้จะมีประโยชน์ใดกันเล่า

เยี่ยนเฉินคิดอย่างฉุนเฉียวประชดประชั้น แม้จะไม่ได้มองเด็กสาวในทางไม่ดี แต่สตรีสำหรับเขาแล้วเป็นเพียงสิ่งมอบความสุขทางกายเท่านั้น และไม่เคยต้องการผู้ใดไว้ใกล้ตัว ไม่ต้องการพันธะหรือการผูกพันทางใจ

“ข้าไม่รู้ จึงได้ถามท่าน”

เสี่ยวเม่ยตอบอุบอิบ หลุบตาลงต่ำเมื่อถูกดุ

“ถ้าถามข้า ข้าก็ตอบไปแล้ว จะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจเจ้า”

“ข้าเชื่อพี่ชาย”

เจ้าตัวรีบสวนขึ้นแล้วกลับมาสบตากับเขาอีกครั้ง เยี่ยนเฉินรู้ว่าเสี่ยวเม่ยเพียงต้องการพูดเอาใจ ไม่อยากให้เขาทิ้งนางไปอีก เขาจึงเพียงยิ้มหยันมุมปากแล้วสนใจปลาของตนต่อ

เสี่ยวเม่ยลอบมองผู้ที่ช่วยชีวิตตนเป็นครั้งที่สองแล้วก็ก้มลงแกะปลาที่กลิ่นหอมเย้ายวนอย่างไม่ซักไซ้ให้มากความอีก มาคิดดูแล้วแม้จะแปลกมหัศจรรย์เกินความจริง ทว่านับแต่ที่ได้พบชายหนุ่ม นางก็เจอแต่เรื่องประหลาดเกินความคาดหมาย ทั้งเขาพานางขึ้นมาหน้าผาสูงในเวลาไม่นาน ไม่ลำบากแต่อย่างใด ทั้งยังได้เห็นเขาสังหารผู้คนมากมายในเวลาชั่วอึดใจ ส่วนครั้งนี้ไม่ว่านางจะรอดด้วยเหตุใดชายผู้นี้ก็คือคนที่ช่วยนาง เป็นผู้มีพระคุณของนาง

เมื่อเห็นแม่หนูน้อยไม่อยากรู้อยากเห็นอีกเยี่ยนเฉินก็เงียบไปเช่นกัน กระทั่งปลาของทั้งสองคนหมดเขาก็เอ่ยขึ้น

“เจ้าพักเสีย ตรงนั้นไม่ห่างจากกองไฟมากนัก พอนอนได้”

“ข้าไม่ง่วง”

“ข้าไม่ไปไหนหรอกน่า”

เยี่ยนเฉินเสียงดุอย่างรู้ทันว่าอีกฝ่ายกลัวเขาทิ้งไปอีก

“หากจะหายไปอีกครั้ง จะรอเจ้าตื่นขึ้นมาทำไม”

เสี่ยวเม่ยหน้าหงอย แต่ชายหนุ่มพูดมีเหตุผล นางจึงขยับตัวไปนอนที่เดิมตรงที่ชายหนุ่มชี้บอก ความจริงก็ยังไม่ง่วงนัก ทว่าหากไม่ยอมทำตามที่พี่ชายหน้าดุสั่งเกรงเขาจะไม่พอใจตน

เมื่อเหลือบมองแล้วเห็นร่างเล็กนอนลงโดยง่ายเยี่ยนเฉินก็นั่งเขี่ยไฟแล้วเติมฟืนพลางครุ่นคิดถึงสิ่งที่ตนต้องการ แม้เวลานี้เข้าใกล้จุดเริ่มต้นมากเข้าไปทุกที และแม้มีภาระเพิ่มเข้ามาเขาก็ต้องก้าวต่อไป

เยี่ยนเฉินตั้งใจเดินทางมาสำนักเซียนชิงเฉิง แล้วก็รับรู้ได้ถึงปราณเซียนขององค์ชายชุนเทียน เขาต้องการปราณค่อนข้างสูงเพื่อกลบกลิ่นอายปีศาจของตน และใช้สถานะองค์ชายแห่งแคว้นจ้าวเป็นใบเบิกทาง เยี่ยนเฉินได้สารที่เจ้าอาวาสฝากฝังองค์ชายกับญาติผู้พี่มาอยู่ในมือแล้ว ในตอนแรกคิดว่าเพียงปลอมแปลงเป็นองค์ชายกระทั่งขบวนส่งเสด็จเดินทางถึงสำนักชิงเฉิง ทว่าเขากลับค้นพบสารนั้นในกล่องของใช้ส่วนตัวองค์ชายพร้อมทองจำนวนมาก

เขาไม่ได้ตื่นตาตื่นใจด้วยตนเองก็มีเงินทองไม่น้อยจากการทำงานในหอโคมเขียว ทั้งจากเงินค่าตัวและได้พิเศษจากผู้ว่าจ้างรวมถึงนายหญิงผู้ซึ่งโปรดปรานเขามากด้วย ทว่าเงินมากมายของเขาก็ไม่อาจรักษาชีวิตมารดาไว้ได้

เยี่ยนเฉินออกจากที่นั่นเมื่อสูญเสียมารดา โดยใช้เล่ห์กลว่าตนป่วยด้วยโรคร้ายแล้วตายโดยใช้ร่างของผู้อื่นสร้างรูปโฉมให้เหมือนตน ส่วนเขาก็ใช้หน้าตาของคนผู้นั้นแทน เป็นวิชาที่เขาใช้เป็นวิชาแรกหลังได้รับการถ่ายทอดพลังจากมารดา

ความจริงแล้วมารดาของเขาไม่เคยชอบหากเขาลงเขา ทุกครั้งที่แอบหนีมาทำงานกลับไปเขาก็มักจะถูกทำโทษ ทั้งตีและคุกเข่าทั้งคืน หากเยี่ยนเฉินก็ยังต้องหาเงินเพื่อซื้อยากับเนื้อไปปรุงอาหารดีๆ บำรุงร่างกายให้มารดาโดยไม่กลัวเจ็บหรือลำบาก

‘เจ้าจะให้แม่ขาดใจตายจริงๆ ใช่ไหม เหตุใดจึงดื้อไม่เชื่อฟังแม่’

มารดาตีเขาไปก็ร้องไห้น้ำตาไหล เรี่ยวแรงของท่านน้อยนิด และเยี่ยนเฉินก็ยอมยืนนิ่งให้ตีไม่ขยับหนี

‘ท่านตีข้า ทำโทษข้าอย่างไรก็ได้ท่านแม่ แต่ท่านต้องกินยา’

เขาต่อรองกลับไปด้วยน้ำเสียงมั่นคง แรกๆ มารดาไม่ยอมกิน แต่เพราะรู้ว่าเขาลำบากทำงานหนักท่านจึงยอม หากก็ยังห้ามเขาลงเขาทุกครั้ง

‘ดูมือเจ้าสิ ทั้งพองทั้งแตก งานหนักพวกนั้นเกินแรงของเด็กอย่างเจ้า และแม่ห่วงเจ้า อย่าได้ไปอีกทำงานอีกเลย แค่หาสมุนไพรในป่ามาต้มรักษาไปวันๆ ก็พอแล้ว’

สมุนไพรในป่ามีมากมายแต่ไม่อาจรักษามารดาเขาให้หายได้ แม้แต่ยาที่ซื้อมาต้มให้ท่านก็ช่วยไม่ได้มากนัก หากเยี่ยนเฉินก็พยายามดูแลมารดาของตนให้ดีที่สุด ช่วงที่เขาทำงานในหอโคมเขียวเป็นเวลาที่มารดาไม่ดุหรือตีเขาแล้วเพราะร่างกายอ่อนแอ แต่เห็นว่าเขาดูดีขึ้น บนร่างกายเนื้อตัวไม่มีบาดแผลท่านก็เหมือนจะสบายใจขึ้น และเมื่อถูกถามว่าทำงานอะไรเขาก็บอกไปว่าเป็นงานต้อนรับในโรงเตี๊ยมใหญ่ ท่านจึงไม่สงสัย

กระนั้นมารดาก็ยังขอให้เขาเลิกลงเขาอยู่บ่อยครั้ง เยี่ยนเฉินไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดท่านจึงคิดว่าการที่ตนลงจากเขาจะมีอันตราย ทว่าก่อนมารดาเมื่อจากไปเขาก็ได้รู้ทุกสิ่งอย่าง ตอนนั้นเป็นช่วงที่เขากลับมาเยี่ยมท่าน เยี่ยนเฉินทำงานสามวันจะกลับไปหามารดาหนึ่งวันหนึ่งคืน เป็นแบบนี้เสมอ ในวันนั้นราวกับมารดานอนรอให้เขากลับไป

‘ลูกเฉิน เจ้ากลับมาแล้ว’

มือบางเหี่ยวย่นยกแทบไม่ขึ้น ทำให้เยี่ยนเฉินต้องรีบเข้าไปคุกเข่าข้างเตียงเพื่อจับมือท่าน

เขาเคยจำได้ว่ามารดาเป็นสตรีที่งดงามที่สุดเท่าที่ตนเคยเห็น ทว่าผมกลับขาวโพลน กระทั่งเวลาผันนานท่านก็ค่อยๆ แก่ชราลงรวดเร็วนักในความรู้สึกของเขา

‘แม่มีสิ่งจะมอบให้เจ้า’

มารดาให้เขาพยุงท่านขึ้นนั่ง แล้วให้เขานั่งลงตรงหน้าท่าน จากนั้นก็ถ่ายทอดบางอย่างเข้ามาในร่างกายของเขา เยี่ยนเฉินจำได้ว่าตนทรมานมากที่สุดในชีวิต แต่ไม่นานก็เหมือนตนแข็งแกร่งอย่างมาก และเมื่อหันกลับไปก็เห็นร่างของมารดากำลังซวนเซล้มลง

‘ท่านแม่’

‘ลูกเฉิน นี่คือพลังปราณทั้งหมดของแม่ แม่มอบให้เจ้า แม่ทำเพื่อเจ้าได้เพียงเท่านี้’

‘ท่านแม่ ท่านหมายถึงสิ่งใดกัน’

‘กล่องใต้เตียง’

มารดาเขาเอ่ยแทบไม่ได้ยินเสียงก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงแล้วหมดลมหายใจในที่สุด

‘ท่านแม่! อย่าจากข้าไป ข้ายินดีทำงานน่าอับอายเพื่อหาเงินมารักษาท่าน ข้ากำลังจะพาหมอที่เก่งที่สุดมาตรวจอาการท่าน ท่านแม่...’

เยี่ยนเฉินกอดร่างบอบบางของมารดาแน่นพลางร้องไห้ออกมาเป็นครั้งแรกในชีวิต ความเจ็บปวดทางร่างกายที่ผ่านมาทั้งหมดเทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บปวดเสียใจในครั้งนี้ หัวใจของเขาราวถูกควักออกมาก็ไม่ปาน

หลังจากฝังศพมารดาและจมอยู่กับความเสียใจนานสามวันสามคืนเต็มเยี่ยนเฉินก็เอากล่องใต้เตียงที่มารดาสั่งไว้ออกมา แล้วเขาก็ได้รับรู้ความเป็นมาที่แท้จริงเกี่ยวกับตนเองผ่านจดหมายที่มารดาเขียนบอกเล่าไว้ให้เขา

‘แม่กลัวจากไปก่อนเจ้าจะกลับมา’

ยิ่งได้อ่านจดหมายหลายแผ่นของมารดาเยี่ยนเฉินก็ยิ่งสงสารท่านนัก

‘แม่หวังว่าเจ้าจะไม่คิดแค้น ไม่พาตัวเองกลับเข้าไปอยู่ในเพลิงแค้น แม่อยากให้เจ้าอยู่เงียบๆ เก็บตัวให้ห่างจากอันตรายทั้งปวง’

เขาจะลืมได้อย่างไร ในเมื่อได้เห็นมารดาของตนทุกข์ทรมานทางร่างกายมานานแสนนาน และต้องลำบากเลี้ยงดูเขาเพียงลำพังเพราะบิดาของเขาถูกสังหาร มารดาพาเขาที่ยังเป็นเพียงทารกหลบหนี แม้กระทั่งผนึกพลังของตนเอาไว้เพื่อมอบให้เขา เพื่อปกป้องเขา จนท่านทรุดโทรมแก่ชราและโรคภัยรุมเร้ามากมาย

เขาต้องทำอย่างไรไฟที่สุมอยู่ในใจนี้จึงจะมอดดับ

=====

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชะตารัก จอมมารไร้บัลลังก์   31.เจ้าคือรักนิรันดร์ (2)

    “ได้โปรดเถิด ข้าเหนื่อยเหลือเกิน”ดวงหน้างดงามสะบัดอย่างทุรนทุราย เหงื่อซึมเต็มหน้าผาก จนเมื่อร่างสูงใหญ่กระตุกสั่นรุนแรงพร้อมโถมกายมาเต็มตัว อวี้หลันก็ผวาอีกครั้งทั้งกรีดร้องแหบพร่าอย่างสุดกลั้น ขณะหูแว่วเสียงเข้มคำรามดังไม่ต่างจากตนก่อนร่างหนาหนักจะทิ้งลงมาซุกซบนาง แขนเรียวโอบกอดเรือนกายใหญ่โตไว้อย่างเต็มอกเต็มใจพลางยิ้มบางทั้งที่น้ำตาซึมเป็นครั้งแรกที่ได้รับบทรักในฐานะอวี้หลัน หากก็สุขล้นหัวใจเหมือนได้กลับมาโอบกอดคนที่ตนรักดังเช่นเมื่อครั้งเป็นเสี่ยวเม่ย“ข้ารักท่าน พี่เยี่ยนเฉิน”นางเอ่ยกับอีกฝ่ายเสียงเบา“ข้าก็รักเจ้ามากอวี้หลัน”เยี่ยนเฉินเอ่ยตอบแล้วจูบหน้าผากชื้นเหงื่อ หัวใจชุ่มฉ่ำกับคำรักของผู้เป็นดั่งดวงใจเพียงนางเดียวของตนอวี้หวันยิ้มปลาบปลื้มกับคำรักจากอีกฝ่ายมือบางลูบไหล่กับแผ่นหลังกว้างแล้วก็รู้สึกได้ถึงรอยแผลหลายรอยที่ดูคล้ายแซ่ ทำให้ยิ่งขอบตาร้อนผ่าวชายหนุ่มต้องเจ็บปวดทรมานเพียงไหนหนอเมื่อรับทัณฑ์สายฟ้า และผู้ที่ไม่เคยยอมอยู่ภายใต้ผู้ใดกลับต้องเป็นทหารยามในวังสวรรค์ หัวใจแกร่งหยิ่งทระนงของบุรุษที่นางชื่นชมต้องทุกข์ทนเพียงใด“พี่เยี่ยนเฉิน ข้าขอบคุณท่านนักที่ไม่ละทิ้ง

  • ชะตารัก จอมมารไร้บัลลังก์   31.เจ้าคือรักนิรันดร์ (1)

    “อื้ม หอมชื่นใจ”ร่างสูงใหญ่ที่โอบกอดจากด้านหลังพร้อมกับหอมลงมาบนแก้มตนทำให้อวี้หลันที่กำลังจะเข้านอนสะดุ้ง ส่วนม่านม่านซึ่งจัดเตรียมที่นอนอยู่ก็ตาโตรีบเลี่ยงหลบหนีทันใด เพราะกลัวว่าจะถูกทำให้หายไปอีก“อ้าว ม่านม่าน ไปไหนล่ะ”“คงกลัวจะหายไปน่ะสิ”เยี่ยนเฉินบอกพร้อมยิ้มมุมปากแล้วก็ต้องร้องเบาๆ“โอ๊ย นิ้วเล็กแค่นี้พิษร้ายแรงจริงเชียว”พร้อมพูดชายหนุ่มก็จับมือบางมาจุมพิตส่งสายตาคมกริบวาววามให้เจ้าของร่างนุ่มนิ่ม“ยังยิ้มอีก ปีศาจนิสัยไม่ดี”อวี้หลันเสียงขุ่น ไม่ชอบใจนักที่อีกฝ่ายนึกสนุกเมื่อทำให้ม่านม่านกลัวเยี่ยนเฉินเพียงหัวเราะในลำคอแล้วจูบแก้มนุ่มซ้ำอีกครั้งก่อนไต่ลงซอกคอหอม ขณะที่หญิงสาวย่นคอหลบเลี่ยง“อื้อ อย่า...”“โธ่...อวี้หลันคนดี ท่านพ่อเจ้าให้ข้าปลูกดอกไม้แทบจะทั้งภูเขากว่าจะเสร็จก็หลายเดือน มีอย่างที่ไหนให้องครักษ์ไปปลูกต้นไม้ดอกไม้ เจ้าจะทรมานข้าอีกคนหรืออย่างไร”เยี่ยนเฉินบ่นอุบ นับแต่มาถึงเผ่าบุปผา บิดาของนางก็เอาแต่มองเขาตาขวางแต่ไม่อาจไล่ได้เพราะเป็นราชโองการ แล้วเขาก็ถูกสั่งให้ปลูกต้นดอกอวี้หลันด้วยมือตนเอง จากด้านหลังกระท่อมริมเขาที่ตนอาศัยไปตามเส้นทางขึ้นเขา เหมือนเ

  • ชะตารัก จอมมารไร้บัลลังก์   30.คว้านางมาเคียงใจ (2)

    “เขาปกป้องข้า ไม่ผิดอันใด”หญิงสาวเอ่ยสวนพร้อมทั้งรีบขยับไปคุกเข่าต่อหน้าท่านปู่ของตนพลางส่งสายตาขอร้องให้เห็นใจ“ทูลฝ่าบาท ทหารผู้นี้เป็นทหารองครักษ์ที่ฮองเฮารับสั่งแต่งตั้งที่มีความชอบเมื่อวานนี้เพคะ เขาทำหน้าที่ระมัดระวังช่วยเหลืออวี้หลัน นับว่าเหมาะสมแล้วเพคะ”องค์จักรพรรดิรับรู้ในข้อนี้จากหัวหน้าองครักษ์แล้ว ราชินีสวรรค์ไม่ได้รู้เห็นว่าเยี่ยนเฉินผู้นี้คือปีศาจผู้มีดาวชะตามาร ทั้งกายยังมีปราณเทพเซียนกลบไอปีศาจ หากมีความชอบจะได้รับการแต่งตั้งก็คงไม่ผิดนัก พระองค์เองก็ได้รับรายงานถึงพฤติกรรมที่ตรงเผงและอยู่ในรูปในรอยไม่เคยผิดวินัยของอีกฝ่ายเสมอ ทั้งฝีมือยังเก่งกาจหาตัวจับยาก หากจะแต่งตั้งเป็นองครักษ์ก็ย่อมได้“เทพธิดา ท่านเอ่ยราวรู้จักทหารยามผู้นี้เป็นอย่างดี น่าแปลกนัก”ชิงหลุนมองด้วยสายตาสงสัยอวี้หลันเม้มปาก รู้ว่ากำลังถูกหยั่งเชิง หากยอมรับว่ารู้จักคุ้นเคยทหารยามเป็นอย่างดี ก็จะทำให้ตำแหน่งเทพธิดาบุปผาเสียหาย นางสูดหายใจเข้าจนเต็มปอดก่อนจะเอ่ยขึ้น“ไม่รู้จักได้อย่างไร ในเมื่อฮองเฮาแต่งตั้งทหารผู้นี้เป็นทหารองครักษ์ แล้วรับสั่งให้ดูแลคุ้มกันข้ากลับเผ่าบุปผา”นางพยายามส่งสายตาขอกั

  • ชะตารัก จอมมารไร้บัลลังก์   30.คว้านางมาเคียงใจ (1)

    “เยี่ยนเฉินหรือ?”ราชินีสวรรค์มองทหารยามอย่างพินิจ ท่าทางองอาจดูไม่หวั่นเกรงต่อผู้ใด สายตามั่นคงไม่วอกแวก ทั้งยังปราดเข้ามาสยบสัตว์เวทที่แม้แต่เทพเซียนผู้เป็นเจ้าของยังไม่อาจปราบได้ในชั่วพริบตา ทำให้รู้สึกว่าชายหนุ่มผู้นี้ไม่ธรรมดาเลย“ความชอบของเจ้าครั้งนี้ ข้าคงต้องมีรางวัลเสียแล้ว”“เป็นหน้าที่กระหม่อมอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”เยี่ยนเฉินเอ่ยเสียงเรียบอวี้หลันจ้องมองชายหนุ่มอย่างไม่ละสายตา พยายามจะสบตาอีกฝ่ายเพื่อความแน่ใจ ทว่าเขากลับมองต่ำเพียงอย่างเดียว ทำให้นึกขัดใจนัก“ถึงอย่างไรข้าก็อยากตอบแทนน้ำใจเจ้า”“กระหม่อมไม่...”“เอาอย่างนี้ไหมเพคะ ในเมื่อเขาบอกว่าเป็นหน้าที่ ฮองเฮาก็แต่งตั้งเขาเป็นองครักษ์ให้เป็นรางวัลแทนสิ่งของ”อวี้หลันถือโอกาสเสนอ กระนั้นชายหนุ่มก็ยังไม่มองตนหญิงสาวเคืองจนแอบถอนหายใจ“อืม นั่นสินะ เช่นนั้นข้าจะบอกกับหัวหน้าองครักษ์ให้แต่งตั้งเจ้าเป็นองครักษ์สวรรค์ก็แล้วกัน”“เป็นพระมหากรุณาพ่ะย่ะค่ะ”เยี่ยนเฉินจำต้องรับไว้ แต่ก็ยังก้มหน้าราวเจียมตนเช่นเดิมผู้เป็นเทพธิดาบุปผาเม้มริมฝีปาก กรุ่นโกรธคนที่หมางเมินต่อตนราวไม่สนใจไยดีเมื่อมีโอกาสอยู่ในที่พักของตนยังตำหนักราชิ

  • ชะตารัก จอมมารไร้บัลลังก์   29.ไกลเกินเอื้อม (2)

    “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังคิดหนี”ไท่จื่อซึ่งเป็นผู้คุมตัวตนมาเอ่ยขึ้น ทำให้เยี่ยนเฉินเหลือบมองอย่างหงุดหงิด หากก็ไม่เอ่ยสิ่งใด“แต่เจ้าอาจหลงลืมไปว่าเทพธิดาบุปผาก็มักจะขึ้นมาบนสวรรค์อยู่เนืองๆ ในโอกาสต่างๆ”คำบอกนี้ทำให้เยี่ยนเฉินหยุดเดิน ขณะที่ผู้เป็นไท่จื่อเพียงก้าวเดินต่อไปไม่หันกลับ“อะแฮ่ม”ผู้ที่กระแอมคือหวังหย่งผู้ติดตามไท่จื่อแล้วผายมือให้ปีศาจหนุ่มเดินต่อเยี่ยนเฉินจำต้องก้าวต่อเพื่อไปยังแท่นรับสายฟ้า หากก็ครุ่นคิดไปด้วย แม้แปลกใจที่ไท่จื่อสวรรค์เอ่ยกับตนเช่นนี้ แต่ก็เป็นความจริงที่ว่าถ้าหนีเขาอาจไม่ได้พบเจอกับอวี้หลันอีก สวรรค์คงต้องหาทางคุ้มกันเทพธิดาเผ่าบุปผาเข้มงวดกว่าก่อนหน้านี้ ทว่าหากอยู่บนสวรรค์ก็ยังมีโอกาสได้เห็นคนที่ตนรักเมื่อมาถึงยังแท่นรับสายฟ้า ไท่จื่อก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง“หญิงสาวที่เจ้ารักอยู่ไกลเกินเอื้อม หากเจ้าจริงใจต่อนาง ย่อมรู้ว่าควรทำอย่างไร ความรักอาจไม่จำเป็นต้องครอบครอง เพียงได้เห็นผู้ที่ตนรักใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขก็เพียงพอ ทุกสิ่งอย่างขึ้นอยู่กับการกระทำของตัวเจ้า”จิ่นลี่นั้นไม่ได้ต้องการให้หลานสาวตนลงเอยกับปีศาจตนนี้ แต่ก็รู้ดีว่าหัวใจไม่อาจบังคับได้ ทั้งยัง

  • ชะตารัก จอมมารไร้บัลลังก์   29.ไกลเกินเอื้อม (1)

    ร่างสูงใหญ่ก้าวตามผู้เป็นอาเข้าประตูสวรรค์มาด้วยใบหน้านิ่งขรึม แม้ไม่เต็มใจและมีแผนในหัว หากก็พยายามตีสีหน้าเฉยเข้าไว้เพื่อที่ราชาปีศาจจะได้อ่านความในใจตนไม่ออก พลางสายตาก็กวาดมองสวรรค์ชั้นฟ้าที่งดงามด้วยสายตาดูแคลน ไม่มีความชื่นชมหรือตื่นตาตื่นใจแต่อย่างใด กระทั่งมาถึงยังท้องพระโรงที่มีร่างขององค์จักรพรรดินั่งอยู่บนบัลลังก์และไท่จื่อยืนอยู่ด้านหนึ่ง“องค์จักรพรรดิ”ราชาปีศาจเอ่ยขึ้นพร้อมก้มหัวคำนับเล็กน้อยขณะที่เยี่ยนเฉินยืนเฉย ผู้เป็นอาจึงเอ่ย“เยี่ยนเฉิน”ผู้ถูกเรียกถอนหายใจ ก่อนจะจำใจเอ่ยเสียงดังทั้งที่ยืนนิ่ง“เยี่ยนเฉินคำนับองค์จักรพรรดิ”“เจ้ายอมมาถึงที่นี่ คงเตรียมใจไว้แล้วสินะ”จักรพรรดิจินหวงเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ หากสายตาที่มองชายหนุ่มรูปร่างองอาจทว่าหน้าตางามล้ำโดดเด่นนั้นบอกชัดว่าไม่ชอบใจ เพราะอีกฝ่ายทำให้หลานสาวสุดรักต้องเสียศักดิ์ศรี“จะทำอย่างไรก็เชิญ”เยี่ยนเฉินเชิดหน้ามองตรงไม่หลบเลี่ยง“ความผิดเจ้าใหญ่หลวงนัก ทั้งยึดสำนักชิงเชิง ปลุกระดมบังคับศิษย์ในสำนักให้แข็งข้อก่อกบฏต่อขุนเขากลางเวหา แล้วยัง...”“ลอบเข้าไปอุ้มเทพธิดาบุปผา...”“บังอาจ!”ร่างสูงขององค์จักพรรดิลุกขึ้นห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status