เมืองหลวงต้าเทียน
รัชศกซีเฉินปีที่5
ฮ่องเต้นามว่า อวิ๋นซีเฉิน
เมืองหลวงต้าเทียนแห่งนี้ คือเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ท่ามกลางแคว้นทั้งสี่ ประกอบไปด้วยแคว้นฉินตั้งอยู่ทางทิศเหนือ แคว้นหาน ตั้งอยู่ทางทิศใต้ แคว้นเยี่ยนตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก และแคว้นเย่ว์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก เมืองต้าเทียนโอบล้อมไปด้วยภูเขาและต้นไม้มากมาย ให้ความเย็นสบายตลอดทั้งปี อีกทั้งยังโอบล้อมด้วยแม่น้ำฉางเจียง ซึ่งให้ความอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี เมืองต้าเทียนจึงอุดมไปด้วยเสบียงอาหารที่พร้อมสรรพ และนับเป็นเมืองมหาอำนาจที่สุดในสี่แคว้น
หยาดน้ำฝนที่ตกลงมาเป็นสาย สลับกับสายลมที่พัดมาเป็นครั้งคราว ทำให้ต้นไม้ดอกไม้น้อยใหญ่ต่างเปียกชุ่มฉ่ำและเขียวขจีชวนมอง ราวกับหยาดน้ำทิพย์จากแดนสวรรค์ที่ส่งมาปลอบประโลมดินแดนมนุษย์
สตรีนางหนึ่งกำลังนั่งเหม่อมองไปที่ด้านนอกหน้าต่าง ดวงตาคู่สวยทอดมองไปยังสระน้ำที่ยามนี้ดอกเหลียนฮวาหลากสี (ดอกบัว) กำลังเบ่งบานรับหยาดฝนอย่างงดงาม มือเรียวสวยยื่นออกไปรองรับหยาดฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสายที่ด้านนอกหน้าต่างด้วยแววตาที่เศร้าหมอง
หลายวันก่อน
"พี่เหลียนฮวา ข้ายังมิอยากอภิเษกสมรสกับฝ่าบาทเลยเจ้าค่ะ"
สวีเหลียนฮวาหันไปมองสาวน้อยที่ทำน้ำเสียงออดอ้อนนางพร้อมกับซบใบหน้าลงมาที่หัวไหล่ของนางราวกับเด็กน้อยที่กำลังขอขนมกินไม่มีผิด
"หลานฮวา พี่ดีใจกับเจ้าด้วย สตรีทั่วทั้งเมืองหลวงต่างอิจฉาเจ้า ฝ่าบาทเองก็ทรงชื่นชอบเจ้าเป็นอย่างมาก เทศกาลซีซีปีที่ผ่านมา เจ้าเข้าร่วมแข่งขันศิลปะหลายแขนง จนสามารถเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งต้าเทียนได้ ฝ่าบาทจึงทรงอยากรับเจ้าเข้าไปเป็นฮองเฮาในวังหลวง"
สวีหลานฮวาเบ้ปากอย่างไม่เห็นด้วย นางเองยังมิอยากแต่งงานเลยด้วยซ้ำ ยามนี้นางเพิ่งจะอายุครบสิบเจ็ดปีเต็ม นางยังอยากท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง ยังคงอยากจะใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรีมากกว่าการถูกกักขังอยู่ในวังหลวงแห่งนั้น
จวนตระกูลสวีเป็นจวนที่มีอำนาจมากที่สุดในเมืองต้าเทียน สวีเจียงเสวี่ย ผู้เป็นบิดาของสวีเหลียนฮวาและสวีหลานฮวานั้น ดำรงตำแหน่งเป็นท่านแม่ทัพใหญ่แห่งต้าเทียน ตระกูลสวีสืบทอดอำนาจทางการทหารมาหลายชั่วอายุคน อีกทั้งยังเป็นสหายรักกับฮ่องเต้พระองค์ก่อนอีกด้วย
สวีเหลียนฮวาเป็นพี่สาวฝาแฝดของสวีหลานฮวา แม้จะมีใบหน้างดงามเหมือนกัน แต่ทว่านิสัยกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
สวีเหลียนฮวา เป็นสตรีที่เรียบร้อย และขี้กลัว นางเองมิมีความสามารถใดใดเลย อีกทั้งยังมิเป็นที่ชื่นชอบของบิดาอีกด้วย เพราะนางอ่อนแอมิสมกับเป็นบุตรีของเขาเลยแม้แต่น้อย
แต่ทว่าสวีหลานฮวากลับเป็นสตรีที่งดงามและเพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง นางเก่งทั้งดีดพิณ คัดอักษร หมากรุก และร่ายรำ เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก
แต่ถึงอย่างนั้น สวีเหลียนฮวาก็ไม่เคยอิจฉาริษยาสวีหลานฮวาเลยแม้แต่น้อย นางมิคิดต่อสู้แย่งชิงความโปรดปรานใดใดจากใครเลยด้วยซ้ำ
สวีเหลียนฮวายื่นมือสวยไปลูบเส้นผมดำสลวยของสวีหลานฮวาด้วยแววตารักใคร่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนน่าฟัง
"หลานฮวา เจ้าน่ะโชคดีมากนะรู้หรือไม่?"
"โชคดีอย่างไรกัน ข้าน่ะยังมิเคยเห็นพระพักตร์ฝ่าบาทเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งข้ายังเคยได้ยินผู้คนเขาเล่าลือกันว่า ฮ่องเต้พระองค์นี้ทรงจิตใจอำมหิตที่สุด แค่คิดข้าก็รับไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ!!!"
สวีหลานฮวาส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เห็นด้วย หลังจากจบเทศกาลซีซีเมื่อปีที่แล้ว นางก็ได้รับราชโองการจากวังหลวง ว่าฮ่องเต้จะทรงรับนางเข้าวังหลวงไปเป็นฮองเฮา แม้ว่าเขาจะดูรูปงามราวเทพสวรรค์แต่ชื่อเสียงของเขานั้นน่าหวาดกลัวเสียจนใจสั่น จะให้นางแต่งได้อย่างไรเล่า!!!
"หลานฮวา เจ้าอย่าเพิ่งคิดไปไกลนักเลย ฝ่าบาทน่ะ ทรงมีเมตตาเป็นอย่างมากนะ"
"พอเถิด!!! พี่เหลียนฮวา ข้ามีเรื่องอยากขอให้ท่านพี่ช่วยเจ้าค่ะ"
"เรื่องใดหรือ?"
"พี่เหลียนฮวา ช่วยอภิเษกกับฝ่าบาทแทนข้าได้หรือไม่เจ้าคะ!!!"
เพล้ง!!!
ถ้วยชาในมือของสวีเหลียนฮวาร่วงตกลงพื้นด้วยความตกใจ สวีหลานฮวาที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบถลึงตามองแฝดผู้พี่ทันที
"เบา ๆ สิเจ้าคะ เดี๋ยวท่านแม่ก็มาได้ยินเราสองคนพูดคุยกันจนได้!!!"
"หลานฮวา พี่..."
"ท่านพี่ เพียงแค่สลับตัวกันเท่านั้น เราสองคนเหมือนกันจนแยกไม่ออกขนาดนี้ ฝ่าบาทมิอาจจับได้หรอกเจ้าค่ะ ท่านพี่เชื่อข้าเถอะ!!!"
"หลานฮวา หากฝ่าบาททรงรู้เข้า ตระกูลสวีเรา..."
"ไม่มีทาง!!! เชื่อข้า!!!"
"เหตุใดเจ้าจึงทำเช่นนี้!!!
"ท่านพี่!!! ข้ายังมิอยากแต่งงาน นะเจ้าคะ!!! ท่านพี่ช่วยข้าด้วยนะเจ้าคะ!!!"
สวีหลานฮวาโผเข้าไปกอดสวีเหลียนฮวาผู้เป็นพี่สาวด้วยความหวาดกลัว นางมิอยากทนรองรับอารมณ์ของฮ่องเต้อำมหิตผู้นั้น นางมิอยากแต่งงานและต้องทนอยู่กับสามีเช่นนี้ไปชั่วชีวิต
สวีเหลียนฮวารู้สึกสงสารน้องสาวฝาแฝดของตนเองอย่างสุดหัวใจ รู้อยู่เต็มอกว่าหากเกิดถูกจับได้ขึ้นมา ชะตาชีวิตของนางคงไม่รอดเงื้อมมือของฮ่องเต้เป็นแน่ ไหนจะท่านพ่อกับท่านแม่อีกเล่า!!!
ตำหนักมังกรสวรรค์
อวิ๋นซีเฉินกำลังนั่งเหม่อมองออกไปที่ด้านนอกหน้าต่างด้วยสายตาที่มีความสุข แววตาคมดุจเหยี่ยว คิ้วโก่งได้รูปของเขาบางคราดูเหมือนคนเจ้าเล่ห์ ใบหน้าหล่อเหลาชวนให้เหล่าสตรีทั้งเมืองหลวงต่างอยากถวายตัวและใจให้แก่เขา
อวิ๋นซีเฉินในวัยยี่สิบห้าปี เขาขึ้นครองราชย์ตั้งแต่อายุยี่สิบปี ตอนที่ยังเป็นองค์รัชทายาท ในตอนนั้นเขาอายุเพียงสิบห้าปีเท่านั้น แต่กลับต่อสู้กับเหล่ากบฏต่างแคว้นจนได้รับชัยชนะ เขานำหัวพวกมันกลับมาถวายให้แก่เสด็จพ่อ เขาถือเป็นฮ่องเต้หนุ่มที่เก่งกาจและน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก
ในวังหลังของเขามีสนมนางในหลายสิบคน ประกอบไปด้วยเฟยทั้งสี่ สนมขั้นผิน สนมกุ้ยเหริน แต่จนแล้วจนรอดเขาเองก็ไม่เคยเปิดป้ายเรียกพวกนางให้มาปรนนิบัติเลยสักครา และยังไม่คิดแต่งตั้งฮองเฮาเลยสักครั้ง กระทั่งเขาได้พบกับนางในคืนนั้น
เขาปลอมตัวเป็นชาวบ้าน สวมใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าเพื่อเข้าไปเที่ยวเล่นในเทศกาลซีซี และได้เห็นสวีหลานฮวาที่มีความสามารถเก่งกล้าหาสตรีใดเทียม ใบหน้าของนางงดงามล่มเมือง หวานล้ำราวหยาดน้ำผึ้ง อีกทั้งยังได้ตำแหน่งสตรีงามแห่งต้าเทียนในครั้งนั้นอีกด้วย
นี่แหละ!!! ฮองเฮาที่เขาตามหา!
เขาตามสืบจนรู้ว่าที่แท้นางคือบุตรสาวของท่านแม่ทัพตระกูลสวี ซึ่งเป็นสตรีที่เสด็จพ่อทรงหมายมั่นให้อภิเษกกับเขา เสด็จพ่อกับท่านแม่ทัพสวียังเป็นสหายสนิทกันมาตั้งแต่วัยเด็ก จึงทำสัญญาหมั้นหมายระหว่างเขากับบุตรสาวตระกูลสวีเอาไว้
และเขายังได้รู้อีกว่านางมีฝาแฝดนามว่าสวีเหลียนฮวา!
แต่สตรีนางนั้นเขารู้สึกมิถูกตาต้องใจนางเอาเสียเลย แม้ใบหน้าของนางจะเหมือนกับสวีหลานฮวา แต่นางดูอ่อนแอ อีกทั้งยังมิเชี่ยวชาญเรื่องใดใดเลยแม้แต่น้อย ดู ๆ ไปแล้วเหมือนกับสตรีโง่งมและอ่อนแออย่างไรอย่างนั้น!!!
เขาไม่มีวันรับสตรีไร้ความสง่างามเช่นนั้นเข้ามาในวังเป็นอันขาด!!!
เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงเขียนราชโองการอภิเษกสมรสกับสวีหลานฮวาทันทีอย่างไม่รั้งรอ จะรอช้าไปทำไมเล่า!!! เขาชื่นชอบนางยิ่งนัก!!!
"ฝ่าบาท"
อวิ๋นซีเฉินหันไปมองราชเลขาคนสนิทที่เดินเข้ามาหาเขาด้วยท่าทีนอบน้อม
"มีสิ่งใด?"
"การจะแต่งตั้งฮองเฮาต้องทรงปฏิบัติตามประเพณี เราจะต้อง..."
"หุบปาก!!! ข้าจะแต่งนางเข้ามาเช่นไรก็เรื่องของข้า ต้องให้พวกเจ้ามาสั่งสอนด้วยหรือ!!!"
"หามิได้พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!!!"
"ไสหัวไป!!! ส่งคนไปจัดเตรียมชุดให้นางที่ตระกูลสวี!!! ข้าจะแต่งกับนางในอีกสามวันข้างหน้า!!!"
"พ่ะย่ะค่ะ!!!"
ราชเลขาพยักหน้ารับก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปทันที
อวิ๋นหลัว อดีตฮ่องเต้พระองค์ก่อนได้แต่มองบุตรชายของตนด้วยแววตาเอือมระอา อวิ๋นซีเฉินเป็นพระโอรสเพียงองค์เดียวของเขา เขามีฮองเฮาเป็นภรรยาเพียงผู้เดียวและไม่รับนางสนมใดอีก เมื่อนางตายจากไปเขาจึงสละราชบัลลังก์และให้พระโอรสองค์นี้ขึ้นครองราชย์แทน ส่วนเขาก็ใช้ชีวิตปลูกผักทำสวนอยู่ที่ตำหนักท้ายวังอย่างมีความสุข
แต่จนแล้วจนรอดอวิ๋นซีเฉินก็ยังเอาแต่ใจตนเองไม่เปลี่ยน!!! เขาพยายามหาสตรีมาให้มากมายหวังจะดัดนิสัยพระโอรสจอมโอหังแต่กลับไร้ผล
ทว่าไม่นานมานี้อวิ๋นซีเฉินกลับมาบอกเขาว่าชื่นชอบสตรีนางหนึ่ง โชคดียิ่งนักที่เป็นบุตรสาวของท่านแม่ทัพสวี เขาจึงเห็นดีเห็นงามด้วย
"อาเฉิน"
"เสด็จพ่อ"
"เจ้าอย่าดุด่าเหล่าบ่าวรับใช้นักเลย"
"หากจะมาเพื่อต่อว่าข้า ก็ทรงกลับไปเถิด!'
บัดซบ!!! ลูกเวรนี่กล้าไล่ข้ารึ!!!
"ข้าเบื่อจะพูดกับเจ้าแล้ว!!!"
"ลูกก็เบื่อเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ ลูกจะรับนางเข้าวังมาเป็นฮองเฮาในอีกสามวันข้างหน้า"
"มิเร็วไปหรือ?"
"ไม่พ่ะย่ะค่ะ ลูกต้องการนาง สวีหลานฮวา ช่างงดงามเพียบพร้อมยิ่งนัก ในใต้หล้านี้ไม่มีสตรีใดเทียบนางได้อีกแล้ว"
"แต่สวีเหลียนฮวาก็ใช้ได้นะ"
"หึ!!! โง่งมเช่นนั้น ลูกมิต้องการพ่ะย่ะค่ะ!!!"
"เอาเถิด แต่ใครเข้ามาก็เหมาะสมทั้งนั้น อย่างไรเสียตระกูลสวีก็มีอำนาจเหมาะสมคู่ควรกับราชวงศ์ของเรา"
"พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ"
อวิ๋นซีเฉินรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เขาจะได้แต่งงานกับนางแล้ว เขามิเคยชื่นชอบสตรีใดเท่านางมาก่อนเลย
ด้านสวีเหลียนฮวากำลังนั่งครุ่นคิดอย่างหนัก นางมิยอมตกปากรับคำขอของสวีหลานฮวา จนน้องสาวเสียใจและหนีกลับเรือนไป
หลังจากนั้นตระกูลสวีก็เกิดเรื่องวุ่นขึ้นมา เมื่อสวีหลานฮวาเกิดหายตัวไปจากจวน สวีเจียงเสวี่ยสั่งคนให้ออกตามหาบุตรสาวไปทั่วทั้งจวนแต่ก็ไม่พบ
งานแต่งกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว อีกสามวันสวีหลานฮวาจะต้องเข้าวังหลวงแล้ว จะทำเช่นไรดีเล่า!!!
สวีเหลียนฮวากลับมาถึงต้าเทียนได้หลายวันแล้ว ยามนี้ท่านแม่ทัพใหญ่สวีที่รู้สึกผิดต่อบุตรสาวก็พยายามมาขอพบนางที่ตำหนักเฟิ่งหวง แต่สวีเหลียนฮวากลับไม่ยอมให้เขาเข้าพบเลยสักครั้งนางมิใช่สวีเหลียนฮวาคนเก่า และนางรู้ดีว่านี่คือความตั้งใจของสวีเหลียนฮวาที่ตายไปแล้ว บิดาผู้นี้ไม่เคยเห็นนางเป็นบุตรสาว เพราะนางอ่อนแอ และสู้สวีหลานฮวาไม่ได้ อีกทั้งตอนที่นางหนีไปจากต้าเทียน หลิงเจียวได้เล่าให้นางฟังว่า แม่ทัพใหญ่สวีโกรธนางมาก ถึงกับมาทูลต่อไท่ซังหวงว่านางคือความอับอายของตระกูลสวี ไท่ซังหวงที่ได้ยินเช่นนั้นจึงต่อว่าแม่ทัพใหญ่สวีไปเสียยกใหญ่ อีกทั้งยังบอกอีกด้วยว่า หากไม่เห็นนางเป็นบุตรสาว ก็ไม่เป็นไร พระองค์พึงใจสะใภ้ผู้นี้ ใครก็อย่าได้คิดมาต่อว่านางเป็นอันขาดเช่นนั้นนางเองก็จะไม่ขอพบเจอกับบิดาเช่นนี้อีก แม้จะไม่ได้เกลียด แต่การไม่พบกันย่อมจะเป็นเรื่องที่ดีเสียมากกว่าด้านจิ้งกุ้ยเฟยก็ได้ออกจากวังหลวงไปแต่งกับบัณฑิตตระกูลโจว ชีวิตของนางดูจะมีความสุขเป็นอย่างมาก มีหลายคราที่นางแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนสวีเหลียนฮวาถึงในวังหลวงอยู่หลายครั้ง อีกทั้งยังบอกอีกด้วยว่าสามียอดรักของนางนั้น 'ยาว' ถูกใจนางเพียงใ
ท้ายที่สุดสวีเหลียนฮวาก็ต้องปิดร้านบะหมี่ไปก่อน นางนั่งมองอวิ๋นซีเฉินที่เดินไปเก็บร้าน ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหานาง พร้อมกับจ้องมองนางด้วยแววตาที่ล้ำลึก สวีเหลียนฮวาที่เห็นเช่นนั้น จึงถลึงตามองเขาทันที "มองข้าทำไม?""เหลียนฮวา เจ้ายอมคืนดีกับข้าเถิดนะ""ไม่!!! เจ้ามันคนนิสัยไม่ดี ชอบข่มเหงจิตใจข้า!""ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว ข้ายอมเจ้าแล้ว เอาเถิด ข้าจะรอจนกว่าเจ้าจะยอมใจอ่อนนะ""ไม่..."ยังไม่ทันที่สวีเหลียนฮวาจะเอ่ยสิ่งใดต่อ ดวงตาคู่สวยของนางก็เหลือบลงไปที่หว่างขาของอวิ๋นซีเฉิน คงเพราะเขาไม่ทันระวังตอนที่กระทืบชายผู้นั้น ทำให้เป้ากางเกงของเขาขาดออกเป็นวงกว้าง เผยให้เห็นลำแท่งเอ็นร้อนขนาดใหญ่ที่โผล่ออกมาท้าทายสายตาของนาง สวีเหลียนฮวาลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ คล้าย ๆ กับว่ามันจะใหญ่ขึ้นใช่หรือไม่? นางไม่ได้กินมันมานานแล้วด้วย?ให้ตายเถอะ!!! นางคิดสิ่งใดอยู่กันแน่!!! "ข้าจะไปอาบน้ำแล้ว"สวีเหลียนฮวาเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินหนีเขาไปอาบน้ำทันที ยามค่ำคืนมาเยือน เพราะที่นี่คือแคว้นที่อยู่ในป่า จึงค่อนข้างเงียบสงบ มีเพียงเสียงจากสัตว์ป่าดังแว่วมาในบางคราเท่านั้น เหล่าชาวบ้านต่างเข้านอนกันหมดแ
ผู้นำแคว้นม่อเป่ยรีบวิ่งหนีไปทันทีอย่างไม่รีรอ อวิ๋นซีเฉินจึงหันไปมองเสิ่นเหยาและหานเยียนเล็กน้อย "เรียบร้อยดีหรือไม่?""อาเฉิน ทางนั้นเรียบร้อยดี เจ้าจะกลับต้าเทียนเมื่อใด?""ยังไม่มีกำหนด เจ้ากลับไปกราบทูลเสด็จพ่อเสียก่อน ว่าข้าจะพาเหลียนฮวากลับไปด้วย""นางยังมิยอมกลับหรือ?""ยัง แต่อีกไม่นานหรอก""ตกลง ข้าจะกลับไปรายงานไท่ซังหวงที่ต้าเทียนเสียก่อน แล้วจะกลับมาหาเจ้าอีกครา ส่วนศพของอวิ๋นเสวี่ยเฟยข้าโยนทิ้งเป็นอาหารสัตว์ป่าไปแล้ว""อืม ดีมาก! นำศีรษะมันไปเสียบประจานที่หน้าประตูเมืองต้าเทียนด้วย ส่วนเจ้าเสิ่นเหยา ข้าขอบใจเจ้ามาก""กระหม่อมมิกล้ารับพ่ะย่ะค่ะ เป็นเพราะความเมตตาของฝ่าบาท กระหม่อมจึงสามารถล้างแค้นให้ตระกูลเสิ่นได้"เมื่อเอ่ยวาจากันจนเข้าใจแล้ว เสิ่นเหยาและหานเยียนจึงขอตัวลากลับทันที อวิ๋นซีเฉินมุ่งหน้ากลับมาที่บ้านของสวีเหลียนฮวา ก่อนจะเอ่ยเรียกนาง "เหลียนฮวา""มีอะไร?""ข้านำอาหารมาเผื่อเจ้าด้วย เจ้าออกมากินเสียหน่อยเถิด""ไม่ ข้าจะนอนแล้ว"สวีเหลียนฮวาเอ่ยปฏิเสธเพียงเท่านั้น ก่อนจะดับแสงเทียนในห้องลงทันที อวิ๋นซีเฉินก้มหน้างุดด้วยความเหนื่อยล้า เขาเอนกายพิงที่เสาไม้ตร
สวีเหลียนฮวาที่เห็นว่าหมดหน้าที่ของตนเองแล้ว จึงหันหลังเพื่อจะกลับไปที่แคว้นม่อเป่ยทันที "อาเฉิน""พวกเจ้าจัดการเก็บกวาดแคว้นฉินให้เรียบร้อย สังหารให้หมดสิ้น ส่วนชาวบ้านบริสุทธิ์ก็อย่าเข่นฆ่าให้พวกเขาหวาดกลัว""เจ้าจะไปที่ใด?""อาเยียน ข้าจะไปตามหัวใจของข้ากลับคืน"อวิ๋นซีเฉินเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะมุ่งหน้าติดตามสวีเหลียนฮวาไปทันที สวีเหลียนฮวาที่เห็นว่าเขาติดตามนางมาด้วยก็รีบเร่งฝีเท้าให้เร็วมากกว่าเดิม นางไม่อยากเจอหน้าเขาอีก แต่ทว่าอีกใจหนึ่งนางก็แอบดีใจที่เห็นว่าเขาปลอดภัยดี "เหลียนฮวา""ตามมาทำไมเพคะ?""เหลียนฮวา อยู่ที่นี่ข้ามิใช่ฝ่าบาท แต่ข้าเป็นอาเฉินของเจ้า""ของหม่อมฉันหรือ?""อย่าเอ่ยวาจาห่างเหินกับข้าเช่นนี้เลย""ไม่พอใจก็ไสหัวไปเสีย!!! ข้าขอให้เจ้ามาตามข้าหรืออย่างไรกัน!!!"สวีเหลียนฮวาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะสะบัดหน้าหนีเขาและเดินจากไปทันที อวิ๋นซีเฉินเองก็ไม่ยอมลดละ เขายังคงตามนางจนเข้าสู่แคว้นม่อเป่ย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มองดูแคว้นม่อเป่ยอย่างชัดเจน ที่นี่มีทั้งอากาศที่บริสุทธิ์ และอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติที่จรรโลงใจ เดินตามนางมาได้ครู่หนึ่ง ก่อนจะพบกับบ้
อวิ๋นซีเฉินส่งคนออกไปตามหาสวีเหลียนฮวาอย่างไม่ยอมลดละ แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของนาง เขานึกโกรธเกลียดตนเองในใจเป็นอย่างยิ่ง ที่คืนนั้นเขาคลาดสายตาจากนางและยังพูดจากระทบกระเทือนจิตใจของนางอีก ยามนี้เขาเข้าใจแล้ว ว่าหากไม่มีนางคอยอยู่ข้างกาย เขาเองก็ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป เรื่องของหัวใจก็ช่างหนักหนาสาหัส เรื่องของฉินอ๋องก็ประเดประดังเข้ามาอย่างรวดเร็ว อวิ๋นเสวี่ยเฟยส่งคนมาสอดแนมที่ต้าเทียน และให้ลอบสังหารเสิ่นเหยาเสีย เสิ่นเหยาคือผู้ที่จะปล่อยเอาไว้ไม่ได้ เนื่องจากมันล่วงรู้ความเป็นไปของแคว้นฉินเป็นอย่างดี อวิ๋นเสวี่ยเฟยรู้ว่าสวีเหลียนฮวาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขายกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก เช่นนี้ก็ดีแล้ว เขาจะได้สังหารอวิ๋นซีเฉินให้ตกตายไปเสีย และตามล่าหาตัวนางมาเป็นนางบำเรอของเขา เขาชื่นชอบนางเป็นอย่างมาก นางทั้งงดงามและเก่งกาจกว่าสตรีใดในใต้หล้า หากเขาได้นางมาครอบครอง ย่อมต้องเป็นเรื่องดีแต่ทว่าหน่วยสอดแนมของอวิ๋นเสวี่ยเฟยก็ถูกอวิ๋นซีเฉินจับได้ในเวลาต่อมา และถูกเขาสังหารทิ้งทันที พร้อมกับส่งหัวของหน่วยสอดแนมผู้นั้นกลับไปให้อวิ๋นเสวี่ยเฟยที่แคว้นฉิน อวิ๋นเสวี่ยเฟยโกรธแค้นเป็นอย
ด้านเสิ่นเหยานั้น เขาต่อสู้กับฉินอ๋องอย่างเอาเป็นเอาตาย ด้วยเพราะเขาเก่งทั้งด้านบุ๋นและด้านบู๊ จึงสามารถรอดตายมาได้อย่างเหลือเชื่อ เขาพาร่างที่โชกเลือดโซซัดโซเซมาถึงต้าเทียนอย่างยากลำบาก เดิมทีเหล่าทหารที่เฝ้าเวรยามหน้าประตูไม่ยอมให้เขาเข้าไปในต้าเทียนได้ แต่ทว่าอวิ๋นซีเฉินและหานเยียนกลับมาถึงต้าเทียนพอดี จึงได้พบกับเสิ่นเหยา ก่อนจะพาเขาเข้ามารักษาตัวในวังหลวง สวีหลานฮวาที่ได้รู้ข่าวว่าเสิ่นเหยายังไม่ตาย นางจึงรีบวิ่งเข้ามาหาเขาที่ตำหนักมังกรสวรรค์ทันที ภาพที่นางเห็นคือเสิ่นเหยาบาดเจ็บสาหัส ร่างกายของเขาโชกไปด้วยเชือด สวีหลานฮวาทนไม่ไหวจนต้องปล่อยโฮออกมา "เสิ่นเหยา ท่านห้ามตายนะ ฮึก อย่าตายนะ""หลานฮวา""ข้าตั้งครรภ์ลูกของท่าน ข้าตั้งครรภ์แล้วเสิ่นเหยา"เสิ่นเหยาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง เขาพยายามเอื้อมมือไปจับใบหน้าของนางด้วยความยากลำบาก "หลาน ฮวา""ฮือออ ท่านต้องอยู่กับข้านะ!!!"อวิ๋นซีเฉินสั่งให้ตามหมอหลวงมารักษาเขาอย่างเร่งด่วน เสิ่นเหยาเจ็บหนักปางตาย แต่ยังดิ้นรนมาถึงต้าเทียนเพื่อพบกับคนรักของเขา อวิ๋นซีเฉินที่ได้เห็นเช่นนั้นก็อดชื่นชมไม่ได้ "เจ้าก็อยู่เฝ้าสามีเจ้