Share

บทที่ 4 ยิ้มได้อีกครา

last update Huling Na-update: 2025-07-21 20:28:56

บทที่ 4 ยิ้มได้อีกครา

ตลาดยามบ่าย แม้หลายร้านเริ่มจะเก็บของแต่ก็มีหลายร้านเริ่มตั้งแผงใหม่ กลิ่นขนม กลิ่นซาลาเปา ฟุ้งไปทั่วทั้งบริเวณ ทำเอาซือเหยารู้สึกอยากจะลองกินแต่นางก็ไม่กล้าเอ่ย

“ข้าจะมาซื้อสมุนไพรสักหน่อย แม้ว่าจะมีพวกนายพรานอาสาไปเก็บสม ุนไพร แต่บางอย่างก็ยังต้องมาซื้อจากร้านนี้” ซือเหยาฟังชายหนุ่มอธิบายแล้วก็เดินตามไป

“เจ้าอยากได้อะไรหรือไม่” หญิงสาวส่ายหน้า ไป๋อวิ๋นที่เริ่มชินกับท่าทางราวกับใช้ชีวิตไปวัน ๆ ของนางแล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก

เขาเดินเข้าไปในร้านสมุนไพรเจ้าประจำ

“อ้าว ท่านหมอเทวดา ไม่ได้เจอกันเป็นเดือน วันนี้ต้องการอะไรดีเล่า เดี๋ยวข้าจะลดราคาให้เป็นพิเศษ แต่เดี๋ยวก่อนนะ วันนี้ท่านหมอพาภรรยามาด้วยหรือ” น้ำเสียงอยากรู้อยากเห็นและสายตาของเถ้าแก่ร้านยาทำให้ซือเหยาที่กำลังยืนดูบรรยากาศในร้านถึงกับสะดุ้ง

นางกำลังจะเอ่ยปฏิเสธ แต่เป็นชายหนุ่มข้างกายที่พูดขึ้นก่อน

“ไม่ใช่หรอกเถ้าแก่ นางเป็น...” ไป๋อวิ๋นหันไปมองที่หญิงสาว และเงียบไปครู่หนึ่ง ราวกับคิดว่าจะบอกว่านางเป็นอะไรดี

ซือเหยาที่เห็นอีกฝ่ายยังไม่พูดอะไรออกมา ก็ตัดสินใจจะช่วยเขาตอบเอง

“ข้าเป็นผู้ช่วยของท่านหมอเจ้าค่ะ” เถ้าแก่ร้านสมุนไพรมองคนทั้งสองสลับกันก่อนจะพยักหน้า

“โอ้ ผู้ช่วยอย่างนั้นหรือ” เขาพูดพลางหัวเราะ “ข้าเกือบจะเข้าใจผิดไปเสียแล้ว เห็นท่านหมอไม่เคยพาใครมา อีกทั้งยังเดินข้างกันราวกับคนรัก ขอโทษด้วยที่คิดไปไกล” พอคำพูดนั้นหลุดออกจากปาก ทั้งสองคนก็รีบขยับออกห่างกัน

ไป๋อวิ๋นชักชวนอีกฝ่ายเข้าไปจัดยาให้เขา ทิ้งเอาไว้เพียงหลินซือเหยายืนอยู่กลางร้าน

หญิงสาวคิดย้อนกลับไปถึงยามที่อยู่กับอดีตสามี หากมีใครถามเขาเกี่ยวกับตัวตนของนาง เขาจะอึกอักจนเป็นนางที่ต้องบอกว่าเป็นญาติบ้าง สาวใช้บ้าง คนรู้จักบ้าง และด้วยเหตุนั้นหลัง ๆ นางจึงถูกห้ามไม่ให้ออกไปที่ไหน อยู่แต่เพียงในจวน มีเพียงเรือนหมากล้อมสถานที่ที่นางได้ไป เพราะเรื่องที่เกิดภายในเรือนแห่งนั้นจะอยู่แค่ภายในนั้น

ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นเรื่องงานที่นางจะต้องช่วยเขาจริง ๆ อีกฝ่ายก็แทบจะไม่พานางไปที่ไหน

“ข้าน่าจะรู้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าถูกหลอกใช้” หลินซือเหยายิ้มเยาะตน แต่รอยยิ้มเยาะก็ถูกเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่สะใจมากขึ้น

เพราะสิ่งของที่นางใช้ความคิดของนางช่วยอีกฝ่ายสร้าง แม้ช่วงแรกจะใช้งานได้ดี แต่สักวันก็ต้องผุพัง และเมื่อถึงวันนั้น ต่อให้มีสามีของนางหรือคนที่มีความรู้ช่วยเขาอีกกี่สิบคนก็คงซ่อมมันไม่ได้

เมื่อถึงยามนั้น คนเลวนั่นจะคิดถึงนางก็คงสายไปแล้ว ดีไม่ดีอาจจะถูกฮ่องเต้ลงโทษ โทษฐานหลอกลวงก็เป็นได้

“เสร็จแล้ว” เสียงของไป๋อวิ๋นทำให้หลินซือเหยาที่กำลังคิดถึงเรื่องในอดีตสะดุ้ง “เป็นอะไรหรือเปล่า” คงเพราะสีหน้าของหญิงสาวที่ไม่ได้เรียบเฉยเหมือนปกติที่เคยเป็น จึงทำให้ชายหนุ่มเอ่ยถาม

“ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ” แม้จะรู้ว่าหญิงสาวโกหก แต่เขาก็ปล่อยไป เมื่อไรที่นางไว้ใจเขามากพอนางก็คงจะเล่าออกมาด้วยตัวเอง

เมื่อออกจากร้านสมุนไพร หญิงสาวเห็นว่าไป๋อวิ๋นพูดเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างอยู่จึงเอ่ยถาม

“ท่านหมอ...มีอะไรหรือเจ้าคะ”

ไป๋อวิ๋นส่ายหน้า “ข้าแค่กำลังคิดว่าที่กระท่อมขาดอะไรหรือเปล่า”

หลินซือเหยาฟังแล้วก็พยายามคิด

ตั้งแต่นางอยู่ในกระท่อมของอีกฝ่ายมาก็ไม่ได้รู้สึกว่าขาดอะไร จึงนึกไม่ออก

“ก็ไม่มีนะเจ้าคะ ทุกอย่างล้วนมีพร้อม”

ไป่อวิ๋นมองคนตรงหน้า “แล้วของส่วนตัวเจ้าเล่า” เขาถามหญิงสาว “เจ้าอยากได้อะไรหรือเปล่า”

“ข้า...” เพราะตั้งแต่หลงยุคมา ไม่ว่าจะที่ยุคก่อนหน้านี้ หรือยุคนี้นางล้วนใช้ของที่มีจึงไม่เคยคิดว่าขาดเหลือ หรือต้องการเรียกร้องอะไร ใครให้ใช้อะไรก็ใช้ตามนั้น

“ข้าไม่ได้ต้องการอะไรเจ้าค่ะ” ซือเหยาตอบออกไป ไม่ได้เป็นคำตอบที่เสแสร้งแต่ตอบตามความจริง

“แต่ข้าว่ามีนะ” ไป๋อวิ๋นมองหญิงสาวตรงหน้า เสื้อผ้าของนางเป็นเสื้อผ้าเก่าของเขาที่นำมาปรับใส่ แม้จะดูสะอาด แต่อย่างไรก็ยังเป็นเสื้อผ้าของบุรุษ

“ข้าว่าเจ้าควรมีเสื้อผ้าของตัวเอง” ซือเหยาก้มลงมองเสื้อผ้าที่นางสวม แล้วก็พยักหน้ายอมรับคำของอีกฝ่าย

“แต่ว่าข้าไม่มีเงิน”

“เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องกังวลหรอก นี่เป็นค่าแรงที่เจ้าช่วยงานข้า” แม้อยากจะจ่ายเงินซื้อชุดให้หญิงสาว แต่เขารู้ดี ดูจากนิสัยของนางที่อยู่ด้วยกันมาสักพัก นางไม่มีทางยอมรับการช่วยเหลือง่าย ๆ แน่

แต่หากอ้างว่าเป็นเรื่องที่นางสมควรได้อยู่แล้วนั่นก็อีกเรื่อง

“ขอบคุณเจ้าค่ะ” ไป๋อวิ๋นพานางเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้า “ข้าอยากได้ชุดให้นางสักชุดสองชุด” เขาบอกกับคนขาย

“เอาแค่ชุดเดียวก็พอ เรียบง่ายทำงานได้” ไป๋อวิ๋นอยากจะค้าน แต่สุดท้ายก็ปล่อยให้นางได้ทำตามใจ

แม้ว่าในร้านจะมีเสื้อผ้าดูดีอยู่หลายชุด แต่สุดท้ายหญิงสาวกลับเลือกชุดผ้าฝ้ายธรรมดา “เจ้าไม่ดูผ้าแพรไหมพวกนั้นไปด้วย”

ซือเหยาส่ายหน้า

“ใส่ไปให้ใครดูเล่าเจ้าคะ ที่กระท่อมต้องทำงาน เอาเสื้อผ้าที่ใส่ได้จริงดีกว่า” แม้หญิงสาวจะพูดอย่างนั้นแต่ไป๋อวิ๋นก็สั่งให้คนขายหยิบชุดที่เขาหมายตาเอาไปด้วย

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ชายาของท่านโหวสิ้นใจแล้ว   บทที่ 4 ยิ้มได้อีกครา

    บทที่ 4 ยิ้มได้อีกคราตลาดยามบ่าย แม้หลายร้านเริ่มจะเก็บของแต่ก็มีหลายร้านเริ่มตั้งแผงใหม่ กลิ่นขนม กลิ่นซาลาเปา ฟุ้งไปทั่วทั้งบริเวณ ทำเอาซือเหยารู้สึกอยากจะลองกินแต่นางก็ไม่กล้าเอ่ย“ข้าจะมาซื้อสมุนไพรสักหน่อย แม้ว่าจะมีพวกนายพรานอาสาไปเก็บสม ุนไพร แต่บางอย่างก็ยังต้องมาซื้อจากร้านนี้” ซือเหยาฟังชายหนุ่มอธิบายแล้วก็เดินตามไป “เจ้าอยากได้อะไรหรือไม่” หญิงสาวส่ายหน้า ไป๋อวิ๋นที่เริ่มชินกับท่าทางราวกับใช้ชีวิตไปวัน ๆ ของนางแล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกเขาเดินเข้าไปในร้านสมุนไพรเจ้าประจำ “อ้าว ท่านหมอเทวดา ไม่ได้เจอกันเป็นเดือน วันนี้ต้องการอะไรดีเล่า เดี๋ยวข้าจะลดราคาให้เป็นพิเศษ แต่เดี๋ยวก่อนนะ วันนี้ท่านหมอพาภรรยามาด้วยหรือ” น้ำเสียงอยากรู้อยากเห็นและสายตาของเถ้าแก่ร้านยาทำให้ซือเหยาที่กำลังยืนดูบรรยากาศในร้านถึงกับสะดุ้งนางกำลังจะเอ่ยปฏิเสธ แต่เป็นชายหนุ่มข้างกายที่พูดขึ้นก่อน “ไม่ใช่หรอกเถ้าแก่ นางเป็น...” ไป๋อวิ๋นหันไปมองที่หญิงสาว และเงียบไปครู่หนึ่ง ราวกับคิดว่าจะบอกว่านางเป็นอะไรดี ซือเหยาที่เห็นอีกฝ่ายยังไม่พูดอะไรออกมา ก็ตัดสินใจจะช่วยเขาตอบเอง “ข้าเป็นผู้ช่วยของท่านหมอเจ้าค

  • ชายาของท่านโหวสิ้นใจแล้ว   บทที่ 3 ก้าวหนี่งก้าว ถอยหลังสองก้าว

    บทที่ 3 ก้าวหนี่งก้าว ถอยหลังสองก้าว“ที่นี่ที่ไหน” ซือเหยาถามออกไป อย่างน้อย ๆ หากนางรู้ว่าตนอยู่ห่างจากจวนของสามีไม่ไกลจะได้แอบเข้าไปกระโดดบ่อน้ำเสียอีกรอบ“แคว้นหยาง เมืองชายแดนตะวันตก ที่นี่เป็นกระท่อมที่ข้าเปิ ดเป็นโรงหมอ” หลินซือเหยาคิด สามีเก่านางอยู่แคว้นฉู่ นี่คงเป็นอีกมิติหนึ่ง สุดท้ายนางก็ยังไม่ได้กลับบ้าน“เจ้าเป็นใครหรือ ชื่ออะไรมาจากที่ใด จะให้ข้าติดต่อคนที่บ้านให้หรือไม่” ชายหนุ่มถามยืดยาวแต่ซือเหยากลับตอบสั้น ๆ “ข้าไม่รู้” เพราะไม่แน่ใจว่าที่นี่คือที่ใด และชายตรงหน้าคือมิตรหรือศัตรู นางจึงแสร้งทำเป็นความจำเสื่อมเอาไว้ก่อน ความกังวลกัดกินหัวใจ หากเขารู้ว่านางมาจากอีกมิติ มีความรู้ความสามารถ บุรุษตรงหน้าอาจคิดหาประโยชน์จากนางอย่างที่หลี่อวิ้นรุ่ยทำกับนางซือเหยาเลือกที่จะไม่เหมือนกับครั้งก่อนที่ทำเป็นรู้ทุกสิ่ง สุดท้ายก็ได้กลายเป็นเพียงแค่คนประหลาด “ข้าจำอะไรไม่ได้เลย” ใบหน้าของไป๋อวิ๋นฉายแววประหลาดใจ บ่อน้ำที่นางตกลงไปมีความพิเศษ อีกทั้งชุดที่นางสวมใส่ตอนที่เขาพาร่างนางขึ้นมาก็แปลกตา และตัวเขาก็ไม่ใช่หมอธรรมดาแต่เป็นหมอเทวดาตามที่ชาวบ้านเรียก ไม่มีทางที่หญิงสาวตรงหน้

  • ชายาของท่านโหวสิ้นใจแล้ว    บทที่ 2 กลับบ้าน

    บทที่ 2 กลับบ้านเมื่อรู้สึกถึงสายลมกรรโชกแรก และเสียงฟ้าร้องคำราม หลินซือเหยาที่ยืนอยู่ในเรือนเพียงลำพังก็ค่อย ๆ ถอดอาภรณ์ที่ชายหนุ่ม ที่ได้ชื่อว่าสามี เคยมอบให้ออกทีละชิ้น ทีละชิ้น หญิงสาวเปลี่ยนกลับไปเป็นชุดเดิมที่นางเคยสวมใส่เมื่อยามมาที่มิติแห่งนี้เป็นวันแรก ชุดธรรมดา ๆ ไม่ได้เลิศหรูอะไร แต่มันเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมต่อตัวนางและมิติในอดีต ในเมื่อที่นี่ไม่มีอะไรหรือใครที่นางรักอีกแล้ว นางก็ไม่คิดจะอยู่อีกต่อไปหัวใจที่โดนเหยียบย่ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรอีกแล้วในยามนี้ หญิงสาวเดินฝ่าลมฝนออกไปยังบ่อน้ำเบื้องหน้า ดวงตาไม่รักดีเผลอเหลือบมองแผ่นหลังที่คุ้นเคยของสามีของนางที่ยามนี้มีคนอื่นเคียงข้างกาย เขายืนประคองสตรีอีกคนแนบแน่นราวกับนางเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดในชีวิต ซือเหยายิ้มจาง ๆ ยามนี้นางไม่ได้ต้องการให้อีกฝ่ายมาห่วงใยหรือใส่ใจอีกต่อไปแล้ว ถึงกระนั้นเมื่อสบตากับสายตาที่เมินเฉยของเขาเพียงชั่วอึดใจ หัวใจที่นางเคยคิดว่ามันไร้ความรู้สึกแล้วก็กลับเจ็บปวดขึ้นมาเล็กน้อย “ยังจะโง่ไม่เลิกอีก” นางบ่นว่าหัวใจของตน ที่มันเจ็บปวดกับท่าทางของสามี แต่ความลังเลก็หายไปเมื่อเสียงฟ้า

  • ชายาของท่านโหวสิ้นใจแล้ว   บทที่ 1 คืนก่อนงานมงคลสมรส

    บทที่ 1 คืนก่อนงานมงคลสมรสเสียงสายลมหวีดหวิวพัดผ่านเรือนพักของหลินซือเหยา หญิงสาวก้าวเดินไปอย่างมั่นคงแม้ในใจจะว่างเปล่า ตั้งแต่วันที่นางตัดสินใจจะจากไป หัวใจของนางก็ไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไปแล้ว ไ ม่มีความเจ็บ ไม่มีความโกรธ และไม่มีแม้กระทั่งน้ำตานางมาหยุดยืนอยู่ริมบ่อน้ำอีกครั้ง คืนนี้ฟ้าปิดสนิท ไม่มีดวงจันทร์ ไม่มีดวงดาว มีเพียงสายลมเย็นที่พัดผ่านเหมือนค่ำคืนที่พานางข้ามมิติมายังโลกนี้หลินซือเหยายืนอยู่ริมบ่อน้ำ หญิงสาวมองเงาสะท้านของตนเองที่สั่นไหวตามระลอกคลื่นของน้ำ กระแสลมเริ่มพัดโหมเหมือนกับมีพายุ แต่นี่คือสิ่งที่หญิงสาวรอคอย“ข้าคิดว่าข้าจะมีความสุขที่นี่…” นางพึมพำกับตัวเองเสียงเบา “แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงแค่ความฝันที่ข้าหลอกตัวเองมาตลอด”ซือเหยาหลับตาลง ความทรงจำไหลย้อนกลับมาครั้งหนึ่งหญิงสาวเคยอยู่ในอีกยุค เพราะขับรถฝ่าพายุจึงทำให้เธอมาโผล่ที่ยุคนี้ วันแรกที่นางมาถึง นางทั้งสับสนและหวาดกลัว นางเป็นเพียงหญิงสาวจากยุคที่ไกลออกไป แต่เพราะความรู้และทักษะจากยุคเดิม นางจึงสามารถช่วยเขาได้ ตอนแรกคิดว่าเป็นโชคชะตา ที่สวรรค์เมตตาพามาพบกับคนที่มีด้ายแดง แต่ไม่นึกเลย ต่อให้นางทำดีแค่ไหน

  • ชายาของท่านโหวสิ้นใจแล้ว   บทนำ

    บทนำเสียงประทัดดังสนั่น ท้องฟ้ายามค่ำคืนถูกแต่งแต้มด้วยแสงโคมและริ้วธงมงคล ผู้คนต่างร่วมแสดงความยินดีกับพิธีสมรสของท่านโหวหนุ่มผู้กุมอำนาจสูงสุดในแคว้น เสียงดนตรีบรรเลงขับขาน เสียงหัวเราะเบิกบานดังไปทั่วทุกแห่งท่า มกลางแสงคบเพลิงที่ลุกโชนอยู่หน้าจวนโหว เสียงฆ้องกังวานแว่วก้องไปทั่วบริเวณ ประกาศให้ผู้คนรับรู้ถึงพิธีสมรสอันยิ่งใหญ่ของท่านโหวหนุ่ม ผู้เพิ่งก้าวขึ้นสู่อำนาจสูงสุดในแคว้น ขบวนเจ้าสาวถูกต้อนรับเข้าสู่จวนอย่างสมเกียรติ สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังนางผู้เป็นสตรีในดวงใจของเขา นางผู้ได้รับชัยชนะในหัวใจของชายที่สูงศักดิ์แต่ท่ามกลางความชื่นมื่นในค่ำคืนนี้ มีเงาร่างหนึ่งยืนอยู่ใต้ร่มเงาของต้นเหมย หญิงสาวในอาภรณ์เรียบง่ายยืนมองภาพเบื้องหน้าด้วยสายตาเลื่อนลอย มือของนางกำชายอาภรณ์แน่นราวกับต้องการยึดเหนี่ยวบางสิ่งเอาไว้ในใจดวงตาของนางจับจ้องไปยังจวนโหว สถานที่ที่เคยเป็นเสมือนบ้านของนาง สถานที่ที่นางเคยฝากหัวใจ ฝากความหวัง และฝากทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับบุรุษเพียงผู้เดียวนางเคยอยู่ข้างเขาในวันที่เขาไร้หนทาง เคยต่อสู้ฝ่าฟันไปด้วยกัน ยอมเอ่ยวาจาอ้อนวอนขุนนางผู้ทรงอำนาจ ยอมยื่นมือเปื้อนเลือดเพ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status