“ ป้ารู้เรื่องของเจ้ากับท่านอ๋องแล้ว เมื่อคืนพวกเจ้าอยู่ในห้องนอนด้วยกันบ่าวไพร่มันนินทากันให้สนุกปาก เสียงดังออกไปนอกเรือน ป้าไปถามท่านอ๋องเมื่อเช้าก่อนที่ท่านจะออกไปราชการที่วังหลวงแล้ว
ท่านอ๋องยอมรับกับป้าว่าเขารับเจ้าเป็นอนุ และได้เสียกับเจ้าก่อนหน้านี้แล้ว จึงยอมให้เจ้าแต่งงานกับผู้ใดไม่ได้อีก เหลียนฮวาเกิดอะไรขึ้นไหนกันแน่ " แม่นมเหลียนที่เพิ่งรู้เรื่องที่ท่านอ๋องมอบเรือนหลังนี้ที่หรูหราเกินฐานะคนอาศัยให้เหลียนฮวาก็เพราะนางเป็นสตรีของท่านอ๋อง
เหลียนฮวาใบหน้าร้อนผ่าว “ หลายวันก่อนข้าทำขนมแล้วนำไปให้ท่านอ๋องชิม แต่ท่านอ๋องเมื่อชิมขนมของข้าแล้ว เขาดูเหมือนมีอาการผิดปกติ เขาเข้าใจว่าข้าวางยาปลุกกำหนัดเขา แต่ข้าไม่ได้ทำนะเจ้าคะ และก็อย่างที่ท่านป้าทราบเจ้าค่ะ ข้าตกเป็นของท่านอ๋องในบ่ายวันนั้นและเมื่อคืนเขาก็…..มาที่เรือนนี้เจ้าค่ะ ”
ป้าของเหลียนฮวาถอนใจ แม้นางจะเป็นแม่นมของท่านอ๋อง แต่นางก็รู้ดีว่าท่านอ๋องผู้นี้ถือตัวนัก การที่จะยอมรับแต่งงานกับเหลียนฮวารับนางเป็นชายานั้นไม่มีทางเป็นไปได้ และแม่นมก็เสียดายความงดงามของเหลียนฮวา อยากให้นางมีโอกาสที่ดีกว่าเป็นอนุในเรือนหลังของผู้ใดทั้งนั้น
แต่ก็นั่นแหละนะ น้ำตาลใกล้มด มดตัวนั้นก็คงจะอดกินน้ำตาลไม่ได้ นางผิดเองที่ให้หลานสาวเข้ามาอยู่ในจวนท่านอ๋อง ยิ่งพระสนมแม้จะเอ็นดูเหลียนฮวาหลานสาวนางปานใด แต่ก็คงไม่คิดจะให้แต่งเป็นชายาของบุตรชายของตน
“ แต่ข้ายอมรับเจ้าค่ะ ว่าข้าผิดเองที่หลงรักท่านอ๋อง จนพยายามใกล้ชิดกับเขาจนเกินไป ข้าทำขนมหวานไปให้ก็เพื่อเอาใจเขา แต่ก็ไม่คิดว่าเรื่องราวจะเลยเถิดไปเช่นนี้ ฮวาเอ๋อเจียมตัวเสมอ ไม่คิดว่าจะได้ครองคู่กับท่านอ๋องหรอกเจ้าค่ะ แต่ว่าตอนนี้ก็คงจะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว…” ฮวาเอ๋อนิ่งเงียบไป
“ เอาละเรื่องราวมันก็กลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว ป้ารู้ดีว่าท่านอ๋องคงจะไม่รับผิดชอบโดยการแต่งงานกับเจ้าหรอก คงจะรับเจ้าเป็นเพียงอนุของเขา แต่เรื่องการเลี้ยงดูป้าว่าเขาก็คงจะเลี้ยงดูเจ้าดีอยู่หรอก เจ้าเป็นเมียของเขาไปเสียแล้ว ย่อมจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
เพียงแต่คงไม่อาจจะได้แต่งเป็นชายาของเขาได้ ป้ารู้ดี เอาละ ระหว่างนี้ เจ้าควรจะเตรียมตัวไว้เสมอ เขาให้เงินทองของมีค่าก็ควรเก็บออมเอาไว้ หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แล้วเจ้าอยู่ที่นี่ไม่ได้ เจ้าจะได้ไม่ลำบากภายหน้า เพราะป้าคิดว่าอีกไม่นานพระสนมคงจะต้องเร่งรัดให้บุตรชายแต่งงานกับคุณหนูจวนใดจวนหนึ่งอย่างแน่นอน เจ้าก็เตรียมใจเอาไว้ รักชายที่สูงศักดิ์สุดท้ายแล้วมันจะต้องเป็นเช่นนี้แหละฮวาเอ๋อ ”
แล้วแม่นมก็ลุกขึ้นแล้วก็เดินออกไปจากเรือนหลังน้อยของฮวาเอ๋อทิ้งให้นางนั่งนิ่งขึงอยู่กับที่กับความจริงที่เพิ่งได้รับรู้ว่าอีกไม่นานเขาก็คงจะแต่งสตรีอื่นเข้าจวนมาแล้ว
หลังจากวันนั้น เหลียนฮวาก็กลายเป็นสตรีในเรือนหลังเพียงคนเดียวของท่านอ๋องหรู่หยาง เขามานอนกับนางแทบจะทุกค่ำคืน ยกเว้นติดราชกิจที่ต้องเดินทางไปต่างเมืองเพียงเท่านั้น ชีวิตของเหลียนฮวาพลิกผันอย่างไม่น่าเชื่อ นางไม่ได้ไปทำงานที่ร้านเสริมความงามของคุณชายเสิ่นอีกแล้ว เพราะท่านอ๋องไม่ยินยอม
นางใช้ชีวิตสุขสบายมีเงินทองใช้จ่ายไม่ขาดมือ มีสาวใช้คอยดูแลรับใช้ ไม่ได้ทำงานใดๆทั้งสิ้น ข้าวของเครื่องประดับล้ำค่า ท่านอ๋องก็ประทานให้อยู่บ่อยครั้ง อาภรณ์ของนางถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ยิ่งทำให้รูปโฉมของเหลียนฮวาโดดเด่นขึ้นอย่างมากมาย นางดูเหมือนสตรีชั้นสูงในห้องหอคนหนึ่งเลยทีเดียว
วันหนึ่งท่านอ๋องหรู่หยางเกิดอารมณ์ดีอยากจะพาเหลียนฮวาไปงานเลี้ยงชมดอกไม้ที่จวนของท่านหญิงเฟยซิน ทั้งสองนั่งรถม้าไปด้วยกันและเดินเข้าไปในงานเลี้ยงเคียงข้างกัน เหลียนฮวานั้นเพิ่งเป็นครั้งแรกที่นางได้มางานเลี้ยงที่ผู้คนที่มาร่วมงานล้วนแต่เป็นคนชนชั้นสูง
ตั้งแต่เหล่าราชวงศ์หลายพระองค์ ขุนนางและคหบดีที่ร่ำรวยในเมืองหลวงนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นสกุลใหญ่ที่นับหน้าถือตากัน รู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี
เมื่อเข้าไปในงานเลี้ยงแล้ว ท่านอ๋องก็พาเหลียนฮวาเดินตามไปคารวะท่านเจ้าของงานและมอบของขวัญที่นำมาด้วยให้กับท่านหญิงเฟยซินเจ้าของงาน “ อ๋องหรู่หยาง สตรีงดงามผู้นี้เป็นใครกัน ป้าไม่เคยเห็นนางมาก่อนเลย ” ท่านเจ้าของงานเอ่ยถามอย่างสงสัย
ท่านอ๋องหนุ่มอึ้งงันไป แล้วก็ตอบว่า “ น้องสาวบุญธรรมพะยะค่ะ ” เหลียนฮวาอึ้งไปนิดเมื่ออ๋องหนุ่มแนะนำนางเช่นนั้น ก็แน่ล่ะ เขาไม่ได้คิดจะยกย่องนางเป็นภรรยาออกหน้าออกตา ก็คงไม่อยากจะแนะนำนางกับผู้อื่น
หลังจากนั้นก็มีสหายของท่านอ๋องเข้ามาทักทายและต่างก็ถามกันเซ็งแซ่ว่าเหลียนฮวาคือใครกัน และเมื่อรับรู้ว่านางคือน้องสาวบุญธรรมต่างก็พากันเกี้ยวพานางอย่างออกนอกหน้า และแน่นอนว่าท่านอ๋องก็ไม่พอใจนัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ก็จำต้องพาเหลียนฮวาปลีกตัวออกมาจากเหล่าสหาย
“ ฮวาเอ๋อ เจ้าคือสตรีของเปิ่นหวาง แม้จะบอกกับผู้ใดไม่ได้ แต่อย่าคิดทอดสะพานให้ชายอื่นอย่างเด็ดขาด ” เขารีบพูดกับนางเบาๆทันทีเมื่อเดินหนีออกมาพ้นจากเหล่าสหายที่คิดจะเกี้ยวเมียของตนเองแล้ว
ขณะที่เหลียนฮวายังไม่ทันได้ตอบอันใดกับเขา นางก็พลันเห็นสวามีชะงักนิ่งค้างอยู่ เขาจ้องมองไปทางสตรีงดงามผู้หนึ่งอย่างไม่คลาดสายตา ทำให้เหลียนฮวาจำต้องมองตามสายตาของเขาไป แล้วก็พบกับสตรีที่งดงามผู้หนึ่ง นางรูปร่างอ้อนแอ้นอรชรนและการแต่งกายก็งดงามหรูหรา แสดงว่านางก็คงจะเป็นคุณหนูในห้องหอสักนางหนึ่งที่มาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้
ท่านหมอมาตรวจอาการสตรีทั้งสองนางแล้วก็จัดยาเอาไว้ให้แล้วก็ขอตัวกลับไป โดยมีพ่อบ้านซื่อให้คนตามไปส่งเขาถึงที่จวน เมื่อท่านอ๋องยืนดูสาวใช้ของเมิ่งลี่หลินได้ให้ยานางดื่มเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ตัดสินจะพานางกลับไปที่จวนพร้อมกับยาที่ท่านหมอจัดเอาไว้ นางกับเขายังไม่ได้เป็นอะไรกัน นางไม่ควรจะนอนค้างคืนในตำหนักของเขา แม้นางจะป่วย แต่ก็พอจะเดินทางกลับจวนของพี่ชายของนางได้อยู่อ๋องหนุ่มจึงได้ตัดสินใจอุ้มเมิ่งลี่หลินที่ตอนแรกนางเหมือนไม่ยินยอมกลับไป อ้างว่านางรู้สึกปวดศีรษะแต่เมื่อท่านหมอยืนยันว่านางกับเหลียนฮวามิได้เป็นอะไรมาก แค่เพียงเหลียนฮวามีแผลฟกช้ำที่ขาของนางฟาดกับสะพานในขณะที่นางกำลังร่วงหล่นลงมาเพียงเท่านั้น ส่วนเมิ่งลี่หลินมิได้มีบาดแผลใด แค่เพียงอาการสำลักน้ำ“ เปิ่นหวางคิดว่าเจ้าควรกลับไปนอนพักผ่อนที่จวนของเจ้าจะดีกว่า กินยาที่ท่านหมอจัดให้แล้วก็นอนพักยาวๆ ให้หายดีแล้ว แล้วเปิ่นหวางจะไปเยี่ยมเจ้าที่จวนของพี่ชายเจ้าจะเหมาะสมกว่า ”แล้วเขาก็ช้อนอุ้มตัวของเมิ่งลี่หลินอย่่างไม่ได้สนใจความไม่พอใจของนาง แล้วก็อุ้มพางนางไปขึ้นรถม้าของเขาแล้วก็พานางกลับไปยังจวน โดยให้สาวใช้ของนางเข้า
ท่านอ๋องหรู่หยางเมื่อเห็นเมิ่งลี่หลินและเหลียนฮวาต่างก็พยายามตะเกียกตะกายอยู่กลางลำธารกันทั้งคู่ เขาก็โดดพุ่งลงไปในน้ำทันทีแล้วรีบว่ายตรงไปที่สตรีทั้งสอง แต่เขาไปถึงตัวของเมิ่งลี่หลินก่อน ส่วนนางเมื่อเห็นเขาก็รีบร้องเรียกและสำลักน้ำไปทันที อ๋องหนุ่มจึงได้รีบว่ายเข้าไปหานางแล้วรีบพาตัวนางขึ้นจากน้ำไปก่อน ส่วนเหลียนฮวาเขาคิดว่าองครักษ์ของเขาที่โดดน้ำตามหลังมาก็คงจะเข้าไปช่วยนางได้ทันและก็เป็นเช่นนั้น องครักษ์หลีกังที่เขาเองแอบมีใจให้กับเหลียนฮวาตั้งแต่ที่ได้พบหน้านางเมื่อเข้ามาอยู่ในจวนนี้ใหม่แล้วและพยายามหักห้ามใจไม่ให้คิดเกินเลยกับนาง ยิ่งนางกลับกลายมาเป็นสตรีของท่านอ๋องเขาจึงยิ่งพยายามหักใจไม่ให้คิดกับนางมากไปกว่านายหญิงคนหนึ่ง และยิ่งสงสารและเห็นใจที่ท่านอ๋องมีสตรีอื่นอีกนาง และก็กลับกลายเป็นความรักที่มิอาจจะเปิดเผยได้ เขาร้อนอกร้อนใจมาก ที่เห็นนางตะเกียกตะกายอยู่กลางลำธาร เขารีบว่ายน้ำตรงไปหาเหลียนฮวาอย่างรวดเร็ว แล้วรีบคว้าตัวของนางเอาไว้ แล้วก็ลากเข้าฝั่งอีกด้านหนึ่งไปทันทีเมื่อเหลียนฮวาถูกองครักษ์หลีกังพาตัวขึ้นริมฝั่งน้ำไปอย่างทุลักทุเลแล้ว นางนั่งลงที่ริมฝั
สามวันต่อมา คุณหนูเมิ่งมาเยี่ยมเยียนท่านอ๋องหรู่หยางที่จวนของเขา แต่พ่อบ้านซื่อที่ออกมาต้อนรับกล่าวว่า“ ท่านคงจะเป็นคุณหนูเมิ่งใช่หรือไม่ ตอนนี้ท่านอ๋องไม่อยู่ขอรับ แต่ท่านอ๋องสั่งเอาไว้แล้ว หากคุณหนูเมิ่งมาพบให้เชิญไปรอในเรือนหลักก่อน ท่านอ๋องเข้าวังหลวงคงจะกลับมาในอีกไม่นานนี้แล้ว หรือไม่คุณหนูจะไปนั่งเล่นที่ศาลากลางบึงบัวก็ได้ขอรับ ข้าจะให้สาวใช้นำน้ำชากับขนมไปรับรอง ” พ่อบ้านซื่อแนะนำ ส่วนเมิ่งลี่หลินรับคำพร้อมกับยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน “ ข้าจะไปนั่งเล่นที่ศาลาดีกว่า ลมคงจะเย็นสบายดีกว่าในเรือน ” แล้วนางกับสาวใช้ก็เดินกันไปตามเส้นทางที่พ่อบ้านชี้มือบอก ส่วนพ่อบ้านซื่อก็แยกไปสั่งการให้สาวใช้นำน้ำชาและขนมหวานไปรับรองว่าที่พระชายาที่อีกไม่นานก็คงจะแต่งงานกับท่านอ๋องแล้ว ส่วนเมิ่งลี่หลินเมื่อนั่งเล่นอยู่ในศาลาไดัครู่หนึ่ง นางก็เห็นสตรีนางหนึ่งที่แต่งกายหรูหราด้วยอาภรณ์ราคาแพงกำลังเดินเล่นอยู่ที่ในสวนท่ามกลางดอกไม้หลากสีสันที่ขึ้นไปพุ่มเบ่งบานอยู่เต็มไปหมด สตรีนางนั้นมองไปแล้วแม้แต่สตรีด้วยกันเองยังรู้สึกว่านางงดงามบาดตายิ่งนัก ความระแวงพลันเกิดขึ้นในใจของเมิ่งลี่หลินทันท
ท่านอ๋องหนุ่มไม่ได้สนใจในตัวเหลียนฮวาอีกแล้ว เขาเอาแต่จับจ้องสตรีที่เขาพบนางเข้าโดยไม่คาดคิด นางคือคุณหนูเมิ่งลี่ลหลิน คนรักเก่าของท่านอ๋องเมื่อครั้งเขายังรุ่นหนุ่ม นางกับเขาห่างเหินกันไปโดยที่ไม่ได้เลิกรากัน เพียงแต่ในตอนนั้นต่่างก็ยังอายุน้อยท่านอ๋องกับนางเคยรักกันมาก แต่นางจำต้องย้ายตามพี่ชายของนางไปที่เมืองฉางโจว เพราะพี่ชายของนางไปรับตำแหน่งเจ้าเมืองของที่นั่น แต่บัดนี้เขาย้ายกลับมารับตำแหน่งเจ้ากรมยุติธรรมแล้ว จึงย้ายครอบครัวกลับมาพำนักยังจวนของเขาที่ในเมืองหลวงตามเดิมท่านอ๋องหรู่หยางและสตรีนางนั้นต่่างจับจ้องมองกันเหมือนกับโลกนี้มีเพียงพวกเขาสองคนเพียงเท่านั้น และแล้วท่านอ๋องก็ออกเดินตรงไปหาสตรีนางนั้นที่เขาและนางต่างกำลังจับจ้องกันอย่างไม่คลาดสายตา เขาไม่ได้บอกอะไรกับเหลียนฮวาสักคำ เขาเดินไปสนทนากับสตรีนางนั้นแล้วก็พากันเดินเข้าไปในสวนดอกไม้แล้วก็หายไปเลย ส่วนเหลียนฮวาได้แต่จ้องมองทั้งสองที่พากันเดินลับหายไปจนลับตาโดยที่ตนเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรได้ ในอกของนางปวดแปลบยิ่งนัก ที่เห็นสามีในความลับเดินไปสนทนากับสตรีอื่นแล้วพากันเดินหายไป แถมเมื่อเขาได้พบสตรีนางนั้
“ ป้ารู้เรื่องของเจ้ากับท่านอ๋องแล้ว เมื่อคืนพวกเจ้าอยู่ในห้องนอนด้วยกันบ่าวไพร่มันนินทากันให้สนุกปาก เสียงดังออกไปนอกเรือน ป้าไปถามท่านอ๋องเมื่อเช้าก่อนที่ท่านจะออกไปราชการที่วังหลวงแล้วท่านอ๋องยอมรับกับป้าว่าเขารับเจ้าเป็นอนุ และได้เสียกับเจ้าก่อนหน้านี้แล้ว จึงยอมให้เจ้าแต่งงานกับผู้ใดไม่ได้อีก เหลียนฮวาเกิดอะไรขึ้นไหนกันแน่ " แม่นมเหลียนที่เพิ่งรู้เรื่องที่ท่านอ๋องมอบเรือนหลังนี้ที่หรูหราเกินฐานะคนอาศัยให้เหลียนฮวาก็เพราะนางเป็นสตรีของท่านอ๋อง เหลียนฮวาใบหน้าร้อนผ่าว “ หลายวันก่อนข้าทำขนมแล้วนำไปให้ท่านอ๋องชิม แต่ท่านอ๋องเมื่อชิมขนมของข้าแล้ว เขาดูเหมือนมีอาการผิดปกติ เขาเข้าใจว่าข้าวางยาปลุกกำหนัดเขา แต่ข้าไม่ได้ทำนะเจ้าคะ และก็อย่างที่ท่านป้าทราบเจ้าค่ะ ข้าตกเป็นของท่านอ๋องในบ่ายวันนั้นและเมื่อคืนเขาก็…..มาที่เรือนนี้เจ้าค่ะ ”ป้าของเหลียนฮวาถอนใจ แม้นางจะเป็นแม่นมของท่านอ๋อง แต่นางก็รู้ดีว่าท่านอ๋องผู้นี้ถือตัวนัก การที่จะยอมรับแต่งงานกับเหลียนฮวารับนางเป็นชายานั้นไม่มีทางเป็นไปได้ และแม่นมก็เสียดายความงดงามของเหลียนฮวา อยากให้นางมีโอกาสที่ดีกว่าเป็นอนุในเรือนหลังของ
เมื่อกระแทกนางจนกระทั่งเสร็จสมไปอีกครั้งพร้อมๆกันแล้ว มือหนากดสะโพกอวบของนางลงแนบกับฟูกหนานั้น แล้วยกก้นงอนงามของนางขึ้นเล็กน้อย แล้วสอดลำกายใหญ่ของเขาเข้าไปอีกครั้งจนมิดลำกายนั้น แล้วขย่มนางอย่างรุนแรงอีกครั้ง เขานอนคร่อมร่างล่ำสันบนร่างอวบอัดของนางจากทางด้านหลัง แขนแกร่งทั้งสองข้างก็ยันฟูกนอนเอาไว้เพื่อรับน้ำหนักของตนเองไม่ให้กดลงไปที่คนด้านล่างมากนัก แล้วโยกบั้นเอวขย่มร่างอวบของนางจากทางด้านหลังอย่างเร่าร้อน ทั้งสองต่างโยกขยับเข้าหากันอย่างรุนแรง ด้วยจังหวะรักเดียวกับ ส่วนปากก็ร้องครวญครางอย่างสุขสม เจ้าของจวนควงบั้นเอวกระแทกนางอย่างรุนแรง แล้วก็เหมือนสะโพกหนาของเขามีชีวิตของตัวมันเอง มันขย่มนางอย่างเร่าร้อน เขาสุขสมอย่างที่ไม่เคยมาก่อน เจ้าของจวนหนุ่มร้องครวญครางในลำคอหนาจนแสบไปหมด เมื่อต่างโยกเข้าหากันด้วยจังหวะที่ดุเดือดและเร่าร้อนจนเสร็จสมไปอีกครั้งแล้ว ร่างล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามก็จับสตรีใต้ร่างพลิกไปมาหลายท่วงท่าตามแต่ใจของตนเอง จนกระทั่งลงมานอนกระแทกร่างอวบของนางบนพื้นด้านล่างอย่างอย่างเมามัน เมื่อเสร็จสมเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ได้ จนรอบกายของทั้ง