Share

5

last update Last Updated: 2024-11-10 09:54:04

“รู้เพคะ”

“แล้วใยเวลาพูดถึงไม่ยอมเงยหน้าสบตาข้า”

น้ำเสียงแม้ทรงอำนาจหากก็เยียบเย็นบาดจิต จางลี่จึงต้องเงยหน้าขึ้น มือของนางยิ่งเย็นมากกว่าเก่า องค์ชายหลี่เจี๋ยผู้มีพระชนมายุมากกว่านางถึงหนึ่งรอบจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า ชั่วแว่บหลี่เจี๋ยกลับรู้สึกว่าพระธิดาของฉีหวนกงซึ่งเป็นพระปิตุลานั้นมิได้เป็นอย่างที่เขาคาดคิดไว้แม้แต่น้อย นางยังเยาว์ ใบหน้างดงามสวยซึ้งนั้นเปล่งปลั่งจับตา รูปร่างของนางบอบบางภายใต้ชุดผ้าไหมปักลวดลายวิจิตร แววตาของนางบอกความประหม่า หลี่เจี๋ยก้าวผ่านนางไปและทรุดกายลงนั่งบนตั่งไม้ จางลี่จึงค่อย ๆ ย่อตัวลงและขยับเข้าไปนั่งบนพื้นเบื้องล่างห่างจากองค์ชายไม่ถึงวา นางไม่ได้ก้มหน้าดังเก่าแต่ก็ไม่กล้าแม้แต่จะสบนัยน์ตาคมปลาบราวมีดเหล็กกล้า

“เจ้าชื่ออะไรนะ?”

“จางลี่เพคะ”

“เจ้าเป็นธิดาของฉีหวนกง พระปิตุลาของข้า จะว่าไปเราสองคนก็มีสายเลือดเดียวกัน แต่...เจ้าเป็นธิดาของสนมองค์ใดกัน”

“หม่อมฉันเป็นธิดาของพระสนมซิ่วอิงเพคะ”

“ขยับเข้ามาใกล้ข้าซิ”

“เพคะ”

จางลี่ค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้ นางเข้าไปนั่งแทบเท้าองค์ชายหลี่เจี๋ย แต่แล้วก็ต้องตระหนกเมื่อแขนของนางถูกกระชากอย่างแรง 

“ฟังข้าไว้จางลี่...ข้ามิปรารถนาในตัวเจ้า...แม้เพียงสักนิด!”

“องค์ชาย...ทะ...ท่าน..”

จางลี่สะอึกเพราะไม่นึกว่าอ๋องแคว้นหลู่จะสำแดงความกักขฬะในคราแรกที่ได้พบ นางเริ่มสั่นแต่รวบรวมกำลังใจแม้หวั่นกลัว หลี่เจี๋ยเหยียดยิ้มอำมหิต แววตานั้นแปรเปลี่ยนจากมิตรเป็นดิบดันกร้าวกล้า

“คิดหรือว่าที่ข้ายอมรับธิดาของฉีหวนกงมาเป็นชายาเป็นเพราะข้าเต็มใจ...เปล่าเลย ฟังข้าให้ชัด ๆ เถิดธิดาแคว้นฉี แม้เรามีสายเลือดเดียวกันหากเลือดของข้านั้นเข้มข้นยิ่งกว่าเจ้าหลายเท่านัก!”

“องค์ชาย...ได้โปรดเถิดเพคะ หม่อมฉันมิได้ตั้งใจทำให้องค์ชายเคืองพระทัยเลยแม้แต่น้อย ที่หม่อมฉันตอบรับการเป็นชายาของพระองค์ก็เพราะว่า...”

“ข้าไม่ต้องการเหตุผล!”

เสียงคำรามลั่นของหลี่เจี๋ยทำให้จางลี่ผงะ ใบหน้าเคียดขึ้งของเขายิ่งทำให้นางหวาดหวั่น ไม่รู้ว่าการตอบรับบัญชาของพระบิดาผิดหรือถูก นางอยากออกจากแคว้นฉีเพื่อมิให้พระเชษฐาต่างมารดารังแกเพื่อพบว่าการมาเป็นองค์ชายาแคว้นหลู่สร้างความยุ่งยากมากกว่านั้น นี่นางหนีเสือมาปะจระเข้จริง ๆ หรือนี่

“องค์ชาย...”

“เจ้าก็เคยรู้มามิใช่หรือว่าครั้งหนึ่งฉีหวนกงเคยทำสิ่งใดไว้กับพระบิดาของข้าหากเจ้าจะเคยได้ยินมาบ้าง”

“หม่อมฉันมิอาจเข้าใจความบาดหมางในอดีต หากบัดนี้รู้แล้วว่าที่ท่านตอบรับข้าเป็นชายาก็ด้วยเหตุผลนี้ใช่หรือไม่เพคะ”

คำตอบของจางลี่จุดรอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่เจี๋ยก่อนเขาจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“ฮ่าๆๆๆ...เจ้าเองก็ฉลาดไม่เบา ถึงเป็นแค่ธิดาของพระสนมหากก็มีไหวพริบเข้าใจอะไรได้ง่ายๆ”

“หม่อมฉันมิได้นึกเสียใจที่เมื่อเดินทางมาถึงพระองค์มิได้ออกไปต้อนรับหม่อม และมิได้นึกเสียใจที่เมื่อมาถึงแคว้นหลู่ก็หาได้มีพิธีการต้อนรับอย่างที่เคยคิดเอาไว้ หากมิเข้าใจว่าเหตุใดพระองค์จึงปล่อยให้พวกหม่อมฉันเดินทางข้ามแคว้นเข้ามายังแผ่นดินหลู่ได้ พระองค์มิพักต้องลำบากให้คนของพระองค์ไปคอยต้อนรับหม่อมฉัน หากเป็นดังที่พระองค์ทรงหวังก็ควรฆ่าหม่อมฉันเสียตั้งแต่ตอนเดินทางมายังแคว้นหลู่”

นางตอบปากกสั่นระริกหากก็กล้าเชิดปลายคางมนขึ้นราวกับจะท้าทาย ท่าทีของพระธิดาแม้วัยเยาว์กว่าแต่ช่างอวดดียิ่งจุดความคั่งแค้นในหัวอกของหลู่อ๋อง แม้นางอวดกล้าถึงเพียงนี้หากหลี่เจี๋ยก็มีวิธีกำราบด้วยการจับไหล่บางทั้งสองดึงร่างนั้นเข้ามาใกล้และโน้มใบหน้าคมคายลงไปหา เห็นได้ชัดว่ากายนางสั่น ใบหน้าสวยซึ้งของนางอยู่ห่างจากเขาเพียงไม่ถึงคืบ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยอยู่ใกล้ชายใดมากขนาดนี้ จางลี่อยากขัดขืนแต่มือหนาใหญ่ของอ๋องแคว้นหลู่กระชับบ่าเล็กของนางมั่น หลี่เจี๋ยเหยียดยิ้มร้ายกาจ

“ข้าเพียงรอให้เจ้ามาถึงแคว้นหลู่เพื่อจะทำอะไรสนุก ๆ”

นางเลิกคิ้วขึ้น “สนุก ๆ หรือเพคะ?”

“เมื่อใดที่เจ้าย่างเท้าลงบนแผ่นดินหลู่ เจ้าก็มีค่าแค่สัตว์เลี้ยงของข้าเท่านั้น!”

โดยมิทันคาดคิด องค์ชายหนุ่มก้มหน้าลงไปหาองค์ชายาอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากได้รูปฉกวูบลงบนกลีบปากของจางลี่ที่ค้างอ้าด้วยไม่นึกว่าหลี่เจี๋ยจะล่วงล้ำนางตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ ร่างน้อยนิ่งงันและสั่นระริก หัวใจของนางเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อจุมพิตแรกจาบจ้วงเข้าไปในอุ้งปาก หลี่เจี๋ยไม่เปิดโอกาสให้นางตั้งตัว จุ่มจ้วงปลายลิ้นหยาบหนาเข้าไปในเรียวปากเล็ก จางลี่หลับตาและกดเกร็ง ความหวาดหวั่นกลายกลับเป็นความร้อนรุ่ม

นางเคว้งคว้างหลงในภวังค์ราวใบไม้ร่วงหล่นหากก็คืนสติกลับมาอีกครั้งเมื่อหลี่เจี๋ยถอนริมฝีปาก หากลมหายใจหอบหนักของเขายังราดรดบนปลายจมูกเล็ก นางลืมตาขึ้นและต้องเผชิญกับนัยน์ตากล้าแข็ง องค์ชายหนุ่มยังกระชับไหล่บางไว้แน่นหนักหากในหัวอกของหลี่เจี๋ยกลับอื้ออึงด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเช่นกัน  เขาตกใจเล็กน้อยที่เห็นรอยน้ำรื้นบนดวงตาของจางลี่...นางร้องไห้ หากเขากลับทำราวกับไม่ใส่ใจและยังสำแดงความคียดขึ้งออกมา

“น้องสาวของข้า...เจ้าคือองค์ชายาแห่งแคว้นหลู่และตำหนักร้อยไหมแห่งนี้คือที่พำนักของเจ้า หากมิได้รับการอนุญาตจากข้าเจ้าก็มิอาจออกไปไหนได้ทั้งนั้น”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชายายอดเสน่หา   54

    จางลี่ครางหวิวหวาด หัวใจแทบขาดด้วยความกระสันเสียว นางก็คิดถึงเขาไม่ต่างกัน ระหว่างเขาและนางความอ่อนหวานราวกำซาบเข้าสู่หัวใจทั้งสองดวง เมื่อเขาดูดกลืนความหวานจากยอดบัวจนพอใจร่างอรชรจึงขยับหันหลังให้ หลี่เจี๋ยไล้ปลายลิ้นบนขมับลงมาถึงลำคอ แนบอกกว้างกับแผ่นหลังของนางจนสนิททุกสัดส่วน ความเป็นชายของเขาตื่นตัวและรุกเร้าอยู่บื้องหลังบั้นท้ายงอนงาม มือแกร่งสอดมาด้านหน้ากอบกุมปทุมถันทั้งสอง หลี่เจี๋ยเฟ้นฟอนไปตามไหล่กลมกลึงด้วยปากและปลายจมูกโด่ง“จางลี่...อาส์...พี่ต้องการเจ้า”เสียงแผ่วพร่าดังกว่ากระซิบยิ่งทำให้นางหวิววาบซาบซ่านก่อนที่เขาสอดมือข้างหนึ่งลงไปใต้เข่ายกเรียวขาของนางขึ้นและสอดใส่ความแข็งแกร่งเข้าสู่กลีบเนื้องามจากด้านหลัง“ท่านพี่...อะ...อาส์...อาส์...อืม...อาส์”“จางลี่...อาส์...อาส์”กษัตริย์หนุ่มหายใจหอบเมื่อแก่นเนื้ออวบหนาถูกบีบรัดจากกลีบผการุนแรง หลี่เจี๋ยขยับสะโพกแต่ไม่ลืมผ่อนเบาในบางจังหวะ ไม่ลืมว่าลึกเข้าไปคือชีวิตน้อย ๆ ขององค์รัชทายาทที่หลับใหลอยู่ในนั้น แม้ความปรารถนาถาโถมรุนแรงแต่จังหวะขยับโยกนั้นอ่อนหวานจนจางลี่สยิวซ่านไปทั่วเรือนกาย“ท่านพี่...อาส์...อาส์”นางตวัดแขนเร

  • ชายายอดเสน่หา   53

    “ใครหรือเพคะ?”“อำมาตย์ใหญ่อู๋อี้ฝาน และ...พระอาจารย์วั่งซู”จางลี่มีสีหน้าตกใจ นางพยายามลำดับเรื่องราวที่ไม่น่าเชื่อนั้น ดวงตางามเต็มไปด้วยคาวมสับสน“มันจะเป็นไปได้เช่นไร พระอาจารย์วั่งซูคือผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ท่านพี่ และยิ่งกว่านั้นลูกสาวของพระอาจารย์ก็ยังได้รับการแต่งตั้งเป็นหวางเฟยองค์ใหม่อีกด้วย”“นั่นเป็นแผนที่ถูกวางไว้แล้วทั้งหมด เพราะพี่เองที่โง่งม มิเคยคิดระวังคนใกล้ตัว พี่ไว้วางใจพระอาจารย์ของตัวเอง เพราะเห็นวั่งซูมาแต่เล็กและอยู่ใกล้ชิดฮุยอินมาแต่ยังเยาว์ พี่ถือว่าเราคือครอบครัวเดียวกัน แต่คนเหล่านั้นมิเคยคิดแยกแยะ มีแต่ความโลภโมโทสัน สุดท้ายก็ต้องพบจุดจบของตัวเอง”“หม่อมฉันคิดว่าฮุยอินโชคดีแล้วที่ได้รับตำแหน่งหวางเฟยองค์ใหม่ นางคงรอโอกาสนี้มานับแต่ยังเยาว์”“ฮุยอินมิได้รู้เห็นกับการกระทำของพ่อตัวเอง แต่นางยุยงให้พี่เข้าใจผิด ขับเจ้าออกจากวัง และมันก็เข้าแผนของพวกกบฏ”“แล้วพระองค์ทำเช่นไรกับนางหรือเพคะ?”“นางได้รับโทษอย่าสาสมแล้ว ฮุยอินเอาตัวเข้ารับลูกธนูของพวกกบฏแทนพี่ ตอนนี้พระอาจารย์วั่งซูถึงกับสติฟั่นเฟือนที่ต้องสูญเสียลูกสาวคนเดียว”“นางรักท่านพี่ด้วยหัวใจบริสุทธิ

  • ชายายอดเสน่หา   52

    หลี่เจี๋ยเงียบไป เขาได้ยินเสียงสะอื้นไห้และแรงกระตุกของร่างเล็กในอ้อมแขน ความสำนึกผิดแล่นขึ้นมาจับหัวใจ เขากดศีรษะทุยของนางกับไหล่กว้าง มันเป็นช่วงเวลาที่ยากยิ่งสำหรับเขา แม้เป็นกษัตริย์ปกครองคนมากมาย เป็นเจ้าแห่งรัฐที่มิเคยอ่อนข้อให้ผู้ใดแต่วันนี้เขาขอวางเกียรติและความสูงส่งนั้นเพื่อเอาหัวใจรักของบุรุษผู้หนึ่งไว้แทบเท้าสตรียอดดวงใจในบัดนี้ “จางลี่” เสียงนั้นแผ่วลง “พี่รู้ว่าที่ผ่านมาได้ทำอะไรไว้กับเจ้าบ้าง หากเจ้าจะอภัยให้พี่”“อภัยหรือเพคะ?”จางลี่ขยับห่างเล็กน้อยแต่หลี่เจี๋ยไม่ยอมคลายวงแขนที่ยังกอดไว้แน่น นางยิ้มขื่น“พระองค์เป็นถึงหลู่อ๋อง จะให้หม่อมฉันซึ่งเป็นเพียงหญิงต่ำช้าในสายพระเนตรอภัยให้พระองค์เช่นนั้นหรือเพคะ หม่อมฉันมิกล้า แค่นี้ก็เกรงอาญาเหลือเกินแล้ว”“นิสัยช่างประชดประชันของเจ้าทำอย่างไรก็แก้ไม่หายเสียที แต่...สิ่งนี้มิใช่หรือที่ทำให้พี่รักเจ้ามากจนถอนใจไม่ขึ้น”“พระองค์ต้องการสิ่งใด” นางนิ่วหน้าเหมือนเจ็บปวด “วันก่อนหาว่าหม่อมฉันคบชู้ ขับไล่หม่อมฉันออกจากวัง แล้ววันนี้มาตามหาหม่อมฉัน มีประสงค์อันใดกันแน่”“จางลี่...”“หม่อมฉันรู้ตัวดีว่าเป็นแค่ธิดาของพระสน

  • ชายายอดเสน่หา   51

    “อยู่นิ่ง ๆ ...อย่าแม้แต่ขยับตัว”หลี่เจี๋ยสั่งด้วยเสียงทุ้มต่ำขณะร่างบางที่ยืนตรงหน้าสั่นเทา จางลี่ถึงกับน้ำตาไหลเมื่อสุนัขป่าค่อย ๆ ย่างเข้ามา มันกำลังดูเชิงและตั้งท่าหมอบลงเล็กน้อย ดวงตาแดงราวเปลวเพลิงคู่นั้นสะท้อนแสงวับวาว“กรี๊ด!!”จางลี่กรีดร้องสุดเสียงเมื่อมันกระโจนเข้าหาแต่ยังไม่ทันถึงตัวกลับถูกคมธนูปักเข้าที่กลางหน้าผากจนหงายหลังล้มฟุบลงกับพื้นเลือดทะลักออกมาแดงฉาน“จางลี่”หลี่เจี๋ยวิ่งเข้าไปประคองร่างบางที่ทรุดลงหมดสติในอ้อมแขนของเขาทั้งที่มือแกร่งอีกข้างกุมคันธนูไว้มั่น“จางลี่...จางลี่”เขาพยายามเรียกแต่กลับไม่ได้ยินเสียงตอบ จางลี่หมดสติไปแล้วด้วยความตื่นตกใจ เขากอดนางเอาไว้แนบอกและจูบบนหน้าผากมนชื้นเหงื่อขณะกระซิบ“น้องสาวของพี่...พี่มาช่วยเจ้าแล้ว และนับแต่นี้จะมิมีวันทอดทิ้งเจ้าไปไหนอีก”จางลี่รู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งท่ามกลางความมึนงง นางค่อย ๆ ลืมตาตื่นและเห็นแสงสว่างสาดส่องไปทั่ว เมื่อรู้สึกตัวเต็มที่จึงเห็นเพดานคูหาถ้ำและเงาของใครคนหนึ่งวาบไหวไปมาบนนั้น นางค่อย ๆ พลิกตัวและมองเห็นแผ่นหลังกว้างของบุรุษผู้ซึ่งนางคุ้นเคย“องค์ชาย...”เสียงแหบเบาลอดออกมาจากริมฝีปากแห้งผา

  • ชายายอดเสน่หา   50

    จางลี่สะอื้นไห้ คิดถึงชีวิตแสนสุขสบายในวังหลวง นางอยู่แคว้นฉีมีแต่ความรื่นรมย์ มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่ทำให้ต้องตัดสินใจเดินทางมายังเมืองหลู่ หากโอรสของพระชายาเอกมิต้องการได้นางเป็นอนุลับ ๆ นางอาจพบใครสักคนและมีชีวิตครอบครัวอยู่บ้านเกิดเมืองนอน แต่เมื่อคิดไปจางลี่กลับยิ่งรู้สึกเสียใจต่อความร้ายกาจของหลู่อ๋อง ก็ในเมื่อนางรักเขามากถึงเพียงนั้นจางลี่ยอมรับกับตัวเองแล้วว่านางรักองค์ชายหลี่เจี๋ย และยิ่งรู้ว่านางกับเขามิได้มีสายเลือดเดียวกันก็ยิ่งทำให้หลุดพ้นจากความคิดติดพันในเรื่องการเป็นญาติใกล้ชิดกัน นางเป็นอิสระที่จะรักเขา แต่แล้วราวสวรรค์แกล้งเมื่อไร้วาสนาได้ครองคู่เพราะความอิจฉาริษยาและยุแยงกลั่นแกล้งจากคนใกล้ตัวหลู่อ๋องชังนางยิ่งกว่าสิ่งใด ชาตินี้ถึงอย่างไรคงคงไร้วาสนาหนำซ้ำหากมิรีบหนีไปตอนนี้ลูกน้อยในครรภ์ก็อาจไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลกก็เป็นได้ แต่แล้วจางลี่ก็ต้องระงับความคิดของนางเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังเข้ามาใกล้ เป็นเสียงฝีเท้าม้าดังกุบกับ มีคนเข้ามาที่นี่เช่นนั้นหรือ นางค่อย ๆ ขยับตัวและเยี่ยมหน้าออกไปจากด้านหลังโขดหินใหญ่หากต้องตกใจเมื่อเห็นแสงจากคบไฟใกล้เข้ามา“หล

  • ชายายอดเสน่หา   49

    “มิเกี่ยวกับท่านดอก หวังหย่ง...ทำใจให้สบายเถิด ทำตามหน้าที่ของท่านนนั้นถูกต้องที่สุดแล้ว”โม่โฉวกล่าวจบก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นหลู่อ๋องก้าวออกมาจากศาลเจ้าด้วยใบหน้าเคียดขึ้ง ทุกคนต้องรีบคุกเข่าลงอีกครั้ง“หวังหย่ง...ใยข้าจึงมิเห็นผู้ใดอยู่ในศาลเจ้า”“เป็นไปมิได้ดอกพะย่ะค่ะ หวางเฟยเพิ่งเข้าไปในศาลเจ้าก่อนหน้าที่พระองค์เสด็จมาเพียงครู่เดียวเท่านั้น”“ท่านหญิง...ท่านหญิงมิได้อยู่ในศาลเจ้าหรอกหรือเพคะ”หลินเจินหน้าตื่น นางลุกขึ้นและรีบวิ่งเข้าไปในศาลเจ้าก็เห็นแต่แท่นบูชาต่อหน้าเทพเจ้าที่มีเพียงร่องรอยธูปหลายอันปักในแจกันหากแต่เป็นธูปเก่าที่ไหม้จนหมดดอก มิมีอันใหม่ดังที่เข้าใจว่าพระธิดาจางลี่จะเข้ามาบูชาเทพเจ้าดังที่บอกไว้ เมื่อเห็นดังนั้นนางสนมก็ถึงกับหลั่งน้ำตา“พระธิดา...ไม่จริงหรอกนะเจ้าคะ...ท่านคงมิทำเช่นนั้น”“จางลี่อยู่ที่ไหน!”เสียงทรงอำนาจที่ดังขึ้นเบื้องหลังทำให้หลินเจินหันกลับไป นางทรุดลงนั่งและร้องไห้ออกมา“ฝ่าบาท...ฝ่าบาทเพคะ...พระธิดาของหม่อมฉันมิได้อยู่ที่นี่ พระธิดา...อาจจะหนีไปแล้วเพคะ”“ว่าอย่างไรนะ!”18วอนรักนั้นกลับคืนหลี่เจี๋ยชะงักงัน นัยน์ตาดำยาวรีสะท้อนความเจ็บปวด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status