ต้องรู้ก่อนว่านางเอกหยางฉู่รั่วไม่เพียงแต่มีสัมพันธ์กับเซวียนหยวนจิ่นเจ๋อ ยังมีสัมพันธ์กับพระรองเฟิงหลิง ที่สำคัญที่สุดคือ ยังมีสัมพันธ์กับเฟิงหลิงบนเตียงของฉู่หนิงเฉินอีกด้วย เขียนให้ฉู่หนิงเฉินไร้ประโยชน์ขนาดนี้ นายท่านของพวกเขาเป็นถึงผู้ใด ฉู่หนิงเฉินจะเทียบได้อย่างไร เย่จิ่งหานรู้สึกว่าชิงเฟิงพูดถูก แต่ก็เหมือนจะมีบางอย่างไม่ถูกต้อง ระหว่างที่มองตัวหนังสือเหล่านั้น เขาก็พึมพำกับตัวเอง "นางใช้หยางฉู่รั่วเป็นร่างสมมติของตัวเอง จงใจจะให้ข้าอ่านเรื่องนี้ ให้ข้ารู้ว่านางต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ให้ข้าทะนุถนอมนางหน่อยเช่นนั้นหรือ" ชิงเฟิงเจี้ยงเสวี่ยกระตุกมุมปาก หยางฉู่รั่วตัวคนเดียวไร้ที่พึ่ง อ่อนแอบอบบาง พระชายาของพวกเขาใช่ผู้ที่ใจดีอ่อนแอ ปล่อยให้คนรังแกได้เสียเมื่อไหร่ แต่ไหนแต่ไรมาก็มีแต่พระชายารังแกผู้อื่น ยังไม่เคยเห็นผู้ใดจะทำให้พระชายาเสียเปรียบได้ แม้แต่นายท่านของพวกเขาก็ถูกพระชายาควบคุมบงการครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่มีวิธีต่อกรกับนางเลยสักนิด "พวกเจ้าว่า เฟิงหลิงในเรื่องที่พระชายาเขียนคือผู้ใด หัวหน้าเผ่าหมอหรือว่าเซียวอวี่เชียน?" "เรื่องนี้...นายท่าน ไ
หากเป็นเยี่ยงนี้ เช่นนั้นนางขอปฏิเสธที่จะเขียน แล้วคิดหาหนทางอื่นเพื่อให้ได้ปิ่นระย้าหยกขาวมาครองดีกว่า อาจเพราะสายตาของนางดูแน่วแน่เกินไป น้ำเสียงของซ่างกวานฉู่จึงอ่อนลงมาเล็กน้อย "เช่นนั้นก็ทั้งเมืองหลวงแล้วกัน ห้ามต่อรองอีก ไม่เช่นนั้นจะยึดรางวัลคืน" "อีกอย่าง ต้องเขียนเรื่องด้วยความตั้งใจ ห้ามจบแบบขอไปที ไม่เช่นนั้นรางวัลก็จะถูกยกเลิกเช่นกัน" กู้ชูหน่วนได้แต่กัดฟันตอบรับ "ได้" ช่างเถอะ เพื่อปิ่นระย้าหยกขาว นางจะสู้สุดแรง วันนี้ทั้งวัน กู้ชูหน่วนเร่งมือเขียนเรื่องด้วยความรวดเร็วที่สำนักบัณฑิตหลวง เพราะเรื่องที่นางแต่งยอดเยี่ยมยิ่งนัก เหล่าบัณฑิตล้วนแต่ถูกดึงดูดจนติดหนึบ บัณฑิตคนอื่นๆ ต่างก็เขียนต่อไม่ได้แล้ว แม้แต่กู้ชูอวิ๋นเองก็เขียนต่อไม่ได้ ทุกคนล้อมวงดูนางเขียน มีบางคนถึงขนาดที่คัดลอกทุกตัวอักษรที่กู้ชูหน่วนเขียน เพื่อส่งไปให้คนในครอบครัวของตนอ่าน ทุกครั้งที่กู้ชูหน่วนเขียนเสร็จหนึ่งแผ่น จะมีคนเก็บรวบรวมเพื่อนำให้ไปอาจารย์ซ่างกวานอ่านโดยเฉพาะ นานๆ ทีอาจารย์ซ่างกวานจะอยู่โต้รุ่งไม่ยอมกลับ เขานั่งอยู่ในห้องเรียนตลอด เพื่อรอต้นฉบับของกู้ชูหน่วน ก่อนหน้
ทุกคนล้วนแต่รู้สึกดึงดูดจนดึงสติกลับมาไม่ได้ไปชั่วขณะ บ้างก็น้ำตารื้น ปาดน้ำตาไม่หยุด พลางร้องไห้สะอึกสะอื้น "เรื่องที่หานอ๋องเฟยเขียนช่างอนาถยิ่งนัก นางเอกเดิมเป็นที่รักของทุกคน แต่เมื่อผลัดเปลี่ยนรัชกาล ก็ถูกพาตัวเข้าวังไปทรมานตั้งแต่สิบขวบ ทั้งยังต้องคลอดลูกชายของทรราชอย่างเซวียนหยวนจิ่นเจ๋ออีก ตอนที่นางถูกรังแกเพิ่งจะอายุได้สิบขวบ เรื่องโหดร้ายทารุณเช่นนั้น เซวียนหยวนจิ่นเจ๋อทำลงได้อย่างไร" "ข้าคิดว่าพี่ชายทั้งเจ็ดของนางเอกหยางฉู่รั่วช่างน่าเวทนายิ่งนัก ทุกคนล้วนแต่มีความสามารถโดดเด่น เก่งกาจทั้งบู๊และบุ๋น แต่กลับต้องตายอย่างทรมาน อีกทั้งตระกูลหยางทั้งตระกูล เป็นตระกูลที่จงรักภักดีแท้ๆ เซวียนหยวนจิ่นเจ๋อช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก" "ไม่ ที่น่าเวทนาที่สุดคือลูกชายของหยางฉู่รั่ว เดิมทีเขาควรเป็นรัชทายาท แต่เพราะเซวียนหยวนจิ่นเจ๋อไม่ยอมรับเขา ถึงได้มีชีวิตที่เทียบไม่ได้กับกระทั่งข้าทาสในวังหลวง ตั้งแต่เกิดออกมาก็ต้องอยู่อย่างอดๆ อยากๆ ต้องทนหิวและหนาวเหน็บทุกวันคืน แต่เขาก็ไม่เคยตัดพ้อ เก็บของกินไว้ให้หยางฉู่รั่วทุกครั้ง เด็กคนนี้ ช่างรู้เดียงสาจนทำให้คนสงสารจับใจ" "นั่นน่ะสิ เขาถูก
กู้ชูหน่วนยิ้มแก้เขิน "จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร พวกเขามีภรรยา มีทายาทกันแล้วยังเล่าเรียนอยู่ที่นี่อยู่เลย ข้ายังไม่มีทายาทเสียด้วยซ้ำ ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ตั้งใจเรียน อาจารย์ซ่างกวานวางใจเถอะ ข้าจะต้องตั้งใจเรียน ก้าวหน้าขึ้นในทุกวัน และเขียนเรื่องราวที่ประทับใจผู้คนที่ดีที่สุดออกมาให้ได้" "เป็นเช่นนี้ดีที่สุด เช่นนั้นอาจารย์อย่างข้าจะตั้งตารอ" "น้อมรับคำสั่ง รับประกันว่าจะทำภารกิจให้สำเร็จ" ซ่างกวานฉู่เก็บปิ่นระย้าหยกขาวไป ใช้ผ้าผืนหนึ่งคลุมเอาไว้ เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ภายในดวงตาของกู้ชูหน่วนแฝงไปด้วยความโลภ ความหนักแน่น ราวกับจะต้องเอามันมาให้ได้ ที่เขาทำเช่นนี้ อย่างแรกเพราะอยากจะมอบปิ่นระย้าให้กู้ชูหน่วน แต่หาเหตุผลไม่ได้ อย่างที่สอง เพราะอยากเห็นว่ากู้ชูหน่วนจะเขียนเรื่องราวซาบซึ้งกินใจผู้คนออกมาเช่นไร จะเกี่ยวข้องกับวัยเด็กของนางหรือไม่ คาบเรียนนี้ ทุกคนต่างก็ก้มหน้าก้มตาใช้ความคิดอย่างหนักว่าจะเขียนอย่างไรถึงจะทำให้ผู้คนซาบซึ้งได้ โดยเฉพาะกู้ชูอวิ๋น นี่เป็นเพียงครั้งเดียวที่นางจะได้ใกล้ชิดกับซ่างกวานฉู่ นางไม่อยากจะแพ้โดยไม่ได้ทำอะไร กู้ชูหน่วน
กู้ชูหน่วนกวาดสายตามองเหล่าเพื่อนบัณฑิต หลิ่วเยว่ อวี๋ฮุยตะโกนเสียงดังลั่น "พวกข้ายังไม่มีภรรยา ทั้งยังไม่มีทายาท" นอกจากพวกเขาสองคนแล้ว คนอื่นๆ แทบจะไม่ส่งเสียงใดๆ กู้ชูหน่วนหมดคำพูด นี่มันอะไรกัน แต่งงานมีลูกกันหมดแล้ว ยังจะมาเรียนหนังสือทำไมอีก ให้ลูกๆ ของพวกเขามาเรียนยังพอว่า กู้ชูหน่วนกำลังคิดจะฉีกหน้าซ่างกวานฉู่ โดยการออกไปจากสำนักบัณฑิตหลวง ทว่ากลับได้ยินซ่างกวานฉู่พูดขึ้นมา "วันนี้ คาบนี้เป็นอิสระมาก ขอเพียงแค่พวกเจ้าเขียนเรื่องสั้นที่สามารถดึงดูดความสนใจผู้คน อีกทั้งยังทำให้ผู้คนซาบซึ้งได้มาหนึ่งเรื่อง ก็จะได้เป็นอันดับหนึ่ง" "ท่านอาจารย์ เป็นที่หนึ่งแล้วจะได้อะไร" "ได้แน่นอน หากผู้ใดได้อันดับหนึ่ง ข้าจะมอบปิ่นระย้านี้ให้กับผู้นั้น" กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะด้วยความเย้ยหยัน ก็แค่ปิ่นระย้าอันเดียว จะไปมีประโยชน์อะไร มอบให้นางเปล่าๆ นางก็ไม่เอา ตอนที่จากไป หางตานางเหลือบไปเห็นปิ่นระย้าที่อยู่ในมือซ่างกวานฉู่ เท้าของนางพลันหนักอึ้งราวกับมีตะกั่วบรรจุอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าอย่างไรก็ขยับไม่ได้ นั่นคือปิ่นระย้าอะไรกัน ด้ามสีขาวดุจหิมะ ด้านบนมีผีเสื
"อาจารย์ซ่างกวานบอกว่า สำนักบัณฑิตมีกฎเกณฑ์ของสำนักบัณฑิต ไม่ใช่ว่าท่านคิดจะเรียนก็เรียน คิดจะเลิกก็เลิก ต่อให้เป็นฮ่องเต้ ก็ไม่มีสิทธิ์บังคับคนของสำนักบัณฑิตลาออกโดยไม่ได้รับอนุญาต" "ซ่างกวานฉู่ผู้นี้อวดดียิ่งนัก ช่างเถอะ ข้าจะไปคุยกับเขาให้รู้เรื่องเอง" ภายในห้องเรียน ทันทีที่นางปรากฏตัว ทั้งห้องพลันเงียบสงัด ทุกคนต่างก็มองนางด้วยสายตาที่แตกต่างกันไป มีสายตาของความอิจฉา ริษยา เลื่อมใส เหลือเชื่อ คิดไม่ถึง หลิ่วเยว่อวี๋ฮุยรีบเข้ามาล้อมนางทันที "ลูกพี่ ในที่สุดท่านก็กลับมาสำนักบัณฑิตแล้ว พวกเราคิดว่าท่านจะไม่กลับมาแล้วเสียอีก เมื่อวานท่านยอดเยี่ยมไปเลย ฝีมือการยิงธนูแม่นเสียยิ่งกว่าแม่น ท่านกลับมาสอนพวกเราขี่ม้ายิงธนูหรือ" เห็นพวกเขาสองคน แต่กลับไม่เห็นเซียวอวี่เชียน กู้ชูหน่วนจึงรู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย "ยังไม่ได้ข่าวของเซียวอวี่เชียนอีกรึ" ทั้งสองคนต่างก็หน้าเสียไปทันที "ไม่มีเลย ไม่รู้พี่ใหญ่ไปอยู่ที่ใด แต่ได้ยินมาว่าช่วงนี้มีคนแหกคุก ไม่รู้ว่าใช่พี่ใหญ่หรือไม่" "ครั้งนี้ฮ่องเต้ให้แม่ทัพเฒ่าเซียวนำทัพออกศึก ขอเพียงแค่แม่ทัพเฒ่าเซียวชนะ พี่ใหญ่ก็จะกลับมาได้แล้ว