ประมุขชิงบาดเจ็บสาหัส นางเองก็เจ็บหนัก เถาวัลย์ก็ยังอยู่ในสภาพการณ์สุ่มเสี่ยง บริเวณที่อยู่ไม่มีแม้แต่จุดที่จะยืนได้ พวกกู้ชูหน่วนกำลังเป็นรอง "ข้ายังมีอาวุธลับติดตัวอยู่ ก็แค่หนอนผีเสื้อตัวเดียว ข้าจัดการได้" กู้ชูหน่วนตั้งสติ หยิบอาวุธลับออกมาจากแหวนปริภูมิ ทว่ากลับได้ยินเสียงที่สั่นเครือของประมุขชิง "ไม่ใช่ตัวเดียว แต่หลายตัว" "หลายตัว ?" กู้ชูหน่วนเพ่งมองดูดีๆ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว ด้านบนของผาหินอัดแน่นไปด้วยงูเหลือมยักษ์สีขาวสลับดำ เพียงแต่สีของพวกมันใกล้เคียงกับโขดหิน บวกกับที่แต่ละตัวต่างก็กำลังขดตัวหลับอยู่ หากไม่ตั้งใจดูดีๆ ก็มองไม่เห็นแต่อย่างใด งูมากมายขนาดนี้ นางจะฆ่าได้อย่างไร อย่าว่าแต่นางที่ตอนนี้บาดเจ็บหนัก ต่อให้เป็นตอนที่พลังเต็มเปี่ยมก็ฆ่างูจำนวนมากขนาดนี้ไม่ไหว "เป็นงูไฟขั้นสอง ชอบจำศีลอยู่ในเขตร้อน แม้จะเป็นเพียงแค่ขั้นสอง พลังสังหารไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่พวกมันเป็นสัตว์ที่จู่โจมเป็นฝูง สามัคคีกันมาก หากมีตัวใดบาดเจ็บ หรือตัวใดเริ่มโจมตี งูทุกตัวในฝูงก็จะกรูกันเข้ามา" ประมุขชิงอธิบาย กู้ชูหน่วนรู้สึกชาไปถึงห
ผู้ที่อยู่ข้างกายไม่มีการตอบสนอง กู้ชูหน่วนหันไปด้วยความสงสัย ทว่ากลับเห็นว่าอี้เฉินเฟยหมดสติไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ใบหน้าขาวซีดจนน่ากลัว กู้ชูหน่วนจับชีพจรของเขา กลับพบว่าชีพจรของเขาอ่อนมาก จนใกล้เคียงกับไม่มีชีพจรอยู่แล้ว ที่ทำให้นางตกตะลึงยิ่งไปกว่านั้นคือ พลังชีวิตของเขาดูเหมือนกำลังค่อยๆ สลายไป ชี่ขุ่นมัวภายในร่างแพร่กระจายไปยังเส้นเลือด หรือแม้แต่ไขกระดูกไม่หยุด ทำลายความสมดุลภายในร่างกายของเขา นี่คือบาดแผลที่รุนแรงถึงชีวิต ขืนปล่อยไว้ต่อไป อี้เฉินเฟยมีแต่จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่านี่คืออาการป่วยของโรคใด นางเป็นหมอมาหลายปี กลับไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่รู้ว่าควรจะรักษาเช่นไร เห็นเลือดสีแดงสดของเขาไหลออกมาไม่หยุด บริเวณที่ถูกเผาไหม้ก็เป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ กู้ชูหน่วนรีบหยิบมุกอุ่นประภพในตัวออกมา กระตุ้นกำลังภายใน ตั้งใจจะใช้มุกอุ่นประภพรักษาอาการป่วยให้เขา ถึงได้เริ่มทำแผลให้เขา "ฟ่อ ฟ่อ......" หัวใหญ่ๆ ของน้องเก้าถูไถไปที่อี้เฉินเฟย ซบไปบนตัวเขาด้วยความอาลัยอาวรณ์ คล้ายสงสาร และกังวล กู้ชูหน่วนเลิกคิ้ว "เจ้ารู้จักอี้เฉินเฟย" "ฟ่อฟ่อฟ่อ..." น้อง
เมื่อเห็นสภาพของเขา กู้ชูหน่วนก็ยิ่งมั่นใจในข้อสันนิษฐานของตน อี้เฉินเฟยป่วย อีกทั้งยังเป็นโรคที่ร้ายแรงมากด้วย ที่ผ่านมาไม่รู้ว่าเขาใช้วิธีการใดกดเอาไว้ ทำให้ดูจากภายนอกไม่ออก ทว่ายามนี้โรคกำเริบ พลังชีวิตภายในร่างของเขาจึงสลายไปเรื่อยๆ ด้วยความรวดเร็ว โดยเฉพาะอวัยภายในที่แห้งเหี่ยวลงไปอย่างทันตาเห็น คล้ายกับร่างกำลังเน่าเปื่อยจากภายในสู่ภายนอก กู้ชูหน่วนกอดเขาไว้แน่น “พี่ใหญ่เฉินเฟย ไม่ว่าท่านจะเป็นโรคใด ข้าจะพยายามรักษาท่านให้หายดีให้ได้” กลิ่นหอมที่คุ้นเคยของหญิงสาวลอยมาแตะปลายจมูก สายตาของอี้เฉินเฟยเผยแววความเจ็บปวด เขาพยายามดิ้นให้หลุดออกจากกู้ชูหน่วน ทว่ากู้ชูหน่วนกลับกอดแน่นขึ้นเรื่อยๆ ไม่ยอมปล่อยเขาเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะสัมผัสได้ถึงไอสังหารที่ครุกรุ่นอยู่ในภายร่าง อี้เฉินเฟยจึงได้รู้ว่าคำสาปเลือดในร่างของเขากำเริบอีกแล้ว ร่างของเขาไม่เพียงแต่เน่าเปื่อยจากภายในสู่ภายนอกอย่างรวดเร็ว ทั้งยังเจ็บปวดทรมานราวกับตายทั้งเป็น ยิ่งไปกว่านั้นไอสังหารของเขาก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมที่จะสูญเสียสามัญสำนึกจนทำร้ายกู้ชูหน่วนได้ทุกเมื่อ อี้เฉินเฟยสั่นสะท้าน เขายังไม่ลืมว่
จากผมดกดำกลายเป็นสีขาวโพลน ? เขาเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้ อี้เฉินเฟยมองดวงตาใสสว่างของนางที่กำลังสะท้อนภาพเขาที่ผมขาวทั้งหัว น่าประหลาดคือ เลือดทั่วทั้งร่างของอี้เฉินเฟยเริ่มแข็งตัว เขาก้มหน้าลงด้วยความไหวสั่น เป็นอย่างที่คิด...ผมที่ห้อยอยู่บริเวณแผงอกกลายเป็นสีขาวดุจหิมะไปแล้ว ผมสีขาวโพลนดุจหิมะ... เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าคำสาปเลือดได้ออกฤทธิ์โดยสิ้นเชิงแล้ว เขา...อย่างมากที่สุดสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงแค่ครึ่งปีเท่านั้น... ครึ่งปีหลังจากนั้น ร่างทั้งร่างของเขาก็จะเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นและตายไปในที่สุด อี้เฉินเฟยปิดปากตัวเองพลางไออย่างรุนแรง แก้วมังกรทั้งเจ็ด... เหลืออีกสามลูกที่ยังหาไม่เจอ ทั้งเผ่าของพวกเขาทุ่มเททุกอย่าง ใช้เวลาและพลังกายไปตั้งเท่าไหร่ เสียกำลังคนไปมากมาย กว่าจะรวบรวมมาได้สี่ลูก ยังเหลืออีกสามลูก... ภายในครึ่งปีจะไปหาเจอได้อย่างไร.... หากหาแก้วมังกรทั้งเจ็ดไม่พบ คำสาปเลือดของคนทั้งเผ่าก็จะไม่สามารถแก้ได้ แก้ไม่ได้ ก็เหลือเพียงแค่หนทางเดียว คือรอความตาย กู้ชูหน่วนแสร้งพูดด้วยรอยยิ้มราวกับไม่
นางผู้นี้ทำเอาเขาเป็นห่วงเสียยกใหญ่ เพื่อนาง เขาถึงขั้นไม่คิดจะแก้พิษ สองขาก็ไม่ต้องการจะรักษาแล้ว อีกนิดเดียวก็จะแก้มัดออกไปตามหานางแล้ว “นายท่าน พบตัวพระชายาแล้ว อยู่ที่ที่ราบบนหุบเขาฝั่งตะวันตก พระชายาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ใด เหล่าองครักษ์ลับกำลังไปรับพระชายากลับมา” “นอกจากนี้ ผู้ที่อยู่กับพระชายาด้วยยังมีประมุขชิงแห่งสำนักซิวหลัว แต่ประมุขชิงได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการปางตาย พระชายากำลังช่วยรักษาอย่างสุดกำลัง ผมดกดำของประมุขชิงไม่รู้เพราะเหตุใดกลับกลายเป็นสีขาวทั้งหมดเพียงชั่วข้ามคืน” หลีลั่วไม่กล้าบอกว่าความสัมพันธ์ของประมุขชิงและพระชายาไม่ธรรมดา ทำได้เพียงแค่รายงานสถานการณ์ของพระชายาอย่างละเอียด ดวงตาที่นิ่งขรึมของเย่จิ่งหานมีความลุ่มลึก และตะลึง ผมดกดำกลายเป็นสีขาวเพียงชั่วข้ามคืน ? เขาผ่านเรื่องใดมากันแน่ หรือเขาจะเป็นคนเผ่าอวี้เช่นเดียวกับเสด็จแม่ของตน บนโลกนี้ มีเพียงแค่ผู้ที่ถูกคำสาปเลือด และคำสาปเลือดออกฤทธิ์โดยสิ้นเชิงแล้ว ผมดกดำถึงสามารถกลายเป็นสีขาวชั่วข้ามคืนได้ หากผมดำขลับของเขากลายเป็นสีขาวเพราะถูกคำสาปเลือด ก็หมายความว
เย่จิ่งหานรวบรวมสมาธิ พยายามจะปรับลมหายใจของตน เพื่อทำให้ตัวเองคงสภาวะร่างกายที่ดีที่สุดไว้ได้ สามารถถอนพิษที่หลงเหลืออยู่บริเวณเท้าออกไปให้เร็วที่สุด แล้วฟื้นฟูวิทยายุทธโดยด่วน แก้วมังกร เขาเองก็ต้องการเช่นกัน ณ ที่ราบหุบเขาฝั่งตะวันตก สภาพการณ์ของอี้เฉินเฟยแย่ลงเรื่อยๆ กู้ชูหน่วนพยายามทำทุกวิถีทาง แต่ก็ไม่พบสาเหตุของอาการป่วย ยิ่งไม่มีทางรักษาร่างกายที่ค่อยๆ เหี่ยวเฉาไปเรื่อยๆ ของเขาได้เลย นางเริ่มกระวนกระวาย นี่เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกถึงความอับจนหนทางไร้เรี่ยวแรงอย่างลึกซึ้ง ฝูกวงคอยอยู่ด้านข้างตลอด ใบหน้าตุ๊กตาที่ใสสะอาดไร้ซึ่งความรู้สึก ดูเหมือนจะชินชากับทั้งหมดนี้ไปแล้ว กู้ชูหน่วนสังเกตเห็นสีหน้าของเขา จึงเอ่ยถาม "เจ้ารู้หรือว่าเขาเป็นโรคอะไร" "ข้าน้อยไม่ทราบได้" "เจ้าเคยเป็นคนของเขา ข้าขอถามเจ้าหน่อย อาการป่วยนี้ของเขา ที่ผ่านมากำเริบอยู่บ่อยๆ หรือไม่" "เคยมีอาการ แต่หมอเทวดาผู้หนึ่งกดเลือด...อาการบาดเจ็บของเขาไว้ อาการของท่านประมุขจึงไม่กำเริบอีกมานานมากแล้ว" "หมอเทวดาผู้ใด เขาอยู่ไหน ข้าจะไปหาเขา" สายตาของกู้ชูหน่วนฉายประกายสว่าง สายตาขอ
"ข้าถามเจ้าคำถามสุดท้าย หากข้าช่วยเผ่าอวี้ตามหาแก้วมังกรได้ การลงมือครั้งนี้ คนเผ่าอวี้จะฟังคำสั่งข้าได้หรือไม่" "แน่นอนว่าได้" นายหญิงก็คือหัวเผ่าอวี้ ชาวเผ่าอวี้ทั้งหัวดำและหัวขาวผู้ใดบ้างจะไม่ฟังคำสั่งนาง "ได้" กู้ชูหน่วนยกยิ้มมุมปาก สายตาฉายแววมุ่งมั่น ต่อให้ระวังแล้วพายุฝนก็ยังเกิด เช่นนั้นก็ให้พายุลมฝนโหมกระหน่ำให้แรงยิ่งกว่าเดิมไปเลย อีกด้าน เยี่ยเฟิงนำขนมกลีบบุหงาไปให้ฮองเฮาฉู่ เขาคลี่ยิ้ม แม้จะหดหู่ ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยความสุข "ฮูหยิน ที่นี่มีแต่โขดหิน ดอกไม้ใบหญ้ายากจะเติบโต แต่ที่ราบของเขาด้านนั้นกลับมีต้นหญ้าเขียวขจี อีกทั้งยังมีดอกไม้สดบานสะพรั่งอยู่ไม่น้อย ข้าจึงทำขนมกลีบบุหงามาให้ ท่านลองชิมดูว่ารสชาติถูกปากหรือไม่ แค่กแค่ก..." "เจ้าบาดเจ็บหนักขนาดนี้ ยังจะไปวุ่นกับเรื่องพวกนี้ทำไม" "ไม่ใช่ปัญหา" นางไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว คิดว่าคงต้องหิวมากเป็นแน่ ขนมกลีบบุหงามีไม่มากนัก คงเพราะกลีบดอกไม้มีจำกัด แต่ทุกชิ้นล้วนแต่ทำด้วยความประณีต อีกทั้งรูปร่างของขนมแต่ละชิ้นก็ไม่เหมือนกัน เห็นได้เลยว่า เขาตั้งใจทำด้วยใจจริงๆ ขนมกลีบบุหงาไม่เพียงแต่มีกลิ่นห
ฮองเฮาฉู่และเยี่ยเฟิงไม่ยอมแยกจากัน กู้ชูหน่วนเปลืองแรงไปมากมายกว่าจะส่งพวกเขาสองคนกลับไปได้ บนฟ้ามีเสียงดังอึกทึกครึกโครมดังไม่หยุด ลมฝนโหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่องราวกับพายุรุนแรง ยอดเขาโลหิตน้ำเต้าสั่นสะเทือนเลือนลั่น เพราะความสั่นไหวอย่างแรงของยอดเขาทำให้ลาวาประทุขึ้นมา ซัดกระเซ็นไปบนโขดหิน ดอกไม้ใบหญ้าบนโขดหินที่แสนน่าสงสารจมอยู่ใต้ลาวา นี่คือศึกใหญ่ที่มีเพียงแค่ยอดฝีมืออันดับต้นๆ เท่านั้นที่จะก่อได้ กู้ชูหน่วนเงยหน้าไปมอง กลับพบว่ากลางอากาศมีมังกรไฟตัวสีทองที่ทั้งตัวโชกไปด้วยเลือดกำลังทะยานโลดแล่นพลางกรีดร้องไม่หยุด มังกรตัวใหญ่ยักษ์เพียงแค่สะบัดปลายหาง ยอดเขาลูกเล็กๆ บริเวณใกล้เคียงก็ราบเป็นหน้ากอง ที่น่าตกตะลึงไปกว่านั้นคือ ลูกไฟที่มันพ่นออกมา มีพื้นที่แผ่ขยายไปถึงครึ่งหนึ่งของเขาโลหิตน้ำเต้า คล้ายจะแผดเผาทำลายเขาโลหิตน้ำเต้าทั้งหมดให้สิ้นซาก นอกจากมังกรไฟ ยังมีผู้อาวุโสผมขาวอีกสี่คน ฝูกวงเอ่ย "นายหญิง สี่สุดยอดผู้อาวุโสระดับสูงแห่งเผาเทียนเฝินวิทยายุทธแก่กล้านัก พวกเขาปลีกวิเวกมานานหลายปี น้อยครั้งที่จะเข้ามาข้องเกี่ยวทางโลก คิดไม่ถึงว่าคราวนี้เผ่าเทียนเฝิน
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ