แชร์

บทที่ 483

ผู้เขียน: เย่ชิงขวง
พิษที่คั่งค้างอยู่ในตัวเขายังขับออกไปไม่หมด ยามนี้พิษเริ่มแผ่ซ่าน ทั่วทั้งร่างของเย่จิ่งหานหนาวเหน็บ ร่างกายสั่นสะท้าน อีกทั้งบนร่างยังมีน้ำแข็งเกาะเป็นชั้นหนา ทำให้เขาต้องถอนพิษต่ออย่างขัดไม่ได้

น่าหลันหลิงรั่วหุบพัดดำ พาเหล่าผู้อาวุโสชาวเขาตานหุยที่เพิ่งมาถึงออกไปตามกู้ชูหน่วนในทันที

บนเขาโลหิตน้ำเต้า เพราะการรบราฆ่าฟันกันหลายต่อหลายครั้ง ทำให้ลมอ่อนที่พัดโชยมาเจือกลิ่นคาวเลือดจางๆ

เดิมทีมีหลายขั้วอำนาจมารวมตัว ยามนี้เหลือเพียงกลุ่มของเย่จิ่งหานที่ยังอยู่ คนของเผ่าเทียนเฝินและนายท่านหมู่ตานก็ไม่รู้ว่าหายไปอยู่ที่ใด

ณ หุบเขาไป๋อวี้

ที่แห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างภูเขาใหญ่หลายแสนลูก นอกหุบเขามีทั้งข่ายอาคมและค่ายกลโบราณ คนนอกไม่มีทางเข้าไปได้

ภายในหุบเขาดอกไม้นับร้อยบานสะพรั่ง ผีเสื้อร่ายระบำ ลมอุ่นพัดโชยเบาๆ

ในกระท่อมแห่งหนึ่งทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของหุบเขาไป๋อวี้

ผู้อาวุโสเจ็ดคนในหุบเขาร่วมมือกัน ใช้พลังที่สั่งสมมาทั้งชีวิตเพื่อช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้กู้ชูหน่วน

การรักษาครั้งนี้ ใช้เวลาไปทั้งหมดสามวันสามคืนเต็มๆ

กู้ชูหน่วนที่สะลึมสะลือไม่ได้สติรู้สึกเพียงแค่ร
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 484

    "พี่หน่วน ตรงนี้มีตัวอักษรอยู่สองตัว ท่านบอกว่าเป็นชื่อของข้า แต่เหล่าผู้อาวุโสต่างก็อ่านไม่ออก ข้าจึงบอกเขาไป พวกเขาบอกว่า ท่านถูกข้าตามเกาะแกะจนทนไม่ไหวถึงได้สลักตัวอักษรลงไปมั่วๆ สองตัว อ้อ เหล่าผู้อาวุโสยังบอกอีกว่า คำว่าเอ๋อร์ของอินเอ๋อร์ มีขีดหายไปด้วย" กู้ชูหน่วนขมวดคิ้วมุ่น ขีดหายที่ไหนกัน แบบนี้เขาเรียกว่าเขียนย่อต่างหาก หลังจากที่นางข้ามมิติมาที่นี่ อย่าว่าแต่แกะสลักกระต่ายให้นางเลย นางไม่รู้จักเด็กคนนี้เสียด้วยซ้ำ อีกอย่าง...... "ปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว" "อินเอ๋อร์สิบสามแล้ว ใกล้จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว" อายุสิบสามปี... ซึ่งก็หมายความว่า กระต่ายตัวนี้ สลักให้นางเมื่อสามปีก่อน กู้ชูหน่วนลูบจี้กระต่ายเบาๆ จี้นี่มันวาวไปหมด คนใส่น่าจะลูบคลำอยู่บ่อยๆ ถึงได้แววขนาดนี้ หรือว่า...ร่างเดิมก็เป็นคนที่ทะลุมิติมาเหมือนกัน ? ถ้าหากร่างเดิมก็ทะลุมิติมาอีกคน เช่นนั้นเหตุใดลายมือถึงเหมือนกับลายมือนางไม่มีผิด กู้ชูหน่วนตกอยู่ในความมึนงงสงสัย ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ "พี่หน่วน เป็นอะไรไป เหตุใดสีหน้าถึงดูแย่ขนาดนี้" "อี้เฉินเฟยล่ะ" "พี่ใหญ่เฉิ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 485

    คนตรงหน้าคือชายชราวัยประมาณห้าสิบกว่า เขาอายุยังไม่ย่างหกสิบ แม้จะดูแข็งแรงกระฉับกระเฉงดี ทว่าผมกลับขาวโพลนไปทั้งหัว ชายแก่เห็นนางแล้ว ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มเมตตา "อาหน่วน ยังเจ็บอยู่หรือไม่" "ข้าไม่เป็นไร ขอบคุณพวกท่านที่ช่วยข้าไว้" "ไม่เป็นไรก็ดี นังหนูอินเอ๋อร์ชอบพูดพล่ามไม่เรื่อย เจ้าอย่าไปฟังนางเพ้อเจ้อ มา กินข้าวก่อน เจ้าสลบไปตั้งหลายวันหลายคืน" ชายแก่หยิบโจ๊กสมุนไพรที่ร้อนระอุถ้วยหนึ่งขึ้นมา ก่อนจะเป่าเบาๆ แล้วป้อนให้กู้ชูหน่วนกับมือ โจ๊กสมุนไพรกลิ่นหอมโชย เพียงแค่กู้ชูหน่วนดมแวบเดียวก็รู้แล้วว่าโจ๊กสมุนไพรถ้วยนี้ใช้ยาสมุนไพรที่ล้ำค่า และยาบำรุงหายากมาเคี่ยวกว่าหลายชั่วยามถึงจะเคี่ยวออกมาได้ "ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงอี้เฉินเฟย เหล่าผู้อาวุโสก็กำลังช่วยเขาอย่างเต็มกำลัง จะรอดหรือไม่ ก็ต้องดูคืนนี้แล้ว" ไม่รู้เป็นเพราะนึกถึงอาการบาดเจ็บของอี้เฉินเฟยหรืออย่างไร ภายในดวงตาขุ่นมัวคู่นั้นของชายแก่มีความเจ็บปวดที่ไม่อาจคลาย ไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน ท้องของกู้ชูหน่วนจึงว่างเปล่าไม่มีอะไรอยู่เลย นางกินพลางเอ่ยถาม "พวกท่านไม่ได้จำคนผิดใช่หรือไม่" "แม้ปู่ไป๋เฉ่าจะแก่แล้ว

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 486

    "พี่หน่วน ใช่ท่านจริงๆ หรือ ท่านกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ข้าคิดถึงท่านจะตายอยู่แล้ว" เสียงเด็กน้อยดังขึ้นกะทันหัน หลังจากนั้นก็มีเด็กผู้ชายวัยเจ็ดแปดขวบวิ่งเข้ามากอดขาของนางอย่างปุบปับ ไม่นานนัก เด็กที่วิ่งเล่นกับเด็กผู้ชายคนนั้นเห็นนาง ก็พากันกรูเข้ามาหมด แย่งกันเข้ามากอดขาของนาง พลางตะโกนด้วยความตื่นเต้น"พี่หน่วน ข้าคิดว่าข้าดูผิดไปเสียอีก เหตุใดคราวนี้ท่านจากไปนานเพียงนี้ พ่อแม่ของข้าบ่นถึงท่านไม่หยุด" "พี่หน่วน คราวก่อนท่านบอกว่า ครั้งหน้ากลับมาจะซื้อว่าวให้ข้า ว่าวของข้าเล่า" "ไปไปไป เจ้าเด็กนี่ วันทั้งวันคิดแต่จะเอาว่าวจากพี่หน่วน พี่หน่วนเพิ่งกลับมา ต้องเหนื่อยแย่แน่ ควรให้นางพักผ่อนให้เต็มที่" กู้ชูหน่วนก้มหน้ามองเด็กทั้งชายและหญิงสิบกว่าคนกำลังพูดเจื้อยแจ้วอยู่ข้างกายนาง แต่ละคนท่าทางสนิทสนมกับนางยิ่งนัก ราวกับนางเป็นพี่สาวแท้ๆ ของพวกเขา เสียงความเคลื่อนไหวที่นี่ดึงดูดคนอื่นๆ ในหมู่บ้าน ทั้งหมู่บ้านพลันตกตะลึง ทั้งหญิงชายเด็กและคนแก่ต่างก็ล้อมกันเข้ามา "เอ๊ะ คุณพระช่วย ใช่อาหน่วนจริงๆ ด้วย ข้าคิดว่าข้าเห็นภาพลวงตาเสียอีก อาหน่วน พวกเรา...พวกเราคิดถึงเจ้าจนแท

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 487

    หลังจากเหตุการณ์นองเลือดผ่านไป ภายในหมู่บ้านเต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวน ทุกที่ล้วนแต่แขวนผ้าขาวไว้อาลัย เลือดสีแดงสดและหลุมศพถูกสร้างขึ้นเรื่อยๆ เหงื่อ...หยดไหลลงมา จู่ๆ กู้ชูหน่วนก็กุมหน้าอกของตัวเอง เจ็บปวดจนแม้แต่หายใจก็ยังยากลำบาก เหล่าชาวบ้านที่ล้อมอยู่รอบตัวนางพลันหน้าเปลี่ยนสี ปากพลอยพูดอะไรบางอย่าง ทว่านางกลับไม่ได้ยินเลยสักคำ เห็นเพียงแค่สายตากังวลและห่วงใยของพวกเขา นางตบกระโหลกศีรษะของตนเองอย่างแรง ดูเหมือนนางจะลืมอะไรบางอย่าง แต่นางลืมอะไรกันแน่ เหตุใดนางนึกอะไรไม่ออกเลย "อาหน่วน..." ผู้เฒ่าผมขาวหลายคนรีบเข้ามาด้วยความร้อนรน ประครองนางเอาไว้ ก่อนจะกดจุดฝังเข็มของนาง แล้วอุ้มนางกลับไปรักษาที่ห้อง หลังจากนั้น นางก็สลบไป ท่ามกลางความสะลึมสะลือ นางคล้ายจะได้ยินบางประโยค "ไม่เช่นนั้นก็ปลดปล่อยพลังที่ผนึกอยู่ภายในร่างของหัวหน้าเผ่าไปเสียเลย ยามนี้พลังที่นางผนึกไว้ถูกปลดปล่อยออกมาแล้วครึ่งหนึ่ง พลังลมปราณพลุ่งพล่านไปมาไม่หยุด จู่โจมอวัยวะภายในของนาง ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป ร่างกายของนางจะรับไม่ไหว" "ไม่ได้ ยังหาแก้วมังกรทั้งหมดไม่ครบ หากผนึกถูกทำลาย เผ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 488

    ผู้อาวุโสทั้งสามท่านนิ่งเงียบไปชั่วขณะ พวกเขาหาข้ออ้างจะออกไปด้วยความลังเล กู้ชูหน่วนหยิบมีดสั้นออกมาจากแหวนปริภูมิ กดลงไปที่คอของตนเอง "วันนี้หากพวกท่านไม่บอกความจริงทั้งหมดกับข้าให้ชัดเจน ข้าจะตายตรงหน้าพวกท่านเดี๋ยวนี้" "อย่าอย่าอย่า...เจ้ารีบวางมีดลงเสีย หากเจ้าเป็นอะไรไป พวกเราจะอธิบายกับชาวเผ่าอวี้อีกเป็นหมื่นเป็นพันคนได้อย่างไร" "เช่นนั้นก็บอกมา หากพวกท่านรู้จักข้า ก็น่าจะรู้ว่าข้ามีความอดทนไม่มากนัก" กู้ชูหน่วนแน่วแน่หนักแน่น อีกทั้งยังไม่ยอมปล่อยมีดในมือ เพียงแค่นางออกแรงอีกเล็กน้อย คงได้ตายอยู่ที่นี่เป็นแน่ ผู้อาวุโสทุกคนต่างก็ร้อนรนกระวนกระวาย อยากจะไปแจ้งผู้อาวุโสใหญ่ แต่กู้ชูหน่วนก็ไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาออกไป สุดท้ายก็เป็นผู้อาวุโสเจ็ดผู้มีนิสัยบุ่มบ่ามใจร้อนที่ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว "ในเมื่อเจ้าอยากรู้ เช่นนั้นข้าจะบอกเจ้าก็ได้" "น้องเจ็ด..." "โธ่ นิสัยของหัวหน้าเผ่าก็ใช่ว่าเจ้าจะไม่รู้ หากนางเป็นอะไรไป ต่อให้เจ้าปิดบังความลับมากเพียงใดแล้วจะประโยชน์รึ" "อาหน่วน เจ้าคือหัวหน้าเผ่าที่อายุน้อยที่สุดของเผ่าอวี้เรา วิทยายุทธขั้นเจ็ด เพื่อปกปิดสถานะของเจ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 489

    ภายในห้องนอนที่ประณีตสะอาดตา อี้เฉินเฟยใบหน้าขาวซีด ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิทอย่างไร้เรี่ยวแรง ลมหายใจอ่อนโรยรา ผมขาวโพลนทั้งหัวของเขาทั้งสะดุดตาและทำให้คนรู้สึกปวดใจ ข้างกายอี้เฉินเฟยยังมีเหล่าผู้อาวุโสผมขาวอีกหลายท่าน เหล่าผู้อาวุโสไม่รู้ว่าใช้กำลังภายในไปมากเพียงใด ลมหายใจเหนื่อยหอบไม่มั่นคง สีหน้าดูกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ทันทีที่กู้ชูหน่วนเข้าไปในห้อง ผู้อาวุโสทุกคนพากันทำความเคารพ โดยมีผู้อาวุโสใหญ่เป็นผู้นำ "คาราวะท่านหัวหน้าเผ่า ขอหัวหน้าเผ่าพบเจอแต่ความสุข" "พวกท่านรีบลุกขึ้นมาเถิด" กู้ชูหน่วนไม่ค่อยชิน ในสมองของนางมีความทรงจำเกี่ยวกับเผ่าอวี้อยู่ไม่มากนัก จู่ๆ ก็ถูกผู้อาวุโสมากมายขนาดนี้เรียกว่าหัวหน้าเผ่า นางเองก็รู้สึกแปลกๆ ตอนที่ยื่นมือออกไปประครองพวกเขา กู้ชูหน่วนเผลอจับชีพจรของผู้อาวุโสใหญ่โดยไม่ทันระวัง ผู้อาวุโสใหญ่มีกำลังภายในกล้าแกร่ง ไม่รู้ว่าวิทยายุทธไปถึงขั้นใด แต่ใช้พลังลมปราณไปมาก ยามนี้พลังลมปราณไม่มั่นคง ยิ่งไปกว่านั้น ชีพจรของเขายังคล้ายกับอี้เฉินเฟยนัก ดูเหมือนจะมีแรงกัดกร่อนบางอย่างค่อยกลืนกินพลังชีวิตของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา แม้พลังชีวิ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 490

    เหล่าผู้อาวุโสล้วนแต่ไม่อยากออกไป ยังอยากคุยกับกู้ชูหน่วน ผู้อาวุโสใหญ่แค่ส่งสายตาเย็นเยียบไป พวกเขาจึงทำได้เพียงแค่ออกไปก่อน รักษาหัวหน้าเผ่า ก่อนจะไปรักษาอี้เฉินเฟยต่อ กำลังภายในของพวกเขาถูกใช้ไปมากมายเหลือเกิน ควรจะกลับไปพักผ่อนแล้วจริงๆ "หัวหน้าเผ่า ข้ารู้ว่าเจ้าผูกพันกับอี้เฉินเฟยมาตั้งแต่เด็ก แต่...เจ้าอย่าได้ร้อนใจไป ทุกคนในเผ่าอวี้จะช่วยกันตามหาแก้วมังกรอย่างสุดกำลัง เฉินเฟยเด็กคนนี้จิดใจดี เขาเองก็ไม่อยากให้เจ้ารู้สึกแย่" "ขอบคุณผู้อาวุโส ข้าเห็นท่านเองก็เหนื่อยมากแล้ว กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ" "อืม" กู้ชูหน่วนนั่งอยู่ตรงหน้าเตียง ยื่นนิ้วขาวเรียวยาวออกไปลูบใบหน้าที่คมชัดหล่อเหลาดุจเทพที่ซีดขาวของเขา ในความทรงจำ ทุกครั้งที่อี้เฉินเฟยเห็นนางมักจะยิ้มด้วยความเอ็นดู และอบอุ่นอยู่เสมอ นางอยากจะให้อี้เฉินเฟยยังเป็นเหมือนก่อนหน้า ยิ้มให้นางด้วยความอบอุ่น เรียกนางว่าเด็กโง่ เรียกนางว่าอาหน่วน "พี่ใหญ่เฉินเฟย ข้ารู้สึกว่าไหล่ของข้าหนักมาก มีหลายเรื่องที่รอให้ทำ แต่ข้าคิดไม่ออกว่าต้องทำอะไรกันแน่ ยามนี้...ดูเหมือนข้าจะเริ่มเข้าใจแล้ว ที่จริงแล้วหนึ่งในภารกิจของข้าก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 491

    "ข้าไม่จำเป็นต้องใช้หรอก ท่านให้ภรรยาของท่านเถอะ หากข้าจำไม่ผิด ภรรยาของท่านตั้งท้องได้เก้าเดือนแล้วใช่หรือไม่ นางใกล้จะคลอดแล้ว ท่านยังให้นางบำรุงนั่นบำรุงนี่อยู่ทุกวัน ถึงเวลาคลอดจะลำบากเอาได้ บำรุงแต่พอเหมาะดีกว่า" ได้ยินดังนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าลุงหนิวพลันชะงักงัน สีหน้าฝืดเฝื่อนเต็มไปด้วยความกังวลและโศกเศร้า "ดูเหมือนข้าจะพูดผิดไป ลุงหนิว ท่านกับป้าหนิวรักกันดีขนาดนั้น อ่อนโยนเอาใจใส่ต่อนางทุกเรื่อง ลูกของท่านจะต้องปลอดภัย เติบโตมาอย่างแข็งแรงเป็นแน่ คำพูดเมื่อครู่ ท่านอย่าใส่ใจเลย" ลุงหนิวฝืนยิ้ม รีบตอบกลับ "ไม่ๆๆๆ ไม่ได้เกี่ยวกับหัวหน้าเผ่าเลย หัวหน้าเผ่าพูดถูก ผู้อาวุโสไป๋เฉ่าก็เคยเตือนข้าหลายครั้งว่าอย่าบำรุงมากเกินไป ไม่เช่นนั้นต่อไปเด็กจะคลอดยาก ข้ารู้ว่าหัวหน้าเผ่าหวังดีกับข้า" "เช่นนั้นท่านกังวลสิ่งใดล่ะ" "ใกล้จะสิบห้าค่ำแล้ว ไม่รู้ว่า..." เมื่อพูดถึงสิบห้าค่ำ ร่างของลุงหนิวก็สั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุมได้ และไม่อยากจะพูดถึงมากนัก ด้วยความบังเอิญ ป้าหนิวเดินแบกท้องโตออกมาพอดี นางร้องตะโกน "ต้าหนิว เจ้าออกไปล่าสัตว์กลางดึกมาอีกแล้วใช่หรือไม่ ไม่เจอเจ้าทั้งคืนเล

บทล่าสุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 492

    คำพูดของเขาไร้ที่ติ แต่นางไม่เชื่อ ว่าผู้อาวุโสใหญ่แห่งเผ่าอวี้จะไม่มีวิธีการจัดการกับเย่จิ่งหานเลยแม้แต่น้อย เผ่าอวี้ตัดขาดจากโลกภายนอกมาเป็นเวลาหลายปีขนาดนี้ได้ ไม่มีทางพึ่งพาการหลบๆ ซ่อนๆ แน่ "หัวหน้าเผ่า ท่านว่า ไม่เช่นนั้นท่าน..." "พอเถิด ข้าเข้าใจความหมายของท่าน เดิมทีวันนี้ข้าตั้งใจจะมาบอกลาพวกท่าน อีกเดี๋ยวก็จะไปจากเผ่าอวี้แล้ว" ผู้อาวุโสแต่ละคนต่างก็โล่งใจ แต่ก็อาลัยอาวรณ์ด้วยเช่นกัน "อาหน่วน หากเจ้าไม่คุ้นเคยกับการอยู่ด้านนอก ไม่เช่นนั้นอีกสักสองสามวันค่อยกลับมาอยู่เผ่าอวี้ต่ออีกสักหน่อย พวกข้ารอเจ้ามาตั้งนานกว่าเจ้าจะกลับมา นี่เพิ่งจะไม่กี่วันก็ต้องจากไปอีกแล้ว พวกข้าทำใจไม่ได้เลย เจ้าไม่มาดื่มเหล้า ไม่มีผู้ใดดื่มกับข้าเลย" ผู้อาวุโสหกมุ่ยปาก "เจ้าคิดว่าหัวหน้าเผ่าจะเอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ เช่นเจ้ารึ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี" ผู้อาวุโสใหญ่ถลึงตาใส่ผู้อาวุโสหกอย่างไม่สบอารมณ์ไปทีหนึ่ง บอกเขาแล้วว่าไม่ต้องตามมา ก็รั้นจะตามมาให้ได้ สีหน้าของพวกเขาเช่นนี้ หัวหน้าเผ่าไม่สงสัยก็แปลกแล้ว "ข้ายังต้องออกไปตามหาแก้วมังกร ไม่สู้ไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ ส่วนพี่ใหญ่เฉ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 491

    "ข้าไม่จำเป็นต้องใช้หรอก ท่านให้ภรรยาของท่านเถอะ หากข้าจำไม่ผิด ภรรยาของท่านตั้งท้องได้เก้าเดือนแล้วใช่หรือไม่ นางใกล้จะคลอดแล้ว ท่านยังให้นางบำรุงนั่นบำรุงนี่อยู่ทุกวัน ถึงเวลาคลอดจะลำบากเอาได้ บำรุงแต่พอเหมาะดีกว่า" ได้ยินดังนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าลุงหนิวพลันชะงักงัน สีหน้าฝืดเฝื่อนเต็มไปด้วยความกังวลและโศกเศร้า "ดูเหมือนข้าจะพูดผิดไป ลุงหนิว ท่านกับป้าหนิวรักกันดีขนาดนั้น อ่อนโยนเอาใจใส่ต่อนางทุกเรื่อง ลูกของท่านจะต้องปลอดภัย เติบโตมาอย่างแข็งแรงเป็นแน่ คำพูดเมื่อครู่ ท่านอย่าใส่ใจเลย" ลุงหนิวฝืนยิ้ม รีบตอบกลับ "ไม่ๆๆๆ ไม่ได้เกี่ยวกับหัวหน้าเผ่าเลย หัวหน้าเผ่าพูดถูก ผู้อาวุโสไป๋เฉ่าก็เคยเตือนข้าหลายครั้งว่าอย่าบำรุงมากเกินไป ไม่เช่นนั้นต่อไปเด็กจะคลอดยาก ข้ารู้ว่าหัวหน้าเผ่าหวังดีกับข้า" "เช่นนั้นท่านกังวลสิ่งใดล่ะ" "ใกล้จะสิบห้าค่ำแล้ว ไม่รู้ว่า..." เมื่อพูดถึงสิบห้าค่ำ ร่างของลุงหนิวก็สั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุมได้ และไม่อยากจะพูดถึงมากนัก ด้วยความบังเอิญ ป้าหนิวเดินแบกท้องโตออกมาพอดี นางร้องตะโกน "ต้าหนิว เจ้าออกไปล่าสัตว์กลางดึกมาอีกแล้วใช่หรือไม่ ไม่เจอเจ้าทั้งคืนเล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 490

    เหล่าผู้อาวุโสล้วนแต่ไม่อยากออกไป ยังอยากคุยกับกู้ชูหน่วน ผู้อาวุโสใหญ่แค่ส่งสายตาเย็นเยียบไป พวกเขาจึงทำได้เพียงแค่ออกไปก่อน รักษาหัวหน้าเผ่า ก่อนจะไปรักษาอี้เฉินเฟยต่อ กำลังภายในของพวกเขาถูกใช้ไปมากมายเหลือเกิน ควรจะกลับไปพักผ่อนแล้วจริงๆ "หัวหน้าเผ่า ข้ารู้ว่าเจ้าผูกพันกับอี้เฉินเฟยมาตั้งแต่เด็ก แต่...เจ้าอย่าได้ร้อนใจไป ทุกคนในเผ่าอวี้จะช่วยกันตามหาแก้วมังกรอย่างสุดกำลัง เฉินเฟยเด็กคนนี้จิดใจดี เขาเองก็ไม่อยากให้เจ้ารู้สึกแย่" "ขอบคุณผู้อาวุโส ข้าเห็นท่านเองก็เหนื่อยมากแล้ว กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ" "อืม" กู้ชูหน่วนนั่งอยู่ตรงหน้าเตียง ยื่นนิ้วขาวเรียวยาวออกไปลูบใบหน้าที่คมชัดหล่อเหลาดุจเทพที่ซีดขาวของเขา ในความทรงจำ ทุกครั้งที่อี้เฉินเฟยเห็นนางมักจะยิ้มด้วยความเอ็นดู และอบอุ่นอยู่เสมอ นางอยากจะให้อี้เฉินเฟยยังเป็นเหมือนก่อนหน้า ยิ้มให้นางด้วยความอบอุ่น เรียกนางว่าเด็กโง่ เรียกนางว่าอาหน่วน "พี่ใหญ่เฉินเฟย ข้ารู้สึกว่าไหล่ของข้าหนักมาก มีหลายเรื่องที่รอให้ทำ แต่ข้าคิดไม่ออกว่าต้องทำอะไรกันแน่ ยามนี้...ดูเหมือนข้าจะเริ่มเข้าใจแล้ว ที่จริงแล้วหนึ่งในภารกิจของข้าก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 489

    ภายในห้องนอนที่ประณีตสะอาดตา อี้เฉินเฟยใบหน้าขาวซีด ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิทอย่างไร้เรี่ยวแรง ลมหายใจอ่อนโรยรา ผมขาวโพลนทั้งหัวของเขาทั้งสะดุดตาและทำให้คนรู้สึกปวดใจ ข้างกายอี้เฉินเฟยยังมีเหล่าผู้อาวุโสผมขาวอีกหลายท่าน เหล่าผู้อาวุโสไม่รู้ว่าใช้กำลังภายในไปมากเพียงใด ลมหายใจเหนื่อยหอบไม่มั่นคง สีหน้าดูกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ทันทีที่กู้ชูหน่วนเข้าไปในห้อง ผู้อาวุโสทุกคนพากันทำความเคารพ โดยมีผู้อาวุโสใหญ่เป็นผู้นำ "คาราวะท่านหัวหน้าเผ่า ขอหัวหน้าเผ่าพบเจอแต่ความสุข" "พวกท่านรีบลุกขึ้นมาเถิด" กู้ชูหน่วนไม่ค่อยชิน ในสมองของนางมีความทรงจำเกี่ยวกับเผ่าอวี้อยู่ไม่มากนัก จู่ๆ ก็ถูกผู้อาวุโสมากมายขนาดนี้เรียกว่าหัวหน้าเผ่า นางเองก็รู้สึกแปลกๆ ตอนที่ยื่นมือออกไปประครองพวกเขา กู้ชูหน่วนเผลอจับชีพจรของผู้อาวุโสใหญ่โดยไม่ทันระวัง ผู้อาวุโสใหญ่มีกำลังภายในกล้าแกร่ง ไม่รู้ว่าวิทยายุทธไปถึงขั้นใด แต่ใช้พลังลมปราณไปมาก ยามนี้พลังลมปราณไม่มั่นคง ยิ่งไปกว่านั้น ชีพจรของเขายังคล้ายกับอี้เฉินเฟยนัก ดูเหมือนจะมีแรงกัดกร่อนบางอย่างค่อยกลืนกินพลังชีวิตของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา แม้พลังชีวิ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 488

    ผู้อาวุโสทั้งสามท่านนิ่งเงียบไปชั่วขณะ พวกเขาหาข้ออ้างจะออกไปด้วยความลังเล กู้ชูหน่วนหยิบมีดสั้นออกมาจากแหวนปริภูมิ กดลงไปที่คอของตนเอง "วันนี้หากพวกท่านไม่บอกความจริงทั้งหมดกับข้าให้ชัดเจน ข้าจะตายตรงหน้าพวกท่านเดี๋ยวนี้" "อย่าอย่าอย่า...เจ้ารีบวางมีดลงเสีย หากเจ้าเป็นอะไรไป พวกเราจะอธิบายกับชาวเผ่าอวี้อีกเป็นหมื่นเป็นพันคนได้อย่างไร" "เช่นนั้นก็บอกมา หากพวกท่านรู้จักข้า ก็น่าจะรู้ว่าข้ามีความอดทนไม่มากนัก" กู้ชูหน่วนแน่วแน่หนักแน่น อีกทั้งยังไม่ยอมปล่อยมีดในมือ เพียงแค่นางออกแรงอีกเล็กน้อย คงได้ตายอยู่ที่นี่เป็นแน่ ผู้อาวุโสทุกคนต่างก็ร้อนรนกระวนกระวาย อยากจะไปแจ้งผู้อาวุโสใหญ่ แต่กู้ชูหน่วนก็ไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาออกไป สุดท้ายก็เป็นผู้อาวุโสเจ็ดผู้มีนิสัยบุ่มบ่ามใจร้อนที่ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว "ในเมื่อเจ้าอยากรู้ เช่นนั้นข้าจะบอกเจ้าก็ได้" "น้องเจ็ด..." "โธ่ นิสัยของหัวหน้าเผ่าก็ใช่ว่าเจ้าจะไม่รู้ หากนางเป็นอะไรไป ต่อให้เจ้าปิดบังความลับมากเพียงใดแล้วจะประโยชน์รึ" "อาหน่วน เจ้าคือหัวหน้าเผ่าที่อายุน้อยที่สุดของเผ่าอวี้เรา วิทยายุทธขั้นเจ็ด เพื่อปกปิดสถานะของเจ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 487

    หลังจากเหตุการณ์นองเลือดผ่านไป ภายในหมู่บ้านเต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวน ทุกที่ล้วนแต่แขวนผ้าขาวไว้อาลัย เลือดสีแดงสดและหลุมศพถูกสร้างขึ้นเรื่อยๆ เหงื่อ...หยดไหลลงมา จู่ๆ กู้ชูหน่วนก็กุมหน้าอกของตัวเอง เจ็บปวดจนแม้แต่หายใจก็ยังยากลำบาก เหล่าชาวบ้านที่ล้อมอยู่รอบตัวนางพลันหน้าเปลี่ยนสี ปากพลอยพูดอะไรบางอย่าง ทว่านางกลับไม่ได้ยินเลยสักคำ เห็นเพียงแค่สายตากังวลและห่วงใยของพวกเขา นางตบกระโหลกศีรษะของตนเองอย่างแรง ดูเหมือนนางจะลืมอะไรบางอย่าง แต่นางลืมอะไรกันแน่ เหตุใดนางนึกอะไรไม่ออกเลย "อาหน่วน..." ผู้เฒ่าผมขาวหลายคนรีบเข้ามาด้วยความร้อนรน ประครองนางเอาไว้ ก่อนจะกดจุดฝังเข็มของนาง แล้วอุ้มนางกลับไปรักษาที่ห้อง หลังจากนั้น นางก็สลบไป ท่ามกลางความสะลึมสะลือ นางคล้ายจะได้ยินบางประโยค "ไม่เช่นนั้นก็ปลดปล่อยพลังที่ผนึกอยู่ภายในร่างของหัวหน้าเผ่าไปเสียเลย ยามนี้พลังที่นางผนึกไว้ถูกปลดปล่อยออกมาแล้วครึ่งหนึ่ง พลังลมปราณพลุ่งพล่านไปมาไม่หยุด จู่โจมอวัยวะภายในของนาง ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป ร่างกายของนางจะรับไม่ไหว" "ไม่ได้ ยังหาแก้วมังกรทั้งหมดไม่ครบ หากผนึกถูกทำลาย เผ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 486

    "พี่หน่วน ใช่ท่านจริงๆ หรือ ท่านกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ข้าคิดถึงท่านจะตายอยู่แล้ว" เสียงเด็กน้อยดังขึ้นกะทันหัน หลังจากนั้นก็มีเด็กผู้ชายวัยเจ็ดแปดขวบวิ่งเข้ามากอดขาของนางอย่างปุบปับ ไม่นานนัก เด็กที่วิ่งเล่นกับเด็กผู้ชายคนนั้นเห็นนาง ก็พากันกรูเข้ามาหมด แย่งกันเข้ามากอดขาของนาง พลางตะโกนด้วยความตื่นเต้น"พี่หน่วน ข้าคิดว่าข้าดูผิดไปเสียอีก เหตุใดคราวนี้ท่านจากไปนานเพียงนี้ พ่อแม่ของข้าบ่นถึงท่านไม่หยุด" "พี่หน่วน คราวก่อนท่านบอกว่า ครั้งหน้ากลับมาจะซื้อว่าวให้ข้า ว่าวของข้าเล่า" "ไปไปไป เจ้าเด็กนี่ วันทั้งวันคิดแต่จะเอาว่าวจากพี่หน่วน พี่หน่วนเพิ่งกลับมา ต้องเหนื่อยแย่แน่ ควรให้นางพักผ่อนให้เต็มที่" กู้ชูหน่วนก้มหน้ามองเด็กทั้งชายและหญิงสิบกว่าคนกำลังพูดเจื้อยแจ้วอยู่ข้างกายนาง แต่ละคนท่าทางสนิทสนมกับนางยิ่งนัก ราวกับนางเป็นพี่สาวแท้ๆ ของพวกเขา เสียงความเคลื่อนไหวที่นี่ดึงดูดคนอื่นๆ ในหมู่บ้าน ทั้งหมู่บ้านพลันตกตะลึง ทั้งหญิงชายเด็กและคนแก่ต่างก็ล้อมกันเข้ามา "เอ๊ะ คุณพระช่วย ใช่อาหน่วนจริงๆ ด้วย ข้าคิดว่าข้าเห็นภาพลวงตาเสียอีก อาหน่วน พวกเรา...พวกเราคิดถึงเจ้าจนแท

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 485

    คนตรงหน้าคือชายชราวัยประมาณห้าสิบกว่า เขาอายุยังไม่ย่างหกสิบ แม้จะดูแข็งแรงกระฉับกระเฉงดี ทว่าผมกลับขาวโพลนไปทั้งหัว ชายแก่เห็นนางแล้ว ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มเมตตา "อาหน่วน ยังเจ็บอยู่หรือไม่" "ข้าไม่เป็นไร ขอบคุณพวกท่านที่ช่วยข้าไว้" "ไม่เป็นไรก็ดี นังหนูอินเอ๋อร์ชอบพูดพล่ามไม่เรื่อย เจ้าอย่าไปฟังนางเพ้อเจ้อ มา กินข้าวก่อน เจ้าสลบไปตั้งหลายวันหลายคืน" ชายแก่หยิบโจ๊กสมุนไพรที่ร้อนระอุถ้วยหนึ่งขึ้นมา ก่อนจะเป่าเบาๆ แล้วป้อนให้กู้ชูหน่วนกับมือ โจ๊กสมุนไพรกลิ่นหอมโชย เพียงแค่กู้ชูหน่วนดมแวบเดียวก็รู้แล้วว่าโจ๊กสมุนไพรถ้วยนี้ใช้ยาสมุนไพรที่ล้ำค่า และยาบำรุงหายากมาเคี่ยวกว่าหลายชั่วยามถึงจะเคี่ยวออกมาได้ "ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงอี้เฉินเฟย เหล่าผู้อาวุโสก็กำลังช่วยเขาอย่างเต็มกำลัง จะรอดหรือไม่ ก็ต้องดูคืนนี้แล้ว" ไม่รู้เป็นเพราะนึกถึงอาการบาดเจ็บของอี้เฉินเฟยหรืออย่างไร ภายในดวงตาขุ่นมัวคู่นั้นของชายแก่มีความเจ็บปวดที่ไม่อาจคลาย ไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน ท้องของกู้ชูหน่วนจึงว่างเปล่าไม่มีอะไรอยู่เลย นางกินพลางเอ่ยถาม "พวกท่านไม่ได้จำคนผิดใช่หรือไม่" "แม้ปู่ไป๋เฉ่าจะแก่แล้ว

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 484

    "พี่หน่วน ตรงนี้มีตัวอักษรอยู่สองตัว ท่านบอกว่าเป็นชื่อของข้า แต่เหล่าผู้อาวุโสต่างก็อ่านไม่ออก ข้าจึงบอกเขาไป พวกเขาบอกว่า ท่านถูกข้าตามเกาะแกะจนทนไม่ไหวถึงได้สลักตัวอักษรลงไปมั่วๆ สองตัว อ้อ เหล่าผู้อาวุโสยังบอกอีกว่า คำว่าเอ๋อร์ของอินเอ๋อร์ มีขีดหายไปด้วย" กู้ชูหน่วนขมวดคิ้วมุ่น ขีดหายที่ไหนกัน แบบนี้เขาเรียกว่าเขียนย่อต่างหาก หลังจากที่นางข้ามมิติมาที่นี่ อย่าว่าแต่แกะสลักกระต่ายให้นางเลย นางไม่รู้จักเด็กคนนี้เสียด้วยซ้ำ อีกอย่าง...... "ปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว" "อินเอ๋อร์สิบสามแล้ว ใกล้จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว" อายุสิบสามปี... ซึ่งก็หมายความว่า กระต่ายตัวนี้ สลักให้นางเมื่อสามปีก่อน กู้ชูหน่วนลูบจี้กระต่ายเบาๆ จี้นี่มันวาวไปหมด คนใส่น่าจะลูบคลำอยู่บ่อยๆ ถึงได้แววขนาดนี้ หรือว่า...ร่างเดิมก็เป็นคนที่ทะลุมิติมาเหมือนกัน ? ถ้าหากร่างเดิมก็ทะลุมิติมาอีกคน เช่นนั้นเหตุใดลายมือถึงเหมือนกับลายมือนางไม่มีผิด กู้ชูหน่วนตกอยู่ในความมึนงงสงสัย ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ "พี่หน่วน เป็นอะไรไป เหตุใดสีหน้าถึงดูแย่ขนาดนี้" "อี้เฉินเฟยล่ะ" "พี่ใหญ่เฉิ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status