แชร์

บทที่ 9 ชนะใจจ้าวอ๋อง

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-05 18:09:02

บทที่ 9

ชนะใจจ้าวอ๋อง

            หลังพูดคุยกับตัวแทนจัดซื้อหยวนไห่ไปเมื่อวาน ซิ่วอิงก็ได้รับอนุญาตจากจ้าวอ๋อง เข้าถึงข้อมูลการเงินของค่ายทหารแห่งนี้

            พอตรวจสอบข้อมูลการเงินและรายการสั่งซื้อจบครบทุกเล่ม พบว่ามีหลายจุดที่น่าสงสัย  เช้าวันถัดมา หญิงสาวจึงนำความมาบอกจ้าวเฟยอู๋

            เรื่องแรก ข้าวสารและเกลือที่ร้านตระกูลหนิงส่งมานั้นเป็นของคุณภาพต่ำ แต่กลับขายราคาสูง อยากให้เขาตรวจสอบเส้นทางการจัดซื้ออย่างจริงๆ จังๆ เพราะสินค้าเหล่านั้นอาจเป็นของที่ร้านตระกูลหนิงแอบกักตุนไว้ แล้วนำมาปล่อยขายทีหลัง

            เรื่องที่สอง ซิ่วอิงแนะนำให้จ้าวเฟยอู๋บุกเบิกพื้นที่รกร้างหลังค่ายทหารเพื่อทำเกษตร

            เรื่องสุดท้ายคือการจัดตั้งคณะพ่อค้า เดินทางข้ามพรมแดน ซื้อขายสินค้ากับแคว้นอื่นโดยไม่ต้องผ่านคนกลาง

            ตั้งแต่ต้นจนจบ หญิงสาววางมาดเป็นนักการค้า กล่าวอย่างชาญฉลาด แต่ก็ถ่อมตัวในเวลาเดียวกัน

            โชคดีที่จ้าวเฟยอู๋ไม่ได้โง่ เข้าใจสิ่งที่ซิ่วอิงแนะนำทั้งหมด

            เมื่อส่งคนไปตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าร้านตระกูลหนิงกักตุนสินค้าแล้วขายเกินราคาจริง

            หลายวันถัดมา จ้าวเฟยอู๋จึงเรียกซิ่วอิงมาพบ

            เพราะชายหนุ่มบอกว่าต้องการคุยเรื่องสำคัญ ซิ่วอิงจึงให้หงถงรออยู่ข้างนอก ภายในห้องทำงานจึงมีเพียงจ้าวเฟยอู๋กับซิ่วอิงแค่สองคน

            “ท่านอ๋องเรียกหาหม่อมฉันมีธุระอะไรหรือเพคะ” ซิ่วอิงถามด้วยใบหน้าใสซื่อ หากลึกๆ ก็พอเดาออกว่าเขาเรียกนางมาด้วยเรื่องอะไร

            “ข้าให้แม่ทัพเจิ้งไปตรวจสอบแล้ว ร้านตระกูลหนิงตุนสินค้าแลัขายเกินราคาจริง”

            “ท่านอ๋องจะจัดการต่ออย่างไรหรือ”

            “ข้ายกเลิกสัญญาซื้อขายที่ทำกับตระกูลหนิงทั้งหมด ให้พวกเขาชดใช้ค่าเสียหาย ถึงจะละเว้นชีวิตพวกเขา แต่จากนี้ไม่มีใครเชื่อใจหรืออยากทำการค้ากับร้านตระกูลหนิงอีกแล้ว พวกเขาคงอยู่แคว้นอู๋ต่อไปไม่ได้”

            “เพคะ”

            “แล้วก็ ข้าสั่งให้หยวนไห่เลือกคนที่ไว้ได้ ตั้งคณะพ่อค้าตามคำชี้แนะของเจ้า ส่วนเรื่องของนายกองหู ข้าอนุญาตให้เขาบุกเบิกพื้นที่รกร้างหลังค่ายเพื่อทำเกษตร และยังส่งทหารไปช่วย 100 นาย”

            “ดีมากเพคะ” ซิ่วอิงตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง มิหนำซ้ำ หัวใจยังสั่นไหวแปลกๆ เมื่อเห็นว่าจ้าวเฟยอู๋ฟังคำแนะนำของนางทุกอย่าง

            อันที่จริง ทั้งหมดนี้ซิ่วอิงได้รับคำแนะนำมาจากระบบอีกที 

            ตอนนั้นเอง จ้าวเฟยอู๋ลุกจากเก้าอี้ เดินเข้ามานั่งลงข้างๆ ซิ่วอิง ในมือถือกล่องใบหนึ่งมาด้วย

            ทันทีที่กล่องใบนั้นถูกเปิดออก ด้านในคือปิ่นหยกลายดอกไม้แสนงดงาม

            “ปิ่นหยกหรือเพคะ”

            จ้าวเฟยอู๋ไม่พูดไม่จา เพียงพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหยิบปิ่นหยกขึ้นมา ท่าทางเก้ๆ กังๆ ขณะตั้งใจจะปักหยกประดับบนมวนผมของนาง 

            ซิ่วอิงยืนนั่งหลังตรงแน่ว รอให้เขาปักปิ่นให้

            [ยินดีด้วย ในที่สุดก็ชนะใจจ้าวเฟยอู๋แล้ว!]

            จู่ๆ เสียงระบบก็ดังขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาซิ่วอิงสะดุ้งเบาๆ

            ‘อย่าโผล่มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงสิ ตกใจหมดเลย’

            [ไม่ใช่ว่าเจ้ากำลังใจลอยอยู่เหรอ คิกๆ]

            ‘.....’

            “หากเจ้าไม่ชอบปิ่นชิ้นนี้ ข้าจะซื้อ…”

            จ้าวเฟยอู๋เห็นท่าทางเกร็งๆ ของซิ่วอิงก็คิดไปว่า นางอาจไม่ชอบใจปิ่นหยกหรือเปล่า ตระกูลหวังร่ำรวย บางทีนางอาจจะชอบปิ่นทองคำมากกว่า

            แต่ชายหนุ่มยังพูดไม่จบ ซิ่วอิงก็กล่าวแทรกทันที

            “หม่อมฉันชอบปิ่นหยกเพคะ”

            ทันใดนั้น ดวงตาของชายหนุ่มก็ฉายแววลึกล้ำ แม้สีหน้าจะสงบนิ่ง

            [วิเคราะห์จากสายตา จ้าวเฟยอู๋กำลังหวั่นไหว]

            เสียงระบบดังขึ้นอีกครั้ง

            ประโยคนั้นประโยคเดียว ทำเอาหัวใจของซิ่วอิงเต้นแรง

            [โอย...เหม็นความรัก!] ระบบพูด

            ‘อย่าแซวกันสิ’ ซิ่วอิงโต้กลับระบบในใจ

            [เอ๋? ไม่ใช่เหรอ จ้าวเฟยอู๋หน้าตาก็หล่อ แถมยังเป็นคนดี ปกติก็ต้องหวั่นไหวอยู่แล้ว]

            [จริงๆ ก็ชอบเขานั่นแหละ แต่เก็บทรงสินะ]

            [แนะนำด้วยความปรารถนาดี ในเมื่อใจตรงกัน ทำไมไม่มีจ้าวอ๋องตัวน้อยให้เขาสักคนสองคนล่ะ ค่าความชอบกับฐานะจะได้สูงขึ้น]

            [ผู้ชายทรงนี้ เรื่องบนเตียงน่าจะเด็ดอยู่นะ!]

            เสียงร่าเริงของระบบดังในหัวไม่หยุด

            ถ้าระบบมีใบหน้า ซิ่วอิงคงเห็นว่าระบบกำลังยิ้มกริ่มอยู่แหงๆ

            ซิ่วอิงฟังไปพร้อมกับยิ้มอ่อน  

            หญิงสาวนั่งฟังระบบนิ่งอยู่หลายวินาที จึงดูเหมือนว่านางกับเขานั่งจ้องตากัน  

            ใบหูของจ้าวเฟยอู๋แดงเล็กน้อย ไม่นานนัก เขาก็กระแอมเบาๆ จากนั้นลุกขึ้นแล้วกลับไปนั่งที่หน้าโต๊ะทำงาน

            ซิ่วอิงดึงความคิดกลับ 

            หลังจากหมดธุระแล้ว หญิงสาวจึงขอตัวกลับ

            อย่างไรก็ตาม การชนะใจจ้าวเฟยอู๋ครั้งนี้ล้วนเป็นแผนของซิ่วอิงกับระบบ  

            …..

            …..

            ย้อนกลับมาทางด้านของเฉินเหนียง ทั้งกลัดกลุ้มใจและร้อนรนเมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน

            ทั้งที่ตั้งใจกลั่นแกล้งทำให้พระชายาทนอยู่กับจ้าวอ๋องนี้ต่อไม่ได้ แต่กลับกัน ซิ่งอิงคนนั้นกลับสร้างความดีความชอบให้ท่านอ๋องตั้งหลายอย่าง

            ท่านอ๋องไม่เพียงสนิทชิดเชื้อกับพระชายามากขึ้น ทั้งบ่าวไพร่ ทั้งทหารในค่ายต่างให้ความเคารพยำเกรงผู้หญิงต่างแคว้นคนนั้น

            ขืนยังเป็นแบบนี้ เจ้านายตัวจริงที่อยู่เมืองหลวงจะต้องตกกระป๋องเป็นแน่

            ก่อนจะได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าสาวใช้ เดินทางมารับเจ้าสาวที่เมืองกัวหลินร่วมกับคณะเดินทางของจ้าวอ๋อง  

            เจ้านายตัวจริงสั่งไว้ ทำอย่างไรก็ได้ให้ความสัมพันธ์ระหว่างท่านอ๋องกับพระชายาแตกหัก จนทำให้พระชายาอยากหนีกลับแคว้นเฉา

            เฉินเหนียงกลั่นแกล้งก็แล้ว ปล่อยให้พระชายาใช้ชีวิตยากลำบากก็แล้ว พูดจากดขี่ข่มเหงอีกฝ่ายก็แล้ว แต่เหมือนซิ่วอิงคนนั้นจะไม่รู้สึกรู้สา

            ตรงกันข้าม ยิ่งนานวันพระชายากลับยิ่งชนะใจจ้าวอ๋อง  

            ทำไมทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่คิด

            หรือต้องจ้างคนมาฉุดพระชายาจะได้จบๆ ไป!

            คิดมาถึงตรงนี้ เฉินเหนียงก็ผุดความคิดดีๆ ขึ้นมาได้

            ล่อลวงให้พระชายาหนีออกจากแคว้นอู๋ก็ไม่เลวเหมือนกัน ถ้าไม่ยอมหนีก็ค่อยฉุด แล้วสร้างหลักฐานเท็จ ทำทีเป็นว่าพระชายาหนีกลับแคว้นเฉาเอง

            ไม่เลว ไม่เลวเลย!!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ชายาเชลยผู้เฉิดฉายกับระบบฝึกหัด(เลเวลตัน!)   บทที่ 29 บทพิเศษ

    ณ ตำหนักหมิง ซิ่วอิงกำลังตรวจสอบรายการบัญชีประจำเดือนของจวนอ๋อง อ่านไปได้นิดเดียวก็ต้องนวดขมับเพราะตาจะปิด แถมช่วงนี้เหมือนอ่อนเพลียง่ายด้วย พอเป็นแบบนี้ นางจึงอยากกินอะไรเปรี้ยวๆ อาจช่วยให้ตาสว่างขึ้นก็ได้ ตอนนั้นเอง เสียงของหงถงดังขึ้นที่หน้าประตู “พระชายาเพคะ หม่อมฉันมาแล้วเพคะ” “หงถงจ๋า เจ้ามาช้ามาก รีบมาเร็วๆ” ซิ่วอิงรีบกวักมือเรียกหงถง ครั้นเห็นมะนาวพริกเกลือที่หงถงถือเข้ามาในปากก็น้ำลายสอ ทันทีที่หงถงยื่นจานมะนาวพริกเกลือให้ ซิ่วอิงก็หยิบมะนาวที่หั่นเป็นแว่น โรยด้วยพริกและเกลือ แล้วส่งเข้าปาก รสเปรี้ยวเข็ดฟันทำให้ตาสว่างทันที “อ่า…สดชื่น!” หงถงยิ้มจางๆ ท่าทางของพระชายาไม่ปกติจริงๆ ด้วย เพิ่งคิดอย่างนั้ง หน้าประตูก็มีเสียงของซุยเหลียนกับหมอเจียง เมื่ออนุญาตให้ทั้งสองเข้ามา หมอเจียงวางกล่องยาลง ก่อนจะประสานมือก้มหน้าพร้อมกับกล่าว “ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอจับชีพจรพระชายาสักหน่อยได้หรือไม่” “ท่านหมอคิดว่าข้าป่วยงั้นเ

  • ชายาเชลยผู้เฉิดฉายกับระบบฝึกหัด(เลเวลตัน!)   บทที่ 28 บทพิเศษ

    บทที่ 28 บทพิเศษ หลายเดือนต่อมา เข้าสู่ฤดูหนาว ชีวิตคู่ของซิ่วอิงกับจ้าวเฟยอู๋ช่วงนี้ค่อนข้างสงบและเรียบง่าย ชายหนุ่มออกไปทำงานที่นอกจวนตั้งแต่เช้าทุกวัน กลับจวนอีกครั้งก็เป็นช่วงเย็น ส่วนซิ่วอิงจะคอยดูแลความเรียบร้อยในจวน ตอนนี้ตำแหน่งพระชายาของซิ่วอิงมั่นคงมากกว่าเมื่อก่อน เนื่องจากจ้าวเฟยอู๋ได้ประกาศมอบสิทธิ์ขาดในการดูแลจวนให้กับนางด้วยตัวเอง บ่าวไพร่ในจวน นอกจากจะยอมรับซิ่วอิง พวกเขายังให้การเคารพนางด้วยเช่นกัน ความเป็นอยู่ของซิ่วในจวนอ๋องจึงไม่มีอะไรให้ต้องกังวล หากจะติดก็คงมีเพียงเรื่องเดียว นั่นก็นั่นคือเรื่องเจ้าตัวเล็กที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะมาเกิด แต่แล้วในวันหนึ่ง… “พี่หงถง คือว่านะ ข้าสงสัยเรื่องอาหารว่างของพระชายาวันนี้ เลยอยากถามพี่สักหน่อย” ในตอนที่หงถงมายกของว่างของพระชายาที่ห้องครัว เสี่ยวหลัวอดสงสัยไม่ได้จึงรั้งหงถงเพื่อจะถาม เสี่ยวหลันคือสาวใช้ที่ซุยเหลียนเลือกให้มาทำงานในตำหนักหมิง คอยดูแลเรื่องอาหารของพระชายาโดยเฉพาะ “อืม เ

  • ชายาเชลยผู้เฉิดฉายกับระบบฝึกหัด(เลเวลตัน!)   บทที่ 27 บทส่งท้าย

    บทที่ 27 บทส่งท้าย ผ่านมาอีกหลายสิบวัน กลางฤดูใบไม้ร่วง สายลมเย็นสบาย อากาศสดชื่นกำลังดี ในช่วงนี้ แคว้นอู๋กำลังจัดงานเทศกาลหยวนเซียว แม้จะเป็นยามค่ำคืน แต่ทั่วทั้งเมืองหลวงกลับสว่างไสวด้วยโคมไฟนับหมื่นดวง งานเทศกาลมีทั้งหมดสามวัน นับตั้งแต่งานเทศกาลเริ่มขึ้น บนท้องถนนกลางเมืองหลวงก็พลุกพล่านไปด้วยผู้คน เด็กๆ พากันถือโคมไฟรูปสัตว์ ยิ้มแย้มสนุกสนาน คนหนุ่มสาวเดินเคียงคู่ เที่ยวงานเทศกาลกันหวานชื่น งานเทศกาลวันที่สอง ช่วงหัวค่ำ จ้าวเฟยอู๋พาซิ่วอิงออกมาเที่ยวงานเทศกาลโคมไฟเช่นกัน ระหว่างเดินชมงานเทศกาล สายตาลึกล้ำของชายหนุ่มมักจะหลุบมองภรรยาสาวที่เดินข้างๆ อยู่เป็นระยะ “งานเทศกาลชมโคมของแคว้นอู๋สวยหรือไม่” จ้าวเฟยอู๋ถามซิ่วอิงด้วยความเอาใจใส่ ซิ่วอิงที่หันซ้ายหันขวา มองความงดงามของโคมไฟที่ห้อยระย้าเต็มสองข้างทางอย่างตื่นตาตื่นใจ พอถูกสามีถาม นางก็รีบพยักหน้ารัวๆ แล้วตอบอย่างตื่นเต้น “สวยเพคะ สวยมากๆ อยากให้มีงานแบบนี้ทุกคืนเลยเพคะ!” จ้าวเฟยอู๋ได้ฟังอย่างนั

  • ชายาเชลยผู้เฉิดฉายกับระบบฝึกหัด(เลเวลตัน!)   บทที่ 26 คลี่คลาย

    บทที่ 26คลี่คลาย โทษทัณฑ์ที่เจียวจูจะได้รับย่อมหนีไม่พ้นความตาย! ตอนที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัว ในอกของซิ่วอิงเกิดความสลดและเศร้าใจ แต่ทว่า… หากลองคิดกลับกัน ถ้าการใส่ร้ายของเจียวจูสำเร็จ คนที่ต้องตายย่อมเป็นซิ่วอิง ทันทีที่คิดได้อย่างนั้น ซิ่วอิงขนลุกซู่ ความเห็นใจที่มีต่อเจียวจูพลันมลายหายไปสิ้น ในตอนนั้นเอง เสียงของขุนนางคนหนึ่งก็ดังขึ้นมา “วางยาในอาหาร สร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย ยังเป็นความผิดที่พออภัยให้ได้ แต่ขโมยสมบัติของแคว้นอู๋ออกจากห้องลับ เรื่องนี้ยากให้อภัยพ่ะย่ะค่ะ” “ถูกของใต้เท้าเหอ เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงความสงบสุขของแคว้นอู๋ ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ โปรดตัดสินโทษของคุณหนูเจียวจูด้วยเถิด” “โปรดตัดสินโทษคุณหนูเจียวจูด้วยเถิด” ขุนนางคนอื่นๆ ต่างประสานเสียงพูดพร้อมเพรียง ซิ่วอิงสัมผัสได้ว่าน้ำเสียงของเหล่าขุนนางเต็มไปด้วยความโกรธ ฝ่ายจ้าวเฟยอู๋มุ่นหัวคิ้วพลางกุมขมับด้วยสีหน้าหนักใจ เขาคิดกับเจียวจูไม่ต่างจากน้องสาวแท้ๆ แต่ใครจ

  • ชายาเชลยผู้เฉิดฉายกับระบบฝึกหัด(เลเวลตัน!)   บทที่ 25 ยอมรับชะตากรรม

    บทที่ 25ยอมรับชะตากรรม “ข้าไม่รู้หรอกว่าทำอะไรให้คุณหนูเจียวจูไม่พอใจ ถึงได้มาใส่ร้ายข้าเช่นนี้” ซิ่วอิงพูดกับเจียวจูด้วยท่าทีสงบเยือกเย็น เจียวจูแค่นเสียงเฮอะ บอกให้ซิ่วอิงมองชายที่ถูกจับมัดให้ชัดๆ ซิ่วอิงทำทีเป็นมองชายที่ถูกมัดซ้ำๆ ก่อนจะพูดกับเจียวจูด้วยสีหน้าเฉยเมย “ให้มองยังไงข้าก็ไม่รู้จักชายคนนี้อยู่ดี ว่าแต่เจ้าเถอะ ไม่ใช่ว่าไปจับชาวบ้านบริสุทธิ์มาแสดงละครตบตาท่านอ๋องหรอกนะ” “อย่าเสแสร้งหน่อยเลย เขาคือคนที่ลอบเข้ามาในตำหนักหมิง รับแผนผังเมืองหลวงของแคว้นอู๋จากมือของเจ้าเองไม่ใช่หรือ” “นอกจากบ่าวในจวน ข้าไม่เห็นจำได้ว่าติดต่อกับคนอื่นด้วย” “เฮอะ!” เจียวจูแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะเดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ยื่นม้วนกระดาษเก่าๆ ในมือให้จ้าวเฟยอู๋ “ท่านอ๋อง นี่เป็นหลักฐานที่หม่อมฉันค้นเจอในตัวของคนร้าย เชิญตรวจสอบดูก่อนเพคะ” แผนผังเมืองหลวงแคว้นอู๋เป็นของสำคัญ แค่มองแวบเดียวจ้าวเฟยอู๋ก็จำได้แล้วว่าเป็นของจริงปลอม สมบัติชิ้นสำคัญอย่างแผนผังของแคว้น ปกติควรอยู่ในห้องลับ แต่ทำไมถึงอ

  • ชายาเชลยผู้เฉิดฉายกับระบบฝึกหัด(เลเวลตัน!)   บทที่ 24 แผนการอันโง่เขลา

    บทที่ 24แผนการอันโง่เขลา เข้าสู่ต้นฤดูใบไม้ร่วง คำสั่งทำอ่างเก็บน้ำและสร้างฝายชะลอน้ำถูกส่งไปยังเมืองต่างๆ ในช่วงนี้งานของจ้าวเฟยอู๋ค่อนข้างยุ่ง รถม้าของเขาจะออกจากจวนตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น กลับเข้ามาอีกครั้งก็เป็นตอนที่ทุกคนหลับหมดแล้ว ถึงแม้โครงการสร้างอ่างเก็บน้ำที่ซิ่วอิงเสนอไปจะคืบหน้าเป็นอย่างมาก แต่กลับได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่รักน้อยลง เรื่องนี้ทำให้ซิ่วอิงทรมานหัวใจไม่น้อยเหมือนกัน “เฮ้อ…คิดถึงจัง” ซิ่วอิงทอดถอนหายใจ พร้อมกับพูดความคิดที่อยู่ในใจออกมาโดยไม่รู้ตัว [นี่ๆ ความคิดของเจ้าเผยออกมาเป็นคำพูดหมดแล้ว] ระบบเอ่ยเตือน ‘หา!?’ ซิ่วอิงสะดุ้ง รีบเลื่อนสายตามองหงถงและองครักษ์ จริงอย่างที่ระบบพูด พวกเขาต่างยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างไม่ปิดบังสีหน้ากันเลยสักคน “พระชายาเพคะ ในเมื่อคิดถึงท่านอ๋องขนาดนี้ ทำไมไม่ไปหาท่านอ๋องเล่า จริงด้วย…เตรียมของอร่อยๆ ไปด้วยก็ดีนะเพคะ” หงถงเสนอ “เดี๋ยวนี้หงถงของข้ากลายเป็นกุนซือความรักไปแล้วหรือ” ซิ่วอิงแกล้งพู

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status