มนุษย์ทุกคนย่อมได้รับผลจากการกระทำของตนเอง หนิงอันเพิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้ก็วันนี้ นางยืนอึ้งขณะมองงานเลี้ยงส่งแปลก ๆ ที่อยู่ตรงหน้า
“ท่านลุงเซ่า นี่ออกจะเยอะเกินไปหรือไม่”
หนิงอันเพิ่งมาถึงทางเหนือได้ไม่นาน นางลืมไปแล้วว่าแถบนี้หนาวเย็นกว่า แม้จะใช้เวลาเดินทางจากเมืองที่เคยอยู่มาไม่ไกล ยิ่งนอกเมืองก็ยิ่งหนาวเย็นเพราะมีต้นไม้เยอะ ดังนั้นพอมาถึงก็ดันหนาวสั่นจนต้าเซ่าทนไม่ได้ มอบเสื้อผ้าให้กองโต
“ของเก่าขายไม่ได้แล้ว แม้จะขายก็ได้ไม่มาก เจ้าเอาไปใส่เถอะ”
หนิงอันอ้าปากสั่น ๆ เมื่อมือใหญ่พยายามยัดผ้าคลุมขนจิ้งจอกอย่างดีในมือให้นางอย่างไม่ยอมให้ปฏิเสธ รู้สึกว่าไม่น่าบอกเขาเลยจริง ๆ
ก่อนหน้านี้พอเริ่มรู้สึกหนาว หนิงอันก็เพียงเปรยว่า บิดาสัญญากับนางปีนี้จะล่าจิ้งจอกเอาหนังมาทำผ้าคลุมให้ แต่เขากลับตายจากไปก่อน ต้าเซ่าที่คิดว่าตนเป็นญาติผู้ใหญ่ของหนิงอันไปแล้วคงอยากจะชดเชยให้นางจึงทำเช่นนี้ แต่นี่มันมากเกินไป
“ไม่มากไปหรอก ต่อไปเจ้ากตัญญูต่อข้าก็เพียงพอ”
“ทั้งที่ท่านยังไม่รู้จักข้าดี เหตุใดจึงไว้ใจข้าถึงเพียงนี้” เดินทางมาด้วยกันเพียงสองวัน แต่ต้าเซ่าดีกับนางจริง ๆ
“อย่าพูดมากแล้วรับไปเถอะ”
“แต่ข้าจะขนทั้งหมดนี่ไปไว้ที่ไหน” ว่าแล้วก็หันมองเสื้อผ้ากองเป็นภูเขา นี่คือที่ต้าเซ่ารื้อออกมาจากกองคาราวาน ตอนแรกมันก็ยัดอยู่ในรถม้าดี ๆ ตอนนี้กลับมากองตรงหน้านางแล้ว
“เช่นนั้นต่อไปจวนข้าจะมีเรือนของเจ้าหลังหนึ่ง เมื่อต้องการเสื้อผ้าก็แวะมาเปลี่ยนได้” ชายตัวโตหูแดงเล็กน้อยขณะพูด
ตอนนี้หนิงอันอยู่ในจวนของต้าเซ่าซึ่งอยู่ในเมืองทางเหนือ คราแรกนางต้องการแยกทางกับเขาตั้งแต่เข้าเมืองมา แต่ท่านลุงหน้าโหดไม่ยอมจะพานางกลับบ้านให้ได้ หญิงสาวจึงต้องตามมา
มองไปรอบ ๆ จวนหลังนี้แม้ไม่ใหญ่มากแต่เมื่อเทียบค่าครองชีพคาดว่าต้องใช้เงินจำนวนมากกว่าจะได้มา ต้าเซ่าคงร่ำรวยไม่น้อย
หนิงอันไม่คิดเปิดโปงแผนการเล็ก ๆ น้อย ๆ ของชายวัยกลางคน ที่แท้เขาก็ต้องการให้นางมีเรือนของตนเองในจวนเขาตั้งแต่แรก กลับเอาเรื่องเสื้อผ้ามาเป็นข้ออ้าง ช่างเป็นท่านลุงหน้าโหดที่น่าเคารพรักเสียจริง
“ขอบคุณท่านลุงที่เมตตา บุญคุณนี้หนิงอันไม่มีวันลืม”
“แวะมาเยี่ยมข้าบ้างก็พอ แค่ก ๆ ข้าหมายถึงมาเปลี่ยนชุดเมื่อต้องการได้เสมอ เรือนนี้เป็นของเจ้า ตั้งแต่บ่าวหน้าประตูยันพ่อบ้านก็รู้แล้วว่าเจ้าเป็นหลานสาวของข้า” คนตัวโตหันไปพยักหน้าให้พ่อบ้านของจวน พ่อบ้านชราหันมองคุณหนูคนใหม่เพื่อจดจำ ทั้งยังสงสัยว่านางทำอย่างไรจึงได้ใจคนใจแข็งเช่นนายท่านของตน
“ท่านลุงไม่ต้องลำบากเพื่อข้า…อย่างไรหากท่านลุงอยู่ที่นี่ข้าย่อมแวะมาเยี่ยมเยือนอย่างแน่นอน”
“แค่ก ๆ นี่ก็ค่ำแล้ว จัดเตรียมสำรับเถอะ” ต้าเซ่าวางมาดเจ้าบ้านหันไปสั่งพ่อบ้านชรา เขารับคำแล้วเดินจากไป ส่วนคนตัวโตทำท่าละล้าละลังอยู่ไม่นานก็เอ่ยปาก
“นี่ก็ดึกแล้วเจ้าพักที่เรือนของเจ้าเสียก่อนในคืนนี้ ตอนเช้าค่อยออกไปตามหาลุงของเจ้าเป็นอย่างไร”
“ขอบคุณท่านลุงที่เมตตา เช่นนั้นข้าต้องรบกวนท่านก่อนแล้ว” หนิงอันไม่ปฏิเสธ นางคิดที่จะมีชีวิตยืนยาว และมีเป้าหมายอีกอย่างคือการกตัญญูต่อท่านลุงต้าเซ่าแทนบุตรสาวของเขาเอง
หลังรับประทานอาหารเย็นหนิงอันก็แยกย้ายไปนอน เรือนพักนี้สงบอบอุ่นและปลอดภัยทำให้หญิงสาวหลับสบาย กว่าจะตื่นก็สายเสียแล้ว
หากว่าผู้หญิงคนเดิมของเขายังเป็นหนิงอันผู้แสนดี ร่าเริง และเป็นดั่งแสงสว่างอยู่เสมอเช่นนี้ เขาก็ไม่สามารถรักใครได้อีก“ความสงบเดียวของข้ากำลังจะจากไป อย่ามาทำเสียงวุ่นวายข้างหูข้าอีก!” ชุนหรงปลดปล่อยความกดดัน แต่ดูเหมือนหัวหน้าองครักษ์เงาจะไม่กลัว แม้กระอักเลือดออกมาคำโตก็ยังพูดต่อ“แค่ก ๆ นายท่าน นี่เกี่ยวกับหญิงสาวที่หอนางโลม”“เกิดอะไรขึ้นกับนาง…ผู้อาวุโสสาม?”ชุนหรงหันไปมอง ก่อนจะชะงักไป เขาผุดลุกขึ้นและมุ่งหน้าไปยังหอนางโลมทันที‘หนิงอัน อย่าเป็นอะไรไปนะ’เห็นท่าทางร้อนใจของนายท่านองครักษ์เงาก็รีบตามไปขณะเดียวกันก็เล่าสิ่งที่เขาสืบพบขึ้นมา“ผู้อาวุโสสามต้องการใช้ยาควบจิต เพื่อควบคุมจิตใจและทำให้นางหลงไหลในตัวท่าน นายท่าน…เขาต้องการใช้นางเป็นหุ่นเชิดเพื่อควบคุมท่านอีกทีต่างหาก”“บัดซบ!” ชุนหรงหน้ามืดจนเท้าลื่น เกือบจะตกจากหลังคาบ้านใครก็ไม่รู้เด็ก ๆ ที่เงยหน้าขึ้นมองเห็นคนกระโดดผ่านไปล้วนแต่ตกใจร้องไห้จ้า องครักษ์เงาบางคนรีบเอาลูกกวาดไปหลอ
คิดแล้วก็อดขำในใจไม่ได้ตอนนั้นหนิงอันหัดปักผ้า คนแรกที่นางนึกถึงก็คือตัวเขา แต่ชุนหรงคิดว่านางมีชายคนอื่นที่ต้องการมอบผ้าเช็ดหน้าผืนแรกให้ ไหน้ำส้มเขาแตกใส่ตัวเองอย่างไม่รู้ตัวหลังจากนั้นเมื่อเห็นผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นทีไร ก็อดหัวเราะไม่ได้ทุกทีนางมีเพียงเขาในชีวิต เขาก็มีเพียงหนิงอันเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มรู้สึกว่าการที่ตนเองรักษาความบริสุทธิ์มาตลอดชีวิตนั้นคุ้มค่าอย่างยิ่ง และเขาพร้อมที่จะมอบมันให้หนิงอันแต่เพียงผู้เดียว“เป็นข่าวดีมาก ๆ ด้วย ท่านต้องร่วมยินดีกับข้านะ”มองหญิงสาวกินขนมอย่างเอร็ดอร่อย ดวงตาของเขาราวกับจะยิ้มได้ ชุนหรงไม่รู้ว่าเรื่องอะไรที่นางตื่นเต้นยินดีถึงเพียงนี้ แต่เขารู้สึกยินดีด้วยจริง ๆ“ข้ากำลังจะไถ่ตัวออกจากที่นี่ ข้ากำลังจะเป็นอิสระแล้ว!”คำถามแรกที่ผุดขึ้นในใจคือตนได้ยินผิดไปหรือไม่ เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้า ชุนหรงก็รู้ว่าตนไม่ได้ยินผิดไป หนิงอันต้องการไถ่ตัวออกจากหอนางโลมนี้จริง ๆ“...” เขาอยากจะถามว่าทำไม แต่บางอย่างตีบตันอยู่ในลำคอ ราวกับตนเองโดนคนที่รักมากทอดทิ้ง เขายังไม่ทันได้สา
แต่จนแล้วจนเล่า นอกจากเฝ้ามองห่าง ๆ ชุนหรงก็ไม่ได้ทำอะไรอีก เมื่อสังเกตเห็นว่าของมีค่าต่าง ๆ ไม่เข้าตาหญิงสาว เขาก็ตัดสินใจแอบดูเพื่อสังเกตว่านางชื่นชอบอะไรกันแน่ชายหนุ่มเกือบโมโหทันทีเมื่อได้ยินรายงาน“นางมักจะแอบนัดพบกับคนเฝ้าประตู มีการติดต่อกันอย่างลับ ๆ หลายครั้ง ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร นายท่านต้องการให้ข้าสอบสวนหรือไม่” องครักษ์เงาไม่ได้ทำเกินหน้าที่ เขาเกรงว่าผิดพลาดนิดเดียวจะโดนทำโทษ จึงกลับมารายงานก่อน“สอบสวนคนเฝ้าประตู” แน่นอนชุนหรงอยากรู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคืออะไร ตอนนี้ในใจเขาราวกับมีไฟเผา มันเป็นความรู้สึกราวกำลังมีคนต้องการแย่งของเล่นกับตนเอง และเขาไม่มีวันยอมให้ถูกแย่งไป“...” องครักษ์ลับกลับมาด้วยสีหน้าพูดไม่ออกเล็กน้อย“ตกลงได้ความว่ายังไง พวกเขาเป็นอะไรกัน”“คือ…คนเฝ้าประตูกล่าวทั้งน้ำตาว่า ทั้งคู่ไม่ได้เป็นอะไรกันจริง ๆ ขอรับนายท่าน”“เช่นนั้นมีเหตุผลอะไรต้องแอบลักลอบพบกัน!” ชุนหรงไม่เชื่อ ชายหญิงแอบพบกันในที่ลับตา จะมีอะไรไปได้น
ตอนพิเศษจอมมารกับนางโลมอันดับหนึ่งเลือดถูกชโลมลงบนพื้นไหลออกมาจากร่างที่เคยถูกกล่าวว่าเป็นสาวงามอันดับหนึ่ง สอง สาม หรืออันดับใดก็แล้วแต่เมื่อพวกนางเลือกที่จะปีนเตียง ‘จอมมาร’ ประมุขวังมารผู้นี้ก็ล้วนมีจุดจบเดียวมอบให้คือความตายแต่เพื่อให้ประมุขได้มีผู้สืบทอดต่อไปผู้อาวุโสเหล่านั้นยอมทำทุกวิถีทาง ในตอนแรกพวกเขาส่งลูกหลานของตนเองขึ้นมาเพื่อสั่งสมอำนาจ แต่หลังจากได้รับรู้ความโหดเหี้ยมไร้หัวใจของผู้เป็นนาย เหล่าผู้อาวุโสก็ไม่กล้าส่งลูกหลานไปตายอีกพวกเขาค่อย ๆ เลือกจากลูกหลานผู้ใต้บังคับบัญชา หญิงงามประจำเมืองและแคว้นต่าง ๆ องค์หญิงจนถึงบุตรสาวของขุนนางที่ต้องการอำนาจของวังมาร ทุกคนล้วนหลงกลคำลวงของเหล่าผู้อาวุโสและส่งลูกหลานซึ่งเป็นถึงหญิงงามมาตายคนแล้วคนเล่าที่รอดไปได้ก็กลายเป็นบ้า!ข่าวลือเริ่มหนาหูว่าท่านจอมมารไม่มีความรักหยกถนอมบุปผา อย่าว่าแต่ให้ถนอมเลย แค่ให้แตะต้องก็ว่ายากแล้วสุดท้ายเหล่าผู้อาวุโสก็ยอมแพ้ เวลาล่วงเลยไปกว่าห้าปีหลังจากที่ยอมแพ้เรื่องทายาทของผู้เป็นนาย ในที่สุดก็มีคนคิดเรื่อ
“จอมเผด็จการ”“นั่นคือคำจำกัดความโดยทั่วไปของจอมมาร” ชุนหรงลอยหน้าลอยตาอย่างน่าหมั่นไส้ สุดท้ายก็กลับเข้าเรื่องอีกครั้ง“ให้ข้าเล่าต่อ ในตอนนั้นพวกเขายอมแพ้ไปราวห้าปี แต่ก็เริ่มกลับมาหาวิธีอื่น”“วิธีอื่นคือส่งท่านเข้าหอนางโลม?” หนิงอันคิดว่าน่าจะเป็นเพราะเหตุนี้ทำให้นางได้พบกับชุนหรง คงต้องขอบคุณผู้อาวุโสเหล่านั้นจริง ๆ“ใช่” ไม่ปฏิเสธเลยว่าเพราะเหตุนั้นทำให้เขาได้พบกับภรรยาที่รัก นึกขอบคุณผู้อาวุโสเหล่านั้น คงต้องให้วันหยุดพวกเขาได้พักผ่อนอยู่กับครอบครัวบ้างเพื่อตอบแทน“ข้าได้พบกับเจ้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าไป มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นทำให้ข้าไปอยู่ตรงนั้น เจ้าอาจเข้าใจผิดว่าข้าคือองครักษ์ของหอนางโลมเนื่องจากเจ้าเพิ่งมาใหม่” หน้าตาของจอมมารเป็นที่รู้จักกันทั่วเมือง หลังจากวันนั้นเขาถึงได้เปลี่ยนชุดที่สวมจากดำเป็นขาวและสวมหน้ากากเพื่อเข้าหานาง“ท่านเลยปลอมตัวเพื่อเข้าหาข้า ท่านตกหลุมรักข้าตั้งแต่แรกพบ”“ใช่” ชุนหรงไม่ยอมรับเด็ดขาดว่าเป็นเพรา
กลับมาทางวังมาร เรือนลับของจอมมารตอนนี้บรรยากาศภายในเรือนเงียบลงเล็กน้อยเมื่อไม่มีต้าเซ่า หนิงอันขยับตัวลุกขึ้นเดินด้วยตัวเอง ชุนหรงก็รีบเข้าไปประคองนางเดินทันที“ข้าเดินเองได้”“ข้ารู้ แต่หากเป็นไปได้ข้าอยากอุ้มอาอันตลอดเวลาด้วยซ้ำ ถ้าเจ้าไม่ว่าอะไร”“ข้าตัวหนัก” หนิงอันกล่าวปฏิเสธกลาย ๆ“ไม่หนักแม้แต่น้อย แม้อาอันจะตัวใหญ่เท่าพ่อครัวใหญ่ของวังมาร ข้าก็ยังอยากอุ้มเจ้าอยู่ดี”หนิงอันไม่เคยเห็นพ่อครัวใหญ่ของวังมาร แต่เชื่อว่าเขาต้องเป็นชายร่างใหญ่รูปร่างอ้วนท้วมสมบูรณ์อย่างแน่นอน ให้นางอ้วนขนาดนั้นคงไม่ไหว ชุนหรงนี่ช่างเอาใจเหลือเกิน“อย่าคิดว่าพูดเอาใจแล้วข้าจะไม่คิดบัญชีกับท่าน”“...” ชุนหรงที่ถูกจับได้ ทำได้เพียงใช้สายตากลมโตไร้เดียงสามองหน้าว่าที่ภรรยาราวกำลังบอกว่า‘ข้าเป็นคนดีของศรีภรรยาคนเดียวจริง ๆ นะ’ “ในเมื่อเหลือแค่เราแล้ว เรามีเรื่องต้องคุยกัน”ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ของภรรยา คนเป็นสามีอย่างชุนหรงราวกับเกิดปฏิกริยาอย่างไม่รู้ตัว มือของเขาเริ่มอย