Share

บทที่ 8

ยังไม่ทันที่พวกเธอจะก้าวลงจากรถดีประตูบ้านหลังนั้นก็เปิดออกอีกครั้ง ชายร่างสูงในชุดลำลองแต่ยังคงท่วงท่าสง่างามแบบทหารเดินออกมายิ้มต้อนรับ

"ซินซิน ในที่สุดเธอก็มาถึงเสียทีนะ!" เฉินลี่ฮวารีบเข้ามาสวมกอดเพื่อนรักของเธอด้วยความดีใจ "ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้นนะ ต่อไปนี้ที่นี่คือบ้านของเธอ"

จากนั้นเธอก็หันมาแนะนำครอบครัว "นี่คุณเจิ้งหรง สามีของฉัน ส่วนนี่ก็หวงเหม่ย ลูกสาวคนเล็กจ้ะ ฉันยังมีลูกชายอีกคนหนึ่งตอนนี้เขาออกไปเล่นกับเพื่อนอายุน่าจะพอ ๆ กับซูอวี้นี่แหละ หากแม่บุญธรรมจำไม่ผิดหนูน่าจะเกิดเดือนสี่ใช่ไหม จิงจิงของแม่เกิดเดือนหก ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะเป็นน้องของหนูสองเดือน" ความเป็นกันเองของแม่บุญธรรมที่หานซูอวี้จำได้เลือนรางเมื่อครั้งยังเด็กทำให้เธอผ่อนคลายลง

"สวัสดีค่ะแม่บุญธรรม พ่อบุญธรรม" หานซูอวี้โค้งคำนับให้คนทั้งคู่อย่างนอบน้อม ก่อนจะหันไปทักทายเด็กหญิงตัวน้อยอายุราวหกขวบที่กำลังยืนแอบอยู่ด้านหลังแม่ของตนอย่างเขินอาย

ทางด้านหวงเจิ้งหรงก็เอ่ยทักทายเด็กหญิงออกมาอย่างเป็นกันเอง "สวัสดีหนูซูอวี้ เดินทางมาเหนื่อย ๆ เข้าไปพักในบ้านก่อนเถอะ" รอยยิ้มของชายหนุ่มลูกสองเต็มไปด้วยความอบอุ่นต้อนรับสองแม่ลูกผู้พลัดถิ่น

ครอบครัวหวงช่วยกันขนสัมภาระของสองแม่ลูกเข้าไปในบ้านด้วยความเต็มใจ เฉินลี่ฮวาจัดแจงพาแม่และเธอไปยังห้องนอนที่เตรียมไว้ให้

ซึ่งเป็นห้องที่สะอาดสะอ้านและดูสบายกว่าบ้านหลังเก่าของพวกเธอมากนัก บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความจริงใจและความอบอุ่นนี้ทำให้หลิวซินอดกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

หลังจากจัดของเข้าที่ได้ไม่นานหานซูอวี้ก็สังเกตเห็นว่าแม่ของเธอกับแม่บุญธรรมกำลังนั่งจับมือพูดคุยถึงเรื่องราวที่ผ่านมากันอย่างออกรส ด้วยความเข้าใจว่าผู้ใหญ่คงอยากจะมีเวลาส่วนตัว เธอจึงเอ่ยขอตัวออกมาเดินเล่นสำรวจรอบ ๆ หมู่บ้านทหารแห่งนี้ บรรยากาศในหมู่บ้านนั้นสงบและเป็นระเบียบอย่างที่คิด ถนนหนทางสะอาดสะอ้าน มีต้นไม้ร่มรื่นตลอดสองข้างทาง

เธอเดินเล่นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงลูกบาสกระทบพื้นดังมาแต่ไกลนำพาเธอมาจนถึงสนามบาสเกตบอล ค่อนข้างเก่าแห่งหนึ่ง ที่นั่น...มีเด็กผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกันประมาณห้าหกคนกำลังวิ่งไล่ลูกบาสกันอย่างสนุกสนาน

หานซูอวี้ยืนมองพวกเขาเล่นอยู่ข้างสนามด้วยความสนใจ ในใจพลันรู้สึกถึงความสงบสุขที่ห่างหายไปนาน ทันใดนั้นเอง! ลูกบาสลูกหนึ่งก็กระดอนหลุดออกมาจากวงและพุ่งตรงมาทางที่เธอยืนอยู่พอดิบพอดี!

ตามสัญชาตญาณของคนที่ผ่านโลกมาแล้วรอบหนึ่ง หานซูอวี้ไม่ได้มีท่าทีตกใจ เธอเพียงแค่ยื่นมือออกไปข้างหน้าคว้าหมับเข้าที่ลูกหนังที่ลอยมานั้นไว้ได้อย่างพอดิบพอดีและนุ่มนวลราวกับมันเป็นเรื่องง่ายดาย

เด็กวัยเดียวกันในสนามหยุดชะงัก หันมามองเธอเป็นตาเดียวกัน "เฮ้! ส่งบอลมาหน่อย!" หนึ่งในนั้นตะโกนขึ้น

หานซูอวี้มองแป้นบาสที่อยู่ห่างออกไปค่อนข้างไกล...คะเนจากสายตาน่าจะเกินสามเมตร โดยไม่ได้คิดอะไรมากนัก เธอเพียงแค่ใช้ข้อมือสะบัดส่งลูกบาสนั้นกลับคืนไปยังทิศทางของแป้น

ฟุ่บ!

ลูกบาสลอยโค้งเป็นวิถีงดงามก่อนจะร่วงลงห่วงไปอย่างแม่นยำจนเกิดเสียงตาข่ายสะบัดเบา ๆ!

เกิดความเงียบกริบขึ้นในสนามบาสแห่งนั้นชั่วขณะ เด็กชายทั้งห้าหกคนต่างอ้าปากค้างพลางมองมาที่เธอด้วยสายตาเหลือเชื่อ ผู้หญิงที่ไหนกันโยนลูกจากระยะไกลขนาดนั้นลงห่วงได้อย่างง่ายดายปานนั้น!

ความตกตะลึงเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความทึ่งและความชื่นชม เด็ก ๆ กลุ่มนั้นพากันวิ่งกรูกันเข้ามาหาเธอ

"สุดยอด! เธอทำได้ยังไงน่ะ!" เด็กชายคนหนึ่งที่ดูสนุกสนานและเป็นมิตรที่สุดเอ่ยทักขึ้นก่อนใคร "ฉันชื่อหวงจิงนะ แล้วเธอล่ะ?"

หานซูอวี้เลิกคิ้วสูง ทวนชื่อของเขาในใจ...หวงจิง? ลูกชายของแม่บุญธรรมนี่เอง "ฉันชื่อหานซูอวี้ เพิ่งย้ายมาวันนี้"
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   บทที่ 322

    กลับมายังปัจจุบัน "ในตอนนั้นแม่เล่าว่า...เธอยิ้มออกมาทั้งน้ำตาทีเดียวค่ะ ให้กับคำพูดของเพื่อนรักที่ตัวเองก็ท้องแก่ใกล้จะคลอดแต่ก็ยังมาเยี่ยมตัวเอง และหลังจากนั้นแม่บุญธรรมก็มักจะนำสิ่งของรวมถึงเงินเท่าที่หล่อนจะแบ่งได้มาให้ฉันอยู่ตลอด จนกระทั่งเธอมีลูกคนที่สองและฉันเริ่มโตขึ้นและแม่หาเงิ

  • ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   บทที่ 321

    หลายปีผ่านไป...หลังจากที่เปลวไฟแห่งโศกนาฏกรรมได้มอดดับลง และบาดแผลทั้งหมดได้รับการเยียวยาด้วยกาลเวลาและมิตรภาพภายในเรือนสี่ประสานในบ่ายวันหยุดสุดสัปดาห์ที่แสนจะสงบสุข... เสียงหัวเราะของเด็กแฝดชายหญิงที่ได้เติบโตขึ้นมากกำลังวิ่งเล่นอยู่ในสวน...คือบทเพลงที่ไพเราะที่สุดของบ้านหลังนี้และในวั

  • ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   บทที่ 320

    "หวงจิง! ดูหวังเฉียง! เขามีแผลไฟไหม้รุนแรง!" "อู๋ถิง! ดูจ้าวลี่! ระวังเรื่องบาดเจ็บที่ศีรษะและกระดูกสันหลัง!" ทั้งหวงจิงและอู๋ถิงทำงานกันอย่างคล่องแคล่วแม้ว่าจะตกตะลึงกับอาการของเพื่อน ทว่ามือของพวกเขาก็ทำงานไม่หยุด หลังตัดชุดดับเพลิงที่เสียหายออกและประเมินบาดแผลรวมถึงเปิดเส้นเลือดให้สาร

  • ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   บทที่ 319

    "ทุกคน! สวมหน้ากากป้องกันสารพิษ! ห้ามถอดออกเด็ดขาด!" เสียงที่เด็ดขาดของเกาซูอวี้ดังขึ้นเป็นคำสั่งแรก...เธอรู้ดีว่าควันที่มองเห็นตรงหน้านั้น...เต็มไปด้วยสารเคมีอันตราย ทีมแพทย์ภาคสนามทั้งหมดรีบสวมหน้ากากป้องกันอย่างรวดเร็ว...ก่อนที่พวกเขาจะพุ่งตัวเข้าไปในความโกลาหลเบื้องหน้าที่เต็มไปด้วยภ

  • ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   บทที่ 318

    หวงจิงและอู๋ถิงมองหน้ากัน...ก่อนจะพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง...ซึ่งพวกเขาคือผู้ที่เหมาะสมมากที่สุด "ฉันจะไป" "ฉันไปด้วย" และในตอนนี้การตัดสินใจที่กล้าหาญเป็นอย่างมาก...ได้เกิดขึ้นแล้วโดยที่พวกเขาทั้งหมดไม่ได้รู้เลยว่า...การรวมตัวกันครั้งนี้จะเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับสหายของพวกเขาต้องเผชิญ

  • ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   บทที่ 317

    กลางดึกสงัดของกรุงปักกิ่ง...ท่ามกลางการหลับใหลของผู้คน ฉับพลันในวินาทีนั้นได้มีเสียงสัญญาณเตือนภัยระดับสูงสุดดังขึ้นกึกก้อง...ทำลายความเงียบของสถานีดับเพลิงในเขตชานเมือง หวังเฉียงกับจ้าวลี่...สองสหายนักดับเพลิง...กระโจนออกจากเตียงพักผ่อน...แล้วรูดเสาลงมายังชั้นล่างด้วยความเร็วสูงสุดพวกเข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status