แชร์

ตอนที่ 10 สัญญาณร้ายใต้สายฝน

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-20 19:30:19

หลังจากวันที่จื่อเหยาได้เชือดไก่ให้ลิงดูโดยการจัดการพ่อบ้านสวีจนอยู่หมัด ชีวิตความเป็นอยู่ในเรือนเมฆาคล้อยของนางกับเสี่ยวชุนก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างแท้จริง

            สำรับอาหารที่ถูกส่งมาในแต่ละมื้อล้วนเป็นข้าวสวยร้อน ๆ พร้อมกับข้าว และเนื้อปลาอย่างดี เสื้อผ้าที่เคยขาดปะก็ถูกแทนที่ด้วยชุดใหม่ที่สะอาดสะอ้าน

            แม้จะไม่หรูหราเท่าในจวนใหญ่แต่ก็ถือว่าดีที่สุดเท่าที่เรือนพักแห่งนี้จะหาได้ เบี้ยหวัดรายเดือนที่เคยถูกยักยอกไปก็ถูกนำมามอบให้ถึงมืออย่างครบถ้วน

            บ่าวไพร่คนอื่น ๆ ไม่มีใครกล้าแสดงท่าทีดูแคลนนางอีกต่อไป อีกทั้งทุกครั้งที่พบนาง ผู้คนเหล่านี้ก็จะรีบก้มหน้าหลีกทางให้ด้วยความยำเกรง

            ความสงบสุขที่ได้มาอย่างไม่คาดฝันนี้ทำให้จื่อเหยามีเวลาได้ฟื้นฟูร่างกายอย่างเต็มที่ นางดื่มยาถอนพิษที่ปรุงขึ้นเองทุกวัน และเริ่มฝึกกายบริหารแบบผสมผสานเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายที่อ่อนแอของตนอย่างต่อเนื่อง

            แต่แล้วความสงบสุขนั้น...ก็อยู่ได้ไม่นาน ทั้งนี้เป็นเพราะหลายวันต่อมาท้องฟ้าเหนือเรือนเมฆาคล้อยก็เริ่มมืดครึ้ม ก่อนที่สายฝนจะโปรยปรายลงมาและมันก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลย

            ฝนตกหนักติดต่อกันสามวันสามคืนเต็ม เสียงฝนที่กระหน่ำหลังคาดังราวกับเสียงกลองศึกที่ไม่เคยหยุดพัก ลานดินหน้าเรือนพักกลายเป็นทะเลโคลนเฉอะแฉะ

            ลำธารท้ายหมู่บ้านที่เคยใสสะอาดบัดนี้กลับเอ่อล้นไปด้วยน้ำป่าสีขุ่นคลั่ก บรรยากาศอบอวลไปด้วยความชื้นแฉะและกลิ่นดินกลิ่นหญ้าที่ดูเหมือนจะพาให้ผู้คนรู้สึกหดหู่และไม่สบายตัว

            ในวันที่สี่ ขณะที่สายฝนยังคงตกพรำ ๆ อยู่ด้านนอก จื่อเหยากำลังนั่งอ่านตำราประวัติศาสตร์ที่นางให้วิญญาณป้าจางไปหยิบยืมมาจากห้องของพ่อบ้านสวีอย่างใจเย็น โดยมีเสี่ยวชุนนั่งปักผ้าอยู่เคียงข้าง ในขณะที่บรรยากาศในห้องดูสงบสุขและอบอุ่น...อยู่นั้น

          [ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!]

            เสียงเตือนของระบบไขความจริงดังขึ้นในหัวของนางอย่างกะทันหัน! แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่เสียงใส ๆ เหมือนทุกที แต่เป็นเสียงเตือนถี่ ๆ ที่แฝงไว้ด้วยความเร่งด่วน หน้าต่างระบบที่ปรากฏขึ้นก็ไม่ได้เป็นสีฟ้าสบายตา แต่กลับเป็นสีแดงฉานราวกับเลือด!

          [คำเตือนฉุกเฉินระดับสีแดง! ตรวจพบปัจจัยเสี่ยงขั้นวิกฤตต่อการเกิดโรคระบาดในพื้นที่หมู่บ้านเมฆาคล้อย]

            จื่อเหยาชะงักงันไปทันที นางรีบตั้งสมาธิอ่านข้อความต่อไป

          [วิเคราะห์ข้อมูล: ฝนตกหนักต่อเนื่อง + ระบบสุขอนามัยพื้นฐานต่ำ + แหล่งน้ำดื่มจากบ่อและลำธารมีโอกาสปนเปื้อนสูง = ประเมินว่ามีโอกาส 95% ที่จะเกิดการระบาดอหิวาตกโรคภายใน 72 ชั่วโมงข้างหน้า!]

            หัวใจของจื่อเหยาหล่นวูบ! (อหิวาตกโรค!) ในยุคสมัยที่การแพทย์ยังล้าหลังขนาดนี้ โรคระบาดชนิดนี้ไม่ต่างอะไรกับยมทูตที่จะมาคร่าชีวิตของผู้คนไปทั้งหมู่บ้านเลยทีเดียว

          [ภารกิจป้องกันฉุกเฉินใหม่: ผู้พิทักษ์แห่งเมฆาคล้อยเป้าหมายภารกิจ: 1. เตรียมการป้องกันล่วงหน้าเพื่อยับยั้งการระบาด 2. หากเกิดการระบาด ต้องลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยให้ต่ำกว่า 10% 3. ค้นหาและกำจัดต้นตอการปนเปื้อนของแหล่งน้ำ รางวัลเมื่อสำเร็จภารกิจ: 200 แต้มไขความจริง สูตรการผลิตสารน้ำเกลือ (Oral Rehydration Salts Formula/ออ-รัล / รี-ไฮ-เดร-ชัน / ซอลต์ส / ฟอร์-มิว-ล่า) ชื่อเสียงในหมู่ชาวบ้าน +100 บทลงโทษหากล้มเหลว: เกิดการระบาดครั้งใหญ่ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และโฮสต์มีความเสี่ยงติดเชื้อสูง]

            จื่อเหยาหน้าซีดเผือด ความสงบสุขเมื่อครู่มลายหายไปจนหมดสิ้น สัญชาตญาณของแพทย์ในภาวะฉุกเฉินเข้าครอบงำทุกความคิดของนางทันที

            "คุณหนู...เป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ? เหตุใดจึงหน้าซีดเช่นนั้น?" เสี่ยวชุนถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นปฏิกิริยาของผู้เป็นนาย

            จื่อเหยาไม่ได้ตอบ นางลุกพรวดขึ้นทันที "เสี่ยวชุน! ทิ้งงานในมือทุกอย่างแล้วฟังข้า!"

            น้ำเสียงที่เฉียบขาดและจริงจังของนางทำให้เสี่ยวชุนสะดุ้งและรีบวางมือจากงานปักผ้า

            "ไปที่โรงครัวเดี๋ยวนี้!" จื่อเหยาสั่งการอย่างรวดเร็ว "ไปหาเกลือมาให้ข้า...หามาให้ได้มากที่สุด! แล้วก็น้ำตาล...น้ำตาลกรวดหรือน้ำผึ้งก็ได้! และที่สำคัญที่สุด...ไปหาปูนขาว...ถามคนงานว่าพวกเขาเก็บปูนขาวไว้ที่ไหน! บอกว่าเป็นคำสั่งจากข้า! หากใครขัดขวาง ให้บอกว่าถ้าไม่อยากให้เกิดเรื่องหายนะขึ้นก็จงทำตามที่ข้าสั่ง!"

            "ดะ...ได้เจ้าค่ะ!" แม้จะไม่เข้าใจว่าคุณหนูจะเอาของพวกนั้นไปทำอะไร แต่เมื่อเห็นแววตาที่จริงจังราวกับคอขาดบาดตายของจื่อเหยา เสี่ยวชุนก็ไม่กล้าถามอะไรอีก นางรีบวิ่งออกไปท่ามกลางสายฝนทันที

            จื่อเหยามองตามร่างของเสี่ยวชุนไปแล้วหันกลับมามองหน้าต่างระบบที่ยังคงกะพริบเป็นสีแดงอยู่ตรงหน้า...

            การต่อสู้ครั้งใหม่ของนางได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ครั้งนี้ศัตรูของนางไม่ใช่คน แต่เป็นหายนะที่มองไม่เห็นและเดิมพันคือชีวิตของผู้คนทั้งหมู่บ้าน!

            นางไม่มีเวลาให้เสียเปล่าแม้แต่วินาทีเดียว สัญชาตญาณของแพทย์ผู้เคยผ่านสถานการณ์ฉุกเฉินในห้องผ่าตัดมานับครั้งไม่ถ้วนกำลังทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ สมองของนางประมวลผลและจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำอย่างรวดเร็ว

            (หนึ่ง: การป้องกันคือหัวใจสำคัญที่สุด ต้องตัดวงจรการแพร่ระบาดให้ได้ก่อนที่มันจะเริ่มต้น สอง: เตรียมการรักษาผู้ป่วย การให้น้ำและเกลือแร่ทดแทนคือสิ่งเดียวที่จะช่วยลดอัตราการตายได้ สาม: นางไม่มีอำนาจ...การจะทำให้คนอื่นเชื่อและทำตามแผนการป้องกันโรคที่ดูแปลกประหลาดในสายตาคนยุคนี้ได้นั้น นางต้องสร้างอำนาจขึ้นมาเอง) ในขณะที่หรงจื่อเหยากำลังคิดหาวิธีรับมือกับสถานการณ์เร่งด่วนตรงหน้า

            "คุณหนูบ่าวกลับมาแล้วเจ้าค่ะ" เสี่ยวชุนเอ่ยเสียงสั่นด้วยความหนาวโดยที่ในมือของนางมีเกลือห่อใหญ่กับน้ำตาลกรวดติดมาด้วย

            "ดีมาก แต่ข้าว่าเจ้าไปจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะอย่าลืมเช็ดผมให้แห้งและต้มน้ำขิงดื่มสักหน่อย" จื่อเหยากล่าวเมื่อเห็นสภาพเปียกปอนไปทั้งตัวของบ่าวตนเอง

            "เจ้าค่ะ คุณหนูบ่าวจะไปเดี๋ยวนี้" เสี่ยวชุนรับคำพลางวางของสองสิ่งในมือลง "คุณหนูเจ้าคะ ส่วนปูนขาวบ่าวก็ให้อาหมิงช่วยยกมาให้แล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้วางอยู่หน้าห้อง"

            "เจ้าทำดีมาก เสี่ยวชุนหลังจากเจ้าออกไปเจ้าก็ให้ใครไปตามพ่อบ้านสวีมาพบข้าที่โถงประชุมหลักของเรือนด่วนด้วยนะ"

            "เจ้าค่ะ คุณหนู" นางรับคำก่อนจะเดินออกไปยังห้องพักของตนเองที่ตอนนี้นางและคุณหนูได้ที่พักใหม่แล้ว ในเวลาเดียวกันนั้น พ่อบ้านสวีที่กำลังนั่งปวดหัวกับบัญชีที่สับสนวุ่นวายในห้องทำงานของตน

            เมื่อได้ยินว่าคุณหนูใหญ่เรียกพบก็รู้สึกหงุดหงิดใจอย่างยิ่ง แต่เมื่อนึกถึงความลับเรื่องแม่นางไป๋หลี่ยอดดวงใจ เจ้าตัวก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง จึงได้แต่เดินหน้าตาบูดบึ้งมายังโถงประชุมแต่โดยดี

            "ไม่ทราบว่าคุณหนูใหญ่มีธุระอันใดกับข้าแต่เช้า" เขาถามเสียงห้วน

            จื่อเหยาไม่สนใจท่าทีนั้น นางยืนอยู่กลางโถงประชุม พร้อมกับกอดอกแล้วจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างที่สายฝนยังคงเทกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย

            "พ่อบ้านสวี...ท่านเห็นฝนที่ตกหนักนี่หรือไม่?" น้ำเสียงของนางแม้จะฟังดูค่อนข้างราบเรียบแต่หากฟังให้ดีจะเห็นถึงความจริงจังติดมาด้วย

            "เห็นสิ แล้วมันอย่างไรเล่า?" เขาย้อนอย่างไม่กลัวเกรง

            "ข้ามีความรู้ทางการแพทย์ที่สืบทอดมาจากตระกูลหลี่" นางกล่าวอ้างถึงตระกูลของมารดาผู้เป็นที่นับถือ

            "สัญชาตญาณของข้า...และตำราที่ข้าเคยอ่านมามันกำลังบอกว่า ฝนที่ตกหนักผิดปกติเช่นนี้ได้ชะล้างไอพิษร้ายแรงจากภูเขาลงมาในแหล่งน้ำของเราแล้ว...น้ำในบ่อและลำธารบัดนี้อาบด้วยพิษร้ายที่มองไม่เห็น"

            พ่อบ้านสวีแค่นหัวเราะ "คุณหนูใหญ่ ท่านคงจะอ่านตำรามากไปแล้วกระมัง นี่มันก็แค่ฝนตกหนักธรรมดาเท่านั้น"

            "ถ้าเช่นนั้นท่านลองคิดดูให้ดี" จื่อเหยาหันมาเผชิญหน้ากับเขาตามตรง แววตาของนางคมปลาบจนพ่อบ้านสวีเผลอถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างไม่รู้ตัว

            "หากเกิดโรคระบาดร้ายแรงขึ้นในเรือนเมฆาคล้อยแห่งนี้ในฐานะผู้ดูแลสูงสุด คนที่ต้องรับผิดชอบคนแรก ก็คือท่าน...ท่านคิดว่าเหมยลี่ฮูหยินจะปกป้องท่าน หรือจะใช้ท่านเป็นแพะรับบาปเพื่อรักษาชื่อเสียงของจวนหรงโหวกันล่ะ?"

            คำพูดนั้นแทงใจดำของพ่อบ้านสวีอย่างจัง! เขารู้ดีว่านายหญิงของตนเป็นคนเช่นไร...หากเกิดเรื่องขึ้นจริงเขาต้องถูกตัดหางปล่อยวัดเป็นคนแรกอย่างไม่ต้องสงสัย!

            "ทะ...ท่าน...ท่านจะบอกว่า..." เขาเริ่มเสียงสั่น

            "ไปตามหัวหน้าหมู่บ้านเมฆาคล้อยมาพบข้าที่นี่...เดี๋ยวนี้!" จื่อเหยาสั่งเสียงเด็ดขาด "บอกเขาว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตายของคนทั้งหมู่บ้าน! หากชักช้า...แม้แต่ท่านเองก็อาจจะเอาชีวิตไม่รอด!"

            พ่อบ้านสวีหน้าซีดเผือด เขารีบหันหลังวิ่งออกไปสั่งการลูกน้องทันทีโดยไม่กล้าโต้แย้งกับนางอีกแม้แต่คำเดียว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 36 คืนกลับสู่จวนหรงโหว

    หลายเดือนผ่านไปนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ที่เมืองเหยียนสุ่ย...ผ่านพ้น ในตอนนี้ฤดูร้อนที่ร้อนระอุได้ผ่านไปนานแล้วและถูกแทนที่ด้วยสายลมเย็นสบายแห่งต้นฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้รอบเรือนเมฆาคล้อยเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวชอุ่มเป็นสีเหลืองทองอร่าม บรรยากาศที่เคยเต็มไปด้วยความตึงเครียด บัดนี้กลับสงบสุขและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา จื่อเหยาได้ใช้ช่วงเวลาหลายเดือนนี้ในการฟื้นฟูร่างกายและสร้างฐานอำนาจเล็ก ๆ ของนางขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ โดยอาศัยชื่อเสียงของคุณชายหลี่เหยาที่ตอนนี้ได้กลายมาเป็นตำนานที่เล่าขานกันไปทั่วทั้งอำเภอ แต่กลับไม่มีผู้ใดล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาเลยแม้แต่คนเดียว บ่ายวันหนึ่ง ขณะที่จื่อเหยากำลังนั่งอ่านตำราแพทย์ที่พ่อบ้านสวีอุตส่าห์ไปหามาให้อย่างใจเย็น โดยมีเหลิ่งเยว่ยืนเฝ้าอารักขาอยู่ไม่ห่างนั้นเองที่ตัวตนของนางถูกจื่อเหยารู้แล้วจากอาการบาดเจ็บในครั้งก่อน...เสียงฝีเท้าที่รีบร้อนของพ่อบ้านสวีก็ดังขึ้นจากทางเดินหน้าห้องพัก&nb

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 40 เบี้ยที่ถูกกลืน

    เหลิ่งเยว่เตรียมจะรับคำ ทว่าได้มีเสียงของเสี่ยวชุนดังแทรกขึ้นมาอย่างสั่นกลัว "คะ...คุณหนูเราต้องฆ่าพวกเขาเลยหรือเจ้าคะ" คำถามที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสาและหวาดกลัวของเสี่ยวชุน ทำให้หรงจื่อเหยาที่กำลังจะออกคำสั่งต่อไปถึงกับชะงักงันพร้อมกับคิดว่าโชคดีที่นางได้ให้นางจางกับอาเฉียงหลอกล่อเสี่ยวเฉินออกไป ก่อนที่นางจะหันไปมองบ่าวรับใช้คนสนิทที่อยู่กับนางมาตั้งแต่ต้น...ใบหน้าของเสี่ยวชุนซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำใส ร่างกายของนางสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุม...ที่ไม่ใช่เกิดจากการแสดงอีกต่อไปแล้ว จื่อเหยารู้สึกราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบหัวใจของตน...นางเกือบลืมไปแล้ว...ว่าเด็กสาวตรงหน้า...ก็เป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น นางเดินเข้าไปหาเสี่ยวชุนช้า ๆ แววตาที่เคยเย็นเยียบพลันอ่อนแสงลงเล็กน้อย "

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 39 แผนตลบหลัง

    ช่วงเย็นจนถึงช่วงหัวค่ำภายในโรงเตี๊ยมจิ่นซิ่วของเมืองอันคังผ่านไปอย่างเงียบสงัด...แต่สำหรับหรงจื่อเหยาแล้ว นางรู้ดีว่านี่เป็นเพียงความเงียบที่ซ่อนเร้นไว้ซึ่งกระแสคลื่นใต้น้ำอันรุนแรง ทั้งนี้เป็นเพราะนางรู้เรื่องแผนการบางอย่างมาจากสายลับพิเศษนั่นเอง หากจะเป็นเรื่องอันใดนั้น คงต้องย้อนกลับไปก่อนหน้าในตอนที่นางสั่งให้วิญญาณของนางจางไปตามติดอยู่กับจ้าวมามา 'นายหญิงเจ้าคะ...' เสียงกระซิบที่เย็นเยียบของวิญญาณป้าจางดังขึ้นในหัวของนางตั้งแต่ตอนที่ขบวนรถม้าเพิ่งผ่านเข้าประตูเมืองอันคังมาได้ไม่นานนัก 'เมื่อครู่...ข้าน้อยได้ยินนางพูดคุยกับบ่าวรับใช้ที่ชื่อเสี่ยวถัง...นางกำชับนังเด็กนั่นว่าเมื่อไปถึงเมืองอันคัง ให้รีบไปติดต่อญาติห่าง ๆ ของนางที่ชื่อจิ่วกุ่ยหวัง ฉายาหวังขี้เมา...ดูเหมือนว่าพวกมันจะวางแผนใช้ชายผู้นี้ให้มาสร้างเรื่องอื้อฉาวเพื่อทำลายชื่อเสียงของนายหญิงในคืนนี้เจ้าค่ะ!'

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 38 สัญญาณอันตรายบนเส้นทาง

    เมื่อขึ้นมานั่งภายในรถม้า...จื่อเหยาก็รู้สึกว่าความเป็นส่วนตัวของนางได้กลับคืนมาอีกครั้ง นางจึงเอนกายพิงผนังรถม้าอย่างสบายใจ...ส่วนแววตาที่แสร้งทำเป็นเลื่อนลอยนั้นมาบัดนี้กลับทอประกายแห่งความเย็นชาและมุ่งมั่นมากขึ้นกว่าเดิม (ได้เวลาทวงคืนทุกสิ่งที่เป็นของเจ้าของร่างนี้...พร้อมกับดอกเบี้ยแล้ว...เหมยลี่) ทันใดนั้นเอง...นางก็สัมผัสได้ถึงไอเย็นที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นในรถม้า...ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นวิญญาณของนางจาง อาเฉียง และเสี่ยวเฉิน ที่ลอยเข้ามานั่งอย่างเบียดเสียดอยู่ตรงข้ามกับนางด้วยท่าทีตื่นเต้น 'นายหญิง/พี่สาว...ท่านจะให้พวกเราติดตามกลับไปเมืองหลวงด้วยจริง ๆ หรือขอรับ/เจ้าคะ?' เสียงของทั้งสามดังขึ้นพร้อมกันในหัวของจื่อเหยา แววตาโปร่งแสงของพวกเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังอย่างปิดไม่มิด จื่อเ

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 37 เดินทาง

    "พวกเจ้ารีบไป!" จ้าวมามาหันไปสั่งบ่าวรับใช้หญิงสองคนที่ติดตามมาด้วย "ช่วยกันจับตัวคุณหนูใหญ่ไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย! เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ข้าเตรียมมาให้เรียบร้อย! เราจะให้ท่านเจ้ากรมหลี่เห็นหลานสาวสุดที่รักในสภาพเช่นนี้ไม่ได้เป็นอันขาด!" บ่าวรับใช้หญิงร่างกำยำสองคนรับคำแล้วเดินตรงเข้ามาหาจื่อเหยาทันที แต่ยังไม่ทันที่มือหยาบกร้านของพวกนางจะได้แตะต้องตัวของจื่อเหยา! เสียงกรีดร้องอย่างแหลมหูของเด็กสาวที่นั่งขดอยู่เป็นก้อนกลมพลันส่งเสียงออกมา...พร้อมกันนั้นนางก็ได้ดีดตัวลุกขึ้นราวกับกระต่ายตื่นตูม! นางถอยกรูดไปจนชิดมุมห้อง แววตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและบ้าคลั่งอย่างสมจริง! ไม่เพียงแค่นั้น นางยังคว้าแจกันดินเผาที่ร้าวบิ่นใบหนึ่งขึ้นมาถือไว้ในมือเพื่อเป็นอาวุธอีกด้วย ซึ่งท่าทางของนางในยามนี้ทำให้จ้าวมามาถึงตกตะลึง&

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   ตอนที่ 35 รุ่งอรุณแห่งการเปิดโปง (6)

    เมื่อนางกลับมานั่งลงที่มุมเดิม เจ้าตัวก็รีบหักขนมเปี๊ยะชิ้นโตส่งให้วิญญาณของเสี่ยวเฉินที่กำลังลอยอยู่ไม่ห่างด้วยแววตาที่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ 'เอาไปสิ' 'ขอบพระคุณพี่สาว!' เสี่ยวเฉินรับของเซ่นไหว้นั้นมาด้วยความดีใจเช่นเดิม จากนั้นเขาก็รีบกินมันเข้าไปด้วยความเอร็ดอร่อยทันที เมื่อเห็นท่าทางของเด็กชายเช่นนี้จื่อเหยาก็อดที่จะยิ้มออกมาอย่างรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ แล้วในระหว่างนี้นางก็ได้อาศัยการตรวจสอบเรื่องกับดักซ้ำกับระบบอีกครั้งแม้ว่านางจะไว้ใจต่อคำรายงานของเสี่ยวเฉินก็ตาม...ถึงกระนั้นนางคิดว่าอย่างไรเสียก็ไม่ควรจะประมาท [ระบบ ช่วยตรวจสอบเส้นทางในอุโมงค์ให้ที ว่าปลอดภัยตามคำรายงานของเสี่ยวเฉินหรือไม่] ติ๊ง!&n

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status