ログインเสียงโทรศัพท์ที่ดังตั้งแต่เช้าของวันเสาร์ทำให้อัลเฟรโด้รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก แม้ว่าเขาจะตื่นนอนแล้วแต่ชายหนุ่มก็ไม่อยากจะติดต่อกับใครในวันพักผ่อนแบบนี้
แต่เมื่อเห็นว่ารายชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอเป็นชื่อของคุณหมอประจำตัวของคุณยายราตรีชายหนุ่มก็รีบกดรับสายทันทีเพราะเขาเองก็อยากจะถามถึงอาการป่วยของคุณยายเหมือนกัน
“สวัสดีครับคุณหมอ”
“สวัสดีครับคุณอัลเฟรด ผมหมออำนาจนะครับ คุณพอจะมีเวลาว่างคุยกับผมสักหน่อยไหมครับ” คุณหมออำนาจถามด้วยความเกรงใจ เขาเคยเจอกับหลายชายคุณยายราตรีอยู่หลายครั้งแต่การโทรมารบกวนในวันหยุดแบบนี้เขาก็ค่อนข้างเกรงใจ
“ได้ครับคุณหมอจะคุยทางโทรศัพท์หรือจะให้ผมเข้าไปพบล่ะครับ”
“คุยทางโทรศัพท์ก็ได้ครับ”
“ที่คุณหมอจะคุยเป็นเรื่องอาการป่วยของคุณยายใช่ไหมครับ”
“ใช่ครับ ก่อนอื่นผมต้องขอโทษด้วยที่โทรมารบกวนคุณอัลเฟรดในวันหยุดแบบนี้”
“ไม่เป็นไรเลยครับ เรามันคนกันเอง”
“ถ้าอย่างนั้นผมไม่อ้อมค้อมเลยนะ ผมอยากจะถามคุณอัลเฟรดว่าตอนนี้อาการของคุณยายเป็นยังไงบ้าง”
“อาการท่านก็ดูปกติดีนะครับ คุณหมอถามแบบนี้มีอะไรหรือเปล่า ผมว่าจะโทรไปถามหาคุณหมออยู่เหมือนกันว่าคุณยายป่วยเป็นอะไรเพราะท่านบอกผมแค่ว่าท่านอ่อนเพลียตามประสาคนแก่แต่ผมไม่แน่ใจว่าท่านพูดจริงไหม”
“คือผมมีบางอย่างที่จำเป็นจะต้องบอกคุณอัลเฟรด”
“ครับอะไรครับคุณหมอ”
“คุณยายราตรีไม่ใช่แค่อ่อนเพลียหรอกครับ อาการของท่านเป็นอาการเริ่มแรกของโรคหัวใจครับ”
“จริงเหรอครับคุณหมอ แต่เท่าที่ผมเห็นท่านก็ปกติดีนะครับ ตอนนี้เหมือนจะหายเป็นปกติแล้วด้วย” เขานึกถึงการไปทานข้าวกับคุณยายครั้งล่าสุดและท่านก็ดูปกติดี
“ที่ท่านปกติเพราะท่านทานยาสม่ำเสมอครับ”
“แล้วมันรักษาได้ไหมครับ ต้องผ่าตัดต้องทำบายพาสหรือทำบอลลูนอะไรเหมือนที่คนอื่นเขาทำหรือเปล่า ถ้าต้องทำแบบนั้นคุณหมอรีบจัดการนัดคิวให้คุณยายผมได้เลยนะครับ” อัลเฟรโด้ร้อนใจอยากให้คุณยายได้รับการรักษาไวๆ
“ใจเย็นก่อนครับคุณอัลเฟรด อาการของคุณยายไม่เกี่ยวกับเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจเหมือนคนอื่นหรอกนะครับ แต่ลักษณะอาการของคุณยายคือกล้ามเนื้อหัวบีบตัวไม่แรงมัน”
“เกิดจากอะไรครับคุณหมอ”
“ก็น่าจะสาเหตุมาจากหลายๆ อย่างทั้งความเครียดแล้วก็เพราะว่าท่านอายุมากแล้วด้วยครับ”
“แล้วแบบนี้ท่านจะมีทางหายไหมครับคุณหอม”
“การทำงานของหัวใจมันจะกลับมาฟื้นตัวได้แต่มันไม่ถึงกับร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนอย่างเดิมบอกเหรอครับ”
“แล้วผมต้องดูแลคุณยายยังไงครับคุณหมอ”
“ที่สำคัญคือเรื่องความเครียดเรื่องอาหาร ครับในเรื่องของอาหารคุณอัลเฟรดไม่ต้องเป็นห่วงเท่าไหร่เพราะเท่าที่ผมคุยกับคุณยายท่านก็ทานอาหารถูกสุขลักษณะดีอยู่ แล้วผมกังวลก็แต่ความเครียดครับ ถ้ามีอะไรมากระทบจิตใจหรือทำให้ต้องเครียดมันจะส่งผลแย่ต่อโรคครับ”
คุณหมออำนาจพยายามโยงอาการของคุณยายเข้าหาหาความเครียดตามที่คุณยายราตรีขอร้องให้ช่วยเขารู้ว่ามันผิดจรรยาบรรณแต่มันก็เลี่ยงไม่ได้เลยเพราะคุณยายเป็นคนที่มีบุญคุณกับครอบครัวของเขาตั้งแต่รุ่นบิดามาแล้ว
“หมายความว่าผมต้องดูแลจิตใจยายดีๆ ไม่ให้ยายเครียดใช่ไหมครับ”
“คุณอัลเฟรดพูดถูกแล้วครับ อย่าทำให้ทานเครียด อย่าขัดใจท่านนะครับ อายุมากแล้วถ้าท่านอยากทำอะไรอยากไปเที่ยวไหนคุณก็เอาใจท่านหน่อยก็แล้วกันนะครับ เรื่องพวกนี้มันอาจดูเรื่องเล็กน้อยก็จริง แต่ถ้าท่านเครียดสะสมมากๆ หรือคิดเรื่องไหนอยู่ตลอดเวลามันก็ส่งผลกับสุขภาพได้ ด้วยอาการของโรคการทำให้ท่านสบายใจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ”
“ผมเข้าใจแล้วครับ”
“จริงๆ คุณยายท่านไม่อยากให้แล้วผมบอกคุณอัลเฟรดหรอกนะครับ ท่านไม่อยากให้คุณต้องมากังวลกับอาการเจ็บป่วยของท่านน่ะ แต่ก็ต้องยอมขัดคำสั่งของท่านเพราะอยากให้คุณได้ดูแลคุณยาย”
“ขอบคุณมากครับคุณหมอที่โทรมาบอก ผมจะพยายามทำตามที่คุณหมอบอกนะครับ ผมจะไม่ทำให้ท่านเครียดหรือเป็นกังวล”
“ถูกต้องครับเรื่องนี้สำคัญที่สุด คุณควรมีเวลาให้ท่านมากขึ้นทำให้ท่านมีความสุขเพราะมันจะดีกับท่านมาก”
“ได้ครับคุณหมอ ผมจะทำตามนะครับ”
“ผมขอโทษนะที่ทำเหมือนกำลังสอนคุณอยู่นะครับ แต่ผมหวังดีกับคุณยายจริงๆ”
“ไม่เป็นไรเลยครับคุณหมอ ผมต้องขอบคุณมากๆ ที่คุณหมอโทรมาบอกเรื่องนี้กับผม”
“ถ้าอย่างนั้นผมขอวางสายก่อน ถ้าคุณอัลเฟรดอยากถามเกี่ยวกับการดูแลคุณยายหรือสุขภาพของคุณยายก็โทรมาหาผมได้ตลอดเลยนะครับ”
เมื่อวางสายจากคุณหมออำนาจแล้วอัลเฟรโด้ก็ถอนหายใจอย่างหนัก เขารู้สึกไม่ดีเลยที่ละเลยสุขภาพของคุณยายทั้งที่มีคุณยายเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่
หลายวันมานี้เขาก็ไปทานอาหารกับท่านที่บ้านแต่ไม่สังเกตเลยว่าท่านกำลังป่วยอยู่
ครั้งที่ท่านไปโรงพยาบาลท่านก็บอกแค่เพียงว่าเป็นการอ่อนเพลียและนอนพักก็หายไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วง แต่มันตรงข้ามกับที่หมออำนาจเพิ่งจะบอกเขา
ชายหนุ่มรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วขับรถไปหาคุณยายที่บ้าน เขากะไว้ว่าวันนี้จะเป็นวันพักผ่อนและไม่ออกไปไหนแต่คุณยายคนเดียวที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาการได้ใช้เวลากับคุณยายให้มากขึ้น ทำให้ท่านมีความสุขมีความสายคงเป็นสิ่งที่หลานชายคนเดียวอย่างเขาควรจะทำให้ท่าน
จากนี้อัลเฟรโด้คิดว่าจะให้เวลากับคุณยายมากขึ้นและจะทำทุกอย่างตามที่คุณยายต้องการ เมื่อขับรถออกมาจากบ้านแล้วชายหนุ่มก็ไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ก่อนจะถึงบ้านคุณยายเขาซื้อของใช้ที่จำเป็นอีกหนึ่งชุดเอาไว้สำหรับทิ้งไว้ที่บ้านคุณยายเพราะตั้งแต่ย้ายมาอยู่คอนโดก็ไม่เคยนอนค้างที่นั่นของใช้จำเป็นบางอย่างจึงไม่มี แต่ตอนนี้เขาแต่เขาคิดแล้วว่าทุกวันศุกร์กับวันเสาร์เขาจะไปนอนค้างกับคุณยายส่วนวันที่ต้องมาทำงานที่บริษัทเขาก็คงต้องมาค้างที่คอนโดแต่จะพยายามแบ่งเวลาไปทานอาหารเย็นกับท่านให้มากขึ้น
เมื่อมาถึงบ้านคุณยายชายหนุ่มก็หยิบกระเป๋าเดินทางใบเล็กกับของใช้อีกจำนวนหนึ่งลงมา
“สวัสดีค่ะคุณอัลเฟรด ถือของมาเยอะเลยนะคะ”
“ฉันว่าจะมาค้างที่นี่สักหน่อยยังไงฝากเอาของพวกนี้ไปเก็บในห้องนอนแล้วจัดให้หน่อยนะ”
“ได้ค่ะคุณอัลเฟรด”
ปัทมารับกระเป๋าและถุงของใช้จากนั้นก็รีบนำขึ้นไปเก็บบนห้องตามคำสั่งทันที ส่วนตัวชายหนุ่มก็เดินตรงไปหาคุณยายที่ห้องนั่งเล่นซึ่งตอนนี้ท่านกำลังนั่งถักอะไรสักอย่าง”
“สวัสดีครับคุณยาย”
“อ้าวอัลเฟรด วันนี้วันหยุดไม่พักผ่อนอยู่คอนโดเหรอมาหายายแบบนี้มีธุระอะไรหรือเปล่า” คุณยายแกล้งถามทั้งที่รู้แล้วว่าเพราะอะไรหลานชายถึงมาหาตนเองทั้งที่เป็นวันหยุด
“ถ้ามันเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ คุณอัลเฟรดก็รีบพูดมาเลยค่ะก่อนที่สมองจะไม่รับรู้อะไรเพราะความง่วง” หญิงสาวพูดแล้วแกล้งหาวทั้งที่ตอนนี้ยังไม่ได้ง่วงเลยสักนิด เธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าอัลเฟรโด้จะคุยเรื่องอะไรกับเธออัลเฟรโด้ขยับเข้ามาใกล้ๆ จับมือของเธอไว้เขามองหน้าเธอก่อนจะพูดความรู้สึกของตัวเองออกมา“ก่อนอื่นฉันต้องขอโทษที่เข้าใจผิด ไม่เชื่อใจเธอคิดว่าเธอเป็นคนกล่อมคุณยายให้บังคับฉันแต่งงาน”“เรื่องนี้หนูไม่โกรธคุณแล้ว หนูเข้าใจว่าเป็นใครก็ต้องคิดแบบนั้นเพราะหนูเพิ่งเจอกับคุณยายไม่นานท่านก็บังคับให้คุณแต่งงานกับหนู มีแค่นี้ใช่ไหมที่คุณจะพูด”“ไม่ใช่มันมีอีกเรื่องหนึ่ง”“อะไรคะ”“ที่ผ่านมาฉันยอมรับนะว่าฉันมีความสุขมากที่ได้อยู่กับเธอ รู้สึกดีที่ตื่นมาทุกเช้ามีเธอนอนอยู่ข้างๆ และได้นอนกอดกันทุกคืน ฉันรู้ว่าเธอรักฉันและฉันคิดว่าสิ่งที่ฉันทำมันก็เป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าฉันรู้สึกยังไงกับเธอ”“แล้วคุณรู้สึกยังไงเหรอคะ” หญิงสาวถามออกไปด้วยใจเต้นแรงเธอไม่รู้หรอกว่าตอนนี้อัลเฟรโด้กำลังจะพูดอะไรแต่ในใจก็แอบหวังว่าเธอได้ยินเขาพูดคำว่ารักซึ่งมันสำคัญกับเธอมาก ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันเธอบอกรักเข
“พรุ่งนี้ฉันจะบอกทนายให้จัดการเรื่องหย่า” จู่ๆ อัลเฟรโด้ก็พูดขึ้นระหว่างที่ออกมานั่งดื่มกับณัฐกฤษณ์เพื่อนสนิท“จะไม่ง้ออีกหน่อยเหรอ”“ฉันคิดว่าง้อไปมันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรหรอก เมลินเธอคงตัดใจจากฉันได้แล้วจริงๆ นั่นแหละ”“เฮ้ย!...แต่นี่เพิ่งผ่านมาไม่กี่เดือนเองนะ อดทนหน่อยสิ เด็กวัยรุ่นก็อย่างนี้เอาใจยาก”“นายพูดอย่างกับเคยมีแฟนเป็นเด็ก”“ถึงแฟนฉันกับฉันอายุจะไม่ห่างกันมาก แต่ฉันก็พอเข้าใจนะว่าผู้หญิงอารมณ์อ่อนไหว โดยเฉพาะเด็กอย่างเมียของนายนะ นายลองคิดดูสิเธออายุแค่ 18 แล้วต้องมาแต่งงาน ชีวิตกำลังลงตัวและมีความสุขจู่ๆ นายก็ไปพูดจาแบบนั้นกับเธอ”“ก็ตอนนั้นฉันยังไม่รู้ความจริงนี่”“คนโตอย่างเราอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ที่ต้องทะเลาะกันบ้างแต่นายอย่าลืมนึกถึงความแตกต่างในเรื่องของอายุด้วยนะ อีกอย่างเมลินเธอก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเลย แล้วมาโดนนายพูดจาแบบนั้นใส่เป็นใครก็ต้องเสียใจน้อยใจได้ นายเคยบอกฉันไม่ใช่เหรอว่าเมลินรักนายมาก พอโดนคนที่ตัวเองรักต่อว่าก็เลยยิ่งคิดมากและน้อยใจมันเป็นเรื่องธรรมดา”“ใช่เมลินรักฉันมาก เธอบอกรักฉันในทุกวันที่อยู่ด้วยกันนายรู้มั้ยฉันมีความสุขแค่ไหนเวลาไ
วันนี้เมลินญาน์เลิกเรียนเร็วกว่าปกติหญิงสาวจึงนัดทานข้าวกับศศิภาจากนั้นก็พากันเดินไปซื้อของก่อนจะขับรถมาส่งเธอที่บ้านระหว่างทางศศิภาก็ถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง“แกตัดสินใจดีแล้วหรอเมลิน แกรักเขามากนะแล้วจะหย่ากับเขาทำไม”“ฉันยอมรับว่าฉันรักเขามาก แต่ก็ไม่รู้จะอยู่กันไปทำไม เขาไม่เชื่อใจฉัน เขาคิดว่าฉันเป็นคนวางแผนให้ได้แต่งงานกับเขานะ”“แต่ตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าแกไม่ได้แบบ เขาก็ขอโทษแกแล้วแกยังต้องการอะไรอีก”“ไม่รู้สิ ฉันอาจจะต้องการความรักจากเขามั้ง”“แกเคยถามไหมว่าเขารักแกหรือเปล่า”“ไม่เห็นจำเป็นต้องถามเลยขิงฉันบอกรักเขาไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแต่ไม่เคยได้ยินกับเขาพูดมันเลย แม้คุณยายจะบอกว่าให้ดูที่การกระทำทำแต่ฉันก็อยากจะได้ยินมันสักครั้ง เขาพูดแต่ว่าเขาโทษอยากให้ฉันกลับไปอยู่ด้วยแค่นั้นเอง”“ถ้าเขาบอกว่ารักแกแล้วแกจะกลับไปคืนดีกับเขาเหรอ”“อือ”“ฉันไม่เข้าใจแกเลยนะเมลิน แกหย่ากับเขาแล้วแกก็ต้องมานั่งเสียใจแบบนี้มันคุ้มกันเหรอ”“ฉันไม่รู้ว่าคุ้มไหม แต่ฉันอยากอยู่กับคนที่รักฉัน แต่ฉันให้เวลาให้โอกาสเขาแล้วนะ ฉันรู้ว่าที่ฉันทำมันงี่เง่าไม่มีเหตุผล แค่คำว่ารักแค่คำเดียวแต่ฉันคิดว่าฉันอยากไ
จากวันที่เมลินญาน์ย้ายกลับไปอยู่บ้านถึงตอนนี้ก็เกือบจะสองเดือนแล้วอัลเฟรโด้ยังคงพยายามตามง้อ แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมใจอ่อน ตอนนี้เธอเปลี่ยนกุญแจรั้วบ้านเปลี่ยนรหัสผ่านทุกอย่างทำให้อัลเฟรโด้ไม่สามารถเข้าไปหาเธอที่บ้านได้อย่างเคยแต่ถ้าวันไหนเขาเลิกงานเร็วก็มักจะขับรถวนมาดูว่าหญิงสาวถึงบ้านหรือยังและจอดรถที่หน้ารั้วจนกระทั่งเห็นว่าว่าเธอปิดไฟเข้านอนจึงขับรถกลับมาที่คอนโดมิเนียม เขาใช้รถของตนเองบ้างรถของบริษัทบ้างหรือบางครั้งก็ใช้รถของผู้ช่วยทำให้เมลินญาน์ไม่ทันสังเกตเห็นแต่วันนี้หญิงสาวไปซื้อของที่ตลาดสด แล้วเจอคุณน้าหนึ่งที่บ้านอยู่ถัดจากบ้านของเธอไปอีกสามหลังเข้ามาชวนคุย“เมลิน หนูสังเกตไหมว่าช่วงนี้แถวบริเวณหน้าบ้านหนูมักจะมีรถยนต์มาจอดอยู่บ่อยๆ”“หนูไม่ได้สังเกตเลยค่ะน้า เขามาจอดรอใครหรือเปล่า”“น้าเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ หนูลองสังเกตดูหน่อยนะไม่รู้เป็นพวกโจรเป็นขโมยหรือเปล่า หนูอยู่บ้านคนเดียวด้วยมันอันตราย ถ้าเห็นท่าไม่ดียังไงก็โทรเรียกตำรวจให้มาช่วยดูก็ดีนะ”“ขอบคุณนะคะน้า หนูจะไปย้อนดูกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านดูค่ะ อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครที่มาจอดรถรออยู่แบบนั้น”เมลินญาน์พูดคุยก
เพราะตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาอัลเฟรโด้ทานอาหารไม่ตรงเวลาและมักจะดื่มเหล้าอยู่ตลอด วันนี้ชายหนุ่มก็เลยรู้สึกปวดท้องหลังเลิกงานเขาเลยแวะที่โรงพยาบาลเพื่อให้คุณหมอตรวจอาการหลังจากตรวจและรับยาแล้วอัลเฟรโด้ยาก็เดินมาที่ลานจอดรถและได้เจอกับหมออำนาจที่กำลังจะกลับบ้านพอดี“สวัสดีครับหมออำนาจ”“สวัสดีครับคุณอัลเฟรดไม่สบายเหรอครับ” คุณหมอถามเพราะเห็นถุงยาในมือของเขา“ปวดท้องนิดหน่อยครับคุณหมอก็เลยแวะมาตรวจ คุณหมอละ ครับสบายดีไหม” อัลเฟรโด้เจอกับคุณหมอครั้งสุดท้ายก็ในงานศพของคุณยายราตรีซึ่งมันผ่านมาสองเดือนแล้ว“ผมสบายดีครับ”“คุณหมอพอจะมีเวลาสักนิดไหมครับ” อัลเฟรโด้ถามอย่างเกรงใจ“คุณอัลเฟรดมีอะไรหรือเปล่าผม”“อยากจะถามอะไรหมอหน่อย”“ได้สิครับ เรานั่งคุยตรงมาหินอ่อนตรงนั้นก็ได้”“ครับ” แล้วอัลเฟรโด้ก็เดินตามคุณหมออำนาจมายังม้าหินอ่อนที่อยู่ใกล้กับลานจอดรถ“คุณอัลเฟรดมีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ”“ผมอยากจะถามว่าทุกครั้งที่คุณยายมาตรวจกับคุณหมอ คุณยายให้คนอื่นเข้ามาในห้องด้วยหรือเปล่าครับ”“ไม่นะครับ คุณยายมักจะเข้ามาคนเดียวส่วนเมลินภรรยาของคุณก็รออยู่ข้างนอก มีอะไรหรือเปล่า”“ผมขอถามคุณหมอทุ
บทรักดำเนินต่อไปในห้องทำงานอีกพักใหญ่ก่อนที่อัลเฟรโด้จะอุ้มเมลินญาน์กลับมายังห้องนอน คืนนี้ทั้งสองต่างโรมรันพันตูกันอยู่บนเตียงอยู่นานก่อนที่หญิงสาวจะหมดแรงอยู่บนเตียงกว้างอัลเฟรโด้เอาผ้าเช็ดตัวชุบน้ำมาเช็ดคราบเหงื่อออกก่อนจะนอนกอดโดยไม่ได้มีคำพูดอะไรเมลินญาน์ซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขาแล้วหลับตานิ่ง เธออยากจะเก็บความรู้สึกคืนนี้ไว้เป็นคนสุดท้ายและพรุ่งนี้เธอกับเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกันอีกอัลเฟรโด้เองก็กอดกระชับเธอไว้แน่นเขากำลังสับสนว่าจากนี้จะเอายังไงต่อจะใช้ชีวิตกับเธอไปเรื่อยๆ หรือจะหย่าอย่างที่เธอพูด เขายังคงตัดสินใจไม่ได้ชายหนุ่มนอนใช้ความคิดจนกระทั่งเผลอหลับแล้วตื่นมาอีกครั้งในตอนเช้าเขารู้สึกใจหายเมื่อเช้านี้มันต่างจากทุกเช้าที่ผ่านมาเมื่อข้างกายของเขาไม่มีเมลินญาน์นอนอยู่ข้างๆอัลเฟรโด้รีบลุกขึ้นนุ่งผ้าเช็ดตัวแล้วเดินมายังห้องครัวเขาเห็นแค่ความว่างเปล่า ชายหนุ่มมองนาฬิกาเห็นว่ามันสายมากแล้วและคิดว่าวันนี้ที่เธอไม่ทำอาหารเช้าให้อาจจะเป็นเพราะเธอรีบไปเรียนและถ้าหากเย็นนี้เธอกลับมาที่คอนโดเขาจะลองเปิดใจคุยกับเธออีกครั้งอยากจะฟังเหตุผลจากเธออีกครั้งโดยไม่ใช้อารมณ์ตลอด







