LOGIN“ผมคิดถึงคุณยายแล้วก็อยากมาพักผ่อนกับคุณยายครับอยู่คอนโดคนเดียวมันเบื่อๆ คิดว่าจะมาค้างกับคุณยายที่นี่ดีไหม” อัลเฟรโด้เข้ามานั่งข้างๆ แล้วกอดท่านด้วยความรักและความรู้สึกผิดที่ไม่ดูแลท่านเท่าที่ควร
“ยายว่ามันดีเลยทีเดียว เดี๋ยวยายจะบอกปัทให้ไปจัดห้องนอนให้นะ”
“ไม่เป็นไรครับคุณยายเมื่อกี้ผมบอกปัทแล้ว คุณยายล่ะครับวันนี้เป็นยังไงบ้างเหนื่อยไหม” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“ยายก็สบายดี”
“แล้วคุณยายกำลังทำอะไรอยู่เหรอครับ”
“ยายกำลังถักเสื้อกันหนาวอยู่ ว่าจะส่งไปบริจาคให้เด็กบนดอย”
“คุณยายรับ ผมว่าคุณยายอย่าเหนื่อยถักเองเลย ถ้าอยากบริจาคเราซื้อเสื้อกันหนาวไปบริจาคเลยก็ได้”
“แค่นี้ไม่เหนื่อยเลย ยายอยู่ว่างๆ รู้จะทำอะไร งานบัญชีหนูเมลินก็ทำเรียบร้อยจนยายไม่มีอะไรต้องกังวลอะไรเลย” คุณยายกล่าวชมผู้ช่วยคนใหม่ที่นอกจากจะทำงานได้อย่างไม่มีที่ติแล้วยังทำให้ท่านหายเหงาอีกด้วย
“คุณยายครับผมว่าเราต้องคุยกันนะครับ”
“มีอะไรหรือเปล่าอัลเฟรด สีหน้าจริงจังมากเลยนะเครียดเรื่องที่ทำงานหรือเปล่า”
“เปล่าครับคุณยาย เรื่องที่ผมเครียดไม่ใช่เรื่องงานแต่เป็นเรื่องของคุณยาย”
“เราจะมาเครียดเรื่องของยายทำไมล่ะลูก” คุณยายทำหน้าเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร
“วันนี้หมออำนาจโทรหาผมครับคุณยาย”
“หมอเขาโทรหาอัลเฟรดทำไมล่ะ” คุณยายแกล้งถามทั้งที่ทุกอย่างคือแผนของตัวเอง
“ก็เรื่องอาการของคุณยายนั่นแหละครับ หมออำนาจบอกผมว่าคุณยายเป็นโรคหัวใจ”
“หมอนะหมอ ยายสั่งไว้แล้วว่าห้ามบอกเรื่องนี้”
“คุณยายอย่าไปว่าหมอเลยนะครับ ที่หมอโทรบอกผมก็ดีแล้ว ผมจะได้ช่วยดูแลยายให้ดีมากกว่านี้”
“อัลเฟรดไม่ต้องเป็นห่วงอะไรยายหรอกนะ ยายไม่ได้เป็นอะไรมาก อัลเฟรดก็เห็นแล้วว่ายายยังปกติอยู่”
“ผมเห็นครับว่ายายปกติ แต่หมอก็บอกว่าเพราะยาช่วยไว้บางส่วน แต่จากนี้คุณยายต้องทานยาให้ครบตามที่หมอสั่งนะครับ คุณยายครับผมเป็นหลานที่ไม่ดีเลยใช่ไหม ถ้าวันนี้หมออำนาจไม่บอกผมก็คงไม่รู้เลย ผมขอโทษนะครับคุณยาย” อัลเฟรโด้พูดอย่างรู้สึกผิด เสียงของเขาสั่นเครือและกำลังโทษตัวเอง
“อย่าโทษตัวเองแบบนั้นสิ อัลเฟรดเป็นหลานที่ดีมากของยายเลยนะ หลานไม่เคยทำให้ยายต้องหนักใจหรือไม่สบายใจอะไรเลย” คุณยายเห็นท่าทางไม่สบายใจของหลานชายก็รู้สึกผิดแต่เมื่อเดินเกมไปแล้วท่านก็ไม่อยากจะหยุด
“ผมรู้ว่าที่ผ่านมาผมอาจจะทำงานหนักไม่ค่อยมีเวลาให้คุณยาย แต่จากนี้ผมจะแบ่งเวลามาอยู่กับคุณยายให้มากขึ้นนะครับ”
“อย่าทำแบบนั้นเลย”
“ทำไมล่ะครับคุณยาย” ชายหนุ่มถามอย่างแปลกใจ
“อัลเฟรดจะแบ่งเวลามาอยู่กับยายมากขึ้นยายก็ดีใจ แต่ยายก็อยากให้อัลเฟรดได้ใช้ชีวิตของตัวเองด้วย อย่ายึดติดกับยายเพราะยายไม่รู้ว่าจะอยู่กับเราได้นานแค่ไหน”
“คุณยายอย่าพูดแบบนั้นสิครับ ผมใจคอไม่ดีเลย”
“ยายพูดเรื่องจริงนะ หลานก็อายุมากขึ้นทุกวันส่วนยายก็ร่างกายถดถอยไหนจะยังมีโรคประจำตัวอีก สิ่งที่อยากจะเห็นคืออยากเห็นอัลเฟรดมีความสุขประสบความสำเร็จ”
“ตอนนี้ผมก็ประสบความสำเร็จแล้วนะครับคุณยาย”
“ในเรื่องงานหลานชายของยายเก่งที่สุด ยายภูมิใจในตัวอัลเฟรดมากเลยนะ”
“ขอบคุณครับ ถ้าไม่มีคุณยายคอยสนับสนุนคอยให้กำลังใจผมก็คงไม่มาไกลขนาดนี้หรอก คุณยายครับจากนี้ไปคุณยายอยากให้ผมทำอะไรให้คุณยายบอกได้เลยนะ หรือว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนไหมผมจะพาคุณยายไปเที่ยวเอง”
“ยายอายุมากแล้วไม่อยากไปเที่ยวไหนหรอกจ้ะ ที่ผ่านมายายก็เที่ยวมาเยอะแล้ว”
“คุณยายไม่ต้องเกรงใจหรือกลัวว่าผมจะเสียงานหรอกนะครับไม่มีอะไรสำคัญกับผมมากกว่าคุณยาย”
“อัลเฟรด อันที่จริงยายก็ไม่อยากจะพูดเรื่องนี้หรอกนะมันคงทำให้หลานอึดอัดใจมากแต่มันเป็นสิ่งเดียวที่ยายต้องการในตอนนี้” คุณยายเริ่มเข้าแผนการของตนเอง
“อะไรครับคุณยาย”
“ยายอยากเห็นหลานมีครอบครัวแต่งงานแต่ยายรู้ว่าเรื่องนี้อัลเฟรดยังไม่พร้อม”
“ผมเคยปฏิเสธเรื่องแต่งงานมาตลอดแต่ตอนนี้ผมจะยอมแต่งงานก็ได้ ถ้าเจอคนที่ถูกใจ”
คำตอบของหลานชายทำให้คุณยายราตรีถอนหายใจเพราะการจะหาคนถูกใจหลานชายคงยากมาก
“นั่นสินะถ้ายังไม่เจอคนที่ถูกใจหลานก็คงยังไม่แต่งงาน”
ท่าทางไม่สบายใจของยายราตรีทำให้อัลเฟรโด้รู้สึกเจ็บปวดเขาเป็นหลานชายเพียงคนเดียวแล้วสิ่งที่คุณยายขอมันเป็นสิ่งที่เขาพยายามปฏิเสธมาตลอด แต่เมื่อตอนนี้คุณยายกำลังป่วยถ้าเขายังคงปฏิเสธต่อไปมันก็อาจจะกระทบกระเทือนต่อสุขภาพของคุณยายได้ ชายหนุ่มคิดหนักก่อนจะตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่สมควรทำมากกว่าสิ่งที่ตัวเองพอใจ
“คุณยายครับผมตกลงจะแต่งงานคุณยายจัดการเรื่องนี้ได้เลย ส่วนเรื่องผู้หญิงผมก็ให้คุณยายเป็นคนหาให้ตกลงไหมครับ”
“อัลเฟรด ยายรู้ว่าที่ลูกทำแบบนี้เพราะเห็นว่ายายป่วยแต่มันไม่จำเป็นเลยนะการแต่งงานมันต้องเจอคนที่ถูกใจ คนที่รักไม่ใช่เหรอ ถึงจะมีความสุขในชีวิตคู่” คุณยายราตรีพูดหยั่งเชิง
“ผมเชื่อในสายตาของคุณยายครับว่าผู้หญิงที่คุณยายจะให้ผมแต่งงานด้วยเธอคงมีคุณสมบัติดีพอที่จะอยู่กับผมแล้ว”
“อัลเฟรดจะรักเธอได้ไหมล่ะ”
“เรื่องนั้นผมก็ให้คำตอบกับคุณยายไม่ได้ครับ แต่ผมยินดีจะแต่งงานมีครอบครัว ผมรู้ว่าคุณยายอยากอุ้มหลานผมจะไม่ทำให้คุณยายผิดหวัง”
“ขอบใจนะลูก แต่อย่าทำแบบนี้เลยยายไม่สบายใจ”
“คุณยายครับผมเต็มใจนะผมยังไม่มีผมยังไม่มีแฟนนะครับบางทีผู้หญิงที่คุณยายหามาให้อาจจะถูกใจผมก็ได้”
ยิ่งคุณยายปฏิเสธเขาก็ยิ่งอย่างจะแต่งเพราะอยากทำให้คุณยายสบายใจ การกระทำของเขามันทำให้คุณยายราตรีอมยิ้มเธอรู้นิสัยหลานชายดีอะไรที่ห้ามหลานชายคนนี้จะทำ
“ถ้าอย่างนั้นยายขอถามหน่อยได้ไหม”
“อะไรครับคุณยาย”
“ถ้าผู้หญิงที่ยายหามาให้แต่งงานกับอัลเฟรด เธอเป็นแต่ผู้หญิงธรรมดา ไม่มีสมบัติอะไรเลย การศึกษาก็ไม่ได้สูงมากครอบครัวก็ไม่เหลือใครแล้วอัลเฟรดจะแต่งงานกับเธอได้ไหม”
“ถ้าคุณยายจะให้ผมแต่งงานกับใครสักคน ผมคิดว่าคุณยายน่าจะต้องเห็นอะไรบางอย่างในตัวของผู้หญิงคนนั้น เรื่องเงินทองมันไม่เกี่ยวข้องหรอกครับ เรามีเงินเยอะแยะแต่งงานและรับผู้หญิงสักคนมาอยู่ด้วยคงไม่ทำให้เราลำบาก”
“แล้วเรื่องอายุล่ะ อัลเฟรดคิดว่าช่วงอายุไหนที่เหมาะสมที่สุด”
“อายุไม่ใช่ปัญหาหรอกครับคุณยายขอแค่บรรลุนิติภาวะและไม่อายุห่างจากผมจนเกินไปแค่นั้นก็พอ”
“ยายรู้แล้วว่าจะให้อัลเฟรดแต่งงานกับใคร แต่เราจะไม่เปลี่ยนใจใช่ไหม”
“ไม่ครับคุณยาย ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นเธอเป็นใครครับเธอสวยหรือเปล่า” แม้ว่าจะแต่งงานเพราะอยากจะทำตามใจคุณยายแต่อัลเฟรโด้ก็อยากรู้ว่าว่าที่เจ้าสาวของเขาหน้าตาเป็นยังไง ถ้าจะให้ดีเขาก็อยากได้คนที่หน้าตาดีพอที่เขาจะออกไปข้างนอกได้บ้าง
“ในสายตาของยายก็คิดว่าเธอสวยน่ารักและสดใสนะ บางทีอาจจะทำให้ชีวิตของอัลเฟรดมีสีสันมากขึ้นก็ได้”
“ผมชักอยากจะเห็นแล้วนะครับว่าผู้หญิงที่ยายจะให้ผมแต่งงานด้วยเป็นใคร”
“เดี๋ยวบ่ายนี้เธอก็เข้ามา อัลเฟรดก็จะเจอ ว่าแต่วันนี้มีธุระจะไปทำที่ไหนไหมล่ะ”
“ไม่ล่ะครับวันนี้ผมจะอยู่บ้านกับยายทั้งวัน”
“ดีเลย แต่ตอนนี้ยายว่าจะนอนพักสักหน่อย อัลเฟรดอยากไปทำอะไรก็ทำนะแล้วตอนเที่ยงค่อยลงมากินข้าวด้วยกัน”
“ได้ครับคุณยาย ถ้างั้นผมขอขึ้นไปบนห้องนอนก่อนไม่รู้ว่าป่านนี้ปัทจัดการห้องไปถึงไหนแล้ว”
“ถ้ามันเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ คุณอัลเฟรดก็รีบพูดมาเลยค่ะก่อนที่สมองจะไม่รับรู้อะไรเพราะความง่วง” หญิงสาวพูดแล้วแกล้งหาวทั้งที่ตอนนี้ยังไม่ได้ง่วงเลยสักนิด เธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าอัลเฟรโด้จะคุยเรื่องอะไรกับเธออัลเฟรโด้ขยับเข้ามาใกล้ๆ จับมือของเธอไว้เขามองหน้าเธอก่อนจะพูดความรู้สึกของตัวเองออกมา“ก่อนอื่นฉันต้องขอโทษที่เข้าใจผิด ไม่เชื่อใจเธอคิดว่าเธอเป็นคนกล่อมคุณยายให้บังคับฉันแต่งงาน”“เรื่องนี้หนูไม่โกรธคุณแล้ว หนูเข้าใจว่าเป็นใครก็ต้องคิดแบบนั้นเพราะหนูเพิ่งเจอกับคุณยายไม่นานท่านก็บังคับให้คุณแต่งงานกับหนู มีแค่นี้ใช่ไหมที่คุณจะพูด”“ไม่ใช่มันมีอีกเรื่องหนึ่ง”“อะไรคะ”“ที่ผ่านมาฉันยอมรับนะว่าฉันมีความสุขมากที่ได้อยู่กับเธอ รู้สึกดีที่ตื่นมาทุกเช้ามีเธอนอนอยู่ข้างๆ และได้นอนกอดกันทุกคืน ฉันรู้ว่าเธอรักฉันและฉันคิดว่าสิ่งที่ฉันทำมันก็เป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าฉันรู้สึกยังไงกับเธอ”“แล้วคุณรู้สึกยังไงเหรอคะ” หญิงสาวถามออกไปด้วยใจเต้นแรงเธอไม่รู้หรอกว่าตอนนี้อัลเฟรโด้กำลังจะพูดอะไรแต่ในใจก็แอบหวังว่าเธอได้ยินเขาพูดคำว่ารักซึ่งมันสำคัญกับเธอมาก ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันเธอบอกรักเข
“พรุ่งนี้ฉันจะบอกทนายให้จัดการเรื่องหย่า” จู่ๆ อัลเฟรโด้ก็พูดขึ้นระหว่างที่ออกมานั่งดื่มกับณัฐกฤษณ์เพื่อนสนิท“จะไม่ง้ออีกหน่อยเหรอ”“ฉันคิดว่าง้อไปมันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรหรอก เมลินเธอคงตัดใจจากฉันได้แล้วจริงๆ นั่นแหละ”“เฮ้ย!...แต่นี่เพิ่งผ่านมาไม่กี่เดือนเองนะ อดทนหน่อยสิ เด็กวัยรุ่นก็อย่างนี้เอาใจยาก”“นายพูดอย่างกับเคยมีแฟนเป็นเด็ก”“ถึงแฟนฉันกับฉันอายุจะไม่ห่างกันมาก แต่ฉันก็พอเข้าใจนะว่าผู้หญิงอารมณ์อ่อนไหว โดยเฉพาะเด็กอย่างเมียของนายนะ นายลองคิดดูสิเธออายุแค่ 18 แล้วต้องมาแต่งงาน ชีวิตกำลังลงตัวและมีความสุขจู่ๆ นายก็ไปพูดจาแบบนั้นกับเธอ”“ก็ตอนนั้นฉันยังไม่รู้ความจริงนี่”“คนโตอย่างเราอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ที่ต้องทะเลาะกันบ้างแต่นายอย่าลืมนึกถึงความแตกต่างในเรื่องของอายุด้วยนะ อีกอย่างเมลินเธอก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเลย แล้วมาโดนนายพูดจาแบบนั้นใส่เป็นใครก็ต้องเสียใจน้อยใจได้ นายเคยบอกฉันไม่ใช่เหรอว่าเมลินรักนายมาก พอโดนคนที่ตัวเองรักต่อว่าก็เลยยิ่งคิดมากและน้อยใจมันเป็นเรื่องธรรมดา”“ใช่เมลินรักฉันมาก เธอบอกรักฉันในทุกวันที่อยู่ด้วยกันนายรู้มั้ยฉันมีความสุขแค่ไหนเวลาไ
วันนี้เมลินญาน์เลิกเรียนเร็วกว่าปกติหญิงสาวจึงนัดทานข้าวกับศศิภาจากนั้นก็พากันเดินไปซื้อของก่อนจะขับรถมาส่งเธอที่บ้านระหว่างทางศศิภาก็ถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง“แกตัดสินใจดีแล้วหรอเมลิน แกรักเขามากนะแล้วจะหย่ากับเขาทำไม”“ฉันยอมรับว่าฉันรักเขามาก แต่ก็ไม่รู้จะอยู่กันไปทำไม เขาไม่เชื่อใจฉัน เขาคิดว่าฉันเป็นคนวางแผนให้ได้แต่งงานกับเขานะ”“แต่ตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าแกไม่ได้แบบ เขาก็ขอโทษแกแล้วแกยังต้องการอะไรอีก”“ไม่รู้สิ ฉันอาจจะต้องการความรักจากเขามั้ง”“แกเคยถามไหมว่าเขารักแกหรือเปล่า”“ไม่เห็นจำเป็นต้องถามเลยขิงฉันบอกรักเขาไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแต่ไม่เคยได้ยินกับเขาพูดมันเลย แม้คุณยายจะบอกว่าให้ดูที่การกระทำทำแต่ฉันก็อยากจะได้ยินมันสักครั้ง เขาพูดแต่ว่าเขาโทษอยากให้ฉันกลับไปอยู่ด้วยแค่นั้นเอง”“ถ้าเขาบอกว่ารักแกแล้วแกจะกลับไปคืนดีกับเขาเหรอ”“อือ”“ฉันไม่เข้าใจแกเลยนะเมลิน แกหย่ากับเขาแล้วแกก็ต้องมานั่งเสียใจแบบนี้มันคุ้มกันเหรอ”“ฉันไม่รู้ว่าคุ้มไหม แต่ฉันอยากอยู่กับคนที่รักฉัน แต่ฉันให้เวลาให้โอกาสเขาแล้วนะ ฉันรู้ว่าที่ฉันทำมันงี่เง่าไม่มีเหตุผล แค่คำว่ารักแค่คำเดียวแต่ฉันคิดว่าฉันอยากไ
จากวันที่เมลินญาน์ย้ายกลับไปอยู่บ้านถึงตอนนี้ก็เกือบจะสองเดือนแล้วอัลเฟรโด้ยังคงพยายามตามง้อ แต่หญิงสาวก็ไม่ยอมใจอ่อน ตอนนี้เธอเปลี่ยนกุญแจรั้วบ้านเปลี่ยนรหัสผ่านทุกอย่างทำให้อัลเฟรโด้ไม่สามารถเข้าไปหาเธอที่บ้านได้อย่างเคยแต่ถ้าวันไหนเขาเลิกงานเร็วก็มักจะขับรถวนมาดูว่าหญิงสาวถึงบ้านหรือยังและจอดรถที่หน้ารั้วจนกระทั่งเห็นว่าว่าเธอปิดไฟเข้านอนจึงขับรถกลับมาที่คอนโดมิเนียม เขาใช้รถของตนเองบ้างรถของบริษัทบ้างหรือบางครั้งก็ใช้รถของผู้ช่วยทำให้เมลินญาน์ไม่ทันสังเกตเห็นแต่วันนี้หญิงสาวไปซื้อของที่ตลาดสด แล้วเจอคุณน้าหนึ่งที่บ้านอยู่ถัดจากบ้านของเธอไปอีกสามหลังเข้ามาชวนคุย“เมลิน หนูสังเกตไหมว่าช่วงนี้แถวบริเวณหน้าบ้านหนูมักจะมีรถยนต์มาจอดอยู่บ่อยๆ”“หนูไม่ได้สังเกตเลยค่ะน้า เขามาจอดรอใครหรือเปล่า”“น้าเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ หนูลองสังเกตดูหน่อยนะไม่รู้เป็นพวกโจรเป็นขโมยหรือเปล่า หนูอยู่บ้านคนเดียวด้วยมันอันตราย ถ้าเห็นท่าไม่ดียังไงก็โทรเรียกตำรวจให้มาช่วยดูก็ดีนะ”“ขอบคุณนะคะน้า หนูจะไปย้อนดูกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านดูค่ะ อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครที่มาจอดรถรออยู่แบบนั้น”เมลินญาน์พูดคุยก
เพราะตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาอัลเฟรโด้ทานอาหารไม่ตรงเวลาและมักจะดื่มเหล้าอยู่ตลอด วันนี้ชายหนุ่มก็เลยรู้สึกปวดท้องหลังเลิกงานเขาเลยแวะที่โรงพยาบาลเพื่อให้คุณหมอตรวจอาการหลังจากตรวจและรับยาแล้วอัลเฟรโด้ยาก็เดินมาที่ลานจอดรถและได้เจอกับหมออำนาจที่กำลังจะกลับบ้านพอดี“สวัสดีครับหมออำนาจ”“สวัสดีครับคุณอัลเฟรดไม่สบายเหรอครับ” คุณหมอถามเพราะเห็นถุงยาในมือของเขา“ปวดท้องนิดหน่อยครับคุณหมอก็เลยแวะมาตรวจ คุณหมอละ ครับสบายดีไหม” อัลเฟรโด้เจอกับคุณหมอครั้งสุดท้ายก็ในงานศพของคุณยายราตรีซึ่งมันผ่านมาสองเดือนแล้ว“ผมสบายดีครับ”“คุณหมอพอจะมีเวลาสักนิดไหมครับ” อัลเฟรโด้ถามอย่างเกรงใจ“คุณอัลเฟรดมีอะไรหรือเปล่าผม”“อยากจะถามอะไรหมอหน่อย”“ได้สิครับ เรานั่งคุยตรงมาหินอ่อนตรงนั้นก็ได้”“ครับ” แล้วอัลเฟรโด้ก็เดินตามคุณหมออำนาจมายังม้าหินอ่อนที่อยู่ใกล้กับลานจอดรถ“คุณอัลเฟรดมีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ”“ผมอยากจะถามว่าทุกครั้งที่คุณยายมาตรวจกับคุณหมอ คุณยายให้คนอื่นเข้ามาในห้องด้วยหรือเปล่าครับ”“ไม่นะครับ คุณยายมักจะเข้ามาคนเดียวส่วนเมลินภรรยาของคุณก็รออยู่ข้างนอก มีอะไรหรือเปล่า”“ผมขอถามคุณหมอทุ
บทรักดำเนินต่อไปในห้องทำงานอีกพักใหญ่ก่อนที่อัลเฟรโด้จะอุ้มเมลินญาน์กลับมายังห้องนอน คืนนี้ทั้งสองต่างโรมรันพันตูกันอยู่บนเตียงอยู่นานก่อนที่หญิงสาวจะหมดแรงอยู่บนเตียงกว้างอัลเฟรโด้เอาผ้าเช็ดตัวชุบน้ำมาเช็ดคราบเหงื่อออกก่อนจะนอนกอดโดยไม่ได้มีคำพูดอะไรเมลินญาน์ซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขาแล้วหลับตานิ่ง เธออยากจะเก็บความรู้สึกคืนนี้ไว้เป็นคนสุดท้ายและพรุ่งนี้เธอกับเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกันอีกอัลเฟรโด้เองก็กอดกระชับเธอไว้แน่นเขากำลังสับสนว่าจากนี้จะเอายังไงต่อจะใช้ชีวิตกับเธอไปเรื่อยๆ หรือจะหย่าอย่างที่เธอพูด เขายังคงตัดสินใจไม่ได้ชายหนุ่มนอนใช้ความคิดจนกระทั่งเผลอหลับแล้วตื่นมาอีกครั้งในตอนเช้าเขารู้สึกใจหายเมื่อเช้านี้มันต่างจากทุกเช้าที่ผ่านมาเมื่อข้างกายของเขาไม่มีเมลินญาน์นอนอยู่ข้างๆอัลเฟรโด้รีบลุกขึ้นนุ่งผ้าเช็ดตัวแล้วเดินมายังห้องครัวเขาเห็นแค่ความว่างเปล่า ชายหนุ่มมองนาฬิกาเห็นว่ามันสายมากแล้วและคิดว่าวันนี้ที่เธอไม่ทำอาหารเช้าให้อาจจะเป็นเพราะเธอรีบไปเรียนและถ้าหากเย็นนี้เธอกลับมาที่คอนโดเขาจะลองเปิดใจคุยกับเธออีกครั้งอยากจะฟังเหตุผลจากเธออีกครั้งโดยไม่ใช้อารมณ์ตลอด







