เยว่อวิ๋นที่ไม่รู้ความคิดในใจชิงหลัว ยังคงเดินซื้อของอย่างบ้าคลั่ง ทุกร้านที่นางไปเยือนล้วนมีข้าวของกองโตกองอยู่หน้าร้านไม่ต่างกัน โชคดีที่แต่ละร้านมีน้ำใจให้คนช่วยยกไปส่งยังที่จอดเกวียนของเซี่ยต้าจวง หญิงสาวจึงไม่ต้องแบกของเหล่านั้นจนหลังแอ่น“พี่สะใภ้ ยังต้องการจะซื้ออะไรเพิ่มอีกหรือไม่” ชิงหลัวหั
เยว่อวิ๋นไม่สนใจท่าทางโศกเศร้าอันไม่รู้ที่มาของชิงหลัว นางสอดส่ายสายตามองหาร้านของกิน ก่อนจะสะดุดตาเข้ากับแผงขายเกี๊ยวน้ำด้านข้าง“ไปเถอะน้องสะใภ้ ข้าจะเลี้ยงอาหารเช้าเจ้า” พูดจบไม่รอให้ชิงหลัวตอบ ก็เดินนำหน้าไปยังเก้าอี้ตัวเตี้ยด้านหน้าร้านทันที“เถ้าแก่ เกี๊ยวน้ำสองชาม” เยว่อวิ๋นร้องสั่ง เถ้าแก่วั
“เจ้า!นางหญิงบ้านี่” จูจ้งสบถเสียงลั่น อยากลุกมาทุบตีคนที่ลงมือทำร้ายตนเองใจแทบขาดทว่าความเจ็บปวดจากกระดูกนิ้วที่บิดเบี้ยวทำให้เขาทรมานแทบตาย ไม่ต้องให้เยว่อวิ๋นลงมือซ้ำ เขาก็ร่ำไห้กรีดร้องขอความเมตตาไม่หยุดปากแล้ว“แม่นาง ท่านหมอจูเสียมารยาทจึงถูกสั่งสอนก็สมควรแล้ว แต่เรื่องของคุณหนูพวกเรานั้นหมดห
ดวงตาเยว่อวิ๋นพลันหรี่ลงอย่างไม่ชอบใจ คนที่ชี้หน้านางคือสตรีผู้อุ้มเด็กที่นางพบเมื่อเช้านั่นเอง อีกฝ่ายสวมชุดสีชมพูดอกท้อสดใส รูปลักษณ์อ่อนหวานน่ารักประดุจดอกไม้แรกแย้ม เพียงแต่ความเป็นปรปักษ์ของแม่นางผู้นี้จะพุ่งเป้ามาที่นางอย่างโจ่งแจ้งเกินไปไหม“ข้าบอกตอนไหนกันว่าเด็กคนนี้หมดหนทางรักษา” ดวงตาคมกร
เยว่อวิ๋นชะงักไปเล็กน้อย ฟังจากคำพูดพอเดาได้ว่าคงเป็นเจ้านายของหงจือหลิน ทว่าเสียงของผู้มาใหม่นั้นฟังดูอ่อนเยาว์จนคาดไม่ถึง นางจึงอดหันมองไปยังต้นเสียงมิได้ครั้นหันไปมองสายตาก็เห็นเห็นบุรุษหนุ่มวัยประมาณยี่สิบปีผู้หนึ่ง คนผู้นั้นก้าวเข้ามายืนนิ่งอยู่หน้าประตู ใบหน้าหล่อเหลาคมคายเรียบเฉย ทว่าความเย็
นางเอ่ยคำพูดเรียบง่ายทว่าตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง อย่าว่าแต่เฉียนซานกับหลันอีจะตกตะลึงพูดไม่ออก กู้เหยียนเซียวที่มีท่าทีสุขุมมาตลอดเองยังนิ่งอึ้งอยู่เป็นนานที่แท้บุญคุณของพวกเขาก็สามารถทดแทนได้ด้วยเงิน กู้เหยียนเซียวหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก อำนาจความมั่งคั่งที่พวกตนยึดติด ในใจสตรีชาวบ้านคนหนึ่งยังมิสู
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณมากๆ” ได้ที่อยู่ไว้เผื่อเหตุฉุกเฉิน หลันอีก็ไม่ดื้อดึงอีก นางหันไปมองทางกู้เหยียนเซียว“แม่นางเยว่รบกวนเชิญทางนี้” กู้เหยียนซียวบอกพลางเดินออกจากห้องเยว่อวิ๋นดวงตาวาวทันที นางรู้ดีว่ากู้เหยียนเซียวเรียกนางไปด้วยเรื่องอะไร ใบหน้าเรียบเฉยเย็นชาจึงเจือความจริงใจขึ้นมาอีกถึงสองส่วนกู
“พี่สะใภ้ พวกเขาไม่ได้สร้างความลำบากให้ท่านใช่หรือไม่”เห็นเยว่อวิ๋นเดินออกมา ชิงหลัวที่รออยู่ก็รีบเข้ามาไต่ถามด้วยความเป็นห่วงทันที สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าตอนเห็นหมอจูถูกลากออกมา ในใจนางหวาดกลัวแค่ไหน“ไม่นี่ จบเรื่องแล้วพวกเราไปซื้อขนมแล้วกลับกันเถอะ” เยว่อวิ๋นกล่าวยิ้มๆ ในใจยิ่งรู้สึกดีกับสาวน้อย
เรื่องอะไรนางต้องลำบากลำบนเป็นหนี้เพื่อซื้อผู้หญิงให้สามีตัวเองด้วย!“เยว่ซื่อเจ้าอย่าได้ทำเกินไปนักนะ คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาเจ้ากี้เจ้าการเรื่องครอบครัวข้า แค่สามีข้ารู้จักสวีเหยาเจ้าก็คิดจะยัดเยียดคนเข้ามาแล้วรึ เจ้านี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี”“เจ้าเองก็รู้นี่ ว่าเรื่องแบบนี้มันไร้เหตุผล แล้วทีเจ้าลา
เซี่ยเหล่าซานมีหรือจะไม่รู้นิสัยลูกสะใภ้ตัวเอง นางสงสารสวีเหยาจริงเสียที่ไหนกัน ก็แค่อยากสร้างความลำบากใจให้ผู้อื่นเท่านั้นแหละ“สะใภ้รองเจ้าว่างมากนักหรือไง ถ้าไม่มีอะไรทำก็กลับเข้าบ้านไปเสีย อย่ามาอยู่ตรงนี้ให้คนเขาระอาเลย” อยู่ต่อหน้าเยว่อวิ๋นเซี่ยเหล่าซานไม่สะดวกจะสั่งสอนลูกสะใภ้ จึงได้แต่ถลึงตา
พอรู้ว่าคนไปแล้วนางเจียงจึงขมวดคิ้ว บ่นสามีที่ไม่รู้ความเบาๆ “ดูเจ้าสิ อายุปูนนี้แล้วยังคิดไม่ได้ เยว่ซื่อมอบของตอบแทนที่เจ้าช่วยเหลือ เจ้าก็ไม่คิดอะไรแบมือรับอย่างเดียวหรือ”ผู้ใหญ่บ้านฟังแล้วหน้าแดง รู้สึกว่าตนบกพร่องมารยาทไปจริงๆ เจียงซื่อเห็นเขาคิดได้ก็ไม่พูดต่อ นางเพียงส่งผักที่กอดไว้ให้อีกฝ่าย
อีกด้าน เยว่อวิ๋นจัดการแบ่งใบชาที่ซื้อมาใส่ห่อพร้อมขนมกุ้ยฮวาที่ซื้อมาอีกหนึ่งกล่อง เตรียมของเสร็จนางก็กำชับต้าเป่ากับเสี่ยวอวี้ให้คอยดูคนป่วยสองคนด้านใน จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านผู้ใหญ่บ้านบ้านของผู้ใหญ่อยู่ห่างจากบ้านของเยว่อวิ๋นพอประมานใช้เวลาเดินเกือบๆ หนึ่งเค่อ เยว่อวิ๋นเดินไปตามทางอย่างไม่ร
พอเยว่อวิ๋นจากไปในห้องก็พลันเงียบงันชั่วขณะ เซี่ยฉงอวิ๋นที่เมื่อครู่ต่อล้อต่อเถียงก็เอาแต่จ้องมองใบหน้าหลีจวินไม่กล่าววาจา เห็นอย่างนั้นหลีจวินก็ใจแป้วขึ้นมาทันที“เจ้ามองข้าแบบนั้นทำไม ขะ... ข้าเป็นลูกค้าบ้านเจ้านะ” หลายวันมานี้เขาถูกคนตรงหน้ากลั่นแกล้งจนหัวหมุนขยาดไปหมดแล้ว“แล้วอย่างไร เจ้ายังไม่
เรื่องราวของสวีเหยาถูกโจษจันไปทั่วหมู่บ้าน หญิงสาวยังไม่แต่งงานคนหนึ่ง กลับวิ่งไปหาบุรุษที่มีภรรยาอยู่แล้วเพื่อขอเป็นอนุ นี่ช่างเป็นเรื่องตลกร้ายที่น่าอับอายอย่างแท้จริงพริบตาที่เรื่องนี้แพร่ออกไป ไม่เพียงครอบครัวสวีที่กลายเป็นตัวตลก แต่บ้านจ้าวเองก็หนีไม่พ้นเช่นกันป้าจ้าวที่เคยเดินเชิดหน้านินทาคน
ทว่าสวีเหยากลับไม่ได้ทำอะไรเยว่อวิ๋นอย่างที่ทุกคนคาดเดา นางเพียงพุ่งไปคุกเข่าเบื้องหน้าเยว่อวิ๋น ก่อนจะก้มลงโขกศีรษะให้ฝ่ายหลังสุดแรง“เยว่อวิ๋น ขอร้องเจ้าแล้ว ยอมให้ข้าเป็นอนุของพี่ชายอวิ๋นเถอะ ขอแค่เจ้ายอมรับปาก ข้าสาบานจะปรนนิบัติรับใช้เจ้ากับพี่ชายอวิ๋นจนชีวิตหาไม่”สวีเหยาพร่ำขอร้องไปพลางโขกศีร
อีกด้าน เยว่อวิ๋นกำลังฝังเข็มให้เซี่ยฉงอวิ๋นอยู่เช่นกัน ทว่าฝั่งนี้กลับดูสบายกว่าทางหลีจวินอย่างเห็นได้ชัด“หลีจวินนี่เด็กจริงๆ เขาแกล้งเอะอะใส่หมอจางทุกครั้งแบบนี้สนุกนักหรือไง” เยว่อวิ๋นฟังเสียงร้องโหยหวน พลางขมวดคิ้วบ่นเบาๆถึงอย่างไรหมอจางก็เป็นลูกศิษย์นาง เจ้าหนุ่มนั่นไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโสเอา
ได้ยินอีกฝ่ายสาธยายความผิดของฟางฮัวทีละข้อชัดถ้อยชัดคำ เยว่อวิ๋นได้แต่นิ่งเงียบพูดไม่ออก นี่เขาพิการออกไปไหนไม่ได้จริงหรือส่วนฟางฮัวผู้นี้คงรังเกียจว่าชีวิตตนสงบสุขเกินไปสินะ ถึงได้พยายามรนหาที่ซะเหลือเกินเซี่ยฉงอวิ๋นเห็นภรรยาไม่คิดจะพูดแทนฟางฮัวอีกก็พอใจอย่างมาก เขาเอื้อมมือดึงคนเข้ามากอดขณะเอ่ยเ