LOGINฉันยังชันเข่าอยู่ตรงหน้าเขาแบบนั้น แต่อารมณ์ในตอนนี้ไม่ใช่แค่นั่งเฉย ๆ อีกต่อไป สองเราลูบไล้และทอดนัยน์ตายั่วยวนกันและกัน โดยไม่มีใครยอมใคร
มือฉันแนบอยู่บนอกแกร่ง มือเขาแนบอยู่ที่แผ่นหลังฉัน พลางไล้นิ้วไปตามสันหลังก่อนจะหยุดตรงกลางหลังแล้วพยายามเร่งโน้มตัวฉันลงไปอีก แต่ฉันไม่ยอมหรอก
“จะรีบร้อนทำไมคะ” ฉันกระซิบแหบพร่า พร้อมกดมือบนอกแกร่งเขาเบา ๆ จงใจถ่วงเวลาไว้
พี่แทนยิ้มแฝงด้วยจิตวิญญาณนักล่าที่รู้ว่าคนตรงข้ามอย่างฉันกำลังเล่นเกมด้วยความรู้สึกเดียวกัน
“ไม่ได้รีบร้อน แค่รู้สึกว่าถ้าพี่ปล่อยให้หนูคุมเกมมากกว่านี้ พี่อาจจะหมดแรงก่อนได้เริ่มจริง”
“แปลว่าเริ่มกลัวหนูแล้วสินะ”
“ไม่ได้กลัว...แค่ไม่ประมาทครับ” ฉันยกยิ้มมุมปากโน้มใบหน้าเข้าใกล้ใช้เรียวลิ้นร้อนไล้เลียไปตามแนวหลังใบหู สันกรามเบา ๆ ขณะที่มือฉันเริ่มเคลื่อนไปตามอารมณ์สอดเข้าในเรือนผมของเขาพลางขยุ้มเบา ๆ
เขาชะงักเล็กน้อยกับสัมผัสบางเบานี้
“ถ้าเล่นแรงแบบนี้ พี่คงต้องเอาจริงแล้วนะครับ” ฉันยิ้มมุมปาก ขณะใช้มืออีกข้างลูบไปตามแนวแขนแกร่งเขา
“ก็รออยู่นี่ไงคะ จะเอายังไงก็เชิญ พร้อมรับแรงกระแทกเสมอ” สิ้นคำสิ่งที่เขาตอบกลับมาคือการกดจูบอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันเต็มไปด้วยแรงและจังหวะ ที่ไม่เปิดช่องให้ฉันเป็นฝ่ายคุมเกมได้เลย
ฉันโดนผลักลงเตียงนุ่มของตัวเอง แผ่นหลังแนบสัมผัสผ้าปูนุ่มใต้กายเขา ก่อนที่ร่างของเขาจะตามมาทาบทับฉันลงมา จนร่างแนบชิดไปทุกส่วน
ริมฝีปากเขาไม่ห่างจากฉัน ขณะที่มืออีกข้างไล้ลูบต้นขาอ่อนจนสะกิดกามารมณ์ให้ฟุ้งไปอีก แต่ฉันไม่ปล่อยให้เขานำเกมอยู่ฝ่ายเดียวหรอก มือฉันไล้กลับขึ้นไปที่ต้นคอเขา ก่อนจะใช้แรงทั้งหมดที่มีเบี่ยงตัวพลิกขึ้นไปเป็นฝ่ายนั่งคร่อมเขาแทน พี่แทนดูแปลกใจจนเบิกตาโต
“หืม...หนูเก่งขึ้นเยอะเลยนะ” เขาพูดพลางเลื่อนมือมาจับเอวฉันไว้แน่น ฉันก้มตัวโน้มกระซิบชิดริมฝีปากเขา “ก็คนสอนดีไม่ใช่เหรอคะ” แล้วฉันก็ทาบริมฝีปากลงไป คราวนี้เป็นฉันที่เริ่มบ้าง จูบที่ละมุนเนิบช้ายาวนานจนทำให้เราทั้งคู่หลุดเสียงครางในลำคอออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“อ่ะ...” ฉันที่สะดุ้งตัวนิด ๆ เมื่อสัมผัสได้ว่ามีนิ้วมือหนาแทรกผ่านชั้นในเข้าไปเย้าแหย่กลีบอวบฉ่ำ ก่อนจะดันมันเข้าไปในโพรงอ่อนนุ่ม ทำเอาฉันเสียวซ่านขนลุกไปทั้งตัว แต่ฉันไม่สามารถเงยหน้าออกจากจูบได้เพราะฝ่ามือร้อนของเขารั้งท้ายทอยไว้
ลมหายใจเรากระทบกัน หยาบโลนขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่นิ้วมือเขาก็เข้าออกในโพรงอ่อนนุ่มเป็นจังหวะพร้อมลมหายใจเข้าออก
จนเมื่อเราผละจูบกัน ฉันก็ซบหน้าลงซอกคอเขาหอบหายใจรัว เพราะจูบครั้งนี้ยาวนานมาก แถมถูกเหย้าแย่กึ่งกายอีกความเหนื่อยยิ่งทวีคูณ แต่เพียงชั่วครู่ จู่ ๆ เขาก็ดีดตัวขึ้นนั่งรวบเอวฉันเข้ามากอดแน่น
“คิดว่าตัวเล็กแบบนี้จะคุมพี่ได้นานแค่ไหนกันคับ” เขาเอ่ยเสียงพร่าข้างหูฉันขณะที่มือเคลื่อนต่ำลงลูบต้นขาอ่อน พลางใช้นิ้วมือสะกิดกลีบอวบฉ่ำเป็นระยะ ทำเอาฉันนั่งอยู่ไม่นิ่งขยับเอวไปมา
“แล้วถ้าหนูบอกว่าจะคุมเกมจนกว่าพี่จะยอมร้องขอละคะ อ่าห์...” เขาไม่ปล่อยให้ฉันได้ทำหน้าเชิดมั่นได้เลย เพราะเมื่อฉันพูดหยอกเขาบ้าง นิ้วมือเขาก็สะกิดเม็ดทับทิมอย่างตั้งใจ ใครจะทนได้กันคะ
“ฝันไปเถอะครับ” เขาเหวี่งตัวฉันลงกลับนอนราบอีกครั้ง สลับให้เขากลับมาอยู่ด้านบน ร่างสูงคร่อมร่างฉันโดยที่ไม่มีช่องทางให้หนีได้แม้แต่น้อย
“หึ...” ฉันหัวเราะในลำคอเบา ๆ ยกขาเกี่ยวรอบสะโพกเขาอย่างรู้ทัน
“จะเล่นแบบนี้ใช่ไหมคะพี่แทน”
“ไม่เล่นแล้วครับ...จะเอาจริงแล้ว” เขาก้มจูบที่ซอกคอฉัน ไล้ไปจนถึงไหปลาร้า มืออีกข้างกดรวบตรึงข้อมือเล็กของฉันไว้เหนือหัว ปล่อยให้อีกมือไล้วนไปทั่วร่างกาย สัมผัสนั้นแทบทำให้ฉันหยุดหายใจ
ยิ่งเขาซุกหน้าลงก้อนเนื้อนุ่มทั้งสอง พลางใช้เรียวลิ้นสากตวัดเกี่ยวยอดถันจนมันแข็งเป็นไต ร่างกายฉันแสดงความรู้สึกเสียวซ่านออกมาจนต้องแอ่นอกรับกับจังหวะการละเลงลิ้นของเขา
“อ่าห์...เลียเก่งจัง ดูดแรงอีกนิดได้ไหม”
“อื้อ...” เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะถอนมือที่รวบข้อมือฉันไว้หันมาบีบก้อนเนื้อนุ่มฉันแรง เขาบีบเฟ้นแรงแทบแหลกคามือ มันเจ็บนะแต่ก็เสียวมากเหมือนกัน ยิ่งเขาดูดแรงตามคำขอยิ่งทำให้ฉันพอใจจนวางมือไว้บนหัวเขาลงน้ำหนักให้เพิ่มแรง ดูด กัดขึ้นไปอีก
“ดีจัง ชอบมากเลย...อ่ะ...” เสียงครางที่มาพร้อมจังหวะเม้มกัด จนทำให้ฉันไม่สามารถที่จะกลั้นได้
เขาแหงนหน้ามามองฉันอย่างยิ้มร้าย
“อย่าเพิ่งเหนื่อยนะครับ”
“ทำไม...พี่ถึงแรงเยอะขนาดนี้เนี่ย” ฉันกระซิบด้วยเสียงอันแหบพร่า ทั้งที่พยายามจะควบคุมตัวเองแล้ว แต่ก็ไม่อาจต้านทานแรงโจมตีอันเร่าร้อนของเขาได้
“ก็คนตรงหน้าเย้ายวนขนาดนี้ พี่ก็ต้องเอาให้สุดสิครับ” นี่ขนาดเล้าโลมกันมานาน แต่พอได้ยินคำนี้ออกมา พานทำให้ฉันหมดแรงแล้ว
พี่แทนกางเรียวขาทั้งสองข้างฉันออก พลางหลุบตาลงมองกึ่งกายฉันด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยกามารมณ์เต็มที่ เขาเลียริมฝีปากของเขาให้ฉันเห็น ก่อนจะฝังใบหน้าลงไปตำแหน่งนั้น ปลายลิ้นร้อนลากผ่านกลีบอวบฉ่ำของฉันไปมา เน้นย้ำเม็ดทับทิมจนทำให้ร่างกายฉันกระตุกยกสะโพกตอบรับทุกสัมผัสของเขา สองมือฉันกอบกุมหัวเขาไว้กดมันแน่น จนพี่แทนรับรู้ถึงความเสียวซ่านของฉัน เขาจึงยกระดับเสิร์ฟความเร่าร้อนใช้นิ้วสอดเข้าไปในโพรงอันอ่อนนุ่มและละเลงลิ้นร้อนรัวเม็ดทับทิบไปพร้อม ๆ กัน ให้ตายเถอะ ฉันเสียวจะตายอยู่แล้ว
“พี่ฉันจะไม่ไหวแล้วนะ หยุดก่อนได้ไหม” แม้ฉันจะพูดหยุดออกมา แต่เขากลับทำตรงข้ามที่ฉันร้องขอ เร็วขึ้น เน้นย้ำเป็นจังหวะมากขึ้น จนสุดท้ายฉันก็ไม่ไหว กระตุกตัวแรง ร้องครางเสียงหลง พร้อมกับยกสะโพกลอยขึ้น นัยน์ตาปรือแสดงถึงความสุขที่ได้รับมา
“ทำไมหนูทำหน้าลามกแบบนั้นล่ะ เสียวเหรอครับ” เขาพูดหยอกล้อพร้อมกับขึ้นมานั่งใกล้ข้าง ๆ ร่างของฉันที่นอนแผ่อย่างหมดแรง
“ก็พี่เล่นประเคนขนาดนี้ หนูก็ต้องเสียวสิ” ฉันเบือนหน้าหนีแก้เขิน
“งั้น...หนูทำให้พี่เสียวบ้างสิครับ” พี่แทนไม่พูดเปล่าดึงมือฉันให้ไปกุมแก่นกายเขาที่มันแข็งขืนไปพอควร ความร้อนของมันพานทำให้ฉันอารมณ์ฟุ้งอีกครั้ง เขาจับมือฉันให้ชักขึ้นลงเป็นจังหวะจนเมื่อฉันจับจังหวะได้ เขาก็ปล่อยมือฉันให้ทำเอง มันทั้งร้อน ทั้งใหญ่ ปลายหัวหยักก็เริ่มปริ่มน้ำใส ๆ ออกมาแล้วด้วย
มือหนาข้างหนึ่งของเขา ลูบหัวฉันเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยเว้าวอนกับฉัน
“ใช้ปากเล่นกันมันหน่อยสิครับ” ใบหน้าแดงก่ำหลุบตามอง พอเห็นเขาเป็นแบบนั้นก็เริ่มคึกขึ้นมาแล้วล่ะ ฉันหยัดตัวขึ้นสองมือกุมแก่นกายเขา ก่อนจะโน้มลงไปใช้เรียวลิ้นร้อนลากโลมเลียแก่นกายตามที่เขาร้องขอ ตวัดกดเน้นที่ปลายหัวหยักจนมันขยับเล็ก ๆ
“อื้อ...ดีครับ”เสียงครางกระเส่าลอดผ่านให้ได้ยิน ฉันยิ่งได้ใจ ใช้อุ้งปากครอบครองมันด้วยความเต็มใจ แม้มันจะเข้าได้เพียงครึ่งเท่านั้นก็ตาม
“อย่าให้โดนฟันนะครับ” สองมือของเขาวางไว้บนหัว ก่อนจะนำจังหวะขึ้นลงให้ฉัน ฉันทั้งดูด ใช้ลิ้นตวัดปลายหัวหยักสลับไปมา จนเมื่อพี่แทนควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป
“อ่อก...อ่อก...อ่อก” เสียงวาบหวามของแก่นกายที่เข้าออกโพรงปากฉันอย่างเอาเป็นเอาตาย ยิ่งเขาสวนสะโพกขึ้นมา มันยิ่งลึกจนถึงคอหอย ยิ่งครางดังแหงนหน้าซู้ดปากอย่างหมดลุคหนุ่มสุขุมทันตา แล้วจู่ ๆ เขาก็ถอนแก่นกายที่แข็งขืนเต็มที่ออกไปดื้อ ๆ ทำให้ฉันงงงวย เพราะหากเป็นแต่ก่อนเขาคงปล่อยคาปากฉันไปแล้ว
เขาพลิกตัวฉันคว่ำหน้าลง ยกสะโพกฉันให้โก้งโค้งขึ้น ก่อนจะจ่อปลายหัวหยักนั้นตรงกึ่งกายฉัน และค่อย ๆ ดันมันเข้ามา
“อ่ะ...พี่ช้า ๆ หน่อย” ฉันกัดฟันเน้น แต่คราวนี้ไม่ได้เจ็บมากนัก อาจเพราะเราสองเล้าโลมกันนานพอควรและมันเพียงพอให้การสอดใส่ได้ง่าย ไม่นานพี่แทนก็สามารถสอบเอวเข้ามาได้สุดลำ แต่ก็ยังคงทิ้งความหน่วงและจุกให้ได้รู้สึก
“อ่ะ...อ่าห์...อึก” ฉันมุดหน้าลงหมอนใบใหญ่ร้องครางประสานไปกับเสียงวาบหวาม ปล่อยให้คนร่างโตกระแทกกระทั้นอยู่แบบนั้นจนเสร็จสมกันไปข้าง
เราต่างลื่นไหลเคลิ้มไปกับท่วงทำนองของกันและกัน ไม่มีใครยอมใคร โต้กลับกันไปมาเหมือนคลื่นที่ซัดสาดไม่มีหยุด
ในที่สุดเราทั้งคู่ก็ขยับร่างเข้าสู่ปลายเพลงของบทรักอันร้อนแรง และจบลงด้วยสัมผัสอันอ่อนโยน
เขารวบตัวฉันเข้าไปกอดแน่นไม่พูดอะไร ฉันเองก็ไม่ต่าง มีเพียงเสียงลมหายใจรดถี่จากความเหนื่อยล้าเท่านั้น
“พี่” ฉันเรียกเบา ๆ พลางลูบแผ่นหลังที่ชื้นเหงื่อของเขา
“หื้ม?”
“คืนนี้หนูไม่ได้แพ้พี่ใช่ไหมคะ”
“ฮ่า...” เขาหัวเราในลำคอ ก่อนจะงับใบหูฉันหนึ่งที
“แพ้ไม่แพ้ไม่รู้ครับ รู้แค่ว่า...อยากให้มีเกมรักนี้ทุกคืน”
“บ้า! ขืนมีทุกคืนหนูตายกันพอดี พี่ดูที่นมฉันสิมีแต่รอยจ้ำเต็มไปหมด” ฉันทำหน้ามุ่ย เขายกมือมาลูบหน้าอกฉันเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ขอโทษครับเจ็บไหม”
“ทำไปไม่รู้กี่ครั้งเพิ่งจะมาถามเหรอคะว่าเจ็บไหม แต่มันไม่เจ็บหรอกค่ะไม่ต้องกังวล”
“ถ้าดูดตรงนี้แล้วมันเป็นรอย งั้นพี่ไปดูดที่นี่หนัก ๆ แทนละกันครับ” เขาไม่พูดเปล่า กลับเลื่อนมือไปจับกึ่งกายของฉันที่ยังเฉอะแฉะอยู่ จนฉันต้องตีมือเขาเบา ๆ ทำเอาเขาหัวเราะที่ได้แหย่ฉันเล่น
“หนูเหนื่อยแล้วค่ะ ง่วงนอนจัง”
มือของเขาลูบหลังฉันไปมาเบา ๆ ราวกับกำลังกล่อมฉันนอน และมันก็ได้ผล เพราะฉันรู้สึกเหมือนตัวเองค่อย ๆ หลับตาลง (Zzz) แล้วสติก็เลื่อนดับไป
ห้องรับรองหลังฉากในสตูดิโอรายการ ‘4 แซ่บบันเทิง’ แม้จะเย็นฉ่ำจากแอร์ แต่มันก็ไม่สามารถดับความประหม่าในใจฉันได้เลยสักนิด“พี่...แน่ใจเหรอ ว่าเราควรมานั่งให้สัมภาษณ์แบบนี้ มันจะไม่โหนกระแสไปหน่อยเหรอคะ” ฉันหันไปกระซิบถามพี่แทนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พลางจับมือเขาแน่นจนชื้นเหงื่อ“แน่ใจสิครับ ไหน ๆ ก็เปิดตัวแล้ว เราก็ควรจะไปให้สุด” เขาตอบพร้อมรอยยิ้มอย่างใจเย็นใจ ฉันพ่นลมหายใจยาวใช้หลังมืออีกข้างแตะหน้าผากตัวเองเบา ๆ ได้แต่ภาวนาให้ฉันอย่าหลุดพูดอะไรแปลก ๆ เลยเถอะ“อีกสิบนาที เตรียมตัวนะคะ” หนึ่งในทีมงานเดินเข้ามาแจ้ง ก่อนจะหันมายิ้มให้ฉันอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเกร็งนะคะคุณมิ้น แฟน ๆ ตอนนี้ยอดคนดูรอแล้วกว่าแสนคน” ฉันพยักหน้ารับ ขณะที่พี่แทนหันมากระซิบข้างหูกันเบา ๆ“ไม่ต้องกลัวนะครับ พี่อยู่ตรงนี้ตลอด” แม้หัวใจฉันจะเต้นแรง แต่เพียงเขาพูดแค่นี้ก็ทำให้ฉันสงบลงได้ ใช่...ต่อจากนี้เราจะไม่ต้องแอบ ไม่ต้องหลบ และปิดบังอีกต่อไป(หน้าฉากสตูดิโอ รายการ 4 แซ่บบันเทิง)“ว้าว...ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้นั่งสัมภาษณ์สองคนนี้ในฐานะ ‘คู่รัก’ ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับความรักครั้งนี้ด้วยนะคะ คุณแทนและคุณมิ้น”
นาฬิกาชีวิตปลุกให้ฉันตื่นขึ้นอัตโนมัติ กิจกรรมร่วมรักบนเตียงเมื่อคืนส่งผลให้ความปวดร้าว หนักหน่วงคืบคลานไปทั่วร่างแม้จะตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ฉันก็ยังขยับตัวลำบาก เนื่องจากสองแขนแกร่งของคนนอนข้างกายยังคงรัดแน่นไม่ยอมปล่อยราวกับกลัวว่าฉันจะหนีหายไปพี่แทนยังคงหลับสนิท ฉันหันไปจ้องหน้าเขาชัด ๆ ยิ่งมองยิ่งรู้สึก...หล่อจนใจสั่น ไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่หัวใจที่เขามอบให้ฉันก็รับรู้ได้ทั้งหมดเขานอนตะแคงหันหน้ามาทางฉัน มือหนึ่งยังพาดอยู่บนเอวฉัน“โธ่เอ้ย...พอหลับแล้วไม่เห็นจะดูเจ้าเล่ห์เลยนะ” ฉันยิ้มพึมพำเบา ๆ ขณะใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมที่ปรกใบหน้าหล่อเขาให้เห็นเด่นชัดฉันเอี้ยวตัวอย่างเบามือ ให้ตัวแนบชิดกับเขามากกว่าเดิม ซบหน้าลงกับอกแกร่งฟังเสียงหัวใจของเขาที่ยังเต้นแรงอยู่“เมื่อวานที่หนูบอกว่า...ไม่อยากแพ้พี่” ฉันกระซิบเบา ๆ กับตัวเอง “ไม่ใช่เพราะหนูอยากเอาชนะ” ฉันยิ้มพลางขยับใบหน้าเบา ๆ เพื่อรับไออุ่นมากขึ้น “แต่หนูอยากให้พี่เห็นว่า หนูก็พร้อมมอบความรักให้พี่เช่นกันค่ะ”เขาขยับตัวเล็กน้อย มือที่กอดฉันไว้กระชับแน่นขึ้น ทำฉันสะดุ้งจนกระตุกวูบ“แกล้งหลับอยู่ใช่ไหมคะ...” ฉันแหงนหน้ามอ
ฉันยังชันเข่าอยู่ตรงหน้าเขาแบบนั้น แต่อารมณ์ในตอนนี้ไม่ใช่แค่นั่งเฉย ๆ อีกต่อไป สองเราลูบไล้และทอดนัยน์ตายั่วยวนกันและกัน โดยไม่มีใครยอมใครมือฉันแนบอยู่บนอกแกร่ง มือเขาแนบอยู่ที่แผ่นหลังฉัน พลางไล้นิ้วไปตามสันหลังก่อนจะหยุดตรงกลางหลังแล้วพยายามเร่งโน้มตัวฉันลงไปอีก แต่ฉันไม่ยอมหรอก“จะรีบร้อนทำไมคะ” ฉันกระซิบแหบพร่า พร้อมกดมือบนอกแกร่งเขาเบา ๆ จงใจถ่วงเวลาไว้พี่แทนยิ้มแฝงด้วยจิตวิญญาณนักล่าที่รู้ว่าคนตรงข้ามอย่างฉันกำลังเล่นเกมด้วยความรู้สึกเดียวกัน“ไม่ได้รีบร้อน แค่รู้สึกว่าถ้าพี่ปล่อยให้หนูคุมเกมมากกว่านี้ พี่อาจจะหมดแรงก่อนได้เริ่มจริง”“แปลว่าเริ่มกลัวหนูแล้วสินะ”“ไม่ได้กลัว...แค่ไม่ประมาทครับ” ฉันยกยิ้มมุมปากโน้มใบหน้าเข้าใกล้ใช้เรียวลิ้นร้อนไล้เลียไปตามแนวหลังใบหู สันกรามเบา ๆ ขณะที่มือฉันเริ่มเคลื่อนไปตามอารมณ์สอดเข้าในเรือนผมของเขาพลางขยุ้มเบา ๆเขาชะงักเล็กน้อยกับสัมผัสบางเบานี้“ถ้าเล่นแรงแบบนี้ พี่คงต้องเอาจริงแล้วนะครับ” ฉันยิ้มมุมปาก ขณะใช้มืออีกข้างลูบไปตามแนวแขนแกร่งเขา“ก็รออยู่นี่ไงคะ จะเอายังไงก็เชิญ พร้อมรับแรงกระแทกเสมอ” สิ้นคำสิ่งที่เขาตอบกลับมาคือการกดจูบอีก
“โอเคครับ กล้องพร้อม! ไฟพร้อม! แอคชั่น!” เสียงผู้กำกับดังขึ้นท่ามกลางกองถ่ายบ้านหรูปลีกวิเวกที่แสนสงบ เราสวมชุดนักแสดงเต็มยศ ฉันอยู่ในชุดเดรสลูกไม้สีฟ้าอ่อน พี่แทนอยู่ในชุดเชิ้ตขาวพับแขนกับกางเกงสแล็คเข้ารูปบรรกาศโดยรอบเงียบลงอย่างรวดเร็ว ทุกคนอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ของตน...ฉากที่เรากำลังจะถ่ายกันคือ ‘ฉากจูบแรก’ ของพระเอกและนางเอกในละครเรื่อง รอยยิ้มของตัวจริง ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวละครหลัก โดยก่อนหน้านี้มีแต่การปะทะอารมณ์และเข้าใจผิดมาโดยตลอด ‘ในการถ่ายทำชื่อตัวละครในเรื่อง คือชื่อพวกเราเลย แต่ในเมื่อคนเขียนบทอย่างพี่แทนเขียนมาแบบนั้น ฉันก็เออออไปตามนั้นแหละ’และตอนนี้ พี่แทนกำลังจะจูบฉัน“มิ้น...” เสียงเขาเรียกเบา ๆ ขณะยืนห่างฉันไม่ถึงฝ่ามือ นัยน์ตามีความลังเลปนกับความรู้สึกบางอย่าง“มิ้นรู้ไหม ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน พี่ไม่เคยหันไปมองใครอีกเลย” บทละครบอกให้ฉันต้องนิ่ง น้ำตาคลอ ตัวสั่นนิด ๆ และปล่อยให้เขาโน้มตัวเข้ามาช้า ๆ ฉันทำตามบททุกอย่างอย่างมืออาชีพ และที่สำคัญฉันใส่หัวใจตัวเองลงไปเล่นด้วยริมฝีปากของพี่แทนเคลื่อนเข้ามาใกล้ ใกล้จนฉันได้กลิ่นหอมจาง ๆ จา
หลังกลับมาจากการพักผ่อน ชีวิตนักแสดงสาวก็เข้าสู่วังวนการทำงานที่คุ้นเคย ตอนนี้ชื่อเสียงของฉันทวีคูณมากขึ้น ตั้งแต่ฉันเปิดใจว่าจะรับบท ‘นางเอก’ ก็มีผู้ผลิตละครหลายเจ้ายื่นเสนอมาให้พิจารณาบทเป็นกอง แต่...เรื่องพวกนั้นเอาไว้ทีหลังก่อน เพราะการกลับมาเล่นบทนำในครั้งนี้ ยังไงซะฉันก็ตัดสินใจจะเล่นให้กับละครที่แฟนของฉันเขียนขึ้นมาก่อนวันนี้เป็นวันแถลงข่าวเปิดตัวนักแสดงนำของละครเรื่อง รอยยิ้มของตัวจริง อย่างเป็นทางการ ฉันมาในชุดเดรสสีดำ ผมชมพูฟาร่าลอนสวย ชนิดที่เดินผ่านคนไหนก็ต้องเหลียวหันมามอง อาจเป็นเพราะก่อนหน้าฉันรับแต่บทตัวประกอบเวลามีงานแถลงข่าวก็ไม่ได้ถูกเชิญขึ้น“พี่กรีน พี่พอรู้รึเปล่าว่าเรื่องนี้ ใครรับบทพระเอก” ฉันหันไปถามผู้จัดการส่วนตัว เอาจริงนะ ฉันไม่รู้อะไรเลยว่าใครแสดงบ้าง บทจริงยังไม่เห็นด้วยซ้ำ แต่เพราะมั่นใจในตัวพี่แทน ฉันเลยไม่ได้ซีเรียสอะไร“ไม่รู้สิ ผู้ผลิตเขาไม่ได้แจ้งอะไรเพิ่มเติมมาเลย ลึกลับมาก”“งั้นเหรอคะ” ฉันเลิกคิ้ว แต่สุดท้ายก็เลิกที่จะสนใจมันไปไม่นานนัก มีทีมงานเรียกให้ฉันเตรียมพร้อมรอขึ้นเวทีอยู่ด้านข้าง“เรียนสื่อมวลชนทุกท่าน กรุณาเตรียมกล้องให้พร้อมนะครับ เ
เสียงนกร้องเบา ๆ จากยอดไม้ข้างนอกดังลอดเข้ามาในเต็นท์ ทำให้เปลือกตาฉันที่หลับสนิทค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา วินาทีแรกที่ได้กลิ่นไอดินปะปนกับกลิ่นหญ้าเปียกหลังฝนจางเมื่อคืนที่ผ่านมา ความสดชื่นก็แผ่ไปทั่วร่างร่างฉันยังซุกแนบอยู่ในอ้อมกอดพี่แทน ใบหน้าแนบชิดกับอกแกร่งอย่างเคยใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ฉันรับรู้ได้ถึงลมหายใจของเขาที่รินรดบนหัว เสียงลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกได้ว่าหลับสนิทมากเพียงใดฉันขยับตัวเล็กน้อย แต่ยังไม่กล้าเปลี่ยนท่าทางมาก เพราะกลัวจะรบกวนการนอนของเขา แต่ก็ได้แค่คิด...“หนาวเหรอ?” เสียงทุ้มงัวเงียกระซิบชิดข้างหูฉัน ฉันเงียบไปอึดใจก่อนจะส่ายหน้าเล็ก ๆ แล้วตอบกลับเบา ๆ“เปล่าค่ะ...แค่ยังไม่ชินปกตินอนคนเดียวมาตลอด” พี่แทนขยับตัวเล็กน้อยสองแขนกอดรัดฉันแน่นขึ้น“ก็ทำให้ชินสิครับ” เขาขยับหัวมาแนบแก้มนุ่มฉัน ริมฝีปากแตะหน้าผากอย่างแผ่วเบาก่อนพึมพำต่อ “ถ้าเราตื่นมาแบบนี้พร้อมกันทุกวันก็ได้นะ ถ้าหนูไม่เบื่อ”ฉันยิ้มมองใบหน้าคมที่ปรือตามองฉันเพราะเพิ่งตื่นนอน“หนูไม่เบื่อหรอกค่ะ แต่กลัวว่าจะเป็นพี่มากกว่าที่เบื่อก่อนหนูก็ได้” ฉันพูดจบเขาก็ลากนิ้วไล้กรอบหน้า ก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากฉัน“ทั้งที่เพิ่







