Share

27. เปิดเผยสู่สาธารณชน

last update Last Updated: 2025-10-20 19:03:12

นาฬิกาชีวิตปลุกให้ฉันตื่นขึ้นอัตโนมัติ กิจกรรมร่วมรักบนเตียงเมื่อคืนส่งผลให้ความปวดร้าว หนักหน่วงคืบคลานไปทั่วร่าง

แม้จะตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ฉันก็ยังขยับตัวลำบาก เนื่องจากสองแขนแกร่งของคนนอนข้างกายยังคงรัดแน่นไม่ยอมปล่อยราวกับกลัวว่าฉันจะหนีหายไป

พี่แทนยังคงหลับสนิท ฉันหันไปจ้องหน้าเขาชัด ๆ ยิ่งมองยิ่งรู้สึก...หล่อจนใจสั่น ไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่หัวใจที่เขามอบให้ฉันก็รับรู้ได้ทั้งหมด

เขานอนตะแคงหันหน้ามาทางฉัน มือหนึ่งยังพาดอยู่บนเอวฉัน

“โธ่เอ้ย...พอหลับแล้วไม่เห็นจะดูเจ้าเล่ห์เลยนะ” ฉันยิ้มพึมพำเบา ๆ ขณะใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมที่ปรกใบหน้าหล่อเขาให้เห็นเด่นชัด

ฉันเอี้ยวตัวอย่างเบามือ ให้ตัวแนบชิดกับเขามากกว่าเดิม ซบหน้าลงกับอกแกร่งฟังเสียงหัวใจของเขาที่ยังเต้นแรงอยู่

“เมื่อวานที่หนูบอกว่า...ไม่อยากแพ้พี่” ฉันกระซิบเบา ๆ กับตัวเอง “ไม่ใช่เพราะหนูอยากเอาชนะ” ฉันยิ้มพลางขยับใบหน้าเบา ๆ เพื่อรับไออุ่นมากขึ้น “แต่หนูอยากให้พี่เห็นว่า หนูก็พร้อมมอบความรักให้พี่เช่นกันค่ะ”

เขาขยับตัวเล็กน้อย มือที่กอดฉันไว้กระชับแน่นขึ้น ทำฉันสะดุ้งจนกระตุกวูบ

“แกล้งหลับอยู่ใช่ไหมคะ...” ฉันแหงนหน้ามอง ย่นจมูกใส่เขาแล้วจูบเบา ๆ “ถ้าไม่ตื่นละก็หนูจะลุกไปก่อนนะ”

ไม่ทันที่ฉันจะขยับตัวออกจากอกนั้น มือใหญ่ก็รั้งฉันไว้เต็มแรง เสียงทุ้มยังคงงัวเงียเพราะเพิ่งตื่นนอน

“ถ้าหนูลุก...พี่ไม่รับประกันนะ ว่าจะไม่ลากกลับมาทำให้ร้องครางเสียงหลงแต่เช้าน่ะ”

“พี่แทน!”

เขาหัวเราะในลำคอ พรมจูบหน้าผากฉันเบา ๆ

“เช้าแบบนี้ อยู่ในอ้อมกอดพี่ก่อนสิครับ จะรีบลุกทำไม”

“ก็เมื่อคืนมันเหนื่อยมาก ตื่นมาก็หิวเลยสิคะ” ฉันเงยหน้ามองเขา

“งั้นสักพักออกไปทานอะไรกันดี”

“อยากกินต้มยำกุ้ง อยากกินปลาหมึกผัดพริกเผา อยากกินอะไรเต็มไปหมดเลย”

“นั่นสิเนาะ เหนื่อยกันมาทั้งคืนต้องเติมพลังหน่อย” เขาส่งยิ้มให้ฉัน แต่ทำให้จู่ ๆ ฉันก็เศร้าจัง

“แต่ว่า...” ฉันทำหน้าซึมให้เขาเห็นอย่างชัดเจน

“เป็นอะไรไป”

“เราออกไปทานด้วยกันไม่ได้ก็ไม่มีความหมายสิคะ อยากมีวันที่เราได้ทานข้าวด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกันอย่างเปิดเผยบ้าง แต่คงทำไม่ได้” ฉันก้มหน้าซึม แม้ภายในห้องนี้ฉันจะมีความสุขมากแค่ไหน แต่พอย่างก้าวออกจากประตูไป ความสุขสมเหล่านี้ก็หายวับไปกับตาต้องทำเหมือนแค่คนรู้จักกับเขามันเจ็บปวดจะตายไป

พี่แทนหันมากุมใบหน้าฉันให้หันไปมองเขา ใบหน้าเขายังคงฉายรอยยิ้มให้ฉันไม่เครียดจนเกินไป ทั้งที่เขาเองคงอึดอัดใจไม่น้อยเช่นกัน

“ทำไมจะออกไปทานด้วยกันไม่ได้ล่ะครับ เวลาแบบนี้แหละเหมาะสมที่สุดเลยนะครับ”

“จะเป็นแบบนั้นได้ไงคะ ละครก็กำลังออนแอร์แบบนี้ มิ้นไม่อยากให้ละครที่พี่แทนเขียนต้องพังเพราะมิ้นหรอกค่ะ” ฉันเบือนหน้าหนีเพราะรู้สึกหนักใจไปหมด

“มิ้นครับ...ละครที่พี่เขียนก็คือเรื่องราวของเรา พี่ไม่ได้สนหรอกว่ามันจะดังหรือไม่ พี่แค่อยากถ่ายทอดมันออกมาโดยที่มีตัวจริงอยู่ในเรื่องที่แต่งจากเรื่องจริงเท่านั้นนะครับ”

“พี่พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ? มิ้นไม่เข้าใจ”

“พี่ก็เคยบอกแล้วไงว่าเรื่องนี้พี่เขียนมาจากเรื่องประสบการณ์จริง”

“ค่ะ...แล้ว” ฉันเลิกคิ้วหันกลับไปมองหน้าเขา

“ไม่คิดเหรอ ว่าคนคนนั้นมันหมายถึงมิ้นมาโดยตลอด”

“ก็พอรู้ค่ะ เพราะฉากหลัง ๆ พี่แทนก็เคยบอกว่ามิ้นคือคนนั้น แต่ยังไงเนื้อเรื่องมันก็เสริมแต่งโดยอิงจากเรื่องจริงไม่กี่เปอร์เซ็นต์อยู่แล้วนี่คะ” ฉันพูดไปตามเนื้อผ้า แต่พี่แทนกลับส่ายหน้าไปมา

“เปล่าเลยครับ ทุกอย่างในละครของตัวพระเอกเป็นเรื่องจริงเกือบทั้งเรื่อง มีแค่ฉากจบเท่านั้นครับที่เป็นเรื่องแต่ง แต่รอเป็นเรื่องจริงอยู่ครับ”

“ห๊า!” ฉันทำหน้าเหวอ

“หนูไม่คิดเหรอว่าฉาก มหาลัยมันดูคุ้นเคย”

“คุ้นเคยสิคะ เหมือนย้อนไปวัยเรียน แต่บทพี่มันแปลก ๆ”

“ไม่แปลกหรอกครับ เพราะพระเอกในละครตอนนั้นเป็นแบบนั้นจริง ๆ คนที่คอยดูการเติบโตของนางเอกอยู่ห่าง ๆ โดยไม่หวังให้นางเอกมองมา”

“เดี๋ยวนะ หรือว่าพี่คือ บุคคลปริศนา FriendBook คนนั้น” ฉันเบิกตาโพลงวิ่งไปค้นสมุดเก่า ๆ เล่มหนึ่ง ที่ฉันมักจะทิ้งไว้ที่โต๊ะประจำของตัวเอง ในวันที่ฉันร้องไห้วันหนึ่งฉันพบข้อความที่เขียนให้กำลังใจในนั้น และฉันก็เขียนตอบมันไปไม่ได้หวังว่าจะมีใครตอบ แต่ในวันถัดมาฉันกลับพบว่ามีลายมือเดียวกันที่เขียนโต้กลับมาเสมอ ฉันเรียกเขาคนนั้นว่า

‘FriendBooK’ เพื่อนในสมุดที่ฉันไม่รู้ว่าเป็นใคร

“พี่คือคนนั้นจริง ๆ เหรอคะ”

“...” เขาไม่เอ่ยออกมา ได้แต่ยิ้มและพยักหน้าเล็ก ๆ เท่านั้น ยิ่งพอรู้แบบนั้นก็ยิ่งทำให้ฉันรักเขามากกว่าเดิมไปอีก

“ดังนั้นอย่ากังวลเลยนะครับว่าความสัมพันธ์ของเราจะทำร้ายใคร ถ้าหากการเปิดตัวมันทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย เราก็แค่จับมือกันฝ่าฟันสิครับ พี่ไม่มีทางทิ้งมิ้นให้เผชิญหน้าคนเดียวหรอก” เขาลูบหัวฉันอย่างแผ่วเบา คำพูดของเขาพานทำให้ฉันรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก และมีความกล้าที่จะเผชิญปัญหาทุกสิ่งแล้วล่ะ

“งั้น...ตอนนี้เราสองคนควรเริ่มอะไรก่อนดีคะ”

“พี่เริ่มไปก่อนแล้วครับ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะ”

“เริ่ม...อะไรคะ”

“ดูในโซเชียลสิ”

ฉันมองเขาตากะพริบ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิด ตอนแรกก็ไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้นัยน์ตาฉันถึงกับค้างไปแล้วล่ะ

เทรนด์ในโซเชียลตอนนี้กำลังร้อนระอุเป็นไฟ

#คู่จิ้น(ไม่)คู่จริง(ใช่)

#แทนมิ้นคู่จริง

#รอยยิ้มของตัวจริง

แถมคอมเมนต์ก็ไปทางเดียวกันอย่างเอกฉันท์

‘ว่าแล้วแทนมิ้นต้องมีซัมติงกันจริง ๆ ดูจากสายตาพระเอกมองนางเอกยังไงก็ไม่ใช่บท’

‘ในละครแสดงเนียนจนนึกว่าคู่จริง แล้วมันก็ใช่ทำไมซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้บ้างวะ’

‘เหมาะสม เหมาะสมที่สุด’

‘อิแอนตี้อกแตกตายไปซะ’

ฯลฯ

“พี่โพสต์ไปเมื่อไหร่คะ” ฉันมองจอมือถือสลับกับหน้าพี่แทน

“เมื่อคืนครับ”

“ทำไมมิ้นไม่รู้”

“ก็มิ้นสลบไสลไปแล้วไง”

“แล้วทำไมพี่ถึงได้...ตัดสินใจโพสต์ลงล่ะคะ”

“เพราะพี่ควรรับผิดชอบไงครับ ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ไม่สิในฐานะคนที่รักหนูคนหนึ่ง พี่อยากเดินเคียงข้างหนูนะครับ ไม่ใช่หลบ ๆ ซ่อน ๆ แบบนี้ พี่บอกแล้วไง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะจับมือเดินฝ่าไปด้วยกัน”

“พี่แทน...” ฉันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ คนตรงหน้าก็ลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยน

“เป็นไง หนูรักพี่มากขึ้นใช่ไหมล่ะ”

“ความรักที่หนูมีให้พี่ มันไม่มีลิมิตหรอกค่ะ อันลิมิเต็ด”

“ปากหวานจังครับ เอาเถอะไปอาบน้ำกัน เดี๋ยวหิวแย่ไปกว่านี้”

“ว๊าย!!” เขาอุ้มตัวฉันไม่ทันตั้งตัว แล้วพอฉันไปยังห้องน้ำเพื่อชำระกาย เฮ้อ...และก็เป็นไปตามคาด ขนาดอาบน้ำฉันยังถูกจัดเต็มไปอีกหนึ่งยก ดูท่าหลังจากนี้คงจะเหนื่อยน่าดู แต่ไม่เป็นไรค่ะ ยัยมิ้นคนนี้พร้อมรบ(รัก)เสมอ

(ณ.ร้านอาหารแห่งหนึ่ง)

“แก...สองคนนั้นใช่ดาราหรือเปล่า” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยกับเพื่อนของเธอ

“ไหน...เฮ้ยใช่จริง ๆ ด้วยถ่ายรูปดิ โอ๊ย! ตัวจริงสวยหล่อมากแก ฉันติดละครเรื่องนี้มาก ฟินฉิบหาย”

ตอนนี้ฉันกับพี่แทนเดินออกจากคอนโดเพื่อมาทานร้านอาหารโดยที่ไม่คิดปิดบังตัวตนอีกต่อไป เรื่องนี้เองฉันก็ได้ปรึกษาบริษัทต้นสังกัด ซึ่งพวกเขาก็ยินดีและไม่มีกฎเกณฑ์จะห้ามฉันตั้งแต่ต้นอยู่แล้วล่ะ

“พี่ค่ะ ปล่อยมือบ้างก็ได้ คนมองกันเต็มเลย” ฉันหันไปหาคนข้าง ๆ ที่ตั้งแต่ลงจากรถมา เขาไม่แม้แต่จะปล่อยมือฉันสักวินาทีราวกับกลัวว่าฉันจะหนีไปไหน

“ไม่ครับพี่อยากจับมือแบบนี้ไปตลอด อยากให้คนรู้ว่าเราเป็นแฟนกัน ไม่สิ...” เขาเงียบก่อนจะโน้มตัวมากระซิบฉัน “ว่าหนูเป็นเมียพี่”

สิ้นคำเขา ฉันก็แทบอยากจะมุดหน้าหนี ตอนแรกมันก็เสี่ยว ๆ อยู่หรอก แต่พอคนพูดเป็นพี่แทนฉันกลับรู้สึกเขินมาก คนหล่อนี่พูดอะไรก็ไม่ติดจริง ๆ เฮ้อ...ยัยมิ้นเอ้ย...ยอมรับเถอะ แกคลั่งรักเขาเสียจนหน้ามืดตามัว

กว่าเราจะเดินเข้ามาในห้องอาหารที่จองพิเศษไว้ได้ เล่นเอาเหนื่อยเพราะแฟนคลับละครต่างถาโถมเข้ามาล้อมรอบ ถ่ายรูปไม่หยุด ซึ่งฉันกับพี่แทนก็เลือกที่จะไม่หลบอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่คิดว่ากระแสละคร และเรื่องที่พี่แทนโพสต์แจ้งว่าเราสองคนคบกัน จะเป็นที่โด่งดังขนาดนี้ นี่ไม่ใช่แค่ในโซเชียลแต่ในชีวิตจริงก็ไม่แพ้กันเลย

“เหนื่อยไหมครับ ทานน้ำเย็น ๆ ก่อน” ฉันนั่งถอนหายใจยาว ก่อนที่พี่แทนจะยื่นแก้วน้ำมาให้ฉัน

“ไม่คิดว่าคนจะรุมเยอะขนาดนี้ค่ะ”

“ช่วงนี้ละครออนแอร์ เป็นธรรมดาที่เขาจะอินกับละครครับ”

“แต่ก็รู้สึกดีนะคะ พี่พวกเขาเอ็นดูพวกเรา นึกว่าจะโดนเขม่นซะแล้ว” แม้ฉันจะเหนื่อย แต่ฉันมีความสุขจริง ๆ นั่นแหละ

“ละครกำลังออนแอร์ พอรู้ว่าเราคบกันจริง ๆ ยิ่งเหมือนฝันของพวกเขาเป็นจริงแหละครับ” พี่แทนวางแก้วน้ำลง พลางใช้หลังมือแตะแก้มฉันเบา ๆ “ไม่ใช่แค่แฟนคลับนะครับ พี่เองก็รู้สึกเหมือนฝันเหมือนกัน”

ฉันเหลือบมองนัยน์ตาเขา ยิ่งดูยิ่งรู้สึกว่าเขาจริงจังมากแค่ไหน ทั้งคำพูด สายตา สัมผัสเล็ก ๆ ทำให้ฉันยิ่งรักเขาเข้าไปอีก

“มิ้นไม่คิดเลยค่ะ ครั้งแรกที่กลับมาเจอพี่ในฐานะคนเขียนบท หนูคิดมาตลอดว่าพี่เป็นเกย์ แต่ว่าหัวใจของหนูก็ยังยืนยันว่าชอบพี่อยู่ดี พอมาคิด ๆ ดูแล้วมันแปลกดีแฮะ”

“ไม่แปลกหรอกครับ เพราะถ้าเรารักใครเราจะมองข้ามทุกสิ่งทุกอย่างไปซะหมด เหมือนที่พี่ชอบหนูมาตลอดไง ไม่ว่าผ่านไปนานแค่ไหน พี่ก็ยังคอยมองหนูตลอด”

“เฮ้อ...ดีจังที่สุดท้ายทั้งพี่และมิ้นก็ได้มานั่งด้วยกันอยู่ตรงนี้” ฉันยิ้มปริ่มอย่างมีความสุข

“รู้ไหม พี่จองร้านนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ เพราะพี่รู้ว่ามิ้นต้องหิวแน่ ๆ หลังผ่านคืนของเรา พี่อยากให้วันนี้เป็นเหมือนวันเปิดตัว ที่เรากล้ารักกันแบบไม่หลบซ่อนอีกต่อไปครับ”

“โรแมนติกจังค่ะ เหมือนฉากในละครเลย”

“หึ...ในละครก็ไม่หวานเท่าเราหรอกครับ เพราะพี่จะประเคนความสุขให้หนู ทั้งวันทั้งคืน ไม่สิ...ทั้งชีวิตเลย”

“พูดแล้วนา...มิ้นจำขึ้นใจเลยล่ะ”

จากนั้นเราสองคน ก็สั่งอาหารแล้วดื่มด่ำกับอาหารเลิศรส พร้อมกับคุยกันแบบเปิดใจทุกอย่าง นี่แหละนะ...ความรักที่พร้อมจะเดินหน้าไปด้วยกัน ไม่สิเรียกว่าอนาคตของ ‘คู่ชีวิต’ เลยล่ะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   28. ฉากจบในชีวิตจริง

    ห้องรับรองหลังฉากในสตูดิโอรายการ ‘4 แซ่บบันเทิง’ แม้จะเย็นฉ่ำจากแอร์ แต่มันก็ไม่สามารถดับความประหม่าในใจฉันได้เลยสักนิด“พี่...แน่ใจเหรอ ว่าเราควรมานั่งให้สัมภาษณ์แบบนี้ มันจะไม่โหนกระแสไปหน่อยเหรอคะ” ฉันหันไปกระซิบถามพี่แทนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พลางจับมือเขาแน่นจนชื้นเหงื่อ“แน่ใจสิครับ ไหน ๆ ก็เปิดตัวแล้ว เราก็ควรจะไปให้สุด” เขาตอบพร้อมรอยยิ้มอย่างใจเย็นใจ ฉันพ่นลมหายใจยาวใช้หลังมืออีกข้างแตะหน้าผากตัวเองเบา ๆ ได้แต่ภาวนาให้ฉันอย่าหลุดพูดอะไรแปลก ๆ เลยเถอะ“อีกสิบนาที เตรียมตัวนะคะ” หนึ่งในทีมงานเดินเข้ามาแจ้ง ก่อนจะหันมายิ้มให้ฉันอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเกร็งนะคะคุณมิ้น แฟน ๆ ตอนนี้ยอดคนดูรอแล้วกว่าแสนคน” ฉันพยักหน้ารับ ขณะที่พี่แทนหันมากระซิบข้างหูกันเบา ๆ“ไม่ต้องกลัวนะครับ พี่อยู่ตรงนี้ตลอด” แม้หัวใจฉันจะเต้นแรง แต่เพียงเขาพูดแค่นี้ก็ทำให้ฉันสงบลงได้ ใช่...ต่อจากนี้เราจะไม่ต้องแอบ ไม่ต้องหลบ และปิดบังอีกต่อไป(หน้าฉากสตูดิโอ รายการ 4 แซ่บบันเทิง)“ว้าว...ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้นั่งสัมภาษณ์สองคนนี้ในฐานะ ‘คู่รัก’ ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับความรักครั้งนี้ด้วยนะคะ คุณแทนและคุณมิ้น”

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   27. เปิดเผยสู่สาธารณชน

    นาฬิกาชีวิตปลุกให้ฉันตื่นขึ้นอัตโนมัติ กิจกรรมร่วมรักบนเตียงเมื่อคืนส่งผลให้ความปวดร้าว หนักหน่วงคืบคลานไปทั่วร่างแม้จะตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ฉันก็ยังขยับตัวลำบาก เนื่องจากสองแขนแกร่งของคนนอนข้างกายยังคงรัดแน่นไม่ยอมปล่อยราวกับกลัวว่าฉันจะหนีหายไปพี่แทนยังคงหลับสนิท ฉันหันไปจ้องหน้าเขาชัด ๆ ยิ่งมองยิ่งรู้สึก...หล่อจนใจสั่น ไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่หัวใจที่เขามอบให้ฉันก็รับรู้ได้ทั้งหมดเขานอนตะแคงหันหน้ามาทางฉัน มือหนึ่งยังพาดอยู่บนเอวฉัน“โธ่เอ้ย...พอหลับแล้วไม่เห็นจะดูเจ้าเล่ห์เลยนะ” ฉันยิ้มพึมพำเบา ๆ ขณะใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมที่ปรกใบหน้าหล่อเขาให้เห็นเด่นชัดฉันเอี้ยวตัวอย่างเบามือ ให้ตัวแนบชิดกับเขามากกว่าเดิม ซบหน้าลงกับอกแกร่งฟังเสียงหัวใจของเขาที่ยังเต้นแรงอยู่“เมื่อวานที่หนูบอกว่า...ไม่อยากแพ้พี่” ฉันกระซิบเบา ๆ กับตัวเอง “ไม่ใช่เพราะหนูอยากเอาชนะ” ฉันยิ้มพลางขยับใบหน้าเบา ๆ เพื่อรับไออุ่นมากขึ้น “แต่หนูอยากให้พี่เห็นว่า หนูก็พร้อมมอบความรักให้พี่เช่นกันค่ะ”เขาขยับตัวเล็กน้อย มือที่กอดฉันไว้กระชับแน่นขึ้น ทำฉันสะดุ้งจนกระตุกวูบ“แกล้งหลับอยู่ใช่ไหมคะ...” ฉันแหงนหน้ามอ

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   26 ท่วงทำนอง ล่อลวง(รัก)

    ฉันยังชันเข่าอยู่ตรงหน้าเขาแบบนั้น แต่อารมณ์ในตอนนี้ไม่ใช่แค่นั่งเฉย ๆ อีกต่อไป สองเราลูบไล้และทอดนัยน์ตายั่วยวนกันและกัน โดยไม่มีใครยอมใครมือฉันแนบอยู่บนอกแกร่ง มือเขาแนบอยู่ที่แผ่นหลังฉัน พลางไล้นิ้วไปตามสันหลังก่อนจะหยุดตรงกลางหลังแล้วพยายามเร่งโน้มตัวฉันลงไปอีก แต่ฉันไม่ยอมหรอก“จะรีบร้อนทำไมคะ” ฉันกระซิบแหบพร่า พร้อมกดมือบนอกแกร่งเขาเบา ๆ จงใจถ่วงเวลาไว้พี่แทนยิ้มแฝงด้วยจิตวิญญาณนักล่าที่รู้ว่าคนตรงข้ามอย่างฉันกำลังเล่นเกมด้วยความรู้สึกเดียวกัน“ไม่ได้รีบร้อน แค่รู้สึกว่าถ้าพี่ปล่อยให้หนูคุมเกมมากกว่านี้ พี่อาจจะหมดแรงก่อนได้เริ่มจริง”“แปลว่าเริ่มกลัวหนูแล้วสินะ”“ไม่ได้กลัว...แค่ไม่ประมาทครับ” ฉันยกยิ้มมุมปากโน้มใบหน้าเข้าใกล้ใช้เรียวลิ้นร้อนไล้เลียไปตามแนวหลังใบหู สันกรามเบา ๆ ขณะที่มือฉันเริ่มเคลื่อนไปตามอารมณ์สอดเข้าในเรือนผมของเขาพลางขยุ้มเบา ๆเขาชะงักเล็กน้อยกับสัมผัสบางเบานี้“ถ้าเล่นแรงแบบนี้ พี่คงต้องเอาจริงแล้วนะครับ” ฉันยิ้มมุมปาก ขณะใช้มืออีกข้างลูบไปตามแนวแขนแกร่งเขา“ก็รออยู่นี่ไงคะ จะเอายังไงก็เชิญ พร้อมรับแรงกระแทกเสมอ” สิ้นคำสิ่งที่เขาตอบกลับมาคือการกดจูบอีก

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   25 เคมีล้นจอ

    “โอเคครับ กล้องพร้อม! ไฟพร้อม! แอคชั่น!” เสียงผู้กำกับดังขึ้นท่ามกลางกองถ่ายบ้านหรูปลีกวิเวกที่แสนสงบ เราสวมชุดนักแสดงเต็มยศ ฉันอยู่ในชุดเดรสลูกไม้สีฟ้าอ่อน พี่แทนอยู่ในชุดเชิ้ตขาวพับแขนกับกางเกงสแล็คเข้ารูปบรรกาศโดยรอบเงียบลงอย่างรวดเร็ว ทุกคนอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ของตน...ฉากที่เรากำลังจะถ่ายกันคือ ‘ฉากจูบแรก’ ของพระเอกและนางเอกในละครเรื่อง รอยยิ้มของตัวจริง ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวละครหลัก โดยก่อนหน้านี้มีแต่การปะทะอารมณ์และเข้าใจผิดมาโดยตลอด ‘ในการถ่ายทำชื่อตัวละครในเรื่อง คือชื่อพวกเราเลย แต่ในเมื่อคนเขียนบทอย่างพี่แทนเขียนมาแบบนั้น ฉันก็เออออไปตามนั้นแหละ’และตอนนี้ พี่แทนกำลังจะจูบฉัน“มิ้น...” เสียงเขาเรียกเบา ๆ ขณะยืนห่างฉันไม่ถึงฝ่ามือ นัยน์ตามีความลังเลปนกับความรู้สึกบางอย่าง“มิ้นรู้ไหม ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน พี่ไม่เคยหันไปมองใครอีกเลย” บทละครบอกให้ฉันต้องนิ่ง น้ำตาคลอ ตัวสั่นนิด ๆ และปล่อยให้เขาโน้มตัวเข้ามาช้า ๆ ฉันทำตามบททุกอย่างอย่างมืออาชีพ และที่สำคัญฉันใส่หัวใจตัวเองลงไปเล่นด้วยริมฝีปากของพี่แทนเคลื่อนเข้ามาใกล้ ใกล้จนฉันได้กลิ่นหอมจาง ๆ จา

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   24 แถลงข่าวละคร ‘รอยยิ้มของตัวจริง’

    หลังกลับมาจากการพักผ่อน ชีวิตนักแสดงสาวก็เข้าสู่วังวนการทำงานที่คุ้นเคย ตอนนี้ชื่อเสียงของฉันทวีคูณมากขึ้น ตั้งแต่ฉันเปิดใจว่าจะรับบท ‘นางเอก’ ก็มีผู้ผลิตละครหลายเจ้ายื่นเสนอมาให้พิจารณาบทเป็นกอง แต่...เรื่องพวกนั้นเอาไว้ทีหลังก่อน เพราะการกลับมาเล่นบทนำในครั้งนี้ ยังไงซะฉันก็ตัดสินใจจะเล่นให้กับละครที่แฟนของฉันเขียนขึ้นมาก่อนวันนี้เป็นวันแถลงข่าวเปิดตัวนักแสดงนำของละครเรื่อง รอยยิ้มของตัวจริง อย่างเป็นทางการ ฉันมาในชุดเดรสสีดำ ผมชมพูฟาร่าลอนสวย ชนิดที่เดินผ่านคนไหนก็ต้องเหลียวหันมามอง อาจเป็นเพราะก่อนหน้าฉันรับแต่บทตัวประกอบเวลามีงานแถลงข่าวก็ไม่ได้ถูกเชิญขึ้น“พี่กรีน พี่พอรู้รึเปล่าว่าเรื่องนี้ ใครรับบทพระเอก” ฉันหันไปถามผู้จัดการส่วนตัว เอาจริงนะ ฉันไม่รู้อะไรเลยว่าใครแสดงบ้าง บทจริงยังไม่เห็นด้วยซ้ำ แต่เพราะมั่นใจในตัวพี่แทน ฉันเลยไม่ได้ซีเรียสอะไร“ไม่รู้สิ ผู้ผลิตเขาไม่ได้แจ้งอะไรเพิ่มเติมมาเลย ลึกลับมาก”“งั้นเหรอคะ” ฉันเลิกคิ้ว แต่สุดท้ายก็เลิกที่จะสนใจมันไปไม่นานนัก มีทีมงานเรียกให้ฉันเตรียมพร้อมรอขึ้นเวทีอยู่ด้านข้าง“เรียนสื่อมวลชนทุกท่าน กรุณาเตรียมกล้องให้พร้อมนะครับ เ

  • ซุปตาร์อย่างฉันขอบทตัวประกอบ   23. ยามรุ่งเช้า

    เสียงนกร้องเบา ๆ จากยอดไม้ข้างนอกดังลอดเข้ามาในเต็นท์ ทำให้เปลือกตาฉันที่หลับสนิทค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา วินาทีแรกที่ได้กลิ่นไอดินปะปนกับกลิ่นหญ้าเปียกหลังฝนจางเมื่อคืนที่ผ่านมา ความสดชื่นก็แผ่ไปทั่วร่างร่างฉันยังซุกแนบอยู่ในอ้อมกอดพี่แทน ใบหน้าแนบชิดกับอกแกร่งอย่างเคยใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ฉันรับรู้ได้ถึงลมหายใจของเขาที่รินรดบนหัว เสียงลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกได้ว่าหลับสนิทมากเพียงใดฉันขยับตัวเล็กน้อย แต่ยังไม่กล้าเปลี่ยนท่าทางมาก เพราะกลัวจะรบกวนการนอนของเขา แต่ก็ได้แค่คิด...“หนาวเหรอ?” เสียงทุ้มงัวเงียกระซิบชิดข้างหูฉัน ฉันเงียบไปอึดใจก่อนจะส่ายหน้าเล็ก ๆ แล้วตอบกลับเบา ๆ“เปล่าค่ะ...แค่ยังไม่ชินปกตินอนคนเดียวมาตลอด” พี่แทนขยับตัวเล็กน้อยสองแขนกอดรัดฉันแน่นขึ้น“ก็ทำให้ชินสิครับ” เขาขยับหัวมาแนบแก้มนุ่มฉัน ริมฝีปากแตะหน้าผากอย่างแผ่วเบาก่อนพึมพำต่อ “ถ้าเราตื่นมาแบบนี้พร้อมกันทุกวันก็ได้นะ ถ้าหนูไม่เบื่อ”ฉันยิ้มมองใบหน้าคมที่ปรือตามองฉันเพราะเพิ่งตื่นนอน“หนูไม่เบื่อหรอกค่ะ แต่กลัวว่าจะเป็นพี่มากกว่าที่เบื่อก่อนหนูก็ได้” ฉันพูดจบเขาก็ลากนิ้วไล้กรอบหน้า ก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากฉัน“ทั้งที่เพิ่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status