เจ้าพ่อก่อรัก

เจ้าพ่อก่อรัก

last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-29
Bahasa: Thai
goodnovel18goodnovel
Belum ada penilaian
5Bab
5Dibaca
Baca
Tambahkan

Share:  

Lapor
Ringkasan
Katalog
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi

“คะ...คุณทำอะไร ยะ...อย่าทำอะไรแก้มเลยนะคะ” เสียงสั่นสะท้านถามออกมาเพียงแผ่วเบาเมื่อเห็นมือหนากระชากสาบเสื้อของตัวเองจนกระดุมหลุดหล่นกระจายลงบนพื้นไปคนละทิศละทาง ดวงตาวาวโรจน์พุ่งมองมาที่เธอ “ยะ...อย่าทำอะไรแก้มเลยนะคะ แก้มขอร้อง” กมิตตรายกมือขึ้นไหว้อ้อนวอน “ไง ตัวสั่นระริกเลย...กลัวหรือว่าตื่นเต้นกันล่ะ” น้ำเสียงเยาะหยันของอนรรฆบีบเค้นหัวใจของเธออย่างแรง “คุณเอียนขา...แก้มขอโทษ อย่าโกรธแก้มเลยนะคะ แก้มจำเป็นจริง ๆ อย่าทำอะไรแก้มเลยนะคะ แก้มกลัว...” เสียงสะอื้นวอนขอของกมิตตราไม่ได้ทำให้อนรรฆใจอ่อนลงแม้แต่น้อย “กลัว...กลัวอะไร เธอควรจะดีใจสิที่ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสสนองตัณหาของนายอนรรฆ เอียน แบรนดอน เจ้าพ่อธุรกิจคอมพิวเตอร์ ที่เธอยอมเอาตัวเองเข้าแลกเพราะเงิน” “มะ...ไม่จริงนะคะ...พวกนั้นขู่แก้ม จะทำร้ายน้อง ๆ ของแก้ม...แก้มถึงต้องทำแบบนี้ แก้มไม่ได้อยากหลอกคุณเอียนนะคะ ไม่ได้อยากหลอกทุกคน” “หยุดพูดเถอะ...ฉันสะอิดสะเอียนกับคำพูดมารยาจอมปลอมของเธอจริง ๆ”

Lihat lebih banyak

Bab 1

1

บทที่ 1  เริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด

คิ้วเรียวราวกับปีกนกของสาวน้อยคนหนึ่งขมวดเข้าหากัน เมื่อท้องฟ้าที่เคยสวยงามเมื่อสักครู่แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นมืดครึ้ม สายลมที่พัดโชยเอื่อยเปลี่ยนเป็นแรงจนโบกสะบัดเส้นผมยาวสลวยจรดกลางแผ่นหลังบอบบางปลิวสยายจนเจ้าตัวต้องใช้โบว์มัดผมที่ใส่ข้อมือเอาไว้ออกมารัด ไม่ให้สายลมตีผมเธอจนยุ่ง ดวงตากลมโตประดุจกวางป่าล้อมกรอบด้วยแพขนตาสีดำสนิทเหมือนเส้นผมหรี่ลงเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองปลิดปลิวเข้าดวงตาทั้งสองข้างของเธอ กมิตตราเร่งฝีเท้าของตัวเองให้เร็วขึ้นเพราะถ้าขืนช้าไปกว่านี้เธอคงหนีไม่ทันฝน

“โอ๊ย...พี่ฝนขา อย่าเพิ่งตกลงมานะคะ ขอให้แก้มกลับถึงบ้านก่อน”

แต่ดูเหมือนพี่ฝนของกมิตตราจะไม่ให้ความร่วมมือ เพราะตอนนี้พี่ฝนเริ่มตกมาเป็นละอองฝอย ๆ เสียแล้ว เมื่อไม่กี่นาทีก่อนตอนที่เธอกำลังปั่นจักรยานไปยังตลาดนัดเล็ก ๆ ข้างหมู่บ้านซึ่งตลาดแห่งนี้จะมีทุกวันพุธ มีทั้งอาหารคาวหวานจากแม่ค้าที่อาศัยอยู่ละแวกนี้ ตอนนั้นอากาศยังดีอยู่เลย ท้องฟ้าแจ่มใสจนไม่ส่อแววว่าจะมีฝนตกด้วย ดวงตากลมโตมองข้าวของหน้าตะกร้าจักรยานด้วยสีหน้าที่ร้อนรน เธอต้องรีบนำผักสดพวกนี้ไปให้คุณแม่อธิการทำกับข้าวให้น้อง ๆ ของเธอที่กำลังรอกินข้าวอยู่ กมิตตราเองก็เหมือนกับน้อง ๆ พวกนั้นของเธอที่เกิดและเติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในโบสถ์คริสตจักรเซบัสเตียนของเมืองเชียงใหม่ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบิดาและมารดาของเธอเป็นใคร รู้แต่เพียงว่าคุณแม่อธิการจันดากับคุณแม่อธิการเภตราเป็นผู้เลี้ยงดูคอยสั่งสอนส่งให้เธอได้เล่าเรียนจนจบปริญญาตรี กมิตตรากำลังหางานทำซึ่งงานเดี๋ยวนี้มันก็หายากเหลือเกิน แต่เธอก็ไม่เกี่ยงเพียงเพื่อจะได้มีเงินมาช่วยส่งเสียเลี้ยงดูน้อง ๆ ที่น่าสงสารของเธอ ช่วยเหลือคุณแม่อธิการแบ่งเบารายจ่ายบ้างก็ยังดี

เท้าเล็กพยายามเร่งฝีเท้าจูงจักรยานคันเล็กของตัวเองไปข้างหน้าให้เร็วขึ้น แต่ตรงหน้าเธอนั้นเป็นถนนใหญ่ถึงแม้จะเป็นถนนทางลัดไม่ค่อยมีรถหนาแน่นเหมือนถนนหลักแต่ก็ต้องระมัดระวัง ร่างบางถึงกับสะดุ้งสุดตัว มือเล็กปล่อยจักรยานที่จับเอาไว้ล้มกระแทกพื้น ดวงตากลมโตเบิกกว้างมองฝ่าละอองฝนด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงเบรกของรถคันหนึ่งดังลั่นยาวเหยียด เสียงเหล็กกระทบของแข็งจนเกิดประกายไฟก่อนจะพลิกคว่ำหลายตลบบนท้องถนน กมิตตราไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองทรุดลงไปนั่งกับพื้นถนนได้อย่างไร รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้สายตาของเธอกำลังมองจ้องรถคันนั้นนอนหงายท้องบนถนนด้วยความตกตะลึง

รถบรรทุกขนาดใหญ่หรือที่เรียกว่ารถสิบล้อหยุดจอดห่างจากเธอไปเล็กน้อยและตอนนั้นนั่นเองที่เธอได้ยินเสียงคุยกันบนรถ เท้าของเธอเย็นเฉียบทันทีเมื่อได้ยินข้อความที่สองคนนั่นคุยกัน

“อัด...มึงว่ามันจะตายไหม”

คำถามของวิทย์ทำให้อัดต้องชะโงกหน้ามองผ่านบานกระจกรถที่เลื่อนลงเพียงแค่ครึ่ง เรียวปากของมันยกสูงขึ้นอย่างเยาะหยันเมื่อเห็นสภาพรถที่หงายท้องอยู่กลางถนน

“จะเหลือเรอะ...ถ้าไม่ตายมันก็เลี้ยงไม่โตล่ะ”

วิทย์มองหน้าเพื่อนก็จะยิ้มออกมาอย่างเห็นด้วย ประกายตาวาวโรจน์เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมไม่มีความสำนึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำแม้แต่น้อย

“ฉันอยากเห็นหน้าไอ้เอียนมันนัก...ถ้ามันเห็นสภาพศพพ่อมัน...มันจะทำหน้ายังไง”

สองหนุ่มหัวเราะกันอย่างสะใจในขณะที่หญิงสาวอีกคนหนึ่งนั่งกองกับพื้นถึงกับอ้าปากค้าง หมายความว่าอย่างไร...สองคนนี้ตั้งใจที่จะทำให้อุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้น เร็วเท่าความคิดหญิงสาวลุกขึ้นมาเตรียมที่จะวิ่งหนีออกไปเพราะถ้าเธอได้ยินความลับของพวกมันแล้วมันคงไม่เอาเธอไว้แน่ และการขยับกายของเธอไม่ได้เล็ดลอดสายตาของอัดที่กำลังมองไปรอบด้านเลย

“ซวยแล้วไอ้วิทย์ มีคนเห็นพวกเรา”

วิทย์หันขวับมามองทางด้านหลังผ่านบานกระจกของรถบรรทุกเมื่อได้ยินคำพูดของอัดตะโกนดังออกมา

“ไม่เป็นไร...เหยียบมันให้ติดถนนแค่นี้ก็หมดเรื่อง”

วิทย์พูดกับอัดด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม เปลี่ยนเป็นเกียร์ถอยหลังพร้อมกับเหยียบคันเร่งถอยรถบรรทุกอย่างสุดแรงหวังจะจัดการปิดปากคนที่รู้เห็นเรื่องนี้ให้สิ้นซาก  เสียงเหยียบคันเร่งและแรงรถที่ถอยหลังทำให้กมิตตราเร่งฝีเท้าตัวเองมากยิ่งขึ้น หัวใจดวงน้อยของเธอหายวับไปทั้งดวงเมื่อคิดได้ว่ารถบรรทุกคันนั้นตั้งใจจะถอยมาชนเธอ แต่ก็เหมือนโชคช่วยเมื่อได้ยินเสียงแตรรถยนต์ดังยาวเหยียดของรถยนต์อีกคันหนึ่งที่กำลังขับผ่านมา

“ช่วยด้วย...ช่วยด้วยค่ะ”

เสียงร้องของกมิตตราดังลั่นอย่างขอความช่วยเหลือกับผู้ที่ผ่านมา หัวใจที่หายวับไปทั้งดวงเมื่อสักครู่ค่อย ๆ ชื้นขึ้นมาเมื่อคิดว่าตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ตามลำพัง ร่างบางที่เริ่มเปียกชื้นสั่นสะท้านด้วยความโล่งอกทรุดนั่งกับพื้นถนนอย่างไม่มีแรงจะวิ่งต่อ เพราะตอนนี้ขาทั้งสองข้างของเธอชาจนไม่มีแม้แต่แรงจะยืน รถบรรทุกที่กำลังถอยหลังไล่บี้เธออยู่หยุดชะงักจนได้ยินเสียงล้อรถยนต์บดกับพื้นถนนเสียงดัง ก่อนที่มันจะพุ่งไปข้างหน้าและขับหายไปท่ามกลางสายฝนที่เริ่มตกหนาตาขึ้น

“คุณ...เป็นอะไรหรือเปล่า”

เจ้าของรถกระบะที่มาใหม่ลงมาจากที่นั่ง คนขับมองภาพหญิงสาวที่กำลังทรุดนั่งพื้นด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ถ้าเขาตาไม่ฝาดรถบรรทุกสิบล้อนั่นตั้งใจจะถอยมาทับหญิงสาวคนนี้แน่

“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ...พี่...มีรถโดนชน”

กมิตตรารีบบอกผู้ใจดีที่มาช่วยเธอไว้อย่างรวดเร็ว เพราะถ้าขืนช้ากว่านี้เธอไม่รู้ว่าคนที่อยู่ในรถคันนั้นจะยังปลอดภัยอยู่หรือเปล่า หญิงสาวจึงรีบวิ่งไปยังรถที่หงายท้องอยู่กลางถนนพร้อมกับเจ้าของรถกระบะที่มาช่วยเธอเอาไว้ด้วยสีหน้าที่ร้อนรน ในขณะที่ผู้มีพระคุณของเธอกลับหยิบโทรศัพท์ออกมา เธอไม่รู้ว่าเขาโทร. หาใครแต่คาดคะเนได้ว่าคงเรียกหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินมาช่วยเหลือ

เสียงครางอย่างเจ็บปวดดังออกมาเบาหวิว มือของคนเจ็บพยายามเคาะกระจกที่แตกร้าวไปทั่วทั้งบานแต่ยังไม่หลุดออกเป็นชิ้น ๆ เพราะการยืดเกาะของฟิล์มติดรถยนต์บวกกับประสิทธิภาพของกระจกที่ได้คุณภาพนั่นเอง เพื่อขอความช่วยเหลือบอกคนที่อยู่ด้านนอกว่ายังมีคนบาดเจ็บอยู่ด้านใน

“พี่คะ...ทางนี้ค่ะ มีคนติดอยู่ในรถ”

เจ้าของรถกระบะที่มาช่วยเหลือเธอเอาไว้รีบมาดูยังที่เกิดเหตุ ก่อนจะหันซ้ายขวาไปหยิบท่อนไม้พอเหมาะและตะโกนดังลั่นเพื่อให้คนเจ็บที่อยู่ด้านในหลบไปก่อน

“คุณ...เขยิบหนีไปก่อน ผมจะใช้ไม้เคาะกระจกพวกนี้ออก”

ไม่นานเศษกระจกเหล่านั้นก็หลุดออกมาเป็นชิ้น ๆ ร่วงกราวบนท้องถนน ชายร่างหนาคนที่ช่วยเหลือเธอเอาไว้ตะโกนถามคนเจ็บอีกครั้ง

“คุณ...คุณได้รับบาดเจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า ถ้าผมดึงคุณออกมาคุณไหวไหม”

สิ้นสุดคำถามคนบาดเจ็บด้านในก็ตะโกนตอบชายหนุ่มร่างหนาผู้ใจดีนั้นทันที

“ผมเจ็บที่ขาอย่างเดียว...เหมือนขาจะหัก”

“ถ้าอย่างนั้นผมดึงคุณออกมานะ”

ผู้ใจดีเอื้อมมือไปดึงร่างสูงของผู้บาดเจ็บออกมาทันที กมิตตรายกมือขึ้นแตะปากตัวเองด้วยความตกใจเมื่อเห็นรอยเลือดไหลเป็นทางยาวเหนือคิ้วของคนเจ็บ หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดเรียกสติตัวเองให้กลับคืนมา เธอต้องมีสติ ถ้าเป็นอย่างนี้เธอไม่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้แน่ ร่างบางเดินไปรอบรถเพื่อมองผู้บาดเจ็บคนอื่นอีก แต่หญิงสาวก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นร่างสิ้นลมหายใจใต้พวงมาลัยรถ ร่างบางผงะออกเล็กน้อย แต่เสียงร้องขอความช่วยเหลือยังคงดังลอยตามลมมาเป็นระยะ กมิตตราเรียกสติตัวเองให้คืนมา หญิงสาวกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ ดวงตากลมโตของหญิงสาวต้องเบิกกว้างขึ้นอีกครั้งเมื่อเหลือบเห็นร่างหนาที่นอนจมกองเลือดไกลจากรถที่เกิดเหตุเพียงแค่สามเมตร ร่างบางถลาเข้าไปหาร่างของผู้บาดเจ็บคนนั้นทันที

Tampilkan Lebih Banyak
Bab Selanjutnya
Unduh

Bab terbaru

Bab Lainnya

Komen

Tidak ada komentar
5 Bab
1
บทที่ 1 เริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดคิ้วเรียวราวกับปีกนกของสาวน้อยคนหนึ่งขมวดเข้าหากัน เมื่อท้องฟ้าที่เคยสวยงามเมื่อสักครู่แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นมืดครึ้ม สายลมที่พัดโชยเอื่อยเปลี่ยนเป็นแรงจนโบกสะบัดเส้นผมยาวสลวยจรดกลางแผ่นหลังบอบบางปลิวสยายจนเจ้าตัวต้องใช้โบว์มัดผมที่ใส่ข้อมือเอาไว้ออกมารัด ไม่ให้สายลมตีผมเธอจนยุ่ง ดวงตากลมโตประดุจกวางป่าล้อมกรอบด้วยแพขนตาสีดำสนิทเหมือนเส้นผมหรี่ลงเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองปลิดปลิวเข้าดวงตาทั้งสองข้างของเธอ กมิตตราเร่งฝีเท้าของตัวเองให้เร็วขึ้นเพราะถ้าขืนช้าไปกว่านี้เธอคงหนีไม่ทันฝน“โอ๊ย...พี่ฝนขา อย่าเพิ่งตกลงมานะคะ ขอให้แก้มกลับถึงบ้านก่อน”แต่ดูเหมือนพี่ฝนของกมิตตราจะไม่ให้ความร่วมมือ เพราะตอนนี้พี่ฝนเริ่มตกมาเป็นละอองฝอย ๆ เสียแล้ว เมื่อไม่กี่นาทีก่อนตอนที่เธอกำลังปั่นจักรยานไปยังตลาดนัดเล็ก ๆ ข้างหมู่บ้านซึ่งตลาดแห่งนี้จะมีทุกวันพุธ มีทั้งอาหารคาวหวานจากแม่ค้าที่อาศัยอยู่ละแวกนี้ ตอนนั้นอากาศยังดีอยู่เลย ท้องฟ้าแจ่มใสจนไม่ส่อแววว่าจะมีฝนตกด้วย ดวงตากลมโตมองข้าวของหน้าตะกร้าจักรยานด้วยสีหน้าที่ร้อนรน เธอต้องรีบนำผักสดพวกนี้ไปให้คุณแม่อธ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-29
Baca selengkapnya
2
“คุณคะ...คุณ”กมิตตราพยายามส่งเสียงเรียกคนเจ็บที่เริ่มหายใจรวยริน เห็นจากหน้าตาแล้วเขาไม่ใช่คนไทยอย่างแน่นอน คงจะเป็นนักท่องเที่ยว...แต่นักท่องเที่ยวที่ไหนทำไมถึงได้โดนรถบรรทุกคันนั้นตั้งใจขับชนหมายจะเอาชีวิต“คุณลุงคะ...อดทนนิดนะคะ รถพยาบาลกำลังจะมาถึง”เปลือกตาที่จะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ของคนบาดเจ็บพยายามมองหญิงสาวตรงหน้าให้ชัดเจน แต่มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับเขา ในที่สุดเปลือกตาหนาของผู้บาดเจ็บก็ปิดลงทันทีพร้อมกับลมหายใจรวยรินที่ทำให้กมิตตราต้องหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหารถพยาบาล และทันใดนั่นเองเสียงหวอของรถกู้ภัยฉุกเฉินก็ดังขึ้นมา“คุณลุงคะ...รถพยาบาลมาแล้ว แข็งใจอีกนิดนะคะ”มือเล็กของหญิงสาวบีบมือหนาที่เริ่มเย็นเพราะความเปียกชื้นของละอองฝน เธอพยายามส่งกำลังใจให้คนเจ็บเผื่อว่าแรงใจของเธอมันจะช่วยทำให้ชายสูงวัยคนนี้มีพลังขึ้นมาบ้าง“เจ้านายผม...ช่วยเจ้านายผมด้วย”กันต์พยายามเอ่ยปากขอร้องชายหนุ่มที่ช่วยเหลือเขาออกมาจากรถให้ช่วยเจ้านายของเขาซึ่งอาจจะติดอยู่ในรถหรือเปล่าเขาก็ไม่รู้...เขากับนพขับรถพาคริสออกจากท่าอากาศยานเพื่อไปยังบ้านพัก ในขณะที่ขับรถออกมาพอเห็นว่าฝนตกเขาก็กำชับนพบอกให้ขับอย่างระ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-29
Baca selengkapnya
3
“บอสฮะ...แดนนี่สับขาหลอกบรรดาสาว ๆ ของบอสจนเก่งกว่านักฟุตบอลแล้วนะ แดนนี่มาเป็นบอดี้การ์ดนะฮะ...ไม่ใช่นักสับรางรถไฟ”แดนไทยจีบปากจีบคอพูดกับคนเป็นเจ้านายพร้อมกับค้อนให้อีกฝ่ายเล็กน้อย ยามพูดถึงบรรดานังชะนีสองขาของอนรรฆ บอดี้การ์ดหนุ่มหัวใจสาวเห็นสายตาคมเข้มของผู้เป็นเจ้านายมองเขาเขม็ง ร่างสูงของแดนไทยถึงกับถอยหลังไปอีกเล็กน้อยเพื่อให้พ้นระยะปลายเท้า ถ้าหากผู้เป็นเจ้านายจะเหวี่ยงมาที่เขา แต่อนรรฆก็ยังไม่ได้ทำอะไรเพราะโทรศัพท์มือถือส่วนตัวของเขาดังขึ้นเสียก่อนซึ่งโทรศัพท์เครื่องนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เบอร์ ส่วนมากก็เป็นคนในครอบครัวและเพื่อนสนิทจริง ๆ ของเขาเท่านั้น รอยยิ้มของอนรรฆแย้มออกมาทันทีเมื่อเห็นชื่อของคนที่โทร. เข้ามา“ว่าไงครับแม่”เสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มดังออกมาจนคนที่ยืนฟังอีกคนถึงกับยิ้มออกมาด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ต้องเดาแดนไทยก็รู้ว่าน้ำเสียงแบบนี้อนรรฆพูดกับใครเพราะมีอยู่คนเดียวที่ทำให้อนรรฆเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟังนั่นก็คืออรรดา มารดาของเขานั่นเอง“เอียน...เกิดเรื่องใหญ่แล้วลูก...พ่อ...พ่อ...”น้ำเสียงสะอื้นไห้ของมารดาทำให้อนรรฆหุบยิ้มทันที ใบหน้าอ่อนโยนเมื่อส
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-29
Baca selengkapnya
4
“ญาติของคนเจ็บหรือเปล่าครับ...ตอนนี้คนเจ็บปลอดภัยแล้วนะครับ”ทั้งกมิตตรากับคุณอรรดายิ้มออกมาอย่างยินดี ดวงตาของคุณอรรดาชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความปีติ มือของนางจับกอบกุมจับมือบางของกมิตตราแน่น“เห็นไหมคะ...แก้มบอกแล้วว่าคุณลุงต้องปลอดภัย คุณหมอกำลังย้ายคุณลุงไปห้องพักฟื้น เราไปรอที่ห้องกันก่อนดีกว่าไหมคะ...คุณป้าจะได้พักด้วย”คุณอรรดามองหน้ากมิตตราด้วยแววตาขอบคุณก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ ทั้งสองประคองกันไปยังห้องพักในขณะที่คนไข้ยังมาไม่ถึง กมิตตราประคองร่างของคุณอรรดาลงนั่ง เพียงครู่ร่างของคนป่วยก็ถูกบุรุษพยาบาลเข็นเข้ามาก่อนที่ทุกอย่างจะชุลมุนเล็กน้อย ในที่สุดร่างของคุณคริสก็นอนบนเตียงคนป่วยรอบศีรษะถูกพันด้วยผ้าพันแผล สายน้ำเกลือระโยงระยางยิ่งทำให้คู่ชีวิตอย่างคุณอรรดาสงสารผู้เป็นสามีจับใจกมิตตรามองภาพคุณอรรดาจับมือหนาของสามีไว้แน่นยิ่งสะท้อนในหัวใจ ถ้าเธอมีพ่อกับแม่อยู่กันพร้อมหน้าแบบนี้ก็คงอบอุ่น ดวงตากลมโตของหญิงสาวร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อคิดถึงเรื่องรันทดของตัวเองถึงแม้เธอจะพยายามบอกตัวเองว่าเธอมีความสุขที่มีคุณแม่อธิการทั้งสองดูแล และมีคุณพ่ออาเธอร์ที่เปรียบเสมือนบิดาของเธอเลี้ยงดู แต่ส่ว
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-29
Baca selengkapnya
5
ทันทีที่เท้าเหยียบแผ่นดินของเมืองเชียงใหม่ในประเทศไทย อนรรฆ เอียน แบรนดอน ก็รีบเดินทางไปยังโรงพยาบาลอย่างเร่งรีบ สีหน้าของชายหนุ่มเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก ตลอดการเดินทางอนรรฆไม่เอ่ยอะไรออกมาทั้งสิ้นจนแดนไทยไม่กล้าที่จะชวนคุย อนรรฆหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมากดหามารดาของตัวเองทันที“แม่ครับ...ตอนนี้พ่อเป็นยังไงบ้างครับ”ทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงของคนเป็นลูก คุณอรรดาถึงกับน้ำตาคลอหน่วยตาทั้งสอง เมื่อคิดว่าเธอไม่ต้องอยู่ตามลำพังอีกแล้ว“ปลอดภัยแล้วลูก...กันต์ก็ปลอดภัยแล้ว เอียนอยู่ไหนแล้วลูก”น้ำเสียงสั่นสะท้านน้อย ๆ ของมารดาทำให้คนเป็นลูกกัดสันกรามตัวเองแน่น ถ้าหายตัวได้เขาก็อยากหายตัวไปหามารดาตอนนี้เลย เพราะคิดว่ามารดาคงตกใจน่าดูที่ต้องเผชิญเหตุการณ์นี้เพียงลำพัง“ใกล้ถึงโรงพยาบาลแล้วครับ...เดี๋ยวเจอกันนะครับแม่”อนรรฆกดตัดสายมารดาและเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นจนแดนไทยเดินจนเกือบจะวิ่งอยู่แล้ว แต่บอดี้การ์ดหนุ่มหัวใจสาวก็ไม่ได้บ่นเพราะเป็นห่วงผู้เป็นเจ้านายและเพื่อนรักอย่างกันต์ด้วยเช่นเดียวกัน“คุณคริสเป็นยังไงบ้างครับบอส”แดนไทยเก็บความอยากรู้เอาไว้ไม่ไหวจึงถามออกไปด้วยความเป็นห่วงคนทั้งสอ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-29
Baca selengkapnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status