แชร์

ของเต็มรถ

ผู้เขียน: 橙花
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-11 17:00:13

ซูเมี่ยวจินขับมาถึงถนนฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเมื่อวานในเวลาไม่นาน เธอเห็นมีร้านขายของมากมายเรียงรายอยู่จึงได้หาที่จอดรถและชวนฉางเล่ยลงไป

“ภรรยา เราเอาของไว้หลังรถแบบนี้จะไม่หายใช่ไหมครับ” ฉางเล่ยเอ่ยอย่างกังวล

“ไม่หายหรอกค่ะ คุณไม่เห็นหรือยังไงว่าผ้าใบหลังรถปิดสนิทอยู่น่ะ” ซูเมี่ยวจินเอ่ยขึ้นอย่างสบาย ๆ เธอรู้ดีว่าไม่มีใครกล้ามายุ่งกับรถยนต์คันใหม่ของเธอหรอก

“เฮ้อ! ถ้าอย่างนั้นเรารีบหาร้านซื้อของตามรายการของแม่กันดีกว่าครับ จะได้กลับบ้านกันสักที ผมกลัวว่าจะเสียเงินมากกว่านี้” ฉางเล่ยกลัวภรรยาจะพาเขาไปซื้อของแพงอีกจึงได้บอกเอาไว้ก่อน

“ฮ่า ฮ่า คุณนี่นะ ฉันสัญญาว่าจะไม่ซื้อของแพงอีกแล้วล่ะค่ะ แค่รถคันนี้ก็ทำให้ฉันต้องหาเงินเพิ่มอีกไม่น้อยแล้ว” ซูเมี่ยวจินอดจะหัวเราะผู้ชายตัวโตข้าง ๆ ไม่ได้

ฉางเล่ยยกมือเกาหัวอย่างเขิน ๆ เขาคิดว่าตัวเองคงทำตัวขี้งกเกินไปหรือเปล่าถึงทำให้ภรรยาคนสวยหัวเราะแบบนี้

ซูเมี่ยวจินจับมือของฉางเล่ยเดินหาร้านไปพร้อมกัน พวกเธอเสียเวลาอยู่ที่ร้านขายรถเกือบสองชั่วโมง ทำให้ตอนนี้ต้องเร่งหาของตามรายการที่แม่ฉางสั่งให้ซื้อโดยเร็วที่สุด เธอยังคิดที่จะพาสามีกินข้าวเที่ยงก่อนกลับบ้านด้วย เพราะไหน ๆ ก็เข้ามาในมณฑลกันแล้ว อยู่ต่ออีกสักหน่อยก็ไม่เป็นอะไร

ทั้งสองคนเดินดูร้านจนเกือบสุดถนน ก่อนจะเห็นในซอยดูเหมือนมีร้านสิ่งของตามรายการที่หลิวเอ้อหลิงเขียนให้อยู่ร้านหนึ่ง พวกเขาจึงรีบเดินเข้าไปสอบถามและส่งใบรายการของให้เจ้าของร้านทันที

“ไม่ทราบว่าสิ่งของพวกนี้ คุณมีขายหรือเปล่าครับ” ฉางเล่ยถามเจ้าของร้าน

“อ้อ! พวกของแต่งงานเรามีขายทั้งหมดค่ะ คุณรอสักครู่นะคะ ฉันจะจัดของให้”

“ขอบคุณมากครับ” ฉางเล่ยพรูลมหายใจอย่างโล่งอก ในที่สุดพวกเขาก็ไม่ต้องเดินหาร้านให้เสียเวลาอีก

ซูเมี่ยวจินมองสิ่งของแปลกตาในร้านมากมายก็เข้าใจแล้วว่าร้านนี้คงเป็นร้านที่ขายของแต่งงานโดยเฉพาะจริง ๆ รายการของที่แม่ฉางให้มาเธอไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่แรก มีเพียงคนที่เคยใช้เท่านั้นถึงจะเข้าใจ

เจ้าของร้านจัดของตามรายการใส่ถุงกระดาษให้ลูกค้าอยู่นานถึงครึ่งชั่วโมง กว่าที่สิ่งของมากมายจะครบทั้งหมด

“ให้คิดเงินเลยหรือเปล่าคะ” เจ้าของร้านถามเมื่อจัดสินค้าให้เสร็จ

“คิดเงินได้เลยครับ” ฉางเล่ยพยักหน้ารับคำ

“ทั้งหมด 880 หยวนค่ะ” เจ้าของร้านบอกราคา

“นี่ครับ 900 หยวน” ฉางเล่ยนับเงินส่งให้เจ้าของร้าน

“ขอบคุณค่ะ นี่เงินทอนค่ะ” เจ้าของร้านส่งเงินทอนให้ฉางเล่ย

ฉางเล่ยรับเงินทอนมาแล้วจึงรวบถุงหลายใบมาถือไว้ในมือทั้งสองข้างจนไม่สามารถถือได้แล้ว แต่ของที่กองอยู่ยังเหลืออีกมาก ซูเมี่ยวจินจึงช่วยเขาถือถุงที่เหลือและออกจากร้านเพื่อนำของไปเก็บที่รถ

“สามี เรากินข้าวเที่ยงที่นี่ก่อนค่อยกลับบ้านกันดีไหมคะ นี่เลยเที่ยงมานิดหน่อยแล้วหรือเปล่า คุณดูนาฬิกาหน่อยสิ” ซูเมี่ยวจินประมาณเวลาแล้วถามคนมีนาฬิกา

“อืม… จริงอย่างที่คุณว่านะครับ เลยเที่ยงมา 15 นาทีแล้ว” ฉางเล่ยบอกเวลา

“คุณอยากกินอะไรคะ ฉันจะได้หาร้านนั่งกินสักร้านหนึ่ง” ซูเมี่ยวจินจำได้ว่าใกล้ห้างด้านนอกมีร้านอาหารอยู่หลายร้าน

“คุณเลือกสักร้านเถอะ ภรรยา ผมกินได้หมดครับ” ฉางเล่ยบอก

“ตกลงค่ะ มื้อเที่ยงกินข้าวกันดีกว่านะคะ เมื่อเช้าเรากินแค่โจ๊ก”

“ได้สิครับ ตามใจคุณเลย ว่าแต่คุณไม่ซื้ออะไรอีกใช่ไหมครับ เราไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก เผื่อคุณจะมีของใช้จำเป็นที่ต้องซื้อ” ฉางเล่ยไม่ลืมเตือนภรรยา

“อืม… เดี๋ยวค่อยคิดตอนที่นั่งกินข้าวก็ได้ค่ะ” ซูเมี่ยวจินตอนนี้หิวจนนึกไม่ออก

ฉางเล่ยพยักหน้ารับคำเธอ พอดีกับที่พวกเขาเดินมาถึงรถที่จอดอยู่ ซูเมี่ยวจินเดินไปท้ายรถเพื่อเปิดผ้าใบขึ้นและวางถุงไว้บนรถ ฉางเล่ยก็มายืนข้างกันแล้วจัดวางถุงทั้งหมดเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ ทั้งสองมองกระบะท้ายรถที่ตอนนี้มีของเยอะมากจนแทบจะล้นออกมา

“คิดไม่ถึงเลยว่ารายการของที่แม่ให้มาจะเยอะขนาดนี้นะคะ” ซูเมี่ยวจินอดพูดไม่ได้

“นั่นสิครับ ผมก็ไม่คิดว่ามันจะเยอะและใหญ่ขนาดนี้” ฉางเล่ยพยักหน้าเห็นด้วย

“เราขึ้นรถกันเถอะค่ะ ฉันจะขับหาร้านอาหารสักร้าน” ซูเมี่ยวจินชวนสามี

ซูเมี่ยวจินขับรถวนไปถนนข้างห้างสรรพสินค้า เมื่อเห็นที่จอดรถว่างอยู่เธอจึงจอดเอาไว้ข้างทางและชวนฉางเล่ยเดินหาร้านอาหารหลังลงจากรถ

“คุณรู้ได้ยังไงว่าตรงนี้มีร้านอาหารครับ” ฉางเล่ยอดจะถามไม่ได้

“ฉันสังเกตเห็นเมื่อวานตอนเราออกจากห้างน่ะค่ะ” ซูเมี่ยวจินบอกตรง ๆ

“โอ้! ภรรยาผมความจำดีมาก” ฉางเล่ยชมเธอด้วยใบหน้าซื่อ

“คุณก็ชมฉันเกินไป กินที่ร้านนี้ดีไหมคะ คนไม่ค่อยเยอะ” ซูเมี่ยวจินไม่อยากรออาหารนานจึงเลือกร้านที่คนไม่ค่อยเยอะนัก

“ได้ครับ รีบเข้าไปสั่งอาหารกันเถอะ” ฉางเล่ยเดินตามหลังไปติด ๆ

ซูเมี่ยวจินสั่งอาหารสี่อย่างและข้าวอีกสองจาน ทั้งสองต่างนั่งนึกว่ายังมีของจำเป็นอะไรที่ไม่ได้ซื้อหรือเปล่าระหว่างรออาหาร

“สามี ข้าวกับเครื่องปรุงรสสำหรับทำอาหารยังมีเหลืออยู่เท่าไหร่คะ”

“อืม… เหลือไม่มากแล้วครับ ผมคิดจะเข้าไปซื้อในอำเภอสัปดาห์หน้าน่ะ”

“ไหน ๆ เราก็มาที่นี่แล้ว ฉันว่าเราซื้อกลับไปบ้านให้ครบเลยดีกว่าค่ะ ราคาน่าจะถูกกว่าที่อำเภอนะคะ” ซูเมี่ยวจินเดา

“ตกลงครับ มีอย่างอื่นที่คุณคิดว่าต้องซื้ออีกหรือเปล่า” ฉางเล่ยที่คิดไม่ออกถามอีก

“ที่นอน หมอน ผ้าห่ม ฉันว่าซื้อใหม่ให้ทุกคนดีกว่านะคะ ในห้องคุณก็เก่ามากแล้ว”

ฉางเล่ยพยักหน้ารับคำอย่างอาย ๆ เขารู้ดีว่าของพวกนี้บ้านพวกเขาไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อใหม่ จึงได้ทนใช้ของเก่ามานานหลายปีแล้ว

20 นาทีต่อมา พนักงานในร้านก็นำอาหารมาส่งที่โต๊ะ พวกเขารีบกินข้าวเพื่อจะได้ไปหาซื้อของใช้จำเป็นกลับไปที่บ้าน ซูเมี่ยวจินสอบถามร้านค้าส่งจากพนักงานหลังจากจ่ายค่าอาหาร

“ร้านค้าส่งอยู่ถนนทิศใต้ของเมืองค่ะ ที่นั่นมีขายหลายอย่างเลย”

“ขอบคุณมากนะคะ พวกเราขอตัวก่อน” ซูเมี่ยวจินลุกขึ้นหลังจากฉางเล่ยจ่ายค่าอาหาร

“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณที่มาอุดหนุนที่ร้านนะคะ” พนักงานกล่าวลาด้วยรอยยิ้ม

ซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยกลับขึ้นรถแล้วออกเดินทางไปถนนทิศใต้ของเมืองทันที พวกเขาไม่อยากเสียเวลานานจนกลับถึงบ้านค่ำนัก ระหว่างทางไปยังร้านค้าส่ง ซูเมี่ยวจินก็คิดอยากได้จักรยานให้พ่อแม่และน้องสาวของฉางเล่ย

พวกเขามาถึงตลาดค้าส่งที่ว่าในเวลาไม่นาน หลังจอดรถเสร็จ ซูเมี่ยวจินก็เดินเคียงข้างกับฉางเล่ยหาร้านที่นอนก่อนเป็นอันดับแรก ทั้งสองเดินอยู่ไม่นานก็พบร้านใหญ่ที่ขายเครื่องนอนทุกอย่าง ซูเมี่ยวจินเป็นคนเลือกที่นอน หมอน ผ้าห่มทั้งหมดด้วยตัวเอง เธอยังซื้อผ้าปูกลับไปด้วยหลายผืน ไหนจะปลอกหมอนอีกหลายชิ้นด้วย เรื่องเหล่านี้ฉางเล่ยไม่ค่อยสันทัดนัก เขาไม่รู้ว่าอะไรจำเป็นต้องใช้ เพราะที่บ้านก็ไม่เคยใช้ของดี ๆ พวกนี้

“คุณผู้หญิงจะให้ขนไปส่งที่ไหนครับ” เจ้าของร้านถามระหว่างคิดเงิน เพราะลูกค้าตรงหน้าเขาสั่งทุกอย่างเป็นสินค้าชั้นดีและยังสั่งถึงสามชุดด้วย

“ให้คนของคุณขนตามพวกเราไปที่รถได้เลยค่ะ” ซูเมี่ยวจินบอก

“ไม่มีปัญหาครับ ราคาทั้งหมด 600 หยวนครับ” เจ้าของร้านที่ลดราคาให้เป็นพิเศษบอกออกมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง

“นี่ครับ 600 หยวน” ฉางเล่ยส่งเงินให้เจ้าของร้าน ตอนนี้เงินที่ติดตัวเขาเหลือไม่ถึงหนึ่งพันหยวนแล้วหลังจากซื้อของมากมายก่อนหน้านี้

เจ้าของร้านรับเงินมานับดู เมื่อเห็นว่าเงินครบถ้วน เขาก็ร้องบอกลูกน้องให้นำสินค้าตามลูกค้าไปส่งที่รถ ซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยนำทางไปถึงรถที่จอดอยู่ไม่ไกลก่อนที่พวกเขาจะจัดของที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ยัดเข้าไปด้านในสุด เพื่อให้พอมีที่ว่างสำหรับวางเครื่องนอนทั้งหมดได้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ซูเมี่ยวจิน   เจ้าสาวสวยมาก

    “โอ้! เจ้าสาวของฉางเล่ยสวยมากจริง ๆ” เสียงลุงใหญ่บ้านฉางที่ตั้งสติได้เป็นคนแรกอดจะชมเสียงดังไม่ได้“ใช่ ๆ เจ้าสามได้ลูกสะใภ้สวยจริง ๆ” พี่ชายหลิวเอ้อหลิงที่เห็นหลานสะใภ้เอ่ยเสริมขึ้นมาเสียงดังเช่นเดียวกัน“พวกลุงอย่าแกล้งภรรยาผมสิครับ ดูสิ เธอทำตัวไม่ถูกแล้ว” ฉางเล่ยยืดอกขึ้นอย่างภูมิใจที่ตัวเองกำลังจะแต่งงานกับคนสวยตรงหน้า เขารู้ดีว่าสีหน้าของซูเมี่ยวจินตอนนี้คงกำลังเขินอายอยู่ ไม่อย่างนั้นแก้มของเธอคงไม่แดงก่ำขึ้นมาจนลามไปถึงคออย่างที่เขากำลังเห็นเป็นแน่“ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะคุณลุง” ซูเมี่ยวจินได้ยินฉางเล่ยพูดขึ้น เธอจึงสงบจิตใจตอบกลับผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม สายตาคมดุของเธอมองเจ้าบ่าวที่วันนี้หล่อมากในสายตาเธอก็อดที่จะมองเขาสักหลายทีไม่ได้เช่นกันเหล่าผู้อาวุโสเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวแอบมองกันไปมาก็รีบผลักพวกเขาให้ไปรอต้อนรับแขกที่ลานหน้าบ้าน ฉางเล่ยที่ตั้งตัวได้ก่อนจึงจับมือซูเมี่ยวจินเดินออกไปตามคำสั่งของผู้ใ

  • ซูเมี่ยวจิน   วันแต่งงาน

    หลังกินข้าวเสร็จ ฉางชิงหยูอาสาไปเชิญเพื่อนบ้านที่สนิทกันและยืมโต๊ะเก้าอี้มาไว้ใช้ในงานแต่งงานวันพรุ่งนี้ หลิวเอ้อหลิงบอกให้ฉางเล่ยไปขอซื้อไก่จากเพื่อนบ้านพวกนั้นมาสักหลายตัวเพื่อทำอาหารขึ้นโต๊ะในงานแต่งงาน หลังจากดูแล้วว่ายังขาดเมนูไก่ไปหนึ่งอย่าง สองพ่อลูกจึงออกจากบ้านไปด้วยกันหลิวเอ้อหลิงกับซูเมี่ยวจินจึงช่วยกันตกแต่งบ้านต่อ เหลืออีกเพียงนิดหน่อยก็ตกแต่งเสร็จหมดแล้ว ตอนนี้บ้านฉางเต็มไปด้วยกระดาษและผ้าสีแดงเต็มไปหมด ในห้องนอนของฉางเล่ยเองก็ถูกติดกระดาษเอาไว้เช่นกัน แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนผ้าปูเป็นสีแดงมงคล หลิวเอ้อหลิงรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าจึงจะเข้าไปเปลี่ยนให้ลูก ๆ“แม่คะ ฉันติดเสร็จหมดแล้วค่ะ จะให้ทำอะไรต่อคะ” ซูเมี่ยวจินถามขึ้น“ไม่มีอะไรแล้วจ๊ะ เราไปปั้นแป้งเตรียมทำบัวลอยวันพรุ่งนี้กันดีไหม” หลิวเอ้อหลิงนึกถึงขนมบัวลอยที่บ่าวสาวต้องกินในวันแต่งงานขึ้นมาได้ เธอไม่อยากเสียเวลาเตรียมของพรุ่งนี้จึงคิดจะทำเอาไว้ก่อน“ได้ค่ะแม่&r

  • ซูเมี่ยวจิน   ขายเขากวาง

    “เชิญคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายด้านในเลยครับ” เจ้าของร้านผายมือเชิญอย่างนอบน้อม ต่างจากครั้งก่อนที่พวกเขามาขายโสมราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ“ขอบคุณครับ/ค่ะ” ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินเห็นเถ้าแก่ทำแบบนี้เลยไม่อยากเสียมารยาท“พวกคุณนั่งก่อนครับ วันนี้จะมาขายเขากวางในมือนั่นหรือเปล่าครับ” เถ้าแก่ถามด้วยแววตาเป็นประกายระยิบระยับ เพราะเขากำลังจะได้ของดีมาขายอีกแล้ว“ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณรับซื้อยังไงคะเถ้าแก่” ซูเมี่ยวจินถามตรง ๆ เธอไม่เคยขายเขากวางมาก่อนจึงไม่รู้ว่าราคาตลาดเป็นอย่างไร“เขากวางสดขายราคาเป็นขีดครับคุณผู้หญิง เขากวางของคุณใหญ่ขนาดนี้น่าจะได้ราคาสูงมากทีเดียว หลายปีแล้วที่ร้านขายยาไม่มีเขากวางขายครับ” เถ้าแก่บอกตรง ๆ เพื่อที่เขาจะได้รับซื้อเขากวางและนำไปขายทำกำไรต่อเหมือนเคย“ขีดละเท่าไหร่หรือคะเถ้าแก่ ถ้าราคาต่ำไป ฉันจะได้เก็บเอาไว้ก่อน” ซูเมี่ยวจินไม่คิดว่า

  • ซูเมี่ยวจิน   ขายกวาง

    ฉางเล่ยถึงกับทึ่งในฝีมือการใช้หน้าไม้ของซูเมี่ยวจิน แต่เขาไม่มีเวลาสงสัยมากนักเมื่อเธอบอกให้เขารีบเข้าไปกลบเลือดกวางที่ตาย เพื่อป้องกันไม่ให้หมาป่าหรือสัตว์ดุร้ายตัวอื่นตามกลิ่นเลือดมาซูเมี่ยวจินมองหาไม้ใหญ่และเถาวัลย์เพื่อใช้มัดกวาง ดีที่ป่าตรงนี้มีทุกอย่างที่เธอต้องการ ซูเมี่ยวจินใช้เวลาไม่นานก็นำของทั้งหมดไปจัดการมัดกวางเอาไว้“ช่วยฉันแบกมันลงจากเขากันเถอะค่ะ ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ” ซูเมี่ยวจินยังคงกลัวว่าจะกลับบ้านค่ำมืดเกินไป“สี่โมงเย็นพอดีครับ” ฉางเล่ยยกไม้ที่มีกวางถูกมัดอยู่ขึ้นพาดไหล่อย่างไม่หนักแรง“เรารีบกลับบ้านกันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยเอามันไปขายในอำเภอนะคะ”“ตกลงครับ ว่าแต่พรุ่งนี้เราจะใช้จักรยานหรือรถยนต์ไปในอำเภอดีครับ”“ฉันว่าเอาสามล้อของพ่อไปดีกว่าค่ะ ฉันไม่อยากให้ชาวบ้านเห็นรถยนต์เราเร็วนัก ยังไงวันแต่งงานก็ต้องเอารถออกไปจอดหน้าบ้านอย

  • ซูเมี่ยวจิน   อยากขึ้นเขา

    ทั้งสองกลับมาถึงบ้านก่อนเที่ยงนิดหน่อย หลังจากเก็บเนื้อและผักแช่ไว้ในบ่อน้ำหลังบ้านแล้ว ซูเมี่ยวจินก็ไปอุ่นอาหารรอฉางเล่ยที่กำลังเอาสามล้อไปคืนพ่อที่ไร่ เธอคิดว่าช่วงบ่ายไม่มีอะไรทำ จึงอยากชวนฉางเล่ยขึ้นเขาไปล่าสัตว์ หาสมุนไพรดูสักหน่อย เผื่อว่าจะโชคดีได้เงินอีกสักก้อนฉางเล่ยกลับมากินข้าวพร้อมซูเมี่ยวจินในเวลาไม่นานนัก ระหว่างที่กำลังกินมื้อเที่ยงกันอยู่ ซูเมี่ยวจินก็ชวนฉางเล่ยขึ้นเขา“คุณแน่ใจเหรอว่าจะขึ้นเขาบ่ายนี้” ฉางเล่ยเลิกคิ้วขึ้นอย่างงุนงง“ใช่ค่ะ ยังไงบ่ายนี้พวกเราก็ไม่มีอะไรทำ คุณไม่ได้ไปดูกับดักสัตว์หลายวันแล้ว เผื่อว่าจะได้สัตว์ไปขายในอำเภอพรุ่งนี้สักตัวสองตัวก็ยังดีนะคะ” ซูเมี่ยวจินบอก“ก็ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นกินข้าวเสร็จ ผมจะเอากุญแจบ้านไปให้พ่อก่อน คุณรอผมที่บ้านนะครับ ผมไปไม่นาน” ฉางเล่ยพยักหน้าตอบรับ เขาลืมไปเลยว่าวางกับดักสัตว์เอาไว้หลายวันแล้ว เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องงานแต่งงานจึงไม่ได้ขึ้นไปดู

  • ซูเมี่ยวจิน   เตรียมงาน

    ฉางชิงหยูกับหลิวเอ้อหลิงไปถึงบ้านหลิวในเวลาไม่นาน สองเฒ่าชราที่อายุน้อยกว่าพ่อเฒ่าฉางหลายปีออกมาต้อนรับลูกเขยกับลูกสาวด้วยความดีใจ พอรู้ว่าหลานชายกำลังจะแต่งงาน ทั้งสองก็ดีใจมาก“พวกเราจะไปแน่นอนเอ้อหลิง พ่อกับแม่จะให้พี่ใหญ่เธอพาไปเอง ตั้งแต่หลาน ๆ ไปทำงานในอำเภอ พวกเราก็สบายขึ้นมาก จักรยานที่บ้านก็มีถึงสองคัน ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พวกเราจะไปกันตั้งแต่เช้ามืดเลย” แม่หลิวรีบบอกพร้อมรอยยิ้มชรา“ใช่ ๆ นานแล้วที่บ้านเราไม่มีงานมงคล” พ่อหลิวเองก็ดีใจไม่น้อยที่หลานชายกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ทั้งที่อายุก็ไม่น้อยแล้ว“ถ้าพ่อแม่ไม่อยากตื่นเช้านัก พวกเราปั่นจักรยานมารับพวกคุณได้นะคะ” หลิวเอ้อหลิงไม่อยากทำให้พ่อแม่ลำบาก เธอจึงหันไปมองสามี“ใช่ครับ ผมปั่นสามล้อมารับดีไหมครับ พ่อกับแม่จะได้นั่งกันสบายหน่อย”“ไฮ้! ไม่เป็นไร ๆ พวกเราชอบนั่งพ่วงหลังจักรยานของเสี่ยวเค่อมากกว่า” พ่อเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status