แชร์

รถคันใหม่

ผู้เขียน: 橙花
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-11 07:00:15

ซูเมี่ยวจินแยกถุงที่เป็นเสื้อผ้าใหม่และเสื้อผ้าใส่แล้วออกจากกัน ก่อนจะช่วยกันถือถุงทั้งหมดลงไปชั้นล่างเพื่อกินอาหารเช้าพร้อมฉางเล่ย

“คุณไปนั่งรอที่โต๊ะและสั่งอาหารรอเลยนะครับ ผมจะไปคืนห้องพักก่อน”

“ตกลงค่ะ คุณอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะ”

“ไม่มีครับ ผมกินอะไรก็ได้ คุณสั่งมาเถอะ”

ซูเมี่ยวจินพยักหน้ารับคำและเดินไปยังส่วนที่เป็นห้องอาหารอีกด้านหนึ่งภายในชั้นหนึ่งของโรงแรมแห่งนี้

ฉางเล่ยใช้เวลาไม่นานก็เดินไปนั่งตรงข้ามกับภรรยา เขาสอบถามทางไปร้านขายรถเครื่องตามที่ซูเมี่ยวจินอยากไปดูมาแล้ว

“พนักงานบอกว่าร้านขายรถต้องเดินไปฝั่งตรงข้ามครับ เขาบอกว่ามีหลายร้านอยู่ แต่ระยะทางก็ไกลพอสมควรนะ คุณอยากนั่งสามล้อไปหรือเปล่าครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ เราเดินไปดีกว่า” ซูเมี่ยวจินไม่อยากเสียเงินเล็กน้อยพวกนี้

ระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่เกือบสิบนาที พนักงานครัวก็ยกอาหารมาให้ที่โต๊ะของพวกเขาพอดี ซูเมี่ยวจินสั่งโจ๊กหมูและเครื่องเคียงอีกสามอย่างมากินเป็นมื้อเช้าเท่านั้น เพราะโรงแรมจะมีพ่อครัวใหญ่เข้ามาตอนมื้อเที่ยง เช้านี้พวกเธอจึงกินได้เพียงอาหารง่าย ๆ เหล่านี้

ค่าอาหารมื้อนี้พวกเขาจ่ายไปเพียง 15 หยวน นับว่าไม่แพงเลยสำหรับอาหารมื้อเช้าของสองคน ฉางเล่ยถือถุงมากมายขึ้นมาอย่างไม่หนักแรง เขาให้ซูเมี่ยวจินถือถุงเพียงไม่กี่ถุงเท่านั้น เพราะกลัวเธอจะเหนื่อย

ระหว่างทางเดินไปยังร้านขายรถ ซูเมี่ยวจินสอบถามความชอบของฉางเล่ยว่าเขาต้องการรถแบบไหนเอาไว้ใช้งานที่หมู่บ้าน ฉางเล่ยซึ่งเคยเห็นแต่รถสามล้อบรรทุกของในอำเภอก็บอกว่ารถแบบนั้นน่าจะใช้ได้

“แต่มันจะไม่คันเล็กเกินไปสำหรับคุณเหรอคะ ฉันอยากได้รถคันใหญ่สักหน่อย คุณจะได้นั่งสบาย ๆ ไหนจะของที่พวกเราซื้ออีก” ซูเมี่ยวจินอยากดูรถที่ใหญ่กว่า

“ถ้าอย่างนั้นเราค่อย ๆ ดูไปทีละร้านดีไหมครับ ไม่ต้องรีบร้อน ยังไงพวกเราก็มีรถขับกลับบ้านเองอยู่แล้ว” ฉางเล่ยเสนอขึ้น

“ตกลงค่ะ เอาอย่างที่คุณว่าก็ได้” ซูเมี่ยวจินพยักหน้ารับคำ

ทั้งสองเดินไปตามถนนที่พนักงานโรงแรมบอกอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง พวกเขาจึงพบเห็นร้านขายรถจักรยานและจักรยานยนต์ร้านแรกเสียที น่าเสียดายที่ร้านนี้มีเพียงรถคันเล็ก พวกเขาจึงต้องเดินกันต่อไป

ซูเมี่ยวจินมองถนนฝั่งตรงข้าม เธอเห็นร้านขายรถยนต์อยู่สองสามแห่งก็คิดอยากลองถามราคาดู เพียงแต่เธอกลัวว่าฉางเล่ยจะไม่กล้าเข้าไปพร้อมกัน อีกทั้งราคารถยนต์ในยุคนี้เธอก็ไม่รู้ว่าจะแพงแค่ไหน ซูเมี่ยวจินกลัวว่าจะทำสามีเสียหน้าจึงเดินต่อไปจนกระทั่งพบร้านขายรถสามล้อที่ต่อพ่วงด้านหลังและมีหลังคาอยู่

“สามี ไปถามร้านนี้ดูกันเถอะ” ซูเมี่ยวจินเอ่ยชวนฉางเล่ย

“ตกลงครับ เข้าไปดูกันก่อน” ฉางเล่ยเห็นรถคล้ายกับในอำเภอก็พยักหน้าทันที

พวกเขาเดินเข้าไปในร้านก็พบกับพนักงานที่เข้ามาต้อนรับพร้อมรอยยิ้มกว้าง อาจเพราะพวกเขาเป็นลูกค้ารายแรกของวันกระมัง พนักงานจึงได้รีบเข้าหา

“สวัสดีครับ ไม่ทราบต้องการดูรถแบบไหนกันครับ” พนักงานถามอย่างสุภาพ

“เราอยากดูรถสามล้อที่ขนาดใหญ่สักหน่อยน่ะค่ะ แบบที่สามีของฉันนั่งได้สบาย ๆ”

“โอ้! คุณผู้ชายตัวใหญ่จริง ๆ นะครับ พวกคุณลองตามผมมาดูทางนี้ว่ารถสามล้อพ่วงคันนั้นจะพอใจพวกคุณไหมครับ” พนักงานผายมือเชิญให้พวกเขาตามไปยังด้านหลังร้านซึ่งมีรถจำนวนมากจอดอยู่

ในบรรดารถสามล้อหลายสิบคัน ซูเมี่ยวจินเห็นรถคันหนึ่งมีขนาดใหญ่กว่าคันอื่นจึงเดินเข้าไปสำรวจดู โดยมีฉางเล่ยเดิมตามไปติด ๆ พร้อมกับพนักงาน

“คุณผู้หญิงตาถึงจริง ๆ นะครับ รถคันนี้เป็นคันที่ใหญ่ที่สุดในร้านแล้วครับ ไม่ทราบว่าพวกคุณพอใจหรือไม่ครับ” พนักงานบอกรายละเอียดรถเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย

“สามี คุณวางของลงก่อนแล้วลองเข้าไปนั่งดูสิคะ” ซูเมี่ยวจินเป็นห่วงฉางเล่ยและกลัวเขาจะนั่งไม่สบาย เธอจึงให้เขาลองเข้าไปนั่งดู

ฉางเล่ยวางของลงตามที่ซูเมี่ยวจินบอก เขาลองเข้าไปนั่งด้านหลังรถที่พ่วงต่อกับที่นั่งคนขับด้านหน้า พอยืดขาออกก็ดูจะไม่เป็นอะไร เพียงแต่หัวของเขาชนเข้ากับหลังคาซึ่งต่ำกว่าลำตัวของเขาเสียก่อน ซูเมี่ยวจินเห็นเข้าก็รีบเดินไปถามเขาอย่างเป็นห่วงว่าเจ็บหรือไม่

“ไม่เจ็บเท่าไหร่ครับ คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ” ฉางเล่ยยิ้มแหย ความจริงเขามึนไปครู่หนึ่งเลยทีเดียว เพราะแรงกระแทกที่แรงไม่น้อย

“เฮ้อ! คุณมีรถที่ใหญ่กว่านี้หรือเปล่าคะ” ซูเมี่ยวจินประคองฉางเล่ยลงมาและสั่งให้เขาระวังหัวให้ดีก่อนลงจากรถ

“ไม่มีแล้วครับคุณผู้หญิง ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงมีงบประมาณสักเท่าไหร่ครับ” พนักงานเสียดายที่ไม่ได้ขายรถให้พวกเขา แต่ด้วยความมีน้ำใจ เขาจึงอยากแนะนำร้านที่เหมาะสมให้ลูกค้ารายแรกของเขา

“อืม… ไม่ทราบว่าราคารถจี๊ปที่เมืองนี้ประมาณเท่าไหร่คะ เมื่อครู่ฉันเห็นมีร้านขายอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามน่ะค่ะ” ซูเมี่ยวจินตัดสินใจสอบถามราคารถยนต์ก่อน

“อ้อ! ราคาอยู่ที่ประมาณหนึ่งหมื่นถึงสองหมื่นห้าพันหยวนครับ” พนักงานไม่คิดว่าลูกค้าตรงหน้าเขาจะมีเงินมากพอที่จะซื้อรถยนต์ได้ แต่เขาก็บอกไปตามที่รู้

“ขอบคุณที่บอกนะคะ สามี เราไปดูรถจี๊ปกันก่อนดีกว่า” ซูเมี่ยวจินตัดสินใจที่จะใช้เงินจากระบบ ถึงยังไงรถก็เป็นสิ่งจำเป็นหากในอนาคตเธอจะสร้างอาชีพให้ครอบครัว ไหนจะเรื่องเข้าสอบมหาวิทยาลัยของฉางเซียงจูอีก ครอบครัวต้องมีรถเพื่อพาเธอไปสอบในมณฑลปีหน้าอยู่แล้ว

ซูเมี่ยวจินชวนฉางเล่ยออกจากร้านขายรถสามล้อทันที แต่ระหว่างที่กำลังเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามอยู่นั้น ฉางเล่ยก็เอ่ยกับภรรยาอย่างไม่มั่นใจนัก

“ภรรยา เรามีเงินมากขนาดนั้นที่ไหนกันครับ ซื้อรถสามล้อสักคันก็พอดีไหม”

“ฉันมีเงินค่ะ คุณไม่ต้องกังวลนะ ฉันไม่อยากซื้อรถสามล้อมาแล้วทำให้คุณลำบาก”

“ผมไม่ลำบากหรอกครับ แค่ย่อตัวลงนิดหน่อยก็นั่งได้แล้ว”

“ไม่ได้! คุณอย่าลืมว่ารถนี่เราต้องใช้ไปอีกนานนะคะ รถที่ซื้อมาแล้วใช้งานไม่สะดวกก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อหรอก” ซูเมี่ยวจินบอกเหตุผลของเธอ

“แต่ว่า… ผมขับรถไม่เป็นอยู่ดีนะครับ” ฉางเล่ยบอกภรรยา

“ฉันจะสอนคุณทีหลังค่ะ เราเข้าไปถามราคารถกันก่อนเถอะ” ซูเมี่ยวจินไม่สนใจว่าฉางเล่ยจะอิดออดอย่างไร เธอเดินเข้าประตูไปทันที

“สวัสดีค่ะคุณผู้หญิง ไม่ทราบต้องการดูรถแบบไหนคะ” พนักงานหญิงของร้านรีบเข้ามารับหน้า เมื่อเห็นการแต่งตัวของลูกค้าทั้งสอง

“ฉันอยากทราบราคารถจี๊ปคันนั้นสักหน่อยค่ะ” ซูเมี่ยวจินพยักเพยิดหน้าไปยังรถจี๊ปที่มีผ้าใบปิดตรงกระบะด้านหลังคันหนึ่งซึ่งจอดอยู่

“อ้อ! เชิญพวกคุณมาดูใกล้ ๆ ได้เลยค่ะ รถคันนี้เป็นรถจี๊ปรุ่นเก่าของร้านเรา สามารถใช้งานในพื้นที่ชนบทได้เป็นอย่างดี ภายในไม่มีเครื่องปรับอากาศ ด้านหลังสามารถถอดผ้าใบออกและกลายเป็นท้ายกระบะใส่ของชิ้นใหญ่ได้ค่ะ ราคาของรถคันนี้อยู่ที่หนึ่งหมื่นสองพันห้าร้อยหยวน” พนักงานหญิงกล่าวรายละเอียดให้พวกเขาฟัง

“สามี คุณลองเข้าไปนั่งด้านในดูสิคะ” ซูเมี่ยวจินวางของเอาไว้และเปิดประตูข้างคนขับให้ฉางเล่ยเข้าไปนั่งลองดู

ฉางเล่ยพยักหน้ารับคำภรรยา เขาวางของลงและเข้าไปนั่งดูก็รู้สึกว่านั่งสบายกว่ารถสามล้อเมื่อกี้มากนัก

“ภรรยา ผมรู้สึกว่าที่นั่งกว้างมากเลยครับ ผมไม่ต้องย่อเข่าก็นั่งได้สบายเลย”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีค่ะ ไม่ทราบว่ารถที่มีเครื่องปรับอากาศ ราคาเท่าไหร่คะ” ซูเมี่ยวจิงนึกถึงอากาศที่แปรปรวนในยุคนี้ก็อยากได้รถดี ๆ ไปเลยทีเดียว

“ถ้าคุณผู้หญิงอยากติดตั้งเครื่องปรับอากาศก็เพิ่มเงินอีกสองพันหยวนค่ะ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ซูเมี่ยวจิน   เจ้าสาวสวยมาก

    “โอ้! เจ้าสาวของฉางเล่ยสวยมากจริง ๆ” เสียงลุงใหญ่บ้านฉางที่ตั้งสติได้เป็นคนแรกอดจะชมเสียงดังไม่ได้“ใช่ ๆ เจ้าสามได้ลูกสะใภ้สวยจริง ๆ” พี่ชายหลิวเอ้อหลิงที่เห็นหลานสะใภ้เอ่ยเสริมขึ้นมาเสียงดังเช่นเดียวกัน“พวกลุงอย่าแกล้งภรรยาผมสิครับ ดูสิ เธอทำตัวไม่ถูกแล้ว” ฉางเล่ยยืดอกขึ้นอย่างภูมิใจที่ตัวเองกำลังจะแต่งงานกับคนสวยตรงหน้า เขารู้ดีว่าสีหน้าของซูเมี่ยวจินตอนนี้คงกำลังเขินอายอยู่ ไม่อย่างนั้นแก้มของเธอคงไม่แดงก่ำขึ้นมาจนลามไปถึงคออย่างที่เขากำลังเห็นเป็นแน่“ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะคุณลุง” ซูเมี่ยวจินได้ยินฉางเล่ยพูดขึ้น เธอจึงสงบจิตใจตอบกลับผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม สายตาคมดุของเธอมองเจ้าบ่าวที่วันนี้หล่อมากในสายตาเธอก็อดที่จะมองเขาสักหลายทีไม่ได้เช่นกันเหล่าผู้อาวุโสเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวแอบมองกันไปมาก็รีบผลักพวกเขาให้ไปรอต้อนรับแขกที่ลานหน้าบ้าน ฉางเล่ยที่ตั้งตัวได้ก่อนจึงจับมือซูเมี่ยวจินเดินออกไปตามคำสั่งของผู้ใ

  • ซูเมี่ยวจิน   วันแต่งงาน

    หลังกินข้าวเสร็จ ฉางชิงหยูอาสาไปเชิญเพื่อนบ้านที่สนิทกันและยืมโต๊ะเก้าอี้มาไว้ใช้ในงานแต่งงานวันพรุ่งนี้ หลิวเอ้อหลิงบอกให้ฉางเล่ยไปขอซื้อไก่จากเพื่อนบ้านพวกนั้นมาสักหลายตัวเพื่อทำอาหารขึ้นโต๊ะในงานแต่งงาน หลังจากดูแล้วว่ายังขาดเมนูไก่ไปหนึ่งอย่าง สองพ่อลูกจึงออกจากบ้านไปด้วยกันหลิวเอ้อหลิงกับซูเมี่ยวจินจึงช่วยกันตกแต่งบ้านต่อ เหลืออีกเพียงนิดหน่อยก็ตกแต่งเสร็จหมดแล้ว ตอนนี้บ้านฉางเต็มไปด้วยกระดาษและผ้าสีแดงเต็มไปหมด ในห้องนอนของฉางเล่ยเองก็ถูกติดกระดาษเอาไว้เช่นกัน แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนผ้าปูเป็นสีแดงมงคล หลิวเอ้อหลิงรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าจึงจะเข้าไปเปลี่ยนให้ลูก ๆ“แม่คะ ฉันติดเสร็จหมดแล้วค่ะ จะให้ทำอะไรต่อคะ” ซูเมี่ยวจินถามขึ้น“ไม่มีอะไรแล้วจ๊ะ เราไปปั้นแป้งเตรียมทำบัวลอยวันพรุ่งนี้กันดีไหม” หลิวเอ้อหลิงนึกถึงขนมบัวลอยที่บ่าวสาวต้องกินในวันแต่งงานขึ้นมาได้ เธอไม่อยากเสียเวลาเตรียมของพรุ่งนี้จึงคิดจะทำเอาไว้ก่อน“ได้ค่ะแม่&r

  • ซูเมี่ยวจิน   ขายเขากวาง

    “เชิญคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายด้านในเลยครับ” เจ้าของร้านผายมือเชิญอย่างนอบน้อม ต่างจากครั้งก่อนที่พวกเขามาขายโสมราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ“ขอบคุณครับ/ค่ะ” ฉางเล่ยกับซูเมี่ยวจินเห็นเถ้าแก่ทำแบบนี้เลยไม่อยากเสียมารยาท“พวกคุณนั่งก่อนครับ วันนี้จะมาขายเขากวางในมือนั่นหรือเปล่าครับ” เถ้าแก่ถามด้วยแววตาเป็นประกายระยิบระยับ เพราะเขากำลังจะได้ของดีมาขายอีกแล้ว“ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณรับซื้อยังไงคะเถ้าแก่” ซูเมี่ยวจินถามตรง ๆ เธอไม่เคยขายเขากวางมาก่อนจึงไม่รู้ว่าราคาตลาดเป็นอย่างไร“เขากวางสดขายราคาเป็นขีดครับคุณผู้หญิง เขากวางของคุณใหญ่ขนาดนี้น่าจะได้ราคาสูงมากทีเดียว หลายปีแล้วที่ร้านขายยาไม่มีเขากวางขายครับ” เถ้าแก่บอกตรง ๆ เพื่อที่เขาจะได้รับซื้อเขากวางและนำไปขายทำกำไรต่อเหมือนเคย“ขีดละเท่าไหร่หรือคะเถ้าแก่ ถ้าราคาต่ำไป ฉันจะได้เก็บเอาไว้ก่อน” ซูเมี่ยวจินไม่คิดว่า

  • ซูเมี่ยวจิน   ขายกวาง

    ฉางเล่ยถึงกับทึ่งในฝีมือการใช้หน้าไม้ของซูเมี่ยวจิน แต่เขาไม่มีเวลาสงสัยมากนักเมื่อเธอบอกให้เขารีบเข้าไปกลบเลือดกวางที่ตาย เพื่อป้องกันไม่ให้หมาป่าหรือสัตว์ดุร้ายตัวอื่นตามกลิ่นเลือดมาซูเมี่ยวจินมองหาไม้ใหญ่และเถาวัลย์เพื่อใช้มัดกวาง ดีที่ป่าตรงนี้มีทุกอย่างที่เธอต้องการ ซูเมี่ยวจินใช้เวลาไม่นานก็นำของทั้งหมดไปจัดการมัดกวางเอาไว้“ช่วยฉันแบกมันลงจากเขากันเถอะค่ะ ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ” ซูเมี่ยวจินยังคงกลัวว่าจะกลับบ้านค่ำมืดเกินไป“สี่โมงเย็นพอดีครับ” ฉางเล่ยยกไม้ที่มีกวางถูกมัดอยู่ขึ้นพาดไหล่อย่างไม่หนักแรง“เรารีบกลับบ้านกันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยเอามันไปขายในอำเภอนะคะ”“ตกลงครับ ว่าแต่พรุ่งนี้เราจะใช้จักรยานหรือรถยนต์ไปในอำเภอดีครับ”“ฉันว่าเอาสามล้อของพ่อไปดีกว่าค่ะ ฉันไม่อยากให้ชาวบ้านเห็นรถยนต์เราเร็วนัก ยังไงวันแต่งงานก็ต้องเอารถออกไปจอดหน้าบ้านอย

  • ซูเมี่ยวจิน   อยากขึ้นเขา

    ทั้งสองกลับมาถึงบ้านก่อนเที่ยงนิดหน่อย หลังจากเก็บเนื้อและผักแช่ไว้ในบ่อน้ำหลังบ้านแล้ว ซูเมี่ยวจินก็ไปอุ่นอาหารรอฉางเล่ยที่กำลังเอาสามล้อไปคืนพ่อที่ไร่ เธอคิดว่าช่วงบ่ายไม่มีอะไรทำ จึงอยากชวนฉางเล่ยขึ้นเขาไปล่าสัตว์ หาสมุนไพรดูสักหน่อย เผื่อว่าจะโชคดีได้เงินอีกสักก้อนฉางเล่ยกลับมากินข้าวพร้อมซูเมี่ยวจินในเวลาไม่นานนัก ระหว่างที่กำลังกินมื้อเที่ยงกันอยู่ ซูเมี่ยวจินก็ชวนฉางเล่ยขึ้นเขา“คุณแน่ใจเหรอว่าจะขึ้นเขาบ่ายนี้” ฉางเล่ยเลิกคิ้วขึ้นอย่างงุนงง“ใช่ค่ะ ยังไงบ่ายนี้พวกเราก็ไม่มีอะไรทำ คุณไม่ได้ไปดูกับดักสัตว์หลายวันแล้ว เผื่อว่าจะได้สัตว์ไปขายในอำเภอพรุ่งนี้สักตัวสองตัวก็ยังดีนะคะ” ซูเมี่ยวจินบอก“ก็ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นกินข้าวเสร็จ ผมจะเอากุญแจบ้านไปให้พ่อก่อน คุณรอผมที่บ้านนะครับ ผมไปไม่นาน” ฉางเล่ยพยักหน้าตอบรับ เขาลืมไปเลยว่าวางกับดักสัตว์เอาไว้หลายวันแล้ว เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องงานแต่งงานจึงไม่ได้ขึ้นไปดู

  • ซูเมี่ยวจิน   เตรียมงาน

    ฉางชิงหยูกับหลิวเอ้อหลิงไปถึงบ้านหลิวในเวลาไม่นาน สองเฒ่าชราที่อายุน้อยกว่าพ่อเฒ่าฉางหลายปีออกมาต้อนรับลูกเขยกับลูกสาวด้วยความดีใจ พอรู้ว่าหลานชายกำลังจะแต่งงาน ทั้งสองก็ดีใจมาก“พวกเราจะไปแน่นอนเอ้อหลิง พ่อกับแม่จะให้พี่ใหญ่เธอพาไปเอง ตั้งแต่หลาน ๆ ไปทำงานในอำเภอ พวกเราก็สบายขึ้นมาก จักรยานที่บ้านก็มีถึงสองคัน ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พวกเราจะไปกันตั้งแต่เช้ามืดเลย” แม่หลิวรีบบอกพร้อมรอยยิ้มชรา“ใช่ ๆ นานแล้วที่บ้านเราไม่มีงานมงคล” พ่อหลิวเองก็ดีใจไม่น้อยที่หลานชายกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ทั้งที่อายุก็ไม่น้อยแล้ว“ถ้าพ่อแม่ไม่อยากตื่นเช้านัก พวกเราปั่นจักรยานมารับพวกคุณได้นะคะ” หลิวเอ้อหลิงไม่อยากทำให้พ่อแม่ลำบาก เธอจึงหันไปมองสามี“ใช่ครับ ผมปั่นสามล้อมารับดีไหมครับ พ่อกับแม่จะได้นั่งกันสบายหน่อย”“ไฮ้! ไม่เป็นไร ๆ พวกเราชอบนั่งพ่วงหลังจักรยานของเสี่ยวเค่อมากกว่า” พ่อเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status