แชร์

จวนผีสิง? 1/1

ผู้เขียน: ซินเสวี่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-28 09:00:47

หลังจากที่แม่นมกับเสี่ยวอิงจัดการธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วก็กลับมาหาไป๋อวี้หลันที่รอทั้งสองคนอยู่ที่เรือนเพื่อที่ทั้งสามคนจะได้เดินทางออกจากจวนตระกูลไป๋แห่งนี้ในช่วงต้นยามเซิน (15.00-16.59 น.) ซึ่งทั้งสามคนนั้นไม่ได้เอาอะไรออกไปเลยนอกจากชุดเสื้อผ้าสองสามชุด

เมื่อถึงเวลาพวกของไป๋อวี้หลันก็ถือห่อผ้าคนละใบพร้อมกับเดินออกไปด้านนอกเรือนทันที โดยตลอดทางตั้งแต่หน้าเรือนไปจนถึงประตูหน้าจวนพวกนางทั้งสามคนต่างก็ตกเป็นเป้าสายตาของเหล่าบ่าวไพร่ภายในเรือน

รวมไปจนถึงสองแม่เจ้าเล่ห์ที่ตั้งตารอวันนี้มาตลอดทั้งชีวิต ยิ่งเมื่อได้เห็นศัตรูโดนเฉดหัวออกไปจากจวนก็ยิ่งรู้สึกเบิกบานใจเป็นอย่างมากจึงไม่พลาดที่จะแวะมาเอ่ยเย้ยหยันอีกฝ่าย

“โอ๊ะ! คุณหนูใหญ่ไม่ใช่สิตอนนี้ต้องเรียกว่าไป๋อวี้หลันถึงจะถูกสินะ”

เป่าลี่อินหรือฮูหยินรองมารดาของไป๋ลี่หลินเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มเยาะอย่างผู้ชนะ

“มีเรื่องอะไรจะพล่ามอีกอย่างนั้นรึ ถ้าจะมาเยาะเย้ยเรื่องที่ข้าออกจากตระกูลละก็ เลิกคิดไปเสียเถิด ข้าหาได้มีความเสียใจหรืออาลัยอาวรณ์จวนเส็งเครงแห่งนี้แม้แต่น้อย”

ไป๋อวี้หลันเอ่ยบอกสตรีตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายในความไร้สมองของสองแม่ลูกนี้

“หึ! ทำเป็นปากดีไปเถิด เมื่อไหร่ที่เท้าของพวกเจ้าพ้นจากจวนแห่งนี้ไป พวกเจ้าก็จะเป็นเพียงสามัญชนธรรมดาหาใช่คุณหนูใหญ่ตระกูลไป๋ที่ผู้คนต่างให้ความเกรงกลัวเหมือนอย่างที่แล้วมา”

“ผู้คนที่เจ้าเคยไปรังแกเอาไว้ก็คงจะมาตามคิดบัญชีเจ้าจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนแทบเอาตัวไม่รอดอย่างแน่นอน”

ไป๋ลี่หลินเอ่ยกับพี่สาวต่างมารดาอย่างสะใจที่อีกฝ่ายก็จะมีวันที่ตกลงมาจากที่สูงแบบนี้บ้างเหมือนกัน

“เฮ้อ พวกเจ้าสองแม่ลูกนี้ช่างมีความฉลาดที่เท่ากันเสียจริง ๆ ข้าก็ไม่แปลกใจแล้วว่าเหตุใดเสนาบดีไป๋ไม่ยกเจ้าขึ้นเป็นฮูหยินเอกเสียที นั่นก็เพราะคนไร้สมองเช่นเจ้าคงจะดูแลจวนแห่งนี้ไม่ได้นั่นเอง หึ”

ไป๋อวี้หลันเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่สายตาของนางนั้นกำลังเย้ยหยันอีกฝ่ายอย่างที่พวกนางทั้งสองแม่ลูกชอบใช้มองนางกลับเช่นเดียวกัน

คำพูดของไป๋อวี้หลันก็เป็นดั่งเข็มที่ทิ่มแทงสองแม่ลูกตรงหน้ามาตลอดเวลา เพราะเป่าลี่อินนั้นวาดฝันอย่างสวยงามว่าถ้าหากไร้ศัตรูหัวใจไปแล้วตนเองจะต้องได้เป็นฮูหยินเอกของสามีอย่างแน่นอน

แต่รอมาจนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาแล้วเกือบสิบปีที่ตนเองยังคงเป็นเพียงฮูหยินรอง แม้ว่านางจะมีบุตรชายให้กับสามีแล้วก็ตาม แต่นางก็ยังคงไม่ได้เลื่อนขึ้นไปยังตำแหน่งที่ตนเองต้องการเสียที

ดังนั้นพอโดนหญิงสาวตรงหน้าพูดตอกย้ำที่แผลเก่าจึงทำให้เป่าลี่อินรู้สึกโกรธและชิงชังอีกฝ่ายจนอยากจะฉีกหญิงสาวตรงหน้าออกเป็นชิ้น ๆ เสีย แต่ติดตรงที่นางยังต้องแสดงบทแม่เลี้ยงผู้จิตใจดีอยู่จึงทำได้เพียงข่มกลั้นความรู้สึกชิงชัง โกรธแค้นเอาไว้เพื่อรอโอกาสเอาคืน

“ปากดีแบบนี้ให้ได้ตลอดรอดฝั่งก็แล้วกัน อย่าซมซานคลานเข่ามาร้องขอให้ข้ากับท่านแม่ช่วยพูดกับท่านพ่อให้ก็แล้วกัน!”

ไป๋ลี่หลินเอ่ยตอกกลับอย่างมั่นใจว่าอีกฝ่ายคงจะเอาชีวิตรอดโดยไม่เพิ่งชื่อเสียงของตระกูลไปได้ไม่นานอย่างแน่นอน

“คงจะไม่มีวันนั้นอย่างแน่นอน คนอย่างข้าไม่เคยเดินไปข้างหน้าแล้วหันกลับมาเสียดายข้างหลัง ไปกันเถิดเสี่ยวอิง แม่นม เดี๋ยวจะมืดค่ำเสียก่อน”

หญิงสาวเอ่ยจบก็ออกเดินไปยังหน้าประตูจวนทันที แต่ก่อนที่เท้าของหญิงสาวจะก้าวข้ามประตูออกไปกลับมีเสียงเรียกจากด้านหลังจนต้องหยุดแล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียง

“โปรดรอสักครู่ขอรับคุณหนูใหญ่”

เป็นเสียงของชายวัยชราอย่างพ่อบ้านตงนั่นเองที่เอ่ยเรียกหญิงสาวเอาไว้

“พ่อบ้านตงมีสิ่งใดจะเอ่ยกับข้าอีกอย่างนั้นรึ?”

“นี่เป็นหนังสือตัดขาดกับหนังสือสัญญาทาสของแม่นมหลิวกับเสี่ยวอิงตามที่ท่านต้องการขอรับ นายท่านได้ให้ข้าไปจัดการให้เรียบร้อยแล้ว”

“ส่วนนี่เป็นเงินหนึ่งร้อยตำลึงทองที่นายท่านฝากมามอบให้กับคุณหนู ถือว่าเป็นสินเดิมของนายหญิงที่มอบคืนให้คุณหนูขอรับ”

ชายชราเอ่ยบอกตามที่ผู้เป็นนายเอ่ยบอกโดยไม่ตกหล่นแม้ครึ่งคำ

“ข้าฝากขอบคุณท่านเสนาบดีไป๋ด้วยสำหรับความเมตตาครั้งสุดท้ายนี้ ถ้าไม่มีสิ่งใดแล้วข้าขอตัวก่อน”

ไป๋อวี้หลันเอ่ยบอกกับชายชราจบก็หมุนตัวเดินออกจากจวนแห่งนี้ไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองยังด้านหลังเลยแม้แต่น้อย

เพราะถ้าหญิงสาวหันกลับมามองสักนิดอาจจะได้เห็นแผ่นหลังกว้างของใครบางคนที่เดินกลับเข้าไปด้านในจวน เขามองแผ่นหลังบางเดินพ้นประตูไปแล้วโดยไม่มีแม้แต่คำเอ่ยลา

หลังจากที่พวกของไป๋อวี้หลันออกมาจากจวนตระกูลไป๋แล้วก็พบเข้ากับชายหนุ่มสองคนที่อายุน่าจะราว ๆ 20 ปลายๆ กำลังยืนรอทั้งสามอยู่ตรงหัวมุมทางเลี้ยวไปยังตลาด

ทั้งสองนั้นต่างก็มีหน้าตาที่ดุดันตามแบบคนที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี เพียงหญิงสาวปรายตามองก็รู้ได้ทันทีว่าทั้งสองคือองครักษ์ที่ท่านตาส่งมาให้ดูแลความปลอดภัยให้กับพวกนาง

“คารวะคุณหนูขอรับ”

องครักษ์หนุ่มทั้งสองเอ่ยพร้อมทำความเคารพผู้เป็นเจ้านายคนใหม่ของตนเอง

“อืม ท่านทั้งสองตามสบายเถิด ท่านตาส่งพวกท่านมาสินะ”

ไป๋อวี้หลันเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่สำรวจบุรุษทั้งสองคนตรงหน้าเสร็จเรียบร้อย

“ขอรับ พวกเราทั้งสองรับคำสั่งจากนายท่านให้มาคอยดูแลคุณหนูขอรับ”

หนึ่งในองครักษ์เอ่ยตอบหญิงสาว

“แล้วพวกท่านมีชื่อว่าอย่างไรกันบ้างเล่า”

“ข้าชื่อ หวังอู่ ขอรับ”

บุรุษด้านซ้ายที่มีรอยแผลเป็นตรงหางคิ้วเอ่ยขึ้น

“ส่วนข้า หวังลู่ ขอรับ

บุรุษทางด้านขวาที่มีใบหน้าคมเข้มเอ่ยตอบ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   ความจริงของเรื่องราวเลวร้าย

    “ท่าน...พี่...”เสียงเอ่ยเรียกของภรรยารองนั้นยิ่งทำให้โทสะของไป๋ฮุ่ยหมิงปะทุขึ้นจนเอ่ยตะคอกอีกฝ่ายด้วยความเกรี้ยวกราด“หุบปากเน่า ๆ ของเจ้าเสีย! เสียแรงที่ข้านั้นรักและเอ็นดูเจ้ามาตลออด แต่เจ้ากลับกล้าหักหลังข้าทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร”“ไม่เพียงแค่หลอกลวงข้าเรื่องหลินเอ๋อร์ แต่เจ้ายังวางยาฮูหยินเอกจนนางต้องตายจากไป เจ้าทำเรื่องเลวร้ายถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกันหา!”คำถามมากมายที่หลุดออกจากปากผู้เป็นสามีนั้นช่างบาดลึกลงไปในจิตใจของเป่าลี่อินเป็นอย่างมาก จริงอยู่ที่ในตอนแรกนางนั้นเข้าหาเขาเพียงเพราะต้องทำตามแผนของบุรุษชั่วช้าผู้นั้น แต่เมื่อได้ใกล้ชิดและได้รับความรัก เอาใจใส่ดูแลจากอีกฝ่ายอย่างที่ไม่เคยมีใครทำให้กับนางจึงทำให้นางเริ่มที่จะหึงหวงและอยากครอบครองไม่อยากให้เขาไปมอบความรักให้กับสตรีอื่น นางจึงได้วางแผนการทุกอย่างเพื่อที่จะใส่ร้ายฮูหยินเอกสตรีอีกหนึ่งคนที่เขารัก ด้วยการใส่ความต่าง ๆ จนในที่สุดนางก็สามารถทำสำเร็จและในขณะที่สตรีผู้นั้นตรอมใจนางจึงใช้โอกาสนี้ให้คนวางยาจนในที่สุดสตรีนางนั้นก็

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   ชำระหนี้แค้นแทนมารดา

    “ท่านอ๋องเพคะ”อวี้หลันเอ่ยเรียกชายหนุ่มด้วยคำเรียกที่จริงจังจนทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มต้องหันกลับมามองยังหญิงสาวที่ในตอนนี้กำลังยืนจ้องมองมาที่ตนเอง“พี่บอกแล้วใช่หรือไม่ว่าให้เรียกพี่ว่าอย่างไร”ชายหนุ่มเอ่ยบอกพร้อมกับวงแขนแกร่งเองก็คว้าเอาเอวบางเข้ามานั่งลงบนตักของตัวเองอย่างต้องการทำโทษ“พี่ชายท่านหลอกกินเต้าหู้ข้าอีกแล้วนะเจ้าคะ”อวี้หลันเอ็ดชายหนุ่มตรงหน้าด้วยท่าทีไม่จริงจังนักคล้ายว่านางเองก็เริ่มที่จะชินกับนิสัยมือไวของอีกฝ่ายเสียแล้ว“ก็ใครกันเล่าที่ทำให้พี่ต้องเป็นแบบนี้”ร่างสูงเอ่ยถามพร้อมกับยื่นใบหน้าหล่อเหลาของตนเองที่ตั้งแต่วันงานเลี้ยงจบลงนางก็ไม่เห็นว่าเขาจะยอมสวมใส่หน้ากากเช่นที่ข่าวลือบอกแม้แต่น้อยเข้ามาใกล้ใบหน้าของหญิงสาวอย่างต้องการหยอกล้ออีกฝ่ายให้เขินอาย“เป็นพี่ชายเองมากกว่าที่คิดมากไปเองเจ้าคะ แต่ก็ช่างเรื่องนั้นก่อนเถิดข้าในตอนนี้ต้องการคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องสมรสพระราชทานที่ฝ่าบาททรงมอบให้เมื่อเช้านี้มากกว่า”หญิงสาวเองก็ไม่ได้คิดที่จะผ

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   งานมงคล (จบ)

    ในที่สุดก็มาถึงสมรสพระราชทานระหว่างชินอ๋องกับคุณหนูซ่งอวี้หลัน งานแต่งงานในครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะมีกำหนดการที่กระชั้นชิดไปหน่อยแต่ว่างานทุกอย่างนั้นก็ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติของว่าที่พระชายาของชินอ๋อง โดยงานในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นที่ตำหนักส่วนตัวของชินอ๋องที่ผู้คนรู้จัก เพียงแต่นั้นเป็นแค่ฉากบังหน้าเพราะอวี้หลันได้พูดคุยตกลงกับชายหนุ่มเอาไว้แล้วว่าหลังจากแต่งงานเสร็จตนเองจะไปอยู่ที่จวนข้าง ๆ จวนของนาง ซึ่งชายหนุ่มเองก็ไม่คิดที่จะคัดค้าน เพราะเขานั้นตามใจหญิงสาวอยู่แล้ว ขอเพียงนางอยู่แล้วมีความสุขไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ล้วนแต่ยินดีทั้งสิ้นวันนี้ในเมืองหลวงต่างก็เต็มไปด้วยขบวนเจ้าบ่าวที่ในตอนนี้ร่างสูงสง่างามสวมชุดสีแดงสดนั่งสง่าอยู่บนหลังอาชาสีขาวตัวโปรดกำลังมุ่งหน้าไปยังจวนของว่าที่พระชายาที่เพียงแค่ขบวนสินสอดก็ยาวไปจนแทบจะสุดประตูเมือง ด้วยเกวียนขนหีบกว่าสามร้อยหีบไหนจะมีสิ้นเดิมของเจ้าสาวที่เหล่าท่านตาท่านลุงของนางนั้นมอบให้อีกกว่าสองร้อยกว่าหีบอีกเล่า เรียกได้ว่าการแต่งงานในครั้งนี้ของทั้งสองคนนั้นสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเหล่าชาวบ้านและเหล่าคุณหนูต่าง

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   จุดจบตระกูลเผิง

    ในที่สุดก็มาถึงวันนัดส่งมอบสินค้าของชาวหัวแดงกับกลุ่มของผู้ช่วยเผิงเจียง โดยพวกมันนั้นได้นัดพบกันที่แนวชายป่าใกล้ ๆ กับเมืองท่าที่พวกมันมักจะใช้เป็นจุดนัดพบส่งของกันอยู่บ่อยครั้งนั่นเองซึ่งข่าวเรื่องสถานที่ในการนัดพบของพวกมันนั้นเป็นชินอ๋องที่ส่งหน่วยองครักษ์ลับไปสืบข่าวมาจนได้รู้สถานที่ชัดเจนในครั้งนี้ ดังนั้นในวันนี้กลุ่มของนายท่านซ่งกับบุตรชายจึงได้เดินทางมายังสถานที่นัดพบกันในครั้งนี้กลุ่มของซ่งเฉิงป๋อนั้นทราบถึงกำหนดการจัดส่งสินค้าของพวกมันนั้นคือเวลายามซื่อของวันนี้และในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าก็จะถึงกำหนดเวลานัดของพวกมันแล้วเมื่อกลุ่มของซ่งเฉิงป๋อเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาแล้วทั้งสามคนพ่อลูกรวมทั้งเหล่าองครักษ์อีกกว่ายี่สิบนายต่างก็ซุ่มอยู่ในที่กำบังอย่างเงียบเชียบไม่นานหลังจากนั้นทั้งสองกลุ่มก็ได้ยินเสียงของรถม้าหลายคันกำลังวิ่งตรงมายังทิศทางที่พวกเขารออยู่เมื่อรถม้าทั้งสามคันจอสนิทลงที่จุดนัดพบก็เป็นเวลาเดียวกันกับเกวียนวัวของพวกกลุ่มพ่อค้าชาวหัวแดงเองก็มาถึงยังสถานที่นัดหมายเช่นเดียวกันหลังจากที่รถม้าจอดสนิทดีแล้วนั้นไม่นานก็มีบ

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   สมรสพระราชทาน

    “คุณหนูซ่งรับราชโองการ....เนื่องด้วยคุณหนูซ่งอวี้หลันนั้นเป็นสตรีที่มากความสามารถอีกทั้งยังเป็นสตรีที่เพียบพร้อมไปด้วยกิริยามารยาทอ่อนหวานเรียบร้อย จึงประทานสมรสพระราชทานให้แต่งเป็นพระชายาเอกในชินอ๋องจวินซีฮันในอีก 7 วันต่อจากนี้จบราชโองการ.....”จบราชโองการทั่วทั้งจวนต่างก็ตกอยู่ในความเงียบไม่เว้นแต่หญิงสาวเองที่ตั้งตัวไม่ทันว่าตนเองจะต้องแต่งงานให้กับชายหนุ่มในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี่เองในตอนนี้หญิงสาวจึงได้ยังคงก้มหน้าเงียบจนเสี่ยวอิงต้องสะกิดเพื่อให้คุณหนูของตนรีบตอบรับราชโองการโดยไว“หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่าบาทขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี หมื่น ๆ ปี เพคะ”จบคำของหญิงสาวกงกงคนสนิทของฮ่องเต้ก็ยื่นราชโองการสีเหลืองทองมาตรงหน้าของหญิงสาวจากนั้นมือบางจึงได้ยื่นไปรับมาถือไว้พร้อมกับเอ่ยขอบใจกงกงชราตรงหน้า“ลำบากท่านหม่ากงกงแล้วเจ้าค่ะ เสี่ยวอิงเจ้าจงตามไปส่งท่านหม่ากงกงให้ข้าด้วยนะ”ประโยคแรกนั้นหญิงสาวเอ่ยกับกงกงชราตรงหน้าด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลก่อนที่หญิงสาวจะหันไปเอ่ยกำชับกับสาวใช้คนสนิทอีกทั้งยังกำชับให้อีกฝ่ายมอ

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   นางร้ายสำแดงฤทธิ์

    ความเงียบยังคงปกคลุมไปทั่วชายป่าที่พวกเขายืนอยู่ หลังจากเอ่ยกับผู้เป็นตาเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้นอวี้หลันจึงได้หันหน้าไปมองยังก็ผิงซานคุนก่อนที่ริมฝีปากบางของนางจะเริ่มเอ่ยวาจาออกมา“นายท่านเผิงกล่าวมาเมื่อครู่นี้ข้าเองก็เห็นด้วยกับพวกท่านนะเจ้าคะ คนทำผิดคิดชั่วย่อมสมควรได้รับโทษทัณฑ์อย่างสาสม แต่ที่ข้าไม่เห็นด้วยก็คงจะเป็นคนที่ต้องโทษคิดกบฏนั้นหาใช่ตระกูลซ่งของข้า แต่เป็นตระกูลเผิงของพวกท่านต่างหากเล่า”“ท่านอย่าได้คิดจะเอ่ยปากแก้ตัวเพราะข้ากับท่านอ๋องนั้นต่างก็เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ที่พวกท่านมาถึงจนพูดคุยตกลงเกี่ยวกับการค้าในครั้งนี้จนไปถึงการส่งมอบสิ่งของพร้อมกับเงินทองเพื่อแลกเปลี่ยนกันแล้วอย่างไรเล่า”“นี่คงจะเพียงพอที่จะเอาผิดพวกท่านได้แล้วกระมัง แล้วไหนจะยังมีหัวหน้านายกองที่รับสินบนทั้งยังทำงานให้กับท่านมิใช่ให้กับฝ่าบาทเพียงเท่านี้ข้าคิดว่าโทษของตระกูลท่านก็คงจะมีหัวไม่พอให้ประหารชดใช้ความผิดแล้วละ”คำพูดของหญิงสาวทุกคำที่เอ่ยออกมานั้นช่างราวกับคมมีดที่กรีดลึกลงไปสุดขั้วหัวใจของคนฟังยิ่งนัก ไหนจะยังสามารถแจกแจงความผ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status