LOGIN“เกิดอะไรขึ้นครับ”
นภวินท์ถามคนที่มุงอยู่ก่อนหน้าด้วยภาษาอังกฤษ เขาคาดเดาจากการแต่งกายและกระเป๋าเป้ที่อยู่บนไหล่ของอีกฝ่าย ว่าน่าจะเป็นนักท่องเที่ยวมากกว่าคนในพื้นที่ จึงถามออกไปด้วยภาษาสากล
“มีคนถูกรถชนน่ะ”
คนถูกถามยืนอยู่หน้าสุดตอบกลับด้วยภาษาเดียวกัน พลางชี้มือไปยังท้ายรถยนต์คันใหญ่ที่แล่นไปลิบๆ
“รถคันนั้นชนผู้หญิงตรงนี้แหละ พวกเขากำลังพาเธอไปโรงพยาบาล”
นภวินท์มองตามท้ายรถที่แล่นลับสายตาไป ชายหนุ่มก้มลงหยิบรองเท้าที่หล่นมาถือไว้ รองเท้าข้างนี้เป็นของสิงหกัลยา และตอนนี้เธอโดนรถชน ชายหนุ่มพยายามสงบสติอารมณ์ และใจที่เต้นรัวของตัวเองให้นิ่งสงบ
“โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดชื่ออะไร ผมเป็นญาติของผู้หญิงที่ถูกรถชนเมื่อกี้” เขาหันไปถามอีกครั้ง
คนถูกถามส่ายหน้า แต่ยังมีน้ำใจไต่ถามคนร่วมมุงคนอื่นให้ ก่อนจะได้คำตอบว่า
“โรงพยาบาล Antezana ...”
“ขอบคุณมาก”
คำตอบนั้นทำให้นภวินท์รีบกล่าวขอบคุณ เขากลับไปจัดการกับสัมภาระของตัวเอง จำเป็นต้องเช็คอินเพื่อนำกระเป๋าฝากไว้ที่ห้องพักอีกครั้ง ก่อนจะเรียกแท็คซี่เพื่อไปยังโรงพยาบาล เมื่อไปถึงช่างภาพหนุ่มตรงไปสอบถามที่เคาน์เตอร์
“มีคนเจ็บที่ถูกรถชนหน้า Apartahotel มารักษาตัวอยู่ที่นี่หรือเปล่าครับ”
เจ้าหน้าที่เช็คข้อมูลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบว่า
“ ไม่มีค่ะท่าน ไม่ทราบว่าคนไข้ชื่ออะไรคะ เราจะได้เช็คจากเครื่อข่ายของโรงพยาบาลอื่นให้ท่านทราบ”
“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณ”
นภวินท์ส่ายหน้าปฏิเสธ พาสปอร์ตของสิงหกัลยาอยู่ที่เขา คนที่พาตัวเธอมารักษาคงไม่รู้ชื่อจริง เขาภาวนาให้รุ่นน้องจอมยุ่งอยู่รอดปลอดภัยดีและคงต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อให้ช่วยตามหาหญิงสาวอีกแรง
“ยังไม่ฟื้นเลยครับคุณหนู หมอโจเซฟมาดูอาการแล้วบอกว่าเธอ ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจากการล้มลงกระแทกกับกันชนรถ ไม่ใช่เกิดจากการโดนชนครับ ตอนนี้หมอได้ทำแผลให้เธอแล้ว เธอปลอดภัยดี”
นายแผนบอดี้การ์ดประจำตัวของลีเดีย รายงานให้ผู้เป็นนายสาวรู้ หลังจากไปส่งนายแพทย์ประจำบ้านของตระกูลราโดรเปรเรสเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวที่วิ่งตัดหน้ารถเขาจนเกือบถูกชนคนนั้น ยังสลบไม่ฟื้น โชคดีที่เขาแตะเบรกทันไม่อย่างนั้น คงเกิดเรื่องใหญ่แน่
“ลุงแผน ลีเดียขอเข้าไปดูเธอหน่อยนะ “
ลีเดียวางหนังสืออ่านเล่นลง ร่างบางขยับลุกจากโซฟานุ่มเดินตรงไปยังห้องพักรับรองด้านปีกซ้ายของคฤหาสน์ ซึ่งจัดเป็นที่รับรองแขกพิเศษของตระกูล ยามนี้กลายเป็นห้องรักษาตัวของหญิงสาวนิรนามที่เจ้าของบ้านพามาดูแล หากพาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลเรื่องคงถึงตำรวจและคนที่จะโดนหนักคือบอดี้การ์ดของเธอ
ลีเดียไม่อยากให้เกิดปัญหากับนายแผนจึงตัดปัญหาด้วยการพาตัวหญิงสาวเคราะห์ร้ายมาที่บ้านแทน แล้วเรียกนายแพทย์โจเซฟแพทย์ประจำบ้านมาดูอาการ
“อย่าบอกเรื่องนี้ให้พี่ราฟกับป๋ารู้นะ ลีเดียขี้เกียจตอบคำถาม”
เธอบอกขณะเดินผ่านบันไดเวียน ซึ่งเชื่อมต่อปีกซ้ายและปีกขวาของคฤหาสน์ไว้ ไปยังด้านล่าง ร่างงามเดินตามทางเดินไปยังอีกฝั่งของบ้าน ทางเดินผ่านลานน้ำพุซึ่งมีรูปปั้นมาทาดอร์กำลังสู้กับวัวกระทิง ตั้งเด่นอยู่กลางวงเวียนของสวนสวย ไม่ว่าจะเดินมาจากจุดใดของบ้าน ต้องผ่านวงเวียนแห่งนี้
เจ้าของบ้านจึงเลือกใช้ที่นี่เรียกประชุมสมาชิกอยู่เสมอ ปีกซ้ายที่จัดเป็นที่รับรองแขกมีห้องพักของลูกชายเจ้าของบ้านอยู่ด้วย ลีเดียจึงคิดจะย้ายคนเจ็บของเธอไว้ที่ปีกขวา ซึ่งเป็นอาณาเขตส่วนตัวของเธอด้วยเกรงพี่ชายจะรู้เรื่อง
ลีเดียเข้าใจว่าราฟาเอลยังคงสลบไสลหลังผ่านงานเลี้ยงฉลองเมื่อคืนก่อน และคงไม่ลุกออกมาจากห้องง่ายๆแน่ เธอจึงใจเย็นพอที่จะเดินเรียดเท้าไปยังห้องพักรับรองด้านในสุดที่จัดไว้ นายแผนเปิดประตูห้องให้คุณหนูของเขา และยืนรออยู่หน้าประตูห้องอย่างรู้หน้าที่ หากคุณราฟผ่านมาแถวนี้เขาจะได้ดักหน้าไว้ก่อน
“ฟื้นแล้วเหรอจ้ะ” ลีเดียทักทายคนที่นั่งทำหน้านิ่วอยู่บนเตียง
สิงหกัลยามองหญิงสาวร่างเพรียวบางที่เดินเข้ามานั่งข้างเตียง ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้ากระจ่างใสนั้นอย่างพิจารณา รู้สึกคุ้นตาเหมือนเคยเห็นใบหน้านี้จากที่ไหนสักแห่ง หากอาการปวดศีรษะทำให้เจ้าตัวนึกไม่ออก มือบางลูบคลำหน้าผากของตนเอง ก่อนจะสูดปากด้วยความเจ็บ
“โอย... หัวช้าน ! ” เธออุทานเป็นภาษาไทยออกมา ทำให้คนฟังตาลุกวาบด้วยความแปลกใจ
“คุณเป็นคนไทยเหรอคะ” ลีเดียถามอีกฝ่ายเป็นภาษาเดียวกัน
สิงหกัลยาพยักหน้ารับ “ค่ะ ฉันเป็นลูกครึ่งไทยอิตาเลี่ยน คุณเป็นคนไทยเหมือนกันหรือคะ” เธอย้อนถาม
“ค่ะ ฉันเป็นคนไทย แต่พ่อบุญธรรมของฉันเป็นชาวสเปนค่ะ ฉันเลยมาอยู่ที่นี่”
ลีเดียส่งยิ้มให้คนเจ็บ รู้สึกชอบหญิงสาวแปลกหน้าคนนี้ขึ้นมา ท่าทางของอีกฝ่ายเหมือนคนไม่มีพิษภัยอะไร สังเกตจากแววตาที่มองเธอ มันใสแป๋วเหมือนลูกแมวตัวน้อย น่ารักน่าเอ็นดู
“ฉันขอโทษด้วย ที่คนของฉันเกือบขับรถชนคุณ”
“ฉันวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือเอง ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาต้องโทษตัวเองสถานเดียว” สิงหกัลยา ยิ้มแห้งๆ
“คือฉันวิ่งหนีคนร้ายน่ะคะ มันจะตามมาฆ่าปิดปากฉัน”
หญิงสาวเล่าอย่างไม่ปิดบัง ตามนิสัยชอบเปิดเผยของตัวเอง ไม่เคยมีอะไรที่สิงหกัลยาเก็บเป็นความลับได้สักอย่าง นี่เองทำให้นภวินท์ไม่วางใจจึงไม่ยอมนอนเป็นเพื่อนเจ้าหล่อน
“จริงหรือคะ” เรื่องที่ได้ยิน ทำให้คนฟังตกใจ “แล้วคุณไปทำอะไร ทำไมถึงมีคนจะมาทำร้ายล่ะคะ”
“ก็ฉันไปเห็นเขาฆ่ากันค่ะ เมื่อวานนี้เองฉันไปดูเขาสู้วัว แล้วเอ่อ... ฉันบังเอิญไปเห็นเหตุการณ์เข้า ดีที่วิ่งหนีทัน ไม่นึกว่ามันจะตามมาดักเล่นงานฉันอีก “ สิงหกัลยาเล่าด้วย น้ำเสียงสั่นๆ
“แล้วคุณไปแจ้งตำรวจหรือยังคะ”
ศีรษะที่มีผ้าพันแผลแปะไว้ ส่ายไปมา
“ไม่ได้แจ้งความหรอกค่ะ ฉันไม่อยากเป็นพยาน อีกไม่กี่วันหลังจากฉันทำงานเสร็จ ฉันจะกลับบ้านแล้ว ไม่อยากให้เรื่องนี้ทำให้ยุ่งยากค่ะ”
เหตุผลของคนเล่า ทำให้คนฟังถอนหายใจ
“แบบนี้ก็แย่สิคะ ถ้ามันรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน แล้วตามไปทำร้ายอีกจะทำยังไง” ลีเดียนึกห่วง
“ตอนแรกฉันกับเฮีย เอ่อ...พี่ชายน่ะคะ เราตั้งใจจะเดินทางไปพัมโพลนา เพื่อเก็บภาพงานเทศกาลวิ่งวัว หลังจากนั้นเราก็จะกลับบ้านกัน”
สิงหกัลยาเพิ่งนึกได้เมื่อพูดมาถึงตอนนี้ เธอไม่ได้โทรบอกนภวินท์เลยว่าเธออยู่ที่ไหน
“ขอโทษนะคะ ฉันขอโทรหาพี่ชายได้ไหมคะ ตอนนี้เขาคงกำลังตามหาฉันอยู่”
“ได้สิคะ สักครู่นะคะ” เจ้าของบ้าน ลุกขึ้นเดินไปขอโทรศัพท์ที่บอดี้การ์ดมายื่นส่งให้
สิงหกัลยารับโทรศัพท์มากดโทรหานภวินท์
“เฮียวินท์ หนูเองนะ หนูปลอดภัยดี ไม่ต้องเป็นห่วง”
หญิงสาวหันมายิ้มให้เจ้าของบ้านนิดหนึ่ง ก่อนจะคุยต่อ
“ไอ้ฆาตกรมันจะฆ่าหนู หนูเลยวิ่งหนีมันจนเกือบถูกรถชนตาย หนูไม่เป็นอะไรแล้วแค่หัวแตกนิดเดียวเอง”
“แกอยู่ที่ไหนยายลิง ฉันจะไปรับแก” ปลายสายถามที่อยู่
“หนูอยู่ที่ เดี๋ยวนะถามเจ้าของบ้านก่อน” สิงหกัลยาหันไปมองหน้าลีเดีย
“คุณคะ ที่นี่อยู่ที่ไหนคะ เดี๋ยวพี่ชายฉันเขาจะมารับ”
“คฤหาสน์ของตระกูลราโดรเปรเรส” เสียงหวานใส นั้นดังแทรกเข้าไปในสายโทรศัพท์
“อ้อ... หนูอยู่ที่คฤหาสน์ ของตระกูลราโดรเปรเรสจ้า เฮียมาถูกหรือเปล่า” สิงหกัลยา บอกรุ่นพี่ของเธอเสียงแจ้ว
คนปลายสายนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนจะตอบว่า
“แกอยู่ที่นั่นก่อนนะยายลิง ฉันต้องไปพัมโพลนา หลังจากเสร็จงานฉันจะกลับมารับแก”
“คุณ เอ่อ... ขอโทษด้วย ผมจำชื่อคุณไม่ได้” นภวินท์หัวเราะกลบเกลื่อน“ผมชื่อฟิลลิป เป็นเลขาของท่านนิโคไลน์ กอนซาเลสครับ” เขาเอ่ยแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการนภวินท์พยักหน้ารับรู้ หากไม่ยอมเอ่ยถึงอาการหลงลืมของตัวเองออกมา “ที่นี่ไหนกันเนี่ย ผมคงเมาจนจำอะไรไม่ได้”“ที่นี่คือซาน เซบาสเตียนครับ เกสเฮ้าส์หลังนี้เป็นของเจ้านายของผม ท่านจัดให้คุณพักในระหว่างเดินทางมาพักผ่อนที่นี่ครับ” เลขาของนิโคไลน์เอ่ยขึ้นนภวินท์ลุกขึ้นยืน ผายมือเชื้อเชิญผู้มาเยือนให้ไปนั่งที่เก้าอี้ริมระเบียง ชายหนุ่มครุ่นคิดถึงวิธีสืบหาความทรงจำที่หายไปของเขา หรือเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้สมองของเขามึนงง จนจำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ว่าเหล้าที่เขาดื่มเข้าไปชื่ออะไร จะได้ไม่ดื่มมันอีก“ที่นี่บรรยากาศดีนะครับ เหมาะสำหรับพักผ่อน แต่ผู้คนเยอะไปหน่อยดูพลุกพล่าน” นภวินท์ชวนคุยฟิลลิปยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นคู่สนทนาเอนหลังอย่างสบายอารมณ์ เขายื่นถุงกระดาษและกล่องที่ถือมาให้ชายหนุ่ม คนรับมองของที่ได้รับด้วยความสงสัย เมื่อเปิดกล่องออกดูก็พบกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ ของที่อยู่ในถุงเป็นเสื้อผ้าชุดใหม่“ เอามาให้ผมทำไมครับ”“ของที่คุณซื้อเมื่อวานยังไงค
“นิโคไลน์ แกอย่าคิดอะไรโง่ๆแบบนั้นนะ ยายผู้หญิงนั่นมันเป็นคนในตระกูลราโดรเปรเรส มันต้องร่วมชดใช้” เขาตอกย้ำเป้าประสงค์หลักให้อีกฝ่ายรับรู้“ผมจะแต่งงานกับเธอ ให้เธอเป็นคนในตระกูลกอนซาเลสของเรา แค่นี้เธอก็ไม่เกี่ยวของกับเฟอร์นันโดแล้ว” คนเป็นหลานหาทางออกให้ทางออกของนิโคไลน์ทำให้คนเป็นลุงรู้สึกขัดใจ คาลอสไม่ต้องการให้สายเลือดของกอนซาเลสไปรวมกับราโดรเปรเรส ไม่ว่าจะโดยตรงหรือทางอ้อม เขาไม่มีวันยอมให้นิโคไลน์เอาลูกสาวของเฟอร์นันโดมายกย่องเป็นเมียออกหน้าออกตา“ถ้าแกไม่ทำตามที่ฉันสั่ง แกก็ส่งเธอมาให้ฉัน แล้วแกก็ไสหัวไปไกลๆฉันเลย ! ” คาลอสเริ่มอารมณ์เสีย เขาตวาดใส่คนปลายสายอย่างหงุดหงิด“ผมไม่ยอมให้ลุงทำอะไรลีเดียหรอกครับ เธอเป็นของผมและผมไม่ยอมส่งเธอให้ลุงเด็ดขาด ถ้าลุงอยากได้ตัวประกัน ผมจะส่งนายนภวินท์ไปให้” นิโคไลน์ไม่ยอมอ่อนข้อให้ผู้เป็นลุง ยามนี้เขาลุกขึ้นมาปกป้องลีเดียอย่างเต็มตัว แสดงให้คาลอสรับรู้ว่าเขาจริงจังกับผู้หญิงคนนี้มากเพียงใด“แกจับตัวนภวินท์ไปด้วยเหรอ ไอ้หลานโง่ แกทำเกินคำสั่งอีกแล้วนะ” คาลอสตะโกนลั่นอย่างหัวเสียสิ่งที่สั่ง นิโคไลน์ไม่ยอมทำ แต่สิ่งที่ไม่ได้สั่งกลับทำเกินหน
คฤหาสน์ตระกูลราโดรเปรเรส คนของตระกูลอรรถไกรสิบคน ที่ส่งมาตามคำขอของนภวินท์ผู้เป็นนายเล็ก ได้เดินทางมาถึงสเปนและมาพบกับเฟอร์นันโด ตามคำสั่งของฆนากรพี่ชายนภวินท์ ขจรเกียรติกับนายวงค์หัวหน้าบอดี้การ์ดร่วมประชุมกับเจ้าของบ้านและลูกชาย ที่เพิ่งกลับมาจากพัมโพลนา “ไอ้คาลอส มันจับตัวลีเดียลูกสาวผมกับคุณนภวินท์ไป ตอนนี้เรากำลังส่งคนตามสืบหาที่อยู่” เฟอร์นันโดเอ่ยขึ้น ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “พวกนั้นคงไม่กล้าทำอะไรคุณหนูกับคุณวินท์ เพราะมิสเตอร์คาลอสกับคุณฆนากร เคยมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาก่อน” ขจรเกียรติให้ความเห็น ก่อนหน้านี้เขาได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฆนากรรับรู้ ผู้เป็นนายได้ติดต่อพูดคุยกับมาเฟียอิตาเลี่ยนผู้นั้นแล้ว คาลอสรับปากจะส่งตัว นภวินท์กลับมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่ยอมเอ่ยถึงการปล่อยตัวลูกสาวบุญธรรมของเฟอร์นันโด ขจรเกียรติเก็บงำเรื่องนี้ไว้ ไม่ยอมเอ่ยให้อีกฝ่ายรับรู้ ด้วยเกรงจะทำให้หมางใจกันเปล่าๆ เมื่อคาลอสกับเฟอร์นันโดเป็นศัตรูกัน จึงไม่ควรแสดงท่าทีสนิทสนมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป“ตอนนี้ ลีเดียอยู่กับพวกมัน เราไม่
ทายาทตระกูลกอนซาเลส หันไปมองด้านหลังของรถ เขามองร่างของช่างภาพหนุ่มชาวไทยอย่างครุ่นคิด เขาจะจัดการเจ้าหมอนี่ยังไงดี นิโคไลน์ไม่ต้องการฆ่าใครโดยไม่จำเป็น ครู่หนึ่งริมฝีปากหยักหนายกขึ้นพร้อมประกายบางอย่างปรากฏขึ้นบนดวงตาเมื่อความคิดหนึ่งเกิดขึ้น“ฟิลลิป ทำให้ไอ้หมอนี่กลายเป็นคนความจำเสื่อมได้ไหม ฉันจำเป็นต้องเก็บมันไว้” ผู้เป็นนายสั่งลูกน้องคู่ใจ“ท่านจะให้ผมใช้ยานั่นกับมันหรือครับ” ฟิลลิปเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ เขามียากล่อมประสาทชนิดหนึ่งที่ทำให้คนได้รับยา กลายเป็นคนความจำเสื่อมชั่วคราวจากการถูกฤทธิ์ยากดประสาท จนไม่สามารถจำอะไรได้ ง่ายต่อการล้างสมองให้ทำอะไรตามคำสั่ง ตัวยานี้ คาลอส มันชินี่ นำมาให้ใช้เพื่อจัดการกับคนที่ขัดขวางการก้าวสู่อำนาจของ นิโคไลน์ ซึ่งเขาได้ใช้มันกับคณะกรรมการของเมืองหลายคน ที่คัดค้านการขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานผู้เพาะพันธุ์วัวกระทิงของผู้เป็นนาย “จัดการให้เรียบร้อย ก่อนที่มันจะตื่นมาอาละวาด ฉันต้องการให้มันลืมเรื่องของลีเดีย มันจะเป็นเพียงแค่ช่างภาพที่ฉันจ้างมาทำงานให้เท่านั้น” นิโคไลน์ก้มลงมอง ใบหน้างามที่นอนอยู่บนตักตัวเอง “ฉันกับลีเดีย อาจจะอยู่ที่นี่อีกหลายวั
อังตวนสีหน้าขึ้งเครียดกว่าเมื่อครู่ เมื่อยื่นบางสิ่งให้ผู้เป็นนายน้อย “เราพบแต่ไอ้นี่ครับ ผมขอโทษที่ดูแลคุณลีเดียไม่ดีพอ” หัวหน้าบอดี้การ์ดก้มหน้ารับผิดราฟาเอลชาไปทั้งตัวใจหายวาบ เขาหันหลังให้บอดี้การ์ดคนสนิทของบิดา สีหน้าของชายหนุ่มเรียบนิ่งหากแววตากลับวาววับราวกับมีเปลวไฟอยู่ในนั้น มือหนากำแหวนสัญญาณในมือแน่น เขารู้ดีว่าฝ่ายตรงข้ามโหดร้ายทารุณแค่ไหน แม้แต่เด็กตัวเล็กๆมันยังกล้าทำร้ายจนเกือบพิการ ภาพในอดีตวาบผ่านเข้ามาในมโนนึก“ไอ้หนู แกโชคร้ายเอง ที่เกิดมาเป็นคนในตระกูลราโดรเปรเรสนั่น”เสียงห้าวทุ้มของผู้ชายร่างใหญ่ดังขึ้น ขณะมองลูกสมุนของตนกำลังทรมานเด็กชายวัยแปดขวบด้วยการใช้เข็มหมุด ปักลงที่ปลายนิ้วน้อยๆนั้น เสียงร้องไห้ดังลั่น ไม่ทำให้คนมองใจอ่อนสักนิด ดวงตาสีอำพันยังคงมองความเจ็บปวดของเด็กน้อยด้วยสีหน้าพอใจ ร่างของเด็กชายพยายามดิ้นหนีแต่ถูกผู้ใหญ่ตัวโตจับไว้แน่น“ถ่ายรูปส่งไปให้พ่อมันดู ฉันอยากให้ไอ้เฟอร์นันโดมันเห็นลูกชายของมันตอนนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” คาลอสหัวเราะสะใจราฟาเอลในวัยเยาว์จดจำใบหน้าของชายใจร้ายฝังใจ ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าชายคนนั้นเป็นใคร เพราะความซุกซนทำให้เขาได้รับบทเรีย
สิงหกัลยาถูกกักไว้ในวงแขนกำยำของมาทาดอร์หนุ่มจนดิ้นไม่หลุด ราฟาเอลยังคงกอดรัดร่างน้อยไม่ยอมปล่อย แม่สิงห์สาวร้อนวูบวาบไปทั้งตัวเมื่อจมูกโด่งงามซุกไซ้ไปทั่วซอกคอหอมกรุ่น โต๊ะที่ทั้งสองนั่งอยู่เป็นมุมอับสายตาคนแถมไฟยังสลัว เสียงเพลงเปิดคลอผสานกับเสียงของผู้คนที่นั่งอยู่ตามโต๊ะต่างๆ ทำให้ไม่มีใครสนใจว่าใครกำลังทำอะไร บอดี้การ์ดของเขายืนหันหลังให้เปิดโอกาสให้นายน้อยของตน ได้วาดลวดลายสีหญิงเต็มที่ ยิปซีสาวหลงถิ่นมองหาทางรอดแทบไม่เจอ เมื่อถูกเขารังแกแบบไร้ทางสู้ราฟาเอลเพลินกับเนื้อตัวนุ่มนิ่มของสาวน้อยในอ้อมกอด ทำให้หัวใจของเขาโรจน์แรง จากที่คิดจะแกล้งเธอให้ตกใจเล่น แต่เมื่อได้สัมผัสเนื้อนวล มาทาดอร์หนุ่มกลับห้ามใจตัวเองไว้ไม่อยู่ ลืมเรื่องที่น้องสาวออกไปกับช่างภาพหนุ่มไป เขากดริมฝีปากจุมพิตแก้มนวลแรงๆอีกครั้ง อย่างอดใจไม่ไหว กระซิบเสียงพร่าว่า“ลีโอโนร่า... ฉันชอบเธอ”“แต่ฉันเกลียดนาย ไอ้มาทาดอร์หื่น”สิงหกัลยาดันหน้าที่ก้มลงมาแนบชิดออกห่าง ไม่ได้เคลิ้มไปกับคำพูดของเขาเลย เขาเคยบอกว่าจะทำให้เธอรัก แต่สิ่งที่เขากำลังทำเธอกลับเพิ่มความเกลียดมากกว่าจะรู้สึกรักเขาลง ผู้ชายอย่างเขามองผู้หญิงเป