LOGIN“หนูไปเห็นคนเขาฆ่ากันที่ตรอกใกล้ๆสนามวัวน่ะเฮียวินท์ ไอ้ฆาตกรมันเห็นหน้าหนูด้วย มันเลยจะฆ่าหนูปิดปาก หนูเลยวิ่งหนีมันจนมาเจอเฮียนี่แหละ”
เสียงเล่าสั่นพร่า ด้วยความหวาดหวั่นไม่หาย ภาพคนตายยังติดตาจนคนเห็นขนลุกขนชัน
สิ่งที่แม่สาวยิปซีลูกครี่งเล่า ทำให้คนฟังตกใจ
“แกไปทำอะไรที่นั่น ฉันตามหาแกตั้งนาน ดีนะที่ไม่กลับมาก่อน” เขาอดตำหนิไม่ได้
คนโดนดุหดคอ ยิ้มแหยๆ “ก็หนูอยากเห็นมาทาดอร์ตัวเป็นๆชัดๆนี่เฮีย หนูเลยไปดูเขาก่อน ไม่นึกว่า...”
หญิงสาวพูดไม่ออกร้อนผ่าวไปทั้งแก้ม เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดกับตัวเอง
“ไม่นึกว่าอะไร” นภวินท์ถาม มองหน้าแดงของรุ่นน้องอย่างสงสัย
“ไม่นึกว่า... จะเจอคนเขาฆ่ากันด้วยนี่” สิงหกัลยาอ้อมแอ้มตอบไม่เต็มเสียง หลบสายตาคมๆ ที่จ้องมาอย่างมีพิรุธ
‘เฮียวินท์ อย่ามองหนูแบบนั้นสิ หนูบอกเฮียไม่ได้จริงๆ’
“มันคงไม่ตามมาฆ่าแกตายถึงที่นี่หรอก อย่ากลัวไปเลย”
เขาลูบศีรษะอีกฝ่ายเบาๆ นึกสงสารเจ้าตัวแสบที่ซ่าไม่ออก “ เดี๋ยวฉันจะโทรไปคุยกับเฮียเป๋งก่อน”
นภวินท์ลุกขึ้นไปโทรศัพท์อยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะกลับมานั่งที่เดิม “เพื่อความปลอดภัยของแก พรุ่งนี้เราต้องเดินทางไปที่พัมโพลนากัน” เขาสรุปหลังจากปรึกษากับเฮียเป๋งน้าชายของสิงหกัลยาแล้ว
ช่างภาพหนุ่มหวังว่าคนร้ายคงไม่ตามพวกเขาไปถึงเมืองพัมโพลนาที่จัดเทศกาลวิ่งวัวหรอกนะ งานจะเริ่มในอีกห้าวันข้างหน้าจำเป็นต้องให้สิงหกัลยาอยู่ต่อไปจนเสร็จงาน เขายังต้องให้เธอสัมภาษณ์คนที่นัดไว้อีกหลายคน การจะหาคนมาทำหน้าที่แทนในเวลากระชั้นชิดแบบนี้ยากเหลือเกิน แม้จะเสี่ยงต่อความปลอดภัยของหญิงสาวอยู่บ้าง แต่คงไม่เกิดอะไรขึ้นกับเธอง่ายๆแน่ พวกเขาเป็นคนต่างชาติ คนร้ายคงหาตัวลำบากหรือไม่ก็คงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ก่อนจะมาทำร้ายพยาน
“เฮียวินท์ คืนนี้ให้หนูนอนด้วยคนนะ” สิงหกัลยามองหน้ารุ่นพี่ด้วยแววตาขอร้อง
อีกฝ่ายส่ายหน้า แทบจะทันทีที่ได้ยินคำขอร้องนั้น
“ไม่ได้ แกเป็นผู้หญิง จะมานอนห้องเดียวกับผู้ชายได้ยังไง”
“เฮียก็อย่าไปบอกใครสิ น่านะ... คืนนี้แค่คืนเดียวเอง”
“ไม่ได้ แกไม่รู้จักผู้ชายอย่างฉันเสียแล้วยายลิง ฉายาคาสโนว่าฆ่าไม่ตาย ไม่ใช่ได้มาเพราะจับฉลากนะเว้ย...”
นภวินท์แกล้งขู่ เขาไม่อยากให้ตัวเองต้องกลายเป็นเหยื่อของเฮียเป๋ง เมื่อรู้ว่ารุ่นพี่คิดจับหลานสาวใส่เข่งยกให้เขามาตั้งนานแล้ว ขืนยายลิงปากโป้งไปเล่าให้น้าตัวเองฟังเมื่อไหร่ ไม่แคล้วเขาต้องโดนเฮียเป๋งใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้าง จับเขาเป็นหลานเขยแน่ๆ อย่าเสี่ยงดีกว่า
“หนูกลัวนี่เฮียวินท์ เกิดไอ้ฆาตกรมันตามมาฆ่าปิดปากหนู จะมีใครช่วยหนูทันเหรอ”
สิงหกัลยาพยายามหาข้ออ้าง ที่คิดว่าคนฟังน่าจะใจอ่อน แต่ท่าทางมันจะไม่ได้ผลเมื่อรุ่นพี่สุดหล่อส่ายหน้าไปมา หญิงสาวถอนหายใจเฮือกๆ ถึงนภวินท์จะเจ้าชู้หลีหญิงไปทั่ว สิ่งหนึ่งที่ชายหนุ่มไม่เคยทำคือการเป็นสมภาร ไม่ว่าลูกน้องหรือเพื่อนสนิท เขาไม่เคยทำตัวรุ่มร่าม นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่เธอวางใจจนขอให้เขานอนเป็นเพื่อน
“บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้สิ พูดไม่รู้เรื่องหรือไง แกน่าจะกลัวฉันมากกว่ากลัวคนร้ายอีกนะ” เขาแกล้งมองหน้าหญิงสาว ทำหน้าหื่นเข้าใส่
“เฮียวินท์ ไม่ต้องมาทำหน้าทำตาแบบนั้นเลยนะ หนูไม่กลัวหรอก” สิงหกัลยาแยกเขี้ยวเข้าใส่
“เฮียไม่ทำอะไรบ้าๆแบบนั้นกับหนูหรอกหนูรู้ เฮียรักแฟนเฮียจะตาย ผู้หญิงอย่างหนูกระตุกต่อมหื่นเฮียไม่ขึ้นหรอกน่า”
ทำไมสิงหกัลยาจะไม่รู้ว่ารุ่นพี่แกล้งขู่เธอ ผู้หญิงคนที่นภวินท์รักมาตลอดสองปีนั้นเป็นใครเธอก็รู้ คาสโนว่าอย่างเขาเหลือเพียงแค่ตำนานเท่านั้น เมื่อเขาเลิกสนใจหลีสาววันๆเอาแต่ทำงาน ไม่มีสายตาไว้มองผู้หญิงคนไหนนอกจากคนที่เขารัก
“ไม่ต้องกลัวน่ายายลิง นอนที่นี่อีกแค่คืนเดียวพรุ่งนี้เช้าเราจะไปแล้ว ถ้าแกนอนไม่หลับแกก็เล่นเน็ต แชทเฟสบุ้คไปสิ อัพสถานะทุกห้านาทีก็ได้ เฮียเป๋งจะได้รู้ว่าหลานสาวสุดที่รักยังมีชีวิตอยู่” เขาหาทางออกให้เธอ
การอ้อนวอนไม่ได้ผล สิงหกัลยาจำต้องรับสภาพ เมื่อรุ่นพี่หนุ่มได้ออกไปจากห้องแล้ว หญิงสาวไม่ลืมล็อคประตูหน้าต่างอย่างแน่นหนา จัดการอาบน้ำอย่างรีบเร่ง สวมกางเกงยีนส์เสื้อยืดเป็นชุดนอนแทนชุดกระโปรงแบบที่ชอบใส่ เพื่อไม่เป็นการประมาทหากเจ้าฆาตกรบุกเข้ามาทำร้ายเธอจริง
ชุดนี้น่าจะสะดวกกับการวิ่งหนีกว่าสวมกระโปรงแน่ พรุ่งนี้เธอจะเลิกใส่กระโปรงหนึ่งวัน เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง กว่าสิงหกัลยาจะข่มตาหลับได้ก็เป็นเวลาค่อนรุ่งแล้ว ยังไม่ทันหลับเต็มอิ่ม ประตูห้องก็ถูกเคาะโครมๆ
“ยายลิง ตื่นได้แล้ว !”
เสียงคุ้นหูของนภวินท์ปลุกให้คนที่นอนหลับอยู่สะดุ้งตื่น สิงหกัลยารีบลุกขึ้นไปเปิดประตูให้
“เร็ว รีบอาบน้ำแต่งตัว เราจะเช็คเอ้าท์ออกแล้ว” นภวินท์หิ้วกระเป๋าเดินทางของตัวเองเข้ามาในห้อง
“กระเป๋าหนูจัดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”
เจ้าตัวชี้มือไปยังมุมห้อง ให้รุ่นพี่ดูกระเป๋าสัมภาระ
“หนูขอล้างหน้าแปรงฟันแป็บนะเฮีย น้ำไว้ค่อยอาบตอนไปถึงที่นู่นก็ได้ ไม่ทันเหม็นหรอก”
พูดจบร่างสูงเพรียวราวกับนางแบบก็รีบเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ ก่อนจะกลับมาด้วยใบหน้าที่สดใสพร้อมเดินทาง นภวินท์จัดการเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็พารุ่นน้องขนกระเป๋าไปรอแท็คซี่ เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทำให้เขารีบกดรับ ก่อนจะทำหน้าเครียด
“ลุงจร ส่งคนของเราตามผมมาที่นี่เลยนะ ขอคนที่ฝีมือดีหน่อย ผมอาจจะอยู่ที่นี่สักเดือนเป็นอย่างน้อย” เขาวางสายเมื่อสั่งการจบ
“เฮียจะอยู่ที่สเปนเป็นเดือนเลยเหรอ” คนที่ได้ยินถามอย่างสงสัย
นภวินท์พยักหน้ารับ “อือ... ฉันจะส่งแกกลับบ้านหลังงานเสร็จ แล้วจะอยู่ทำธุระที่นี่อีกสักเดือน”
“ทำธุระอะไรเหรอ ให้หนูอยู่ช่วยไหม” สิงหกัลยาอาสาช่วย โดยลืมว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย
“ธุระหัวใจน่ะ แกอย่ารู้เลย” นภวินท์ขยี้ผมของคนชอบซัก อย่างเอ็นดู
“เช้านี้ยังไม่ได้กินกาแฟเลย แกรอรถอยู่ที่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปซื้อกาแฟก่อน”
นภวินท์มองไปรอบๆ เห็นผู้คนพลุกพล่านหนาตา บริเวณริมฟุตบาทหน้าโรงแรมแบบนี้ ไม่น่าที่คนร้ายจะกล้าทำอะไรสิงหกัลยาได้ เขาจึงปล่อยให้เธอนั่งเฝ้ากระเป๋ารอ โดยไม่รู้ว่า เมื่อเขาเดินลับหายไป ร่างผอมสูงของชายคนหนึ่งที่สวมแว่นดำปกปิดใบหน้าก็เดินเข้ามาหาหญิงสาว
สิงหกัลยาจดจำใบหน้าของคนร้ายได้ติดตา เธอถึงกับตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นร่างของชายคนนั้นกำลังเดินเข้ามาใกล้ หญิงสาวมองหารุ่นพี่หนุ่มแต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของอีกฝ่าย จึงตัดสินใจวิ่งหนีข้ามถนนไปอีกฟาก
ปรื้น !!!
เอี๊ยด !!!
เสียงแตรรถและเสียงเบรกดังลั่นถนน เมื่อรถคันหนึ่งวิ่งผ่านมาพอดี ร่างบางชะงักกึกเมื่อได้ยินเสียง ดวงตาเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นรถคันนั้นแล่นเข้ามาใกล้ มือบางยกขึ้นกันหน้าตัวเองตามสัญชาติญาณ
กรี๊ด !!!
นภวินท์ได้ยินเสียงกรีดร้องนั้น เขารีบวิ่งออกจากร้านขายกาแฟโดยไม่สนใจกาแฟที่สั่งไว้ เมื่อมาถึงตรงที่เขาทิ้งสิงหกัลยาไว้กลับไม่พบหญิงสาว เขามองหาเธอไปรอบๆ ผู้คนกลุ่มหนึ่งกำลังมุงดูอะไรสักอย่างที่ริมฟุตบาท ชายหนุ่มใจหายวาบนึกภาวนาขออย่าให้เกิดอะไรขึ้นกับยายตัวยุ่งเลย เขาแหวกฝูงชนเข้าไปเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น พบเพียงรองเท้าสีแดงข้างหนึ่งหล่นอยู่
“คุณ เอ่อ... ขอโทษด้วย ผมจำชื่อคุณไม่ได้” นภวินท์หัวเราะกลบเกลื่อน“ผมชื่อฟิลลิป เป็นเลขาของท่านนิโคไลน์ กอนซาเลสครับ” เขาเอ่ยแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการนภวินท์พยักหน้ารับรู้ หากไม่ยอมเอ่ยถึงอาการหลงลืมของตัวเองออกมา “ที่นี่ไหนกันเนี่ย ผมคงเมาจนจำอะไรไม่ได้”“ที่นี่คือซาน เซบาสเตียนครับ เกสเฮ้าส์หลังนี้เป็นของเจ้านายของผม ท่านจัดให้คุณพักในระหว่างเดินทางมาพักผ่อนที่นี่ครับ” เลขาของนิโคไลน์เอ่ยขึ้นนภวินท์ลุกขึ้นยืน ผายมือเชื้อเชิญผู้มาเยือนให้ไปนั่งที่เก้าอี้ริมระเบียง ชายหนุ่มครุ่นคิดถึงวิธีสืบหาความทรงจำที่หายไปของเขา หรือเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้สมองของเขามึนงง จนจำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ว่าเหล้าที่เขาดื่มเข้าไปชื่ออะไร จะได้ไม่ดื่มมันอีก“ที่นี่บรรยากาศดีนะครับ เหมาะสำหรับพักผ่อน แต่ผู้คนเยอะไปหน่อยดูพลุกพล่าน” นภวินท์ชวนคุยฟิลลิปยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นคู่สนทนาเอนหลังอย่างสบายอารมณ์ เขายื่นถุงกระดาษและกล่องที่ถือมาให้ชายหนุ่ม คนรับมองของที่ได้รับด้วยความสงสัย เมื่อเปิดกล่องออกดูก็พบกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ ของที่อยู่ในถุงเป็นเสื้อผ้าชุดใหม่“ เอามาให้ผมทำไมครับ”“ของที่คุณซื้อเมื่อวานยังไงค
“นิโคไลน์ แกอย่าคิดอะไรโง่ๆแบบนั้นนะ ยายผู้หญิงนั่นมันเป็นคนในตระกูลราโดรเปรเรส มันต้องร่วมชดใช้” เขาตอกย้ำเป้าประสงค์หลักให้อีกฝ่ายรับรู้“ผมจะแต่งงานกับเธอ ให้เธอเป็นคนในตระกูลกอนซาเลสของเรา แค่นี้เธอก็ไม่เกี่ยวของกับเฟอร์นันโดแล้ว” คนเป็นหลานหาทางออกให้ทางออกของนิโคไลน์ทำให้คนเป็นลุงรู้สึกขัดใจ คาลอสไม่ต้องการให้สายเลือดของกอนซาเลสไปรวมกับราโดรเปรเรส ไม่ว่าจะโดยตรงหรือทางอ้อม เขาไม่มีวันยอมให้นิโคไลน์เอาลูกสาวของเฟอร์นันโดมายกย่องเป็นเมียออกหน้าออกตา“ถ้าแกไม่ทำตามที่ฉันสั่ง แกก็ส่งเธอมาให้ฉัน แล้วแกก็ไสหัวไปไกลๆฉันเลย ! ” คาลอสเริ่มอารมณ์เสีย เขาตวาดใส่คนปลายสายอย่างหงุดหงิด“ผมไม่ยอมให้ลุงทำอะไรลีเดียหรอกครับ เธอเป็นของผมและผมไม่ยอมส่งเธอให้ลุงเด็ดขาด ถ้าลุงอยากได้ตัวประกัน ผมจะส่งนายนภวินท์ไปให้” นิโคไลน์ไม่ยอมอ่อนข้อให้ผู้เป็นลุง ยามนี้เขาลุกขึ้นมาปกป้องลีเดียอย่างเต็มตัว แสดงให้คาลอสรับรู้ว่าเขาจริงจังกับผู้หญิงคนนี้มากเพียงใด“แกจับตัวนภวินท์ไปด้วยเหรอ ไอ้หลานโง่ แกทำเกินคำสั่งอีกแล้วนะ” คาลอสตะโกนลั่นอย่างหัวเสียสิ่งที่สั่ง นิโคไลน์ไม่ยอมทำ แต่สิ่งที่ไม่ได้สั่งกลับทำเกินหน
คฤหาสน์ตระกูลราโดรเปรเรส คนของตระกูลอรรถไกรสิบคน ที่ส่งมาตามคำขอของนภวินท์ผู้เป็นนายเล็ก ได้เดินทางมาถึงสเปนและมาพบกับเฟอร์นันโด ตามคำสั่งของฆนากรพี่ชายนภวินท์ ขจรเกียรติกับนายวงค์หัวหน้าบอดี้การ์ดร่วมประชุมกับเจ้าของบ้านและลูกชาย ที่เพิ่งกลับมาจากพัมโพลนา “ไอ้คาลอส มันจับตัวลีเดียลูกสาวผมกับคุณนภวินท์ไป ตอนนี้เรากำลังส่งคนตามสืบหาที่อยู่” เฟอร์นันโดเอ่ยขึ้น ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “พวกนั้นคงไม่กล้าทำอะไรคุณหนูกับคุณวินท์ เพราะมิสเตอร์คาลอสกับคุณฆนากร เคยมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาก่อน” ขจรเกียรติให้ความเห็น ก่อนหน้านี้เขาได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฆนากรรับรู้ ผู้เป็นนายได้ติดต่อพูดคุยกับมาเฟียอิตาเลี่ยนผู้นั้นแล้ว คาลอสรับปากจะส่งตัว นภวินท์กลับมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่ยอมเอ่ยถึงการปล่อยตัวลูกสาวบุญธรรมของเฟอร์นันโด ขจรเกียรติเก็บงำเรื่องนี้ไว้ ไม่ยอมเอ่ยให้อีกฝ่ายรับรู้ ด้วยเกรงจะทำให้หมางใจกันเปล่าๆ เมื่อคาลอสกับเฟอร์นันโดเป็นศัตรูกัน จึงไม่ควรแสดงท่าทีสนิทสนมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป“ตอนนี้ ลีเดียอยู่กับพวกมัน เราไม่
ทายาทตระกูลกอนซาเลส หันไปมองด้านหลังของรถ เขามองร่างของช่างภาพหนุ่มชาวไทยอย่างครุ่นคิด เขาจะจัดการเจ้าหมอนี่ยังไงดี นิโคไลน์ไม่ต้องการฆ่าใครโดยไม่จำเป็น ครู่หนึ่งริมฝีปากหยักหนายกขึ้นพร้อมประกายบางอย่างปรากฏขึ้นบนดวงตาเมื่อความคิดหนึ่งเกิดขึ้น“ฟิลลิป ทำให้ไอ้หมอนี่กลายเป็นคนความจำเสื่อมได้ไหม ฉันจำเป็นต้องเก็บมันไว้” ผู้เป็นนายสั่งลูกน้องคู่ใจ“ท่านจะให้ผมใช้ยานั่นกับมันหรือครับ” ฟิลลิปเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ เขามียากล่อมประสาทชนิดหนึ่งที่ทำให้คนได้รับยา กลายเป็นคนความจำเสื่อมชั่วคราวจากการถูกฤทธิ์ยากดประสาท จนไม่สามารถจำอะไรได้ ง่ายต่อการล้างสมองให้ทำอะไรตามคำสั่ง ตัวยานี้ คาลอส มันชินี่ นำมาให้ใช้เพื่อจัดการกับคนที่ขัดขวางการก้าวสู่อำนาจของ นิโคไลน์ ซึ่งเขาได้ใช้มันกับคณะกรรมการของเมืองหลายคน ที่คัดค้านการขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานผู้เพาะพันธุ์วัวกระทิงของผู้เป็นนาย “จัดการให้เรียบร้อย ก่อนที่มันจะตื่นมาอาละวาด ฉันต้องการให้มันลืมเรื่องของลีเดีย มันจะเป็นเพียงแค่ช่างภาพที่ฉันจ้างมาทำงานให้เท่านั้น” นิโคไลน์ก้มลงมอง ใบหน้างามที่นอนอยู่บนตักตัวเอง “ฉันกับลีเดีย อาจจะอยู่ที่นี่อีกหลายวั
อังตวนสีหน้าขึ้งเครียดกว่าเมื่อครู่ เมื่อยื่นบางสิ่งให้ผู้เป็นนายน้อย “เราพบแต่ไอ้นี่ครับ ผมขอโทษที่ดูแลคุณลีเดียไม่ดีพอ” หัวหน้าบอดี้การ์ดก้มหน้ารับผิดราฟาเอลชาไปทั้งตัวใจหายวาบ เขาหันหลังให้บอดี้การ์ดคนสนิทของบิดา สีหน้าของชายหนุ่มเรียบนิ่งหากแววตากลับวาววับราวกับมีเปลวไฟอยู่ในนั้น มือหนากำแหวนสัญญาณในมือแน่น เขารู้ดีว่าฝ่ายตรงข้ามโหดร้ายทารุณแค่ไหน แม้แต่เด็กตัวเล็กๆมันยังกล้าทำร้ายจนเกือบพิการ ภาพในอดีตวาบผ่านเข้ามาในมโนนึก“ไอ้หนู แกโชคร้ายเอง ที่เกิดมาเป็นคนในตระกูลราโดรเปรเรสนั่น”เสียงห้าวทุ้มของผู้ชายร่างใหญ่ดังขึ้น ขณะมองลูกสมุนของตนกำลังทรมานเด็กชายวัยแปดขวบด้วยการใช้เข็มหมุด ปักลงที่ปลายนิ้วน้อยๆนั้น เสียงร้องไห้ดังลั่น ไม่ทำให้คนมองใจอ่อนสักนิด ดวงตาสีอำพันยังคงมองความเจ็บปวดของเด็กน้อยด้วยสีหน้าพอใจ ร่างของเด็กชายพยายามดิ้นหนีแต่ถูกผู้ใหญ่ตัวโตจับไว้แน่น“ถ่ายรูปส่งไปให้พ่อมันดู ฉันอยากให้ไอ้เฟอร์นันโดมันเห็นลูกชายของมันตอนนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” คาลอสหัวเราะสะใจราฟาเอลในวัยเยาว์จดจำใบหน้าของชายใจร้ายฝังใจ ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าชายคนนั้นเป็นใคร เพราะความซุกซนทำให้เขาได้รับบทเรีย
สิงหกัลยาถูกกักไว้ในวงแขนกำยำของมาทาดอร์หนุ่มจนดิ้นไม่หลุด ราฟาเอลยังคงกอดรัดร่างน้อยไม่ยอมปล่อย แม่สิงห์สาวร้อนวูบวาบไปทั้งตัวเมื่อจมูกโด่งงามซุกไซ้ไปทั่วซอกคอหอมกรุ่น โต๊ะที่ทั้งสองนั่งอยู่เป็นมุมอับสายตาคนแถมไฟยังสลัว เสียงเพลงเปิดคลอผสานกับเสียงของผู้คนที่นั่งอยู่ตามโต๊ะต่างๆ ทำให้ไม่มีใครสนใจว่าใครกำลังทำอะไร บอดี้การ์ดของเขายืนหันหลังให้เปิดโอกาสให้นายน้อยของตน ได้วาดลวดลายสีหญิงเต็มที่ ยิปซีสาวหลงถิ่นมองหาทางรอดแทบไม่เจอ เมื่อถูกเขารังแกแบบไร้ทางสู้ราฟาเอลเพลินกับเนื้อตัวนุ่มนิ่มของสาวน้อยในอ้อมกอด ทำให้หัวใจของเขาโรจน์แรง จากที่คิดจะแกล้งเธอให้ตกใจเล่น แต่เมื่อได้สัมผัสเนื้อนวล มาทาดอร์หนุ่มกลับห้ามใจตัวเองไว้ไม่อยู่ ลืมเรื่องที่น้องสาวออกไปกับช่างภาพหนุ่มไป เขากดริมฝีปากจุมพิตแก้มนวลแรงๆอีกครั้ง อย่างอดใจไม่ไหว กระซิบเสียงพร่าว่า“ลีโอโนร่า... ฉันชอบเธอ”“แต่ฉันเกลียดนาย ไอ้มาทาดอร์หื่น”สิงหกัลยาดันหน้าที่ก้มลงมาแนบชิดออกห่าง ไม่ได้เคลิ้มไปกับคำพูดของเขาเลย เขาเคยบอกว่าจะทำให้เธอรัก แต่สิ่งที่เขากำลังทำเธอกลับเพิ่มความเกลียดมากกว่าจะรู้สึกรักเขาลง ผู้ชายอย่างเขามองผู้หญิงเป







