หน้าหลัก / โรแมนติก / ดอกไม้ป่าของรามัญ / ตอนที่ 5 ไม่รู้อีกนานแค่ไหน

แชร์

ตอนที่ 5 ไม่รู้อีกนานแค่ไหน

ผู้เขียน: จินต์พิชา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-17 20:58:51

 

“พลอยเอาไงดีล่ะ ริณจะควรจะไลน์ไปบอกอารามดีไหมว่าตอนนี้กลับมาถึงโรงเรียนแล้ว” ริณเรณูกลัวว่ามันดึกเกินไปและจะเป็นการรบกวนคนที่เพิ่งเคยเจอกัน

“ก็ไลน์ไปสิเขาบอกเองไม่ใช่เหรอว่าถ้ามาถึงแล้วก็ให้ริณไลน์ไปบอก”

“แต่ตอนนี้มันดึกมากแล้วนะ”

“เอาน่าไลน์ไปเถอะถ้าเขาหลับแล้วเขาก็คงไม่อ่านหรอก บอกเขาไปว่าเรามาถึงแล้วและกำลังจะกลับบ้าน” สุนิสาบอกเพื่อนขณะที่กำลังช่วยอ่านเอากระเป๋าเดินทางใส่นั่งหลังรถของบิดาซึ่งมารับกลับบ้าน

เมื่อขึ้นไปนั่งบนรถแล้วริณเรณูก็ไลน์ไปบอกรามัญแต่ไม่รู้หรอกกว่าเขาจะอ่านไหม

“ตอนนี้หนูถึงโรงเรียนแล้วนะคะกำลังจะกลับบ้านค่ะ” เมื่อไลน์แล้วยังไม่ทันได้เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าชายหนุ่มก็เลยตอบกลับ

“แล้วกลับบ้านยังไงดึกขนาดนี้มีรถเหรอ”

“พ่อของพลอยมารับค่ะ คืนนี้หนูจะไปค้างที่บ้านพลอยค่ะ”

“ถ้างั้นก็รีบกลับไปพักเถอะ”

“ค่ะอาราม”

หญิงสาวเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าก่อนจะหันมากระซิบกับสุนิสาที่นั่งอยู่เบาะหลังคู่กับตนเอง

“พลอยว่าอารามเขาใจดีไหม”

“ใจดีสิ ใจดีมากๆ และยังหล่อมากๆ ด้วยนะ”

“แล้วพลอยคิดว่าเขาจะช่วยริณได้จริงหรือเปล่า เรื่องที่อยากจะให้พ่อมาเยี่ยมแม่น่ะ”

“พลอยก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เขารับปากแล้วนะ”

“ริณกลัวว่าพอเขาบอกพ่อไปแล้วพ่อจะไม่มา”

“ก็น่าคิดนะ ริณกับพ่อไม่เคยติดต่อกันมาก่อน”

“ริณไม่รู้ว่าพ่อเป็นคนนิสัยยังไง เท่าที่ได้คุยกับแม่ แม่ก็บอกว่าเขาเป็นคนจิตใจดีและรักแม่มากๆ แต่มันก็แปลกนะเขาบอกว่ารักแม่มากแต่กลับไปมีครอบครัวใหม่”

“ริณคิดว่าเขาจะมาเยี่ยมแม่ไหม”

“ริณก็ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่ภาวนาขอให้เขาเห็นแก่เรื่องในอดีตบ้าง ส่วนเขาจะรับริณเป็นลูกหรือเปล่าริณไม่ได้เดือดร้อนอะไรเรื่องนั้นเลย แต่เราเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับก่อนนะพลอยห้ามบอกใครเด็ดขาด”

“ถ้าเขาไม่มาเยี่ยมริณจะเสียใจไหม”

“ทั้งเสียใจทั้งเสียความรู้สึกเลยนะ ถ้าพ่อยังมีเมตตาอยู่บ้างเขาก็คงมาเยี่ยมแม่ในวาระสุดท้าย แต่เรื่องนี้ริณยังไม่ได้บอกแม่หรอกกลัวว่าแม่จะรอเก้อ ถ้าเขาไม่มาเยี่ยมแม่จะเป็นทุกข์ไปมากกว่านี้ แค่โรคที่เป็นอยู่แม่ก็ทรมานมาแล้ว”

ทั้งสองคนกระซิบกันอยู่ที่เบาะหลังจนกระทั่งถึงบ้านของสุนิสาก็พากันอาบน้ำและเข้านอน

แม้ว่าเมื่อคืนจะกลับมาถึงบ้านดึกมากแต่เช้านี้ริณเรณูก็รีบอาบน้ำแต่งตัวและให้บิดาของสุนิสาไปส่งเธอที่บ้านจากนั้นเธอก็ขี่จักรยานยนต์ไปหามารดาที่โรงพยาบาลซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณห้ากิโลเมตร เด็กสาวสูดลมหายใจเต็มปอดยิ้มอย่างสดใสก่อนจะเข้าไปหามารดาที่นอนอ่อนแรงอยู่บนเตียง

“สวัสดีค่ะแม่หนุคิดถึงแม่จัง”

“แม่ก็คิดถึงหนูจ๊ะ เป็นยังไงบ้างได้ไปเที่ยวมาสนุกไหมลูก”

“สนุกค่ะแม่”

“เห็นไหมแม่บอกแล้วว่าการได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ น่ะมันสนุกมากๆ และประสบการณ์แบบนี้มันก็หาไม่ได้จากที่อื่นเลย แล้วเมื่อคืนหนูมาถึงกี่โมงจ๊ะ”

“ถึงโรงเรียนตีสองค่ะแม่ กว่าจะอาบน้ำเข้านอนก็เกือบจะตีสาม”

“ได้นอนไปนิดเดียวแล้วยังจะมาหาแม่แต่เช้าอีก ทำไมไม่นอนพักก่อนแล้วค่อยมาเยี่ยมแม่ตอนเย็น”

“ก็หนูคิดถึงแม่นี่คะ เป็นห่วงแม่ด้วย สองวันนี้อาการของแม่เป็นยังไงบ้าง”

“อาการก็ทรงๆ จ้ะแต่แม่กินข้าวได้เยอะขึ้นนะ”

“ดีแล้วล่ะค่ะ แม่อยากกินขนมอะไรเพิ่มไหมเดี๋ยวหนูจะไปซื้อให้ หนูไปเที่ยวครั้งนี้ไม่ได้ซื้อขนมอะไรมาฝากแม่เลยค่ะ รถจอดไม่กี่ทีเองหนูขี้เกียจไปแย่งคนอื่นซื้อ”

“แม่ไม่ต้องการน่ะของฝากอะไรจากหนูหรอกจะลูกแค่เห็นหนูมีความสุขแม่ก็ดีใจแล้ว”

“แม่คะเดี๋ยวกินข้าวกลางวันแล้วหนูขอตัวกลับไปที่บ้านนะคะ หนูยังไม่ได้จัดการกับเสื้อผ้าที่ใส่ไปเที่ยวมาเลยค่ะ”

“ได้สิ เย็นนี้หนูไม่ต้องมาเยี่ยมแม่ก็ได้นะ”

“ทำไมล่ะคะ”

“ก็แม่อยากให้หนูนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่พรุ่งนี้วันอาทิตย์มาหาแม่ช่วงสายๆ ก็ได้”

“ทำไมแม่ถึงไม่อยากให้หนูมาเยี่ยมล่ะคะ”

“ก็แม่เป็นห่วงหนูน่ะลูก ถ้าหนูกลับไปบ้านแล้วเย็นนี้ยังจะต้องมาเยี่ยมอีกก็ไม่ต้องได้พักผ่อนกันพอดี แม่อยู่ที่นี่มีพยาบาลคอยดูแลอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงหนูไม่ต้องเป็นห่วงแม่หรอกนะ”

“แม่จะบอกให้หนูไม่เป็นห่วงแม่ได้ยังไงหนูมีแม่คนเดียวนะคะ”

“แม่รู้แต่แม่ก็อยากให้หนูได้พักผ่อน ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นบ้าง ตั้งแต่แม่ป่วยหนูก็ไม่เคยไปเที่ยวกับเพื่อนเลย แม่อยากให้หนูใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อย่าเอาชีวิตมาผูกติดกับแม่เพราะแม่เองก็ไม่รู้ว่าจะอยู่กับหนูได้อีกนานแค่ไหน แม่อยากให้หนูแข็งแกร่งและอยู่ได้ด้วยตัวเองไม่ต้องพึ่งพาใคร”

“ค่ะแม่ หนูจะแข็งแกร่งและดูแลตัวเองอย่างดี”

“ริณจ๊ะจำไว้อย่างหนึ่งนะลูก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแม่อยากให้หนูเรียนให้สูงที่สุดเท่าที่หนูจะสามารถเรียนไหว เพราะความรู้จะทำให้หนูใช้ชีวิตได้โดยไม่ถูกใครเอาเปรียบ หนูจะได้มีอาชีพมีงานที่ดีทำ”

“แม่อย่าพูดแบบนี้สิคะ” ริณเรณูไม่ชอบเลยที่มารดาพูดแบบนี้เพราะมันเหมือนเป็นการสั่งเสีย ถึงแม้จะรู้ว่ามารดาอยู่ได้อีกไม่นานแต่เด็กสาวก็ไม่อยากพูดเรื่องเศร้าแบบนี้เลย

“แม่ต้องพูดเพราะแม่รู้ตัวเองดีคุณหมอก็บอกแล้วว่าไม่อาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน ตอนนี้แม่ก็แค่นับวันรอว่าเมื่อไหร่จะถึงวันนั้น”

“แม่ขาหนูรักแม่นะคะ หนูไม่อยากให้วันนั้นมาถึงเลย”

“แต่หนูก็รู้ว่ามันเลี่ยงไม่ได้ ริณจ๊ะถ้าแม่ไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้วหนูลองบอกแม่มาซิว่าหนูวางแผนจะทำยังไงกับชีวิตของตนเองต่อ”

“แม่คะเราไม่พูดเรื่องนี้กันได้ไหม”

“ไม่ได้หรอกลูก หนูไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเหลืออยู่ที่นี่เลยหนูต้องวางแผนอนาคตของตัวเอง แม่ขอโทษที่ไม่สามารถอยู่เห็นความสำเร็จของหนูได้” เรณูพูดแล้วร้องไห้ด้วยเสียงสั่นเครือ เธอรู้สึกเหนื่อยมากๆ แต่เมื่อเห็นลูกสาวมาเยี่ยมก็พยายามยิ้มแย้มแจ่มใสและทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุด ทั้งที่ตัวเองรู้สึกเหมือนกำลังจะหมดลมหายใจในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

“แม่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ หนูวางแผนเอาไว้แล้วล่ะค่ะว่าถ้าเรียนจบ ม.6 จากนั้นหนูจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยและเป็นครูให้ได้อย่างที่หนูเคยพูดกับแม่ไว้ค่ะ”

“แม่ขอให้หนูได้ทำอย่างตั้งใจนะลูก แม่จะรอดูความสำเร็จของหนู”

“ขอบคุณค่ะแม่”

“หนูเห็นกล่องเล็กๆ ที่แม่ซ่อนไว้ที่หัวเตียงไหม”

“กล่องไม้ที่มีกุญแจล็อกใช่ไหมคะ”

“ใช่จ้ะลูก กุญแจอยู่ด้านในสุดของลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งนะลูก ในกล่องนั้นในนั้นมีสมุดบัญชี กรมธรรม์ประกันชีวิต เครื่องประดับและของมีค่าอยู่ถ้าหนูจำเป็นต้องใช้เงินให้หนูเอาของมีค่าด้านในไปขายยกเว้นก็แต่แหวนเพชรวงเล็กๆ แหวนวงนั้นมันเป็นแหวนที่พ่อหนูซื้อให้ แม่อยากให้หนูเก็บมันไว้อย่างน้อยก็เป็นของแทนใจที่พ่อเหลือไว้ให้หนู เงินประกันชีวิตอาจจะช่วยให้หนูเรียนต่อจนจบได้อย่างสบาย แม่ขอร้องอีกอย่างหนึ่งนะลูก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหนูอย่าขายบ้านของเราเด็ดขาดเพราะถ้าหนูขายไปแล้วหนูจะกลายเป็นคนไร้ที่อยู่ทันที ส่วนที่นาที่เราให้คนอื่นเช่าหนูจะให้เขาเช่าต่อหรือจะขายก็ได้แม่ไม่ว่าแม่ขอแค่สองอย่างคืออย่าขายแหวนกับขายบ้านแค่นั้นหนูรับปากแม่ได้ไหม”

“ค่ะแม่หนูรับปากเพราะถ้าหนูขายบ้านมันก็เท่ากับหนูขายความทรงจำของเราสองคนไปด้วยหนูไม่มีทางทำแบบนั้นเด็ดขาดค่ะแม่” ริณเรณูรับปากมารดาแล้วกอดท่านไว้แน่น

หญิงสาวไม่รู้หรอกว่าจะมีจะมีโอกาสได้พูดคุยและกอดกับมารดาแบบนี้ได้ไปอีกนานเท่าไหร่

ริณเรณูสังเกตว่าพักหลังมานี่มารดามักจะได้ให้เธอกลับบ้านอยู่บ่อยๆ และเมื่อเธอถามพยาบาลที่ดูแลมารดาก็พอจะรู้ว่ามารดาของเธอรู้สึกเหนื่อยมากๆ แต่เมื่อเห็นเธอมาเยี่ยมท่านก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติและนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งพี่ริณเรณูตัดสินใจไปตามหาพ่อเพื่อให้ท่านได้มาดูใจมารดาของเธอเป็นครั้งสุดท้าย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ดอกไม้ป่าของรามัญ   ตอนที่ 25 ถามได้แต่ตอบไม่หมด

    “ไม่ค่ะ”“ทำไมล่ะ ไหนบอกมีคนมาจีบเยอะ” รามัญแอบยิ้มเมื่อรู้ว่าหญิงสาวยังไม่คบกับผู้ชายคนไหน“ก็หนูยังไม่เจอคนที่ถูกใจค่ะ อีกอย่างตอนนี้หนูก็กำลังปรับตัว เลยคิดว่าจะตั้งใจเรียนไปก่อนส่วนเรื่องแฟนค่อยว่ากันอีกที”“เพื่อนกลุ่มหนูมีแฟนกันหรือยังล่ะ”“มีแฟนแล้วสองคนยังโสดสองคนค่ะ แต่เพื่อนในห้องหนูก็มีแฟนกันเยอะเลยนะคะอารามบางคนก็มีแฟนเป็นรุ่นพี่ต่างคณะค่ะบางคนก็มีแฟนที่ทำงานแล้ว”“แล้วผู้ชายที่มาจีบหนูเขาอยู่คณะอะไร”“ก็มีหลายคณะค่ะ มีเดือนคณะวิศวะด้วยนะคะ”“แสดงว่าต้องหล่อมากๆ เลยสิ”“ใช่ค่ะหล่อมากสาวๆ กรี๊ดเต็มเลยแต่หนูไม่ชอบคนที่เป็นจุดเด่นแบบนั้นหรอกค่ะเพราะหนูก็ไม่อยากผู้หญิงคนอื่นมองแฟนหนูหรอกค่ะ”“แสดงว่าถ้ามีแฟนนี่ต้องขี้หึงมากๆ เลยใช่ไหม”“หนูเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะเพราะยังไม่เคยมีแฟนสักทีอารามคิดว่าอายุอย่างหนูมีแฟนได้ไหม”“ได้สิ จริงๆ แล้วจะมีแฟนตอนอายุเท่าไหร่ก็ไม่มีใครกำหนดไว้หรอกนะ ถ้าการมีแฟนแล้วไม่ทำให้เราเสียการเรียน”“อารามมีแฟนตอนอายุเท่าไหร่คะ”“อามีแฟนคนแรกตั้งแต่เรียนมัธยมแล้วล่ะ”“แล้วตอนนี้ยังคบกับแฟนคนแรกอยู่ไหม”“เลิกไปนานแล้วล่ะ ป่านนี้เขาคงแต่งงานมีครอบครัวไปแล

  • ดอกไม้ป่าของรามัญ   ตอนที่ 24 รักต่างวัยมันเป็นไปได้ไหม

    ริณเรณูมองนาฬิกาบนหน้าจอโทรศัพท์ที่แสดงเวลาตีสองครึ่ง หญิงสาวอยากจะโทรศัพท์ไปถามรามัญเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ชายที่เธอเห็นเดินควงไปกับแพรวาที่หน้าผับนั้นใช่ชายหนุ่มหรือเปล่าแต่ก็รู้สึกเกรงใจมากๆ เพราะดึกขนาดนี้มันเป็นเวลาส่วนตัว เธอลังเลแต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเก็บความสงสัยไว้กับตัวเองก่อนและคิดว่าพรุ่งนี้จะแกล้งโทรศัพท์ไปชวนเขาคุยและถ้ามีโอกาสก็จะถามเขาเรื่องนี้หญิงสาวรู้ว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของชายหนุ่มและจะเสียมารยาทมากถ้าหากไปถามเขาแบบนั้น แต่เธอก็ทนไม่ได้ที่เห็นคนที่ตนเองรักออกไปกับผู้หญิงคนอื่นและผู้หญิงคนนั้นก็เป็นเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกับเธอริณเรณูเคยคิดว่าตนเองกับรามัญมีความแตกต่างระหว่างอายุและเขาคงไม่สนใจจะมองเด็กที่อายุห่างกันสิบกว่าปีอย่างเธอแต่ในเมื่อเขาไปกับเพื่อนเธอได้นั่นก็หมายความว่าเรื่องของอายุไม่ใช่อุปสรรคอะไรเลยหญิงสาวไม่เคยรู้มาก่อนว่ารามัญมีแฟนหรือคบผู้หญิงคนไหนเพราะตลอดระยะเวลาที่รู้จักกับเขาสามปีกว่าชายหนุ่มก็ไม่เคยพูดถึงผู้หญิงคนไหนมันเลยทำให้ริณเรณูรู้สึกดีมากๆ เหมือนกับเขามีแค่เธอคนเดียวแต่เมื่อเห็นเขามีคนอื่นเธอก็รู้สึกใจหายเป็นอย่างมาก ริณเรณูคิดว่าจะเก็บ

  • ดอกไม้ป่าของรามัญ   ตอนที่ 23 งานพิเศษ

    เปิดเทอมได้สองเดือนแล้วตอนนี้ริณเรณูปรับตัวกับการเรียนและการใช้ชีวิตในกรุงเทพได้ดีขึ้น หญิงสาวไม่มีปัญหาในเรื่องการเรียนเลยเพราะตอนเรียนมัธยมเธอก็ตั้งใจเรียนมาตลอดเมื่อมีพื้นฐานแน่นการเรียนต่อก็เป็นเรื่องไม่ยากเลยตอนนี้หญิงสาวมีเพื่อนสนิทอยู่สามคนคือวรัญญาหรือกอหญ้า มาริษาหรือเมย์และการ์ตูนหรือเขมจิราซึ่งคนสุดท้ายนั้นมาจากต่างจังหวัดเหมือนกับริณเรณูทั้งสองจึงสนิทกันมากกว่าเพื่อนที่เหลือ“เย็นนี้การ์ตูนจะไปติวกับพวกเราที่หอของเมย์ไหม” ริณเรณูถามเมื่ออาจารย์ประจำวิชาเดินออกจากห้องไปแล้ว“ไปสิแต่พรุ่งนี้ไปไม่ได้นะ”“ทำไมล่ะการ์ตูนพรุ่งนี้วันศุกร์นะ พวกเราว่าจะติวกันดึกเลยริณว่าจะมานอนค้างที่ห้องเมย์ด้วย”“ก็การ์ตูนต้องไปทำงานพิเศษ”“แต่ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วนะ ถ้าไปทำงานจะมีเวลาอ่านหนังสือเหรอ” วรัญญาถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง“ช่วงสิ้นเดือนแบบนี้ลูกค้าเยอะถ้าไม่ไปก็เสียดายเงิน แต่สัปดาห์หน้าคงจะหยุด” เขมจิราทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งเพื่อเป็นรายได้พิเศษระหว่างเรียน ที่เธอทำงานแบบนี้ไม่ใช่เพราะขัดสนแต่เพราะอยากมีเงินไปซื้อของฟุ่มเฟือยมากขึ้นตามอย่างเพื่อนบางคนในห้องเรียน“การ์

  • ดอกไม้ป่าของรามัญ   ตอนที่ 22 อยากดูแล

    เช้าวันต่อมารามัญก็มารับริณเรณูตามที่ได้ตกลงกันไว้ชายหนุ่มเดินเข้ามาในบ้านสวัสดีทักทายคุณย่านารีอย่างคุ้นเคย“ย่าฝากด้วยนะราม หาคอนโดที่มันดูปลอดภัยและอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยให้หนูริณด้วยเรื่องราคาย่าไม่เกี่ยงเลย”“ได้ครับคุณย่า วันนี้ผมคงไปหาข้อมูลแล้วจะรวบรวมมาให้คุณย่าอีกทีนะครับ”“รามไม่ต้องกังวลเรื่องราคานะแพงแค่ไหนย่าก็จ่ายได้”“คุณย่าคะถ้าคอนโดมันแพงมากจริงๆ หนูยอมนั่งรถไปกลับก็ได้ค่ะ”“แต่มันจะไม่สะดวกเอานะลูกย่ามาคิดดูแล้วการที่หนูจะต้องตื่นเช้าไปเรียนและกลับมาบ้านมืดค่ำมันจะทำให้หนูไม่มีเวลาพักผ่อนเลย” “ผมเห็นด้วยกับความคิดของคุณย่านะ ครับมหาวิทยาลัยของริณอยู่ค่อนข้างไกล ถ้าเดินทางไปกลับก็คงจะเหนื่อยมากๆ”“ตอนแรกย่าก็อยากให้เขาขับรถไปเรียนนะ แต่ริณก็บอกว่าขับรถไม่เป็นและไม่ค่อยคุ้นกับถนนกรุงเทพ แต่ย่าว่ายังไงหนูริณต้องฝึกขับรถไว้เอาไว้ช่วงปิดเทอมหนูไปเรียนขับรถนะ”“ถ้าไม่อยากไปเรียนขับรถจะให้อาช่วยสอนก็ได้นะ”“หนูไม่รบกวนอารามขนาดนั้นหรอกค่ะ ตอนนี้หนูยังไม่คิดถึงการขับรถ หนูใจไม่กล้าพอค่ะ ถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์ค่อยว่ากัน”“ถ้าหนูไปอยู่คอนโดแล้วหนูจะไปเรียนยังไง ย่าลืมคิดเรื่อง

  • ดอกไม้ป่าของรามัญ   ตอนที่ 21 น่าเสียเวลาที่ผ่านมา

    “ย่าว่าหนูลองโทรไปถามพ่อหนูสิลูก พ่อเขารู้จักคนเยอะน่าจะพอมีใครที่มีคอนโดใกล้ๆ แถวนั้นอยู่บ้าง”“ค่ะคุณย่า”ริณเรณูออกมาโทรศัพท์ไปหาคุณนครินทร์และบอกถึงเรื่องที่ตนเองคุยกับคุณย่านารีให้ท่านทราบ“เดี๋ยวพ่อจะให้คนของพ่อจัดการเรื่องที่ให้นะ”“นานไหมคะกว่าจะรู้เรื่อง”“พ่อไม่แน่ใจเลย อีกสองอาทิตย์ใช่ไหมที่หนูจะต้องไปเรียน”“ค่ะพ่อ”“คุณพ่อค่ะหนูให้อารามช่วยหาด้วยได้ไหมคะ อารามบอกว่าเขาคุ้นเคยกับบริเวณนั้นดี”“นั้นสิพ่อลืมไปเลยว่ารามเขาพักอยู่ใกล้ๆ แถวนั้น แต่หนูลองโทรไปถามเขาก่อนนะว่าเขาว่างหรือเปล่า ช่วงนี้งานเขาค่อนข้างยุ่งเหมือนกัน”“ได้ค่ะคุณพ่อ”เมื่อวางสายจากนครินทร์แล้วหญิงสาวก็โทรไปหารามัญเพื่อบอกข่าวดีว่าตอนนี้คุณย่าและบิดาของเธออนุญาตให้ออกไปอยู่ข้างนอกได้แล้วแม้จะเป็นแค่ช่วงเปิดเทอมก็ตาม“คุณพ่อกับคุณย่าบอกว่าให้หนูออกไปอยู่ข้างนอกได้แล้วค่ะ แต่อยากให้อยู่คอนโดมากกว่า อารามพอจะมีที่ไหนแนะนำบ้างคะ”“มีหลายที่เลยนะ แต่ไม่รู้จะถูกใจหนูหรือเปล่า”“หนูขออยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนะคะ เอาแบบเดินทางสะดวกค่ะ”“แล้วจะไปเรียนยังไง”“รถเมล์หรือรถไฟฟ้าก็ได้ค่ะ”“จะสะดวกเหรอ”“ตอนแรกคุณย่า

  • ดอกไม้ป่าของรามัญ   ตอนที่ 20 ขอไปอยู่ข้างนอก

    การมาอยู่กับครอบครัวใหม่ของบิดานั้นไม่ง่ายสำหรับริณเรณูเลยเพราะหญิงสาวต้องปรับตัวอีกมากแต่ก็ไม่ยากเกินไปเพราะในทุกครั้งที่มีปัญหาหรือรู้สึกอึดอัดจะมีรามัญคอยพูดให้กำลังใจและบางครั้งเขาก็มารับเธอออกไปข้างนอกคุณศิตาที่เหมือนจะยอมรับเธอมาเป็นลูกเลี้ยงได้ แต่พอลับหลังคุณนครินทร์และคุณย่านารีเธอก็มักจะพูดกระแนะกระแหนและเปรียบเทียบริณเรณูกับลูกสาวของตนเองอยู่เสมอ แต่ริณเรณูก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากถ้าเธอเลี่ยงได้เธอก็เลี่ยงที่จะเจอหญิงสาวคิดว่าถ้าเปิดเทอมตนเองจะขออนุญาตคุณย่านารีไปอยู่ที่หอพักเพราะน่าจะสะดวกมากกว่าการอยู่ที่บ้าน อีกทั้งระยะทางจากบ้านของเธอไปมหาวิทยาลัยก็ค่อนข้างไกล เธอไม่ค่อยชินกับเส้นทางในกรุงเทพถ้าหากจะต้องนั่งรถเมล์ไปเองในทุกๆ เช้าก็คงจะเหนื่อยจนเกินไป ส่วนรวิตากับเธอไม่ค่อยได้พูดคุยกันเท่าไหร่เพราะหญิงสาวมักจะออกไปเที่ยวนอกบ้านกับเพื่อนเสมอคนที่เธอพูดคุยด้วยมากที่สุดก็จะมีคุณย่านารีกับมาวินน้องชายที่ดูเหมือนจะสนิทกับเธอมากกว่าพี่สาวแท้ๆ ของตนเองตอนนี้เหลือเวลาอีกประมาณสองสัปดาห์ก็จะถึงวันเปิดเทอมวันนี้คุณย่านารีเลยเรียกหลานสาวทั้งสองคนเขามาคุยในห้องเพราะอยากจะมอบของรางว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status