LOGINบริเวณลานใต้ตึกคณะมีนักศึกษายืนมุงอยู่หลายสิบคน พอเดินเข้าไปใกล้ ๆ จะเห็นโต๊ะเล็ก ๆ หลายโต๊ะตั้งเรียงกันอยู่ มีป้ายหน้าซุ้มว่ารับสมัครนักศึกษาฝึกงาน ดาวนิลอยู่ปีสุดท้ายแล้วย่อมสนใจเรื่องการฝึกงาน หรือเตรียมหางาน แต่จำนวนคนที่ล้นออกมานอกบูธยาวเหยียด หญิงสาวจึงเลี่ยงไปอีกด้านหนึ่งก่อน รอให้คนบางตากว่านี้ค่อยเข้าไปดูรายละเอียด
พอเตรียมจะถอยออกมา ดันมีแรงกระแทกจากนักศึกษาชายที่เหมือนจะหนีบางอย่าง และแรงกระแทกนั้นก็มากพอที่ทำให้ดาวนิลถลาลงไปกับพื้น แขนและฝ่ามือครูดไปกับซีเมนต์จนได้เลือด หนังสือที่ถือเอาไว้ในมือหล่นกระจาย หลังความตกใจที่เกิดขึ้น ความเจ็บก็ตามมาในทันที กระนั้นดาวนิลก็ยังแข็งใจลุกขึ้นยืนด้วยตนเอง แม้จะเห็นว่ามีมือยื่นเข้ามาคล้ายจะช่วยพยุง
“โทษที ไม่ทัน…เอ่อ…มอง” พินันท์ชะงักไปทันทีเมื่อเห็นหญิงสาวร่างบางที่เขาชนจนกลิ้งไปกับพื้น ยื่นมือไปช่วย แต่เธอกลับเงยหน้าขึ้นมองเพียงแวบเดียวแล้วลุกขึ้นด้วยตัวเอง ไม่มีการโอดโอยหรือชักสีหน้าไม่พอใจ ชายหนุ่มดึงมือกลับมาเก้อ ๆ เห็นหนังสือที่ตกอยู่ไม่ไกลจึงเดินไปเก็บมาถือไว้ให้ก่อน
“เจ็บมากไหมครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณที่เก็บหนังสือให้ดาวนะคะ” หญิงสาวแบะมือออกเพื่อขอหนังสือคืนมา แต่อีกฝ่ายไม่ยอมส่งให้แถมยังก้มมองมือเธอจนดาวนิลต้องมองตาม ฝ่ามือของเธอถลอกไปหมด เม็ดกรวดหยาบบ้างละเอียดบ้างยังฝังอยู่ในบาดแผล
“ผมถือให้ก่อนดีกว่า จะไปเรียนเหรอ” พินันท์มองลงไปยังขาเรียวขาวผ่อง กระโปรงพลีทของเธอคลุมเข่าไปแล้ว แต่เขาก็คิดว่าคงได้รอยเขียวช้ำแน่ ๆ
“ดาวจะรอสมัครฝึกงานค่ะ”
พินันท์มองซุ้มที่ยังเต็มไปด้วยฝูงชน สลับกับหญิงสาวหน้าใส สุดท้ายก็ตัดสินใจเอ่ยชวนอีกฝ่ายไปนั่งรอที่โต๊ะหินอ่อนที่ถัดไปไม่ไกล
"เอ่อ…หนังสือของดาว" หญิงสาวเรียกไว้ เพราะชายหนุ่มที่ชนเธอกระเด็น กำลังหันหลังจะเดินหนี
"ยึดไว้เป็นตัวประกันก่อน จะไปซื้อยามาให้"
"ไม่เป็นไร" ดาวนิลรีบปฏิเสธ ไม่อยากยุ่งวุ่นวายเพราะเรื่องเล็กน้อย เขาไม่ตั้งใจเธอรู้
"เรียนการโรงแรม" ชายหนุ่มเดาได้จากชื่อรายวิชาบนปกหนังสือ "โอเค เดี๋ยวไปเรียกคนมาให้"
"ห๊า" เรียกใคร เรียกมาทำไม ดาวนิลกลอกตาขยับจะถาม แต่ก็ไม่ทันกับที่อีกฝ่ายก้าวห่างออกไปไกลเสียแล้ว
ผ่านไปเพียงครู่เดียว หญิงสาวก็เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด เพราะมีพนักงานของเฮฟเว่นกรุป ถือแฟ้มเอกสารรับสมัครงานเดินมาหาถึงโต๊ะ ดาวนิลอยากจะออกปากถามถึงชายหนุ่มที่น่าจะเป็นต้นเรื่อง แต่พนักงานสาวสวยกลับแนะนำสวัสดิการและโอกาสหลังจากฝึกงานจนละเอียดยิบ แล้วตบท้ายด้วยคำถามเหมือนสะกดว่า "สนใจไหมคะ"
"ฝึกงาน ได้เงินด้วยเหรอคะ"
"ได้ค่ะ น้องสามารถแจ้งวันที่สะดวกแล้วให้หัวหน้าจัดตารางให้ ถือว่าได้ทั้งประสบการณ์ ได้ทั้งค่าขนม ถ้าทำงานดี จบแล้วก็บรรจุเป็นพนักงานต่อได้เลย ถ้าลงสาขาต่างจังหวัด เรามีที่พักพนักงานให้ด้วย ใครอยากเก็บเงินนะ พี่แนะนำเลยว่าได้เก็บเต็ม ๆ แน่"
"ดาวสนใจมากเลยค่ะ แต่วันนี้ดาวไม่ได้เตรียมเอกสารมา"
"กรอกใบสมัครไว้ก่อน พรุ่งนี้พี่มาออกบูธอีกวันหนึ่ง น้องค่อยเตรียมมายื่นเพิ่มนะคะ" พนักงานสาวสวยแนะนำอย่างมีน้ำใจ สมเป็นคนที่ทำงานในสายงานบริการ แบบนี้ลูกค้าคงประทับใจจนมาซ้ำ ๆ ขนาดกับนักศึกษาธรรมดา ๆ อย่างเธอยังถูกทรีตซะเหมือนคนสำคัญ
สิ่งที่หญิงสาวไม่รู้ก็คือฝ่ายพนักงานคิดไปแล้วว่าดาวนิลเป็นคนสำคัญ ไม่อย่างนั้นลูกชายเจ้าของโรงแรมคงไม่เรียกให้มารับสมัครด้วยตัวเองถึงขนาดข้ามแถวนักศึกษาที่ต่อคิวกันตาปริบ ๆ นับร้อย
ดาวนิลรับใบสมัครมาก้มหน้าก้มตากรอก เดือนพราวกลับมาแล้ว ตัวเธอเองแม้อยากรั้งอยู่ข้างกายติณขนาดไหนก็ต้องเตรียมที่ทางไว้เพื่ออนาคตของตนเองด้วย ติณคงไม่เก็บเธอไว้ชั่วชีวิต และเธอเองก็ไม่อยากขวางทางรักทางแค้นของใครอีก
จากตัวแทนสู่ที่หนึ่งในหัวใจท้องฟ้าภายนอกยังเป็นสีดำอยู่ทั้งที่เป็นเวลาใกล้รุ่งสางแล้ว ติณหยิบรีโมทแอร์มาปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นเล็กน้อยเพราะหญิงสาวซุกตัวลงกับอกของเขาอย่างหาความอบอุ่นติณกระชับร่างภรรยาให้แนบชิด สูดกลิ่นหอมอ่อนหวานอันคุ้นเคยที่ทำให้เขาหลงใหลมิรู้คลาย ผ่านมาจนถึงวันนี้ที่ดาวนิลมีตาหนูตะวันและอีกไม่นานก็จะคลอดลูกสาวให้เขาอีกหนึ่งคน ผู้หญิงคนนี้เป็นความมหัศจรรย์ในชีวิตของเขา ติณย้อนกลับไปนึกถึงวันแรกที่เขาพบดาวนิล ทุกสิ่งทุกอย่างกระจ่างชัดราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน…“อายุเท่าไร”คำพูดแรกที่ติณพูดกับเด็กสาวที่ถูกพามาให้เขาถึงที่ พอเดือนพราวเชิดเงินหนีไปออสเตรเลีย ทิ้งงานแต่งงานเรียบ ๆ ที่เขาตั้งใจเตรียมไว้ให้เธออย่างไม่ไยดี เดิมที ‘รักร้อย’ มารดาของเดือนพราวและดาวนิลก็ตั้งใจจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่พอเจอกับความโกรธและอิทธิพลของติณ รักร้อยก็แก้ปัญหาง่าย ๆ ด้วยการโยนลูกสาวคนเล็กที่เขาไม่เคยเจอมาก่อนให้ถึงเตียง“สิบแปดค่ะ”ชายหนุ่มขมวดคิ้ว นึกขัดใจท่าทางตื่น ๆ และน้ำเสียงที่เบาจนจับใจความไม่ได้ เขาต้องถามซ้ำอีกครั้งจึงจะได้ยินว่าเด็กสาวตรงหน้าอายุสิบแปดปีแล้ว โตพอที่เขาจะไม่
ดาวนิลเป็นคนท้องที่สวยมาก ทั้งที่ปกติมักจะมีคนบอกว่าถ้าแม่ผิวพรรณเปล่งปลั่งจะได้ลูกสาว แต่จากการตรวจหมอยืนยันว่าเธอตั้งท้องลูกชาย ติณเห่อหนักถึงขนาดเตรียมหาชื่อมงคลออกมาเป็นหางว่าว ของเล่นต่างก็ขนซื้อจนเต็มห้องเด็กที่จัดไว้รอลูกชายคนนี้ หนักเข้าดาวนิลต้องดุให้เขาเพลา ๆ ลงบ้าง ไม่อย่างนั้นบ้านจะกลายเป็นโชว์รูมของเล่นเอาส่วนคุณย่าต้องตากับคุณป้าตุลยาก็ปรึกษาซินแสประจำตระกูลเรื่องฤกษ์ยาม ตอนแรกติณเหมือนจะไม่สนใจ ลูกชายเขามาเกิดวันไหน เวลาไหน นั่นคือฤกษ์ซูเปอร์มงคล แต่พอถูกผู้เป็นย่าและป้าชักจูงโน้มน้าวบ่อย ๆ รวมถึงหัวใจคนเป็นพ่อที่อยากจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูกโดยไม่มีข้อแม้ คนมั่นใจในตนเองอย่างติณก็เขวไปเหมือนกัน ถึงขนาดระดมหาซินแสชื่อดังมาช่วยดูเวลาคลอดให้ดาวนิลได้แต่ส่ายหัวให้กับหลาย ๆ อย่างที่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นจากชายหนุ่มที่แสนจองหองและดื้อรั้น เชื่อแค่ตนเองแบบติณ ถือว่าลูกชายคนนี้ช่วยให้เธอได้เปิดหูเปิดตาจนเห็นอีกด้านของบ้านตระการเกียรติเช่นกัน“ดาวมาดื่มนมหน่อยครับ” ชายหนุ่มเตรียมนมอุ่น ๆ มาให้ภรรยาดื่มก่อนนอนทุกคืน ตั้งแต่อ่านข้อมูลว่าคนท้องจะถูกดึงแคลเซียมไปให้กับลูกเ
เสียงอาเจียนที่ดังขึ้นแทบทุกเช้าเป็นเวลาเกือบเดือนแล้ว ชายหนุ่มร่างสูงที่เคยดูกร้าวแกร่งไปทั้งตัวตามลักษณะของชายวัยฉกรรจ์ที่ดูแลตนเองอย่างดีมาตลอดกลับมีสภาพคอพับคออ่อน นั่งแปะลงไปบนพื้นห้องน้ำ กอดโถชักโครกไว้แน่นเหมือนเป็นของสำคัญดาวนิลตามเข้ามาในห้องน้ำ ค่อย ๆ ลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของติณจากบนลงล่าง หวังว่ามันจะช่วยบรรเทาอาการอาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตายของสามีลงได้บ้าง จากที่ในช่วงแรกตัวเธอเองก็ขำและแอบสมน้ำหน้าที่ชายหนุ่มมีอาการแพ้ท้องแทนเมียแบบที่คนอื่น ๆ บอก ตอนนั้นยังนึกไปว่าติณคงเห่อและตื่นเต้น สักพักอาการแพ้ท้องเหล่านี้ก็คงหายไป ที่ไหนได้ ผ่านมาเป็นเดือนแล้วติณก็ยังไม่ดีขึ้น แถมดูจะยิ่งแย่ลงกว่าเดิมอีกต่างหาก ในขณะที่ตัวเธอเองกลับกินได้นอนหลับ อ้วนท้วนสมบูรณ์จนน่าแปลกใจ“บ้วนปากหน่อยนะคะ คุณติณ” หญิงสาวส่งแก้วน้ำให้ชายหนุ่มกลั้วคอ ใช้ผ้าเย็นที่มีกลิ่นหอมอ่อนเช็ดหน้าที่ซีดเหมือนไก่ต้มของเขา“ดาวจ๋า ผมเวียนหัว ทรมานจังเลยครับที่รัก” ติณย้ายมือจากการกอดโถชักโครกโผเข้ามาสวมกอดหญิงสาวตัวนุ่มนิ่มหอมกรุ่นแทน ซุกหน้ากับซอกคอของดาวนิล ถูไถไปมาเหมือนลูกแมวตัวโตจอมขี้อ้อน ตั้งแต่ภรรยาสาวตั
กลับมาที่วงเหล้าอันครื้นเครงอีกครั้ง คราวนี้สีหน้าสีตาของติณดูผ่อนคลายขึ้นมาก จนถึงขนาดที่ไม่ดุหรือหัวเสียยามที่ปู่เชยรินเหล้าน้ำผึ้งให้หญิงสาวอีกจอกซึ่ง ๆ หน้า“ให้อีกแก้วเดียวนะ จะพากลับไปนอนแล้ว” หญิงสาวหน้าแดง ตาฉ่ำชวนให้มันเขี้ยว ติณมาทรุดนั่งลงข้างตัวคนขี้เมา ไหล่เกยไหล่จนคนอื่นอมยิ้มไปตาม ๆ กันตั้งแต่ติณมาอยู่ที่เกาะหยกคราม เขาสงบจนเงียบขรึม คนงานต่างสัมผัสถึงความเศร้าโศกจนดูอ้างว้าง กระทั้งวันนี้ทุกคนได้เห็นหญิงสาวที่นายน้อยเคยพามาด้วยกันครั้งก่อน ต่างมีความหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะทำให้ติณยิ้มออก แม้ว่าตั้งแต่เย็นจนค่ำ เขาจะหน้าบูดบึ้ง ไม่พูดไม่จา“งั้นกลับดีกว่าค่ะ ดาวมึน ๆ แล้วเหมือนกัน” หญิงสาวดื่มไปแค่สองจอกเล็ก ๆ เพราะเธออยากคุยกับเขาให้รู้เรื่องเสียที เห็นหน้าจ๋อยคอตก ดาวนิลเองก็สงสาร“แต่ผมยังอยากดื่มต่ออยู่เลย ติดใจเหล้าน้ำผึ้ง” พินันท์บอกเบา ๆ“มึงอยู่ต่อแล้วกัน เดี๋ยวกูไปส่งดาวนิลแล้วค่อยกลับมา”“เหรอ อ่า ๆ” พินันท์เลิกคิ้ว เหมือนไม่อยากเชื่อ ดูตาแล้วพี่ชายคงไม่มีทางทิ้งเนื้อสาวมานั่งให้ยุงกัด ข้ออ้างที่เอ่ยปากก็เห็นไปถึงลิ้นไก่ ยิ่งมองตามหลังพี่ชายที่โอบเอวบางประคองไป
ติณนั่งมองปู่เชยที่หัวเราะกับดาวนิลและพินันท์โดยไม่ใส่ใจหรือเหลือบแลนายน้อยคนโปรดอย่างเขา อาหารทะเลหลายอย่างที่วางอยู่เริ่มพร่องไปบ้าง แต่ครู่เดียวก็ถูกยกมาเติมราวกับไม่มีวันหมดดาวนิลเหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งหน้าบูดบึ้ง ไม่พูดไม่จา แต่ก็ยังยอมมาด้วยกัน หญิงสาวอยากจะหยิกแก้มคนที่ฟอร์มจัดแล้วทุบอีกสักหลายปึก รู้ว่าเขาแอบมองเธออยู่ตลอด พอเธอจับได้ เขาก็สะบัดหน้าหนีไปทางอื่นเหมือนสาวน้อยแสนงอนไม่มีผิด“ปู่เชยขา ดาวอยากดื่มเหล้าน้ำผึ้ง”“ไม่ได้” คราวนี้คนที่ไม่พูดกับใคร ขวางขึ้นทันที“ปู่ขาดาวจะดื่ม คุณพินันท์ก็อยากลองด้วย ใช่ไหมคะ” หญิงสาวหาพวก พอพินันท์พยักหน้า เหล้าน้ำผึ้งโหลใหญ่ก็ยกมาวางทันที“มาครับพี่ติณ มาดื่มด้วยกัน” พินันท์ยกเหล้าจอกแรกให้พี่ชาย แล้วส่งอีกจอกให้หญิงสาว พอกระดกของตนเองลงคอ เหล้าแรงก็ร้อนวาบ รสชาติแบบนี้ ดีกรีแรงไม่กี่จอกก็หัวทิ่มชัวร์“พอแล้วนะ จำครั้งที่แล้วไม่ได้เหรอว่าดื่มเหล้านี่แล้วเป็นยังไง” ติณยึดจอกเหล้าเล็ก ๆ ที่ว่างเปล่าของหญิงสาวไว้ เพราะเธอก็เพิ่งกระดกลงไปในทีเดียว“ก็เมาไงคะ” หญิงสาวลอยหน้าตอบ นัยน์ตาพราว มีหรือว่าเธอจะจำไม่ได้ ยิ่งเห็นหน้าคร้ามดูดซับส
กว่าจะข่มตาหลับลงได้ก็เกือบสว่าง กลิ่นหอมอ่อนๆ ของหญิงสาวปั่นป่วนจนเขาต้องควักบทสวดสารพัดขึ้นมาภาวนาอยู่ในใจ ดังนั้นตอนที่ดวงตาดำขลับงัวเงียลืมตาอีกครั้งก็สายโด่ง พลิกตัวมองที่นอนด้านข้าง เหลือแต่ความว่างเปล่า ดาวนิลคงลุกออกไปนานแล้วเพราะใช้มือลูบคลำ ไม่หลงเหลือไออุ่นจากร่างของเธออยู่ติณรีบผุดลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว เมื่อคืนมัวแต่ตกตะลึงจนทำตัวไม่ถูก เช้านี้เขาต้องรีบหาคนงานผู้หญิงที่ไว้ใจได้มานอนเป็นเพื่อนหญิงสาว ก่อนที่เลือดกำเดาเขาจะไหลหมดตัว นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน ไอ้พินันท์ส่งดาวนิลมาทำงานที่นี่ทำไม แขกเหรื่อเขาไม่ได้เปิดให้เข้ามาพัก มีแค่กลุ่มเพื่อนหรือวีไอพีที่ต้องการพักผ่อนซึ่งต้องให้เขาอนุญาตก่อน หรือไอ้พินันท์มันคิดว่าเขาเป็นพระโพธิสัตว์ที่ตัดกิเลส เลิกยุ่งเกี่ยวข้องแวะกับผู้หญิงที่อยู่ในหัวใจได้เด็ดขาดแล้วจริง ๆชายหนุ่มจัดการธุระส่วนตัวและตรงไปที่ตัวรีสอร์ตซึ่งอยู่ไม่ไกล มีพนักงานต้อนรับซึ่งก็เป็นลูกหลานคนงานในเกาะนั่นแหละที่ประจำการอยู่“ดาวนิลล่ะ”“คุณดาวทานอาหารเช้าอยู่ที่ห้องอาหารค่ะ คุณติณจะรับพร้อมกันเลยไหมคะ” ติณพยักหน้ารับ กินเสียพร้อมกัน พนักงานจะได้ไม่ลำบากและมัว







