Share

บทที่ 27 จับคนร้าย

last update Last Updated: 2025-06-12 22:48:09

บทที่ 27 จับคนร้าย

ชลาสินธุ์นั่งทบทวนคำพูดของณิชชาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ระหว่างรอสองพ่อลูกเดินทางมาหาตามที่ได้นัดหมายกันไว้ เขาไม่แน่ใจว่าแผนการครั้งนี้จะเป็นไปได้อย่างดีหรือเปล่า เพราะจากการพูดคุยกันครั้งก่อน ภัสสราบอกว่า พ่อของเธอจะไม่เอาด้วยแล้ว

‘ตอนนี้ผมว่าตัวผมเองค่อนข้างคลี่คลายได้แล้ว ผมไม่อยากสบายตัวอยู่คนเดียวแล้วปล่อยให้คุณกับกำนันต้องตกที่นั่งลำบากกันเพียงลำพัง ผมว่าจะเปิดแถลงข่าวอีกครั้ง เชิญสื่อเล็กใหญ่ทั้งของจังหวัดและส่วนกลางมาให้หมด เพื่อส่งข้อความออกไปว่า คุณเองก็เป็นผู้บริสุทธิ์เช่นกัน เมื่อข่าวออกไปแล้ว เราอาจจะทำอะไรได้สะดวกมากขึ้นน่ะครับ’ เขาพูดตอนที่โทรศัพท์ไปหาหญิงสาวตัวต้นเหตุ

[เราเหรอคะ คุณสินธุ์หมายถึงพวกเราเหรอคะ] เสียงของหญิงสาวดูจะตื่นเต้นและปลาบปลื้มน่าดู

‘ครับ ก็เราลงเรือลำเดียวกันแล้วนี่ ถ้าคุณรอด ผมก็รอดด้วย’ รอยยิ้มที่ส่งออกมาทำให้คำพูดของเขาดูเป็นกันเองและน่าเชื่อถือ

[งั้นก็ได้ค่ะ เดี๋ยวสราเชิญนักข่าวนะคะ]

‘ไม่เป็นไรครับ เลขาของผมเตรียมไว้แล้ว ขอแค่คุณกับกำนันมาก็พอ’

ชลาสินธุ์นั่งอยู่ตรงร้านอาหารพักใหญ่ทีเดียว กว่าที่กำนันเพชร   เสี่ยใหญ่แห่งภูมิภาคจะมาถึง ชลาสินธุ์ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร แต่แววตาของกำนันนั้นยังมีความกังวลและระแวงเจอปนอยู่มาก ถึงตอนนี้สถานการณ์ก็ทำให้คนที่เคยเอ็นดูชลาสินธุ์ถึงขั้นอยากได้เป็นเขยก็ไม่อาจจะไว้ใจใครได้ทั้งสิ้น

ชลาสินธุ์ยิ้มทักกำนันเพชรก่อนจะชวนให้นั่งลงปรับประทานอาหารกลางวันที่โต๊ะเดียวกัน  แสงสว่างวาบของแชตในไลน์เตือนว่ามีคนส่งข้อความมา คนที่เขาเพิ่งสูบพลังงานไปเมื่อคืนนี้เอง

ภัสสรามาถึงหลังจากนั้นไม่นาน ท่าทางเป็นกังวลของหญิงสาวคลายลงเมื่อเห็นว่ามีนักข่าวที่คุ้นหน้าค่าตากันหลายคนค่อยๆ ทะยอยกันมาอออยู่ในห้องรับรอง ซึ่งวันนี้จะใช้เป็นห้องแถลงข่าวด้วย

เมื่อถึงเวลาก็เชิญสองพ่อลูกเข้าไปในห้องนั้น โดยมีสาคเรศ วสพล และณิชชาตามเข้าไปด้วย

ในประเด็นแถลงข่าวนั้น ชลาสินธุ์แทบจะไม่ได้พูดอะไรที่ต่างไปจากที่เคยพูดไปเมื่อครั้งก่อนเลย ทำให้สองพ่อลูกมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ ร้อนถึงนักข่าวต้องเปิดข้อซักถามหลังแถลงข่าว

นักข่าวถามไปเพียงไม่กี่คำถาม ตำรวจและทหารที่สนธิกำลังกันก็กรูเข้ามาในห้องแถลงข่าว ก่อนจะแจ้งว่า สองพ่อลูกชื่อดังประจำจังหวัดถูกจับแล้ว ด้วยข้อหาเปิดบ่อนการพนัน ค้ายาเสพติด และฟอกเงิน

“นี่มันอะไรกันคะคุณพ่อ” ภัสสราตื่นตระหนก มือที่เกาะแขนกำนันเพชรนั้นสั่นเทา ดวงตาคล้ายมีน้ำเอ่อคลอ

“อย่าขัดขืนเลยกำนัน” ตำรวจหัวหน้าชุดคนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของกำนันวัยเฒ่า แต่เรื่องความเก๋าก็ยังเป็นที่พูดถึงมาตลอด

“ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะคะคุณสินธุ์” ภัสสรากรีดเสียงทันทีที่ตำรวจเข้าชาร์จเธอกับพ่อ แต่สำหรับพวกชลาสินธุ์กับทางผู้บริหารโรงแรมนั้นกลับไม่ได้รับการแตะต้องเลยสักนิด ยกเว้น...

ตุ้บ!

“มาแล้วครับ กำลังจะหนีเลย” นายตำรวจหนุ่มคนหนึ่งโยนชายคนหนึ่งซึ่งอยู่ในชุดยูนิฟอร์มของโรงแรมสวรรยามากลางวง ก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้ณิชชา

สองพ่อลูกเมื่อเห็นอย่างนั้นก็พากันตาโตเป็นไข่ห่าน

“นี่...นี่มันเรื่องอะไรกัน!” กำนันเพชรถามมองหน้าตำรวจเรียงไปทุกคน ซึ่งหลายคนเป็นคนที่เขาไม่เคยเห็นหน้า

“คุณถูกจับแล้ว” หัวหน้าชุดตอบเขาก่อนจะพยักหน้าไปยังคนที่ถูกโยนไปเมื่อครู่ “ส่วนไอ้นี่ก็ให้มันเลือกเอาว่ามันจะเป็นพยานให้พวกเรา หรือจะเป็นจำเลยร่วมกับพวกคุณ”

“ผมไม่รู้จักมัน” กำนันเพชรเสียงแข็ง

“หลักฐานที่ผมมีไม่ได้บอกอย่างนั้นน่ะสิ ไป เอาตัวไป”

หลังจากนั้นความชุลมุนเล็กๆ ก็เกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็ว นักข่าวส่วนหนึ่งตามไปที่สถานีตำรวจ ขณะที่อีกส่วนก็หวังว่าจะได้สัมภาษณ์เจ้าของโรงแรมต่อ แต่กลายเป็นว่า ณิชชากับวสพล ต้องรับหน้านักข่าวแทน ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้อะไรมากไปกว่าที่เคยได้ไปแล้ว

ไม่เกินชั่วโมงหลังจากนั้น คลิปกล้องวงจรปิดหลายคลิปก็ถูกสื่อหลายสำนักปล่อยออกมา เป็นคลิปที่แสดงให้เห็นว่า ภัสสรากับพ่อของเธอ ไปไหนและเจอกับใครบ้าง ซึ่งทุกอย่างก็ล้วนชี้ไปที่ความผิดที่เธอกระทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อเป็นภาพของเธอกับชลาสินธุ์แล้วกลับไม่มีคลิปใดที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันเพียงลำพังในที่ลับเลย

และเมื่อเห็นคลิปที่กำนันเพชรพูดคุยกับพนักงานคนเมื่อครู่ก็จะเห็นว่า พนักงานคนนี้เป็นคนเปิดทางตรงลิฟต์ขนของทางด้านหลังให้คนของกำนันขนอุปกรณ์การเล่นการพนันขึ้นไปที่ชั้นบนสุด นี่จึงเป็นหลักฐานมัดตัวอีกหนึ่งชิ้นสำคัญ นอกเหนือจากคลิปที่เขาไปคุยกับ ‘นายใหญ่’ นายทุนจากต่างประเทศอีกด้วย

ทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำให้ชื่อเสียงของครอบครัวจิรารักษนนท์ดีขึ้นจนใสสะอาด แต่ก็ไม่ได้ขุ่นคลั่กเหมือนก่อน ขณะที่ภาพกำนันคนดังพร้อมลูกสาว ถูกตำรวจควบคุมตัวในฐานะผู้ต้องหาคดีอาญาหลายคดี กลายเป็นข่าวใหญ่ในบ่ายวันนั้น

“สวัสดีครับ คุณชลาสินธุ์”

เสียงทักของกลุ่มคนที่ยืนอยู่ทำให้ความรู้สึกของเขากระตุก ณิชชาอยู่ในกลุ่มคนที่ยืนกันอยู่นั่นด้วย และดูเหมือนคนที่เขาไม่รู้จักสองคนนั้นจะสนิทสนมกับคนของเขาดี

“สวัสดีครับ” เขาเอ่ยขณะสาวเท้าก้าวเข้าไปหาคนกลุ่มนั้นพร้อมเอ่ยทัก ที่น้ำเสียงดูเหมือนจะเป็นการไล่มากกว่า

...ไอ้นั่นมันทำหน้าทะเล้น แถมยังไปยักคิ้วหลิ่วตาให้ณิชชาด้วย...

“นี่ศิลา เป็นนักข่าวที่มาช่วยสืบเรื่องนี้” ณิชชารีบบอกก่อนที่คนเจ้าอารมณ์จะโมโหเพราะความขำขันไม่เลือกที่ของศิลา “ส่วนนี่ธิติ เป็นตำรวจที่ฉันเคยเล่าให้ฟัง”

“อ้อ ขอบคุณคุณทั้งคู่มากนะครับ สำหรับเรื่องวันนี้ คราวหน้าคราวหลังถ้าลงไปกรุงเทพฯ มาพักที่โรงแรมผมได้นะครับ ผมบริการเต็มที่” ชลาสินธุ์เอ่ย ก่อนจะพูดคุยด้วยอีกสักพัก ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นการขอบคุณ

ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากนั้นก็ปล่อยให้ณิชชาได้คุยกับพวกเขาตามลำพัง และสองพี่น้องบ้านจิรารักษนนท์รวมถึงธารากานต์ที่มาถึงที่โรงแรมสวรรยาทันทีที่ได้ยินข่าว ก็มาวางแผนในการกอบกู้ความไว้เนื้อเชื่อใจของผู้คนให้กลับมาไว้ใจพวกเขาให้มากขึ้นกว่านี้

“ขอบคุณพี่สินธุ์มากนะคะที่ช่วยพวกเรา” พูดขึ้นหลังจากที่ได้อยู่กันตามลำพังสามพี่น้อง และทั้งชลาสินธุ์และสาคเรศก็ทำให้เธอและพัฒนศักดิ์หลุดรอดออกมาจากเรื่องร้ายๆ นั่น

“ไม่ช่วยกันแล้วใครจะช่วยล่ะ” สาคเรศบอก

“ใช่ พี่ก็ต้องช่วยน้องสิ” ชลาสินธุ์ว่า ก่อนจะโยกหัวเล็ก ๆ เล่น

“แต่คงต้องให้เครดิตคุณณิชเขานะ” สาคเรศบอก พร้อมพนักหน้าให้ธารากานต์และอีกคนมองตาม “ถ้าไม่ใช่เพราะคุณณิชเป็นคนน่ารักจนรู้จักคนไปหมด คงหาคนมาช่วยเราเยอะขนาดนี้ไม่ได้”

ที่ตรงสุดสายตาของทั้งสามณิชชากำลังนั่งเหม่ออยู่ ตรงหน้ามีโทรศัพท์กับเอกสารสองสามแผ่น

“อืม ณิชทำเรื่องนี้จนไม่ได้หลับได้นอนมาทุกคืน แล้วก็เป็นคนสะกิดพี่เรื่องนี้ เฮ้อ...อันที่จริง เขาบอกพี่มานานแล้วละ แต่พี่ไม่ฟังเอง” ชลาสินธุ์บอกน้อง เมื่อมองย้อนกับไปมันทำให้เขารู้สึกผิดแบบไม่จบไม่สิ้น

 “ท่าทางคุณณิชจะเหนื่อยจริง ๆ นะคะ งั้นให้พวกเราเลี้ยงอาหารเป็นการตอบแทนนะคะ มื้อเช้าพรุ่งนี้ก็ได้ กานต์จะทำให้ทานกัน กานต์ทำอาหารพื้นเมืองที่นี่เก่งแล้วนะ” เสียงนั้นออดอ้อนน้อย ๆ เหมือนตอนที่ชายหนุ่มยังสนิทใจในฐานะพี่น้องของพวกเขา

คนพี่ทำหน้ากระอักกระอ่วน ส่วนคนน้องปฏิเสธทันที

“ฉันต้องกลับไปดูแลงานที่กรุงเทพฯ แล้ว เชิญเธอดูแลคุณหนูใหญ่ตามสบายเลย”

“ไอ้นี่” ชลาสินธุ์หันมาดุใส่เมื่อได้ยินน้องชายจิกกัดเขาด้วยคำว่า คุณหนูใหญ่ ก่อนจะมองกลับมายังธารากานต์อีกครั้ง “แล้วนายนั่นเขาไม่ว่าอะไรหรือไง”

...มันน่าคิดน้อยเสียเมื่อไร หลังจากที่ไปฉุดเมียมันมา แล้วยังจะเลี้ยงข้าวเขาเนี่ยนะ?!...

 “ไม่หรอกค่ะ คุณพัฒน์ฝากขอบคุณพี่สินธุ์กับทุกคน และเรื่องทำอะไรเพื่อตอบแทน คุณพัฒน์ก็เป็นคนคิดค่ะ”

“ทำไมคุณพัฒน์ต้องว่าอะไรพี่สินธุ์ด้วยล่ะ” สาคเรศยื่นหน้ามาถามแบบคนที่ไม่มีข้อมูลอะไรมาก่อนเลย ทำให้ต้นเรื่องทั้งสองมองหน้ากันเจื่อน ๆ

“เอ่อ...ก็ตอนที่มาที่นี่แรก ๆ พี่สินธุ์อยากให้ฉันมาช่วยสวรรยาน่ะ แล้วคุณพัฒน์ไม่ค่อยพอใจ”

“อะ...นั่นสิ เป็นฉันก็ไม่พอใจนะ”

สองคนมองหน้ากันเลิ่กลั่กอีก เพิ่งนึกได้ว่า คนที่ควรต้องดูแลเรื่องโรงแรมเพราะรับผิดชอบส่วนนี้โดยตรงคือสาคเรศนี่เอง

“เอ่อ...คือ นายเรศ ฉัน...” ธารากานต์ถึงกับไปไม่เป็น ส่วนอีกคนตายไปแล้ว

“ไม่เป็นไรหรอกกานต์ ยังไงฝากดูแลพี่สะใภ้ด้วยนะ”

“หา?”

“หืม?”

สาคเรศมองหน้าคนทั้งคู่แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะเดินจากไป

และแล้วในที่สุดประธานและเลขาก็ได้ไปเยี่ยมเยือนไร่และโรงผลิตไวน์ซึ่งมีกำลังการผลิตมากพอที่จะส่งไวน์รสชาติดีไปยังทั่วทุกภูมิภาคทั้งในและต่างประเทศด้วย

เช้าวันนี้สดใสมาก ณิชชารู้สึกมีความสุขที่สุดที่ได้มาเดินเล่นท่ามกลางธรรมชาติที่แท้จริงแบบนี้ มองไปทางไหนก็เป็นพื้นที่สีเขียว ตรงสุดปลายฟ้านั้นเป็นพระอาทิตย์ที่กำลังทอแสงสวยงาม

...คุณกานต์ช่างเลือกสถานที่และมื้ออาหารได้เหมาะสมจริงๆ...

“น่าจะเปิดให้ท่องเที่ยวด้วย สมัยนี้เทรนด์ท่องเที่ยวธรรมชาติกำลังมา”  ชลาสินธุ์แนะนำ อย่างคนที่ถือว่าตัวเองถนัดทางนี้มาก่อน เมื่อได้มาเห็นไร่และวิวทิวทัศน์โดยรอบเต็มตา

“กานต์บอกคุณพัฒน์แล้วค่ะ แต่เขาไม่ยอม” ร่างบางอมลมจนแก้มป่อง คนถูกเอ่ยที่ยืนอยู่ข้างๆ ถึงกับอยากจะหยิกแก้มนิ่ม ๆ ขึ้นมา

 “ทำไมล่ะคะ” ณิชชาที่เงียบมาตลอดถามขึ้นบ้าง แม้จะรู้สึกตะขิดตะขวงใจกับเรื่องราวในอดีตที่เจ้านายของเธอเป็นคนทำ และเธอเองทำให้มันไม่สำเร็จจนตัวเองโดนลงโทษปางตาย แต่ความเป็นคนสบาย ๆ ของธารากานต์กลับทำให้เธอรู้สึกสนิทใจที่จะคุยด้วย แต่คนที่ตอบกลับเป็นเจ้าของไร่

“ผมไม่ถนัดเรื่องนี้เลยครับ ผมถนัดขายไวน์ น้องชายก็ถนัดทำไวน์ เรื่องนี้คนเดียวที่ทำได้คือกานต์น่ะครับ แต่ไม่อยากให้เขาต้องเหนื่อยขนาดนั้น แค่ดูแลพวกผม กานต์ก็เหนื่อยมากพอแล้ว”

ณิชชายิ้มเมื่อได้ยินคำตอบ รู้สึกยินดีกับธารากานต์จริง ๆ ที่ได้คนที่รักคอยดูแลและห่วงใยขนาดนี้

“งั้นเดี๋ยวกานต์ให้คุณณิชเป็นกรณีพิเศษดีมั้ยคะ” ธารากานต์เอ่ยขึ้น

“คะ?”

“เดี๋ยวกานต์พาคุณณิชทัวร์ไร่นี้เอง”

“เอาสิคะ” ณิชชายิ้ม โดยไม่ได้เห็นว่า เจ้านายของตัวเองทำหน้าอย่างไร การพูดคุยแม้จะไม่ได้ยินเสียงหัวเราะดัง แต่ทุกคนรู้ว่าไอแห่งความเป็นมิตรก็มีมากขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่าย ไม่รู้เพราะเจ้าของไร่สำนึกบุญคุณที่ชลาสินธุ์ได้ทำไว้ หรือตัวชลาสินธุ์เองที่เริ่มทำใจได้เรื่องธารากานต์แล้ว

... ไม่ว่ายังไง กานต์ก็คงไม่กลับมา...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   ตอนอวสาน

    ตอนอวสานชลาสินธุ์ให้คนขับรถมารับที่บ้านของพัฒนศักดิ์ในวันรุ่งขึ้น พวกเขากลับมาถึงกรุงเทพฯ ในช่วงบ่าย ๆ แต่น้อง ๆ ทั้งสองคนปฏิเสธที่จะให้เขากลับมาทำงานในทันที ทำให้ประธานบริษัทพร้อมเลขากลายเป็นคนว่างงานในวันนี้ณิชชาหัวเราะเมื่อเห็นว่าชลาสินธุ์ดูจะเป็นห่วงเธอมากเกินจริงไปสักหน่อย ห้ามทำอะไรที่ต้องใช้กำลัง จะไปไหนก็ได้แต่ต้องอยู่ในระยะสายตาที่เขามองเห็น อยากได้อะไรหรืออยากกินอะไรต้องบอก เพราะเขาจะทำให้เอง เรียกว่าณิชชามีหน้าที่อย่างเดียว คือนั่งเฉยๆ“พอแล้วค่ะ คุณมานั่งเถอะ” ณิชชาบอก เมื่อชลาสินธุ์ถามเป็นครั้งที่ร้อยว่าอยากได้อะไรอีกหรือเปล่า หญิงสาวจึงเรียกให้มานั่งดูหนังในห้องนั่งเล่นด้วยกันชายหนุ่มตัดสินใจนั่งลงข้าง ๆ คนรัก และเหมือนเคย นับตั้งแต่กลับ มาจากไร่เจริญตา ไม่มีสักครั้งที่หากได้นั่งคู่กันชลาสินธุ์จะไม่โอบรอบตัวร่างเล็กให้อยู่ในอ้อมกอดตลอดเวลา“ไม่เจ็บแล้วแน่นะ ดูสิ ยังเป็นรอยช้ำอยู่เลย” ชลาสินธุ์บอกพลางใช้นิ้วโป้งลูบไล้เบา ๆ ไปที่รอยช้ำที่แขน ซึ่งยังเป็นรอยเด่นชัด น่าจะเกิดจากการต่อสู้กับลูกน้องของภัสสรา“เจ็บนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรแล้วจริง ๆ ไม่ต้องห่วงหรอก ห่วงขาคุณดีกว

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้าย

    บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้ายภัสสราเดินตรงเข้ามายังชลาสินธุ์ ทำให้ชายหนุ่มต้องถอยหลังเพื่อเว้นระยะ กลุ่มชายฉกรรจ์ผิวเข้มเดินเข้ามาในห้องหลายคน ณิชชาเห็นคนที่โยนเขาเข้าไปในรถตู้รวมอยู่ในนั้นด้วย“ปล่อยฉันลงเถอะ ฉันเดินไหวแล้ว” ณิชชากระซิบบอก ชลาสินธุ์ยอมทำตาม แต่ก็ยังโอบไหล่บางไว้ ไม่ให้ห่างตัว ร่างเล็กซบใบหน้าตัวเองลงกับลำแขนใหญ่ แม้ว่าจะกลัวจนแทบบ้า แต่กลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้เขา“ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี เธอเชื่อมั่นในตัวฉันนะ” ชลาสินธุ์กระซิบบอกอย่างอ่อนโยนณิชชาพยักหน้ารับ เธอจะเชื่อมั่นในตัวคน ๆ นี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามกลุ่มชายฉกรรจ์ตีวงล้อมจนทั่วห้องโดยมีทั้งสามคนอยู่ตรงกลาง“รู้อะไรไหม คุณสินธุ์ คุณทำให้ฉันสูญเสียอะไรไปตั้งหลายอย่าง ลงทุนไปตั้งมากมาย แต่คุณกลับทำลายมันทิ้งในเวลาแค่วันเดียว” ภัสสราเอ่ยขึ้น คำพูดเนิบช้ากว่าปกติ เรียวปากเหยียดยิ้มแต่แววตากลับเข่นอาฆาต“คุณไม่เห็นต้องโกรธผมขนาดนี้เลยคุณสรา”“หึ ไม่ต้องโกรธเหรอ ถ้าคราวนั้น พวกแกไม่ทำตัวเป็นคนดี แล้วปล่อยให้ฉันดำเนินธุรกิจของฉันไป ฉันก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้หรอก แกก็ได้ค่าเช่า ฉันก็ได้กำไร แกทำแบบนั้นทำ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 49 ลักพาตัว

    บทที่ 49 ลักพาตัว“คืนนี้เธอจะนอนที่นี่ใช่มั้ย”“ฉันไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเลย”“ก็ใส่ตัวเดิมสิ ไม่เปื้อนหรอก เพราะคืนนี้เธอไม่ต้องใส่นี่” อีกคนยังดื้อรั้นไม่ฟังคำอธิบายแถมยังทำท่าจะหื่นใส่อีก“คิดจะทำอะไรน่ะ ที่นี่โรงพยาบาลนะ แล้วคุณก็ป่วยอยู่ ทำไหวหรือไง?”“จะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองมั้ย”“ไม่ ฉันไม่ยอมหรอก คุณน่ะ เอะอะก็จะทำมิดีมิร้ายฉันตลอด”“ขี้บ่นจัง” ชลาสินธุ์แกล้งทำท่าเกาหัว “งั้นฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร แต่เธอนอนให้ฉันกอดนะ คิดถึงจะแย่ คิดถึงจะตายอยู่แล้วคนใจร้าย”“ว่าฉันใจร้าย คุณก็ใจร้ายเหมือนกันนั่นแหละ”“นะ”“เอ่อ...ถ้าคุณไม่ทำอะไรจริง ๆ ฉันนอนด้วยก็ได้”“ไม่ทำหรอก ถ้าเธอไม่เผลอน่ะ”“อะไรนะ!” และอย่างไม่ต้องรอคำตอบ ณิชชาก็ฟาดมือไปที่แขนคนป่วยเสียงดังลั่นห้อง ก่อนจะแจกค้อนไปให้อีกหลายทีชลาสินธุ์ลูบแขนตัวเองแล้วหัวเราะไปด้วย“ฉันยอมให้หน่อย ก็ทำร้ายฉันเลยนะ” เสียงอ่อนบอกก่อนจะโอบคนรักให้แน่น ๆ อีกหน “งั้นตกลง นายนอนที่นี่นะ นอนเฉย ๆ ให้ฉันมองหน้า จะได้หายคิดถึง”“หึ” หญิงสาวค้อนคนป่วยขวับ เธอเองก็อยากกอด อยากมองหน้า อยากยิ้มให้ผู้ชายคนนี้ เพื่อให้แน่ใจว่า ความรักระหว่างตัวเองกับ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริง

    บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริงแม้จะเป็นเวลาพลบค่ำแล้วทำให้อาจจะได้พบคนที่เขาคิดถึงแค่ไม่กี่นาทีแต่ณิชชา ก็ตัดสินใจออกจากบ้านทันทีที่อัครชัยปล่อยมือเขา ความโหยหาที่ลอยวนอยู่ในใจมันฉุดกระชากให้เขามาที่นี่ โรงพยาบาลใหญ่ใจกลางกรุง ชลาสินธุ์ถูกย้ายมาที่นี่ทันทีที่ร่างกายสามารถทนต่อการเดินทางได้หญิงสาวเดินหาห้องนั้นจนพบ ในมือถือดอกไม้ช่อเล็ก ๆ ที่ตั้งใจทำเองด้วยหัวใจ มือบางที่กำลังจะเคาะห้องมีอันต้องชะงักค้างไว้“คุณณิชคะ คุยกันหน่อยดีมั้ย” ชลาธารที่เพิ่งมาถึงเช่นกัน มองมาที่ณิชชา ไม่มีสายตาของมิตรภาพแม้แต่น้อยชลาสินธุ์นอนลืมตาโพรงอยู่บนเตียงคนป่วย แม้อาการทางกายจะค่อย ๆ หายจนเกือบเป็นปกติ เพราะรถที่ชนก็แค่เฉี่ยวขาทำให้เจ็บที่หัวเข่าซ้ายเท่านั้น แย่หน่อยตรงที่ตอนกระโดดหลบ หัวของเขามันไปชนต้นไม้ข้างทางทำให้ทั้งน้อง ๆ และคุณหมอค่อนข้างเป็นห่วง แต่อาการทางใจของชายหนุ่มก็ทำให้ตอนนี้เขาแทบไม่ต่างจากผักเหี่ยว ๆ ที่รอวันเฉาลงไปอีกชลาธารรับหน้าที่ดูแลพี่ชายของเธอที่โรงพยาบาล ขณะที่คนอื่นดูแลเรื่องงาน ยิ่งเห็นพี่เป็นแบบนี้ ก็ยิ่งโกรธณิชชามากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นว่าเป็นคนนิ่ม ๆ ไม่คิดว่าจะมีอิ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้ว

    บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้วชลาธารทำอย่างที่ตนเองได้ลั่นวาจาไว้ทันทีที่วันทำงานวันแรกมาถึง“คุณณิชคะ คุยกับธารในห้องก่อนค่ะ” มาถึงยังไม่ทันได้นั่ง ก็เอ่ยปากให้ณิชชาเดินตามตัวเองเข้าไปในห้องแล้ว ณิชชาเดาไม่ถูกว่าเจ้านายคนเล็กคนนี้จะพูดเรื่องอะไร เรื่องงานหรือว่าอย่างอื่น เพราะแทบจะไม่เคยทำงานด้วยกันเลย ยิ่งหญิงสาวไปเรียนต่อได้เป็นปีแล้ว ยิ่งห่างกันไป เดาใจไม่ถูก“คุณธาร มีอะไรให้ณิชทำเหรอคะ” ณิชชาพูดก่อนจะนั่งลงตามมือที่ผายออก หญิงสาวไม่ได้ชวนเธอนั่งที่โต๊ะทำงาน ซึ่งตอนนี้คนที่ยึดโต๊ะตัวนั้นเป็นของตัวเองยังไม่มา แต่พวกเธอนั่งคุยกันที่โซฟารับแขกซึ่งอยู่ในห้องทำงานของชลาสินธุ์ด้วยนั่นเอง“คุณณิชจะว่าอะไรมั้ยคะ ถ้าธารจะถามเรื่องพี่สินธุ์” ยิงคำถามทันทีพร้อมกอดอกฟังคำตอบ แต่ดูเหมือนคนที่ต้องตอบจะยังหาเสียงของตัวเองไม่เจอ“คือ...เอ่อ...”“ไปเยี่ยมสักวัน หรือดอกไม้สักช่อ ไม่คิดจะส่งไปหน่อยเหรอคะ” ชลาธารพูดแทรกขึ้นอย่างหงุดหงิด อยากจะเล่าสภาพของพี่ชายให้คนตรงหน้าฟังว่าเลวร้ายแค่ไหน แต่ก็กลัวว่าสิ่งที่ได้กลับมาจะเป็นอย่างอื่นนอกจากความเห็นอกเห็นใจ ถ้าณิชชารู้สึกยินดีกับสภาพของพี่ชายตนเอ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 46 รถชน

    บทที่ 46 รถชนณิชชาฟังแล้วอึ้งไป เพราะน้ำเสียงนั้นแม้จะสุภาพแต่ก็เฉียบขาด พี่น้องบ้านนี้บุคลิกไม่เหมือนกันสักคน สาคเรศคนนี้หากฟังจากน้ำเสียง ลักษณะนิสัยคงเป็นแบบ อยู่ตรงกลางระหว่าง ชลาสินธุ์และธารากานต์ คือไม่ได้ดูใจดีมากเหมือนธารากานต์ แต่ก็ไม่ได้ดุและขี้หงุดหงิดเหมือนพี่ชายคนโต“คือ...คุณสินธุ์คงไม่สะดวกให้ดิฉันไปทำงานแล้วล่ะค่ะ”“พี่สินธุ์ไม่อยู่ที่นี่มาสองสัปดาห์แล้วครับ ตั้งแต่คุณไป” เสียงถอนหายใจปล่อยมาตามสาย “คุณทำให้พี่สินธุ์อยู่ที่นี่ไม่ได้ แล้วคุณก็จะไม่อยู่ดูแลที่นี่อีก นี่คุณกะจะให้พวกเราล่มจมเลยเหรอครับ”“คุณเรศคะ...ดิฉันเปล่า...คือ...ดิฉันไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายพวกคุณเลยนะ เพียงแต่ไม่คิดว่าคุณสินธุ์เขา...”“เขาจะอยู่ไม่ได้เมื่อไม่มีคุณ?” สาคเรศขัดอีกแล้ว แล้วก็ถูกที่ถูกเวลาเสมอ เพราะมันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจณิชชาด้วย คนฟังน้ำตาแทบจะไหลลงมาอีกครั้ง เสียงถอนหายใจของปลายสายทำให้ณิชชาทำอะไรไม่ถูก “ผมทราบว่าคุณไปคุยกับที่อื่นมาแล้ว แต่ก่อนจะไป คุณน่าจะมาเคลียร์งานที่นี่สักหน่อย พรุ่งนี้เข้ามานะครับ ผมรออยู่”สาคเรศวางหูไปนานแล้ว แต่ณิชชายังอยู่ที่ระเบียงไม่ไปไหน ความคิดสับสนว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status