Home / โรแมนติก / ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน / บทที่ 28 สินธุ์เป็นคนที่ดีที่สุดในโลก?

Share

บทที่ 28 สินธุ์เป็นคนที่ดีที่สุดในโลก?

last update Last Updated: 2025-06-12 22:48:46

บทที่ 28 สินธุ์เป็นคนที่ดีที่สุดในโลก?

แม้ว่ากว่ามื้ออาหารเช้าจะจบแดดก็เริ่มแรงแล้ว แต่นั่นไม่เป็นปัญหาของธารากานต์และณิชชาเลย ผู้จัดการไร่คนเก่งยื่นเสื้อแขนยาว กับ หมวกปีกกว้างให้ จากนั้นก็จูงมือร่างเล็กกว่า ไปสำรวจไร่องุ่นที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของจังหวัดทันที ทิ้งให้คนท่าเยอะ ขี้เต๊ะ สองคนต่อสู้กันด้วยความเงียบอยู่ตรงที่เดิม

“คุณณิชชอบมั้ยคะ” กานต์ถามขึ้นด้วยแววตาเป็นมิตร รอยยิ้มกว้างๆนั้นทำให้ณิชชายิ้มตาม

“ชอบค่ะ ไร่นี้ดูน่ารักมาก น่าเสียดายที่คนข้างนอกไม่ได้มีโอกาสได้เห็นมัน” 

“กานต์ก็เสียดายครับ เอายังงี้ดีไหม ถ้าเมื่อไรคุณณิชทนพี่สินธุ์ไม่ไหว ก็มาอยู่กับกานต์นะคะ มาดูแลไร่นี้ให้หน่อย  เพราะกานต์คนเดียว คุณพัฒน์ไม่ยอมแน่ๆ”

ณิชชาตกใจกับคำว่า ‘ทน’ นั้นมาก ไม่รู้ว่าล้อเล่น หรือว่าจริงจัง แต่ผู้หญิงตรงหน้านี้รู้ใจเธอเหลือเกิน คงจะรู้ด้วยว่าอีกไม่นาน เธอทนพี่ชายของตัวเองไม่ไหวตั้งนานแล้ว

ธารากานต์มองตาร่างเล็กส่งความรู้สึกห่วงใย รอยแดงช้ำที่อยู่เต็มคอนั่น ดูเหมือนปิดอย่างไรก็ไม่มิด

“คุณณิชโดนพี่สินธุ์ทำร้ายเพราะกานต์หรือเปล่าคะ” ธารากานต์ตัดสินใจถามตรง ๆ เพื่อดูปฏิกริยาตอบกลับทันทีซึ่งจะเป็นกริยาที่ไม่โกหก แล้วก็ทำให้เธอเห็นจริง ณิชชาดูตกใจกับคำถามของเธอมาก มือบางนั่นยกขึ้นมาเอาเสื้อปิดที่คอทันที

“เปล่าหรอกค่ะ ไม่มีอะไร ไม่ใช่นะคะ”

 “เปล่า ไม่มีอะไร หรือว่าไม่ใช่นะคะ”  ธารากานต์ถามย้ำ กดดัน อยากให้ร่างบางพูดความจริงให้มากที่สุด

“เปล่าค่ะ เอ่อ ณิชว่า เรากลับกันดีกว่าค่ะ อากาศร้อนมากแล้ว”

          “จะไม่บอกจริง ๆ เหรอคะว่า ทำไมคุณณิชต้องยอมคุณสินธุ์ขนาดนี้ด้วย แล้วที่คุณสินธุ์ทำแบบนี้เป็นเพราะกานต์หรือเปล่า”

 “เอ่อ เปล่าค่ะ คุณกานต์ ไม่มีอะไรค่ะ คุณสินธุ์ไม่ได้ทำอะไรณิช หรอกค่ะ” 

“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ ไม่ได้ทำก็ไม่ได้ทำ กานต์ว่าคุณณิชมาทางนี้ดีกว่า ตรงนั้นมีที่นั่งเล่นแล้ววิวก็สวยมาก เป็นที่ชมวิวของคุณพัฒน์ เขาทำไว้เป็นที่พักผ่อนส่วนตัว แต่ตอนนี้กลายเป็นของส่วนรวมของพวกเราไปแล้ว” ธารากานต์หัวเราะกับคำพูดตัวเอง

หลังจากนั้นธารากานต์พาณิชชาไปอีกหลายที่ ซึ่งแต่ละที่ก็ดูเหมือนจะถูกอกถูกใจคนตัวเล็กข้าง ๆ นี่เหลือเกิน แต่พอถึงเวลาจะชวนกันกลับ ก็กลับมีชายหนุ่มตัวสูงมายืนอยู่ตรงหน้าซะนี่

“พี่สินธุ์ มาถึงตรงนี้ได้ยังไงคะ” ธารากานต์ถามเมื่อเห็นหน้าบึ้ง ๆของพี่ชายที่มองมายังชายหนุ่มข้าง ๆ ไม่กะพริบตา

“ให้คนงานมาส่งน่ะ คุณพัฒน์ของกานต์ไปโรงผลิตไวน์ได้สักพักแล้ว เห็นว่าน้องชายมีอะไรจะปรึกษาน่ะ”

 “อ๋อ ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้า “แล้วพี่สินธุ์มีแผนจะไปที่ไหน

หรือเปล่าคะ หรือว่าจะไปกับพวกเรา นี่กานต์ยังไม่ได้พาคุณณิชไปดูเรือนเพาะชำเลย ที่นั่นนอกจากจะมีต้นกล้าขององุ่นแล้ว ยังมีดอกไม้ แล้วก็พันธุ์ไม้อื่น ๆ อีกเยอะเลยค่ะ” กานต์ถามสงสัยนิดหน่อยที่บนหน้าของชลาสินธุ์มีรอยช้ำ ๆ บาง ๆ สีเขียวๆ

“พี่ไม่มีแผนอะไรหรอก แล้วแต่กานต์เลย”

ธารากานต์พาทั้งคู่ชมไร่จนเกือบทั่ว กว่าจะรู้ตัวอีกทีขาก็อ่อนแรงไปหมดแล้ว ร้อนถึงคนงานจะต้องขับรถมาส่งที่บ้าน ไม่ใช่เธอคนเดียวหรอกที่หมดแรง แต่ณิชชาหญิงสาวตัวบางที่ดูเหมือนจะไม่เคยออกแดดเลย ยิ่งอาการหนักกว่า หลายครั้งที่เธอเห็นว่าณิชชาเกือบจะล้มเพราะหน้ามืด แต่ก็ได้มือหนา ๆ ของพี่ชายช่วยประคองไว้ ธารากานต์ทำเป็นไม่เห็นเสีย เพราะกลัวว่าพี่ชายจะเลิกทำแบบนั้น

“คุณณิชหลับแล้วเหรอคะ” กานต์ถามขณะยกแก้วน้ำดื่มให้พี่ชาย หลังจากที่ชลาสินธุ์ไปส่งณิชชาที่ห้องรับรองแขก เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเริ่มไม่ไหวแล้วจริงๆ

“อืม หลับแล้ว คนอะไรไม่ดูลิมิตตัวเอง”

“กานต์ผิดเองละค่ะ ลืมคิดไปว่า คุณณิชไม่เคยออกแดดแบบนี้นาน ๆ”

“สำออยน่ะสิ” ชลาสินธุ์พูดเบา ๆ ติดอยู่ที่ริมฝีปากทำให้หญิงสาวไม่ได้ยินถนัดนัก

“อะไรนะคะ”

“เปล่าหรอก แล้วนี่กานต์จะกลับไปเยี่ยมบ้านบ้างหรือเปล่า”

 “อีกสักพักน่ะค่ะ รอให้ทุกอย่างที่นี่เข้าที่เข้าทางซะก่อน”

“อยู่ที่นี่กานต์จะเหนื่อยเกินไปหรือเปล่า อยู่ได้แน่เหรอ ไม่คิดจะกลับไปอยู่กับพี่จริง ๆ เหรอ”

“พี่สินธุ์คะ ปล่อยกานต์ไปเถอะ กานต์รักคุณพัฒน์จริง ๆ ได้โปรดให้กานต์ได้ใช้ชีวิตกับคุณพัฒน์เถอะค่ะ” 

ชลาสินธุ์หน้าบึ้ง ทั้งตกใจและโกรธ ไม่คิดว่ากานต์จะพูดตรงขนาดนี้และคำพูดตรง ๆ นั้นก็ทำร้ายเขาเหลือเกิน

 “คุณณิชน่าสงสารนะคะ ตัวเล็กแค่นั้น แต่ทำงานหนักน่าดู”

“จะไปสงสารอะไรกับคนแบบนั้น  ถ้าพี่ไม่สามารถทำให้เขา

เติบ โต หรือได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นได้ มีชื่อเสียงมีสื่อมาคอยสัมภาษณ์ คงไม่ติดพี่แจขนาดนั้นหรอก”

“กานต์นึกว่า พี่สินธุ์เป็นคนติดคุณณิชแจซะอีก” กานต์ว่าขำๆ

“หืม? กานต์พูดอะไรน่ะ คนที่พี่จะติดแจก็มีแค่กานต์คนเดียวเท่านั้นแหละ”

“พี่สินธุ์เชื่อกานต์นะคะ พี่สินธุ์ไม่ได้รักกานต์แบบที่รักคนรักหรอก ลองสำรวจใจตัวเองดี ๆ”

ชลาสินธุ์มองธารากานต์อย่างพินิจพิเคราะห์ นึกถึงคำพูดของ

พัฒนศักดิ์ที่เพิ่งพูดใส่เขาพร้อมกับหมัดหนัก ๆ เมื่อเช้า

‘รู้ใจตัวเองซะทีเถอะคุณสินธุ์ กานต์น่ะเป็นน้อง แต่อีกคนที่ไปด้วยกัน ไม่ใช่’

 ชลาสินธุ์มองหน้ากานต์ ก่อนจะหันไปมองประตูปิดสนิทที่ใครบางคนนอนหลับอยู่ในนั้น

ณิชชาลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าเป็นเวลาเย็นมากแล้ว  และตัวเขาก็กลับมาอยู่ในห้องพักที่สวรรยา รีสอร์ตเรียบร้อยแล้ว  เสียงกรีดร้องของโทรศัพท์มือถือดังขึ้น หญิงสาวงัวเงียกว่าจะรู้ว่ามือถือของตนวางไว้ที่หน้ากระจก และไปคว้ามันมาก็นานเหลือเกิน

“ค่ะ” เสียงแหบพร่ารับสาย

“กานต์โทร.มาปลุกคุณณิชเหรอคะ ขอโทษทีค่ะ นึกว่าคุณณิชตื่นแล้ว”

“เปล่าค่ะคุณกานต์ พอดีณิชคอแห้งน่ะค่ะ คุณกานต์มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า” ณิชชารู้สึกอายเล็กน้อยที่ตัวเองเป็นลมแดด แล้วยังต้องใช้เวลานอนนานขนาดนี้ ก็ถ้าที่ผ่านมาเธอได้พักผ่อนเพียงพอไม่ต้องคอยตามข่าวเรื่องคดีที่คนไม่เอาไหนนั่นทำเอาบริษัทเกือบแย่ และยังมีกิจกรรมบนเตียงอีก เธอก็คงไม่สลบเหมือดขนาดนี้หรอก

“มีเรื่องจะขอร้องคุณณิชให้ช่วยสักนิดหนึ่งน่ะค่ะ”

“ค่ะ ได้ค่ะ คุณกานต์อยากให้ณิชช่วยอะไรคะ”

“ช่วยดูแลพี่สินธุ์แทนพวกเราหน่อย ตอนนี้พี่สินธุ์เหมือนอยู่คนเดียวเลยค่ะ นายเรศก็ไม่ค่อยสนใจใคร น้องธารก็ไม่อยู่บ้าน  การที่ต้องทำ ต้องคิด ต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวมันแย่มากนะคะ พี่สินธุ์น่าสงสารมาก” ธารากานต์พูด พลางนึกถึงคำที่สาคเรศใช้เรียกณิชชา

“แล้วทำไม...เอิ่ม...”

“กานต์ก็คงต้องอยู่ที่นี่ค่ะ”

“แต่คุณสินธุ์รักคุณกานต์มากนะคะ”

“พี่สินธุ์รักพวกเราทุกคนแหละค่ะ เขารับเอาหน้าที่ที่ต้องดูแล

พวกเราไว้เต็มบ่าเลย นายเรศน่ะคุณสินธุ์คงไม่ห่วงเท่าไร เพราะขานั้นเอาตัวรอดได้  แถมยังมีความแสบเป็นที่ตั้งด้วย แต่สำหรับกานต์กับน้องธารนั่นไม่ใช่ น้องธารเป็นน้องสาวคนเล็ก พี่สินธุ์ก็ย่อมเป็นห่วงเป็นธรรมดา แล้วกานต์ก็เป็นคนตัวเล็กป่วยง่าย ขี้โรคมาตั้งแต่เด็ก คนอื่นก็มองดูถูกว่ากานต์เป็นแค่ลูกเลี้ยง พี่สินธุ์จึงสงสารกานต์มาก กานต์ว่าตรงนี้พี่สินธุ์อาจจะเข้าใจผิดว่ามันคือความรัก” ธารากานต์ค่อย ๆ อธิบาย  น้ำเสียงของเธอ

บ่งบอกว่ารัก เทิดทูนและสงสารชลาสินธุ์มากจริง ๆ

“...”

“คุณณิชคะ พี่สินธุ์เป็นคนที่ดีที่สุดในโลกมั้ย กานต์ไม่รู้หรอก

นะคะ แต่พี่สินธุ์คือพ่อ คือพี่ คือผู้ปกครองที่ดีที่สุดของพวกเรา หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่เสีย พี่สินธุ์ก็แบกภาระหน้าที่การงานไว้ที่ไหล่ข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างหนึ่งเป็นพวกเรา ที่ตลกคือ พี่สินธุ์ดูแลเราเหมือนพวกเราทำอะไรเองไม่เป็นเลย เป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ถ้าพี่สินธุ์จับพวกเราป้อนข้าวด้วยได้เขาคงทำไปแล้ว” ธารากานต์หัวเราะเบา ๆ กับเรื่องราวที่ตัวเองเล่า ทำให้ณิชชาพลอยหัวเราะไปด้วย

“พวกคุณรักกันดีจังเลยนะคะ”

“พวกเรามีกันแค่นี้นี่คะ พี่สินธุ์ดูแลพวกเรามานาน เหนื่อยมามาก กานต์อยากให้พี่สินธุ์มีคนดูแลบ้าง คุณณิชจะรับหน้าที่นี้ได้ไหม”

“คุณสินธุ์ไม่รับเรื่องนั้นจากณิชหรอกค่ะ ณิชอาจจะทำให้ไม่ได้” ณิชชาพูด นึกถึงสถานการณ์ของตัวเอง ตอนนี้เขาเป็นใครในชีวิตของ

ชลาสินธุ์ก็ไม่รู้ อาจจะแค่นางบำเรอเท่านั้น แล้วจะให้ไปดูแลจิตใจใครได้ล่ะ

“ดูภายนอกพี่สินธุ์เป็นคนเข้มแข็งมากนะคะ บางครั้งก็แข็งกระด้างเลยด้วยซ้ำ แต่คุณณิชก็รู้ใช่ไหมว่าไม่ว่าเราจะเข้มแข็งแค่ไหนสุดท้ายเราก็ต้องการใครสักคนดูแลเหมือนกัน”

“คุณสินธุ์ไม่ได้เข้มแข็งนะคะ คุณสินธุ์น่ะร้ายกาจต่างหากล่ะ”

ณิชชาพึมพำ

 “อะไรนะคะ กานต์ได้ยินไม่ถนัด”

“เอ่อ เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร”

“งั้น กานต์ถือว่าคุณณิชตอบตกลงนะคะ”

“เดี๋ยวสิคะ คือ งั้นให้ณิชถามอะไรคุณกานต์สักอย่างได้ไหม”

“คะ?”

“เรื่องคุณชินน่ะค่ะ คุณกานต์รู้จักคุณชินใช่ไหม? ที่เป็นผู้บริหารโรงแรม...น่ะค่ะ”

“อ๋อ พี่ชิน รู้สิคะ” กานต์ตอบ แต่แล้วก็เงียบไป ทำให้ณิชชาอดไม่ได้ที่จะถามคำถามต่ออย่างร้อนรน

“ดูเหมือน...เจ้านายณิชไม่ค่อยชอบเขาเท่าไร” ณิชชาหยั่งเชิง

“คือ...อย่างที่คุณณิชรู้สึกนั่นแหละค่ะ แล้วพี่ชินก็เคยสัญญาแล้ว ว่าจะไม่เข้ามายุ่งกับพี่สินธุ์อีก นี่คุณณิชไปเจอพี่ชินมาเหรอคะ” 

ณิชชายังมีเรื่องอยากรู้อีก แต่เพิ่งลองพิจารณาน้ำเสียงของ

ธารากานต์ครั้งแรก มันฟังดูอึดอัดชอบกลจึงพูดตอบกลับไปอย่างสำนึกผิด

“ณิชคงยุ่งไม่เข้าเรื่อง ขอโทษนะคะ” 

“คุณณิชสัญญากับกานต์ว่าจะดูแลพี่สินธุ์ได้ไหมล่ะคะ แล้วกานต์จะเล่าให้ฟัง” ธารากานต์ทิ้งเวลาให้เงียบงันไว้อย่างนั้นสักพัก “กานต์ไม่เคยเห็นคุณสินธุ์ใช้สายตาแบบนั้นกับใครนอกจากคุณณิช”

“แบบไหนคะ”

“ก็แบบ เป็นห่วง หึงหวง อยากดูแลอะไรแบบนี้น่ะค่ะ นายเรศยังไม่เคยได้แบบนี้เลย”

“ณิชไม่น่าจะเคยได้อะไรแบบนั้นนะคะคุณกานต์ คุณสินธุ์จะทำแบบนั้นทำไม แววตาแบบนั้นคงมีให้แต่กับคุณกานต์”

“อย่าพูดแบบนั้นสิคะ กานต์เป็นน้อง และกานต์อธิบายเรื่องนั้นกับคุณไปแล้ว ต่อจากนี้ก็ต้องแล้วแต่คุณณิชละค่ะว่าจะตอบรับความรู้สึกของพี่สินธุ์แบบไหน ยอมดูแลเขาให้กานต์หรือเปล่า”

“ค่ะ ในฐานะเลขา ณิชต้องดูแลเขาอยู่แล้ว ทีนี้ก็ตาคุณกานต์บ้างแล้วค่ะ เรื่องคุณชิน” ณิชชาทวงถาม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   ตอนอวสาน

    ตอนอวสานชลาสินธุ์ให้คนขับรถมารับที่บ้านของพัฒนศักดิ์ในวันรุ่งขึ้น พวกเขากลับมาถึงกรุงเทพฯ ในช่วงบ่าย ๆ แต่น้อง ๆ ทั้งสองคนปฏิเสธที่จะให้เขากลับมาทำงานในทันที ทำให้ประธานบริษัทพร้อมเลขากลายเป็นคนว่างงานในวันนี้ณิชชาหัวเราะเมื่อเห็นว่าชลาสินธุ์ดูจะเป็นห่วงเธอมากเกินจริงไปสักหน่อย ห้ามทำอะไรที่ต้องใช้กำลัง จะไปไหนก็ได้แต่ต้องอยู่ในระยะสายตาที่เขามองเห็น อยากได้อะไรหรืออยากกินอะไรต้องบอก เพราะเขาจะทำให้เอง เรียกว่าณิชชามีหน้าที่อย่างเดียว คือนั่งเฉยๆ“พอแล้วค่ะ คุณมานั่งเถอะ” ณิชชาบอก เมื่อชลาสินธุ์ถามเป็นครั้งที่ร้อยว่าอยากได้อะไรอีกหรือเปล่า หญิงสาวจึงเรียกให้มานั่งดูหนังในห้องนั่งเล่นด้วยกันชายหนุ่มตัดสินใจนั่งลงข้าง ๆ คนรัก และเหมือนเคย นับตั้งแต่กลับ มาจากไร่เจริญตา ไม่มีสักครั้งที่หากได้นั่งคู่กันชลาสินธุ์จะไม่โอบรอบตัวร่างเล็กให้อยู่ในอ้อมกอดตลอดเวลา“ไม่เจ็บแล้วแน่นะ ดูสิ ยังเป็นรอยช้ำอยู่เลย” ชลาสินธุ์บอกพลางใช้นิ้วโป้งลูบไล้เบา ๆ ไปที่รอยช้ำที่แขน ซึ่งยังเป็นรอยเด่นชัด น่าจะเกิดจากการต่อสู้กับลูกน้องของภัสสรา“เจ็บนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรแล้วจริง ๆ ไม่ต้องห่วงหรอก ห่วงขาคุณดีกว

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้าย

    บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้ายภัสสราเดินตรงเข้ามายังชลาสินธุ์ ทำให้ชายหนุ่มต้องถอยหลังเพื่อเว้นระยะ กลุ่มชายฉกรรจ์ผิวเข้มเดินเข้ามาในห้องหลายคน ณิชชาเห็นคนที่โยนเขาเข้าไปในรถตู้รวมอยู่ในนั้นด้วย“ปล่อยฉันลงเถอะ ฉันเดินไหวแล้ว” ณิชชากระซิบบอก ชลาสินธุ์ยอมทำตาม แต่ก็ยังโอบไหล่บางไว้ ไม่ให้ห่างตัว ร่างเล็กซบใบหน้าตัวเองลงกับลำแขนใหญ่ แม้ว่าจะกลัวจนแทบบ้า แต่กลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้เขา“ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี เธอเชื่อมั่นในตัวฉันนะ” ชลาสินธุ์กระซิบบอกอย่างอ่อนโยนณิชชาพยักหน้ารับ เธอจะเชื่อมั่นในตัวคน ๆ นี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามกลุ่มชายฉกรรจ์ตีวงล้อมจนทั่วห้องโดยมีทั้งสามคนอยู่ตรงกลาง“รู้อะไรไหม คุณสินธุ์ คุณทำให้ฉันสูญเสียอะไรไปตั้งหลายอย่าง ลงทุนไปตั้งมากมาย แต่คุณกลับทำลายมันทิ้งในเวลาแค่วันเดียว” ภัสสราเอ่ยขึ้น คำพูดเนิบช้ากว่าปกติ เรียวปากเหยียดยิ้มแต่แววตากลับเข่นอาฆาต“คุณไม่เห็นต้องโกรธผมขนาดนี้เลยคุณสรา”“หึ ไม่ต้องโกรธเหรอ ถ้าคราวนั้น พวกแกไม่ทำตัวเป็นคนดี แล้วปล่อยให้ฉันดำเนินธุรกิจของฉันไป ฉันก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้หรอก แกก็ได้ค่าเช่า ฉันก็ได้กำไร แกทำแบบนั้นทำ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 49 ลักพาตัว

    บทที่ 49 ลักพาตัว“คืนนี้เธอจะนอนที่นี่ใช่มั้ย”“ฉันไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเลย”“ก็ใส่ตัวเดิมสิ ไม่เปื้อนหรอก เพราะคืนนี้เธอไม่ต้องใส่นี่” อีกคนยังดื้อรั้นไม่ฟังคำอธิบายแถมยังทำท่าจะหื่นใส่อีก“คิดจะทำอะไรน่ะ ที่นี่โรงพยาบาลนะ แล้วคุณก็ป่วยอยู่ ทำไหวหรือไง?”“จะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองมั้ย”“ไม่ ฉันไม่ยอมหรอก คุณน่ะ เอะอะก็จะทำมิดีมิร้ายฉันตลอด”“ขี้บ่นจัง” ชลาสินธุ์แกล้งทำท่าเกาหัว “งั้นฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร แต่เธอนอนให้ฉันกอดนะ คิดถึงจะแย่ คิดถึงจะตายอยู่แล้วคนใจร้าย”“ว่าฉันใจร้าย คุณก็ใจร้ายเหมือนกันนั่นแหละ”“นะ”“เอ่อ...ถ้าคุณไม่ทำอะไรจริง ๆ ฉันนอนด้วยก็ได้”“ไม่ทำหรอก ถ้าเธอไม่เผลอน่ะ”“อะไรนะ!” และอย่างไม่ต้องรอคำตอบ ณิชชาก็ฟาดมือไปที่แขนคนป่วยเสียงดังลั่นห้อง ก่อนจะแจกค้อนไปให้อีกหลายทีชลาสินธุ์ลูบแขนตัวเองแล้วหัวเราะไปด้วย“ฉันยอมให้หน่อย ก็ทำร้ายฉันเลยนะ” เสียงอ่อนบอกก่อนจะโอบคนรักให้แน่น ๆ อีกหน “งั้นตกลง นายนอนที่นี่นะ นอนเฉย ๆ ให้ฉันมองหน้า จะได้หายคิดถึง”“หึ” หญิงสาวค้อนคนป่วยขวับ เธอเองก็อยากกอด อยากมองหน้า อยากยิ้มให้ผู้ชายคนนี้ เพื่อให้แน่ใจว่า ความรักระหว่างตัวเองกับ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริง

    บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริงแม้จะเป็นเวลาพลบค่ำแล้วทำให้อาจจะได้พบคนที่เขาคิดถึงแค่ไม่กี่นาทีแต่ณิชชา ก็ตัดสินใจออกจากบ้านทันทีที่อัครชัยปล่อยมือเขา ความโหยหาที่ลอยวนอยู่ในใจมันฉุดกระชากให้เขามาที่นี่ โรงพยาบาลใหญ่ใจกลางกรุง ชลาสินธุ์ถูกย้ายมาที่นี่ทันทีที่ร่างกายสามารถทนต่อการเดินทางได้หญิงสาวเดินหาห้องนั้นจนพบ ในมือถือดอกไม้ช่อเล็ก ๆ ที่ตั้งใจทำเองด้วยหัวใจ มือบางที่กำลังจะเคาะห้องมีอันต้องชะงักค้างไว้“คุณณิชคะ คุยกันหน่อยดีมั้ย” ชลาธารที่เพิ่งมาถึงเช่นกัน มองมาที่ณิชชา ไม่มีสายตาของมิตรภาพแม้แต่น้อยชลาสินธุ์นอนลืมตาโพรงอยู่บนเตียงคนป่วย แม้อาการทางกายจะค่อย ๆ หายจนเกือบเป็นปกติ เพราะรถที่ชนก็แค่เฉี่ยวขาทำให้เจ็บที่หัวเข่าซ้ายเท่านั้น แย่หน่อยตรงที่ตอนกระโดดหลบ หัวของเขามันไปชนต้นไม้ข้างทางทำให้ทั้งน้อง ๆ และคุณหมอค่อนข้างเป็นห่วง แต่อาการทางใจของชายหนุ่มก็ทำให้ตอนนี้เขาแทบไม่ต่างจากผักเหี่ยว ๆ ที่รอวันเฉาลงไปอีกชลาธารรับหน้าที่ดูแลพี่ชายของเธอที่โรงพยาบาล ขณะที่คนอื่นดูแลเรื่องงาน ยิ่งเห็นพี่เป็นแบบนี้ ก็ยิ่งโกรธณิชชามากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นว่าเป็นคนนิ่ม ๆ ไม่คิดว่าจะมีอิ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้ว

    บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้วชลาธารทำอย่างที่ตนเองได้ลั่นวาจาไว้ทันทีที่วันทำงานวันแรกมาถึง“คุณณิชคะ คุยกับธารในห้องก่อนค่ะ” มาถึงยังไม่ทันได้นั่ง ก็เอ่ยปากให้ณิชชาเดินตามตัวเองเข้าไปในห้องแล้ว ณิชชาเดาไม่ถูกว่าเจ้านายคนเล็กคนนี้จะพูดเรื่องอะไร เรื่องงานหรือว่าอย่างอื่น เพราะแทบจะไม่เคยทำงานด้วยกันเลย ยิ่งหญิงสาวไปเรียนต่อได้เป็นปีแล้ว ยิ่งห่างกันไป เดาใจไม่ถูก“คุณธาร มีอะไรให้ณิชทำเหรอคะ” ณิชชาพูดก่อนจะนั่งลงตามมือที่ผายออก หญิงสาวไม่ได้ชวนเธอนั่งที่โต๊ะทำงาน ซึ่งตอนนี้คนที่ยึดโต๊ะตัวนั้นเป็นของตัวเองยังไม่มา แต่พวกเธอนั่งคุยกันที่โซฟารับแขกซึ่งอยู่ในห้องทำงานของชลาสินธุ์ด้วยนั่นเอง“คุณณิชจะว่าอะไรมั้ยคะ ถ้าธารจะถามเรื่องพี่สินธุ์” ยิงคำถามทันทีพร้อมกอดอกฟังคำตอบ แต่ดูเหมือนคนที่ต้องตอบจะยังหาเสียงของตัวเองไม่เจอ“คือ...เอ่อ...”“ไปเยี่ยมสักวัน หรือดอกไม้สักช่อ ไม่คิดจะส่งไปหน่อยเหรอคะ” ชลาธารพูดแทรกขึ้นอย่างหงุดหงิด อยากจะเล่าสภาพของพี่ชายให้คนตรงหน้าฟังว่าเลวร้ายแค่ไหน แต่ก็กลัวว่าสิ่งที่ได้กลับมาจะเป็นอย่างอื่นนอกจากความเห็นอกเห็นใจ ถ้าณิชชารู้สึกยินดีกับสภาพของพี่ชายตนเอ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 46 รถชน

    บทที่ 46 รถชนณิชชาฟังแล้วอึ้งไป เพราะน้ำเสียงนั้นแม้จะสุภาพแต่ก็เฉียบขาด พี่น้องบ้านนี้บุคลิกไม่เหมือนกันสักคน สาคเรศคนนี้หากฟังจากน้ำเสียง ลักษณะนิสัยคงเป็นแบบ อยู่ตรงกลางระหว่าง ชลาสินธุ์และธารากานต์ คือไม่ได้ดูใจดีมากเหมือนธารากานต์ แต่ก็ไม่ได้ดุและขี้หงุดหงิดเหมือนพี่ชายคนโต“คือ...คุณสินธุ์คงไม่สะดวกให้ดิฉันไปทำงานแล้วล่ะค่ะ”“พี่สินธุ์ไม่อยู่ที่นี่มาสองสัปดาห์แล้วครับ ตั้งแต่คุณไป” เสียงถอนหายใจปล่อยมาตามสาย “คุณทำให้พี่สินธุ์อยู่ที่นี่ไม่ได้ แล้วคุณก็จะไม่อยู่ดูแลที่นี่อีก นี่คุณกะจะให้พวกเราล่มจมเลยเหรอครับ”“คุณเรศคะ...ดิฉันเปล่า...คือ...ดิฉันไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายพวกคุณเลยนะ เพียงแต่ไม่คิดว่าคุณสินธุ์เขา...”“เขาจะอยู่ไม่ได้เมื่อไม่มีคุณ?” สาคเรศขัดอีกแล้ว แล้วก็ถูกที่ถูกเวลาเสมอ เพราะมันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจณิชชาด้วย คนฟังน้ำตาแทบจะไหลลงมาอีกครั้ง เสียงถอนหายใจของปลายสายทำให้ณิชชาทำอะไรไม่ถูก “ผมทราบว่าคุณไปคุยกับที่อื่นมาแล้ว แต่ก่อนจะไป คุณน่าจะมาเคลียร์งานที่นี่สักหน่อย พรุ่งนี้เข้ามานะครับ ผมรออยู่”สาคเรศวางหูไปนานแล้ว แต่ณิชชายังอยู่ที่ระเบียงไม่ไปไหน ความคิดสับสนว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status