Home / โรแมนติก / ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน / บทที่ 3 เริ่มงานในตำแหน่งใหม่

Share

บทที่ 3 เริ่มงานในตำแหน่งใหม่

last update Last Updated: 2025-06-11 21:40:42

“ไม่ครับคุณภา! ผมไม่อนุมัติ!!!”

ชลาสินธุ์ส่งเสียงไม่พอใจออกมาเมื่อประภาพรยื่นซองขาวที่ด้านในบรรจุใบลาออกเอาไว้ให้ เขาพูดออกมาก่อนที่จะทันได้เปิดซองนั้นเสียด้วยซ้ำ

“โธ่ คุณสินธุ์ให้พี่ออกเถอะค่ะ พี่แก่แล้วนะ แล้วครอบครัวพี่ก็เรียกร้องหาพี่แล้วด้วย” อีกคนอธิบายด้วยน้ำเสียงออดอ้อนลูกหลาน เพราะเธอต้องการลาออกก่อนเกษียณเพื่อไปลงหลักปักฐานอยู่กับสามีและลูกอีกสองคนที่ต่างประเทศ

ชลาสินธุ์ทำสีหน้าเจ็บปวดเมื่อได้ยินคำอธิบายของคนที่อายุรุ่นราวคราวแม่ของเขา ชายหนุ่มรู้ว่าประภาพรทำงานหนักเพื่อเขาและบริษัทมาตลอด ตอนแรกที่ทำกับพ่อก็คงเพื่อเลี้ยงดูลูกๆ ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา แต่ยิ่งทำก็ยิ่งทุ่มเทมากยิ่งขึ้น กลายเป็นเหมือนคนในครอบครัวของเขาไปโดยปริยาย

“คุณภาลาพักร้อนชั่วคราวได้ไหม ผมให้ลาสามเดือนเลย จ่ายเงินเดือนปกติด้วยเอ้า เถอะนะครับ อย่าไปเลย ถ้าคุณภาไป ผมก็แย่ละสิ”

อาการเหมือนเด็กน้อยขี้อ้อนแบบนี้ทำให้ประภาพรอดยิ้มไม่ได้ นานแล้วเหมือนกันนะ ที่เธอไม่ได้เห็นท่าทางแบบนี้ นับตั้งแต่ที่ผู้ชายสูงใหญ่ตรงหน้าต้องมารับหน้าที่เป็นผู้กุมบังเหียนอาณาจักรแห่งนี้กระมัง

“ไม่ได้หรอกค่ะคุณสินธุ์ พี่นัดกับสามีกับลูกไว้แล้ว พวกเราจะพากันเที่ยวเป็นปีเลยค่ะ”

“ไม่บอกกันก่อนเลย แล้วใครจะช่วยผมล่ะครับ ผมตายแน่ ๆ เลยคุณภา”

“จะตายอะไรค่ะ ก็มีน้องณิชไงคะ น้องณิชเก่งกว่าพี่ แอ็กทีฟกว่าพี่ ทันสมัยกว่าพี่อีกค่ะ น้องณิชนี่แหละที่ทำให้พี่ตัดสินใจง่ายขึ้น”

“คุณภา โธ่เอ๊ย...” ชายหนุ่มทำหน้าไม่สบอารมณ์เป็นที่สุด แต่คู่สนทนากลับยิ้มน้อย ๆ อย่างเอ็นดูปนระอา

“พี่ไม่รู้นะว่าคุณสินธุ์มีปัญหาอะไรกับน้องณิชนัก เพราะเท่าที่ดูพี่เห็นแต่คุณสินธุ์ที่ตั้งแง่กับน้องเขา เอาละ...สมมติว่าศรศิลป์ไม่กินกัน...” ประภาพรหยุดพูดไปพักหนึ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายตั้งใจฟัง และเมื่อเห็นว่าเขาไม่มีปัญหาจึงพูดต่อ “สมมติว่า เราตัดเรื่องศรศิลป์ไม่กินกันออกไป สมมติว่า คุณสินธุ์เปิดใจกว้าง แล้วเราว่ากันแต่เรื่องงาน มีงานไหนบ้างไหมคะ ที่น้องณิชทำพลาด ขาดความกระตือรือร้น ไม่มีความรับผิดชอบ หรือทำให้เกิดความเสียหาย”

“นี่ผู้หญิงคนนั้นผ่านโปรแล้วเหรอครับ เพิ่งจะสามเดือนเอง”

“แล้วคุณสินธุ์จะเซ็นให้ผ่านไหมล่ะคะ”

“...”

“สำหรับพี่ ผ่านตั้งแต่สัปดาห์แรกแล้วค่ะ” หญิงวัยกลางคนยิ้มให้กับคำตอบของตัวเอง

“เรื่องงานผมไม่มีปัญหา แต่กับตัว...”

“ทำไมคะ น้องณิชมีอะไร”

“ชอบทำหน้าแปลก ๆ เวลามองผม”

“หืม? คิดมากหรือเปล่าคะ ปกติน้องณิชอัธยาศัยดีค่ะ ใครมาใครไปก็ยิ้มให้ทั้งนั้น รอยยิ้มของคนที่เราไม่ชอบ เลยทำให้ดูแปลก ๆ หรือเปล่าคะ” ประภาพรตั้งข้อสังเกต ก่อนจะว่าต่อ “ถ้าไม่ใช่คนนี้ พี่ก็ไม่รู้จะไปหาใครมาที่ดีกว่านี้มาให้คุณสินธุ์แล้วละค่ะ ลองมองให้ดีสิคะ ตัดความรู้สึกส่วนตัวทิ้งไป แล้วมองน้องณิชด้วยสายตาของผู้บริหารที่กำลังมองคนทำงาน คุณสินธุ์คิดว่าน้องณิชเป็นยังไงคะ”

“เป็นคนดีของคุณภาละมั้งครับ”

“หึ ต่อไปก็จะเป็นคนดีของคุณสินธุ์ด้วยค่ะ” สาวใหญ่ยิ้มกว้าง “งั้นก็เท่านี้นะคะ ลาออกล่วงหน้าหนึ่งเดือน แล้วน้องณิชขึ้นแทนพี่” ประภาพรโปรยยิ้มให้เจ้านายหนุ่มอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้คนขี้หงุดหงิดและปิดใจนั่งอยู่ที่เดิมด้วยใบหน้าบึ้งตึง

ข่าวคราวการลาออกของประภาพรนั้นดังแบบกระซิบกันไปทั่วมาสักพัก ก็เริ่มมีการพูดคุยกันจริงจัง เมื่อที่บอร์ดประกาศของบริษัทมีประกาศแต่งตั้งให้ ณิชชา ขึ้นรับตำแหน่งเลขาท่านประธาน

น้อยคนมากที่ไม่เห็นด้วยกับการปรับโยกย้ายในครั้งนี้ เพราะมาทำงานเพียงไม่กี่เดือน กับประสานงานกับทุกฝ่าย รวมทั้งทำงานกับลูกค้าก็ได้รับแต่เสียงชื่นชม ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่ณิชชาทำงานที่เก่า จนหลายคนเคยได้ยินชื่อเสียงด้านนี้มาก่อนแล้ว

ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะทำงานได้ดีไม่เท่ากับณิชชา หรือ...ก็แค่ไม่ชอบ อย่างคนที่อยู่ในห้องตอนนี้

อันที่จริง เขาควรจะชอบณิชชา ควรจะชอบมาก ๆ ด้วย เพราะ

ณิชชาเหมือนกับธารากานต์ไปหมดทุกอย่าง เหมือนจะแทบจะแยกกันไม่ออก แต่สายตาที่มองเขาแบบนั้น ถ้าไม่ได้หวังก้าวหน้าเร็วโดยใช้ทางลัด แล้วจะแปลว่าอะไรได้อีก

หรือจะเป็นเรื่องซุ่มซ่าม แข้งขาอ่อนแรงไปซะทุกทีที่เจอเขา หึ...ที่ผ่านมาเขาเจอคนขี้อ่อยมาแล้วมากมาย แต่ไม่มีใครน่ากลัวเท่าณิชชา ผู้หญิงคนนี้มีความเก่งกาจเรื่องการงานเป็นโล่กำบังตัวตนที่แท้จริงไว้ไม่ให้คนอื่นอ่านออก แต่กับเขานั้น...ไม่ใช่

ณิชชาไม่สามารถปิดบังเขาได้ สิ่งที่เขารู้ก็คือ เธอไม่ใช่ผู้หญิงขี้อ่อยธรรมดา แต่เป็นตัวแม่ทางด้านการก้าวกระโดดเชียวล่ะ

หึ...ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าคิดจะใช้เต้าไต่กับฉัน มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น คนเก่งในโลกนี้หาไม่ยากหรอก ต่อไปจะเป็นบทพิสูจน์ของเธอ รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ออกไปซะ!!!

ประกายตาของชายหนุ่มฉายแวววับวาว มือของเขากำแน่น

ณิชชารับตำแหน่งเลขาของท่านประธานมาสองเดือนเต็มแล้ว แม้งานของเลขาจะมากกว่าตอนที่ประภาพรอยู่หลายเท่าอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่หญิงสาวกลับทำมันออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ไม่มีร่องรอยให้ตำหนิได้เลยสักนิด แต่เรื่อง ทำกาแฟหก เดินสะดุดล้ม ปัดของตกและอื่น ๆ ก็ยังให้เห็นอยู่เนือง ๆ ราวกับว่า ตรงนี้มันไม่เคยถูกพัฒนาเลย

“พี่พายกับพี่บัวกลับก่อนได้เลยนะคะ ณิชเก็บของอีกนิดเดียวก็จะกลับแล้วเหมือนกัน” หญิงสาวบอกกับผู้ช่วยซึ่งเป็นรุ่นพี่และทำงานที่นี่มาก่อนในช่วงเย็นวันหนึ่ง ก่อนที่ตัวเองจะเคลียร์งานเอกสารอยู่อีกครึ่งชั่วโมงก็เตรียมลุก แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเสียงอินเตอร์คอมดังขึ้น

“คะ?”

“เข้ามาให้ห้องหน่อย มีงานให้ทำ”

“ค่ะ” หญิงสาวรับคำเสียงเบา แล้วมองนาฬิกา ทุ่มครึ่งแล้ว

“คุณสินธุ์มีอะไรให้ดิฉันทำเหรอคะ” ณิชชาถามเมื่อก้าวเข้ามาให้ห้องเจ้านาย ในใจคิดว่า ไม่ว่าสั่งงานอะไรมา เธอจะทำให้เร็วที่สุด เพราะอยากกลับบ้านเต็มทีแล้ว

“ทำงานเลขาฉัน เป็นยังไงบ้าง ต่างจากตอนที่ทำงานกับคุณภายังไง”

“เอ่อ...ก็ดีนะคะ ปกติค่ะ เพียงแต่ตอนนั้นมีอะไรไม่เข้าใจก็สามารถสอบถามคุณภาได้ แต่ตอนนี้อาจจะต้องตัดสินใจเองบ้าง”

อันที่จริง ชลาสินธุ์ชอบความสามารถนี้มาก เขาเกลียดคนที่อะไรก็ต้องถาม แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ณิชชาทำให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ง่าย ๆ

“ฉันมีงานอย่างอื่นให้เธอทำ คิดว่าเธอน่าจะชอบ”

“งานอะไรคะ ดิฉันไม่...” หญิงสาวตกใจเล็กน้อยที่เห็นว่า เขาลุกออกจากโต๊ะมา แววตาของเขากร้าวจนน่ากลัว

“ก่อนอื่น ฉันต้องถามเธอก่อนว่า เธอต้องการอะไรจากฉัน”

“คะ? เอ่อ...คุณสินธุ์หมายถึงอะไรคะ ดิฉันไม่เข้าใจ” หญิงสาวตอบตะกุกตะกัก จนถึงตอนนี้ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก

“ไม่รู้?” เขาเลิกคิ้ว มือทั้งสองข้างสอดไว้ในกระเป๋ากางเกง “ฉันหมายถึง ที่เธอพยายามใกล้ชิดฉันด้วยท่าทางแปลกๆ หรือเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง อย่างมักจะล้มใกล้ๆ ฉัน มันจะทำเหมือนต้องการความช่วยเหลือเวลาอยู่กับฉัน หรือมองฉันด้วยแววตาบางอย่างที่เธอชอบส่งออกมานั่นน่ะ เธอต้องการอะไร”

“หา? เปล่านะคะคุณสินธุ์ ณะ...ณิช...คือ...ดิฉัน ดิฉันไม่ได้ต้องการอะไรเลยค่ะ ไม่ได้ทำอย่างที่คุณสินธุ์บอกด้วยค่ะ” ณิชชาร้องเสียงหลง ตกใจจนหน้าซีด ทั้งจากคำพูดและท่าทีคุกคามของเขา

“เหรอ? เธอเข้ามาอยู่ที่นี่ครึ่งปีแล้วณิชชา ท่าทางของเธอไม่เคยเปลี่ยน สายตาของเธอก็ด้วย ครึ่งปี ฉันคงไม่ได้เข้าใจผิดหรอกมั้ง”

ท่าทางแบบนั้น คำพูดแบบนั้น ทำให้หญิงสาวตกใจกลัวจนพูดไม่ออก ในใจร่ำร้องให้พี่อัคของเธอช่วย

แต่พี่อัคก็ไม่อยู่ตรงนี้...

“ถ้าอยากใกล้ชิดฉันมาก ฉันจะให้งานเธอเพิ่ม” เขาพูดเสียงต่ำ เป็นการเป็นงาน นั่นทำให้หญิงสาวใจชื้นขึ้นมาหน่อย “งานเยอะหน่อย อาจจะต้องพ่วงหลายตำแหน่ง แต่ว่าเธอก็จะได้เงินเพิ่มด้วย หึ” เขาส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่า หญิงสาวตาวาว

“งานอะไรคะ”

“จริง ๆ เลขานี่ก็ครอบคลุมถึงผู้ช่วยฉันด้วยใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ พี่ภาบอกว่า เลขาคุณสินธุ์ก็คือ ผู้ช่วยส่วนตัวคุณสินธุ์ด้วย”

“ใช่ ผู้ช่วยส่วนตัวก็คือต้องดูแลทุกอย่าง ทั้งเรื่องงานภายใน ภายนอก เรื่องส่วนตัวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า รวมถึงเรื่อง...บนเตียง”

“คุณสินธุ์!!!”

ณิชชาไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น เพราะชลาสินธุ์ทดลองงานทันที

เขาตะโบมจูบไปยังริมฝีปากของหญิงสาวจนทั้งปากนั้นเจ็บร้าวไปหมด หญิงสาวพยายามผลักไสเขาออก แต่เหมือนกำลังออกแรงสู้กับกำแพงหนาที่ไม่ว่าออกแรงเท่าไรก็ไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด เอวบางแทบขาดของเธอถูกเรียวแขนแกร่งรัดเอาไว้จนแน่น

“อ๊ะ...เจ็บ...ปล่อยนะ ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนี้” หญิงสาวพูดออกมาได้ในที่สุด ตอนที่เขาปล่อยปากของเธอแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะหยุดและฟัง เพราะเขาหันไปฝังเขี้ยวลงกับซอกคอหอมของเธอทันที

“โอ๊ย...ปล่อย...บอกให้ปล่อยไง”

“อ๊ากกก!!”

ชลาสินธุ์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดหลังจากที่หญิงสาวเองก็เล่นเหมือนกันกับเขา เธอกัดคอเขาจนจมฟันทีเดียว

“ก็คุณเริ่ม อุ๊ก...”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   ตอนอวสาน

    ตอนอวสานชลาสินธุ์ให้คนขับรถมารับที่บ้านของพัฒนศักดิ์ในวันรุ่งขึ้น พวกเขากลับมาถึงกรุงเทพฯ ในช่วงบ่าย ๆ แต่น้อง ๆ ทั้งสองคนปฏิเสธที่จะให้เขากลับมาทำงานในทันที ทำให้ประธานบริษัทพร้อมเลขากลายเป็นคนว่างงานในวันนี้ณิชชาหัวเราะเมื่อเห็นว่าชลาสินธุ์ดูจะเป็นห่วงเธอมากเกินจริงไปสักหน่อย ห้ามทำอะไรที่ต้องใช้กำลัง จะไปไหนก็ได้แต่ต้องอยู่ในระยะสายตาที่เขามองเห็น อยากได้อะไรหรืออยากกินอะไรต้องบอก เพราะเขาจะทำให้เอง เรียกว่าณิชชามีหน้าที่อย่างเดียว คือนั่งเฉยๆ“พอแล้วค่ะ คุณมานั่งเถอะ” ณิชชาบอก เมื่อชลาสินธุ์ถามเป็นครั้งที่ร้อยว่าอยากได้อะไรอีกหรือเปล่า หญิงสาวจึงเรียกให้มานั่งดูหนังในห้องนั่งเล่นด้วยกันชายหนุ่มตัดสินใจนั่งลงข้าง ๆ คนรัก และเหมือนเคย นับตั้งแต่กลับ มาจากไร่เจริญตา ไม่มีสักครั้งที่หากได้นั่งคู่กันชลาสินธุ์จะไม่โอบรอบตัวร่างเล็กให้อยู่ในอ้อมกอดตลอดเวลา“ไม่เจ็บแล้วแน่นะ ดูสิ ยังเป็นรอยช้ำอยู่เลย” ชลาสินธุ์บอกพลางใช้นิ้วโป้งลูบไล้เบา ๆ ไปที่รอยช้ำที่แขน ซึ่งยังเป็นรอยเด่นชัด น่าจะเกิดจากการต่อสู้กับลูกน้องของภัสสรา“เจ็บนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรแล้วจริง ๆ ไม่ต้องห่วงหรอก ห่วงขาคุณดีกว

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้าย

    บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้ายภัสสราเดินตรงเข้ามายังชลาสินธุ์ ทำให้ชายหนุ่มต้องถอยหลังเพื่อเว้นระยะ กลุ่มชายฉกรรจ์ผิวเข้มเดินเข้ามาในห้องหลายคน ณิชชาเห็นคนที่โยนเขาเข้าไปในรถตู้รวมอยู่ในนั้นด้วย“ปล่อยฉันลงเถอะ ฉันเดินไหวแล้ว” ณิชชากระซิบบอก ชลาสินธุ์ยอมทำตาม แต่ก็ยังโอบไหล่บางไว้ ไม่ให้ห่างตัว ร่างเล็กซบใบหน้าตัวเองลงกับลำแขนใหญ่ แม้ว่าจะกลัวจนแทบบ้า แต่กลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้เขา“ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี เธอเชื่อมั่นในตัวฉันนะ” ชลาสินธุ์กระซิบบอกอย่างอ่อนโยนณิชชาพยักหน้ารับ เธอจะเชื่อมั่นในตัวคน ๆ นี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามกลุ่มชายฉกรรจ์ตีวงล้อมจนทั่วห้องโดยมีทั้งสามคนอยู่ตรงกลาง“รู้อะไรไหม คุณสินธุ์ คุณทำให้ฉันสูญเสียอะไรไปตั้งหลายอย่าง ลงทุนไปตั้งมากมาย แต่คุณกลับทำลายมันทิ้งในเวลาแค่วันเดียว” ภัสสราเอ่ยขึ้น คำพูดเนิบช้ากว่าปกติ เรียวปากเหยียดยิ้มแต่แววตากลับเข่นอาฆาต“คุณไม่เห็นต้องโกรธผมขนาดนี้เลยคุณสรา”“หึ ไม่ต้องโกรธเหรอ ถ้าคราวนั้น พวกแกไม่ทำตัวเป็นคนดี แล้วปล่อยให้ฉันดำเนินธุรกิจของฉันไป ฉันก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้หรอก แกก็ได้ค่าเช่า ฉันก็ได้กำไร แกทำแบบนั้นทำ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 49 ลักพาตัว

    บทที่ 49 ลักพาตัว“คืนนี้เธอจะนอนที่นี่ใช่มั้ย”“ฉันไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเลย”“ก็ใส่ตัวเดิมสิ ไม่เปื้อนหรอก เพราะคืนนี้เธอไม่ต้องใส่นี่” อีกคนยังดื้อรั้นไม่ฟังคำอธิบายแถมยังทำท่าจะหื่นใส่อีก“คิดจะทำอะไรน่ะ ที่นี่โรงพยาบาลนะ แล้วคุณก็ป่วยอยู่ ทำไหวหรือไง?”“จะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองมั้ย”“ไม่ ฉันไม่ยอมหรอก คุณน่ะ เอะอะก็จะทำมิดีมิร้ายฉันตลอด”“ขี้บ่นจัง” ชลาสินธุ์แกล้งทำท่าเกาหัว “งั้นฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร แต่เธอนอนให้ฉันกอดนะ คิดถึงจะแย่ คิดถึงจะตายอยู่แล้วคนใจร้าย”“ว่าฉันใจร้าย คุณก็ใจร้ายเหมือนกันนั่นแหละ”“นะ”“เอ่อ...ถ้าคุณไม่ทำอะไรจริง ๆ ฉันนอนด้วยก็ได้”“ไม่ทำหรอก ถ้าเธอไม่เผลอน่ะ”“อะไรนะ!” และอย่างไม่ต้องรอคำตอบ ณิชชาก็ฟาดมือไปที่แขนคนป่วยเสียงดังลั่นห้อง ก่อนจะแจกค้อนไปให้อีกหลายทีชลาสินธุ์ลูบแขนตัวเองแล้วหัวเราะไปด้วย“ฉันยอมให้หน่อย ก็ทำร้ายฉันเลยนะ” เสียงอ่อนบอกก่อนจะโอบคนรักให้แน่น ๆ อีกหน “งั้นตกลง นายนอนที่นี่นะ นอนเฉย ๆ ให้ฉันมองหน้า จะได้หายคิดถึง”“หึ” หญิงสาวค้อนคนป่วยขวับ เธอเองก็อยากกอด อยากมองหน้า อยากยิ้มให้ผู้ชายคนนี้ เพื่อให้แน่ใจว่า ความรักระหว่างตัวเองกับ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริง

    บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริงแม้จะเป็นเวลาพลบค่ำแล้วทำให้อาจจะได้พบคนที่เขาคิดถึงแค่ไม่กี่นาทีแต่ณิชชา ก็ตัดสินใจออกจากบ้านทันทีที่อัครชัยปล่อยมือเขา ความโหยหาที่ลอยวนอยู่ในใจมันฉุดกระชากให้เขามาที่นี่ โรงพยาบาลใหญ่ใจกลางกรุง ชลาสินธุ์ถูกย้ายมาที่นี่ทันทีที่ร่างกายสามารถทนต่อการเดินทางได้หญิงสาวเดินหาห้องนั้นจนพบ ในมือถือดอกไม้ช่อเล็ก ๆ ที่ตั้งใจทำเองด้วยหัวใจ มือบางที่กำลังจะเคาะห้องมีอันต้องชะงักค้างไว้“คุณณิชคะ คุยกันหน่อยดีมั้ย” ชลาธารที่เพิ่งมาถึงเช่นกัน มองมาที่ณิชชา ไม่มีสายตาของมิตรภาพแม้แต่น้อยชลาสินธุ์นอนลืมตาโพรงอยู่บนเตียงคนป่วย แม้อาการทางกายจะค่อย ๆ หายจนเกือบเป็นปกติ เพราะรถที่ชนก็แค่เฉี่ยวขาทำให้เจ็บที่หัวเข่าซ้ายเท่านั้น แย่หน่อยตรงที่ตอนกระโดดหลบ หัวของเขามันไปชนต้นไม้ข้างทางทำให้ทั้งน้อง ๆ และคุณหมอค่อนข้างเป็นห่วง แต่อาการทางใจของชายหนุ่มก็ทำให้ตอนนี้เขาแทบไม่ต่างจากผักเหี่ยว ๆ ที่รอวันเฉาลงไปอีกชลาธารรับหน้าที่ดูแลพี่ชายของเธอที่โรงพยาบาล ขณะที่คนอื่นดูแลเรื่องงาน ยิ่งเห็นพี่เป็นแบบนี้ ก็ยิ่งโกรธณิชชามากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นว่าเป็นคนนิ่ม ๆ ไม่คิดว่าจะมีอิ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้ว

    บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้วชลาธารทำอย่างที่ตนเองได้ลั่นวาจาไว้ทันทีที่วันทำงานวันแรกมาถึง“คุณณิชคะ คุยกับธารในห้องก่อนค่ะ” มาถึงยังไม่ทันได้นั่ง ก็เอ่ยปากให้ณิชชาเดินตามตัวเองเข้าไปในห้องแล้ว ณิชชาเดาไม่ถูกว่าเจ้านายคนเล็กคนนี้จะพูดเรื่องอะไร เรื่องงานหรือว่าอย่างอื่น เพราะแทบจะไม่เคยทำงานด้วยกันเลย ยิ่งหญิงสาวไปเรียนต่อได้เป็นปีแล้ว ยิ่งห่างกันไป เดาใจไม่ถูก“คุณธาร มีอะไรให้ณิชทำเหรอคะ” ณิชชาพูดก่อนจะนั่งลงตามมือที่ผายออก หญิงสาวไม่ได้ชวนเธอนั่งที่โต๊ะทำงาน ซึ่งตอนนี้คนที่ยึดโต๊ะตัวนั้นเป็นของตัวเองยังไม่มา แต่พวกเธอนั่งคุยกันที่โซฟารับแขกซึ่งอยู่ในห้องทำงานของชลาสินธุ์ด้วยนั่นเอง“คุณณิชจะว่าอะไรมั้ยคะ ถ้าธารจะถามเรื่องพี่สินธุ์” ยิงคำถามทันทีพร้อมกอดอกฟังคำตอบ แต่ดูเหมือนคนที่ต้องตอบจะยังหาเสียงของตัวเองไม่เจอ“คือ...เอ่อ...”“ไปเยี่ยมสักวัน หรือดอกไม้สักช่อ ไม่คิดจะส่งไปหน่อยเหรอคะ” ชลาธารพูดแทรกขึ้นอย่างหงุดหงิด อยากจะเล่าสภาพของพี่ชายให้คนตรงหน้าฟังว่าเลวร้ายแค่ไหน แต่ก็กลัวว่าสิ่งที่ได้กลับมาจะเป็นอย่างอื่นนอกจากความเห็นอกเห็นใจ ถ้าณิชชารู้สึกยินดีกับสภาพของพี่ชายตนเอ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 46 รถชน

    บทที่ 46 รถชนณิชชาฟังแล้วอึ้งไป เพราะน้ำเสียงนั้นแม้จะสุภาพแต่ก็เฉียบขาด พี่น้องบ้านนี้บุคลิกไม่เหมือนกันสักคน สาคเรศคนนี้หากฟังจากน้ำเสียง ลักษณะนิสัยคงเป็นแบบ อยู่ตรงกลางระหว่าง ชลาสินธุ์และธารากานต์ คือไม่ได้ดูใจดีมากเหมือนธารากานต์ แต่ก็ไม่ได้ดุและขี้หงุดหงิดเหมือนพี่ชายคนโต“คือ...คุณสินธุ์คงไม่สะดวกให้ดิฉันไปทำงานแล้วล่ะค่ะ”“พี่สินธุ์ไม่อยู่ที่นี่มาสองสัปดาห์แล้วครับ ตั้งแต่คุณไป” เสียงถอนหายใจปล่อยมาตามสาย “คุณทำให้พี่สินธุ์อยู่ที่นี่ไม่ได้ แล้วคุณก็จะไม่อยู่ดูแลที่นี่อีก นี่คุณกะจะให้พวกเราล่มจมเลยเหรอครับ”“คุณเรศคะ...ดิฉันเปล่า...คือ...ดิฉันไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายพวกคุณเลยนะ เพียงแต่ไม่คิดว่าคุณสินธุ์เขา...”“เขาจะอยู่ไม่ได้เมื่อไม่มีคุณ?” สาคเรศขัดอีกแล้ว แล้วก็ถูกที่ถูกเวลาเสมอ เพราะมันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจณิชชาด้วย คนฟังน้ำตาแทบจะไหลลงมาอีกครั้ง เสียงถอนหายใจของปลายสายทำให้ณิชชาทำอะไรไม่ถูก “ผมทราบว่าคุณไปคุยกับที่อื่นมาแล้ว แต่ก่อนจะไป คุณน่าจะมาเคลียร์งานที่นี่สักหน่อย พรุ่งนี้เข้ามานะครับ ผมรออยู่”สาคเรศวางหูไปนานแล้ว แต่ณิชชายังอยู่ที่ระเบียงไม่ไปไหน ความคิดสับสนว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status