공유

บทที่ 2 อดีตของณิช

last update 최신 업데이트: 2025-06-11 21:39:40

AA: [ชลาจิรากำลังรับสมัครผู้ช่วยเลขาประธานบริษัทอยู่ ลองไปดูไหม]

  [คุณเป็นใครคะ] ณิชชาพิมพ์ถาม เมื่อเห็นข้อความจากบุคคลปริศนาเด้งเข้ามาในแอปพลิเคชันแชตชื่อดังในโทรศัพท์

 [พี่เป็นห่วง ณิชเป็นคนเก่ง น่าจะได้ทำงานที่ที่ดีกว่านั้น จะได้มั่นคงกว่านี้]

 “พี่อัค?” 

ณิชชาน้ำตาไหลพราก จะมีใครในโลกนี้เป็นห่วงเธอนอกจากเขา หัวใจของหญิงสาวเต้นถี่รัว

...คิดถึง...

ปีกว่าแล้วที่เธอไม่ได้รับการติดต่อจากอัครชัยเลย ปีกว่าแล้วที่เธอยังคงรอเขา มั่นใจว่าเขาต้องกลับมา

AA: [ร้องไห้อยู่รึเปล่า อย่าร้องไห้นะคนดี]

น้ำตาที่ไหลอยู่แล้วก็ยิ่งไหลออกมาราวกับเขื่อนพัง ไม่มีใครรู้จักเธอดีเท่าเขาแล้ว ไม่มีเลย

NiTCHA: [คิดถึงพี่อัคจังเลยค่ะ]

AA: [พี่ก็คิดถึง]

NiTCHA: [วิดีโอคอลล์ได้ไหมคะ อยากเห็นหน้าพี่อัค]

AA: [อย่าเลยนะ คุยกันแบบนี้ดีกว่า]

NiTCHA: [พี่อัค...]

หญิงสาวไม่เข้าใจเลย ไม่เข้าใจเลยสักนิด เธอคิดถึงเขาจะตายอยู่แล้ว

AA: [เพื่อความปลอดภัยของเราเอง]

NiTCHA: [ค่ะ พี่อัคสบายดีไหมคะ]

แต่เข้าใจก็ได้ อย่างน้อยในหนึ่งปีนี้ได้คุยกับเขาบ้างก็ยังดี ถือว่าการรอคอยเป็นปีนั้นคุ้มค่า

AA: [อย่าลืมเรื่องที่พี่บอกนะ อายุยังน้อย ทำงานนอกจากเก็บประสบการณ์แล้วยังต้องหาความก้าวหน้าด้วย]

NiTCHA: [ได้ค่ะ เดี๋ยวณิชจะลองกรอกใบสมัครนะคะ]

AA: [ไปสมัครด้วยตัวเองนะ อย่าสมัครออนไลน์ ไปพบเลขาท่านประธานเลย วันนี้เลยนะ]

NiTCHA: [ทำไมต้องรีบขนาดนั้นด้วยล่ะคะ]

AA: [ทำตามที่พี่บอกก็แล้วกัน พี่เป็นห่วงนะ]

NiTCHA: [ค่ะ ณิชคิดถึงพี่อัคนะคะ รักมาก ๆ ด้วย]

AA: [พี่ก็รักณิช เป็นห่วงณิชเสมอนะ]

NiTCHA: [ถ้าสมัครเสร็จแล้ว ณิชไลน์หานะคะ]

AA: [ไม่ต้อง ไลน์นี้เดี๋ยวพี่ก็ทิ้งแล้ว อย่าไลน์หาพี่ อย่าติดต่อพี่]

???

อัครชัยทำอย่างที่เขาบอก เพราะหลังจากนั้นไม่ว่าณิชชาจะส่งข้อความไปเท่าไร เขาก็ไม่เปิดอ่านข้อความเหล่านั้นเลย และไม่ติดต่อกลับมาอีกเลยจนกระทั่งวันนี้

สิ่งที่ทำให้ณิชชาคลายคิดถึงคนรักลงได้บ้างก็คงจะเป็นแค่การอ่านข้อความในแอปพลิเคชันซ้ำไปซ้ำมา

ดวงตาสีนิลในชุดสูทสีกรมท่าพอดีตัวเผยให้เห็นไหล่กว้าง หลังตรง และช่วงหน้าอกที่มีกล้ามโผล่มาให้เห็น มองหน้าพนักงานของตนที่หน้าห้องของเขาอย่างพินิจพิจารณา

 ณิชชาเอาแต่จ้องมองโทรศัพท์ในมือแล้วก็ยิ้มจนไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง จนกระทั่งได้ยินเสียงกระแอมคุ้นหูดังขึ้นเบา ๆ ร่างบางที่เงยหน้าขึ้นมาดูก็ถึงกับสะดุ้งเพราะแววตาที่เขามองมานั้นมันแปลกจนรู้สึกว่า

น่ากลัวเกินไป หญิงสาวรีบยืนขึ้นแล้วเอ่ยทักทาย ก่อนจะก้มหน้างุดรอฟังคำสั่ง

แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกที เจ้าของดวงตาคมกร้าวนั้น ก็หายไปแล้ว

การทำงานในวันนี้วุ่นวายมาก แม้จะ ‘เอาอยู่’ แต่ก็เป็นการเอาอยู่แบบ ‘เจียนตาย’ วันนี้เจ้านายของเลขาทั้งสองคนมีประชุมสองครั้ง ลูกค้าสาม และงานเอกสารอีกหลายตั้ง ‘ขาขวิด’ ยังแทบจะบรรยายลักษณะการทำงานของสองหญิงเก่งแห่งชั้นบนสุดในตึกนี้ไม่ได้

เมื่อทุกอย่างสิ้นสุดลง ร่างบางก็จัดการเคลียร์โต๊ะทำงาน หวังจะรีบกลับบ้านให้เร็วที่สุด เพราะนี่ก็ดึกมากแล้วรถเมล์รอบสุดท้ายน่าจะหมดแล้ว รถไฟฟ้าก็ด้วย คงเหลือแต่แท็กซี่ที่มักจะเรียกค่าโดยสารโหด ๆ โดยไม่เปิดมิเตอร์ในช่วงเวลาแบบนี้

หญิงสาวมองนาฬิกาข้อมือเรือนหมื่นที่ใส่ติดข้อมือมาหลายปีแล้ว มันเป็นหนึ่งในของขวัญที่อัครชัยซื้อให้ ณิชชาใส่มันติดตัวตลอด อันที่จริง เธอก็ใส่ของขวัญที่คนรักให้ตลอด ตอนนี้สร้อยทองพร้อมจี้ที่อยู่ที่คอของเธอก็เป็นเขาที่ซื้อให้ แหวนที่ตอนนี้เธอใส่ไว้ที่นิ้วก้อยข้างซ้ายก็เป็นเขา น้ำหอมขวดนี้ก็เช่นเดียวกัน เขาชอบกลิ่นนี้ ชอบให้เธอมีกลิ่นนี้ติดตัว เธอรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้มองพวกมัน ราวกับอัครชัยไม่ได้จากไปไหน

ณิชชาจัดการส่งอีเมล์สรุปงานต่าง ๆ ในวันนี้ให้เจ้านาย และ

ทุกคนที่เกี่ยวข้อง จากนั้นก็เตรียมวิ่งทันที

“เฮ้ย!!!”

หญิงสาวลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่กับพื้นหลังจากที่ชนกำแพงที่ทั้งหนาทั้งใหญ่และเป็นกำแพงที่มาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงและไม่คิดจะหลบด้วย 

“โอ๊ยยย...” ณิชชาร้องคราง เจ็บตรงสะโพกที่กระแทกกับพื้นและข้อเท้าข้างหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่อย่างที่คิด เพราะชลาสินธุ์รั้งแขนของเธอเอาไว้ ก่อนจะค่อย ๆ ดึงร่างของหญิงสาวเพิ่มขึ้น

“เอ่อ...ขอบคุณมากนะคะคุณสินธุ์” ณิชชาลุกขึ้นมาปัดแข้งปัดขา สำรวจความเรียบร้อยของข้อเท้า ขาและสะโพกของตัวเอง ปรากฏว่ามันยังใช้การได้ปกติ เพียงแต่ยังเจ็บ ๆ อยู่บ้างเท่านั้น

“ดึกแล้ว กลับบ้านไปได้แล้วไป” เขาเอ่ยเสียงดุจนณิชชาต้องก้มหน้าอีกครั้ง หลายอึดใจทีเดียวกว่าที่หญิงสาวจะรู้ตัวได้ว่า ถูกไล่ให้กลับบ้านแล้ว

“เอ่อ...งั้น ดิฉันขอตัวกลับบ้านเลยนะคะ” เธอไหว้ย่อเร็ว ๆ ทีหนึ่งก่อนจะรีบเดินออกไป          

ชลาสินธุ์มองคนที่กำลังเดินห่างออกไปด้วยแววตาครุ่นคิด

นอกจากลักษณะท่าทาง รูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ธารากานต์กับณิชชา ยังใช้น้ำหอมกลิ่นเดียวกันด้วย

“บ้าเอ๊ย!”

ณิชชายืนอยู่ป้ายรถเมล์ตรงหน้าอาคารชลาจิราอีกครั้ง หญิงสาวภูมิใจอย่างที่สุดที่ได้ทำงานที่นี่ เวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า เธอทำมันได้ดี พี่ภา หรือคุณประภาพรเลขาท่านประธานชมเธอทุกวันเรื่องงาน ส่วนท่านประธานเองนั้น แม้จะมีแววตาแปลก ๆ เวลาที่มองเธอ แต่

หญิงสาวก็ไม่เคยได้รับคำตำหนิใดๆ

สิ่งที่เธอต้องการก็แค่นี้ แค่ให้เธอภูมิใจ ให้พี่อัคของเธอภูมิใจที่เธอทำได้อย่างที่เขาบอกทุกอย่าง

อาคาร ชลาจิรา หรือ ซีเจ ตั้งตระหง่าน เหมือนกับอัครชัย มันยิ่งใหญ่ในชีวิตของเธอเหมือนกับเขา เป็นที่กำบังฝน ที่ที่มอบโอกาส และที่ที่ให้ความเจริญเติบโต แม้เธอจะมาอยู่ที่นี่เพียงเดือนเดียว แต่หญิงสาวเห็นอนาคตของตัวเองแน่นอนแล้ว

เรื่องอื่นเธอไม่สนใจเลยสักนิด แค่ทำให้คนที่พยายามหนุนหลังเธออยู่ได้ภาคภูมิใจในความสำเร็จของเธอเท่านั้นก็พอ

ณิชชาเป็นเด็กต่างจังหวัด ใช้ชีวิตกันมากับแม่เพียงสองคน นี่ก็เป็นอีกคนที่เป็นลมใต้ปีของเด็กหญิงณิชชามาตลอด แม้ว่าตัวเองจะยากลำบากแค่ไหน แต่แม่ก็พยายามอย่างมากที่สุดให้เธอได้ พอขึ้นม.ปลาย ณิชชาก็แบ่งเบาภาระแม่ด้วยการทำงานส่งตัวเองเรียนบ้าง และเมื่อเรียนจบมีงานมีการทำ แม่ของณิชชาก็ไม่ได้ลำบากอีกต่อไปแล้ว

อันที่จริงเงินเดือนที่ณิชชาได้รับนั้นไม่น้อยเลย แต่เพราะต้องการให้แม่อยู่อย่างสุขสบาย หญิงสาวจึงเลือกที่จะเช่าคอนโดเล็กๆ ชานเมือง แล้วนั่งรถเมล์มาทำงานแทนที่จะซื้อรถ หรือสร้างบ้านของตัวเอง

“แม่ไม่ต้องห่วงนะ หนูจะทำให้แม่มีความสุขเอง” เธอเคยบอกกับแม่แบบนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เธอจะรักษาของตัวเองได้ตลอดรอดฝั่ง

รถยนต์คันหรูเลี้ยวออกจากโรงแรมผ่านหน้าเธอไป เธอรู้ดีว่า มันเป็นรถของใคร เพราะทุกครั้งหากว่าประธานของเธอไม่ขับรถเอง จากรถเบนท์ลี่ย์สีน้ำเงินเงางาม จะกลายเป็นเมอร์เซเดส เบนซ์ วีคลาส สีดำสนิท

ดำเหมือน...แววตาของเขา

ทันทีที่คำคำนี้ผุดขึ้นมา แววตาสีดำทมึนของคนที่อยู่ด้านหลังรถหรูคันนั้นก็สบตาเข้ากับเธอเข้าพอดี

อยู่กันมาเป็นเดือนแล้ว แต่หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองเข้าไม่ถึงความรู้สึกในแววตานั้นเลย...ไร้ความรู้สึก

ใช่...มันเป็นแววตาที่ไร้ความรู้สึก แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นแววตาที่ไร้ความรู้สึกสำหรับเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น...ทำไมกัน?!

ประภาพรยื่นใบลาออกแล้ว และหลังจากทำเรื่องทุกอย่างเสร็จ เลขาสาวใหญ่ยังมีเวลาทำงานต่ออีกหนึ่งเดือน แต่ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งเดือนที่เธอใช้วันลาได้สิ้นเปลืองมาก

‘ที่ผ่านมา พี่แทบไม่ได้ลาเลย’ เธอว่าอย่างนั้น เมื่อณิชชาส่ง

แววตาน่าสงสารใส่เมื่อได้ข่าวว่า รุ่นพี่เตรียมจะลากิจอีกแล้ว อย่างวันนี้เธอก็มีธุระบางอย่างต้องทำในช่วงเช้า จึงจะเข้ามาออฟฟิศตอนบ่ายแทน ทิ้งให้ณิชชาอยู่กับกองเอกสารสำคัญกองใหญ่

หญิงสาวไม่มีทางเลือกนอกจากรายงานกับเจ้านายทันทีที่เขามาถึงว่า อีกสักครู่จะนำเอกสารสำคัญอย่างน้อยสามอย่างเข้าไปให้เซนชื่อ 

ณิชชาหอบเอาแฟ้มเอกสารหลายแฟ้มเข้ามาหาเจ้าของห้อง โดยยื่นอันที่สำคัญไว้ตรงหน้าเจ้านายเลย ขณะที่อันที่ยังไม่เร่งด่วนนั้นถูกแยกวางไว้ที่ขอบโต๊ะทำงาน

ชลาสินธุ์ก้มหน้าก้มตาอ่านมันอย่างละเอียดก่อนจะบรรจงเซ็นชื่อของตัวเองลงไปในแต่ละแฟ้ม

ณิชชาชอบมองการกระทำนั้นแล้วนึกไปถึงตอนที่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย อัครชัยเป็นประธานนักศึกษา หญิงสาวมักจะเข้าไปช่วยงานบ่อย ๆ อัครชัยเป็นคนตั้งใจทำงานมาก ทำกิจกรรมเยอะมากทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย แต่ก็ยังเป็นคนที่เรียนเก่งมาก และนั่นก็พาให้หญิงสาวตั้งใจเรียนเพื่อที่จะเป็นคนที่เหมาะสมกับเขาด้วย

อัครชัยก็มักนั่งก้มหน้าอ่านเอกสารอย่างละเอียดรอบคอบแบบนี้ทุกครั้ง ก่อนจะเซ็นต์ชื่ออนุมัติโครงการอะไรสักอย่างที่ทางชมรมหรือกิจการนักศึกษาส่งมาให้พิจารณา

“พี่อัค...” เธอส่งเสียงออกมาเบาๆ...พี่อัคอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว

“หืม? ว่าไงนะ”

 “เอ่อ ขะ ขอโทษค่ะ คุณสินธุ์” ณิชชาระล่ำระลักเมื่ออีกคนเงยหน้าขึ้นมา แล้วพบว่า ไม่ใช่ คนตรงหน้านี้ไม่ใช่พี่อัคของเธอ แต่เป็นเจ้าของดวงตาไร้แววคนหนึ่งต่างหาก

 “มองฉันทำไมขนาดนั้น ต้องการอะไร?” เสียงเยือกเย็นนั้นทำให้ณิชชาขนลุกซู่

 “เปล่าค่ะ เปล่า ไม่มีอะไร” หญิงสาวก้มหน้างุด สายหัวปฏิเสธจนกลัวว่าคอจะหัก ภาพแววตาดำๆ น่ากลัวนั้นโผล่เข้ามาในหัว

 “เอ้า  เสร็จแล้ว” ชลาสินธุ์ส่งเสียงดุแล้วยกแฟ้มเอกสารนั้นขึ้น ก่อนนจะวางหนัก ๆ ลงบนมือของณิชชา หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว แฟ้มที่เขาส่งให้จึงตกลงพื้นทั้งหมด แล้วขาของเธอก็พลาดเหยียบลงไปบนแฟ้มหนึ่งตอนที่ตกใจมากๆ ทำให้เกือบจะล้ม หญิงสาวคว้าข้อมือเจ้าของห้องไว้มั่นตามสัญชาตญาณ และเขาก็จับเธอเอาไว้ตามสัญชาตญาณเช่นเดียวกัน

แต่เป็นสัญชาตญาณดิบ!

แรงกระชากของเขาตวัดร่างของเธอจากที่จะล้มหงายหลังกลายเป็นคะมำมาข้างหน้า จนใบหน้าของเธออยู่ห่างจากใบหน้าถมึงทึงของเขาไม่กี่เซนติเมตร

...ใกล้ความตาย...ณิชาอยากจะกรีดร้องให้กับความซุ่มซ่ามของตนเอง ที่พาตัวเองมาอยู่ใกล้ความตายมากขนาดนี้

“เอ่อ...ขอโทษค่ะ”

“ปกติเป็นคนซุ่มซ่ามแบบนี้หรือเปล่า” เสียงต่ำที่ไม่สามารถบอกอารมณ์ได้ถามขึ้น

เอ่อ...ดิฉันขี้ตกใจค่ะ”

“อ้อ...”

อ้อ? แล้วก็เงียบไป? “...”

“แล้วทำไมยังไม่ไปอีก หรือว่าต้องให้ฉันเก็บแฟ้มพวกนั้นให้เธอด้วย”

          “ค่ะ ค่ะ ขอโทษค่ะ”

          หญิงสาวรีบเก็บข้าวของที่ตกอยู่แล้วรีบเดินออกมาจากห้องท่านประธานทันที เมื่อมาถึงที่โต๊ะตัวเองณิชชาก็รีบเอามือถือของตัวเองออกมา แล้วใช้ข้อความของอัครชัยในแอปพลิเคชั่นออกมาอ่านเพื่อลบกระแสความน่ากลัวในสายตาของคนที่อยู่ในห้อง

          ...หน้าเหมือน ท่าทางเหมือน แต่สายตานี่ไม่ใช่เลย...

          ความอบอุ่นของพี่อัค ไม่มีใครเทียบได้

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   ตอนอวสาน

    ตอนอวสานชลาสินธุ์ให้คนขับรถมารับที่บ้านของพัฒนศักดิ์ในวันรุ่งขึ้น พวกเขากลับมาถึงกรุงเทพฯ ในช่วงบ่าย ๆ แต่น้อง ๆ ทั้งสองคนปฏิเสธที่จะให้เขากลับมาทำงานในทันที ทำให้ประธานบริษัทพร้อมเลขากลายเป็นคนว่างงานในวันนี้ณิชชาหัวเราะเมื่อเห็นว่าชลาสินธุ์ดูจะเป็นห่วงเธอมากเกินจริงไปสักหน่อย ห้ามทำอะไรที่ต้องใช้กำลัง จะไปไหนก็ได้แต่ต้องอยู่ในระยะสายตาที่เขามองเห็น อยากได้อะไรหรืออยากกินอะไรต้องบอก เพราะเขาจะทำให้เอง เรียกว่าณิชชามีหน้าที่อย่างเดียว คือนั่งเฉยๆ“พอแล้วค่ะ คุณมานั่งเถอะ” ณิชชาบอก เมื่อชลาสินธุ์ถามเป็นครั้งที่ร้อยว่าอยากได้อะไรอีกหรือเปล่า หญิงสาวจึงเรียกให้มานั่งดูหนังในห้องนั่งเล่นด้วยกันชายหนุ่มตัดสินใจนั่งลงข้าง ๆ คนรัก และเหมือนเคย นับตั้งแต่กลับ มาจากไร่เจริญตา ไม่มีสักครั้งที่หากได้นั่งคู่กันชลาสินธุ์จะไม่โอบรอบตัวร่างเล็กให้อยู่ในอ้อมกอดตลอดเวลา“ไม่เจ็บแล้วแน่นะ ดูสิ ยังเป็นรอยช้ำอยู่เลย” ชลาสินธุ์บอกพลางใช้นิ้วโป้งลูบไล้เบา ๆ ไปที่รอยช้ำที่แขน ซึ่งยังเป็นรอยเด่นชัด น่าจะเกิดจากการต่อสู้กับลูกน้องของภัสสรา“เจ็บนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรแล้วจริง ๆ ไม่ต้องห่วงหรอก ห่วงขาคุณดีกว

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้าย

    บทที่ 50 จุดจบที่เลวร้ายภัสสราเดินตรงเข้ามายังชลาสินธุ์ ทำให้ชายหนุ่มต้องถอยหลังเพื่อเว้นระยะ กลุ่มชายฉกรรจ์ผิวเข้มเดินเข้ามาในห้องหลายคน ณิชชาเห็นคนที่โยนเขาเข้าไปในรถตู้รวมอยู่ในนั้นด้วย“ปล่อยฉันลงเถอะ ฉันเดินไหวแล้ว” ณิชชากระซิบบอก ชลาสินธุ์ยอมทำตาม แต่ก็ยังโอบไหล่บางไว้ ไม่ให้ห่างตัว ร่างเล็กซบใบหน้าตัวเองลงกับลำแขนใหญ่ แม้ว่าจะกลัวจนแทบบ้า แต่กลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้เขา“ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดี เธอเชื่อมั่นในตัวฉันนะ” ชลาสินธุ์กระซิบบอกอย่างอ่อนโยนณิชชาพยักหน้ารับ เธอจะเชื่อมั่นในตัวคน ๆ นี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามกลุ่มชายฉกรรจ์ตีวงล้อมจนทั่วห้องโดยมีทั้งสามคนอยู่ตรงกลาง“รู้อะไรไหม คุณสินธุ์ คุณทำให้ฉันสูญเสียอะไรไปตั้งหลายอย่าง ลงทุนไปตั้งมากมาย แต่คุณกลับทำลายมันทิ้งในเวลาแค่วันเดียว” ภัสสราเอ่ยขึ้น คำพูดเนิบช้ากว่าปกติ เรียวปากเหยียดยิ้มแต่แววตากลับเข่นอาฆาต“คุณไม่เห็นต้องโกรธผมขนาดนี้เลยคุณสรา”“หึ ไม่ต้องโกรธเหรอ ถ้าคราวนั้น พวกแกไม่ทำตัวเป็นคนดี แล้วปล่อยให้ฉันดำเนินธุรกิจของฉันไป ฉันก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้หรอก แกก็ได้ค่าเช่า ฉันก็ได้กำไร แกทำแบบนั้นทำ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 49 ลักพาตัว

    บทที่ 49 ลักพาตัว“คืนนี้เธอจะนอนที่นี่ใช่มั้ย”“ฉันไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเลย”“ก็ใส่ตัวเดิมสิ ไม่เปื้อนหรอก เพราะคืนนี้เธอไม่ต้องใส่นี่” อีกคนยังดื้อรั้นไม่ฟังคำอธิบายแถมยังทำท่าจะหื่นใส่อีก“คิดจะทำอะไรน่ะ ที่นี่โรงพยาบาลนะ แล้วคุณก็ป่วยอยู่ ทำไหวหรือไง?”“จะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองมั้ย”“ไม่ ฉันไม่ยอมหรอก คุณน่ะ เอะอะก็จะทำมิดีมิร้ายฉันตลอด”“ขี้บ่นจัง” ชลาสินธุ์แกล้งทำท่าเกาหัว “งั้นฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไร แต่เธอนอนให้ฉันกอดนะ คิดถึงจะแย่ คิดถึงจะตายอยู่แล้วคนใจร้าย”“ว่าฉันใจร้าย คุณก็ใจร้ายเหมือนกันนั่นแหละ”“นะ”“เอ่อ...ถ้าคุณไม่ทำอะไรจริง ๆ ฉันนอนด้วยก็ได้”“ไม่ทำหรอก ถ้าเธอไม่เผลอน่ะ”“อะไรนะ!” และอย่างไม่ต้องรอคำตอบ ณิชชาก็ฟาดมือไปที่แขนคนป่วยเสียงดังลั่นห้อง ก่อนจะแจกค้อนไปให้อีกหลายทีชลาสินธุ์ลูบแขนตัวเองแล้วหัวเราะไปด้วย“ฉันยอมให้หน่อย ก็ทำร้ายฉันเลยนะ” เสียงอ่อนบอกก่อนจะโอบคนรักให้แน่น ๆ อีกหน “งั้นตกลง นายนอนที่นี่นะ นอนเฉย ๆ ให้ฉันมองหน้า จะได้หายคิดถึง”“หึ” หญิงสาวค้อนคนป่วยขวับ เธอเองก็อยากกอด อยากมองหน้า อยากยิ้มให้ผู้ชายคนนี้ เพื่อให้แน่ใจว่า ความรักระหว่างตัวเองกับ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริง

    บทที่ 48 ฝันที่ (ไม่) อาจเป็นจริงแม้จะเป็นเวลาพลบค่ำแล้วทำให้อาจจะได้พบคนที่เขาคิดถึงแค่ไม่กี่นาทีแต่ณิชชา ก็ตัดสินใจออกจากบ้านทันทีที่อัครชัยปล่อยมือเขา ความโหยหาที่ลอยวนอยู่ในใจมันฉุดกระชากให้เขามาที่นี่ โรงพยาบาลใหญ่ใจกลางกรุง ชลาสินธุ์ถูกย้ายมาที่นี่ทันทีที่ร่างกายสามารถทนต่อการเดินทางได้หญิงสาวเดินหาห้องนั้นจนพบ ในมือถือดอกไม้ช่อเล็ก ๆ ที่ตั้งใจทำเองด้วยหัวใจ มือบางที่กำลังจะเคาะห้องมีอันต้องชะงักค้างไว้“คุณณิชคะ คุยกันหน่อยดีมั้ย” ชลาธารที่เพิ่งมาถึงเช่นกัน มองมาที่ณิชชา ไม่มีสายตาของมิตรภาพแม้แต่น้อยชลาสินธุ์นอนลืมตาโพรงอยู่บนเตียงคนป่วย แม้อาการทางกายจะค่อย ๆ หายจนเกือบเป็นปกติ เพราะรถที่ชนก็แค่เฉี่ยวขาทำให้เจ็บที่หัวเข่าซ้ายเท่านั้น แย่หน่อยตรงที่ตอนกระโดดหลบ หัวของเขามันไปชนต้นไม้ข้างทางทำให้ทั้งน้อง ๆ และคุณหมอค่อนข้างเป็นห่วง แต่อาการทางใจของชายหนุ่มก็ทำให้ตอนนี้เขาแทบไม่ต่างจากผักเหี่ยว ๆ ที่รอวันเฉาลงไปอีกชลาธารรับหน้าที่ดูแลพี่ชายของเธอที่โรงพยาบาล ขณะที่คนอื่นดูแลเรื่องงาน ยิ่งเห็นพี่เป็นแบบนี้ ก็ยิ่งโกรธณิชชามากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นว่าเป็นคนนิ่ม ๆ ไม่คิดว่าจะมีอิ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้ว

    บทที่ 47 อัครชัยคือคนที่เลือกแล้วชลาธารทำอย่างที่ตนเองได้ลั่นวาจาไว้ทันทีที่วันทำงานวันแรกมาถึง“คุณณิชคะ คุยกับธารในห้องก่อนค่ะ” มาถึงยังไม่ทันได้นั่ง ก็เอ่ยปากให้ณิชชาเดินตามตัวเองเข้าไปในห้องแล้ว ณิชชาเดาไม่ถูกว่าเจ้านายคนเล็กคนนี้จะพูดเรื่องอะไร เรื่องงานหรือว่าอย่างอื่น เพราะแทบจะไม่เคยทำงานด้วยกันเลย ยิ่งหญิงสาวไปเรียนต่อได้เป็นปีแล้ว ยิ่งห่างกันไป เดาใจไม่ถูก“คุณธาร มีอะไรให้ณิชทำเหรอคะ” ณิชชาพูดก่อนจะนั่งลงตามมือที่ผายออก หญิงสาวไม่ได้ชวนเธอนั่งที่โต๊ะทำงาน ซึ่งตอนนี้คนที่ยึดโต๊ะตัวนั้นเป็นของตัวเองยังไม่มา แต่พวกเธอนั่งคุยกันที่โซฟารับแขกซึ่งอยู่ในห้องทำงานของชลาสินธุ์ด้วยนั่นเอง“คุณณิชจะว่าอะไรมั้ยคะ ถ้าธารจะถามเรื่องพี่สินธุ์” ยิงคำถามทันทีพร้อมกอดอกฟังคำตอบ แต่ดูเหมือนคนที่ต้องตอบจะยังหาเสียงของตัวเองไม่เจอ“คือ...เอ่อ...”“ไปเยี่ยมสักวัน หรือดอกไม้สักช่อ ไม่คิดจะส่งไปหน่อยเหรอคะ” ชลาธารพูดแทรกขึ้นอย่างหงุดหงิด อยากจะเล่าสภาพของพี่ชายให้คนตรงหน้าฟังว่าเลวร้ายแค่ไหน แต่ก็กลัวว่าสิ่งที่ได้กลับมาจะเป็นอย่างอื่นนอกจากความเห็นอกเห็นใจ ถ้าณิชชารู้สึกยินดีกับสภาพของพี่ชายตนเอ

  • ตกหลุมรัก เลขาท่านประธาน   บทที่ 46 รถชน

    บทที่ 46 รถชนณิชชาฟังแล้วอึ้งไป เพราะน้ำเสียงนั้นแม้จะสุภาพแต่ก็เฉียบขาด พี่น้องบ้านนี้บุคลิกไม่เหมือนกันสักคน สาคเรศคนนี้หากฟังจากน้ำเสียง ลักษณะนิสัยคงเป็นแบบ อยู่ตรงกลางระหว่าง ชลาสินธุ์และธารากานต์ คือไม่ได้ดูใจดีมากเหมือนธารากานต์ แต่ก็ไม่ได้ดุและขี้หงุดหงิดเหมือนพี่ชายคนโต“คือ...คุณสินธุ์คงไม่สะดวกให้ดิฉันไปทำงานแล้วล่ะค่ะ”“พี่สินธุ์ไม่อยู่ที่นี่มาสองสัปดาห์แล้วครับ ตั้งแต่คุณไป” เสียงถอนหายใจปล่อยมาตามสาย “คุณทำให้พี่สินธุ์อยู่ที่นี่ไม่ได้ แล้วคุณก็จะไม่อยู่ดูแลที่นี่อีก นี่คุณกะจะให้พวกเราล่มจมเลยเหรอครับ”“คุณเรศคะ...ดิฉันเปล่า...คือ...ดิฉันไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายพวกคุณเลยนะ เพียงแต่ไม่คิดว่าคุณสินธุ์เขา...”“เขาจะอยู่ไม่ได้เมื่อไม่มีคุณ?” สาคเรศขัดอีกแล้ว แล้วก็ถูกที่ถูกเวลาเสมอ เพราะมันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจณิชชาด้วย คนฟังน้ำตาแทบจะไหลลงมาอีกครั้ง เสียงถอนหายใจของปลายสายทำให้ณิชชาทำอะไรไม่ถูก “ผมทราบว่าคุณไปคุยกับที่อื่นมาแล้ว แต่ก่อนจะไป คุณน่าจะมาเคลียร์งานที่นี่สักหน่อย พรุ่งนี้เข้ามานะครับ ผมรออยู่”สาคเรศวางหูไปนานแล้ว แต่ณิชชายังอยู่ที่ระเบียงไม่ไปไหน ความคิดสับสนว

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status