หน้าหลัก / รักโบราณ / ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย / อยู่ที่ท่านจะให้ราคาดีเพียงใด

แชร์

อยู่ที่ท่านจะให้ราคาดีเพียงใด

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-19 01:31:50

นางก็ไม่คิดที่จะอยู่หมู่บ้านนี้ไปตลอด หากขายถังเช่าได้ราคาดีนางคงจะพาหนิงเฉิงไปอยู่ที่ในเมืองเพื่อให้เขาได้กลับไปเรียนอีกครั้ง และนางจะได้ค้าขายหรือทำงานเพื่อหาเงินด้วย

"เฉิงเออร์ พรุ่งนี้ขึ้นเขาอีกรอบ พวกเราเก็บมาทั้งหมดเลยจะได้เข้าเมืองไปขาย ถ้าได้ราคาดีข้าจะหาซื้อเรือนในเมือง ต่อไปเจ้าก็กลับไปเรียน" จือลู่ยกมือขึ้นห้ามเพื่อไม่ให้หนิงเฉิงขัดนาง

"เจ้าไม่ต้องห่วง เรื่องทุกอย่างต่อไปข้าจะจัดการเอง เจ้าเพียงตั้งใจเรียน ข้าจะไม่ให้เจ้าได้รับความอยุติธรรมเช่นในวันนี้อีกแล้ว" 

เมื่อจือลู่พูดจบหนิงเฉิงก็เงยหน้ามองนาง ดวงตาของเขาแดงกลำไปทั้งดวงเพราะกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา

"พี่หญิง" พูดได้เพียงเท่านั้นหนิงเฉิงก็พุ่งตัวเข้ามากอดจือลู่ไว้แน่น แล้วปล่อยโฮออกมาเสียงดัง ต่อให้เก่งหรือฉลาดเพียงใด แต่เขาก็ยังเป็นเด็กที่อายุเพียงสิบสองหนาวเท่านั้น ย่อมเกิดความหวาดกลัวอยู่ในใจ

ทั้งสองเมื่อปลอบประโลมกันแล้วก็แยกย้ายไปอาบน้ำเพราะพรุ่งนี้ยังต้องรีบขึ้นเขาก่อนฟ้าสว่าง จือลู่ล้มตัวลงนอน นางจ้องมองเพดานอย่างครุ่นคิด เหตุใดทะลุมิติมาถึงได้เจอแต่เรื่องวุ่นวายเช่นนี้ เหตุใดไม่ไปเกิดในวังหลวงมีทาสรับใช้ให้สบายไปเสียเลย คิดได้เพียงเท่านั้นก็นอนหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า

ฟ้ายังไม่ทันสว่างสองพี่น้องก็รีบกินอาหารในกล่องของจือลู่ แล้วนำติดตัวไปด้วยเช่นเดิม ตอนที่ทั้งสองถึงชายเขายังไม่มีชาวบ้านออกมาเลยสักคน หนิงเฉิงจึงถือไม้ไว้ในมือแล้วตีไล่สัตว์เลื้อยคลานเดินออกหน้านำจือลู่ไปที่ที่เก็บถังเช่าเมื่อวาน

ทั้งคู่เดินคลำทางมาจนถึงที่เดิมต่างก็รีบลงมือถางเอาเศษใบไม้ออกจากพื้นดินแล้วลงมือขุดถังเช่าทันที นับว่าพื้นที่ตรงนั้นมีถังเช่าให้สองพี่น้องเก็บมากมาย เพียงครึ่งวันเช้าก่อนจะหยุดพักกินมื้อกลางวันทั้งคู่ก็ขุดมาได้เต็มหนึ่งตะกร้า

จือลู่กินอาหารไปนั่งมองชื่นชมไป เงินทั้งนั้นในตะกร้าจะไม่ให้นางยิ้มเหมือนคนบ้าได้อย่างไร 

"พรุ่งนี้พี่สาวจะพาเจ้าไปกินของอร่อย" จือลู่มองของกินในมือแล้วพูดกับหนิงเฉิง น้องชายของนางยังกินพวกฟาสต์ฟู้ดอย่างเอร็ดอร่อยทำให้นางกินอร่อยไปด้วย

"พี่หญิงหากขายได้ราคาดี ท่านจะซื้อเรือนในเมืองจริงหรือ" หนิงเฉิงถามขึ้นทั้งที่ในปากยังเต็มไปด้วยของกิน

"จริง ข้าไม่ให้เจ้าลำบากอีกแล้วน้องข้า" จือลู่ขยี้หัวหนิงเฉิงอย่างเอ็นดู

"ผมข้ายุ่งหมดแล้ว" สองพี่น้องเล่นกันจนหายเหนื่อยก็เริ่มลงมือขุดอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าในตะกร้าของทั้งคู่มีเยอะแล้วก็พากันลงจากเขา เพราะเวลาก็ใกล้จะมืดแล้ว

เมื่อมาถึงด้านล่างก็ไม่พบใครเช่นเดียวกับตอนที่ขึ้นเขามา ทั้งคู่จึงเร่งฝีเท้าเพื่อนำถังเช่ากลับไปล้างและยังต้องผึ่งลมอีก พรุ่งนี้ทั้งคู่จะลองนำไปขายในเมือง

กว่าที่ทั้งคู่จะล้างทั้งหมดเสร็จเรี่ยวแรงก็แทบไม่เหลือ จือลู่รีบอาบน้ำเพื่อจะเข้านอน แต่ก็ถูกหนิงเฉิงรั้งไว้ให้กินข้าวต้มเสียก่อน ทั้งคู่รีบกิยเพื่อจะได้รีบเข้านอน จือลู่ท่องไว้ตลอดเวลา เหนื่อยเท่ากับรวย เหนื่อยเท่ากับรวย 

ฟ้าใกล้สาง หนิงเฉิงที่ยังไม่ได้ยินเสียงพี่สาวลุกขึ้นจัดแจงก็ไปเคาะประตูห้องของจือลู่ จือลู่พี่เพิ่งรู้สึกตัวตื่นก็รีบร้อนเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปหาหนิงเฉิงที่เตรียมอาหารไว้ให้นางแล้ว

"ข้าตื่นสายใช่หรือไม่" จือลู่นั่งลงเพื่อกินข้าว

"พี่หญิงท่านไม่ต้องรีบยังพอมีเวลา เกวียนยังไม่ออกขอรับ ข้าเตรียมของเสร็จเรียบร้อยแล้ว" จือลู่พยักหน้าให้น้องชาย

และก็เป็นเช่นที่หนิงเฉิงว่า เขานำถังเช่าใส่ถุงผ้าเก่าๆจนเต็มสองตะกร้า ด้านบนยังนำผักป่าที่เก็บมาเมื่อวานวางไว้เพื่อบังจากสายตาของคนอื่น เมื่อมาถึงเกวียนวัว หนิงเฉิงเดินไปจ่ายเงิน เกวียนวัวก็ออกเดินทางทันที ตอนที่พวกเขามาถึงก็เหลือเพียงสองที่นั่งพอดี

สองชั่วยามที่นั่งโขยกเขยกมาตลอดทาง จือลู่กับหนิงเฉิงที่ต้องยืนนิ่งๆเสียก่อนเมื่อลงจากเกวียนวัว ก็เริ่มออกเดินสอบถามชาวเมืองว่าร้านขายยาที่ให้ราคายุติธรรมคือร้านใด

"แม่นางน้อย เจ้านำสมุนไพรไปขายที่ร้านยาฉือกัง ท่านหมอโยวให้ราคายุติธรรมกับเจ้าแน่นอน" แม่ค้าขายผักป่าบอกสองพี่น้อง 

ทั้งคู่จึงรีบแบกตะกร้าเดินไปทางที่แม่ค้าชี้บอก เสี่ยวเอ้อหน้าร้านก็ไม่ได้ดูถูกทั้งคู่ที่สวมเสื้อผ้าเก่าๆ มีแต่รอยปะชุน แถมยังยิ้มรับพูดคุยสอบถามอย่างดี

"ไม่ทราบว่าพวกเจ้าต้องการขายสมุนไพรหรือซื้อยา" 

"พี่ชาย ข้ามีสมุนไพรมาขายไม่ทราบว่าร้านท่านจะซื้อหรือไม่ขอรับ" หนิงเฉิงหยิบถังเช่าขึ้นมาหนึ่งกำมือ แล้วส่งไปให้เสี่ยวเอ้อ

"พวกเจ้ารอประเดี๋ยว ข้าต้องไปถามท่านหลงจู๊เสียก่อน" เพราะเขาไม่เคยเห็นสิ่งที่ทั้งคู่นำมา แต่ก็ไม่อาจไล่ไปได้ เพราะท่านหมอเคยสั่งไว้ หากพบสมุนไพรที่ไม่รู้จักให้มาสอบถามเสียก่อน จึงได้รีบเดินไปหาหลงจู๊ที่อยู่ภายในร้าน

เพียงไม่นานหลงจู๊ก็รีบร้อนออกมาพร้อมเสี่ยวเออร์ แล้วให้สองพี่น้องเดินตามเข้าไปด้านในของร้าน 

"พวกเจ้าหาสิ่งนี้จากที่ใด" จือลู่จ้องมองหลงจู๊นิ่งแต่ไม่พูดออกมา หนิงเฉิงก็เช่นกัน หากเพียงแค่ดูจากท่าทางที่ตื่นเต้นของหลงจู๊ก็รู้ว่าของที่นำมาขายได้ และต้องได้ราคาที่ดีแน่

"เอ่อ ข้าถามผิดแล้ว พวกเจ้ามีมากน้อยเพียงใด" หลงจู๊เปลี่ยนคำถามเสียใหม่เมื่อเห็นสีหน้าของสองพี่น้องที่ดูจะไม่พอใจ แม้จะอยู่ในชุดปะชุน แต่ท่าทางของทั้งคู่ก็ทำให้เขามิอาจดูแคลนได้

"อยู่ที่ท่านว่าให้ราคาที่ดีเพียงใดเจ้าค่ะ" 

"ดีดีดี ไหนข้าขอดูเสียหน่อย" ชายชราหนวดขาวท่าทางทรงภูมิตบมือขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่แสนฉลาดของจือลู่ 

สองพี่น้องรีบลุกทำความเคารพและแนะนำตัวทันที

"ไม่ต้องมากพิธี เจ้านำออกมาให้ข้าตรวจสอบเสียหน่อย" เขาโบกมือเพื่อให้ทั้งคู่นั่งลง หนิงเฉิงจึงนำถังเช่าในตอนแรกที่ตนส่งให้เสี่ยวเอ้อส่งให้ชายชราดู

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   ตอนจบ

    ภายในคุกที่ว่าการเมืองเป่ยหาน ต้าอู๋และนางกงซื่อมิรู้ว่าพวกตนถูกจับมาได้อย่างไร ชินอ๋องที่ยืนมองทั้งคู่อยู่ภายนอก ก็เดินปรากฏตัวเขาไปด้านในต้าอู๋และกงซื่อเมื่อรู้ว่าผู้มาเยือนคนใหม่คือชินอ๋องสามีที่แท้จริงของจ้าวเหยียนก็รีบคุกเข่าโขกศีรษะอย่างร้อนตัวชินอ๋องพูดเรื่องที่ทั้งคู่ทุบตีจือลู่และหนิงเฉิงทั้งยังจะยกจือลู่ให้พ่อหม้ายจง ต้าอู๋กับนางกงซื่อเงยหน้ามองชินอ๋องอย่างแปลกใจ แม้นางกงซื่อจะเคยคิดเช่นที่ชินอ๋องพูด แต่นางก็ไม่ได้ทำและไม่เคยมีผู้ใดล่วงรู้มาก่อนชินอ๋องมิรอฟังคำแก้ตัวของต้าอู๋และนางกงซื่อ เขาสั่งให้ทหารโบยทั้งคู่คนละสามสิบไม้ก่อนจะเนรเทศไปใช้แรงงานที่เหมืองทางตอนใต้ของแคว้นขบวนเดินทางของชินอ๋องเสียเวลาอยู่ที่เมืองเป่ยหานเพียงห้าวันเท่านั้น นอกจากที่เขาจัดการเรื่องของต้าอู๋และนางกงซื่อแล้ว ยังให้จือลู่จัดการเรื่องร้านค้าของนาง และเติมสินค้าอย่างเต็มที่หลังจากออกเดินทางจากเมืองเป่ยหานมาได้ห้าวันก็ถึงเมืองเป่ยโจว จือลู่นางต้องไปอยู่ที่จวนของเว่ยหยาง แต่เพราะต้องปรับปรุงจวนเสียใหม่นางกับเว่ยหยางจึงอาศัยอยู่ในตำหนักเสียก่อนผ่านมาได้ครึ่งปีเรื่องมงคลของตำหนักอ๋องก็มีมาเยือน เ

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   กลับเป่ยโจว

    วันต่อมา จือลู่ถูกปลุกตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง จ้าวเหยียนก็มาที่เรือนของนางเพื่อช่วยนางแต่งตัว วันงานจือลู่มิได้แต่งหน้าเอง แต่คนที่แต่งให้ก็เป็นมือหนึ่งในร้านอ้ายเสิ่นของนาง นับว่าฝีมือที่แต่งออกมาใกล้เคียงกับของจือลู่ยิ่งนักจ้าวเหยียนเป็นคนหวีผลให้จือลู่และสวมผ้าคลุมหน้าให้นาง จ้าวเหยียนหันไปปาดน้ำตา เพราะเป็นงานมงคลไม่อาจหลั่งน้ำตาออกมาได้"ลู่เออร์ ไม่ว่าเจ้าจะออกเรือนไปแล้ว อย่างไรก็เป็นลูกของข้าอยู่เสมอ" จือลู่เงยหน้ามองจ้าวเหยียนที่ดวงตาแดงก่ำจากการกลั้นน้ำตาไว้"ท่านแม่ ท่านก็คือมารดาของข้าเช่นกันเจ้าค่ะ" คำพูดของนางหากคนนอกฟังอาจจะดูแปลกๆ แต่สองคนแม่ลูกล้วนเข้าใจกันอย่างดี จือลู่กอดเอวของจ้าวเหยียนแน่น ก่อนจะปล่อยให้นางได้ออกไปจัดการเรื่องด้านหน้าตำหนักเสียงฆ้องดังมาแต่ไกล ขบวนเจ้าบ่าวที่มารับเจ้าสาวยาวเหยียดจะมองไม่เห็นท้ายขบวน สินเดิมของเจ้าสาวที่กองไว้เพื่อนำออกจากตำหนักก็มากมายเสียทำให้คนอิจฉาตาร้อนเว่ยหยางพาจือลู่คำนับชินอ๋องกับจ้าวเหยียนก่อนจะพานางออกไปจากตำหนัก หนิงเฉิงแบกพี่สาวไปส่งที่เกี้ยวแปดคนหามหลังงาม จ้าวเหยียนยืนมองส่งจือลู่ด้วยดวงตาที่เอ่อไปด้วยน้ำตา ชินอ๋องจึ

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   ข้าควรจะจัดการเจ้านานแล้ว

    ชินอ๋องเมื่อเห็นจ้าวเหยียนปลอดภัยแล้ว นางเพียงหลับไปเพราะอ่อนเพลียจึงได้ออกมาดูบุตรทั้งสาม ก็เห็นว่าจือลู่และหนิงเฉิงเฝ้าน้องของพวกเขาอยู่"ท่านพ่อ ดูน้องของข้า เหตุใดถึงได้น่าเกลียดเช่นนี้ขอรับ" หนิงเฉิงใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าน้องสาวคนเล็กเบาๆ ด้วยความเอ็นดู ส่วนน้องชายทั้งสองล้วนแล้วแต่น่าเกลียดในสายตาของเขา"ตอนเจ้าเกิดเจ้าก็น่าเกลียดเช่นนี้" จือลู่หยอกเย้าน้องชายของตน นางก็กำลังเขี่ยแก้มของเด็กแฝดทั้งสามชินอ๋องมองลูกทั้งสามที่นอนหลับอยู่อย่างรักใคร่ ก่อนที่เขาจะอุ้มบุตรสาวคนเล็กขึ้นมา "ฉีซิงเยียน""ซิงเยียน น้องต้องงดงามกว่าพี่หญิงแน่นอนขอรับ" หนิงเฉิงพูดขึ้น จือลู่หันไปมองสองพ่อลูกที่เห่อน้องสาวคนเล็กของบ้านอย่างเอือมๆแฝดคนโตชื่อ หนิงเทียน คนรองชื่อหนิงหวง ทั้งคู่มีคำว่าหนิงเช่นเดียวกับพี่ชายของเขา"ท่านพี่ ลูกเล่าเจ้าคะ" กว่าจ้าวเหยียนจะตื่นก็เข้าสู่อีกวันแล้ว นางลืมตาก็ถามหาบุตรทั้งสามที่นางเพิ่งคลอด เพราะก่อนที่จะหมดสติไปนางรู้เพียงว่าเด็กทั้งสามล้วนแล้วแต่แข็งแรงดีชินอ๋องให้แม่นมพาบุตรทั้งสามเข้ามาให้จ้าวเหยียนได้ดู และบอกนางถึงชื่อที่เขาตั้งให้บุตรทั้งสาม"เจ้าพักผ่อนเสียให้

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   คลอดบุตร

    เว่ยหยางรีบกลับจวนพร้อมนำข่าวไปแจ้งให้บิดามารดาส่งแม่สื่อไปที่ตำหนักอ๋องข่าวเรื่องที่ตระกูลเว่ยส่งแม่สื่อล่วงรู้ไปถึงองค์ชายรอง ก่อนที่เขาจะออกจากวังไปจัดการกับเว่ยหยางก็โดนฮ่องเต้เรียกตัวเข้าพบ"เจ้ารอง เจ้ามั่นใจมากเพียงใดที่จะจัดการกับแม่ทัพเว่ย" ฮ่องเต้ยกชาขึ้นดื่มอย่างใจเย็น เหมือนเรื่องที่พระองค์ถามบุตรเป็นเพียงเรื่องดินฟ้าอากาศ"เสด็จพ่อ ท่านพระราชทานสมรสให้ลูกได้" เขาเอ่ยขึ้นอย่างเอาแต่ใจ"เจ้ากล้ามีเรื่องกับชินอ๋องใช่หรือไม่" ฮ่องเต้จ้องบุตรชายอย่างดุดัน"ลูก ลูก เสด็จพ่อเป็นถึงฮ่องเต้ ชินอ๋องจะมีอำนาจมากกว่าท่านได้อย่างไร""โง่เขลานัก" ฮ่องเต้ขว้างถ้วยน้ำชาลงพื้นอย่างมีโทสะ"หากน้องห้าต้องการบัลลังก์ เจ้าคิดหรือว่าเจิ้นจะได้นั่งเช่นทุกวันนี้" เพราะน้องชายของเขามิคิดจะขึ้นเป็นฮ่องเต้ และช่วยเหลือเขาจนได้นั่งบัลลังก์เช่นทุกวันนี้ เรื่องทุกเรื่องชินอ๋องไม่เคยยื่นมือเข้ามายุ่ง หากพระองค์เข้าไปจัดการเรื่องในตำหนักคงได้เกิดปัญหาแน่"หากเจ้ายังคิดว่าตนเองต่อกรได้ เจิ้นก็ไม่ห้าม ไม่ว่าเกิดอันใดขึ้นเจิ้นมิอาจช่วยเหลือเจ้าได้""เสด็จพ่อ" องค์ชายรองตกใจ เพราะไม่ว่าสิ่งใดเสด็จพ่อเสด็จแ

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   ข้าสาบานด้วยชีวิต

    ฮองเฮาที่ต้องการผูกสัมพันธ์กับชินอ๋องจึงอยากได้จือลู่มาเป็นพระชายาให้กับองค์ชายรอง เพราะฮ่องเต้ย่อมถามความคิดเห็นของชินอ๋องเรื่องแต่งตั้งองค์รัชทายาทหากองค์ชายรองได้แต่งจือลู่ ชินอ๋องย่อมต้องเข้าข้างบุตรเขยของตนเพื่อให้บุตรสาวได้ขึ้นเป็นฮองเฮาในอนาคต เมื่อเห็นว่าชินอ๋องจะขอตัวกลับแล้ว ฮองเฮาจึงพูดเรื่องหมั้นหมายขึ้นมาอีกครั้ง"กระหม่อมยังมิคิดให้ลู่เออร์ออกเรือนพ่ะย่ะค่ะ" ชินอ๋องตัดบทด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ก่อนจะพาจ้าวเหยียนและบุตรทั้งสองกลับตำหนัก"ท่านพี่ข้าคิดว่าฮองเฮาคงไม่ยอมหยุดเรื่องของลู่เออร์" จ้าวเหยียนเอ่ยด้วยความกังวล"มีข้าอยู่นางจะทำอันใดได้" ชินอ๋องกอดปลอบจ้าวเหยียน เขามองออกไปด้านนอกหน้าต่างรถม้าอย่างใช่ความคิดเว่ยหยางที่รู้เรื่องฮองเฮาต้องการทาบทามจือลู่ให้องค์ชายรองก็ร้อนใจจนมาที่ตำหนักอ๋องแต่เช้า"เปิ่นหวางไม่ได้เรียกเจ้ามิใช่หรือท่านแม่ทัพเว่ย" เขาปรายตามองบุรุษหน้าหนาที่ร้อนใจมาที่ตำหนักแต่เช้า"กระหม่อมมีเรื่องอยากทูลพระองค์พ่ะย่ะค่ะ" ชินอ๋องเดินนำเว่ยหยางไปที่ห้องตำรา เพราะเขารู้ดีว่าเว่ยหยางมาด้วยเรื่องอันใด"ว่ามา" ชินอ๋องนั่งลงแล้วเอ่ยถามโดยไม่ได้หันไปมองเว่ย

  • ตกหลุมรักแม่สื่อตัวร้าย   จัดการตระกูลเซี่ย

    วิญญาณดวงใหม่เข้ามาแทนที่ ชินอ๋องจ้องมองภาพตรงหน้าอยากแปลกใจ เมื่อจือลู่ที่มาจากอีกภพลืมตาขึ้น สิ่งที่นางพึมพำออกมาชินอ๋องรู้ได้ทันทีว่านี่คือจือลู่ที่มาอีกภพหนึ่ง"ท่านพี่ ท่านพี่" เสียงเรียกของจ้าวเหยียนปลุกให้ชินอ๋องตื่นขึ้นมาจากฝันร้ายของเขา"เหยียนเหยียน" ชินอ๋องลูบไปที่ใบหน้าของนาง ก่อนจะดึงนางเข้ามาสวมกอดแล้วร้องไห้เงียบๆ"ท่านเป็นอันใดไปเจ้าคะ ฝันเรื่องอันใดถึงได้เป็นเช่นนี้" จ้าวเหยียนมองชินอ๋องอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขาทั้งร้องไห้ทั้งตะโกนจึงทำให้นางตื่นขึ้นมาชินอ๋องเล่าเรื่องความฝันของเขาให้จ้าวเหยียนฟัง พอถึงตอนที่ต้องเสียน้องและจือลู่เสียงของเขาสั่นขึ้นด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าจะเป็นเรื่องจริง"ท่านพี่หากข้าบอกว่าเรื่องทั้งหมดที่ท่านฝันคือเรื่องจริงท่านจะเชื่อหรือไม่" จ้าวเหยียนจับใบหน้าของชินอ๋องแล้วจ้องมองเขาอย่างจริงจังนางเล่าเรื่องที่นางเสียชีวิตลง และได้ไปอยู่ที่ภพใหม่ แม้ชินอ๋องจะรู้แล้ว แต่เรื่องที่นางรู้ว่าเรื่องทั้งหมดของพวกเขาเป็นเพียงแค่นิยายเรื่องหนึ่งเท่านั้นแต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่นางจบชีวิตลงเป็นเช่นที่เขาเห็นความรันทดของบุตรทั้งสองเป็นเรื่องจริง ที่ครั้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status