เข้าสู่ระบบถูกแซวแบบนี้ดินแดนหน้าแดงมากขึ้นไปอีก ขวัญข้าวไม่อยากแกล้งต่อ เดี๋ยวหนุ่มที่ดูภายนอกน่าเกรงขามจะเขินม้วนไปเสียก่อน หากนักโทษเห็นเข้า คงไม่กลัวเขาอีกแล้ว
เดินกันต่อไปเรื่อย ๆ ใกล้แดนของนักโทษที่จะเรียงกัน จากแดน 1 ไปแดน 2 ตามลำดับลึกเข้าไป แถวนี้จึงมีผู้คุมเรือนจำเยอะเป็นพิเศษ ทั้งที่ป้อมและอยู่กันทั่วบริเวณ
“สวัสดีครับ คุณหมอ”
ดินแดนเห็นว่าเป็นกลุ่มเพื่อนตัวเองที่กำลังทักทายคุณหมอคนใหม่อยู่ เขาจึงหันหน้าหนี ไม่อยากสบตากับใคร กลัวว่านอกจากจะโดนคุณหมอแซวแล้ว เขาอาจจะโดนเพื่อนแซวต่อด้วย
แต่ดูเหมือนว่ายิ่งกลัวจะยิ่งพบเจอ เพราะหนึ่งในนั้นดันตะโกนแซวขึ้นมา ทั้งที่ไม่เห็นหน้าเขาด้วยซ้ำ
“ทำไมหน้ามึงแดงจังวะ ไอ้ดิน”
“เออ แดงมาถึงหูเลย” อีกคนหันมาพูดสนับสนุนทันที
‘แซวอะไรตอนนี้วะ’
คนโดนแซวกัดฟันกรอดและคิดในใจ หากแซวตอนที่ไม่มีขวัญข้าวยืนอยู่ด้วยคงไม่เคืองเท่านี้ ชายหนุ่มตวัดสายตาอาฆาตไปยังพวกนั้น เพื่อปรามว่าหยุดแซวได้แล้ว
ทว่าพอหันไปมอง กลับเป็นการโชว์หลักฐานให้มัดตัวเอง เพราะแก้มเขาแดงก่ำด้วยความเขินที่เพิ่มมากขึ้น
‘น่ารักจัง’ คุณหมอสาวอมยิ้มและรีบหันหน้าหนี เธออยากให้เขาควบคุมตัวเองไม่ให้เขินไปกว่านี้ให้ได้ก่อน หากเธอสบตามองอยู่ด้วย คิดว่าเขาน่าจะยิ่งเขินหนักกว่าเดิมจนเสียอาการมากกว่านี้แน่ ๆ
“อากาศมันร้อน” ดินแดนพูดออกไปสั้น ๆ นี่เป็นคำแก้ตัวเดียวกันกับที่ได้แก้ตัวกับคุณหมอ และตอบไปยังเพื่อนของตัวเองที่ยังมองแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างรู้ทันให้เขาอยู่
“อากาศร้อน แล้วทำไมพวกกูหน้าไม่แดงแบบมึงล่ะ” เพื่อนอีกคนพูดขึ้นมาอย่างไม่เชื่อคำแก้ตัวของดินแดน
“กูจะไปรู้ด้วยเหรอ” ชายหนุ่มถลึงตาใส่ แล้วรีบเดินไปยืนคู่กับขวัญข้าว ก่อนจะพูดกับเธอ
“ไปกันเถอะครับคุณหมอ”
หากไม่เกรงว่าการจับข้อมือขวัญข้าวแล้วจูงออกไปด้วยกันจะดูน่าเกลียด หรือเหมือนฉวยโอกาสทำตัวรุ่มร่าม ดินแดนคงจะรีบจูงคุณหมอออกไปให้พ้นจากตรงนี้แล้ว
ชายหนุ่มไม่ได้กลัวคุณหมอจะโดนแซว แต่กลัวตัวเองนี่แหละที่จะโดนเพื่อน ๆ แซวเสียมากกว่า
“อากาศร้อนหรืออะไรกันแน่วะไอ้ดิน” เพื่อนตัวแสบยังไม่วายที่จะตะโกนตามหลังมา
ขวัญข้าวรู้ว่าดินแดนอยากรีบไปให้พ้นจากตรงนี้ เธอก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ด้วยการรับสาวเท้าก้าวยาว ๆ และเลี้ยวไปอีกทาง เพียงแค่นี้ก็พ้นสายตาคนกลุ่มนั้นเรียบร้อยแล้ว
“เห้อ” พอพ้นกลุ่มเพื่อนมาได้ ดินแดนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ ส่วนขวัญข้าวเห็นอย่างนั้นก็แอบอมยิ้ม
“ตรงนี้เป็นโถงอเนกประสงค์ครับ เวลาที่มีกิจกรรมหรือมีอะไร ก็จะมาใช้พื้นที่ตรงนี้ครับ” ดินแดนรู้สึกดีขึ้นเมื่อไม่มีเสียงแซว เสียงของเขาจึงไม่สั่นเหมือนตอนแรก
“โถงนี้พอจะรองรับนักโทษได้ทั้งหมดเลยไหมคะ” ขวัญข้าวถามด้วยความสงสัย
“ถ้าทั้งหมดก็พอรองรับไหว แต่จะแน่นไปสักหน่อยครับ ส่วนมากจะเรียกมาตามแดนน่ะครับ” ดินแดนอธิบายออกไปอย่างใจเย็น
“อ๋อ” ขวัญข้าวพยักหน้า พลางกวาดตามองสำรวจไปทั่วทั้งพื้นที่บริเวณนี้
“หากเดินต่อไปอีกสักหน่อยก็จะเป็นสนามกว้างแล้ว ไปดูไหมครับ” ดินแดนชี้ไปที่สนามหญ้ากว้าง ๆ แล้วถามขึ้น
“ไม่ดีกว่าค่ะ สนามก็น่าจะเหมือน ๆ กัน และตอนนี้แดดก็เริ่มแรงมากแล้วด้วย” ขวัญข้าวปฏิเสธทันที เธอไม่อยากออกไปรับแสงแดดที่พร้อมจะแผดเผาแบบนั้น
“งั้นไปทางโน้นดีกว่าครับ” พูดจบชายหนุ่มก็พาเดินทัวร์ต่ออีก จากนั้นจึงพาไปแดนที่มีสถานฝึกอาชีพ
“ที่นี่มีทั้งฝึกปั้นเครื่องดินเผา วาดรูป แจกันใบนั้นก็ฝีมือของนักโทษในนี้ครับ” ดินแดนอธิบายพร้อมกับชี้มือไปที่แจกันใบใหญ่
คุณหมอสาวเห็นแล้วยังตะลึง คาดไม่ถึงว่ารูปสวย ๆ และแจกันใบใหญ่ที่ดูมูลค่านั้น จะมาจากฝีมือนักโทษ
“ฝีมือดีนะคะเนี่ย” หญิงสาวชมเปาะพร้อมกับลูบแจกันด้วยความสนใจ แต่เธอไม่กล้าแตะต้องมากนัก กลัวว่าจะทำเสียหาย
“ใช่ครับ ฝีมือดีมาก แต่ละคนมักมีความสนใจพิเศษเป็นด้าน ๆ ไป เข้ามาอยู่ในนี้ก็ได้มีเวลาฝึกฝนอย่างเต็มที่ ทำให้งานสำเร็จได้ในเวลาไม่นาน” ดินแดนระบายยิ้มในขณะที่ตอบ
ขวัญข้าวยิ้มตามและมองรูปวาดที่ใส่กรอบเอาไว้ ภาพวาดสวยงามราวกับได้ลงคอร์สเรียนและฝึกฝนมานาน ทั้งน้ำหนักของเส้นวาดที่คมกริบ มีการลงสีและเงาได้อย่างลงตัวมาก เธอหยิบกรอบรูปหนึ่งขึ้นมา ซึ่งเป็นรูปวิวทิวทัศน์ ระบายด้วยสีน้ำ
“เวลาขาย ขายที่ไหนเหรอคะ” เธอหันไปถามดินแดน
“เอาไปออกงานขายน่ะครับ หรือบางทีก็จะลงในเฟซบุ๊กของเรือนจำ แต่จะรอให้มีผลงานเยอะก่อนแล้วลงทีเดียวน่ะครับ” ดินแดนก็ไขข้อข้องใจของเธอได้เป็นอย่างดี
ขวัญข้าวพยักหน้าแล้ววางรูปลงที่เดิม
“คุณหมออยากได้เหรอครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นว่าเธอให้ความสนใจอยู่กับภาพนั้น หากคุณหมออยากได้ เขาจะได้ให้สิทธิ์คุณหมอมาเลือกซื้อก่อนที่จะนำออกขายให้คนนอก
“อยากได้ค่ะ แต่ไว้รอเวลาที่ขายไม่ออกดีกว่า รูปไหนที่ไม่มีคนซื้อข้าวค่อยซื้อรูปนั้น สินค้าจะได้เหลือน้อยที่สุด อีกอย่างคนทำจะได้มีกำลังใจด้วยที่ภาพของเขาขายออก”
ขวัญข้าวตอบกลับมาอย่างที่เธอคิดไว้ เพราะภาพพวกนี้สวยทุกภาพ รอให้คนอื่นซื้อไปก่อน เธอค่อยซื้อที่เหลือก็ได้
บทส่งท้าย เราจะพิทักษ์ใจซึ่งกันและกัน (จบ) 1.2สุดท้ายขวัญข้าวก็ต้องตามใจเจ้าบ่าว และสุดท้ายคำว่ายกเดียวก็ไม่มีจริง กว่าดินแดนจะยอมจบบทรักลง ก็ในตอนที่มีเสียงของแอมกับนัทมาร้องเรียกขวัญข้าวอยู่ที่หน้าบ้านช่วงเย็น ดินแดนพร้อมเพื่อนๆ มาแต่งตัวเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองสมรสที่รีสอร์ต เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วก็เดินออกไปพร้อมกลุ่มเพื่อนเจ้าบ่าว เขายืนรอเจ้าสาวที่กำลังเปลี่ยนชุดอยู่อีกห้อง สักครู่ขวัญข้าวก็เดินออกมาวันนี้เธออยู่ในชุดราตรีสั้นสีขาวสะอาดตา ทำให้ดูสวยราวกับเจ้าหญิงตัวน้อย ๆ ที่มีทั้งความสวยสง่า น่ารักและเซ็กซี่“ไอ้ดิน ไปรับเจ้าสาวดิวะ” ดินแดนมองตาค้างจนเพื่อน ๆ ต้องสะกิดเรียกสติ“สวยจังเลยครับข้าว ข้าวสวยสะกดตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน จนวันนี้ที่แต่งงานกันเลย” ดินแดนพูดโชว์หวานต่อหน้าทุกคนราวกับเผลอตัว“ฮิ้ว หวานจังเลยโว้ยเพื่อนกู” เสียงแซวดังขึ้นมาจากฝั่งเพื่อนเจ้าบ่าว“กรี๊ดดด อยากได้แบบนี้” ฝั่งเจ้าสาวก็ไม่น้อยหน้า กรี๊ดออกมาแล้วชี้ไปที่เจ้าบ่าวอย่างหยอกล้อดินแดนเกาท้ายทอยแก้เขินและมองใบหน้าสวยสะพรั่งของแฟนสาวด้วยความหลงใหล ขวัญข้าวเดินเข้าไปสวมกอดเขาไว้อย่างรักสุดหัวใจ“พี
บทส่งท้าย เราจะพิทักษ์ใจซึ่งกันและกัน (จบ) 1.1งานแต่งงานของทั้งสองจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่บ้านทรงไทยที่ดินแดนเจอกับขวัญข้าวครั้งแรก งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสจะไปจัดที่รีสอร์ตของดินแดนในช่วงเย็นนี้พิธีการสำคัญกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วตอนนี้บ่าวสาวแยกกันเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องแต่งตัว“ใครวะที่มันพูดไว้ว่าจะไม่มีความรักอีก ฮ่า ๆ” ฟ้าครามเพื่อนรุ่นพี่ของดินแดนที่มาร่วมแสดงความยินดีและรับตำแหน่งเพื่อนเจ้าบ่าวไปด้วย เอ่ยแซวเจ้าบ่าวขึ้น“ผมพูดเหรอ” ดินแดนแกล้งถามฟ้าครามพร้อมกับทำหน้างง ๆ เขาพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้สุดฤทธิ์เพราะจำทุกอย่างได้ดี“เออ!!!” เพื่อน ๆ เจ้าบ่าวที่เข้ามาในห้องแต่งตัวตอบประสานเสียงพร้อมกันจนเจ้าบ่าวยิ้มเขินในวันที่เขาประกาศเอาไว้ว่าจะไม่มีใครอีกแล้ว ดินแดนไม่คิดว่าตนเองจะโชคดีได้เจอรักใหม่ ที่เข้ามาเติมเต็มความสุขให้เขาจนล้นได้ขนาดนี้ หากรู้ล่วงหน้าว่าจะเจอขวัญข้าว เขาคงไม่พูดอย่างนั้นออกไปแน่ ๆ“เหรอ แต่ลืมไปเถอะ ฮ่า ๆ” ดินแดนตอบกลับไปหน้าตาเฉยและหัวเราะออกมาเพื่อกลบเกลื่อนความเขิน“ฮ่าๆ” เพื่อน ๆ ก็พากันหัวเราะด้วยความเอ็นดูเจ้าบ่าวที่หน้าแดงระเรื่อ จากการโดนขุดคำพูดเก่า ๆ ขึ
ตอนที่ 82 พบครอบครัวทั้งสองฝ่าย 1.2 วันต่อมาดินแดนและขวัญข้าวขับรถไปจอดไว้ที่สนามบินจังหวัดใกล้ ๆ เมื่อไปถึงดอนเมืองก็พบว่าแทนไทยมารอรับอยู่แล้ว จากนั้นก็พาไปบ้านพ่อแม่ที่อยู่แถวรังสิตเมื่อรถมาถึงทำให้ขวัญข้าวหันไปมองดินแดนอย่างสงสัยเพราะบ้านที่ว่าอยู่ในรั้วรอบขอบชิดพอสมควร มีบ้านหลังใหญ่อยู่ด้านหน้า และมีบ้านหลักเล็กลงมาหน่อยอีกสองหลังที่อยู่ด้านหลัง ‘นี่บ้านพี่ดินรวยขนาดนี้เหรอเนี่ย’ หญิงสาวคิดในใจ เพราะแค่บริเวณที่ดินก็ราคาแพงมากแล้ว แล้วยังมีบ้านทรงยุโรปหนังใหญ่อีก สมกับเป็นเจ้าของร้านขายวัสดุก่อสร้าง “มาแล้วๆ “ เสียงของหญิงสูงวัยคนหนึ่งดังขึ้นในตอนที่ดินแดนและขวัญข้าวลงจากรถกระบะสี่ประตูคันใหญ่“แม่ครับ พ่อครับ สวัสดีครับ” ดินแดนเดินเข้าไปหาทั้งสองคนที่มายืนรอรับที่หน้าบ้าน เขายกมือไหว้พ่อและพ่อตบไหล่เขาเบาๆ ก่อนที่เขาจะไปกอดและหอมแม่ของตนเองขวัญข้าวยืนมองด้วยรอยยิ้ม ‘นี่สินะต้นแบบของการติดสกินซิพของเขา’“นี่หมอขวัญข้าว” ดินแดนยืนให้แม่กอดหอมจนพอใจก็ผละตัวออกแล้ว แนะนำแฟนสาวด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม“สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า” ขวัญข้าวยกมือไหว้และเรียกอย่างไว้เชิงก่อน เผื่อเขาไ
ตอนที่ 81 พบครอบครัวทั้งสองฝ่าย 1.1หลังจากถูกเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน พอกลับมาถึงบ้านพักแล้วก็ทำกับข้าวอร่อยๆ ให้ดินแดนได้กิน หลังจากกินข้าวโรงพยาบาลมาหลายวัน จากนั้นก็นอนดูซีรีส์และคุยกันกะหนุงกะหนิงจนบ่ายระหว่างนั้นขวัญข้าวก็คิดว่าเรื่องดี ๆ แบบนี้จะต้องบอกพ่อแม่ให้รับรู้บ้าง พ่อแม่ของเธอเป็นหมอกับพยาบาลที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลของรัฐและเปิดคลินิกอยู่ที่ภูมิลำเนาของตัวเองในจังหวัดหนึ่ง ท่านทั้งสองเป็นต้นแบบการใช้ชีวิตเรียบง่ายของเธอ“เดี๋ยวพี่ดินนอนพักก่อนนะคะ ข้าวขอโทรหาพ่อกับแม่ก่อน ว่าจะบอกเรื่องของเราให้ท่านรู้ด้วย” หญิงสาวบอกให้ดินแดนที่นอนอยู่“ครับ พี่ก็ว่าจะโทรไปหาพ่อแม่เหมือนกัน” ดินแดนตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มและยกโทรศัพท์ในมือให้เธอดู เขาก็อยากบอกข่าวดีนี้กับครอบครัวเหมือนกันขวัญข้าวได้ยินก็ยิ้ม เธอลุกเดินถือโทรศัพท์ไปที่หน้าต่าง มองออกไปข้างนอกอย่างมีความสุขแล้วต่อสายโทรศัพท์กลับไปหาพ่อแม่ที่บ้าน“แม่คะ สวัสดีค่ะ คิดถึงจัง” ขวัญข้าวทักทายแม่กลับไปด้วยนเสียงสดใส(ว่าไงคะลูกสาว วันนี้โทรมาเสียงสดใสเชียวนะ) คุณขวัญใจแม่ของขวัญข้าวถามลูกสาวมาอย่างใจดี“เพราะมีข่าวดีจะบอกค่ะ” ขวัญข้าวต
ตอนที่ 80 เราแต่งงานกันนะครับ 1.2เช้าวันต่อมาวันนี้ดินแดนได้ออกจากโรงพยาบาล เขาไม่ค่อยมีอาการเจ็บแผลแล้ว อาจจะมีเจ็บขึ้นมาเวลาที่ต้องขยับตัวเยอะ ๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับการใช้ชีวิตประจำวัน“พี่อยากไปที่เรือนจำก่อนอะข้าว”ดินแดนเอ่ยออกมา ในขณะที่กำลังเดินทางออกจากโรงพยาบาลสารถีสาวหันไปมองคนพูดด้วยความงุนงง จะไปที่เรือนจำทำไมในเมื่อหมอให้เขาพักผ่อนต่ออีกหลายวันและตอนนี้เขาก็อยู่ในช่วงลางานด้วย“ไปทำไมคะ ลาไว้แล้วนิคะ หมอก็บอกว่าช่วงนี้ให้พักผ่อนก่อน ใบรับรองแพทย์ก็มี” ขวัญข้าวขมวดคิ้วถามกลับไป“มันมีงานที่พี่ต้องสะสางอะ แล้วพี่นอนโรงพยาบาลมาตั้งหลายวัน อยากกลับไปเคลียร์” ดินแดนยกเรื่องงานขึ้นมาอ้าง เพราะเขารู้ว่าขวัญข้าวให้ความสำคัญกับเรื่องงานมากเหมือนกัน“ไว้หายดีแล้วค่อยมาเคลียร์ไม่ได้เหรอคะ” สีหน้าของขวัญข้าวมีความเป็นห่วงในตอนที่เสนอความเห็นออกมา เธออยากให้เขาได้พักผ่อนต่ออีกสักหน่อย“ไปไม่นานครับ เดี๋ยวเคลียร์เสร็จจะรีบกลับบ้านเลย นะครับ ข้าวพาพี่ไปหน่อยนะ อีกอย่างพี่คิดถึงบรรยากาศที่ทำงานด้วย ไม่ได้ไปซะนาน ข้าวก็เข้าใจความรู้สึกนี้ใช่ไหม” ดินแดนยกแม่น้ำทุกสายขึ้นมาอ้าง ยังไงเ
ตอนที่ 79 เราแต่งงานกันนะครับ 1.1ขวัญข้าวลงไปกินข้าวกับแอมแล้วก็รีบกลับขึ้นมาหาดินแดนทันที เธอไม่อยากทิ้งเขาไปนานนัก แม้จะมีเพื่อนของเขาคอยดูแลแทนก็ตาม หญิงสาวซื้อของใช้ที่จำเป็นติดมือขึ้นมาด้วย พวกเพื่อน ๆ เขาพอเห็นว่าเธอมาแล้วก็พากันขอตัวกลับ เพราะดินแดนจะได้พักผ่อนต่อ“ถ้าพี่ดินง่วงก็นอนได้เลยนะคะ ข้าวจะนั่งอยู่ตรงนี้แหละ” ขวัญข้าวเอ่ยบอกพร้อมกับชี้ไปที่โซฟาสำหรับญาติคนป่วย“ยังไม่ง่วงหรอก นอนไปตั้งนาน” ดินแดนพูดออกมาเบา ๆ“แบบนั้นไม่เรียกว่านอนสักหน่อย อีกอย่างเดี๋ยวพี่ดินก็ง่วงค่ะ” ขวัญข้าวพูดขึ้นอย่างรู้ทัน เธอเป็นหมอนะ รู้ว่ายาที่เขากินเข้าไปจะทำให้ง่วง และเขาก็คงไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ตนเองตาปรือแล้ว“ข้าวมานอนกับพี่ไหม” ดินแดนพูดขึ้นเบาๆ พร้อมกับตบมือลงที่ข้างๆ ตัวเอง“ไม่ดีกว่าค่ะ ข้าวนอนที่โซฟาได้ค่ะ” ขวัญข้าวตอบกลับไปยิ้ม ๆ ใครเขาให้ญาติไปนอนบนเตียงกับคนป่วยกัน แล้วถ้าไปนอนจริงๆ ยิ่งจะทำให้ไม่ได้พักผ่อน“โอเคครับ แต่ตอนนี้พี่ยังไม่อยากนอนเลย เปิดซีรีส์ดูกันไหม” ดินแดนชวนดูซีรีส์ เพราะว่าแฟนสาวของเขาชอบดู“ได้ค่ะ” ขวัญข้าวเปิดมือถือแล้วค้นหาซีรีส์เกาหลีที่น่าดูขึ้นมา ความจริงเม







