Home / รักโบราณ / ตื๊อรักวาณิช / เหตุการณ์ปล้นสะดม ณ เขาเศียรมังกร 3

Share

เหตุการณ์ปล้นสะดม ณ เขาเศียรมังกร 3

Author: lianlian
last update Huling Na-update: 2025-05-24 07:19:04

กำลังเดินไปตามทาง เด็กชายก็นึกภาพน้ำตาลปั้นสีสวยที่กำลังรออยู่ วันนี้จะกินสีอะไรดีนะ พลันร่างเล็กก็เซวูบไปด้านข้างและชนเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งตามแรงที่เบียดมาของพี่สาว

"ว้ายยยย..." เสียงคนเป็นพี่สาวร้องเมื่อเสียหลัก

"ตายแล้ว แม่นางเป็นอันใดหรือไม่" หญิงสาวชาวบ้านนางนั้นเอ่ยถามทั้งยังรีบเข้ามาช่วยพยุงอย่างไร้ความโกรธเคืองเมื่อถูกชน  หญิงสาวนางนี้คือเสวี่ยหมิงนั่นเอง

"ไม่ ไม่เป็นไร" เมื่อตั้งตัวได้ก็ยืดกายหันมาตอบ "วันนี้คนเยอะไปหน่อยข้าเลยถูกเบียดเอา ขอโทษแม่นางด้วยที่ข้ากับน้องชายต้องชนท่านเช่นนี้ ไม่ทราบแม่นางบาดเจ็บเพราะพวกเราหรือไม่"

"ไม่บาดเจ็บอะไร ห่วงก็แต่น้องชายของเจ้า" หมิงเสวี่ยก้มตัวลงมองเด็กชาย เมื่อเห็นว่าปลอดภัยดีก็ยิ้มให้แต่ไม่กล้ายื่นมือไปลูบหัวเพราะทราบแก่ใจดีว่าชนชั้นสูงเหล่านี้มีความถือตัวมากเพียงใด

"เสี่ยวซู ขอบคุณพี่สาวท่านนี้สิ หากไม่ได้นางช่วยพยุง เราต้องล้มลงไปนอนกับพื้นแล้วเป็นแน่"

เด็กชายมองหน้าคนแปลกหน้า แต่ก็รักษาท่วงท่าสุภาพเอาไว้และรีบเอ่ยขอบคุณตามที่พี่สาวกำชับ

หมิงเสวี่ยยังคงยิ้ม แต่จากนั้นกลับมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น "พักนี้มีโจรขโมยออกอาละวาดฉกชิงวิ่งราว ได้ยินว่าผู้ถูกลักทรัพย์มักโดนเบียดจนล้มเหมือนกับพวกท่าน ไม่ทราบว่าทรัพย์สินของพวกท่านยังอยู่ดีหรือไม่ "

คุณหนูเบิกตากว้าง รีบก้มสำรวจตามเนื้อตัวของตนก่อนจะหยุดอยู่ที่ข้อมือบาง "กำไล กำไลหยกของข้าหายไป"

หมิงเสวี่ยมีสีหน้าตื่นตระหนกและเสียใจแทน ราวกับว่าของที่หายเป็นของตนเอง "ข้าว่าท่านรีบไปแจ้งความที่ที่ว่าการเถอะ หากจับคนร้ายได้ ก็จะได้ของคืน"

อีกฝ่ายกลับทำหน้าเหนื่อยหน่ายราวกับไม่อยากทำ

"ช่างเถอะ กำไลอันเดียวหายแล้วก็หายไป คิดเสียว่าทำบุญก็แล้วกันไป กำไลพวกนั้นไม่มีราคาค่างวดอะไรมาก ที่บ้านข้าก็ยังมีอีกหลายวง หากไปแจ้งความ คาดว่าวันนี้ทั้งวันข้าคงไม่ต้องไปทำอันใดต่อแล้ว"

อา...หากจะโทษ คงต้องโทษ ระบบราชการช่างแสนเชื่องช้าและยุ่งยากจนน่าเบื่อหน่ายสินะ

หมิงเสวี่ยพยักหน้าอย่างเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายจึงไม่คะยั้นคะยอ "เช่นนั้นก็แล้วแต่พวกท่านเถอะ"

"ขอบคุณแม่นางมากที่หวังดีกับข้า" คุณหนูยิ้มรับ "ถ้าเช่นนั้นพวกเราคงต้องขอตัวแล้ว"

ทั้งสองฝ่ายก้มหัวคำนับให้กันและเดินแยกไปคนละทาง

หมิงเสวี่ยเดินเอามือไพล่หลังอย่างอารมณ์ดีจนกระทั่งเลี้ยวเข้าตามซอยเล็กๆ ที่คนน้อยลง เมื่อเลี้ยวไปเรื่อยๆ ก็เหลือผู้คนเพียงบางตา

นางเดินไปเรื่อยๆก็เห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ รูปร่างคุ้นตายืนกอดอกท่าทางรอคอยบางอย่างอยู่ที่ปลายกำแพง หลางหงเช่อที่นัดกับนางเอาไว้หันมองนางพลางส่งยิ้มให้ นางจึงรีบเร่งฝีเท้าเข้าไปหา เมื่อหยุดยืนต่อหน้าเขาก็ยิ้มกว้างพร้อมกับล้วงมือเข้าไปในแขนเสื้อหยิบกำไลหยกขึ้นมาทำท่าอวด

"ได้มาแล้ว!!" นางแกว่งกำไลหยกสีอ่อนที่หน้าเขา เมื่อเขายื่นมือมารับ นางก็ปล่อยมันใส่มือเขาอย่างว่าง่าย "ของกล้วยๆ!"

"เออ เจ้าเก่ง" เขาแสร้งทำเป็นแค่นเสียงแต่ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มภูมิใจ หากแต่เทียบไม่ได้กับแววตาเป็นประกายของหญิงสาวคนรักตรงหน้า

หญิงสาวที่ได้รับคำชมจนหน้าบานเป็นจานเชิงปราดเข้าคว้าแขนชายหนุ่มมาเกี่ยวไว้และออกเดินไปด้วยกัน

"คืนนี้ข้าจะต้องไปช่วยร้านเทียนหมินจัดงานเลี้ยงที่จวนท่านนายอำเภอ เจ้าห้ามทำตัวเหลวไหลนอกใจข้าเป็นอันขาดนะหงเช่อ" นางปั้นเสียงเข้มสายตาดุจัด ถึงกระนั้นพวกเขาก็ทราบว่านางกำลังล้อเล่น

นางรู้จักกับหงเช่อตั้งแต่ครั้งยังเล็ก ต่างฝ่ายต่างกำพร้าพ่อแม่ เป็นเด็กขอทานที่บังเอิญมาพบกัน และความผูกพันก็กล่อมเกลาคนกลายเป็นความรัก

เมื่ออายุราวสิบขวบ หลางหงเช่อกับหมิงเสวี่ยก็ถูกเถ้าแก่หม่า เจ้าของโรงเตี๊ยมเล็กๆ รับไปเลี้ยงดู ทำงานเป็นคนรับใช้ทั่วไป ทำงานทุกอย่างตามแต่จะสั่ง แต่ไม่ใช่แค่เลี้ยงดูธรรมดา เบื้องหลังของเถ้าแก่หม่า คือจอมโจรผู้ถนัดงานย่องเบา เด็กน้อยสองคนจึงได้รับการถ่ายทอดวิชาก้นหีบ ออกลักเล็กขโมยน้อยยามค่ำคืน เน้นขโมยบ้านผู้ดีมีอันจะกินทั้งหลาย โดยนิยมลักแค่นิดๆ หน่อยๆ เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต และเพราะไม่ให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตจนถึงทางการ เนื่องจากคนเหล่านี้ทราบดีกว่าการแจ้งความนั้นยุ่งยากเพียงใด แค่แหวนไม่กี่วงหรือสร้อยสองสามเส้นหายไป ไม่นานก็หาใหม่ได้ แต่การแจ้งความนั้น เสียเวลาทำมาหากินยิ่งนัก หรือบางครั้งก็อย่างที่เห็น ฉกชิงเอากลางถนนโดยอาศัยช่วงคนเยอะๆ  เดินเบียดกันจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร และแน่นอน เหตุการณ์เมื่อครู่คือหงเช่อเป็นคนเดินชนพี่น้องคู่นั้นเพื่อสร้างสถานการณ์ จากนั้นหมิงเสวี่ยก็รับช่วงต่อ อาศัยจังหวะที่คุณหนูนางนั้นเซเข้ามาชน นางก็ใช้วิชามือไวรูดกำไลออกจากมือมาเก็บไว้ที่ตนเอง เหตุการณ์ยังคงเป็นอย่างที่พวกเขาคาดไว้ กำไลวงเดียว หายไปก็ไม่รู้สึกรู้สากระไรนัก

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ตื๊อรักวาณิช   บทส่งท้าย 6

    "นี่ๆ เหอหลาง มาดูชุดของเด็กๆ กัน น่ารักมากเลย" หมิงเสวี่ยชวนคุยเบี่ยงประเด็น "เรียกซือเสียนมาด้วย จะได้ให้ลองชุดพร้อมกับเซียนเซียน"สามีของนางจึงจำต้องพับความคิดนั้นไปก่อน และให้สาวใช้ไปตามซือเสียนมาเพื่อลองชุด"เสวี่ยเอ๋อร์...""เจ้าคะ?" นางหันไปยิ้มสดใสให้เขา"เจ้าตื่นเต้นหรือไม่?""นิดหน่อยเจ้าค่ะ" หญิงสาวว่าพลางวางมือไว้ที่หว่างอกตนเอง"แต่ข้าตื่นเต้นมาก..."หมิงเสวี่ยหัวเราะออกมา เจ้าบ่าวของนางน่ารักเหลือเกิน นางอ้าแขนออกและกอดรอบเอวเขา "ไม่เป็นไรนะเจ้าคะ มีข้าอยู่ด้วย ไม่ต้องตื่นเต้นนะ" นางกอดเขาแน่นอยู่ครู่หนึ่งจึงคลายออกแต่ยังไม่ทันได้คลายเขาก็ดึงนางกลับไปกอดอีก "กอดอีกหน่อยสิ ข้าชอบ...""เดี๋ยวเสื้อยับหมดเจ้าค่ะ""น่านะ เสวี่ยเอ๋อร์คนดี"ฮูหยินน้อยอมยิ้มและกอดกระชับ จิ้งจอกหน้าตายผู้นี้บทจะอ้อนนางก็อ้อนเสียราวกับเป็นเด็กเล็กๆ เลยทีเดียว"ข้ากอดด้วยๆ!" ซือเซียนน้อยวิ่งไปรอบๆ และมุดเข้ามาแทรกตรงกลาง แขนเล็กนั้นชูขึ้นทั้งสองข้างขอให้อุ้ม"ได้สิ" ไป๋จิ้งเหอยิ้มก่อนอุ้มลูกสาวขึ้นมาแล้วหมิงเสวี่ยก็กอดสองพ่อลูกพร้อมกัน"ท่านพ่อ ท่านแม่...!" ซือเสียนที่สาวใช้เพิ่งพาเข้ามาวิ่งมากอดข

  • ตื๊อรักวาณิช   บทส่งท้าย 5

    หมิงเสวี่ยกลับยืนเท้าสะเอว และถลึงตามองสามี คนผู้นี้ร้ายกาจนัก! แล้วเช่นนี้หยกลายเมฆที่นางรับฝากไว้เมื่อใดจะได้ไปคืนสู่เจ้าของเล่า!นางว่าพลางนึกขึ้นได้ว่าตอนเปลี่ยนชุดเมื่อครู่นางถอดถุงผ้าที่ใส่หยกนั้นไว้ นางรีบค้นร่างตัวเองหามันเอ...ไปไหนนะ"ท่านพ่อเจ้าขา ข้าเจอถุงผ้านี้ล่ะ สวยจังเลย""ไหน" จิ้งเหอยื่นมือหมายจะรับถุงผ้าในมือลูกสาวไปดูลำตัวหมิงเสวี่ยพลันชาวาบ เซียนเซียนเอ๋ย! ลูกสาวคนดี! หาเรื่องให้แม่แล้วอย่างไรเล่า!"นี่ถุงผ้าของท่านแม่นี่นา" เขาบอกพลางเงยหน้ามองหมิงเสวี่ยที่เหงื่อชื้นมือ"ช...ใช่เจ้าค่ะ" หมิงเสวี่ยยิ้มแหย "ขอคืนนะเจ้าคะ"เขามองนาง มองถุงผ้า และยัดมันใส่อกเสื้อ "ข้าเก็บไว้ให้ก่อน เดี๋ยวเจ้าทำตกอีก"ไม่นะ! หมิงเสวี่ยทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่ไม่เป็นไร ตอนกลางคืนเดี๋ยวค่อยไปล้วงควักเอาคืน! ตอนนี้จะทำเป็นอยากได้หรือรั้นจะเอาคืนไม่ได้อย่างเด็ดขาด หากจิ้งจอกผู้นี้เห็นนางหวงมันเป็นพิเศษต้องจับได้แน่ๆ"ได้เจ้าค่ะ" นางกลับไปยิ้มแย้มต่อ "มาเจ้าค่ะ ได้เวลาท่านลองชุดแล้วเช่นกัน""ท่านพ่อเจ้าขา ขอถุงผ้าให้ข้าเล่นหน่อยนะเจ้าคะ" ซือเซียนตัวน้อยอ้อนวอน เกาะแขนบิดาไม่ปล่อย"มันเป็

  • ตื๊อรักวาณิช   บทส่งท้าย 4

    "ท่าน...แกล้งข้าอีกแล้ว" นางว่าทั้งๆ ที่หอบหายใจ ตาหรี่ปรือแทบจะลืมไม่ขึ้น เขายิ้มน้อยๆ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ..ให้ตายสิ นางเกลียดรอยยิ้มแบบนี้ของเขานัก นอกจากเขาจะไม่ตอบ ยังถอนสิ่งนั้นออกจากนาง หมิงเสวี่ยเอามือปิดหน้าราวกับรู้ชะตากรรมของตนเอง ตั้งแต่เขาอาการดีขึ้น ก็มักจะเล่นงานนางบนเตียงเสียจนนางแทบลุกไม่ขึ้นทุกครา คราวนี้ก็คงเป็นเช่นนั้น...และจริงอย่างที่นางคิด มือแกร่งจับนางพลิกตัวคว่ำหน้าแนบกับฟูกนอน ใบหน้าหวานสะบัดเงยเมื่อเขากดกายลงมาอีกครั้ง เสียงร้องครางกระเส่าไม่หยุดปากเพื่อบรรเทาความเสียวซ่านที่อีกฝ่ายมอบให้ มือเล็กจิกทึ้งผ้าปูที่นอนจนแทบแหลกแรกเริ่มนางนั้นคึกคักยิ่ง แต่หลังจากถึงฝั่งฝันไปถึงสองรอบนางก็ชักจะหมดแรง ยิ่งตอนนี้ถูกเขาจับคว่ำหน้า นางยิ่งมิอาจขัดขืน"เหอ...เหอหลาง" หมิงเสวี่ยเสียงแผ่ว นางใกล้จะหมดสติแล้วนะแต่ถึงกระนั้น การกระทำของเขาก็ยังคงส่งนางขึ้นสู่จุดสูงสุดได้อีกบางครานางก็เกลียดตนเอง เหนื่อยแทบขาดใจ ก็ยังเสพสุขไม่หยุด นางเจียนจะคลั่งเมื่อเขาขยับตัวรุนแรงขึ้น ทั้งยังโน้มกายลงบีบเคล้นทรวงอกอิ่ม และยอดอกของนางอีก"หมดแรงแล้วรึ?"หมิงเสวี่ยเงยหน้ากัดฟันกรอด ยัง

  • ตื๊อรักวาณิช   บทส่งท้าย 3

    "ตรงไหนดีนะ...?" นางใช้ศอกดันตัวขึ้นเข้าหาเขาเล็กน้อยริมฝีปากเล็กทำท่างับเบาๆ ที่ริมฝีปากเขาราวกับแกล้งหยอก "ตรงนี้ก็ดี..."เขายังคงนิ่ง ปล่อยให้นางชิมเขาต่อไป"ตรงนี้ก็ดี" นางจูบที่แก้มเขา ก่อนงับที่ซอกคอเขาเบาๆ"แมวน้อยช่างเลือกกินยิ่ง..." เขาพูดขึ้นและใช้มือผลักนางนอนลงอย่างทนไม่ไหว "แต่จิ้งจอกมันตะกละตะกลาม จะกินแมวน้อยตัวนี้มิให้เหลือแม้แต่เส้นขนทีเดียว"ผู้เป็นฮูหยินกลับไม่มีท่าทียี่หระ ทั้งกลับเป็นฝ่ายยกวงแขนคล้องคอเขา กดศีรษะเขาลงมาให้นางได้ชมชิมริมฝีปากหวานฉ่ำ"ท่านก็กินข้าหมดทั้งตัวแล้วนี่ เหอหลางของข้า" นางเอ่ยเสียงแผ่วเมื่อริมฝีปากของทั้งสองผละจากกัน"กินแล้วก็กินอีก ข้ายังกินไม่หนำใจ..." ว่าพลางเริ่มจุมพิตย้ำกับริมฝีปากนางต่อ"อืม...เช่นนั้นข้าจะให้ท่านกินข้าไปชั่วชีวิต" มือซนเริ่มสอดยังสาบเสื้อแล้วลูบไล้แผ่นอกแกร่งของเขา "แล้วสตรีหน้าไหนก็อย่าหวังได้กินท่านด้วย"มือน้อยที่หลายปีก่อนเคยหยาบกระด้าง ทว่าตั้งแต่มาอยู่กับเขาก็ไม่เคยได้จับงานหนักจนกลายเป็นมือน้อยที่นุ่มเนียน ถูกนางลากไล้จนแตะลงที่แผลเป็นอันเป็นรอยทางยาวจากกลางอกไปจนถึงไหล่ขวาของเขา บาดแผลที่ฉู่หลานเทียนฝากไว้

  • ตื๊อรักวาณิช   บทส่งท้าย 2

    "ที่นี่อาจจะดูใหญ่โต ผู้คนมากมาย แต่ก่อนหน้านี้ข้าก็เหงามากเชียวล่ะ...""ตอนนี้ไม่เหงาแล้วนะเจ้าคะ" หมิงเสวี่ยกอดแขนสามีไว้แน่น แล้วอิงแก้มอุ่นกับแขนเขา "เพราะข้ากับเด็กๆ จะคอยป่วนท่านทุกวันเลย"ชายหนุ่มอมยิ้ม เพราะมีนางและลูกๆ ชีวิตเขาจึงมีความสุขมากจริงๆ "ข้าชินกับความซุกซนของเจ้าแม่ลูกเสียแล้วล่ะ"ความสดใสของหมิงเสวี่ย บางทีก็ทำให้เขารู้สึกคล้ายกับว่านางเป็นลูกคนโตที่เอาแต่ใจยิ่ง และมักจะเป็นหัวโจกนำลูกๆ ของเขาและเฉี่ยวเหมยไปทดลองเล่นอะไรแปลกๆ เยอะแยะไปหมด วันทั้งวันมีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้ม ทำให้ชีวิตเขาไม่เคยขาดสีสันไปเลยแม้แต่วันเดียวเขาพานางเดินเลี้ยวไปมา จนกระทั่งมาหยุดที่เรือน "อิงฮวา" (ดอกซากุระ) "นี่คือ...?""ห้องของเรา..." เขาเปิดประตูพานางเข้าไปชมด้านใน หมิงเสวี่ยถึงกับอ้าปากค้าง ภายในห้องตกแต่งอย่างสวยสดงดงามและหรูหรา เมื่อเทียบกับจวนที่ซีหนิงแล้ว ที่นี่ดีงามกว่าเป็นร้อยเป็นพันเท่า"อย่าขโมยอะไรล่ะ หากอยากได้ก็ขอข้าดีๆ เข้าใจหรือไม่?"หมิงเสวี่ยย่นจมูกใส่เขา "ขโมยไปทำไมกัน ข้าขโมยหัวใจท่านอย่างเดียว ของทุกอย่างนี่ก็กลายเป็นของข้าแล้ว ง่ายดายยิ่ง""ร้ายนักนะ นางแมวขโมย

  • ตื๊อรักวาณิช   บทส่งท้าย 1

    สามปีให้หลังจากนั้น...เย็นวันนี้เมืองฉางอันครึกครื้นยิ่ง จากที่เป็นเมืองหลวงที่ครึกครื้นอยู่แล้ว วันนี้ก็มีเรื่องให้ชาวบ้านได้พูดคุยกันเช่นเคยขบวนรถม้าหรูหราบ่งบอกฐานะร่ำรวยและทรัพย์ศฤงคารอันมั่งคั่งค่อยๆ เคลื่อนผ่านประตูเมือง มุ่งหน้าสู่เขตบ้านพักของผู้มีอันจะกินทั้งหลาย และจอดลงที่หน้าคฤหาสน์ตระกูลไป๋"ยินดีต้อนรับกลับขอรับ นายท่าน ฮูหยินน้อย และคุณหนูทั้งสอง" พ่อบ้านเฮยที่อยู่เบื้องหน้าขบวนต้อนรับประสานมือคารวะผู้เป็นนาย ขณะที่หมิงเสวี่ยก้าวลงจากรถม้าด้วยอาการตะลึงพรึงเพริดเจ้าจิ้งจอกนี่ร่ำรวยเพียงนี้เชียวรึ?!บ้านช่องใหญ่โตโอ่อ่า ใหญ่กว่าจวนผู้ว่าของซีหนิงที่ว่าใหญ่ที่สุดในเมืองซีหนิงอีกเท่าตัว! ไหนจะบ่าวไพร่คนรับใช้ที่ตั้งแถวรอรับพวกนางอยู่นี่อีกเล่า! ถ้ารู้ว่ารวยขนาดนี้ คงยอมพลีกายแต่งงานด้วยไปนานแล้ว!!"ท่านแม่ๆ นี่บ้านของพวกเราหรือเจ้าคะ?" ซือเซียนในวัยสามขวบ เกาะชายกระโปรงมารดาเอ่ยถามหมิงเสวี่ยหันไปดึงแขนเสื้อไป๋จิ้งเหอ "นี่ เราไม่ได้มาผิดบ้านใช่ไหม?""ไม่ผิดหรอก นี่ล่ะ บ้านของเรา" ไป๋จิ้งเหอเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางเมื่อเห็นท่าทีตกตะลึงพรึงเพริดนั้น"ใหญ่กว่าบ้านที่ซีหนิงอีก!"

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status