/ วัยรุ่น / ต้องรักแสงเหนือ / รอยยิ้มที่สดใส

공유

รอยยิ้มที่สดใส

last update 최신 업데이트: 2025-12-02 12:30:54

“โอ๊ยเหนือ เบา ๆ หน่อย พี่เจ็บ”

เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นพร้อมกับการขมวดคิ้วแน่นของเดย์ ชายหนุ่มเข้าร่างสูงสะดุ้งตัวเล็กน้อย แต่กลับไม่ยอมเบี่ยงหน้าหนี จากมือเรียวบางที่กำลังทำความสะอาดแผลบนใบหน้าเขาอย่างตั้งใจ

เรียวมือเล็กใช้สำลีชุบด้วยน้ำเกลือจนเปียกชุ่ม เพื่อนำมาเช็ดทำความสะอาด บาดแผลบนใบหน้าให้กับคนตัวโตทีละคน

ใบหน้าหล่อเหลาครบเครื่องที่ไปไหนก็เรียกเสียงกรี๊ด และสายตาจากสาว ๆ รอบตัวได้เสมอ มันกลับเต็มไปด้วยรอยฟกซ้ำตามหัวคิ้ว และมุมปาก ด้วยสภาพที่ไม่ได้ต่างจากกันเท่าไหร่นัก

“เจ็บแล้วไปมีเรื่องทำไมคะ”

คนตัวเล็กเอ่ยถามพร้อมกับกลอกตามองบนให้กับชายหนุ่มตัวโตที่เพิ่งไปมีเรื่องจนเจ็บตัวกลับมา จนเธออดรู้สึกหมั่นไส้ร่างสูงทั้งสองคนไม่ได้ ทีตอนเขาไปมีเรื่องกันกลับไม่เห็นจะกลัวเจ็บ แต่ตอนนี้กลับมานั่งร้องโอดโอย เพราะแผลเล็ก ๆ บนใบหน้า

“มันเป็นเรื่องของลูกผู้ชาย เธอจะเข้าใจอะไรยัยตัวเล็ก”

เดย์ตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ ในขณะเรียวมือเล็กแตะสำลีลงบนแผล บริเวณมุมปากของชายหนุ่มอย่างระมัดระวัง จนปลายเรียวนิ้วสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อน ที่เป่ารดลงมาบนมือของเธออย่างแผ่วเบาทำเอาแสงเหนือเผลอใจสั่นด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ยุบยิบในหัวใจ

แสงเหนือแอบลอบถอนหายใจเบา ๆ พยายามตั้งสติ ก่อนจะแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไร แล้วก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำแผลต่อไป โดยที่เธอไม่ทันรู้ตัวเลยว่าทุกอาการที่เกิดขึ้นของเธอ ตกอยู่ในสายตาของคนตัวโตที่กำลังมองเธอด้วยสายตาแพรวพราวปนเอ็นดูตั้งแต่แรก

“ถ้างั้นลูกผู้ชายตัวโตแบบพี่เดย์ก็ช่วยอยู่เงียบ ๆ แล้วเลิกโวยวายสักที หนูจะได้ทำแผลให้เสร็จ ดูพี่ไนท์สิ ไม่เห็นจะพูดมากเหมือนพี่เลย”

“ไอ้ไนท์มันก็เจ็บไม่เชื่อถามมันสิ”

“เอ่อเจ็บ แต่กูไม่ร้องเหมือนหมาแบบมึง ปัญญาอ่อน!”

“หยุดเถียงกันทั้งคู่เลย ไม่งั้นเหนือจะไม่ทำแผลให้เลยสักคน”

แสงเหนือกุมมือประคองมือของเดย์ที่เต็มไปด้วยรอยถลอก เลือดซึมแดงตรงข้อนิ้วชวนให้เธอใจหาย เมื่อเห็นพวกเขาต้องเจ็บ นี่คงเป็นอีกเหตุผลที่เธอไม่ชอบให้เขามีเรื่อง

ดวงตากลมโตเงยขึ้นมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบก้มหน้ากลับไปจัดการแผลต่อด้วยสีหน้าจริงจัง เพื่อปิดซ่อนความรู้สึกของตัวเอง เพราะถึงแม้เธอจะบ่นเขาสองคนไม่ขาดปาก แต่ความจริงลึก ๆ แล้วเธอแค่รู้สึกเป็นห่วงก็เท่านั้น

“นี่มันครั้งที่เท่าไรแล้วค่ะ ที่หนูต้องมานั่งทำแผลให้พี่สองคน”

เสียงเธอสั่นนิด ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิ แต่ความเป็นห่วงมันเอ่อล้นจนเก็บซ่อนเอาไว้แทบไม่อยู่ วันนี้เขาอาจจะเจ็บแค่นี้ แต่ครั้งหน้ามันจะเจ็บมากกว่านี้ก็ได้

“หึ”

เดย์หัวเราะเบา ๆ ทั้งที่ยังเจ็บ เขาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ มองเธอจัดการแผลบนมืออย่างตั้งใจด้วยรอยยิ้ม ชวนให้คิดถึงเรื่องราวในวัยเด็กในตอนที่ได้เจอกันครั้งแรก

“ก็เหมือนตอนเด็กไง ตอนนั้นหนูก็ทำแผล ติดปลาสเตอร์ลายการ์ตูนให้พวกพี่แบบนี้นิ”

เสียงของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก จนแสงเหนือชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่ภาพความทรงจำจะไหลย้อนเข้ามาในหัว วันที่สองแฝดเข้ามาช่วยเธอจากการถูกเด็กตัวโตต่างห้องรังแก

วันนั้นเธอรู้สึกหวาดกลัวและมือไม้สั่นยิ่งกว่าวันนี้ ทว่าตอนนั้นเธอทำได้เพียงติดปลาสเตอร์ให้พวกเขาอย่างทุลักทุเล แต่พอมาวันนี้เธอกลับจัดการแผลเหล่านั้นได้อย่างชำนาญและรวดเร็ว เพราะตอนนี้เธอโตแล้ว และนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอต้องมานั่งทำแผลให้เขาสองคน

พี่เป็นฝาแฝดที่เหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน คำพูดของตัวเธอเองในวันนั้นดังขึ้นมาในใจอย่างชัดเจน ทำให้แสงเหนือเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อยทุกครั้งที่คิดถึงเหตุการณ์วันนั้น

ความจริงเขาสองคนเป็นฝาแฝดที่เหมือนกันมากจนแทบจะแยกไม่ออก จึงทำให้ใครหลาย ๆ คนทักผิดจนเกิดความสับสน และเป็นเธอเองที่พาเขาสองคนไปทำสีผมใหม่ เพื่อให้พวกเขาดูมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป

ทว่าแต่สำหรับแสงเหนือไม่ว่าคนตัวโตจะผมสีอะไร ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอเลยสักนิด เพราะอย่างที่บอกว่าเขาสองคนเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน สำหรับเธอ

“พี่เดย์ ลุกไปนั่งรอด้านหลังเลย เหนือจะทำแผลให้พี่ไนท์”

คนตัวเล็กที่เผลอตกอยู่ในภวังค์ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยบอกคนตัวโตตรงหน้าอย่างใจเย็น หลังจากที่เธอทำแผลให้เขาเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะเห็นเขาเดินไปนั่งบนเตียงคนป่วยที่อยู่ด้านหลัง

ไนท์ที่ยืนเงียบๆ มาตลอด รอให้แสงเหนือทำแผลให้พี่ชายฝาแฝดของตัวเองจนเสร็จ ก่อนจะเดินตรงไปหาร่างบางที่นั่งรออยู่ แล้วทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าเธอ

แสงเหนือมองรอยช้ำที่หลังมือ ก่อนจะเลื่อนสายตามองขึ้นไปบนใบหน้าของคนตัวโต ที่เต็มไปด้วยรอยแดงตรงโหนกแก้มของเขา จนเธออดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือขึ้นแตะเบา ๆ แล้วค่อย ๆ จัดการเช็ดเลือดที่เริ่มแห้งออกอย่างระมัดระวัง

“เจ็บมากไหมคะ”

เสียงหวานเอ่ยถามอย่างแผ่วเบาทั้งน้ำตา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมครั้งนี้บาดแผลของทั้งสองคนถึงดูหนักกว่าทุกครั้ง

“ถ้าถามถึงแผลพี่ไม่เจ็บ เพราะสิ่งที่กำลังทำให้พี่เจ็บคือน้ำตาของหนู”

คำตอบสั้น ๆ แต่แฝงด้วยความหนักแน่นในคำพูดของไนท์ทำเอาแสงเหนือถึงกลับชะงักไป ถึงแม้ตัวเธอจะไม่มีบาดแผลสักนิด แต่น้ำตากลับเอ่อคลอทั้ง ๆ ที่พยายามจะกลั้นมันไว้แล้ว ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้รู้สึกเป็นห่วง และเจ็บหน่วงที่ใจไปพร้อมกับพวกเขาแบบนี้

“ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง”

“รู้ว่าหนูเป็นห่วง แล้วพี่สองคนทำไมต้องขยันมีเรื่องด้วย”

สายตาดำสนิทหันกลับมาจ้องมองดวงตากลมโตที่กำลังทำหน้าเง้าหน้างอ

“หึ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ยัยตัวเล็ก ตอนนั้นเธอสัญญาไว้เองไม่ใช่เหรอ ว่าจะเป็นหมอคอยทำแผลให้พวกพี่”

เสียงทุ้มต่ำของเดย์เอ่ยออกมาราวกับกำลังหยอกล้อ แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกจริงจัง เหมือนกำลังย้ำเตือนสัญญาที่เธอเคยพูดเอาไว้เมื่อในอดีตด้วยความไร้เดียงสา

“เหนือรู้แล้ว”

แสงเหนือเม้มปากแน่น มันจริงอย่างที่พวกเขาบอกว่าเธอเคยพูดออกไปแบบนั้น และนี้คือเหตุผลที่ทำให้เธอเข้าเรียนหมออย่างจริงจัง เพราะนอกจากแม่ ชีวิตเธอก็มีแค่ผู้ชายสองคนนี้ที่คอยปกป้องเธอมาตลอดตั้งแต่วันนั้น

เธอเลยเลือกจะเป็นหมอเพื่อสักวันจะได้กลับไปดูแลแม่ และได้มีโอกาสดูแลผู้ชายสองคนนี้ตามคำสัญญา จนกว่าจะมีผู้หญิงสักคนมาดูแลพวกเขาแทนเธอ และถึงแม้วันนี้แสงเหนือจะมั่นใจว่า เธอสามารถจัดการบาดแผลพวกนั้นได้เป็นอย่างดี แต่เธอก็ยังรู้สึกเป็นห่วงและเป็นกังวลไม่อยากให้พวกเขาต้องมาเจ็บตัวแบบวันนี้อยู่ดี

“แต่ที่เหนือบอก ก็เพราะเหนือเป็นห่วงพี่สองคนนะคะ”

“…”

“…”

แสงเหนือเอ่ยบอกคนตรงหน้าด้วยเสียงหวานที่สั่นเครือยิ่งกว่าเดิม แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะความอ่อนแอเหมือนในวัยเด็ก หากเป็นเพราะเธอรู้สึกเป็นห่วงพวกเขาซะมากกว่า กลัวว่าครั้งต่อไปมันอาจจะร้ายแรงมากไปกว่านี้

“ถ้าครั้งหน้าพวกพี่ยังมีเรื่องอีก เหนือจะไม่ทำแผลให้แล้วจริง ๆ นะ”

ร่างบางยังคงตั้งใจทำแผลต่อไป ในขณะที่ริมฝีปากเล็กยังคงขยับบ่นเขาทั้งสองคนไม่หยุด ถึงเธอจะสามารถดูแลและทำแผลให้เขาสองคนได้เสมอ แต่ก็ใช่ว่าเธอจะอยากเห็นพวกเขาต้องบาดเจ็บแบบนี้ซะหน่อย

“พี่สองคนสัญญากับเหนือมาเลยว่าจะไม่มีเรื่องอีก”

“ถ้าแบบนั้น หนูก็ต้องสัญญากับพี่ ว่าจะไม่มีน้ำตาแบบวันนี้”

ไนท์ยกมือเกี่ยวกลุ่มผมสีดำยาวสลวยของคนตัวเล็กขึ้นทัดใบหูช้า ๆ แล้วใช้ปลายนิ้วเกลี่ยลงบนผิวแก้มเนียนเบา ๆ เพื่อปาดซับน้ำตาที่กำลังเอ่อคลอ

สายตาคมยังคงจ้องมองอย่างไม่ละไปไหน ก่อนจะโน้มตัวลงมากระซิบข้างใบหูด้วยเสียงที่แผ่วเบา

“แล้วต่อไปพี่จะพยายามไม่มีเรื่องให้เธอต้องห่วงอีก ดีไหมครับ”

ลมหายใจร้อนของร่างสูงที่เป่ารดผิวหน้า ทำเอาคนตัวเล็กที่นั่งนิ่งหยุดชะงัก จนตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับ

แต่ยังไม่ทันได้ตั้งสติแผ่นหลังบางของเธอก็มีใครบางคนเข้ามายืนทับซ้อน ก่อนจะโน้มตัวลงมากระซิบข้างใบหูอีกฝั่ง ด้วยน้ำเสียงที่แสนเจ้าเล่ห์

“งั้นเดียวพี่สัญญาด้วยอีกคน”

บรรยากาศในห้องพยาบาลเหมือนหยุดนิ่งชั่วขณะ มีเพียงเสียงหัวใจของทั้งสามที่เต้นแรงเป็นจังหวะเดียวกัน ราวกับว่าสัญญาที่เคยทำกันไว้ใต้ท้องฟ้ายามเย็นวันนั้น ยังคงผูกพันพวกเขาไม่เคยเปลี่ยน

“ระ รู้แล้วค่ะ”

เสียงหวานตอบรับแผ่วเบา ก่อนจะแสร้งก้มหน้าก้มตาทำแผลอย่างตั้งใจ แม้หัวใจจะยังรู้สึกสั่นไหวไม่หาย

แต่ก็พยายามเก็บอาการไม่ให้พวกเขาเห็น และถึงแม้คำตอบของชายหนุ่มจะไม่ค่อยถูกใจมากนัก เพราะพวกเขาไม่รับปากว่าจะไม่มีเรื่องอีก แต่อย่างน้อยเขาก็รับปากว่าจะพยายามซึ่งมันก็ดีกว่าที่จะปล่อยให้พวกเขามีเรื่องแบบนี้ต่อไป

“หึ”

ชายหนุ่มสองคนชำเลืองสายตามองกันเล็กน้อยอย่างพึงพอใจ ก่อนที่เดย์จะลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ เพราะครั้งนี้เขาสองคนไม่ต้องการให้เธอรู้หรือชักไซ้ถึงสาเหตุในการทะเลาะวิวาท ว่ามันเกิดจากอะไร

ปล่อยให้คนตัวเล็กเข้าใจว่ามันเป็นแค่การทะเลาะกัน ธรรมดาเหมือนครั้งก่อน ๆ ที่ผ่านมา ดีกว่าให้เธอรู้ว่าพวกเขาไปซัดกับคนระยำที่เอ่ยปากพูดถึงเธอด้วยถ้อยคำที่ไม่น่าฟังซะยังดีกว่า

เพราะสำหรับพวกเขา แค่ได้ยินใครบางคนกล้าดูแคลนแสงเหนือด้วยถ้อยคำหยาบโลน มันก็โมโหเกินกว่าที่จะทนฟังเฉย ๆ ได้

ส่วนบาดแผลความเจ็บปวดจะหนักแค่ไหน พวกเขาก็รับได้ แต่สิ่งที่ทั้งสองคนไม่คิดจะยอมให้เกิดขึ้นเลย คือการปล่อยให้มีคนมาพูดถึงเธอในทางไม่ดี

มันเป็นสิ่งที่พวกเขายอมรับและปล่อยผ่านไม่ได้จริง ๆ เพราะด้วยนิสัยของเธอคงได้เก็บเอามาคิดเป็นกังวลหรือโทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุให้พวกเขาเจ็บตัวแน่นอน

สำหรับแสงเหนือ มันอาจเป็นเพียงหน้าที่ตามสัญญาในวัยเด็ก แต่สำหรับเดย์กับไนท์ มันคือคำสัญญาที่พวกเขาไม่เคยลืม และจะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอเป็นผู้หญิงของพวกเขา ที่เต็มไปด้วยความสุข ไร้กังวลและใบหน้าสวยนั่นต้องไม่เปื้อนน้ำตาอีกไม่ว่าจะเพราะอะไร

“เหนือ วันนี้ป๊าบอกให้เข้าไปกินข้าวที่บ้านตอนเย็น”

เดย์เอ่ยบอกร่างบางที่กำลังติดปลาสเตอร์ลงบนหลังมือให้ไนท์อย่างตั้งใจ

“ดีเลย เหนือจะได้ฟ้องป๊ากับม๊า ว่าพี่ ๆ ดื้อกับเหนือมากขนาดไหน”

เดย์ถึงกับหัวเราะร่วนออกมาที่ได้เห็นท่าทางของคนตัวเล็กทำท่าขู่พวกเขา ไม่ต่างจากไนท์ที่ถึงแม้จะเป็นคนนิ่ง ๆ แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามรอยยิ้มของคนตรงหน้า และนี่คือสิ่งที่เขาสองคนตั้งใจจะรักษาเอาไว้ รอยยิ้มที่สดใส บนใบหน้าของแสงเหนือ

이 책을.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ต้องรักแสงเหนือ   พายุที่ถาโถม

    “มึงจะมายืนดูคลิปโป๊ เหี้ยอะไรตอนนี้”เดย์หันกลับไปถามแฝดของตัวเองที่กำลังขมวดคิ้วมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ในระหว่างที่พวกเขากำลังรอขนมและเครื่องดื่มอย่างชาเขียวปั่นกับเค้กแครอทของโปรดแสงเหนือที่ต้องมาซื้อเป็นประจำ“ดูคลิปเหี้ยอะไร กูดูพิกัดแสงเหนือ กูว่ามันแปลก ๆ ว่ะ”เดย์ที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของตัวเองขึ้นมาทันที ก่อนจะเปิดดูพิกัดและการเคลื่อนไหวของแสงเหนือที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ“เหนือไปทำอะไรที่ตึกนิเทศ”เรียวคิ้วหนาของเดย์และไนท์ ขมวดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ ความรู้สึกสงสัยและความร้อนใจก่อตัวขึ้นมาทันที เพราะคนตัวเล็กไม่เคยไปไหนมาไหนโดยที่ไม่บอกพวกเขาแบบนี้สักครั้ง“ไอ้ซัน เครื่องดื่มกับขนมของแสงเหนือกูไว้ก่อนนะ เดียวมาเอา”“มีอะไรวะ”“กูจะรีบไปหาแสงเหนือ”ไนท์บอกกับเพื่อนสนิทตัวเองที่เป็นเจ้าของร้านคาเฟ่แห่งนี้ แม้ชื่อและกรรมสิทธิ์จะเป็นของหญิงสาวรุ่นน้องอย่างไอริสก็ตาม ก่อนจะพากันวิ่งออกไปด้วยท่าทางร้อนรน เพราะสัญชาตญาณของเขามันกำลังบอกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับแสงเหนือแน่นอนตึกเก่าคณะนิเทศ“ยะ อย่าเข้ามานะ”“ชูว์ ไม่ต้องร้อง มันไม่ได้มีอะไรน่ากลัวเลยคนส

  • ต้องรักแสงเหนือ   กลัวจับใจ

    แสงเหนือยังคนก้มหน้าดูบางสิ่งบนหน้าจอไอแพดอย่างตั้งอกตั้งใจ หลังจากมีการแจ้งยกคลาสในช่วงบ่าย ทำให้เธอต้องมานั่งรอฝาแฝดที่ใต้ตึกพร้อมกับเพื่อนสนิทอย่างน้ำอุ่นที่อาสามานั่งรอเป็นเพื่อน“เหนือกำลังดูอะไรอยู่เหรอ”“อ้อ เหนือดูสูตรน้ำแซนวิส ว่ามีแบบไหนน่าสนใจบ้าง เมื่อคืนพวกพี่เขาบอกว่าอยากทานนะ”หญิงสาวตอบกลับเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้มสดใสอย่างไม่ได้ใส่ใจ แต่ใบหน้ากลับเห่อร้อนจนเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ หลังจากพูดออกไปตามความคิดตัวเอง ก็อดจะนึกถึงตอนที่เขาร้องขอให้เธอทำแซนวิสให้ทานไม่ได้“แซนวิสเหรอ” “อือ”น้ำอุ่นที่ยังคงจ้องมองใบหน้าที่แดงระเรื่อของเพื่อนสนิท พร้อมความรู้สึกคับแค้นเต็มอก ที่ดูเหมือนว่าเธอจะทนไม่ไหวอีกต่อไป แค่ได้เห็นใบหน้านั่น เธอก็พอเดาออก ถึงที่มาคำขอนั่นว่ามันเกิดขึ้นในช่วงเวลาไหน เพราะไม่งั้นคนตรงหน้าเธอ คงไม่หน้าแดงระเรื่อแบบนี้หรอกหากแต่ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ ทำไมคนที่สมหวังต้องเป็นแสงเหนือเพียงแค่คนเดียว ทำไมคนนั้นถึงไม่ใช่เธอ ทำไมต้องเป็นหญิงสาวธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้พิเศษอะไร ไม่รู้แม้กระทั่งความหมายของคำคำนั้นสุดท้ายน้ำอุ่นจึงได้ตัดสินใจส่งข้อความออกไปหาใครบางคนแ

  • ต้องรักแสงเหนือ   จำได้

    “เหนือจะมีความสุขมากกว่าเดิมครับ พี่สัญญา”“อ่าส์ พี่เดย์ขามันเสียว”เรียวนิ้วแกร่งขยับเข้าออกช้า ๆ จากหนึ่งเปลี่ยนมาเป็นสองนิ้ว เพื่อค่อย ๆ ให้คนตัวเล็กได้ปรับตัว รับแก่นกายที่มีขนาดใหญ่ของเขาสายตาคมมองสบตาอย่างรู้กัน ไนท์ถอดถอนตัวตนแกร่งของตัวเองออก แล้วทาบริมฝีปากหนาประกบเข้ามาแทนที่ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของคนตัวเล็กขณะมือหนายังทำหน้าที่กอบกุมก้อนเนื้อนุ่มนิ่มแล้วบีบเคล้นอย่างเพลินมือ ก่อนจะปรายตามองคู่แฝดของตัวเองที่บีบชโลมลำแกร่งด้วยเจลหล่อลื่นจนเปียกชุ่ม“อื้มมมมมมมมมม”เสียงหวีดร้องดังออกมาในลำคอ แม้ในขณะที่ริมฝีปากยังถูกทาบปิดอยู่ หยาดน้ำตาลเอ่อคลอทันที เมื่อร่างสูงดันแท่งเอ็นร้อนเข้าไปในรูรักด้านหลังที่ปิดสนิทช้า ๆ จนสุดลำ“อ่า ตอดเอ็นพี่แทบขาดแล้วยัยตัวเล็ก”“…”ร่างแกร่งเป่าผ่อนลมหายใจออกทางปาก เพื่อระบายความเสียวกระสันที่ทำเอาขนลุกไปทั้งตัว แล้วปล่อยในรูรักตอดรัดเอ็นร้อนที่กดแช่ค้างไว้จนปวดหนึบ“พี่อยากให้เหนือเห็นหน้าตัวเองตอนนี้จัง ว่ามันยั่วเอ็นพี่แค่ไหน”ไนท์ผละริมฝีปากออกช้า ๆ หลังจากที่เห็นร่างบางเริ่มปรับตัวได้ ก่อนจะกดจูบซับน้ำตาที่เอ่อคลอ เพื่อปลอบประโลมอย่างอ่

  • ต้องรักแสงเหนือ   มากกว่าหนึ่ง

    “ถ้างั้น พี่ ๆ ช่วยเหนือเปลี่ยนชุดนี้ให้หนูหน่อยได้ไหมคะ หนูอยากใส่มันกับพี่สองคน”เสียงเธอสั่นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ทั้งที่เธอก็พยายามบังคับน้ำเสียงพูดให้ดูเป็นปกติ แต่คนฟังกับยกยิ้มที่มุมปากอย่างถูกใจ“งั้นพี่คงต้องขอดูแล้วละ ว่าในกล่องนั้นนอกจากชุดแล้วมันมีอะไรให้พี่เล่นบ้าง”น้ำเสียงต่ำของไนท์ลากยาว จนคำสุดท้ายคล้ายคำล้อเลียน สายตาของเขามันเต็มไปด้วยอารมณ์และความต้องที่ฉายออกมาอย่างชัดเจนแสงเหนือกลืนน้ำลายเฮือก รู้สึกถึงจังหวะการบีบรัดตัวของหัวใจตัวเอง ที่เต้นแรงจนแทบหลุดออกมาจากอกเธอขยับตัวถอยหลังช้า ๆ ด้วยความประหม่าจนแผ่นบางติดชิดขอบเตียง เพราะมันคือครั้งแรกที่เธอเป็นฝ่ายเชิญชวนพวกเขาก่อน“เหนือรู้ไหม ว่าพอพูดแบบนี้ มันเหมือนเหนือกำลังยั่วพี่”เสียงทุ้มต่ำราบเรียบ แต่แฝงแรงปรารถนาในทุกถ้อยคำ ทำให้หัวใจเธอสั่นไหวไม่เป็นจังหวะ“รู้ค่ะ แล้วพวกพี่ไม่อยากรักหนูเหรอ”“เปลี่ยนชุดค่ะ แล้วหนูก็คลานมาหาพี่”คนตัวเล็กลุกขึ้นยืน ก่อนจะค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทีละชิ้น ทั้งที่ดวงตากลมโตยังคงมองไปยังร่างสูงอย่างไม่คิดจะหลบสายตาในเมื่อเธออยากมัดใจเขา ถึงมันจะน่าอา

  • ต้องรักแสงเหนือ   เปลี่ยนชุด

    หลายวันต่อมา สายฝนโปรยบาง ๆ เคล้ากับสายลมเย็นของปลายเดือน แสงเหนือยังคงใช้ชีวิตเหมือนปกติ ตื่นแต่เช้า ออกไปเรียน กลับมาทำอ่านหนังสือ จิบชาเขียวแก้วโปรด และพูดเสียงหวานนุ่มทุกครั้งที่ฝาแฝดโทรมาหา แต่ถึงอย่างนั้น เดย์กับไนท์ก็เริ่มจับสังเกตได้ถึงบางอย่างที่ ไม่ปกติ อย่างเช้าวันนี้ เมื่อนิติบุคคลโทรขึ้นมาแจ้งว่ามีพัสดุมาส่งดังขึ้นเป็นครั้งที่สาม เพื่อขออนุญาตนำของขึ้นไปส่ง ก่อนที่เดย์จะเป็นฝ่ายเดินไปเปิดประตูด้วยความสงสัย“พัสดุของคุณแสงเหนือครับ เซ็นรับตรงนี้เลยครับ”เด็กส่งของยื่นกล่องกระดาษสีน้ำตาลขนาดกลางมาให้ พร้อมใบเซ็นชื่อ เพียงแต่สิ่งที่เขาเห็นทำเอาต้องขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความแปลกใจทันที ก่อนจะรับของสิ่งนั้นมา“ขอบคุณครับ”เดย์เลิกคิ้ว สายตากวาดมองกล่องพัสดุสีน้ำตาลที่รับมาใบตรงหน้า เป็นอีกครั้งที่พัสดุปริศนาชิ้นนี้ที่ไม่มีชื่อร้านหรือสัญลักษณ์อะไรทั้งนั้น มีเพียงสติ๊กเกอร์เขียนตัวเล็ก ๆ ว่า ของใช้ส่วนตัว โปรดอย่าเปิดโดยพลการ“ของเหนืออีกแล้ว?”เขาพึมพำในลำคอ ตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดมาก แต่ช่วงหลายวันมานี้ที่คอนโดของเขามีพัสดุมาส่งแทบทุกวัน ทั้งตอนเช้า และตอนเย็น และทุกครั้งมันจะไ

  • ต้องรักแสงเหนือ   ไฟริษยา

    เสียงเครื่องยนต์ต่ำของ Porche Panamera 4E ดังสะท้อนก้องในลานจอดรถหลังคณะวิศวะฯ ขณะที่ทุกสายตาพากันหันมามองตามด้วยความสนใจรถยนต์หรูราคาเกือบสิบล้านที่ใครหลายคนหมายปองและใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของ หากแต่ครั้งนี้มันกลับไม่ใช่แค่รถที่ทุกคนกำลังสนใจ แต่กลับพ่วงด้วยเจ้าของรถ อย่างฝาแฝดแห่งวิศวะแสงเหนือในชุดนิสิตเรียบร้อยสะอาดตา เธอก้าวลงอย่างระมัดระวัง ข้าง ๆ แฟนหนุ่มทั้งสองคนเดย์ และ ไนท์ เปิดประตูลงมายืนรออยู่ก่อนพร้อมเอกสารเรียนของเธอ ทว่าในมือของทั้งคู่ยังถือถุงใส่รองเท้าคัทชูและแก้วชาเขียวที่เธอชอบติดมือมาให้อย่างใส่ใจท่ามกลางสายลมยามเช้า พัดผ่านสนามหญ้าเบา ๆ ขณะที่ทั้งสามคนเดินเคียงข้างกันไปยังตึกคณะแพทย์“เดียวเลิกเรียนพี่มารับนะครับ”ไนท์พูดเสียงเรียบแต่แฝงความอบอุ่น ก่อนจะย่อตัวลงตรงหน้าเธอ แล้ววางรองเท้าคัทชูสีดำคู่เล็กตรงปลายเท้า ให้เธอเปลี่ยนจากรองเท้าผ้าใบเป็นรองเท้าคู่ที่เหมาะกับชุดนิสิตมากกว่า“ขอบคุณค่ะ”เสียงหวานของคนตัวเล็กเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ ด้วยความเขินอาย ทำให้หัวใจคนมองอ่อนยวบกับความน่ารักสดใสนั้น“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นหอมแก้มพี่สักทีได้ป่ะ”เดย์พูดแทรกขึ้นด้

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status