“อย่ามาว่าพี่เจมส์นะ! ทำไมทุกคนถึงต้องอคติกับพี่เขาด้วย ทั้งที่เขาเป็นคนดีขนาดนั้น!”
“ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่ได้ดีอย่างที่เธอคิด!” รามพูดเสียงขึ้นด้วยความอดทนที่เริ่มจะหมด
“งั้นเอาหลักฐานมาสิ! เอาแต่พูด ๆ แล้วดูตัวเองบ้างสิ ใครกันที่ลวนลามฉันในผับวันนั้น!”
ริรินพูดพลางจ้องเขาอย่างเอาเรื่อง
รามถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา
“จะเล่าให้ฟัง...ว่าไอ้คนที่เธอรักนักรักหนาน่ะ มันเลวยังไง”
“พี่ราม...!”
“นั่งลงซะ”
น้ำเสียงของเขาเริ่มกร้าว ริรินกัดริมฝีปากอย่างลังเลแต่ก็ยอมนั่งลง ห่างจากเขาเล็กน้อย
เขาโทรบอกพ่อแม่ของเธอไว้แล้ว ว่าเธอคิดจะหนีตามผู้ชาย ถ้าต้องให้โดนสั่งห้ามออกจากบ้านตลอดชีวิตก็ยอม แต่ที่ยังไม่ปล่อย เพราะ...สงสาร
“รีบพูดค่ะ ถึงยังไงฉันก็ไม่เชื่อ เพราะพี่เจมส์เป็นคนดี!”
รามมองหน้าเธอด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง
ยังจะมั่นหน้าได้อีก...
“มันเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิง ก็แค่เพราะหน้าตาใช้ได้”
“พอใช้ได้ที่ไหนคะ! พี่เจมส์หล่อมาก!”
รามพยายามไม่ระเบิดอารมณ์ ก่อนจะพูดต่ออย่างใจเย็น
“เพราะแบบนั้น มันเลยหลอกฟันสาวคนนั้นที คนนี้ที ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงที่มีแฟนแล้ว”
สีหน้าของริรินเปลี่ยนเล็กน้อย
“วันหนึ่ง...มีผู้หญิงมาด่ามันต่อหน้า บอกว่าท้อง แล้วมันไม่ยอมรับ ปฏิเสธหน้าตาเฉย แล้วยังผลักเธอตกบันไดจนแท้ง”
“ไม่จริง! พี่โกหก! พี่ใส่ร้ายพี่เจมส์!”
“เธอไม่เชื่อก็เรื่องของเธอ...อยากพิสูจน์ก็ไปสืบเอาเอง”
ริรินยืนนิ่งไปชั่วครู่ ดวงตาแดงจัดด้วยความโมโห
“พี่คงอิจฉาพี่เจมส์สินะคะ? เขาทั้งหล่อ ทั้งสุภาพ ไม่เหมือนพี่เลยแม้แต่นิด! หรือจริง ๆ แล้วพฤติกรรมแย่ ๆ ที่พี่พูดถึง...มันเป็นของพี่เอง?”
“ริริน!” เสียงรามตวาดลั่น
เธอกลับไม่สะทกสะท้าน ยิ้มเย้ยอย่างผู้ชนะ
“โมโหแบบนี้ ก็คงใช่สิ ใช่มั้ยล่ะ หึ”
คำพูดนั้นเหมือนทิ่มแทงเขาอย่างจัง ความอดกลั้นของเขาพังทลายลงในวินาทีนั้น
เขาพุ่งตัวไปคว้าร่างเล็กเข้ามาแนบอก พร้อมกดจูบลงไปอย่างรุนแรง
“อึก! อื้อออ!” มือเล็กทุบหน้าอกเขาอย่างตกใจสุดขีด
รามผละออกเล็กน้อย ลากปลายนิ้วปาดน้ำลายที่ผสมกันบนริมฝีปากเธออย่างช้า ๆ
“ไอ้ชั่ว!!” เธอตะโกนเสียงสั่นพลางชี้หน้า
“ทำเป็นหวงตัว ทั้งที่ตัวเองหอบเสื้อผ้าหนีตามผู้ชายแบบนั้น?”
เธอชะงักเล็กน้อย ก่อนจะมองเขาด้วยแววตาเคียดแค้น
“พี่มันเลวที่สุด!”
เธอพุ่งตัวไปที่ประตู แต่รามขวางไว้ทัน
“จะไปไหน”
“จะไปหาพี่เจมส์!”
“จะหนีไปอยู่กับมันจริง ๆ ใช่ไหม?”
“ใช่! แล้วจะทำไม!”
เธอผลักอกเขาเต็มแรง แต่เขากลับคว้าแขนเธอไว้แน่น
“คืนนี้ พี่จะพาเธอไปหามันเอง แล้วเธอจะได้รู้...ว่าคนที่เธอเชื่อสนิทใจน่ะ มันเลวยังไง”
“ทำไมพี่ถึงเกลียดพี่เจมส์นัก เขาไปทำอะไรให้พี่?”
คำถามนั้นทำให้รามนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนภาพอดีตจะแล่นวาบขึ้นในหัว
เขา...แย่งแฟนที่เขารักที่สุดไป
“กลับไปนั่งซะ แล้วคืนนี้เธอจะตาสว่างเอง”
สุดท้ายเขาปล่อยมือเธอออก
ริรินยืนมองเขาอย่างไม่พอใจ แต่ก็ยอมเดินกลับไปนั่งลงเงียบ ๆ
ชักอยากเห็นผู้หญิงคนนี้ดิ้นแล้วสิ...
...
ตกดึกที่ ผับ
หลังจากถูกขังอยู่ในคอนโดทั้งวัน ริรินก็ไม่มีทางหนี เพราะรามล็อกห้องจากด้านนอก มือถือก็โดนยึด เธอได้แต่นั่ง ๆ นอน ๆ เดินสำรวจของในห้อง
แม้จะไม่มีอะไรน่าสนใจนัก แต่รูปถ่ายของเขากับผู้หญิงคนหนึ่งกลับดึงดูดสายตา
สวย...สนิทมาก...น่าจะเป็นแฟนเก่าล่ะมั้ง
เธอเก็บรูปไว้ที่เดิมอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนที่รามจะกลับมาแล้วบอกให้เธอไปอาบน้ำ เตรียมตัวออกไปข้างนอก
จนตอนนี้ ทั้งคู่มายืนอยู่หน้าผับที่อยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมือง
รามหันมามองเธอเล็กน้อยก่อนจะพูดเสียงเรียบ
“ตามมา”
“ฉันเดินเองได้” ริรินเอ่ยเสียงแข็ง ใบหน้าไม่สบอารมณ์ขณะสะบัดข้อมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของชายหนุ่มตรงหน้า รอยแดงที่พี่รามเคยทิ้งไว้ยังไม่ทันจางดี เธอไม่มีทางยอมให้เขามาทำรอยเพิ่มอีกแน่ เพราะแค่ตอนนี้ก็ปวดระบมไปหมดแล้ว
พี่รามหันมามองเธอเงียบ ๆ ดวงตานิ่งเรียบอย่างอ่านไม่ออก ก่อนจะหมุนตัวเดินนำเข้าไปในผับโดยไม่พูดอะไร
เธอถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะยอมเดินตามเข้าไปอย่างเสียไม่ได้ หัวใจยังคงเต็มไปด้วยความคิดถึงและห่วงหาพี่เจมส์ที่เธอเชื่อว่าอาจกำลังกังวลกับการหายตัวไปของเธอในตอนนี้
มือของพี่รามที่จับเธออยู่ตอนนี้เปลี่ยนจากการบีบข้อมือแน่นมาเป็นการจับมือแทน แม้ในใจจะยังไม่ชอบนัก แต่เมื่อเขาเอ่ยขึ้นว่า “คนมันเยอะ ถ้าหลงกันจะหากันลำบาก” ริรินจึงยอมปล่อยให้เป็นไปตามนั้น
ในผับเต็มไปด้วยผู้คนเบียดเสียด เสียงเพลงดังกระหึ่ม ร่างกายของใครหลายคนขยับไปตามจังหวะอย่างไม่สนโลก ถึงพี่รามจะคอยกันผู้คนให้ แต่ก็ยังรู้สึกแน่นไปหมดอยู่ดี
“ค่อยหายใจสะดวกหน่อย” เธอพึมพำหลังจากพ้นโซนคนแน่นมาได้ พี่รามไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่กวาดสายตามองไปรอบ ๆ เหมือนกำลังตามหาอะไรบางอย่าง จนกระทั่งมุมปากของเขายกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“มานี่สิ” เขาหันมาบอก ริรินขมวดคิ้วอย่างสงสัยแต่ก็เดินตามไปแต่โดยดี
พี่รามพาเธอเดินลึกเข้ามาในโซนวีไอพีของผับ โต๊ะที่พวกเขาไปหยุดอยู่ตั้งอยู่อย่างลับตา เขากดไหล่เธอให้นั่งลงก่อนจะเอื้อมมือบังคับปลายคางของเธอให้หันไปทางที่เขาต้องการ
“ดูให้เต็มตา ว่าผู้ชายของเธอแท้จริงแล้วเป็นคนยังไง”
คำพูดของเขาทำให้เธอชะงักไปชั่ววินาที ร่างกายแทบเย็นวาบเหมือนมีลมหนาวพัดผ่านกลางอก
สายตาของเธอหยุดนิ่งอยู่ตรงหน้าบริเวณโซฟาหลังสุดของผับ แม้จะมีหญิงสาวเรือนผมยาวนั่งคล่อมอยู่บนตักของชายคนนั้นอย่างแนบชิด กลุ่มผมหนาบังใบหน้าครึ่งหนึ่งจนเห็นไม่ชัด แต่แค่เพียงเสี้ยววินาทีที่ใบหน้าชายคนนั้นโผล่พ้นขึ้นมา เธอก็จำได้ทันทีว่าเขาคือใคร
พี่เจมส์…
ชายคนเดียวกันกับที่บอกว่าจะมารับเธอที่หน้าโรงเรียน ชายคนเดียวกันกับที่สัญญาว่าจะดูแลเธอไปตลอดชีวิต
เขากำลังจูบหญิงสาวคนหนึ่งอย่างเร่าร้อนตรงหน้าเธอ ท่ามกลางเสียงดนตรีและแสงไฟสลับวูบวาบ ราวกับทุกอย่างรอบตัวหยุดหมุนชั่วขณะ
ริรินไม่พูดอะไร ดวงตาเบิกกว้างราวกับโลกทั้งใบถล่มลงตรงหน้า ความเงียบของเธอในตอนนี้กลับดังยิ่งกว่าเสียงเพลงในผับซะอีก…
1ปีต่อมา“ยินดีด้วยนะริริน”“ขอบคุณค่ะคุณลุง”“ลุงอะไรกันเรียกพ่อสิ^^”“ฮ่าๆ ขอบคุณค่ะคุณพ่อ^^” ฉันยิ้มให้กับพ่อของพี่รามที่มาร่วมแสดงความยินดีในวันรับปริญญาของฉันส่วนข้างๆ ก็เป็นพ่อกับแม่ที่ยิ้มไม่หุบที่ลูกสาวคนนี้เรียนจบพร้อมจะช่วยงานได้บ้างแล้ว“ยัยริรินมาถ่ายรูปกัน!” “เดี๋ยวหนูมานะคะ” ฉันบอกกับทั้งสามก่อนจะเดินไปถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ของฉันที่ฉันรักมากเพราะถ้าไม่มีพวกนางฉันกับพี่รามก็คงไม่ได้คืนดีกันนแน่นอนว่าพวกนางก็บอกให้ฉันสำนึกบุญคุณตลอดจนฉันเริ่มจะหมั่นไส้ละ“แล้วพี่รามล่ะ?”“ไม่มาหรอกเขาติดงานอยู่ที่ญี่ปุ่นอ่ะ” ฉันบอกออกไปพี่รามเรียนจบไปปีที่แล้วและเข้ามาทำงานกับพ่อของเขาเต็มตัวพักหลังๆ ก็มักจะต้องบินไปดูงานตลอดจนช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่แต่เราก็ยังวิดีโอคอลหากันทุกวันแต่มันก็ไม่ได้ทำให้หายคิดถึงเลยเพราะฉันอยากกอดเขาแบบตัวเป็นๆ มากกว่าแล้วก็ฉันหมั้นกับพี่รามแล้วนะแต่ก็แอบหวงจังกลัวจะไปหลงสาวญี่ปุ่นน่ะสิ“เออนี่พวกแกรู้ข่าวพี่เจมส์ยัง?” ฉันนิ่งไปทันทีกับชื่อนั่นพี่เจมส์เขาหายไปเลยตั้งแต่วันที่ฉันทะเลาะกับพี่รามได้ข่าวว่าเขาเรียนไม่จบด้วยซ้ำ“ทำไมอ่ะ”“ก็นางอ่ะไปหลอกฟันผู้ห
เช้าวันต่อมาพี่รามขับรถมาส่งฉันที่บ้านหลังจากพาฉันไปหาหมอเขาบอกว่าจะเข้าไปขอโทษพ่อแม่ฉันด้วยที่เคยทำให้ผิดหวังแล้วก็จะขออนุญาตคบกับฉันอย่างเป็นทางการตอนแรกฉันก็แอบกังวลนะเพราะกลัวพ่อแม่จะห้ามแต่ไม่ใช่เลยพ่อกับแม่ฉันพอเจอหน้าพี่รามก็ยังคงยิ้มทักทายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแถมยังไฟเขียวให้ฉันกับพี่รามได้คบกันอีกพอเห็นแบบนี้ฉันก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขในที่สุดฉันก็จะได้มีความรักดีๆ กับเขาบ้างแล้วสินะราม PART“จริงสิลูก..แม่มีเรื่องจะวานหน่อย”“เรื่องอะไรหรอครับ” ผมเอ่ยถามอย่างสุภาพในขณะที่ได้ทานข้าวร่วมกับครอบครัวของริรินโชคดีที่ทั้งคู่เอ็นดูผมมากเลยเปิดทางให้ผมได้คบกับริรินง่ายๆ แบบนี้“พรุ่งนี้พ่อกับแม่จะไปดูงานที่ต่างประเทศน่ะกว่าจะกลับก็หลายอาทิตย์แม่ฝากดูแลน้องหน่อยได้มั้ย?”“แม่คะหนูโตแล้วนะมาฝากดูอะไรกัน” ใบหน้าสวยบึ้งตึงทันทีเมื่อรู้ว่าทุกคนชอบทำตัวเหมือนเธอเป็นเด็ก“ได้สิครับ” ผมตอบตกลงไปด้วยความยินดีพร้อมกับส่งยิ้มให้กับริรินที่หรี่ตามองผมอย่างจับพิรุธได้หลายวันต่อมา“ขับรถกลับดีๆ นะคะ” ใบหน้าสวยโบกมือลาผมด้วยรอยยิ้มแต่ผมกลับไม่ยินดีด้วยเลยสักนิด“ริรินครับ” ผมคว้ามือบางที่กำล
“พี่โทรบอกพ่อกับแม่เราแล้วนะว่าคืนนี้จะค้างกับพี่”“อ่าค่ะ”“ขอพี่ดูขาหน่อยสิ” หลังจากนั้นพี่รามก็เข้ามาดูขาให้ฉันเขาบิดๆ มันถามตลอดว่าเจ็บมั้ยแต่ฉันไม่ค่อยเจ็บแล้วเขาเลยทายาแก้ปวดกับพันเท้าเอาไว้แล้วบอกว่าพรุ่งนี้จะพาไปให้หมอเช็คอีกที“พี่รามไม่เข้ามานอนหรอคะ?” ฉันเอ่ยถามร่างสูงที่กำลังนั่งอยู่ที่โชฟา“พี่จะนอนตรงนี้ริรินนอนเตียงพี่ไปเลย” ฉันขมวดคิ้วทันทีกับคำพูดของเขาอะไรกันจะมาทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเอาตอนนี้เนี่ยนะ“ก็ได้ชิ!”ปัง!ฉันปิดประตูเสีงดังอุส่าห์ให้ท่าแล้วก็ยังไม่รีบมาอีกปล่อยให้นอนแห้งตายอยู่ตรงนั้นไปเลยนั้นแหละงอนแล้ว!“ริริน..” ฉันเงียบและหลับตาทำเป็นไม่สนใจเขา“ริรินเป็นอะไรครับ..หืมโกรธอะไร” มือหนาเข้ามาลูบหัวฉันเบาๆ แต่ฉันก็ปัดออกอย่างงอนๆ“อยากให้พี่นอนด้วยหรอ” ฉันพยักหน้ารับพี่รามหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะแทรกตัวเข้ามาในผ้าห่มและดึงฉันไปกอด“พี่ทำแบบนี้ได้ใช่มั้ย?”“แล้วทำไมจะไม่ได้” ฉันถามออกไป“พี่นึกว่าเรายังโกรธพี่อยู่”“ไม่ได้โกรธแล้ว”“จริงหรอครับ”“ค่ะ” ฉันรีบมุดหน้าหนีทันทีเมื่อจู่ๆ ก็รู้สึกเขินขึ้นมา“ริริน”“คะ?”“คบกันมั้ย” ฉันรีบเงยหน้าขึ้นทันทีด้วยความตกใจม
“หนูเจ็บขาลุกไม่ได้” เธอบอกเสียงเบา“เดี๋ยวพี่อุ้ม” พอพูดจบผมก็ช้อนตัวริรินขึ้นอุ้มในท่าเจ้าหญิงใบหน้าสวยมุดเข้ากับอกของผมเหมือนกำลังเขินอายอยู่ทำเอาผมอดยิ้มออกมาไม่ได้จริงๆ โชคดีที่เธออยู่ที่ลานจอดรถพอดีผมเลยพาเธอไปนั่งที่รถของผมแทน“เจ็บมากมั้ย” ผมนั่งยองยกเท้าของเธอมาสำรวจดูมองคนตัวเล็กที่พยักหน้ารับช้าๆ“งั้นไปโรงพยาบาลก่อนเสร็จแล้วเดี๋ยวพี่ไปส่งบ้าน” ผมเอ่ยบอกก่อนจะรีบเข้าไปในรถทันที“จริงสิ..อ่ะนี่มือถือพิมพ์ไปบอกเพื่อนๆ ด้วยว่าโอเคดี” ผมส่งมือถือให้กับริรินซึ่งเจ้าตัวก็มีสีหน้ามึนงงเล็กน้อย“ทำไมถึงไปอยู่กับพี่ล่ะ?”“เพื่อนๆ ของเราเป็นห่วงน่ะสิ..เลยมาตามพี่ให้ไปตามหาเพราะเห็นยังไม่กลับโต๊ะสักที” ใบหน้าสวยทำหน้าหงอยเล็กน้อยก่อนจะเปิดมือถือพิมพ์ข้อความผมที่เห็นแบบนั้นก็รีบขับรถไปโรงพยาบาลทันที“เอ่อพี่รามหนูไม่ไปโรงบาลได้มั้ย?”“ทำไมล่ะ”“ชุดมัน..” เจ้าตัวเอ่ยขึ้นก่อนจะส่งยิ้มเจื่อนๆ มาให้ผมจริงสิชุดเธอมันก็ออกจะไม่เหมาะที่จะใส่ไปโรงพยายาบาลจริงๆ นั้นแหละถ้าใส่ไปแล้วเจอหมอผู้ชายมาตกหลุมรักผมคงหึงแย่“งั้นไปคอนโดพี่มั้ย”“ค่ะ!” ริรินตอบกลับด้วยรอยยิ้มทันทีนานแล้วแหะที่ไม่ได้เห็นรอ
ราม PART“มึงดูผู้หญิงโต๊ะนั้นดิอย่างแจ่ม!” ผมมองเพื่อนๆ ที่กำลังสนุกกับการส่องสาวไปเรื่อยๆ ซึ่งผมก็ค่อนข้างชินแล้ว“เชี่ยสวยทั้งโต๊ะ!แต่มีคนนึงโคตรเด่นผิวขาวยังกับเรืองแสงได้” ผมขมวดคิ้วมองเพื่อนที่ลูบปากอย่างหื่มกามด้วยความอยากรู้ด้วยก็เลยหันไปดูก่อนจะชะงักเพราะผู้หญิงที่มันพูดถึงคือริรินว่าแต่ทำไมเธอถึงแต่งตัวแบบนี้กันพ่อแม่เธอปล่อยออกมาได้หรอ“กูเข้าไปจีบดีป่ะ”“ไม่ๆ ขอกูก่อน” ผมมองเพื่อนๆ ที่พากันจะลุกเข้าไปหาริรินแต่ว่าก็ต้องถอดใจไปเพราะดันมีคนเข้าไปหาเธอซะก่อนผมมองด้วยสายตาที่ไม่พอใจเป็นอย่างมากรู้ว่าไม่มีสิทธิ์หึงหวงหรือเดินไปห้ามอะไรแล้วแต่มันก็ห้ามใจไม่ได้อยู่ดีเพราะผมยังคงชอบเธอมากอยู่แม้ว่าจะมีช่วงที่เราสองคนสบสายตากันริรินก็ทำเป็นไม่สนใจและเดินไปกับผู้ชายคนนั้นทำเอาผมกำหมัดด้วยความโกรธแต่ก็ต้องข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้“อ่าวโดนคาบไปแดกซะละ” “ว่าแต่หน้าคุ้นๆ ใช่แฟนไอเจมส์ป่ะแต่ได้ข่าวว่าเลิกกันแล้ว”“เออๆ ใช่ๆ กูก็ได้ยินมาเหมือนกัน” หลังจากนั้นผมก็พยายามทำจิตใจให้ตัวเองสงบแม้ว่าอยากจะเดินไปกระชากแขนเล็กๆ นั่นให้ออกห่างจากผู้ชายคนนั้นแต่ถ้าทำแบบนั้นริรินก็คงจะยิ่งเกลียดผมเข้าไ
ผ่านไปไม่นานเพื่อนอีกสองคนของฉันก็มาถึงพวกนางหิ้วถุงชุดมาให้ฉันเปลี่ยนจริงๆ ฉันเลยต้องไปเปลี่ยนในห้องน้ำจังหวะที่ดูตัวเองในกระจกก็รู้สึกแปลกตาชะมัดเพราะชุดมันเว้าหน้าเห็นเนินอกไม่พอยังเว้าหลังยาวลงไปเกือบถึงก้นด้วยซ้ำสาบานเถอะว่านี่คือชุดที่คนเขาใส่กันจริงๆ หรอมันแทบจะเปิดให้เห็นทุกส่วนของร่างกายแล้วเนี่ยติ๊ง ติ๊งฉันหยิบมือถือขึ้นมาดูเพื่อนๆ ฉันส่งข้อความมาบอกว่าพี่รามมาจริงๆ ด้วยเขามากับกลุ่มเพื่อนของเขาแต่ไม่นานก็มีอีกข้อความส่งมาพร้อมแนบรูปภาพมาซึ่งนั่นทำฉันจุกที่อกไม่น้อยเลยเพราะมันเป็นภาพที่เขากำลังนั่งพร้อมกับมีผู้หญิงเซ็กซี่ๆ นั่งอยู่ข้างๆ ด้วย“เป็นไงเป็นกัน” ฉันพูดออกมาเบาๆ ก่อนจะสูดลมหายใจเอาปอดลึกๆ เก็บมือถือแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำแน่นอนว่ามีแต่คนมองฉันไมว่าจะหญิงหรือชายฉันเองก็คิดว่าตัวเองดูดีอยู่นะแม้ว่าจะไม่ค่อยมั่นใจกับชุดนี้เท่าไหร่แต่ก็คงสวยในสายตาคนอื่นนั้นแหละพอมาถึงโต๊ะฉันก็มีแอบมองไปฝั่งโต๊ะของพี่รามบ้างพวกเพื่อนเขามองฉันเป็นตาเดียวเลยแต่ยกเว้นพี่รามที่เอาแต่ยกแก้วเหล้าดื่มกับสาวข้างกายของเขา“เริ่ศมากสาวชุดขลับผิวสุดๆ” พวกเพื่อนๆ เอ่ยชมฉันแต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกดี